เรียนคุณ sserayangkoon ขอบพระคุณที่เขียนอะไรให้กำลังใจ เราเคยคิดที่จะสมัครเรียนปริญญาตรีเอกอังกฤษที่รามคำแหงอย่างที่คุณแนะนำเอาไว้เหมือนกัน เพราะว่าเราคงออกแรงน้อยที่สุด เนื่องจากว่าในอดีตเราเคยซื้อตำราภาษาอังกฤษของมหาลัยรามคำแหงตั้งแต่ปี 1 ถึง ปี 4 มาวิเคราะห์ จนทะลุปรุโปร่งหมดทุกเล่มแล้ว (ตอนนั้นทำเพื่อที่จะไปเป็นติวเตอร์สอนนักศึกษามหาลัยรามคำแหง เพราะเห็นว่าได้เงินดี แต่เปลี่ยนใจเพราะมาเฟียแถวๆมหาลัยรามคำแหงมีมากมาย ขี้เกียจไปรบรากับพวกมาเฟีย) แต่เราไม่สามารถเข้าเรียนปริญญาตรีเอกอังกฤษที่รามคำแหงได้เนื่องจากว่าวุฒิการศึกษาของเรานั้น "ต่ำกว่า ม.6"
เราเคยคิดที่จะใช้วุฒิการศึกษามัธยมต้นของเรา + ประสบการณ์ของเราเข้าเรียนปริญญาตรีที่สุโขไทธรรมาธิราช แต่ทว่าที่นั่นไม่มีเอกอังกฤษ....ถ้าไปเรียนเอกวิชาอื่น (ที่เราไม่ถนัด) ไปพร้อมๆกับทำงานแปลเยอะๆอาจเรียนไม่จบได้นะ .....แฮ่ๆๆๆ....
การไม่พยายามขวนขวายเรียก กศน เพื่อเอาวุฒิ ม.6 แล้วไปลงเรียนปริญญาตรีเอกอังกฤษที่รามคำแหงนั้น ก็เป็นเพราะว่า เราใช้วิธีการคล้ายๆที่พระเจ้าตากสินใช้ "นั่นก็คือทุบหม้อข้าวหม้อแกงและทำลายเสบียงก่อนเข้าตีเมือง" ซึ่งการไม่พยายามเรียนเพื่อเอาวุฒิการศึกษาเพิ่มเติม มันเท่ากับเป็นการ "ไปตายเอาดาบหน้า"นั่นก็คือการบังคับตัวเองให้เรียนภาษาอังกฤษเพิ่มมากๆ ให้ดีกว่าที่คนธรรมดาโดยทั่วไปจะเรียนได้จากการเรียนในมหาลัย ดังนั้น เราจึงพยายามเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง เผื่อว่าจะเอาไปใช้เขียนหนังสือหรือบทความเป็นภาษาอังกฤษพอหากินได้ แต่เราก็ต้องยอมรับว่าบางทีพอไปได้เงินง่ายๆกับงานแปลเอกสารด่วนๆที่ทำประจำอยู่เข้า เราก็ไปสำมะเลเทเมา แทนที่จะเร่งศึกษาหาความรู้ ภาษาอังกฤษเราจึงยังไม่กระโดดคืบหน้าไปมากนัก.......
เรายอมรับว่า บางทีเราเคยท้อใจ แต่ตอนนี้เราสบายใจขึ้นมากจัดเวลาดีกว่าเดิม ทำงานเสร็จเร็วกว่าเดิม และพอที่จะมีเวลาศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมได้บ้าง
ต้องขอขอบพระคุณอีกครั้งหนึ่งที่ท่านให้กำลังใจ
แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 50 17:45:47
แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 50 17:43:35
แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 50 17:39:47
แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 50 17:30:57
แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 50 11:31:28
แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 50 11:29:57