ความคิดเห็นที่ 1 อ้าสนุกดีภาษาโบราณ นานๆเข้ามาที....อิๆๆๆ...... จะแปลได้ ต้องตีความ  consideration(มี 2แห่ง), receipt, sufficiency, good, valuable และ whereof ให้ได้ก่อน in consideration of   แปลว่า because of ก็ได้ แปลว่า as payment for ก็ได้ แต่ในบริบทที่ถาม มันแปลว่า because of ส่วน good and valuable consideration นั้นดูความหมายที่แปะไว้ข้างล่าง ใน#3 ส่วน the receipt and sufficiency whereof แปลว่า the receipt and sufficiency of good and valuable consideration หลังจากบอกใบ้ (ถอดรหัส) ให้แล้ว ก็ต้องใช้ความเก๋า ในวิชา variation of sentence patterns ในการแปล นั่นก็คือ ต้องแปลง passive sentence ใน source text (ภาษาต้นทาง) ให้เป็น active sentence ใน target text (ภาษาปลายทาง) เอ้าถอดรหัสให้แล้วเดี๋ยวใครที่เก่ง variation of sentence patterns ก็แปลต่อให้จบได้ ........(ตอนนี้กลายเป็นหมูไปแย้ว) .......... แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 50 07:30:09 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 5 มิ.ย. 50 21:08:10 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คุณ tansy เก่งจังเลยค่ะ ขอบคุณมากค่ะที่ช่วยไขปริศนา keywords ให้   ที่ติดก็เพราะคำพวกนี้ล่ะค่ะ รู้ว่ามันมีความหมายไม่ตรงตัวแต่ว่าไม่รู้ว่ามันคืออะไร เดี๋ยวรอคนใจดีท่านต่อไปมาช่วยเรียบเรียงประโยคให้ แต่ถ้าคุณ tansy พอมีเวลาเข้ามาต่อจนจบก็จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งเลยค่ะ จากคุณ : kate_asian - [ 6 มิ.ย. 50 01:12:08 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อธิบายไว้ข้างบนไม่ค่อยเคลียร์ ที่จริงแล้วมันเป็นแบบนี้ ไปหาประโยคที่คล้ายๆกันมาให้ดู For good and valuable consideration, receipt of which is hereby acknowledged. In contract law, for there to be a binding contract, certain conditions must be met [offer, acceptance, consideration and the intention to create a binding agreement + general legality of the trade]. Also in certain other legal contexts, G&VC needs to exist. In the context of law 'consideration' means some trade-off, the 'good and valuable' part means that the trade must be for something of worth (valuable) and also something permitted (good). The whole phrase means something along the lines of 'in exchange for a trade-off against something legally acceptable and of appreciable worth'. Money of the country in which the transaction takes place is the most obvious thing to satisfy the G&VC test, but doing something or refraining from doing something that one had the right to do can also count. [There are some things that cannot count as being 'good' consideration for public policy reasons.] ********************************************************* In English and American law, the consideration (G&VC) could be something as trivial-seeming to us now as a single peppercorn (in the days when spices were harder to come by, these contracts were known as "peppercorn agreements") or a single red rose in June, or -- more difficult to obtain! -- in December. For something to be considered "of worth", moreover, it needs to be of worth only to the contracting parties. Someone else, looking at the contract, may say, "hey, who'd want a dozen cookies as payment for land?", but if that's what the seller regards as valuable (perhaps he's a man selling land to his granddaughter, and a dozen cookies made with her own hands would mean more to him than hard cash), then that's appropriate G&VC. And legal. ที่เขาอธิบายไว้ เขาหมายความว่า consideration คือ payment อาจเป็น cash หรือเป็นสิ่งของอย่างอื่นก็ได้ good คือ "legally acceptable" และ valuable คือ "appreciable worth" แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 50 07:38:35 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 6 มิ.ย. 50 07:24:23 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่ได้ทำงานแปลมานาน  ขอลองแปลดู ตามที่ได้(in consideration of)ตกลงกัน(mutual promises)ดังกำหนด(set forth)ในหนังสือสัญญาฉบับนี้                                 และเพื่อการตอบแทน(consideration)ที่คุ้มค่า(valuable)และพึงกระทำได้ตามกฎหมาย(good = permit) ทั้งสองฝ่านได้ยินยอมตกลง(acknowledged)กันในเรื่องค่าตอบแทน(receipt)ที่เหมาะสม(sufficiency) บริษัท ก. และ บริษัท ข. จึงตกลงกันดังต่อไปนี้ ขอบคุณ คุณแท่น ที่อธิบาย เรื่อง the receipt and sufficiency และ ตีความหมายให้จนครบถ้วน จากคุณ : แสนอักษร - [ 7 มิ.ย. 50 01:08:49 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อะโห รุ่นเก๋ามาเอง ผมก็คันไม้คันมือ แต่อ่านไม่รู้เรื่อง ต้องรอให้เซียนมาเอง จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 7 มิ.ย. 50 06:30:49 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ยอดเยี่ยมจริงๆ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ คุณtansy และคุณแสนอักษร คุณ tansy คะ ไม่ทราบว่าคำอธิบายภาษาอังกฤษใน คคห ที่3 อยู่ในหน้าเว็บไซด์หรือเปล่าคะ ถ้าใช่ รบกวนขอทราบ weblink ได้ไม๊คะ คือเค้าอธิบายได้ละเอียดและใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย เผื่อต่อไปข้างหน้าจะได้ใช้เป็นเว็บหาข้อมูลเวลาติดขัดเรื่องสำนวนในสัญญาภาษาอังกฤษอีก ขอบคุณล่วงหน้านะคะ จากคุณ : kate_asian - [ 8 มิ.ย. 50 05:30:31 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คุณค้นกุ๊กเกิ้ลนะครับ ด้วยวลี recital of consideration จะได้เว็บไซท์ทางกฎหมายจำนวนมาก เก็บไว้ใช้อ้างอิงได้ นอกเหนือไปจากได้ความรู้จำเพาะต่อสิ่งที่คุณนำมาถาม ที่น่าสนใจก็คือ หลายคนเขาเห็นว่ารูปแบบการสาธยายแบบที่ว่ามานี้มันโบราณ กำกวม และ ไม่มีประโยชน์ สำหรับยุคนี้ แต่ที่ยังแพร่หลายอยู่ก็เพราะว่า เขาลอกต่อๆกันมา สงสัยว่าลอกไปลอกมา คนลอกก็อ่านไม่รู้เรื่องเหมือนกัน จะตัดออกก็ใช่ที่เพราะเขาใช้กันมาแต่สมัยพระเจ้าเหา ก็เลยคงไว้เพื่อความขลัง จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 8 มิ.ย. 50 06:11:33 ]

ความคิดเห็นที่ 8 หาแบบคุณแอ๊ดก็ได้ ส่วนเราเอามาจากนี้ http://www.phrases.org.uk/bulletin_board/25/messages/165.html http://www.phrases.org.uk/bulletin_board/25/messages/197.html รูปแบบสัญญาภาษากฏหมายเป็นภาษาอังกฤษบางทีเอามาจากแบบฟอร์มที่ใช้กันมาเป็นเวลา 100-200 ปีแล้วก็มี (หรือบางทีถึงคราวซวยเจอเก่ากว่านั้นอีก) ประโยคมันยาวๆกลับหัวกลับหางกับภาษาไทย ถึงตีความต้นฉบับภาษาอังกฤษได้ ก็เขียนคำแปลภาษาไทยลำบากมากๆ มีอยู่ครั้งหนึ่งเราแปลประโยคหนึ่งมี 5 บรรทัด ไปเจอ verb ตัวหนึ่งในบรรทัดที่5  แต่ตีความไม่ได้  เพราะในบริบท จะตีความได้ต้องมี preposition แต่เราหา preposition ไม่เจอ เราหาอยู่นานเกือบครึ่งชั่วโมง ตาลายสุดๆเลย .....คือว่าถ้าเป็นภาษาสมัยใหม่ preposition มันก็น่าที่จะอยู่ทางขวามือติดกับ verb นะ แต่หลังจากเอานิ้วไล่จิ้มไปทีละตัว ปรากฎว่า preposition ที่เรากำลังอยากจะหาให้เจอจนใจจะขาดรอนๆอยู่แล้วนั้น มันไปวางไว้ที่บรรทัดแรก ตรงกลางๆบรรทัด ....บ้าชมัดเลย!!....พอหาเจอก้อร้องเย้ๆๆๆๆ ด้วยความดีใจ  และก็เลยเข้าใจว่าที่เขาต้องวาง preposition ในตำแหน่งที่ประหลาดมันมีเหตุผลก็คือ ประโยคมันมี clauses ที่เป็น modifiers มากมาย เขาต้องวางไว้แบบนั้นเพื่อหลีกเลี่ยง dangling modifiers (ส่วนขยายที่ไปขยายสิ่งที่คนเขียนไม่ได้ตั้งใจให้มันขยาย จนทำให้คนอ่านตีความผิด) ...... พอตีความประโยคนั้นได้ แล้วจะเรียบเรียงลำดับคำในคำแปล นอกจากจะต้องจับมันกลับหัวกลับหางกันแล้ว ก็ยังต้องระวังไม่เขียน dangling modifiers ในภาษาไทย และต้องไปซอยประโยคยาวๆ เป็นประโยคสั้นๆ โดย "ย้ำ" subject, verb และ object ซ้ำๆ ซากๆ ม่ายงั้นคนไทยอ่านภาษาไทยแล้วหลงประโยค เนื่องจากว่าคนไทยไม่ใช้ punctuation อย่างมีประสิทธิภาพเท่าฝรั่ง แค่ apposition ของประโยคภาษาอังกฤษที่ขยาย subject ตัวเดียว มี comma คั่นมาเรื่อยๆ จะเขียนภาษาไทยได้ ต้อง "ซอย" เป็นประโยคสั้นๆหมดเลย.........แล้วยิ่ง subject ไปอยู่ท้ายประโยคด้วย ปวดหัวพอดูเลยหละ แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 50 08:12:23 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 8 มิ.ย. 50 08:09:08 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อ 2-3 อาทิตย์ที่แล้ว เรารับงานผ่านบริษัทแปล เป็น Deed of Gift มาจาก Scotland  ความยาว 10 หน้า เขาส่งมาตอน 5 โมงเย็น แล้วบอกจะเอา 10 โมงเช้าวันรุ่งขึ้น ........ เอกสารชุดนี้ถ้ารับจากลูกค้าโดยตรงแล้วราคาดีๆหน่อย แล้วค่อยๆแปลดีๆ ตรวจทานดีๆ เราว่าเราแปลถูกแล้วแปลดีๆได้ แต่เนื่องจากเป็นกรรมของลูกค้า ที่ บางทีเรารับงานโดยตรงจากลูกค้าราคาดีๆไม่ได้ ถ้าเรารับได้เราคงแปลได้ดี แต่บางทีงานรับตรงจากลูกค้าไม่มีเราต้องรับงานจากบริษัทแปล (แล้วโดนบริษัทแปลกินหัวคิวไป 50%) มันทำให้เราจำเป็นต้องแปลเร็วแล้วผิดเพียบเลย ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ 1. ลูกค้าไม่รู้จะไปติดต่อนักแปลโดยตรงได้อย่างไร ถึงติดต่อได้ก็ไม่รู้ว่านักแปลเก่งหรือเปล่า 2. ลูกค้าถึงติดต่อนักแปลโดยตรงได้ ก็จะเชื่อถือบริษัทมากกว่า ก็เลยเอาไปแปลที่บริษัทแปล โดยที่ลูกค้าไม่รู้ว่า งานราคาถูกๆแบบนี้ (บริษัทแปลแข่งกันเรื่องห้ำหั่นราคา และแปลเร็วแข่งกัน)  แล้วเร่งแบบนี้นะ นักแปลต้องรีบแปล เพราะบริษัทแปลเร่งมา ดังนั้น นักแปลไม่มีทางแปลได้ถูกต้องเลย  งาน 10 หน้า ถ้าไม่ยากขนาดนี้ แต่ยากปานกลาง เราแปล แค่ 4 ชม. คงได้ แต่ว่างานชิ้นนี้ ความซับซ้อนของภาษาอังกฤษ เราว่าให้เวลาเรา 2 วันคงพอไหว แต่แค่ข้ามคืน ส่งมา 5 โมงเย็นแล้วจะเอา 10 โมงเช้า  เราคงแปลผิดหมดแน่ๆ แต่บริษัทแปล พยายามแย่งงานกัน โดยการตัดราคากัน และแข่งกันแปลเร็วเพราะลูกค้าต้องการได้งานแปลเร็วๆ ถ้านักแปลไม่ยอมรับงาน นักแปลก็ไม่มีงานทำ ตกลงเพราะเราไม่มีงานทำมาหลายวันแล้ว และต้องการเงิน เราจึงแปลงานชุดนั้น จากซ้ายไปขวา ซึ่งจริงๆแล้วมันต้องสลับลำดับคำ และซอยประโยค....ผลก็คือว่า "เราแปลผิดหมด" .....ยอมรับว่า ต้องลักไก่ไป นั่นก็เพราะว่า ถ้าส่งงานไม่ทัน บริษัทจะเลิกจ้างเรา .........ตอนนี้เวลาผ่านมาหลายอาทิตย์แล้ว ยังไม่โดนตีกลับมา เราว่าลูกค้าอาจไม่ได้อ่านละเอียดเลยไม่รู้ว่าเราแปลผิดเพียบเลย....... ในวงการแปล สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยๆ.........นั่นก็เพราะว่า ยังไม่มีกลไกที่ดีที่จะให้ลูกค้ากับนักแปลพบปะกันได้ โดยที่ลูกค้าเชื่อใจนักแปล แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 50 22:47:06 แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 50 22:43:51 แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 50 08:24:41 แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 50 08:22:46 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 8 มิ.ย. 50 08:12:48 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ในบริษัทแปลแห่งหนึ่งที่เราเคยทำงานเป็นลูกจ้างประจำเมื่อหลายปีมาแล้ว บริษัทจะลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์หลายเล่มมีข้อความว่า "บริการแปลเอกสาร โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการแปล คือศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ xxx" ลงอยู่ทุกวัน จนเจ้าของบริษัท หัวเราะชอบอกชอบใจ พูดว่า โหงานแปลเข้าบริษัทเพียบเลย ....เข้าแบบแมงเม่าบินเข้ากองไฟ.... แล้วศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ xxxมีตัวตนในบริษัทหรือไม่ ตอบว่า "มี" แต่เขาแปลอะไรไม่ได้เลย เขาพยายามแสดงความเก่งโดยการแปลออกมา  แล้วผลก็คือว่านักแปลหลายๆคนในบริษัท ที่จบการศึกษาต่ำกว่าเขา แต่มีชั่วโมงบินในการแปลนับสิบๆปี ต้องเสียเวลามานั่งแก้ไขข้อผิดพลาดของท่านศาสราจารย์ ดอกเตอร์ xxx....ทำให้เสียเวลา งานไม่เดินมากๆ....ตอนจบบรรดานักแปลที่ทำหน้าที่ edit (คน edit มีอยู่ 2-3 คน) งานแปลของทุกคน ต่างก็พร้อมใจกัน complained อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือนว่า ท่านศาสราจารย์ ดอกเตอร์ xxx แปลผิดมากจน edit ไม่ไหวจริงๆ ไม่ได้แกล้งพูด ไม่ได้แกล้งกัดเพื่อนร่วมงานด้วยกัน   แล้วผลลงเอยก็คือว่า เจ้าของบริษัทตกลงเจรจากับท่านศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ xxx บอกว่าอนุญาตให้ท่านนอนอยู่กับบ้านเฉยๆแล้วรับเงินเดือนไปโดยไม่ต้องเข้ามาทำงานในบริษัทเลย....โดยมีเงื่อนไขว่า "ให้ขอยืมชื่อเขาโฆษณาลงหนังสือพิมพ์ว่าเป็นผู้แปลของบริษัทเท่านั้นก็พอ"........... นี่คือธุรกิจการแปล ........ แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 50 08:28:01 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 8 มิ.ย. 50 08:24:16 ]