ความคิดเห็นที่ 17
เมื่อศาลได้ตัดสินให้ทรงแพ้คดีแล้ววังศุโขทัยซึ่งทางรัฐบาลตีราคาไว้ ๓ ล้านบาทก็ถูกยึด, และการ "ริบทรัพย์" อื่นๆ เพื่อนำไปขายทอดตลาดก็ตามมา, ดังประกาศต่อไปนี้ :
(ครุฑ) ประกาศขายทอดตลาดกองบังคับคดีทางแพ่ง เจ้าพนักงานบังคับคดีจะขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยในคดี ระหว่างกระทรวงการคลัง โจทก์ สมเด็จพระปกเกล้าฯ ที่ ๑ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีที่ ๒ จำเลย ตามคำสั่งศาลแพ่ง ที่กองบังคับคดีทางแพ่งกระทรวงยุตติธรรม ตั้งแต่วันที่ ๘ ถึงวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๔๘๕ เริ่มขายเวลา ๙.๓๐ นาฬิกา ทุกวัน.
ทรัพย์ที่จะขายคือ :- สิ่งของ ทอง นาก เงิน รูปพรรณประดับเพ็ชร์ พลอย มรกต ทับทิม เช่น แหวน เข็มขัด หีบบุหรี่ ซองบุหรี่ พาน โถปริก กะโถน เชี่ยนหมาก เป็นต้น กับสิ่งของอื่นๆ อีกหลายอย่าง รวมทั้งหุ้นบริษัทรถไฟแม่กลองจำกัด หุ้นบริษัทไฟฟ้าไทยจำกัด หุ้นบริษัทไทยประกันภัยจำกัด ซึ่งจะขายในวันที่ ๑๘ มกราคม ผู้ใดต้องการทราบรายละเอียดจะขอดูได้ที่กองบังคับคดีทางแพ่งในเวลาราชการ ประกาศมา ณ วันที่ ๒๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๘๔
สารกิจปรีชา หัวหน้ากองบังคับคดีทางแพ่ง
ประกาศขายทอดตลาดฉบับนี้ทางกองบังคับคดีทางแพ่งได้ส่งให้หนังสือพิมพ์ ๓ ฉบับ คือ ข่าวภาพ, ศรีกรุง และ ประชาชาติ, โดยกำหนดให้ ข่าวภาพ ลงโฆษณาในวันที่ ๒๕, ๒๖, ๒๗ ธันวาคม, ศรีกรุง ลงวันที่ ๒๙, ๓๐, ๓๑ ธันวาคม, ส่วน ประชาชาติ จะลงในฉบับหลังปีใหม่ไปแล้ว คือฉบับวันที่ ๑, ๒ และ ๓ มกราคม.
นอกจากประกาศทางสาธารณะนี้แล้ว ทางกองบังคับคดีทางแพ่งยังได้จัดทำบัญชีรายการสิ่งของที่จะขายโดยละเอียดด้วย. บัญชีนี้ได้ส่งไปยังบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง คือทางฝ่ายตัวแทนโจทก์มีหลวงกาจสงคราม, นายแนบ พหลโยธิน, พระยาชาติเดชอุดม, และนายร้อยโทขุนนิรันดรชัย ผู้ดูแลสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์, เป็นต้น, ส่วนทางฝ่ายจำเลยมี ม.จ.อุปลีสาณ ชุมพล และพระยาศรีวิสารวาจา ผู้จัดการมรดกของจำเลย.
ตามบัญชีนี้นอกจากหุ้นบริษัทจำนวน ๖ รายการแล้ว ก็มีทรัพย์สินต่างๆ อีก ๑๔ หีบ แบ่งเป็น ๒๘๘ รายการ. ทรัพย์สินทั้งหมดได้แบ่งขายตามบัญชี, ดังนี้ :
ขายวันที่ ๘-๙-๑๐ มกราคม รวม ๙๕ รายการ วันที่ ๑๑-๑๒-๑๓-๑๔ รวม ๑๐๙ รายการ วันที่ ๑๕-๑๖-๑๗ รวม ๘๔ รายการ วันที่ ๑๘ ขายหุ้นบริษัทจำนวน ๖ รายการ, รวม ๒,๕๐๗ หุ้น, คิดเป็นเงิน ๒๐๕,๕๖๐ บาท.
ตรงนี้จะต้องชี้แจงว่า การแบ่งของออกเป็น ๒๘๘ รายการนั้น มิได้หมายความว่าจะมีวัตถุเป็นจำนวนเท่ากัน; บางรายการประกอบด้วยของมากกว่าหนึ่งชิ้น, เช่นเป็นสร้อยจำนวน ๑๓ สาย หรือแหวน ๑๔ วง, เป็นต้น. อนึ่ง, บรรดาของที่จะขายนี้ล้วนเป็นสังหาริมทรัพย์ทั้งสิ้น. การที่จะคัดรายการทรัพย์สินที่ถูกขายทอดตลาดทั้งหมดมาลงไว้ในที่นี้ เป็นเรื่องที่เกินวิสัย เพราะนอกจากจะมีจำนวนมากแล้ว, แต่ละรายการก็ยังมีคำบรรยายลักษณะไว้สั้นบ้างยาวบ้างอีกด้วย. อย่างไรก็ตาม, เพื่อให้เป็นตัวอย่าง, ในที่นี้จะขอคัดมาแต่ ๑๐ รายการแรกที่ประกาศขายในวันที่ ๘ มกราคม, ดังนี้ :
"๑. ขันทองลายพระพุทธรูป หนักประมาณ ๖๕๕ กรัม ๑ ขัน, ๒. พานลาวทอง หนักประมาณ ๕๔๕ กรัม ๑ พาน, ๓. กะโถนทองคำลงยาปากกะจับ หนักประมาณ ๒๖๕ กรัม ๑ ใบ, ๔. ขันทองคำลงยามีพานทองคำลงยารอง หนักประมาณ ๔๘๕ กรัม ๑ ที่, ๕. กล่องหมากทองคำหลังมีตราจุลจอมเกล้า จ.ป.ร.ประดับเพ็ชร์ ๑ ดวง หนักประมาณ ๘๘ กรัม รวม ๒ สิ่ง, ๖. พานทองคำลงยามีโถปริก ๗, ปริกทองคำลงยา ๑ หนักประมาณ ๑,๑๗๕ กรัม ๑ ที่, ๗. พานทองคำลงยากลีบบัวลายเทพพนม หนักประมาณ ๑,๒๘๕ กรัม ๑ พาน, ๘. หีบบุหรี่ทองคำรูปสี่เหลี่ยมมีประดับพลอยสีต่างๆ ทั่วทั้งหีบ มีเท้าสี่เท้า หนักประมาณ ๑,๔๘๐ กรัม ๑ หีบ, ๙. ซองบุหรี่ทองคำฝาด้านหนึ่งฝังเพ็ชร์ทั้งลูก ๔ เม็ด กับทับทิมเป็นขอบรอบ จารึกว่า "สุขุมาลย์มารศรี" หนักประมาณ ๑๖๓ กรัม ๑ ซอง, ๑๐. กฤชด้ามและฝักทองคำด้ามเป็นหัวนกหนักประมาณ ๓๖๕ กรัม ๑ เล่ม ฯลฯ"
อย่างไรก็ตาม, ในชั้นสุดท้ายการขายทอดตลาดก็มิได้เกิดขึ้น. หลังจากที่หนังสือพิมพ์ข่าวภาพ และศรีกรุง ได้ลงประกาศแจ้งความติดต่อกันมาหลายวันแล้วนั้นเอง ทางกองบังคับคดีฯ ก็มีหนังสือลงวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๔๘๔ ขอให้ศรีกรุงระงับการลงแจ้งความในวันที่ ๓๑ ธันวาคมเสีย และให้หนังสือพิมพ์ประชาชาติที่จะรับช่วงลงแจ้งความในวันที่ ๑, ๒, และ ๓ มกราคม ยกเลิกการลงแจ้งความนั้นเสียทั้ง ๓ วัน. ในวันที่ ๕ มกราคม ๒๔๘๕ ทางกองบังคับคดีทางแพ่งก็ออกประกาศตามมาอีกฉบับหนึ่ง, ดังนี้ :
จากคุณ :
คนอุดรฯ
- [
6 มิ.ย. 50 04:14:27
A:81.157.44.145 X: TicketID:109703
]
|
|
|