ระบบปรัชญาที่ผมกล่าว
หมายถึงปรัชญาใหญ่ 2 ระบบ
คือ ปรัชญาสสารนิยม กับปรัชญาจิตนิยม
ปรัชญาสสารนิยมเป็นปรัชญาที่สนับสนุนชนช้นถูกปกครอง(ที่ก้าวหน้า)
เพื่อเข็นให้สังคมเป็นระบบปกครองที่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง
ปรัชญาจิตนิยมเป็นปรัชญาที่สนับสนุนชนชั้นปกครองที่พยายามดำรง
การปกครองที่เป็นอภิชนาธิปไตยดำรงอยู่ตลอดไป
สองชนชั้นต่อสู้กันมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว
โดยใช้ปรัชญาดังกล่าวชี้นำ และก็ยังต้องต่อสู้กันต่อไปครับ
ซึ่งปรากฏเป็นรูปธรรมให้เห็นระหว่าง
จตุคำของท่านพะยอมกับจตุคามของพุทธพาณิชย์
สันติอโศกของท่านโพธิรักษ์กับธรรมกายและองค์กรสงฆ์ของประเทศ
ของความเชื่อว่าจิตเป็นอนัตตากับจิตเป็นอัตตา
ของคนที่หลังเหยียดตรงกระพุ่มมือไหว้ กับคนกราบกรานติดพื้นดิน
ของความเชื่อในไสยศาสตร์กับวิทยาศาสตร์เป็นต้น
ทุกวันนี้ฝ่ายประชาชนพ่ายแพ้อย่างราบคาบยับเยินอยู่ครับ
แต่ก็มีพัฒนาการก้าวไปข้างหน้าสองก้าว ถอยหลังหนึ่งก้าว
จนเมื่อถึงวาระที่ประชาชนพูดกันด้วยนามและสรรพนามคำๆเดียว
คือ ลื้อ-อั้ว ไอ-ยู หรือ มิง-กู ดังเช่นสมัยพ่อขุน
หรือ ฉัน-ท่าน อย่างที่จอมพล ป.พยายามเอาใช้
ซึ่งแสดงถึงประชาชนมีความเสมอภาคในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
และทุกคนมีส่วนในการปกครองประเทศเท่าเทียมกัน
คุณเห็นความสำคัญของปรัชญาหรือยัง ที่จะสร้างพลังรวมหมู่ขึ้นได้?
คุณมองเห็นอนาคตสังคมพระศรีอารย์บ้างใหม?
ขอโทษครับเพิ่งเห็นคำถาม
แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 50 07:12:11
แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 50 07:08:35
แก้ไขเมื่อ 27 มิ.ย. 50 22:37:13