ความคิดเห็นที่ 1 เรื่องราวตอนนี้เกี่ยวกับการเรียนและการกินอยู่ในรุสเซียนั้น  ข้าพเจ้าได้ทราบเรื่องราวส่วนมากจากนายพุ่มเอง  และคนรุสเซียที่ข้าพเจ้าได้พบซึ่งเคยรู้จักพ่อ  เนื่องด้วยพระเจ้านิโคลาสได้ทรงเลี้ยงดูพ่อและนายพุ่มเท่าเทียมกับเจ้านายในพระราชวงศ์  ตลอดเวลาที่ศึกษาอยู่ที่โรงเรียนนายร้อยมหาดเล็ก  ทั้งสองจึงมิได้เป็นนักเรียนกินนอน  คงพักอยู่ ณ ที่ทางที่ได้ทรงจัดประทานไว้ในพระราชวังฤดูหนาว  ข้าพเจ้าได้เห็นหลักสูตรของโรงเรียนนั้น  สังเกตได้ว่าการเล่าเรียนหนักมาก  และเมื่อเรารำลึกดูว่านักเรียนไทยทั้งสนองนั้นต้องเล่าเรียนวิชาทั้งหลายโดยใช้ภาษารุสเซียอันเป็นภาษาที่นับว่ายากยิ่ง  ซึ่งทั้งสองเพิ่งเริ่มเรียนภาษานั้นมาเพียงหนึ่งปี  เราจะต้องยอมรับว่า  การเล่าเรียนนั้นค่อนข้างจะยากอย่างยิ่ง ถึงกระนั้นนักเรียนไทยทั้งสองก็เรียนได้ผลดีไม่น้อย  ดังจะเห็นจากผลการสอบไล่ประจำปีในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2443  ในระหว่างนักเรียนรุ่นใหญ่  พ่อข้าพเจ้าสอบไล่ได้เป็นที่สอง พุ่มเป็นที่สี่  ซึ่งต้องนับว่าเก่งเป็นอันมาก  เนื่องด้วยโรงเรียนนั้นเป็นโรงเรียนนายร้อยมหาดเล็ก  เมื่อมีการงานใหญ่ในพระราชวัง  พวกนักเรียนก็ต้องรับหน้าที่เป็ฯมหาดเล็กรับใช้ประจำพระองค์  พระจักรพรรดิ  พระพันปี  พระราชินี  และเจ้านายต่างๆ ตามธรรมเนียมเมื่อสอบไล่ได้เป็นที่สอง  พ่อควรจะได้เป็นมหาดเล็กรับใช้ของพระพันปี  คือพระจักรพรรดินีมารี  พระราชมารดา  และพุ่มควรจะเป็นมหาดเล็กรับใช้ของพระจักรพรรดินีอเล็กซิส  พ่อจึงขอแลกเปลี่ยนกัน  ซึ่งพุ่มก็ยินดีทำตามพระประสงค์ จากคุณ : NickyNick - [ 10 ก.ค. 50 15:26:48 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ครั้นถึงเดือนเมษายน  พ.ศ.2445  จึงมีการสอบไล่ขั้นสุดท้ายเพื่อออกเป็นนายทหาร  ในการสอบไล่ของรุสเซียในสมัยนั้นแทนที่จะใช้วิธีร้อยละเท่านั้นเท่านี้  โดยเอา 100 เป็นคะแนนเต็ม  เขาใช้ 12 เป็นแต้มเต็ม  ก็ปรากฏว่านักเรียนไทยทั้งสองได้ผลดีเป็นที่สุด  คือ พ่อสอบไล่ได้ที่หนึ่ง  ได้แต้ม 11.75 คะแนน  พุ่มเป็นที่สอง ได้ 11.50 คะแนน  แปลว่านอกจากจะมีความสามารถอย่างมากแล้ว  ทั้งสองคนจะต้องได้มีความหมั่นขยันและความพยายามอยู่ด้วยอย่างถึงขีดสุด  มีผู้บอกกับข้าพเจ้าว่า การได้คะแนนถึง 11.75 คะแนน ดังที่พ่อทรงทำได้นั้น  เป็นสถิตของโรงเรียนนายร้อยมหาดเล็ก  พระนามของพ่อจึงได้ถูกสลักลงบนแผ่นศิลา  ติดอยู่ข้างฝาห้องประชุมของโรงเรียน  ตั้งแต่เล็กๆ ข้าพเจ้าได้เคยมีความหวังว่า  วันหนึ่งจะได้มีโอกาสเห็ฯพระนามของพ่อซึ่งอยู่ที่นั่น  เพราได้เคยกะกันไว้ว่า  วันหนึ่งข้าพเจ้าก็จะได้ไปศึกษาในประเทศรุสเซียเหมือนกัน  แต่รุสเซียได้มีการปฏิวัติใหญ่เสียใน พ.ศ.2460  การที่จะไปเล่าเรียนในรุสเซียตามรอยพระบาทของพ่อ  จึงเป็นอันต้องเลิกล้มไป ......... รูปหมู่ของนักเรียนนายร้อยรักษาพระองค์ที่สำเร็จการศึกษาในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2444  ในระหว่างออกฝึกภาคสนามที่กราสโน เซโล พ่ออยู่แถวหน้าที่ 8 จากซ้าย  พุ่มยืนอยู่แถวหลังที่ 5 จากขวา จากคุณ : NickyNick - [ 10 ก.ค. 50 15:44:28 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อออกจากโรงเรียน  พ่อและพุ่มก็ได้รับสัญญาบัตรเป็นนายทหารในกองทัพบกรุสเซียเข้าประจำกรมทหารม้าที่นับว่าหรูหราและโก้ที่สุดในเวลานั้น  คือ กรมทหารม้าฮุสซาร์ของพระจักรพรรดิ  เป็นกรมซึ่งองค์พระจักรพรรดิเคยเป็นนายทหารประจำในสมัยที่ทรงเป็นยุพราชอยู่  ทั้งสองได้ทำหน้าที่ตามธรรมดาของนายทหารชั้นผุ้น้อยประจำกรมโดยเรียบร้อย  และได้เข้าร่วมการพระราชพิธีและการสมาคมต่างๆ ในพระราชวังอยู่บ่อย  แต่พ่อไม่สู้จะโปรดการใหญ่โตนัก  เป็นครั้งเป็นคราวในเวลาวันอาทิตย์  พระจักรพรรดิและจักรพรรดินีก็ได้เชิญพ่อไปร่วมโต๊ะเสวยกลางวันด้วยอย่างสนิทสนม  ซึ่งเป็นที่พอพระทัยและสนุกสนานสำหรับพ่อมาก  พระจักรพรรดิหรือที่บางทีเราเรียกทับศัพท์อย่างง่ายๆ ว่า เอมเปอเรอ  และทั้งพระองค์ได้สนิทสนมแสดงความเป็นกันเองอย่างยิ่งกับพ่อ  และเรียกพ่อตามพระนาม  ซึ่งใช้กันทั่วไประหว่างพวกที่ใกล้ชิด คือ เล็ก จากคุณ : NickyNick - [ 10 ก.ค. 50 15:45:08 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ในระหว่างที่เป็นนายทหารประจำกรม เอมเปอเรอได้ทรงจัดให้พ่อและพุ่มมีห้องอยู่ในพระราชวังตซาร์กอย เซโล (Tsarkoe Selo) อันอยู่นอกกรุงไปหน่อย  ทั้งนี้เพราะกรมทหารม้าฮุสซาร์ของเอมเปอเรอประจำอยู่ที่นั่น  หน้าที่ของพ่อในเมื่อขเประจำกรมตอนแรก คือ การฝึกหัดและควบคุมทหารใหม่ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ.2445 (ค.ศ.1902)  โรงเรียนนายร้อยมหาดเล็กได้มีการรื่นเริงสมโภชโรงเรียน  ซึ่งได้ตั้งมาครบร้อยปีเต็ม  และมีการเลี้ยงกันอย่างสนุกสนานในระหว่างพวกนักเรียนเก่า  ในโอกาสนี้ พ่อได้ว่าจ้างช่างปั้นผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่งให้ปั้นพระรูปเอมเปอเรอ ซึ่งภายหลังได้หล่อเป็นทองแดง  และพ่อได้ทรงมอบพระรูปนั้นไว้เป็นของขวัญแก่โรงเรียน พุ่มเล่าว่าพ่อโปรดชีวิตนายทหารประจำกรมเป็นอันมาก  ถึงฤดูร้อน พ.ศ.2446  เมื่อกรมทหารม้าฮุสซาร์ได้ย้ายไปอยู่ที่คราสนอย เซโล (Krasnoie Selo) เพื่อการฝึกหัดและซ้อมรบของกรมและกองพล  พ่อได้จัดให้ช่างสร้างเรือนขึ้นหลังหนึ่ง  เป็นที่ซึ่งท่านประทับอยู่กับพุ่ม เป็นเรือนสองชั้น  ชั้นบนเป็นห้องที่อยู่  ชั้นล่างเป็นโรงม้าสำหรับม้า 8 ตัว  ต่อมาภายหลังเมื่อได้ออกจากกรมทหารแล้ว  พ่อได้ทรงมอบเรือนนั้นไว้แก่กรมทหารม้าต่อไป .......... พ่อในชุดเต็มยศนายพันเอกพิเศษ ประจำกองทหารม้าฮุสซาร์แห่งจักรพรรดินิโคลาสที่ 2 จากคุณ : NickyNick - [ 10 ก.ค. 50 15:47:00 ]

ความคิดเห็นที่ 5 กลางปี พ.ศ.2446  คือราวระหว่างเดือนตุลาคมกับกุมภาพันธ์  พ่อได้กลับมาเยี่ยมกรุงเทพฯ โดยมีนายพุ่มตามเสด็จมาด้วย  ทูลหม่อมปู่และย่าได้ต้อนรับพ่ออย่างดียิ่ง  ทั้งยังมีการต้อนรับโดยบุคคลและคณะต่างๆ ด้วยงานที่หรูหราและสนุกสนานที่สุด  ปรากฏว่ามีที่วังบูรพา  ทูลหม่อมปู่น้อยซึ่งรักพ่อเป็นอันมากเป็นเจ้าของงาน  และได้ทรงจัดอย่างเต็มที่  ในขณะที่อยู่ในกรุงเทพฯ ครั้งนั้นเอง  พ่อได้รับสัญญาบัตรเป็นนายทหารไทย  เข้าประจำกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์  ส่วนพุ่มก็ได้รับสัญญาบัตรเช่นเดียวกัน  และเข้าประจำกรมทหารม้า จากคุณ : NickyNick - [ 10 ก.ค. 50 15:47:51 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขออนุญาตแปะไปเรื่อยๆ ก่อนครับ พรุ่งนี้ค่อยมาคุยกันต่อ เพราะช่วงนี้เว็บพันทิปกำลังเดี้ยงไงไม่รู้ คุ้มดีคุ้มร้าย พอกำลังดีก็ต้องเร่งกันหน่อย เมื่อได้รับความสุขและเพลิดเพลินอย่างยิ่งในคราวนั้น พ่อและพุ่มก็ได้เดินทางกลับไปรุสเซีย  เพื่อการศึกษาชั้นสูงต่อไปอีก  คือเข้าประจำโรงเรียนนายทหารฝ่ายเสนาธิการเป็นเวลา 2 ปี  และเมื่อถึงเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2448  ก็สอบไล่ได้โดยเรียบร้อย  เมื่อได้ศึกษาจบบริบูรณ์แล้ว  เอมเปอเรอก็พอพระทัยอย่างยิ่ง  ได้ทรงตั้งพ่อเป็นนายพันเอกพิเศษในกองทัพบกรุสเซีย  และเป็นนายทหารพิเศษในกรมทหารม้าฮุสซาร์ของเอมเปอเรอ  และพระราชทานสายสะพายตราเซนต์ อันเดรย์  เป็นตราสูงสุดของประเทศรุสเซียในสมัยนั้น  อันมีสายสะพายเป็นสีน้ำเงินอ่อน  รวมทั้งตราเซนต์ วลาดิเมียร์  อันเป็นเหรียญกางเขนสีแดงกับดำ  และมีแถบเหรียญสีเดียวกัน  ตราเซนต์ วลาดิเมียร์นี้  แม้เมื่อกลับมาถึงเมืองไทยและแต่งทหารไทย  พ่อก็ยังติดอยู่เสมอ  จนถึงสมัยการปฏิวัติใหญ่ในรุสเซีย  และได้ยุบเลิกเหรียญตราของสมัยเอมเปอเรอเสียหมดสิ้น ตามที่ได้ทราบจากพุ่มและคนรุสเซียที่ได้เคยรู้จักท่านในเวลานั้น ปรากฏว่า  พ่อไม่โปรดการเที่ยวเตร่ การลีลาศ  การสังคมต่างๆ ในกรุงเซนต์ปีเตอร์สเบอร์กเท่าใดนัก  เสด็จไปน้อยที่สุด  สำหรับงานที่มีในพระราชวังนั้นต้องเสด็จ  และเอมเปอเรอก็โปรดให้เข้าอยู่ในหมู่เจ้านายชั้นสูงสุดเสมอ  แต่มีบ้านของครอบครัวและบุคคล ซึ่งพ่อเป็ฯเพื่อนกันด้วยอย่างสนิทสนม  และโปรดไปเยี่ยมเยียนอย่างกันเองบ่อย  และบ้านที่เสด็จบ่อยมากคือ บ้านของสุภาพสตรีที่เคยมีสามีเป็นนายทหารในกรมทหารม้าฮุสซาร์  ชื่อ นางคราโปวิตซกี  และที่บ้านของสุภาพสตรีนั้น  วันหนึ่งพ่อได้พบกับแม่ของข้าพเจ้า จากคุณ : NickyNick - [ 10 ก.ค. 50 15:49:52 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ในที่สุดพ่อก็อ้อนวอนได้สำเร็จ  และเมื่อกลับมายังกรุงเซนต์ปีเตอร์สเบอร์ก  แม่ยอมรับว่าจะแต่งงานด้วย  ถ้าพ่อสามารถได้รับอนุญาตจากอิวานพี่ชายของแม่  พ่อต้องไปพูดอ้อนวอนกับลุงอิวานเป็นเวลานานจึงได้รับอนุญาต  แต่ทางพ่อนั้นมิได้คิดจะบอกมาทางทูลหม่อมปู่และย่าเสียก่อนเลย  แม่เล่าว่าพ่อได้อธิบายว่าอย่างนี้ คือ  ทูลหม่อมปู่นั้นมิได้เป็นเพียงพ่อของท่านเท่านั้น  เป็นพระเจ้าแผ่นดินด้วย  ฉะนั้นถ้าขออนุญาตไป  แล้วท่านทรงห้าม  ขืนทำไปก็จะเป็นการผิดพระราชโองการ  แต่ถ้าไม่ถามไป  และท่านยังมิได้ห้ามเสียแล้ว  ก็นับว่าไม่มีความผิด เพื่อจะรักษาความลับของการแต่งงาน  แม้เอมเปอเรอ  พ่อก็ทูลไม่ได้   พ่อกับแม่จึงแต่งงานกันอย่างเงียบที่สุด  และเมื่อได้ไปพักอยู่ที่ประเทศอียิปต์เป็นเวลาสมควร  ก็ได้ลงเรือกลับเมืองไทย ............... แม่ เมื่ออายุ 14 ปี จากคุณ : NickyNick - [ 10 ก.ค. 50 15:51:28 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ส่วนพุ่มนั้นเป็นอันตกลงจะไม่กลับเมืองไทยเสียเลย  ข้าพเจ้าทราบว่ามีคนไทยบางส่วนเข้าใจว่า  แม่นั้นพุ่มได้รักมาก่อน  แต่ถูกพ่อแย่งได้สำเร็จ  เพราะพ่อเป็นเจ้านายและร่ำรวยมากกว่า  ข้าพเจ้าจึงถือโอกาสนี้ชี้แจงว่า  เรื่องราวทั้งหมดนี้ไม่มีความจริงเลย  การที่พุ่มไม่กลับนั้นเป็นการบังเอิญและไม่เกี่ยวกับพ่อเลย  พุ่มขออนุญาตอยู่ต่อเพื่อเรียนภาษาฝรั่งเศส  ทางกระทรวงกลาโหมตอบว่าอยู่ต่อไปไม่ได้  เวลานั้นพุ่มยังหนุ่มแน่นอยู่  ย่อมมีนิสัยหัวแข็งตามประสาคนหนุ่ม  ก็พยายามโต้เถียง  ทางกระทรวงก็สั่งให้สถานทูตไทยขังไว้ในสถานทูต  เมื่อเกิดเหตุเช่นนั้น  นายทหารในกรมเดียวกันก็มีความโกรธว่า  นายทหารม้าฮุสซาร์ซึ่งเวลานั้นพุ่มยังเป็นอยู่ ไม่สมควรจะถูกขังในสถานทูต  จึงจัดการให้มีพวกนายทหารมาแอบลักพุ่มไปเสียจากสถานทูต  การที่พุ่มยอมหนีไปดังนั้นก็ย่อมนับว่าเป็นการเกิดเหตุใหญ่  พุ่มย่อมไม่สามารถจะกลับเมืองไทยได้โดยปราศจากความผิดอย่างมหันต์  ด้วยเหตุฉะนั้น  พุ่มจึงจำต้องตกลงใจไม่กลับ  และได้เปลี่ยนสัญชาติเป็นรุสเซีย  ทำราชการอยุ่ในกองทัพบกรุสเซียจนได้เลื่อนยศตามลำดับเป็นนายพันเอก  ได้ไปทำการรบในกองทัพรุสเซียกับทหารเยอรมัน  ปรากฏว่า  ได้แสดงความสามารถและกล้าหาญเป็นอันมาก  เมื่อถึงสมัยปฏิวัติ  และพลทหารได้ลุกขึ้นโค่นอำนาจนายทหาร  เลือกนายทหารของตนเอง  พุ่มมีทหารรักมากจนได้รับเลือก  แต่พุ่มมีความซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อเอมเปอเรอมากเกินไป  ไม่ยอมรับเป็นนายทหารของพวกใหม่  และในที่สุดก็หลบหนีไปจากประเทศรุสเซียจนได้  เรื่องราวของพุ่มจึงต้องหยุดชะงักลงตอนนี้  และข้าพเจ้าจะมีกล่าวถึงอีกต่อไปภายหลัง จากคุณ : NickyNick - [ 10 ก.ค. 50 15:52:53 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบพระคุณทุกท่านที่ร่วมติดตาม พบกันใหม่พรุ่งนี้ครับ ราตรีสวัสดิ์ จากคุณ : NickyNick - [ 10 ก.ค. 50 15:54:06 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่พี่นิค โพสโดยตรง แต่ก็แอบเกี่ยวกับรัสเซีย เลยเอามาฝากพี่นิคครับ เชิงเทียนคู่รูปหงส์และพานแว่นฟ้า ๒ ชั้นรูปหงส์  ซึ่งเป็นของที่ระลึกพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ แก่พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ ๒ เมื่อครั้งที่ทรงดำรงพระอิสริยยศมกุฎราชกุมารรัสเซียและเสด็จฯ ไปเยือนสยามเมื่อปี ๒๔๓๔ แก้ไขเมื่อ 10 ก.ค. 50 16:05:27 จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 10 ก.ค. 50 16:01:34 ]

ความคิดเห็นที่ 11 พระแสงดาบ ที่ เก็บรักษา ณ The Kunstcamera museum จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 10 ก.ค. 50 16:03:27 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มารอ จากคุณ : นายไผ่ - [ 10 ก.ค. 50 16:20:32 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ฝากตามหาพระนมออย (แก่ใหญ่) ในสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาทด้วยนะครับ อยากทราบจริงๆ ครับว่าท่านเป็นเชื้อสาย "คชเสนีย์" หรือเปล่าครับ จากคุณ : ตาลต้น - [ 10 ก.ค. 50 17:00:06 A:210.1.22.23 X: TicketID:102871 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่นึกไม่ฝันว่าวันหนึ่งจะมีคนสนใจ นำเรื่องราวของชายในฝันของดิฉันมาลงให้อ่านแบบนี้ ดิฉันเคยอ่านเรื่องเกิดวังปารุสก์ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยจากเล่มเก่า(พิมพ์ครั้งที่เท่าไรไม่ทราบ แต่หนังสือเก่ามาก) แล้วก็ได้รับรู้ว่ามีผู้ติดตามทูลกระหม่อมจักรพังษ์ฯไปรัสเซียด้วย คือนายพุ่มนี่แหละค่ะ แต่อยากจะบอกว่าหลังจากเห็นภาพในหนังสือแล้วดิฉันรู้สึกประทับใจคุณพุ่มมากๆ โดยเฉพาะรูปวัยหนุ่มเต็มตัว(ตอนเป็นหนุ่มน้อยก็น่ารัก) สวมชุดทหารม้ารักษาพระองค์ ไว้หนวดเหนือริมฝีปาก ดูองอาจอย่าบอกใคร จากคุณ : นางพญามารเมฆไฟ - [ 10 ก.ค. 50 17:03:06 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เรื่องนายพุ่มสกี้นี้มีโรงเรียนใหญ่ ๒ โรงเรียนแย่งกันเป็นศิษย์เก่าคือเทพศิรินทร์และสวนกุหลาบ อันนี้ของเทพศิรินทร์ http://www.numtan.com/nineboard/view.php?id=462 http://www.debsirin.or.th/forums/showthread.php?t=833 อันนี้ของสวนกุหลาบ http://osknetwork.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1828&postdays=0&postorder=asc&start=30 คุณ NickyNick เชื่อข้อมูลของฝ่ายไหน ? จากคุณ : เพ็ญชมพู - [ 10 ก.ค. 50 18:43:44 ]

ความคิดเห็นที่ 16 นายพุ่มสกี้ ใช้นามสกุลอะไรคะ จากคุณ : ม่านมัสลิน - [ 10 ก.ค. 50 18:49:57 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มารออ่านต่อ จากคุณ : Babatov - [ 10 ก.ค. 50 20:13:44 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มานั่งคั่วข้าวโพด รอภาคสองค่ะ     จากคุณ : โตมิโต กูโชว์ดะ - [ 10 ก.ค. 50 20:57:25 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คุณเพ็ญครับ เป็นผมผมเชื่อหนังสือจากวังปารุศมากกว่าจากทางโรงเรียนอยู่แล้ว เพราะยังไงพระองค์เจ้าฯน่าจะบันทึกไว้โดยไม่มีผลประโยชน์อะไรแอบแฝงมากกว่า จากคุณ : Ace striker - [ 10 ก.ค. 50 22:21:31 ]

ความคิดเห็นที่ 20 มาลงชื่อไว้ก่อยครับ เดี๋ยวมาอ่าน ตอนนี้งานกำลังสุมหัวอย่างหนักมากถึงมากที่สุด ว่างๆเดี๋ยวจะมาอ่านนะครับพี่นิก จากคุณ : นอกราชการ - [ 10 ก.ค. 50 22:40:00 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ที่บ้านที่เมืองไทยซื้อ เกิดวังปารุสก์ ไว้ให้แล้วค่ะ เล่มใหญ่มาก บอกว่าส่งมาให้ไม่ไหว ไม่คุ้มค่าส่ง ให้กลับไปขนเอามาอ่านเอง ตอนนี้ก็เลยขออ่านจากคุณนิคไปพลางๆก่อน จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) - [ 10 ก.ค. 50 23:04:22 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มาลงชื่อไว้ก่อน..จะรออ่านรวบยอดค่ะ จากคุณ : Tante-Marz - [ 11 ก.ค. 50 00:22:33 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เคยอ่านทั้ง English and Thai version สำหรับ Thai version อ่านตอนก่อนหนุ่ม ส่วน English version อ่านตอนหนุ่ม น่าติดตามมาก อ่านติดต่อกันหลายตืนจนจบ ถ้าจำไม่ผิด English version เกิดก่อนครับ จากคุณ : K.Senior - [ 11 ก.ค. 50 00:49:06 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สวัสดีครับทุกท่านที่ติดตามอ่าน ช่วงหลังนี้เวลาผมก็ลดน้อยลงตามลำดับ เลยลงกระทู้แบบตัดแปะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้เขียนเกลาแบบเล่าสู่กันฟัง  เหมือนใช้แต่แรงกายเท่านั้น เพราะเร่งพิมพ์เองอย่างหนัก ไม่ได้ใช้สมองมาเรียบเรียงเนื้อเรื่องให้มันดี รูปภาพก็ถ่ายก็อปจากหนังสือ การเรียงรูปจึงไม่ตรงกับข้อความนัก ก็ขออภัยด้วยอย่างสูง ขอพูดคุยและตอบคำถามเรียงคนไปเลยครับ หากวกไปวนมาเดี๋ยวจะลืมซะเอง ขอบคุณคุณรวียศมาก มาจานด่วนจี๋เลยนะครับ หากมีภาพสวยๆ งามๆ แบบนี้เชิญได้ตลอดเวลา ก็ขอสารภาพอีกอย่างว่า การตั้งกระทู้ต่างๆ ของผม อย่างหนึ่งก็เพื่อดูดความรู้จากท่านผู้ร่วมอ่านด้วยเหมือนกัน เราสละแรงกายด้วยการเสาะหาข้อมูลแล้วก็แรงงานพิมพ์ดีด ได้ความรู้ตอบแทนจากท่านคนละเล็กละน้อยก็ถือว่าเป็นพระคุณอย่างสูงทีเดียว สมเด็จเสด็จรัสเซีย ก็เกี่ยวกับสัมพันธไมตรีที่มีมายาวนานอย่างน้อย 110 ปีที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือนับว่าเป็นทูลกระหม่อมทวดของสมเด็จอย่างสายตรง  หรือเป็นทูลกระหม่อมปู่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน  ได้เสด็จเยือนรัสเซียเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 2-11 กรกฎาคม พ.ศ. 2440  ภาพโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจจะมีเรื่องราวดีๆ นำเสนอให้พวกเราได้รับชมกันทุกวัน ช่วงเวลา 20.00 น.ทุกวัน หากใครไม่มีโอกาสรับชม ก็ขอเชิญมาเก็บตกจากคุณรวียศได้เลย จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 08:20:09 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณนายไผ่ครับ นั่งรอฟังผมบรรยายภาคพิเศษก่อนครับ แล้วเดี๋ยวจะมีภาค 2 ภาค 3 ตามมาติดๆ สวัสดีคุณตาลต้น  เมื่อวานได้เรียนคำฝากขอบคุณไปยังอาจารย์ถาวรเรียบร้อยแล้วครับ  ที่ปรากฎในอีกกระทู้หนึ่ง  ก็เป็นดังคาด ทำให้อาจารย์มีความสุขมากยิ่งขึ้น  ความภาคภูมิใจของครูอย่างหนึ่งมาจากการระลึกถึงด้วยความเคารพจากศิษย์ครับ แม้คุณตาลต้นจะไม่เคยเป็นศิษย์ในห้องเรียนโดยตรงก็ตาม ผมเห็นคำถามของคุณตาลต้นเกี่ยวกับพระนมออย (แก่ใหญ่) ในอีกกระทู้หนึ่งด้วยแล้ว แต่เนื่องจากไม่มีคีย์เวิร์ดอะไรให้ทราบเลย จึงไม่รู้จะหาข้อมูลจากไหน ลองสำรวจตรวจตราในหนังสือเกิดวังปารุสก์คร่าวๆ ก็ไม่มี  ลองเปิดดูหนังสือประวัติต้นรัชกาลที่ 6 คร่าวๆ เช่นกันก็ไม่เจอ  เห็นมีแต่พระนมทัตในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวครับ แต่ตอนนี้มีสิ่งให้ช่วยสืบค้นเพิ่มเติมว่า  เกี่ยวกับนามสกุลคชเสนีย์หรือไม่ การค้นหาอาจแคบเข้า  จะพยายามสอบถามทีมงานให้ครับ ขอเรียนให้ทราบก่อนว่า ผมอยู่ไกลปืนเที่ยง  ตำรับตำราที่มีก็เกิดจากการซื้อเป็นเจ้าเข้าเจ้าของเท่านั้น ไม่มีห้องสมุดใหญ่ๆ ให้ค้นคว้าอย่างง่ายดาย  ดังนั้นความรู้จึงจำกัดอยู่ในวงแคบเท่าที่ปรากฏในตำราของตัวเอง หากคุณตาลต้นอยู่ใกล้ห้องสมุดใหญ่ๆ แห่งใด หรือเดินไปตามร้านหนังสือเก่า เช่น แถวสนามหลวง ตามห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว หรือแหล่งอื่นๆ ก็ลองไปหาเปิดหนังสือเก่าๆ ดูได้ โดยเฉพาะหนังสืองานศพ จะมีเรื่องราวเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในสายสกุลที่หาไม่ค่อยเจอในหนังสือประวัติศาสตร์ทั่วไป หากหาได้ก่อนผม ก็แจ้งให้ทราบด้วยนะครับ จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 08:31:16 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ตามอ่านค่ะ คุณพี่นิค ความรู้สึกที่ได้อ่าน เกิดวังปารุสก์ นั้น พอเห็นหน้านายพุ่ม ตอนเป็นหนุ่มใหญ่  หล่อมากจริง ๆ   ดูองอาจ มาดสุดกู่เลย  อิอิ จากคุณ : ปริยวาที - [ 11 ก.ค. 50 08:46:07 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สวัสดีครับนางพญามารเมฆไฟ  อ่านจากคอมเมนท์แล้วน่าจะเป็นพวกนักบุญหรือพระแม่ผู้ทรงคุณความดีอะไรแบบนั้นมากกว่าจะเป็นนางพญามารนะครับ  เพราะมอบความรักให้คนอย่างล้นเหลือ แม้แต่บุคคลเก่าแก่อย่างนายพุ่ม ยังอุตส่าห์ย้อนอดีตตามไปประทับใจท่าน ผมลองหาดูคร่าวๆ จากกระทู้ห้องสมุดพันทิปช่วงนี้ มีแต่เกี่ยวข้องกับสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ ไม่มีเกี่ยวกับนายพุ่มพระสหายสนิทเลย จึงนำเรื่องราวของท่านมารื้อฟื้นขึ้นใหม่  แต่ก็ลอกเขามาทั้งนั้นละครับ เพราะเกิดทีหลังเขา  การรับรู้เรื่องราวก็จากการเขียนบอกเล่าให้พวกเราได้รับทราบแหละครับ สวัสดีครับคุณเพ็ญชมพู เป็นเกียรติอย่างยิ่ง และยินดีต้อนรับเข้าสู่อดีตแห่งกระทู้นี้ครับ ได้ลองเปิดลิ้งค์ทั้งสามที่เกี่ยวกับสองโรงเรียน  แต่เพียงคร่าวๆ ก่อนครับ เพราะยังไม่มีเวลาพอ เสียดายที่ผมพิมพ์เรื่องราวไว้ตั้งเยอะแยะ มาเจอเพียบในลิ้งค์ที่คุณเพ็ญชมพูแนบมาให้ ทีหลังจะตั้งกระทู้ใดอาจส่งซิกไปเรียนสอบถามคุณเพ็ญนะครับ ว่ามีข้อมูลซ่อนอยู่ตรงไหน ผมคนโลว์เทคครับ แล้วว่างๆ จะไปเปิดอ่านให้ฉ่ำตา แต่อ่านผ่านๆ เล็กน้อยแล้วต่างก็มีข้อมูลดีๆ กันทั้งนั้นครับ บางคนอาจเขียนดุเดือดเลือดพล่านไปหน่อย  รู้สึกคุ้นๆ เพราะเหมือนกับอ่านพันทิปในบางกระทู้ยังไงยังงั้น เกิดมาเป็นคนดังก็ยังงี้แหละครับ ใครก็อยากมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เกี่ยวกับหนังสือเกิดวังปารุสก์  คนรู้จักกับผมหลายคนพูดคุยว่า มีข้อมูลผิดพลาดหลายเรื่อง  ซึ่งคงต้องรอการแก้ไข หรืออย่างน้อยก็ใส่เชิงอรรถอธิบายไว้ด้วย  แต่ที่ผมอ่านคร่าวๆ ก็ไม่เห็นมีข้อมูลผิดอย่างฉกาจฉรรจ์อะไร ข้อมูลนายพุ่มส่วนใหญ่จากหนังสือเกิดวังปารุสก์ ซึ่งพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์องค์ผู้นิพนธ์ ก็ได้เคยพูดคุยกันอย่างใกล้ชิดเป็นเวลายาวนาน  เป็นคนให้ข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตทูลกระหม่อมพ่อเมื่อทรงพระเยาว์ ชีวิตในรัสเซีย ชีวิตรักของพระองค์อย่างละเอียด นอกเหนือจากที่บันทึกไว้ในตำรับตำราใดๆ  เพราะเกร็ดเหล่านั้นบางทีไม่อนุญาตให้บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์?? เกี่ยวกับโรงเรียนที่นายพุ่มจบการศึกษาในเมืองไทย พระองค์จุลน่าจะไม่พลาดในการพูดคุยกับนายพุ่มด้วยอย่างแน่นอน ดังนั้นข้อมูลที่ปรากฏในหนังสือเกิดวังปารุสก์ จึงน่าจะถูกต้อง แต่หากทางศิษย์เก่าโรงเรียนสวนกุหลาบท่านใดมีข้อมูลมาร่วมแชร์กัน ก็ยินดีครับ เพราะความรู้จะถูกต้อง หรืองอกงามยิ่งขึ้นก็ต่อเมื่อพวกเรานำมาเปิดเผย หากเรื่องเหล่านั้นเป็นเรื่องดีและน่าสนใจ  มัวเก็บไว้อยู่กับตัวเฉยๆ ก็จะตายตามไปกับตัวครับ จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 09:02:02 ]

ความคิดเห็นที่ 28 สวัสดีครับคุณม่านมัสลิน นายพุ่ม หรือพุ่มสกี้ ใช้นามสกุล สาคร ครับ ลองค้นดูแล้วไม่ได้เป็นนามสกุลพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว แล้วก็ยังอ่านไม่เจอว่าเป็นนามสกุลของบิดาท่าน หรือเป็นนามสกุลของท่านเอง จะมีเนื้อหาอยู่ในตอนต่อๆ ไปครับ คุณ Babatov  คุณ Tante-Marz  รออ่านต่อได้เลย เรื่องยังมีอีกยาวครับ คุณโตมิโต กูโชว์ดะ หรือพี่โตมิของพวกเรา วันนี้จะขึ้นภาคสองต่อ แล้วอาจแถมภาคสามให้จบเลยก็ได้ เพราะไม่ชอบทำอะไรค้างคา อยากให้เสร็จไวๆ ครับ  แต่ถ้าไม่มีสาวนั่งคั่วข้าวโพดใกล้ๆ  แรงอาจจะลดน้อยถอยลงไปครับ ความเห็นผมเหมือนกับคุณ Ace striker ดังที่แจ้งไว้ข้างบนแล้ว คุณนอกราชการ ทำงานภาระหน้าที่ตัวเองให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยมาอ่านก็ได้ครับ กระทู้นี้ยังไม่หนีหายไปไหน  หากถูกเจ้านายที่บ้านบ่น ผมจะได้ไม่ต้องพลอยฟ้าพลอยฝนถูกว่าไปด้วย อิอิ จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 09:08:38 ]

ความคิดเห็นที่ 29 สวัสดีครับคุณกุลธิดา (kdunagin) คนไกลบ้านก็ยังงี้แหละครับ มีปัญหาติดขัดหลายอย่าง  หนังสือเกิดวังปารุสก์จะมีเรื่องราวมากมาย ส่วนเกี่ยวกับนายพุ่มเป็นเนื้อหาเล็กน้อยแค่ความหนา 1 ใน 100 หรือ 200 ส่วนได้มั้งครับ  หากอยากทราบเรื่องราวตอนใด ส่งซิกมาให้ผมทราบ แล้วจะรีบพิมพ์ดีดเรื่องราวเหล่านั้นสร้างกระทู้ใหม่ๆ ได้เลย  รวมทั้งรูปภาพต่างๆ ในหนังสือเล่มนั้นผมก็ได้เก็บก็อปไว้ในไฟล์จนหมดสิ้นแล้ว ผมรักและชอบที่จะศึกษาประวัติศาสตร์เมืองไทยครับ หากมีผู้สนใจในแนวทางเดียวกัน จะยินดีมอบเนื้อมอบตัวให้อย่างถวายหัวโดยไม่เห็นแก่เหน็ดแก่เหนื่อยเลยครับ จริงนะ จะบอกให้ จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 09:13:35 ]

ความคิดเห็นที่ 30 สวัสดีครับคุณ K.Senior ยินดีต้อนรับอีกเช่นกันครับ ผมยังไม่เคยเห็นฉบับภาษาอังกฤษเลยครับ ว่างๆ อาจสอบถามเพื่อนๆ และขอจับต้องดูบ้าง แค่นี้ก็เป็นบุญวาสนาอย่างสูง แต่จะให้อ่านคงอ่านไม่ออกหรอก เพราะต้องเปิดดิกกันพัลวัน  ได้วันละหน้าสองหน้ารึเปล่าก็ไม่รู้ สวัสดีหนูจิ๋วปริยวาที ฝากบอกหนูบี biebie999 ด้วยอีกคนนะจ๊ะ ยังไม่เห็นหน้าเลย มีคนพาดพิงไว้ในกระทู้รถไฟเมืองสุพรรณ คห.100 ฝ่าๆ อิอิ เขาจะชวนหนูไปรักษาไข้ใจกัน  เร็วๆ ด้วยนะ เดี๋ยวบัตรคิวจะหมด จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 09:19:19 ]

ความคิดเห็นที่ 31 มาต่อภาค 2 กันครับ ต่อไปนี้คัดลอกมาจากหนังสือ พระราชหัตถเลขา และหนังสือกราบบังคมทูล ของ เจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี ล.1, ล.2  คุรุสภา 2506 มีด้วยกัน 2 เล่มครับ  หากใครมีโอกาสได้อ่านหนังสือเล่มนี้ จะทำให้เข้าใจถึงพระราชอัธยาศัยแห่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช (รัชกาลที่ 6) รวมทั้งพระเจ้าลูกเธอพระองค์อื่น ในช่วงสมัยนั้นได้มากขึ้น ตอนที่เกี่ยวข้องกับสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ เริ่มปรากฏในหน้า 155 เล่ม 1 ครับ เป็นตอนหนังสือกราบบังคมทูล ลงวันที่ 16 ต.ค. รศ.115 ...........ได้ทรงทราบสิ่งที่แปลก คือ จับได้ว่า  สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจักรพงศ์ภูวนารถ ทรงลืมสิ่งที่ได้เรียนมาแล้วแต่กรุงเทพฯ  ในวิธีเล็กๆ น้อยๆ เช่น วิธีตั้งเลข ทำเลข เป็นต้น  แต่พอครูได้ทูลอธิบายจึงทรงนึกได้ .............. หมายเหตุ  การสะกดพระนาม เป็นคนละแบบกับที่ใช้ในหนังสือเกิดวังปารุสก์ครับ  รักษาการสะกดแบบเดิม หากผมพิมพ์แบบไม่หลงลืม หรือโปรแกรมเวิร์ดไม่ดันแก้ไขให้อย่างพลการครับ จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 10:59:32 ]

ความคิดเห็นที่ 32 น.216   12 พ.ย. รศ.116 ......... ทูลกระหม่อมเล็ก  บัดนี้ตกลงมีพระราชดำริจะให้เสด็จไปทรงเล่าเรียนในเมืองรัสเซีย  ได้ทรงฝากฝังกับซาร์เป็นส่วนพระองค์  ข้าพระพุทธเจ้าเห็นด้วยโดยพระราชกระแสว่าจะเป็นประโยชน์แก่พระองค์และบ้านเมืองในภายหน้านั้นมากอยู่  มีที่ติอยู่อย่างเดียวแต่การที่จะต้องเรียนภาษารัสเซียที่เมือง  เราไม่ใคร่มีเวลาใช้ด้วยเท่านั้น  แต่เป็นสิ่งที่แก้ไม่ได้  ถึงกระนั้นภาษาอื่นก็ต้องทรงเรียนด้วยเหมือนกัน  คงจะเป็นประโยชน์ทางอื่น  บัดนี้  ข้าพระพุทธเจ้ากำลังต้องจัดบ้านใหม่ถวายแยกออกไปเพื่อจะได้ครูภาษารัสเซียมา  ตั้งต้นทรงเล่าเรียนแต่ในขณะก่อนเสด็จไปเมืองรัสเซียครึ่งปีนี้  และโปรดเกล้าฯให้นายนกยูง  (ภายหลังเป็นพระยาสุรินทราชา (นกยูง วิเศษกุล))  เป็นผู้โดยเสด็จไปอยู่ประจำดูแลข้างไทยๆ กับกำลังคัดเลือกนักเรียนที่ดี  สำหรับจะได้ไปเป็นเพื่อนเรียน  เช่น หม่อมราชวงศ์สิทธิ์  ซึ่งได้โดยเสด็จสมเด็จพระบรมโอรสออกมานั้น  ด้วยอีกคนหนึ่ง จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 11:04:39 ]

ความคิดเห็นที่ 33 น.222   26 พ.ย. รศ.116 .....ในเรื่องจัดการทรงพระอักษรภาษารัสเซีย  ของทูลกระหม่อมเล็กชั้นต้นบ้านหาได้แล้ว  ได้ตกลงเช่าบ้าน  Elsenwood  ที่เดียวกับ Graitney  จะได้รับบ้านในวันที่ 29 เดือนนี้  เสียค่าเช่าวิกละ  11 กินีส์  ตลอดไปจนเดือนเมษายน  บ้านนี้ถึงค่าเช่านับว่าไม่ถูกก็จริง  แต่ได้กำไรทางอื่น คือ  (1)  อยู่ใกล้ Graitney พอเป็นบ้านพี่บ้านน้องกัน  (2)  ได้อาศัยหูตา Colonel Hume ดูแลบ้าง  (3)  เป็นที่สบาย และเครื่องตกแต่งก็ไม่ต้องลงทุนมากมาย  การสิ่งใดขัดขวางพอหยิบฉวยกันได้  ทั้งคนและเงินไม่ต้องเปลืองมาก  (4)  จะหาที่อื่นต่อไปก็ไม่ได้เร็วทันการ  บ้านนี้จึงเป็นที่หมาะและใช้ได้ดี จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 11:06:05 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เริ่มเล่ม 2 น.1  3 ธันวาคม ร.ศ.116 .....ด้วยในการจัดที่ประทับและการถวายพระอักษรภาษารัสเซีย ในทูลกระหม่อมเล็กนั้น  สำเร็จในวันที่ 1 เดือนนี้  ทูลกระหม่อมเล็กได้เสด็จไปประทับและหมอยาร์ผู้ดูการ มิสเตอร์อาดาเชฟ (Ardachef) ครูถวายพระอักษรรัสเซีย  กับนายนกยูง  ก็ได้ไปอยู่ในวันนั้น  การถวายพระอักษรก็ได้ตั้งต้นในเวลาวานนี้  และจะได้เสด็จมาทรงพระอักษรกับสมเด็จพระบรมโอรสที่เกรตนี  วิกละ 3 วันในวิชาเลขและภาษาอังกฤษ  กับการฝึกหัดพระกำลัง  การนี้คงจะเป็นอันสำเร็จเรียบร้อยได้ชั้นหนึ่ง ครูที่หามาก็ต้องพระทัยทูลกระหม่อมเล็กด้วย ส่วนการเลือกเด็กนักเรียนที่จะถวายเป็นเพื่อนเรียนนั้น  ได้เรียกนักเรียนมาเลือกกันแล้ว 10 คน  นักเรียนที่ต้องคัดชื่อออกเสียกี่คน  เพราะเหตุใด  มีจำนวนดังจะกราบบังคมทูลพระกรุณาต่อไปนี้ นายเต็น บุตรพระยาสีหราชเดโช (ภายหลังเป็นพระยาสุริยานุวงศ์ประวัติ (เต็น บุนนาค) นายใจ บุตรพระยาประภากรวงศ์ ภายหลังเป็นหลวงชลาลัยไกกล (ใจ บุนนาค) นายโห้ บุตรร้อยเอกเจริญในกรมทหารบก (ภายหลังเป็นร้อยเอก หลวงครรชิตสรกรรม (เจริญ กาฬดิษย์) ภายหลังเป็นพระยาเทพศาสตร์สถิต (โห้ กาฬดิษย์) หม่อมราชวงศ์สายหยุด บุตรหม่อมเจ้าสวาสดิ์  ภายหลังเป็นพระยาสวัสดิ์วรวิถี (ม.ร.ว.สายหยุด สนิทวงศ์) นายสนิท เดิมชื่อนายนิล บุตรนายพุด ภายหลังเป็นพระยาดรุณพันพิทักษ์ (สนิท พุกกะมาน) นายติน บุตรพระยาสีหราชเดโช คนเล็ก  ภายหลังเป็นพระยาสุพรรณสมบัติ (ติน บุนนาค) นายชิน บุตรพระยาประภากรวงศ์ ภายหลังเป็นพระยานิพัทธ์กุลพงศ์ (ชิน บุนนาค) ยังเหลืออีก 3 คน ในระหว่างเลือก คือ 1. นายพุ่ม บุตรนายซุ้ย  นักเรียนที่โดยเสด็จพระราชดำเนินคราวนี้  (ภายหลังแปลงชาติเป็นรัสเซีย ใช้นาม พุ่มสกี้  เคยเข้ามาประเทศไทยกับพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจุลจักรพงศ์) 2. นายเตี้ยม บุตรคนกลางของพระยาสีหราชเดโช 3. มานิตย์  บุตรคนเล็กของเจ้าพระยานรรัตน์ราชมานิต  ภายหลังเป็นพระยามานิตยกุลพัทธ์ นายพุ่ม  เป็นคนไม่ใช่บุตรผู้มีตระกูล  แต่เกิดมาเป็นช้างเผือก  กิริยาวาจาเป็นที่ชอบของคนทั้งหลาย  ฉลาดในการเล่าเรียน  อายุ 15 ปี  ทูลกระหม่อมเล็กโปรด  เลือกเป็นที่ 1  เคอแนลฮยูม ดอกเตอร์ยาร์เลือกเอาเป็นที่หนึ่งด้วย  ข้าพระพุทธเจ้าก็ชอบและได้กราบบังคมทูลไว้แล้วครั้งหนึ่งที่เนเปิลว่า เห็นแหลมมาก นายเตี้ยมเลือกเป็นที่สอง  และนายมานิตย์เป็นที่สาม  นายพุ่มและนายมานิตย์ทั้งสองคนนี้พึ่งมาใหม่  การเล่าเรียนของเขา 2 คนนี้ยังไม่เป็นหลักฐานแน่นหนา  แต่นายเตี้ยมนั้นได้มาอยู่นาน  และเตรียมจะเข้ารอแยลมิลิเตอรี คอลเลช ที่แซนด์เฮิสต์  ตัวก็ออกเป็นห่วงๆ อยู่ แต่ยังไม่ตกลง  ข้าพระพุทธเจ้าได้มีใบบอกเข้ามายังกระทรวงธรรมการยังรอฟังอยู่  ในการนี้ถ้าไม่โปรดเกล้าฯ นายพุ่มก็จะต้องขอพระบรมราชานุญาตตกลงทางโทรเลข  เพราะจะได้รอนายเตี้ยมไว้  ไม่พูดแก่ราชาธิปไตยอังกฤษที่จะขอเข้าแซนด์เฮิสต์นั้น  ความตัดสินของข้าพระพุทธเจ้าในคนทั้ง 3 นี้  ถ้าจะโปรดเกล้าฯ ผู้หนึ่งผู้ใดไม่มีความรังเกียจทั้ง 3 คน  ตามที่ตาแลเห็นทุกวันนี้  แต่ทูลกระหม่อมเล็กหนักข้างนายพุ่มอยู่ข้างโปรดมาก .................. นาม พุ่มสกี้  ผมเจอในหลักฐานจากเล่มนี้เท่านั้น  อยู่ในส่วนที่เป็นเชิงอรรถครับ จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 11:09:39 ]

ความคิดเห็นที่ 35 น.35  21 มกราคม รศ.116 .....อนึ่ง นายพุ่มนักเรียน  ก็ได้ส่งไปถวายทูลกระหม่อมเล็กแล้วแต่วันที่ 18 ฟังดูเพียงเวลานี้ก็ว่าตั้งต้นดี  แต่ยังน้อยวันเกินที่จะทูลเกล้าฯ ถวายความเห็นอันใดได้ จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 11:10:29 ]

ความคิดเห็นที่ 36 น.57   16 มี.ค. ร.ศ.116 .....ส่วนการที่ลูกชายเล็กจะไปรัสเซียนั้น  เดิมคิดกันในกรุงเทพฯ ว่าจะตั้งทูตที่รัสเซีย  และพระยาสุริยาคิดมาว่าจะให้มีเสเกรตารีที่รัสเซีย  การอย่างแรกเห็นว่าจะเป็นคนที่สงสัยกันมาก  ด้วยเราไม่มีผลประโยชน์อันใดเกี่ยวข้องกับรัสเซีย  ถ้าจะตั้งอย่างหลัง  เป็นแต่เพียงเสเกรตารี  จะไม่มีผู้ใดรู้จักเลย  จึงได้ตกลงเป็นตั้งพระยาชล (พระยาชลบุรานุรักษ์ (สวัสดิ์ ภูมิรัตน์) ภายหลังเป็นพระยามหิบาลบริรักษ์)  เป็นเคาวเวอนเนอร์พระอภิบาลขึ้นในกระทรวงวัง  เงินเดือนพระยาชล  นายนกยูง  นายพุ่ม  และค่าเล่าเรียนของลูกชายเล็ก  คงเบิกในงบพระยาวิสุทธจากกระทรวงวังด้วย  เผื่อว่าพระยาชลจะมีโอกาสที่ได้เฝ้าแหนบ้าง จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 11:11:23 ]

ความคิดเห็นที่ 37 น.72   1 เม.ย. รศ.117 .....และเชื่อด้วยเกล้าฯ ว่ายังข้างหน้าก่อนที่จะเสด็จไปรัสเซียอีกเดือนสองเดือน  ทูลกระหม่อมเล็กคงจะทรงเล่าเรียนได้อีกมาก  บางทีเกือบจะรับสั่งภาษารัสเซียนได้  ทั้งนายพุ่มก็เป็นอันเข้าทีเข้าท่า  ถ้าจะสำเร็จดังพระราชประสงค์ได้ทุกประการ  แต่นายนกยูงนั้นต้องนับไว้ส่วนหนึ่งในทางที่จะสนองพระเดชพระคุณในพวกผู้ใหญ่และราชการ  จะเอาเร็วขันแข่งในการเล่าเรียนนั้นไม่ได้  แต่ถึงกระนั้น  ก็จะเป็นดีได้ในทางเล่าเรียนชั้นผู้ใหญ่เหมือนกัน จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 11:12:59 ]

ความคิดเห็นที่ 38 น.87 สำเนาแนบ    24 เมย. รศ.117 .....ข้อ 4.   ...... การเบิกเงินใช้สอยในการเล่าเรียนของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ  นายนกยูง นายพุ่ม แลเงินเดือนของพระยามหิบาลบริรักษ์ ให้เบิกจากพระยาวิสุทธสุริยศักดิ์  เว้นไว้แต่ถ้าพระยาวิสุทธสุริยศักดิ์เห็นจะเป็นการสะดวก  ซึ่งจะให้พระยามหิบาลบริรักษ์เบิกตรงต่อกระทรวงวังเมื่อได้จัดการลงที่เรียบร้อยแล้ว  ก็ตามแต่จะตกลงกัน .....ข้อ 9  นายนกยูงนั้น  เป็นตำแหน่งอาจารย์หนังสือไทย (ติวเตอร์) ของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ  เพราะสมเด็จพระเจ้าเอมเปรอได้รับสั่งขอให้มีครูหนังสือไทยไปสอนอย่าให้ทรงลืมภาษาไทย  นายนกยูงนั้นต้องยกย่องเป็นผู้ดี  เข้าในสมาคมแห่งผู้ดีทั้งหลายได้  แต่การซึ่งนายนกยูงจะมีช่องถวายพระอักษรสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เวลาใด แลจะควรอยู่ในที่ใดก็ให้พระยามหิบาลบริรักษ์คิดอ่านปรึกษาหารือดูกับผู้ที่จัดการเล่าเรียนของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ  ถ้าหากว่านายนกยูงจะไม่ได้อยู่กับสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ ก็ให้อยู่กับพระยามหิบาลบริรักษ์  นายพุ่มนั้นเป็นเพื่อนเรียนของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ  คงต้องอยู่ในสถานที่ทรงเรียนนั้น (พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระราชทานแต่วันที่ 26 เมษายน ร.ศ.117) จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 11:14:27 ]

ความคิดเห็นที่ 39 น.111  29 มิ.ย. รศ.117 .....ในที่สุด  ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานนำรูปนายพุ่มทูลเกล้าฯ ถวาย  เพื่อจะได้ทรงรู้จักด้วย  เห็นด้วยเกล้าฯ ว่าถึงแม้ว่าได้โดยเสด็จพระราชดำเนินมาในเรือพระที่นั่งก็ดี  เกรงจะไม่ได้ทรงสังเกตแม่นยำนัก  บัดนี้เป็นผู้ที่ได้รับราชการทูลกระหม่อมเล็ก  จึงเห็นด้วยเกล้าฯ ว่าคงจะพอพระราชหฤทัยที่จะทรงรู้จัก  พอเป็นเครื่องทรงพิจารณาท่าทางอัชฌาสัยได้อยู่ ........... ถึงตอนนี้ เจ้าพระยาพระเสด็จฯ กล่าวว่า ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 ได้เคยรู้จักนายพุ่มมาก่อนแล้ว เป็นการพบปะกันในเรือพระที่นั่ง ครั้งไหน ใครทราบกรุณาบอกด้วยครับ จะได้ไปค้นเรื่องราวเหล่านั้นมาเสริมต่อ จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 11:24:18 ]

ความคิดเห็นที่ 40 กำลังอ่านเรื่อง "นักเรียนนายร้อยไทยในเยอรมันยุคไกเซอร์" อยู่พอดีเลยครับ นักเรียนนายร้อยจากเยอรมันยุคนั้น เก่งมากและมีส่วนต่อการเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองไทยในยุคสมัยนั้นอย่างมาก ตั้งแต่ พระบรมราชชนก สามนายทหารจากสี่ทหารเสื่อแห่งคณะราษฏร์ จากคุณ : หมาป่าดำ (หมาป่าดำ) - [ 11 ก.ค. 50 11:24:31 ]

ความคิดเห็นที่ 41 น.130  11 ส.ค. รศ.117 .....รูปนายพุ่มนั้นได้รับแล้ว  ดูอ้วนขึ้นกว่าแต่ก่อน  เราไม่ได้ลืมเลยเพราะได้มีความปราณีลูบหน้าลูบหลังอยู่แต่เมื่อไปกลางทาง  ด้วยเห็นแววว่าจะเป็นคนฉลาด ............. พระองค์ก็บอกว่าเคยเจอกันอยู่แล้ว ได้ลูบหน้าลูบหลังด้วยปราณีด้วย จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 11:25:35 ]

ความคิดเห็นที่ 42 สวัสดีคุณหมาป่าดำ นักเรียนนายร้อยไทยยุคนั้นมีเยอะครับ หลายคนหรือหลายพระองค์ก็มีชีวิตอยู่ในประเทศเยอรมนีช่วงสงครามโลกครั้งแรกด้วย ตัวอย่างสมเด็จพระมหิตลาธิเบศรฯ พระบรมราชชนก ก็ยังเคยถูกเยอรมันจับขังคุกด้วยเลย ชมภาค 3 ต่อตอนบ่ายแก่ๆ รอพี่โตมิมาคั่วข้าวโพดแบ่งกันกินด้วยครับ จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 11:30:01 ]

ความคิดเห็นที่ 43 สวัสดีครับ พี่นิค   เมื่อวานไม่ได้ปรับปรุงหน้ารวมห้องสมุดก่อนกลับบ้าน ก็เลยไม่ได้เห็นกระทู้ วันนี้เช้าก็ติดธุระการงาน  เลยเพิ่งเข้ามาทักทายกัน ที่บ้านมีเรื่องเกร็ดเกี่ยวกับ พุ่มสกี้ อยู่ในหนังสือเรื่องจริงในอดีต(มัง) แต่อ่านดูที่พี่โพสต์  ดูเหมือนจะมาจากหนังสือเล่มที่พี่อ้างถึง จะลองกลับไปอ่านดูอีกรอบว่า  มีเกร็ดอะไรที่ต่างออกไปบ้าง แล้วจะคัดมาลงไว้ด้วยกันนะครับ จากคุณ : กัมม์ - [ 11 ก.ค. 50 11:36:01 ]

ความคิดเห็นที่ 44 พี่นิคคะ ขยันโพสต์ดีแท้ วันเดียวไปหลายสิบความเห็น แต่ทำไมรำพึงว่าเวลาตัวเองเหลือน้อยละคะ? "ความคิดเห็นที่ 24   สวัสดีครับทุกท่านที่ติดตามอ่าน ช่วงหลังนี้เวลาผมก็ลดน้อยลงตามลำดับ เลยลงกระทู้แบบตัดแปะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้เขียนเกลาแบบเล่าสู่กันฟัง.....  " เรายังไม่ได้ไป เยือนเมืองสุพรรณฯเลย อย่าเพิ่งหนีหายไปไหนนะคะ จากคุณ : little kitty - [ 11 ก.ค. 50 11:56:18 ]

ความคิดเห็นที่ 45 พูดถึงเรื่อง นายพุ่มสกี้ ดิฉันเลยขอรำลึกความหลังด้วยว่า เริ่มสนใจประวัติศาสตร์รัตนโกสินทร์จากหนังสือ เกิดวังปารุสก์ ของพระองค์จุลฯ นี่ละคะ มาอ่านเรื่องนายพุ่ม ที่นี่เลยหันกลับไปเอา เกิดวังปารุสก์ มาพลิกดูอีกที อ่านแล้วก็ยังชอบอยู่นะคะ  หนังสือของพระองค์ท่าน อีกเล่มที่ดีมากคือ เจ้าชีวิต นะคะ เสียดายที่ไม่ได้มีพิมพ์อีก จากคุณ : little kitty - [ 11 ก.ค. 50 11:59:11 ]

ความคิดเห็นที่ 46 วันนี้คงได้ฤกษ์มาอ่านที่คุณ NickyNick มาลงเสียที(คือรอลงให้หมดก่อนแล้วจะมาอ่านน่ะค่ะ) ในหนังสือที่พิมพ์ครั้งล่าสุดที่ดิฉันซื้อมาตอนงานสัปดาห์หนังสือ จำได้ว่ามีรูปนายพุ่มตอนอยู่ในวัยชราแล้วด้วยค่ะ คือดิฉันเป็นพวกวิหยาสะกำหลงรูปน่ะค่ะ อย่างกรมพระชัยนาทฯนี่ก็หลงรูปพระองค์ตอนโสกันต์(ถ้าพูดแบบสมัยนี้คือท่านเท่ห์มาก) ถึงขนาดเพ้อพกตามไปซื้อหนังสือไปเมืองนอกครั้งแรกฯของท่านมาอ่าน รูปนายพุ่มนี่ก็เหมือนกัน เล่มเก่าที่ดิฉันอ่าน รูปนายพุ่มรุปใหญ่เต็มหน้า แต่ที่พิมพ์ครั้งล่าสุดนี่รูปเล็กนิดเดียว เสียดายค่ะ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : นางพญามารเมฆไฟ - [ 11 ก.ค. 50 12:14:57 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ว่าแต่เชื้อสายของนายพุ่มที่รัสเซีย ยังมีอยู่เปล่าครับ ได้ข่าวว่า แต่งงานกับหญิงรัสเซีย แล้วก็ลงหลักปักฐานอยู่ที่โน่น เป็นทหารม้าของพระเจ้าซาร์ ถ้าหง่าวอ่านมาผิดต้องขออภัยครับ จากคุณ : หง่าวแมน - [ 11 ก.ค. 50 12:49:47 ]

ความคิดเห็นที่ 48 มาอ่านต่อค่ะ..... ยกตู้ข้าวโพดคั่วมาด้วยเลยค่ะ...จะได้รับรองกันทั่วถึง จากคุณ : โตมิโต กูโชว์ดะ - [ 11 ก.ค. 50 13:05:11 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ขอต่อก่อนเลยนะครับ จ๊อบยังไม่มา ถ้ารอจนบ่ายแก่ๆ เดี๋ยวจะไม่ว่างซะอีก อิอิ แล้วก็มีเจ้ามือหอบข้าวโพดคั่วมาเคี้ยวแก้ง่วง ออกมาช้าเดี๋ยวจะหมดซะก่อน สวัสดีครับพี่โตมิ สวัสดีคุณกัมม์ มาช้ายังดีกว่าไม่มาจ้า คุณ little kitty เวลาผมมีน้อยจริงๆ จ๊ะ แต่เหลือไม่น้อยหรอกนะ แล้วก็ไม่อยากรีบหนีหายไปไหนหรอก ผมมีหนังสือเกิดวังปารุสก์ ตอนนั้นกัดฟันซื้อทั้งๆ ที่มันแพงแสนแพง ส่วนเจ้าชีวิตตอนนั้นก็เห็น อยากซื้อเหมือนกันแต่ต้องเลือกเอาอันใดอันหนึ่งก่อน เบี้ยน้อยหอยน้อยจ้ะ  พอนึกได้ว่ามีเงินขึ้นมา จะไปซื้อก็หาไม่ได้ซะแล้ว  ตอนนี้จะหยิบยืมใครอ่านแต่ละทีก็แสนลำบาก ไม่มีใครกล้าให้ยืมครับ จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 13:35:52 ]

ความคิดเห็นที่ 50 นายพุ่มสกี้หรือพุ่ม สาคร คงมิได้แล้วก็ลงหลักปักฐานอยู่ที่รัสเซียดังที่คุณหง่าวแมน # ๔๗ ว่า  แท้จริงแล้ว ศพของนายพุ่ม สาคร ยังคงฝังอยู่ ณ สุสานใกล้บ้านพักเทรเดซี่ ของพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ เมืองบอดมินห์ ประเทศอังกฤษ ข้อความข้างล่างนี้นำมาจากลิ้งก์ซึ่งแสดงไว้ใน # ๑๕ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ ได้เสด็จไปทรงศึกษา ณ ประเทศรัสเซีย ตามคำกราบบังคมทูล ของ พระเจ้าซาร์นิโคลาส แห่งรัสเซีย ซึ่งในขณะนั้นยังทรงเป็นมกุฎราชกุมาร ของ ประเทศรัสเซีย พระองค์ได้เสด็จมาเยี่ยมประเทศไทย โดยทรงได้ทูลขอต่อองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่๕ ว่าพระองค์ได้ส่งพระราชโอรส ไปทรงศึกษา เล่าเรียน ณ ประเทศต่างๆในทวีปยุโรปหลายประเทศแล้ว เช่น ที่อังกฤษ เยอรมัน เดนมาร์ก จึง ขอให้ส่งไปที่ประเทศรัสเซียบ้าง ต่อจากนั้นอีก ๓ปี มกุฎราชกุมาร ของ ประเทศรัสเซีย ทรงได้เป็นพระจักรพรรดิ สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่๕ จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ไปตามนั้น และ ยังได้ทรงขอร้องต่อพระเจ้าซาร์นิโคลาส ขอให้ได้ให้เกียรติ นายพุ่ม สาคร ให้ได้รับความเป็นอยู่ ศึกษา เล่าเรียน ทุกอย่างให้เหมือนกับ สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ เพื่อให้ นายพุ่ม สาคร เป็นเพื่อนเรียน และ มิตรแท้ ของ สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ ในต่างแดนและเพื่อให้เจ้าฟ้าพระองค์นี้ ทรงมีขัตติยมานะเพียรในการเรียนมากยิ่งขั้น สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่๕ เสด็จพร้อมด้วยสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ไปส่ง สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ และนายพุ่ม สาคร โดยเรือพระที่นั่งจักรี(ลำเก่า)ถึงที่ประเทศสิงค์โปร์ ซึ่งในการนั้นเป็นการเสด็จพร้อมด้วยพระราชวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ อาทิ สมเด็จพระราชปิตุลาฯ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ ซึ่งจะเสด็จไปทอดพระเนตรกิจการต่างๆในทวีปยุโรป และได้ทรงรับมอบหมายให้ส่งเสด็จสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ ที่ประเทศรัสเซียด้วย นายพุ่ม สาคร ได้เดินทางออกจากกรุงเทพฯ ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๔๓๙ ไปถึงประเทศรัสเซีย ในปี พ.ศ.๒๔๔๑ ซึ่งทางพระเจ้าซาร์นิโคลาส ได้จัดขบวนนายทหารและคณะมารับที่ชายแดนโดยหัวหน้าเป็นนายพลนายทหารองครักษ์ของพระเจ้าซาร์เลยทีเดียว จากนั้น ได้นำเสด็จไปประทับยังวังฤดูหนาวของพระเจ้าซาร์นิโคลาส ในสมัยนั้นพระเจ้าซาร์นืโคลาส มีกองทัพทหารที่เกรียงไกรมาก อยู่ที่กรุงเซนต์ปีเตอร์เบอร์ก ตั้งแต่นั้น นายพุ่ม สาคร จึงเป็นเสมือนมิตรแท้ และเพื่อนตายของ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ฯ สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ฯ และ นายพุ่ม สาคร ได้เข้าศึกษาในโรงเรียนนายร้อยมหาดเล็ก ซึ่งเป็นสำนักศึกษาที่ใกล้ชิดกับ พระเจ้าซาร์นิโคลาสมากที่สุด ในการเรียนนี้จะต้องมีความมานะพยายามในการเล่าเรียน และ ฝึกอย่างหนัก เพราะจะต้องแข่งกับคนรัสเซียที่เป็นนักเรียนด้วยกันซึ่งเราเสียเปรียบด้านภาษาและความเคยชิน แต่เมื่อผลการเรียนออกมา ผมการสอบไล่ปี พ.ศ.๒๔๔๓ สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ฯ ทรงสอบได้เป็นอันดับ ๒ และนายพุ่ม สาคร ได้เป็นอันดับที่ ๔ ทั้งๆที่สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ฯและนายพุ่ม มักจะต้องไปร่วมงานต่างๆของราชสำนักพระเจ้าซาร์นิโคลาส อยู่เสมอ สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ฯ และ นายพุ่ม จะต้องไปถวายปฏิบัติ กับพระราชมารดาของ พระเจ้าซาร์นิโคลาส และมหาราชินีอเลกซิสด้วย ผลการสอบครั้งสุดท้ายก่อนจะจบจากโรงเรียน สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ฯ สอบได้เป็นที่ ๑ และ นายพุ่ม สาคร สอบได้เป็นที่ ๒ และ ได้รับการบรรจุเข้าเป็น นายร้อยตรีแห่งกรมทหารม้า ฮุสซาร์ นายร้อยตรีพุ่ม สาคร ได้ตามเสด็จ สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กลับมาที่เมืองไทยครั้งแรก เมื่อปีพ.ศ.๒๔๔๖ และได้เข้าประจำการกรมทหารม้ารักษาพระองค์กรุงเทพฯ ได้รับยศ ร้อยตรีทหารม้า จากนั้น ร.ต.พุ่ม สาคร ได้ตามเสด็จ สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กลับไปศึกษาที่ประเทศรัสเซียอีกครั้งเพื่อเข้ารับการศึกษาในโรงเรียนเสนาธิการชั้นสูง และ สำเร็จการศึกษาในปี พ.ศ. ๒๔๔๘ ร.ต.พุ่ม สาคร ได้เข้าประจำการใน กรมทหารม้าฮุสซาร์ อีกครั้งหนึ่ง และ ได้รับยศ พันเอก เป็น พันเอก พุ่ม สาคร แห่ง กรมทหารม้าฮุสซาร์ ที่เป็นที่หนึ่ง และ โด่งดังในด้านการรบยิ่ง พันเอกพุ่ม สาคร ในฐานะนายทหารรัสเซีย ได้ออกรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารสัมพันธมิตร ในสงครามโลกครั้งที่ ๑ ร่วมกับกองทัพเยอรมันจนได้รับชัยชนะในสงครามครั้งนั้น พันเอกพุ่ม สาคร ได้เริ่มเหินห่างจากสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ เมื่อสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ ทรงเข้าพิธีสมรสกับ หม่อมคัทริน เคสนิคสกี้ และแยกทางกับ พ.อ.พุ่ม สาคร เพื่อทรงเสด็จกลับประเทศไทย ซึ่งพ.อ.พุ่ม สาคร จะขออยู่ต่อเพื่อศึกษาภาษาฝรั่งเศส ในการนี้ทางกระทรงกลาโหมของไทยไม่ยอม จึงเกิดการถกเถียงกันอย่างรุนแรงจนทางกระทรวงกลาโหมได้สั่งให้ขังบริเวณ พ.อ.พุ่ม สาคร ในสถานทูตไทย กรุงเซนต์ปีเตอร์เบอกร์ ซึ่งการที่พ.อ.พุ่ม สาคร โดนขังในครั้งนี้ ได้ก่อความเคียดแค้นให้แก่ นายทหารฮุสซาร์เป็นอย่างมาก เพราะถือว่า เป็นการทำให้กรมทหารม้า นี้เสียเกียรติ จึงได้ลักพาตัว พ.อ.พุ่ม สาคร ออกจากสถานทูต จึงทำให้เกิดเรื่องใหญ่โตขึ้น ถึงกับ พ.อ.พุ่ม สาคร ได้เปลี่ยนสัญชาติเป็นรัสเซีย ซึ่งเป็นเหตุทำให้ พ.อ.พุ่ม สาคร หมดทางที่จะกลับประเทศไทยได้อีก จนในปี พ.ศ.๒๔๖๐ ประเทศรัสเซียได้เกิดการปฎิวัติครั้งใหญ่ซึ่งนำทางไปสู่ลัทธิคอมมิวนิสต์ นายทหารรัสเซียถูกปลดออกจากประจำการจำนวนมาก และได้ยอมให้ทหารชั้นผู้น้อยเลือกผู้บังคับบัญชาเอง พันเอกพุ่มสกี้ (เพราะสัญชาติรัสเซียแล้ว) ได้รับ การคัดเลือกจากนายทหารชั้นผู้น้อย ให้เป็นผู้บังคับบัญชาต่อไป แต่เนื่องจากความซื่อสัตย์และจงรักภักดีของ พ.อ.พุ่มสกี้ ที่มีต่อพระเจ้าซาร์นิโคลาสเป็นอันมากจึงไม่ยอมรับตำแหน่งหน้าที่นี้ แล้วถือโอกาสหนีออกจากประเทศรัสเซีย มาเป็น นายพุ่ม สกี้ มาทำงานเป็นเสมียนอยู่ในประเทศฝรั่งเศส และ ต่อมาได้พำนักกับ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ พระโอรสของสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ และได้รับมอบหมายให้เป็นเลขานุการของหม่อมคัทริน เคสนิคสกี้ นายพุ่มสกี้ ได้กลับเมืองไทยอีกครั้งหนึ่ง ภายหลังจากที่ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ได้ทรงเสนอเรื่องขอเปลี่ยนสัญชาติให้ นายพุ่มสกี้ กลับมาเป็นคนไทยอีกครั้งหนึ่งเป็น นายพุ่ม สาคร การจากเมืองไทยไปถึง ๓๓ ปี ทำให้นายพุ่ม สาคร ตื่นตาตื่นใจเป็นอันมากที่ ได้กลับมาเห็น บ้านเกิดเมืองนอนของตนอีก การกลับมาในครั้งนั้น ก็เป็นที่กล่าวขวัญของคนไทยมาก จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้เชิญ และ ขอร้องนายพุ่ม สาคร ให้เป็นอาจารย์สอนในโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ให้ยศพันโททหารประจำกองทัพไทย แต่ว่า นายพุ่ม สาคร ตอบปฎิเสธ ต่อมาจึงได้เดินทางกลับประเทศอังกฤษ พร้อมกับการเสด็จกลับของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ไปพำนักอยู่ที่บ้านพักเทรเดซี่ของ พระพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองบอดมินห์ ประเทศอังกฤษ จนถึงแก่กรรมเมื่ออายุ ๗๐ ปี ขณะที่พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ เสด็จไปที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ศพของนายพุ่ม สาคร ยังคงฝังอยู่ ณ สุสานใกล้บ้าน ของ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ http://www.numtan.com/nineboard/view.php?id=462 http://osknetwork.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1828&postdays=0&postorder=asc&start=30 จากคุณ : เพ็ญชมพู - [ 11 ก.ค. 50 13:36:45 ]

ความคิดเห็นที่ 51 คุณหง่าวอ่านไม่ผิดหรอกครับ เรื่องเชื้อสายของท่าน พอดีต้นฉบับที่ผมมีไม่ได้กล่าวถึงเลย ใครเจอะเจอตรงไหนก็แจ้งด้วยนะครับ ช่วยหง่าวแมนเค้าหน่อย คุณนางพญามารเมฆไฟครับ ผมก็เป็นคนหลงรูปรสกลิ่นเสียงเหมือนกัน ยังชื่นชมกับรูปและหุ่นตัวเองแทบไม่เว้นวัน ส่องกระจกอยู่นั่นแหละ ขนาดหน้าตาพอไปวัดไปวากับเขาได้แค่นั้น  ถ้าสารรูปดีๆ ยังกะพวกนายแบบ คงเฝ้ากระจกทั้งวันแน่นอน ตอนแรกผมกะจะจำกัดปริมาณรูปที่ลงในกระทู้ แต่เมื่อมีคนใจตรงกัน ก็เลยเพิ่มเติมรูปที่เกี่ยวข้องอีกสักหน่อย ไม่เอาใจคุณนางพญาไว้ จะเอาใจใครเล่าครับ ว่าแต่ว่า หนังสือสมเด็จกรมพระยาชัยนาทเล่มนั้น ผมยังไม่เคยเห็นเลย แพงไหมครับ  แล้วก็..... เอ่อ... เล็บมือสวยจัง จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 13:43:58 ]

ความคิดเห็นที่ 52 อิอิ สีใบตองมาพร้อมกันเลย เดี๋ยวผมจะใส่ภาพนายพุ่มใหญ่ๆ อีกหน่อยครับ ขโมยมาจากหนังสือเกิดวังปารุสก์ เห็นข้อความของคุณเพ็ญชมพูที่นำมาจากเว็บดังกล่าว น่าจะลอกมาจากแหล่งเดียวกับผม ลองดูการก็อปแปะ และใส่รูปตามวิธีการของผมครับ ช้าหน่อย อาจไม่ทันใจวัยรุ่นครับ ................. พอดีอ่านหนังสือเล่มเดิม แล้วมีข้อความพระราชหัตถเลขาของพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงที่มีต่อพระยาวิสุทธ หรือเจ้าพระยาพระเสด็จฯ เกี่ยวกับวิกฤตการณ์การรักษาพระราชอาณาเขตครั้งนั้น และน่าสนใจ จึงก็อปมาให้อ่านก่อนครับ น.138   27 ต.ค. รศ.117 เมื่อเรารู้ชัดเจนแล้ว  ว่าถ้าเราจะให้เขตแดนในแหลมมลายูแก่รัสเซียเมื่อใด  แหลมมลายูทั้งหมดคงเป็นของอังกฤษเมื่อนั้น  เหมือนอย่างเมืองพม่า  เราจะไปคิดอ่านอย่างนั้นทำไม  ถ้าจะพูดกันเสียให้ถึงดี  ก็ว่าได้ว่า  ถ้าอังกฤษปิดอำนาจรัสเซียข้างตะวันออกไม่อยู่  นานไปภายหน้านั้นแลว่าไม่ถูก  รัสเซียจะมาเป็นประกันเมืองเราได้  ฤาเอาเมืองเราทีเดียว  ซึ่งจะมีบุญคุณฤาไม่มีบุญคุณติดต่อกัน  ก็ไม่ผิดอันใด  ขอให้พระยาวิสุทธตริตรองให้จงมาก การลงพิมพ์เปล่าๆ เปลือยๆ อย่างเช่นเรื่องนี้  และเรื่องที่ว่าจะไม่ส่งลูกชายเล็กไปรัสเซียเป็นต้น  เป็นความคิดของอังกฤษซึ่งจะให้เราบาดหมางกับรัสเซีย  และจะให้คอเวอนแมนต์รีบเร่งรวบรัดเข้า  ควรที่จะแก้ไขได้  ก็ต้องใช้อุบายแก้ไขลงพิมพ์โต้ทานไว้เสียบ้าง เรามีความหมกมุ่นขุ่นหมองในใจ  ซึ่งจะข้ามล่วงเสียไม่พ้นอย่างหนึ่ง  คือแบบอย่างศาลาว่าการต่างประเทศของเราทุกวันนี้  เหมือนไม่เป็นสิ่งที่มีวิญญาณ  เป็นแต่ผนัง  ซึ่งเมื่อผู้ใดเอาอะไรปาเข้าไป  ก็กระท้อนกลับออกไปได้ทีหนึ่ง  ข้อที่จะนึกขึ้นเองไม่มี  เป็นแต่ปัดอาวุธไปให้พ้นหน้ามื้อหนึ่ง ๆ  เมื่อเป็นอยู่เช่นนี้  ศัตรูก็แรงเกล้า  ไหนเลยจะเอาตัวรอดได้เล่า  การซึ่งเราเป็นเจ้าแผ่นดินด้วย  เป็นเสนาบดีด้วย  เป็นเสมียนด้วยเช่นนี้  ก็เคยเป็นมานานแล้ว  ไม่สู้ท้อถอยนัก  แต่ขออย่าให้เข้าใจว่ายินดีที่จะเป็น  ไม่ยอมละวางให้ผู้ใดทำ จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 13:50:38 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณนะคะสำหรับสิ่งดี ๆ ที่นำมาแบ่งปันกัน จากคุณ : เจ้าแก้มป่อง - [ 11 ก.ค. 50 13:58:57 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ขอต่อภาค 3 เลยครับ ลอกมาจากเกิดวังปารุสก์เช่นกัน เป็นการกลับบ้านครั้งที่สองของพระองค์จุล และเป็นการกลับบ้านครั้งที่ 2 ในรอบ 33 ปีของนายพุ่มด้วย แล้วก็เป็นการกลับบ้านเกิดครั้งสุดท้ายของท่านด้วยเช่นกัน ........... ......เราออกเดินทางโดยเรือราชปูตานา (Rajputana) ของบริษัทอังกฤษ พี.แอนด์.โอ (P.&O.)  ออกจากเมืองมาเซยเมื่อวันที่ 16 ตลาคม  มีบานเย็นตามไปด้วย  กับยังมี  นายพุ่ม เพื่อนนักเรียนเก่าของพ่อที่ได้เปลี่ยนสัญชาติเป็นรุสเซีย  แทนที่กลับเมืองไทย  กลับเข้าประจำการในกองทัพรุสเซียจนได้เป็นพันเอก  แต่ภายหลังต้องหนีจากคอมมูนิสต์ในรุสเซียไปหากินเป็นเสมียนธนาคารที่ในฝรั่งเศส  ภายหลังข้าพเจ้าได้เอามาอยู่ด้วย  ภายในอุปถัมภ์ของข้าพเจ้าให้เป็นเลขานุการของแม่  ทั้งข้าพเจ้ายังได้จัดการขอสัญชาติไทยคืนให้ได้  ข้าพเจ้าลองถามดูเพราะเห็นว่าจากเมืองไทยไปตั้ง 33 ปี ว่า  ไม่อยากไปเห็นเมืองไทยอีกหรือ  เขาบอกว่า  อยากไปมาก  ข้าพเจ้าก็เลยช่วยออกเงินให้ตามมาด้วย ต่อจากนั้นยังได้ชวนเพื่อนอังกฤษไปด้วยอีกคนหนึ่ง คือ  ยอร์ช ปินนีย์ (George Pinney) .............. ผู้แต่งและพีระ ถ่ายที่สิงคโปร์ร่วมกับผู้ติดตาม จากซ้าย - นายพุ่ม สาคร - ไม่ทราบชื่อ - ยอร์ช ปินนีย์ - บานเย็น สายัณวิกสิต จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 14:00:50 ]

ความคิดเห็นที่ 55 สวัสดีครับ คุณหมวยแก้มป่อง ยินดีรับคำชมครับ ชอบมากๆๆๆ .....พุ่มนั้น  ทั้งแม่และข้าพเจ้าบอกว่า  ถ้าอยากจะอยู่กรุงเทพฯ ก็ได้  เข้าใจว่าหลวงพิบูลฯ (จอมพล ป. พิบูลสงคราม) ได้ลองทาบทามว่า  อยากจะเข้าเป็นทหารอีกหรือไม่  เพราถ้าเช่นนั้นจะใช้เป็นอาจารย์  พุ่มตอบว่า  ถ้าเข้าก็ต้องเป็นพันเอกเท่ากับที่เคยเป็นในกองทัพรุสเซีย  ทางไทยน่าจะเห็นว่าเกินไป  พุ่มจึงบอกข้าพเจ้าว่า อยากจะไปรับใช้แม่อยู่อย่างเดิม ...... ผู้คนมารับผู้แต่ง และพีระที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 14:03:07 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ผู้แต่งและพีระ ในชุดทหารที่สถานีรถไฟปาดังเบซาร์ จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 14:04:18 ]

ความคิดเห็นที่ 57 นายพุ่ม สาคร ผู้จากเมืองไทยไปกว่า 33 ปี ก็มากรุงเทพฯ ในครั้งนี้ด้วย จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 14:05:05 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ผู้แต่งและพีระ เมื่อไปนมัสการพระแก้วมรกต และไปสักการะพระบรมรูปบูรพมหากษัตริยาธิราชที่ปราสาทพระเทพบิดร ............... ประกาศให้ทราบ วันนี้ได้ความรู้ใหม่ วิธีกู้ คห.ที่ถูกลบไปโดยอัตโนมัติ จากการติดตามอ่านกระทู้สุนทรภู่ของคุณเพ็ญชมพู http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K5652257/K5652257.html#111 บอกวิธีขอกู้คืนได้ง่าย และไวด้วย โดยส่งเมล์ไปที่ vorapoat@pantip.com ก็เลยขอกู้ในกระทู้นี้บ้างคือ คห. 58, 116, 123, 174, 221, 222, 224, 227 ก็ได้อย่างใจ คราวนี้หากใครอ่านข้อความใน คห.ช่วงนั้นๆ แล้วงง เพราะซ้ำมาซ้ำไป ก็ขออภัยด้วย 3 ส.ค.50 แก้ไขเมื่อ 03 ส.ค. 50 13:33:39 จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 14:06:21 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ผู้แต่งและคณะ ขณะไปไหว้พระแก้วมรกต แถวหลังจากซ้าย - บานเย็น - นายพุ่ม - ยอร์ช ปินนีย์ - พิศดาร จุลเสวก จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 14:07:42 ]

ความคิดเห็นที่ 60 หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์มาต้อนรับผู้แต่ง ขวาสุดคือนายพุ่ม ซึ่งเคยเป็นศิษย์เก่าเทพศิรินทร์เหมือนกัน พระองค์จุลเขียนทุกครั้ง ก็บอกว่านายพุ่มเป็นศิษย์เก่าเทพศิรินทร์ครับ นายพุ่มคงจะต้องทูลพระองค์อย่างนั้น จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 14:09:56 ]

ความคิดเห็นที่ 61 สมเด็จย่าใหญ่ทรงมีพระปฏิสันถารกับผู้แต่ง ในภาพมีเจ้านายตามเสด็จครั้งนั้น จากซ้าย - เจ้าจอมมารดาอ่อน - พระองค์อดิศัย - พระองค์อาทรกำลังทรงมีพระดำรัสกับพีระ - เสด็จอารังสิต - เสด็จพระองค์วาปี เสด็จอารังสิต คือพระองค์เดียวกับชายในฝันของคุณนางพญามารเมฆไฟ คห.46 ครับ จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 14:12:17 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ผู้แต่งและพระองค์อาทิตย์ ในงานวันเปิดสโมสรนักเรียนเก่าโรงเรียนเทพศิรินทร์ ที่ถนนราชดำริ จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 14:13:30 ]

ความคิดเห็นที่ 63 หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ถวายการต้อนรับพระองค์อาทิตย์ ซึ่งมาเป็นประธานในวันเปิดสโมสรนักเรียนเก่าโรงเรียนเทพศิรินทร์ ที่ถนนราชดำริ จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 14:14:31 ]

ความคิดเห็นที่ 64 - เสด็จปู่นริศ - ท่านสกลฯ - และพระองค์อาทิตย์ เสด็จมาส่งที่สถานีรถไฟจิตรลดา วันกลับยุโรป จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 14:15:47 ]

ความคิดเห็นที่ 65 บทส่งท้าย นายพุ่ม  สาคร  เกิดประมาณ พ.ศ.2426 หลังจากจบการศึกษาที่โรงเรียนเทพศิรินทร์แล้ว  สอบแข่งขันได้ทุนเล่าเรียนหลวง  โดยรัชกาลที่ 5 ทรงเลือกให้เป็นผู้ตามเสด็จสมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ ไปศึกษาวิชาการทหารที่ประเทศรัสเซียในปี พ.ศ.2441 ภายหลังได้รับสัญญาบัตรแล้วเข้าเป็นนายทหารม้าฮุสซาร์ของพระจักรพรรดิซาร์ นิโคลาสที่ 2 จากนั้นได้ศึกษาต่อในโรงเรียนเสนาธิการ 2 ปี หลังจากจบการศึกษาแล้ว  รับราชการทหารที่รัสเซียจนมียศเป็นพันเอก ได้โอนสัญชาติเป็นรัสเซียและเปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสต์ ลัทธิออโธดอกซ์  โดยมีนามในศาสนาว่า  นิโคลาส เมื่อรัสเซียมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นคอมมิวนิสต์ในปี พ.ศ.2447  ได้อพยพมาอยู่ในฝรั่งเศส  ทำงานเป็นเสมียนธนาคาร จนกระทั่งพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ได้ทรงชวนมาเป็นเลขานุการประจำตัวหม่อมคัทริน ถึงแก่กรรมที่บ้านเทรเดซี  ประเทศอังกฤษ  เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน  พ.ศ.2490 .......................... บ้านเทรเดซี Tredethy house http://www.siamsewana.org/phpBB2/viewtopic.php?t=119 จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 14:19:36 ]

ความคิดเห็นที่ 66 จากเว็บข้างบน ก็เลยตามไปเจอข้อเขียนของเจ้าของบทความ ........ ด้วยความที่ชอบประวัติศาสตร์ของไทยเป็นการส่วนตัว เเล้วเคยอาจผลงานเขียนของพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ก็ทราบว่าท่านเคยประทับอยู่ที่ Cornwall ใกล้กับเมือง Bodmin ตอนเช้าเราเลยจะลองเเวะไปดูวังเก่าของพระองค์ท่านนะครับ บ้านหลังนี้ชื่อว่า Tredethy house พระองค์จุล ประทับอยู่ที่นี้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง จนกระทั้งบั้นปลายชีวิตของพระองค์ท่านนะครับ ตอนนี้บ้านหลังดังกล่าวได้ถูกเปลี่ยนมือไป เจ้าของบ้านคนปัจจุบันพยายามรักษาสภาพเดิมไว้นะครับ วันนั้นสังเกตจากประตูบ้านดูเก่ามาก ตอนนี้บ้านได้ปรับเปลี่ยนเป็นโรงเเรมขนาดเล็กนะครับ รูปข้างล่างเป็นรูปด้านหน้าบ้านครับเอามาจากเว็บของ http://www.tredethyhouse.co.uk/ จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 14:45:23 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เมือง Cornwall ที่บ้านเทรเดซีตั้งอยู่ จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 14:46:29 ]

ความคิดเห็นที่ 68 คห.58 ถูกออโต้ดีลีทไปหนึ่ง แต่ไม่มีความสำคัญอะไรนัก จบแล้วครับ ขอบพระคุณทุกท่านที่ร่วมติดตามอ่าน รอการคอมเมนท์ และเรื่องราวต่อเนื่องจากทุกท่าน แถมให้ครับ ตอนนั้นพยายามหาภาพบ้านเทรเดซีจากหนังสือ แต่ก็ไม่เจอ ไปเจอบ้านหลังหนึ่งของหม่อมคัทรินที่พระองค์จุลทรงซื้อให้แม่ ตอนแรกคิดว่าเป็นบ้านหลังนี้ แต่ไม่ใช่ เพราะบ้านอยู่ฝรั่งเศส จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 14:52:53 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณเรื่องราวดีดีสนุกสนุก ครับ พี่นิค ขออนุญาตโพสรูปสมเด็จฯ เสด็จรัสเซีย ตามที่พี่นิคเชิญชวนไว้ในความเห็น 24 ดีกว่า รูป:มติชน แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 50 15:57:38 แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 50 15:56:06 แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 50 15:12:28 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 15:12:01 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ทูลกระหม่อมทั้งสอง ส่งเสด็จถึงประตูเครื่อง รูป: Post Today แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 50 15:58:16 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 15:13:29 ]

ความคิดเห็นที่ 71 เสด็จถึงรัสเซีย ที่สนามบิน Vnuvoko จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 15:15:18 ]

ความคิดเห็นที่ 72 รอยพระบาทแรกบนแผ่นดินรัสเซีย จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 15:16:14 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ทรงรับการถวายความเคารพ จากกองทหารเกียรติยศรัสเซีย [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 15:18:24 ]

ความคิดเห็นที่ 74 เสด็จไปวางพวงมาลาที่อนุสรณ์สถานทหารนิรนาม จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 15:20:28 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ทอดพระเนตรการสวนสนาม รูป: ข่าวสด แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 50 15:58:56 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 15:22:10 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ทอดพระเนตรโบสถ์ต่างๆ ใน Cathedral Square แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 50 15:24:25 จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 15:24:03 ]

ความคิดเห็นที่ 77 เปลี่ยนเป็นรูปนี้ดีกว่า รูป: มติชน แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 50 15:59:45 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 15:25:04 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ทอดพระเนตรภายใน Cathedral จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 15:26:40 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ทรงพระดำเนินใน "จตุรัสแดง" จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 15:27:57 ]

ความคิดเห็นที่ 80 หยุดประทับทอดพระเนตรสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่อยู่รอบๆ "จตุรัสแดง" รูป 80-81: ข่าวสด แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 50 16:00:42 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 15:30:34 ]

ความคิดเห็นที่ 81 หน้า St. Basil [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 15:32:25 ]

ความคิดเห็นที่ 82 วันที่ 04-07 เสด็จไปชม Tretyakov Art Gallery [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 15:33:57 ]

ความคิดเห็นที่ 83 Tretyakov Art Gallery จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 15:35:49 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ขอบคุณคุณรวียศอีกรอบ ขอจิ๊กภาพเหล่านี้เก็บไว้ชมเงียบๆ ด้วยนะครับ พบกันพรุ่งนี้นะครับทุกท่าน ราตรีสวัสดิ์ครับ จากคุณ : NickyNick - [ 11 ก.ค. 50 15:41:42 ]

ความคิดเห็นที่ 85 งานถวายเลี้ยงพระกระยาหารค่ำ ที่พระราชวัง Kremlin ประธานาธิบดีแห่งรัสเซีย ถวายการต้อนรับ ณ St.George Hall จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 15:41:58 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ฉายพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ คู่กับ ประธานาธิบดีแห่งรัสเซีย รูป: ผู้จัดการ แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 50 16:03:17 จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 15:44:27 ]

ความคิดเห็นที่ 87 State Banquet ณ Alexander Hall (รูปนี้จาก กระทรวงตางประเทศแห่งราชาอาณาจักรไทย ... จะเห็นว่าเล็ก และมีรูปเดียว) จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 15:50:37 ]

ความคิดเห็นที่ 88 งาม ศิลป์แผ่นดินสยาม ณ Malachite Hall เรือพระที่นั่งศรีสุพรรณหงส์จำลอง - ผมคิดว่าน่าจะเป็นลำที่สร้างใหม่ล่าสุดหรือเปล่า เพราะลำที่เคยเห็นในงานศิลป์แผ่นดินครั้งก่อน ไม่ใหญ่เท่านี้ รูป: ผู้จัดการ แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 50 16:17:42 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 15:55:14 ]

ความคิดเห็นที่ 89 สวัสดีค่ะคุณNickyNick หนังสือเรื่องไปเมืองนอกครั้งแรก ร.ศ.118 ดิฉันไปเจอเข้าโดยบังเอิญตอนงานหนังสือของเครืออัมรินทร์ค่ะ จำได้ว่าพอเห็นปุ๊ปรีบตะครุบปั๊บชนิดไม่ต้องคิดเลยค่ะเพราะชอบ(หลง)พระองค์ท่านอยู่แล้ว ยิ่งได้อ่านดิฉันยิ่งอึ้งค่ะ เพราะหนังสือเล่มนี้พระองค์ท่านแต่งขึ้นจากความทรงจำของพระองค์ท่านล้วนๆค่ะตอนติดคุกที่เรือนจำ ซึ่งไม่มีหนังสือประกอบใดๆทั้งสิ้น แต่ท่านกลับสามารถเล่าเรื่องราวได้อย่างละเอียดเชียวค่ะ (ท่านเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นเป็นเรื่องราวที่เขียนให้ท่านหญิงพระธิดาองค์เล็กค่ะ) แล้วก็นั่งร้องไห้น้ำตาเป็นเผาเตาเพราะสงสารในพระชะตาชีวิตของท่านเหลือเกิน อ่านแล้วพาลโกรธพวกลูกหลานคนในตระกูลของคนที่ทำกับท่านไปเลยค่ะ ทั้งซาบซึ้งความรักที่หม่อมมีให้ท่านมากๆ แม้ตกระกำลำบากหม่อมก็ยังเข้มแข็ง และสามารถรับมือกับพวกผู้หวังดี(ประสงค์ร้าย)ได้อย่างน่าชื่นชมเชียวค่ะ หนังสือเล่มนี้จำได้ว่าซื้อมาตอนพิมพ์ครั้งแรก แล้วซื้อตอนจัดงาน 1200 บาทค่ะคุณNickyNick ตอนนี้กำลังอยากได้หนังสือวังบางขุนพรหมมากๆค่ะ งานสัปดาห์หนังสือสิ้นปีนี้ไม่รู้ราคาจะขึ้นอีกไหม ต้าย...แอบเห็นเล็บมือด้วยนะคะ อิอิ แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 50 16:24:31 จากคุณ : นางพญามารเมฆไฟ - [ 11 ก.ค. 50 16:01:04 ]

ความคิดเห็นที่ 90 สุวรรณเภตรา สำเภาแห่งพระมหาชนก รูป: ผู้จัดการ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 16:25:19 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ทรงพระราชทานพระราชอรรถาธิบายเกี่ยวกับ ขันสาครถมทอง ลายมงคลร้อยแปด จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 16:28:50 ]

ความคิดเห็นที่ 92 วันที่ 06-07 เสด็จต่อไปยัง นคร St. Petersburg ผู้ว่าการนคร ถวายการต้อนรับ ณ Pulkovo Airport รูป: กระทรวงต่างประเทศ จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 16:32:07 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ทรงวางกระเช้าดอกไม้ ณ Memorial to Heroic Defenders of Leningrad รูป: Yahoo news [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 16:33:56 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ลงพระนามาธิไธยในสมุดเยี่ยม รูป: Yahoo news แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 50 16:36:38 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 16:35:15 ]

ความคิดเห็นที่ 95 วันที่ 070707 ทอดพระเนตรความงามของพระราชวัง Peterhof รูป: กระทรวงต่างประเทศ จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 16:38:50 ]

ความคิดเห็นที่ 96 White Hall ส่วนหนึ่งในที่ประทับเมื่อครั้งพระพุทธเจ้าหลวงเสด็จรัสเซีย จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 16:39:44 ]

ความคิดเห็นที่ 97 "ผู้ว่าการนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก นำเสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่ห้องโถงท้องพระโรง (Throne Hall) ซึ่งเป็นสถานที่จัดถวายเลี้ยงพระกระยาหารค่ำนางวาเลนตินา มัทวิเยนโก กราบบังคมทูลแสดงความปลื้มปิติที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จฯ เยือนนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กครั้งนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเคยเสด็จพระราชดำเนินเยือน (ต้นเดือนกรกฎาคม) ทางนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ได้เตรียมการถวายพระกระยาหารค่ำวันนี้ ในลักษณะเดียวกับที่เคยจัดถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทั้งรายการพระกระยาหาร ดนตรี เครื่องใช้บนโต๊ะเสวย การแต่งกายของบริกร แม้กระทั่งที่ตั้งพระเก้าอี้ ก็เป็นจุดเดียวกับที่จัดถวายเมื่อ ๑๑๐ ปีมาแล้ว" รูปและข้อความ: กระทรวงต่างประเทศ จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 16:41:22 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ทรงวางพวงมาลา ณ ที่ฝังพระบรมศพพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ ๒ พระสหายในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว   รูปและข้อความ: กระทรวงต่างประเทศ จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 16:44:12 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ทอดพระเนตรเรือรบหลวงออโรรา ซึ่งเคยเดินทางมาสยามเมื่อปี ๒๔๖๐ครั้งหนึ่ง เพื่อเข้าร่วมในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ภายในเรือจึงมีสิ่งของพระราชทานในรัชกาลที่ ๖ เก็บรักษาอยู่ด้วย รูป: กระทรวงต่างประเทศ จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 16:48:59 ]

ความคิดเห็นที่ 100 และในการนี้ สมเด็จพระนางเจ้าทรงพระราชทานโถถมทองเป็นของที่ระลึกอีกสิ่งหนึ่งด้วย รูป: มติชน (ถ้าจำไม่ผิด) จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 16:50:04 ]

ความคิดเห็นที่ 101 เสด็จ The Hermitage Fine Art Museum รูป: Yahoo News [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 16:52:16 ]

ความคิดเห็นที่ 102 สิ่งที่น่าสนใจที่ทางพิพิธภัณฑ์นำมาถวายให้ทอดพระเนตรชุดหนึ่ง คือ เชิงเทียนคู่รูปหงส์และพานแว่นฟ้า ๒ ชั้นรูปหงส์  ซึ่งเป็นของที่ระลึกพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ แก่พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ ๒ เมื่อครั้งที่ทรงดำรงพระอิสริยยศมกุฎราชกุมารรัสเซียและเสด็จฯ ไปเยือนสยามเมื่อปี ๒๔๓๔ รูปและข้อความ: กระทรวงต่างประเทศ จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 16:55:16 ]

ความคิดเห็นที่ 103 มหาวิทยาลัยแห่งนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาภาษาและวัฒนธรรมตะวันออก ในการนี้ได้ทรงพระราชทาน คนโทถมทอง ไว้เป็นที่ระลึกแด่มหาวิทยาลัย [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 16:58:34 ]

ความคิดเห็นที่ 104 เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตร The Kunstcamera museum ซึ่งทางพิพิธภัณฑ์ได้นำสิ่งของรัชกาลที่ 5 พระราชทานแด่ พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ ๒ ได้แก่ พระบรมฉายาลักษณ์รัชการที่ 5 สมเด็จพระศรีสวรินทิราฯ อัลบัมภาพการเสด็จเยือนสยาม พระแสงดาบเศียรนาค พระแสงกริช พระฉายประดับตรา จปร. และ พระแสงอีกองค์ ที่ข่าวในพระราชสำนักเรียกว่า "พระแสงหัวช้าง" แต่ผมแอบไม่แน่ใจว่าเรียกอย่างนั้นจริงๆหรือครับ วานผู้รู้ช่วยด้วย ผมว่าไม่ดูในข่าวก็ไม่เห็นหัวช้างตรงไหน จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 17:05:46 ]

ความคิดเห็นที่ 105 เพิ้งมีโอกาสเข้ามาดูครับ มีเหตุขัดข้องที่เครื่องคอมพิวเตอร์ครับ เรื่องโรงเรียนเก่าของนายพุ่ม ที่กล่าวถึงในความเห็นที่ ๑๕ และ ๑๙ นั้น ขอเรียนชี้แจงว่า เมื่อนายพุ่มตามเสด็จทูลกระหม่อมจักรพงาออกไปเรียนที่อังกฤษก่อนจะไปศึกษาต่อที่ประเทศรัสเซียนั้น โรงเรียนในเมืองไทยที่สอนถึงชั้นมัธยมนั้นมีอยู่แไม่กี่โรงเรียนหรอกครับ และที่เน้นสอนนักเรียนให้สอบชิงทุนเล่าเรียนหลวงที่เรียกว่า King's Scholarship นั้นมีอยู่เพียงโรงเรียนเดียว คือ โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ ส่วนโรงเรียนราชวิทยาลัย หรือ King's College ซึ่งเน้นการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษก็เพิ่งเปิดสอนเมื่อกลางปี ๒๔๓๙ จึงยังไม่มีนักเรียนที่จะอกไปเรียนต่างประเทศได้ ข้างฝ่ายโรงเรียนเทพศิรินทร์ในเวลานั้นยังเป็นโรงเรียนฝึกหัดอาจารย์ ซึ่งเป็นโรงเรียนฝึกหัดอาจารย์แห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทยในเวลานั้น โปรดสังเกตว่า เป็นโรงเรียนฝึกหัดอาจารย์ไม่ใช่โรงเรียนฝึกหัดครู โรงเรียนฝึกหัดอาจารย์นั้นมุ่งผลิตนักเรียยนออกไปเป็นครูสอนชั้นมัธยม ในสมัยรัชกาลที่ ๖ เมื่อเสด็จฯ ทรงวางศิลาพระฤหษ์โรงเรียนข้าราชการพลเรือน (จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) ได้โปรดพระราชทานเข็ม "คุรุบัณฑิต" ให้แก่ผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนฝึกหัดอาจารย์ที่ได้ออกไปเป็นครูแล้วไม่น้อยกว่า ๓ ปี ทุกคร หลักสูตรของโรงเรียนฝึกหัดอาจารย์จึงเทียบเท่า อนุปริญญา เมื่อนำประสบการณ์การทำงาน ๓ ปี มาเสนอจึงจะได้เป็น บัณฑิต ดังนั้นจึงไม่น่าเป็นไปได้ที่นายพุ่มสกี้จะเป็นนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ จากคุณ : V_Mee (V_Mee) - [ 11 ก.ค. 50 17:24:14 ]

ความคิดเห็นที่ 106 โพสพอสังเขปนะครับ ครบทุกวันเท่านี่ผมมี และครบเกือบทุกที่ที่เสด็จ จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 17:24:31 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ทอดพระเนตรเรือรบหลวงออโรรา ซึ่งเคยเดินทางมาสยามเมื่อปี ๒๔๖๐ครั้งหนึ่ง เพื่อเข้าร่วมในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ปี พ.ศ. ที่อ้างถึงข้างต้นนั้นผิดอย่างไม่น่าให้อภัย  ที่ถูกต้อง คือ การพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภช เมื่อเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม ๒๔๕๔ (ค.ศ. ๑๙๑๑)  ผู้แทนพระราชาธิบดีรัสเซีย คือ แกรนด์ดุ๊ก บอริส ส่วนปี พ.ศ. ๒๔๖๐ นั้น อยู่ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๑  และเป็นช่วงที่เกิดการปฏิวัติในรัสเซีย  ซึ่งมีการยึดอำนาจจากพระเจ้าซาร์นิโคลาสที่ ๒ แล้ว  จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีผู้แทนรัสเซียเดินทางมาประเทศไทย จากคุณ : V_Mee (V_Mee) - [ 11 ก.ค. 50 17:29:18 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ขอโทษคุณ V_Mee นะครับ ผม copy มาจากที่นี่อ่ะครับ ขอบคุณที่แก้ไขให้ถูกต้องนะครับ http://www.mfa.go.th/web/200.php?id=18218 จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 50 17:34:24 ]

ความคิดเห็นที่ 109 จากความคิดเห็น 104 ... "เมื่อเสด็จฯ ถึงพิพิธภัณฑ์ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์เฝ้าฯ รับเสด็จ และนำทอดพระเนตรห้องแสดงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาติพันธุ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะสิ่งของที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานแก่พระเจ้าซาร์นิโคลาสที่ ๒ เมื่อครั้งยังดำรงพระยศเป็นมกุฎราชกุมารรัสเซีย คือ พระแสงดาบแบบไทย  พระแสงกริช  พระฉายประทับตราพระปรมาภิไธยย่อ จปร.  และอัลบั้มภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ ๒  แห่งรัสเซีย  ครั้งที่เสด็จฯเยือนประเทศไทยเมื่อยังทรงเป็นมกุฎราชกุมาร ในปี พ.ศ. ๒๔๓๔" รูปและข้อความ: http://www.mfa.go.th/web/39.php?id=20757 จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 12 ก.ค. 50 09:49:07 ]

ความคิดเห็นที่ 110 วันที่ 10 ก.ค. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ  เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรมหาวิหารเซนต์ไอแซค (St. Isaac’s  Cathedral) รูป: กระทรวงการต่างประเทศ จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 12 ก.ค. 50 09:51:07 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ตามอ่านอย่างสงบเรียบร้อยตั้งแต่วันแรกแล้วค่ะ ไม่ได้ขัดจังหวะอะไร เพราะเห็นคุณนิคกำลังเพลินกับการโพสต์ ก็เลยอ่านรวดดียวจบ ชะตากรรมของราชวงศ์โรมานอฟ ถือว่าเหตุการณ์ที่หดหู่และน่าสะเทือนขวัญที่สุดนะคะ หลังจากที่กลุ่มบอลเชวิคกระทำการปฏิวัติรัสเซียได้สำเร็จ ข่าวคราวความน่าสพรึงกลัวของการโค่นล้มระบบศักดินาทั้งในรัสเซียและฝรั่งเศสจึงเป็นเรื่องที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดสำหรับเจ้านายในหลายประเทศในขณะนั้น ซึ่งก็แน่นอนว่า  สมเด็จพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ซึ่งเป็นพระสหายสนิทของพระพุทธเจ้าหลวงต้องมาประสบชะตากรรมเช่นนั้น   ย่อมสร้างความสลดหดหดหู่ให้กับ ญาติสนิทมิตรสหายของพระองค์อย่างที่เปรียบมิได้ ถ้าเป็นไปได้ เรื่องต่อไปขอเป็นน พระราชนิพนท์ "ไกลบ้าน"นะคะ อารมณ์ของพระราชนิพนท์เล่มนี้ คงจะคล้ายๆกับเป็น After chock ของเหตุการณ์ปฏิวัติรัสเซียในบางมุมมองของยุคสมัยนั้นนะคะ จากคุณ : กาสะลองบานแล้ว - [ 12 ก.ค. 50 10:14:29 ]

ความคิดเห็นที่ 112 อ่านที่คุณ V_Mee ว่าไว้ใน # ๑๐๕ ก็ออกจะคล้อยตามอยู่ แต่มีข้อความหนึ่งซึ่งสงสัยว่าถูกต้องหรือไม่ เมื่อนายพุ่มตามเสด็จทูลกระหม่อมจักรพงาออกไปเรียนที่อังกฤษก่อนจะไปศึกษาต่อที่ประเทศรัสเซียนั้น คุณ  V_Mee  หมายความอย่างนั้นจริงหรือ จริง ๆ แล้วมีอดีตนายกรัฐมนตรีถึง ๒ คนที่เคยเป็นศิษย์เก่าทั้งสวนกุหลาบและเทพศิรินทร์คือนายทวี บุณยเกตุ และหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช  นายพุ่มสกี้อาจเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นศิษย์เก่าของทั้ง ๒ โรงเรียนก็เป็นได้ จากคุณ : เพ็ญชมพู - [ 12 ก.ค. 50 10:41:39 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ขอบคุณมากครับคุณรวียศ แล้วก็ต้องเตรียมคำขอบคุณไว้อีกหลายๆ รอบ ถือว่าเป็นการเก็บตกภาพเสด็จพระราชดำเนินเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสรับชมข่าวในพระราชสำนักช่วง 2 ทุ่ม และผู้ที่ต้องการเติมเต็มให้อิ่มหนำสำราญขึ้นอีก คุณรวียศมีปัญหาสอบถามเล็กน้อยในรายละเอียดภาพต่างๆ ใครพอจะร่วมอธิบายหรือเฉลยได้ ขอขอบพระคุณแทนคุณรวียศด้วยเป็นอย่างสูง ที่ผมเข้ามาช้าวันนี้ ก็เพราะมีปัญหาไอ้ตัวดูดเกิดเดี้ยงซะก่อน จะเอารูปภาพหนังสือที่ก็อปไว้ในอีกคอมหนึ่ง ชื่อหนังสือ การเสด็จพระราชดำเนินของมกุฎราชกุมารแห่งรัสเซีย ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ชื่อยาวเหยียดเลยครับ พิมพ์โดยกรมศิลปากรเมื่อปี 2546 รูปเล่มสวยงาม คงทนแข็งแรงชัวร์ ราคาถูก ซื้อราคาลด 20% งานหนังสือตอนนั้นเหลือ 90 บาท ไม่รู้ตอนนี้จะยังมีอีกรึเปล่า ข้างในมีรูปเก่าๆ เยอะ อย่าอิจฉาผมนะครับ ผมนิยมแต่หนังสือราคาถูกครับ เล่มแพงๆ อยากได้ก็อยาก แต่ท้องต้องอิ่มด้วย เป็นหนังสือที่คุณ V_Mee กล่าวถึงใน คห.107 ข้อความคุณรวียศกล่าวใน คห.99 ยังไงก็ให้อภัยน้องชายผมหน่อยนะครับคุณพี่  โพสต์เยอะหลายรูป และข้อมูลเยอะ ก็ผิดพลาดกันบ้าง แต่ถ้าผมผิดเองตรงไหน ก็บอกได้ด้วยเช่นกันครับ จากคุณ : NickyNick - [ 12 ก.ค. 50 10:45:54 ]

ความคิดเห็นที่ 114 ขอบคุณครับพี่นิค คิดว่ารูปน่าจะใกล้หมดแล้ว วันหลังๆรูปน้อย หาไม่ค่อยได้เลยครับ ตอนนี้เลยต้องรอแต่ของกระทรวง ซึ่งก็น่าจะเหลือแค่ช่วงเสด็จออกจากรัสเซีย ---------------------------------------------------------- เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งไปยังพระราชวังของสมเด็จพระจักรพรรดินี แคเธอรีนที่ ๒ มหาราชินี  ณ เมืองซาร์สโกเย เซโล รูป: กระทรวงการต่างประเทศ คิดว่ารูปนี้น่าจะออกข่าวเย็นวันนี้ 12-07 ครับ จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 12 ก.ค. 50 11:03:44 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ขอบคุณคุณนางพญามากครับ หนังสือเรื่องไปเมืองนอกครั้งแรก ร.ศ.118  ราคาแค่ 1200 บาท ชะอุ้ย แพงจัง แต่ของดีราคาถูกคงไม่มีหรอก ก็ได้แต่ฝันค้าง หยิบยืมใครก็คงจะยาก ห้องสมุดใหญ่ๆ ใกล้ๆ ที่จะไปนั่งอ่านอย่างสบายใจก็ไม่มี ผมอ่านเล่มไหนก็ซึ้งทุกเล่มไปหมดเหมือนกันครับ บางทีเรื่องแบบเดียวกัน แต่อ่านจากหลายคน หลายความคิด ต่างกรรมต่างวาระ หรือกรรมเดียวกัน วาระเดียวกัน แต่คนได้ประโยชน์ หรือเสียประโยชน์ (แบ่งตามความคิดตื้นๆ ของเราเองนะ) เขียนตามประสบการณ์ตรงของตัวเอง  ก็ทำให้ผมอินไปทุกบทความ  เชื่อไปหมด กลับมาคิดว่า ผู้เขียนเป็นพระเอกหมด แต่พอคนอื่นเขียน กลับเป็นพระรอง หรือผู้ร้ายไปเสียแล้ว  ตอนหลังเลยต้องหาอ่านเยอะๆ หลายๆ คน จะพยายามอ่านแล้วคิดเอง  จะไม่ค่อยเชื่อใครนัก แม้คนๆ นั้นจะเป็นคนที่เราคิดว่าดีเลิศเรอเพียงใดก็ตาม หนังสือวังบางขุนพรหม ของกระทรวงการคลังพิมพ์ใช่ป่าวครับ เล่มนี้ก็อยากได้ มีหนังสือออกใหม่อีกหลายเล่มครับที่อยากได้มากๆ แล้วก็มีรูปเยอะ เป็นรูปไม่ค่อยได้เห็นมาก่อน อย่างของอาจารย์ไกรฤกษ์ นานา แต่บางเล่มใหญ่ไปหน่อย เก็บยากครับ จากคุณ : NickyNick - [ 12 ก.ค. 50 11:08:05 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ขอบคุณครับคุณกาสะลองบานแล้ว ไม่ต้องเงียบเชียบขนาดนี้ก็ได้ ส่งเสียงมาได้เลย จะเพิ่มเสริมเติมต่อตัดแต่งตรงไหนก็ได้ทันทีทันควันเลยครับ ไม่ต้องเกรงใจ เพราะเราส่งข้อความโดยวิธีนี้ ไม่ได้รู้ใจกันหมดทุกคนหรอก แต่ถือว่าโชคดีที่คุณกาสะลองรู้ใจผมแล้วล่ะ อิอิ การปฏิวัติรัสเซียสมัยนั้น ส่งผลต่อความรู้สึกกับราชสำนักไทยสมัยนั้นมาก เรื่องราวของสมเด็จหญิงน้อย หรือสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้านิภานภดล กรมขุนอู่ทองเขตขัตติยนารี บั้นปลายพระชนมชีพถือได้ว่ามีชีวิตที่โดดเดี่ยวเป็นอย่างยิ่ง และได้อยู่จนพานพบกับสิ่งที่พระองค์กลัวเป็นอย่างที่สุด กลัวจะเป็นการปฏิวัติแบบถอนรากถอนโคนระบอบกษัตริย์อย่างรัสเซียที่พระองค์ได้ทรงทราบและศึกษามา สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงน้อย ซึ่งมีพระบุคลิกภาพคล้ายคลึงกับสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาในปัจจุบัน  เป็นเลขานุการใกล้ชิดกับสมเด็จพระราชบิดา และเป็นจุดเริ่มต้นของพระราชนิพนธ์ไกลบ้านของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อร้อยปีก่อน พ.ศ.2450 หากคุณกาสะลองหมายถึงผมกับไกลบ้านในพันทิป  คงต้องรอคิวยาวหน่อยละครับ แต่ไม่นานเกินรอ จากคุณ : NickyNick - [ 12 ก.ค. 50 11:25:36 ]

ความคิดเห็นที่ 117 ขอบคุณมากทั้งคุณเพ็ญชมพู ทั้งคุณ V_Mee ก่อนตั้งกระทู้ ผมไม่เคยทราบเรื่องความขัดแย้งของการเป็นศิษย์เก่าทั้งสองโรงเรียนของนายพุ่มหรอกครับ แม้แต่นิ้ดดดเดียว เพิ่งมาทราบจากคุณเพ็ญชมพูเป็นครั้งแรก เป็นครั้งแรกสุดในชีวิตผมเลยครับ ตอนอ่านในหนังสือเกิดวังปารุสก์ ผมก็คล้อยตามพระองค์จุล อ่านในลิ้งค์ของเทพศิรินทร์ ก็คล้อยตามนั้น อ่านของสวนกุหลาบ ก็คล้อยตามไปอีก พอมาอ่านคุณ V_Mee ก็ต้องเชื่อผู้ใหญ่ครับ ตอนนี้มาดูเหตุผลคุณเพ็ญ คห.112 ก็เชื่ออีก ผมไม่ได้ใจง่ายหรอกครับ แต่ผมคล้อยตามเหตุผลของแต่ละท่าน ยังไงจะรอเหตุผลต่อๆ ไปอีก เป็นการสร้างเสริมสติปัญญาดีครับ จากคุณ : NickyNick - [ 12 ก.ค. 50 11:55:59 ]

ความคิดเห็นที่ 118 คห.116 คุยกับคุณกาสะลองซะยาว แต่ถูกออโตดีลีทไปซะหมด เสียดาย จะนึกเขียนใหม่ อารมณ์ก็ไม่เหมือนเก่าแล้ว ขอบคุณคุณกาสะลองมากครับ มากจริงๆ ทีหลังไม่ต้องสงบเสงี่ยมเรียบร้อยมากนักก็ได้ ต่อเติมตัดแต่งเสริมตรงไหนเมื่อไรก็ได้ครับ เพราะเราส่งกันทางเน็ต ไม่มีใครรู้ใจกันมากนักหรอก แต่ก็เป็นโชคดีของผม ที่คุณกาสะลองรู้ใจผมแล้วล่ะ เรื่องการปฏิวัติรัสเซีย เป็นสิ่งประสบการณ์ที่น่ากลัวมาถึงราชวงศ์ไทยสมัยนั้นด้วย สมเด็จหญิงน้อย หรือสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้านิภานภดล กรมขุนอู่ทองเขตขัตติยนารี ซึ่งมีพระชนมชีพยาวนาน และบั้นปลายเหมือนจะโดดเดี่ยวเดียวดายปราศจากพ่อแม่พี่น้องสายตรง และดำรงพระชนม์จนถึงสมัยที่พระองค์กลัวมากที่สุดเหตุการณ์หนึ่ง พระองค์กลัวจะเป็นอย่างรัสเซีย ที่ขุดล้างระบอบเก่าๆ อย่างถอนรากถอนโคน สมเด็จหญิงน้อย มีพระอุปนิสัยพระบุคลิกเปรียบได้กับสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาของพวกเราในปัจจุบัน เป็นราชเลขานุการของสมเด็จพระราชบิดา สมเด็จหญิงน้อย มีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดพระราชนิพนธ์ไกลบ้านขึ้นมา เมื่อคราวเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 2  พ.ศ.2450 ถ้าคุณกาสะลองหมายถึงผมกับไกลบ้าน ในพันทิป  คิวยาวหน่อยนะครับ  แต่ไม่นานเกินรอ จากคุณ : NickyNick - [ 12 ก.ค. 50 12:22:57 ]

ความคิดเห็นที่ 119 คุณ  NickyNick กล่าวถึงสมเด็จหญิงน้อย หรือสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้านิภานภดล กรมขุนอู่ทองเขตขัตติยนารี  นอกจากพระอุปนิสัยพระบุคลิกเปรียบได้กับสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาแล้ว ยังทรงมีหลายอย่างหลายประการที่มีส่วนละม้ายคล้ายคลึงกัน คุณจุลลดา ภักดีภูมินทร์ หรือ ม.ล.ศรีฟ้า (ลดาวัลย์) มหาวรรณ  เขียนเล่าไว้ในบทความเรื่อง “น่ารักน่าชม สมกับเป็นเจ้าฟ้า” ในนิตยสารสกุลไทย ฉบับที่ ๒๕๓๓ ปีที่  ๔๙ ประจำวัน  อังคาร ที่  ๖ พฤษภาคม  ๒๕๔๖  ตอนหนึ่งว่า สมเด็จพระเทพรัตนฯ และสมเด็จหญิงน้อย ทรงมีหลายอย่างหลายประการที่มีส่วนละม้ายคล้ายคลึงกัน จนกระทั่งเมื่อยังทรงพระเยาว์อยู่และทรงพระเจริญขึ้นขณะทรงเป็นนักเรียน คนเฒ่าคนแก่สมัยรัชกาลที่ ๕ ซึ่งเวลานั้นยังมีชีวิตอดอุทานปรารภกันมิได้ว่า “ทำไมถึงได้ทรงลม้ายคล้ายกันนัก คล้ายกันจริง ๆ” ที่สะดุดตาสะดุดใจท่านเหล่านั้นแต่ทรงพระเยาว์ คือ พระฉวีคล้ำกว่า พระเชษฐา พระเชษฐาภคินีทุกพระองค์ เพราะทุกพระองค์ทรงมีพระฉวีขาวมาก ทว่าทรงมีพระพักตร์คมคาย เครื่องพระพักตร์งดงามทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นพระเนตร นาสิก พระโอษฐ์ไม่มีที่ติ อีกประการหนึ่งก็คือ พระอุปนิสัยร่าเริง และกล้าน่ารัก ทรงเข้ากับใคร ๆ ได้ แม้ชาวต่างประเทศที่ทรงพบปะเมื่อตามเสด็จ มีพระอารมณ์ขันเป็นที่ชื่นชมยินดี สมเด็จหญิงน้อยนั้น ด้วยพระนิสัยทรงเข้ากันได้กับพระเชษฐภคินี พระขนิษฐา ร่วมพระบรมราชชนก อย่างกลมเกลียว จึงทรงเป็นที่โปรดปรานในสมเด็จพระบรมชนกนาถอย่างยิ่ง อีกพระนิสัยโปรดปรานการศึกษาเรียนรู้ (เช่นเดียวกันกับสมเด็จพระเทพรัตนฯ) ทรงเรียนภาษาอังกฤษจากครูฝรั่งบ้าง แล้วทรงอ่านทรงเรียนด้วยพระองค์เอง จนกระทั่งทรงรับใช้สมเด็จพระราชบิดาได้ เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง เสด็จฯประพาสยุโรป ครั้งที่ ๒ พ.ศ.๒๔๕๐ สมเด็จหญิงน้อย มิได้ตามเสด็จด้วย พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ทรงมีพระราชหัตถเลขา พระราชทานถึงพระราชธิดาตอนหนึ่งว่า “พ่อคิดถึงลูกเหลือประมาณทีเดียว สารพัดในการหนังสือที่เคยใช้ต้องทำเองทั้งสิ้น จนนอนฝันไปว่าให้หญิงน้อยอ่านหนังสือ Deuelopment of the European Nations ให้ฟัง (เพราะพ่อกำลังอ่านอยู่) นอนฟังสบาย (เพราะนอนจริง ๆ) นึกเปลี่ยวใจที่ไม่มีใครช่วยในการหนังสือ ยังไม่เคยลืมคิดถึงแต่สักวันหนึ่งเลย” (พระราชนิพนธ์ ‘ไกลบ้าน’) และเมื่อทรงเล่าถึงเมืองโบราณต่าง ๆ ก็ทรงมีพระราชหัตถเลขา ต่อไปว่า “เมืองเหล่านี้ พ่อเข้าใจว่าลูกรู้จักทั้งนั้น เพราะมีในหนังสือเช็คสเปียร์ที่เคยอ่าน ความรู้สึกมันขัน รู้สึกอี๋ ๆ ปลื้ม ๆ คุ้นเคย เหมือนอย่างไปเมืองดาหา เมื่อสิงหัดส้าหรี เมืองกาหลังที่ชวา เกี่ยวด้วยเรื่องอ่านหนังสือเท่านั้น พูดกับคนที่ไม่เคยอ่านหนังสือไม่รู้สึก” (พระราชนิพนธ์ ‘ไกลบ้าน’) สมเด็จหญิงน้อย นอกจากเป็นพระราชธิดาที่ทรงรู้และร่วมพระราชหฤทัยแล้ว ยังทรงใกล้ชิดสมเด็จพระบรมชนกนาถ ในคืนที่ ๑๘๔ เมื่อประทับอยู่เพียงลำพังพระองค์ ในโรงแรมกรุงปารีส ทรงมีพระราชหัตถเลขาว่า “นั่งซึมอยู่คนเดียวรำคาญ คิดถึงลูกเหลือสติกำลัง เพราะอย่างไร ๆ ก็ได้นั่งบดฝนพูดกันอยู่เสมอ ไม่มีเวลาที่ต้องซึม เจ็บฤๅดีก็คงจะนั่งอยู่ด้วยได้ ทำงานก็นั่งอยู่ด้วยได้ ไม่เดือดร้อนทุรนทุรายที่จะต้องไปข้างไหน ไม่เหมือนผู้ชาย มันออกจะต้องแยกกันเป็นเจ้าคุณ มีท่ามีธุระของตัวไปตาม ๆ กัน” http://www.sakulthai.com/DSakulcolumndetailsql.asp?stcolumnid=2142&stissueid=2533&stcolcatid=2&stauthorid=13 จากคุณ : เพ็ญชมพู - [ 12 ก.ค. 50 12:57:18 ]

ความคิดเห็นที่ 120 เรื่องปฏิวัติรัสเซียนี้ดิฉันเพิ่งได้หนังสือเล่มล่าสุดมาจากงานสัปดาห์หนังสือครั้งล่าสุดด้วยค่ะ คือ "ย่ำสนทยาโรมานอฟ" นับว่าเป็นหนังสือที่ดีมากเล่มหนึ่ง ที่กล่าวถึงการสูญสิ้นราชวงศ์โรมานอฟในแง่หลักฐานตติยภูมิ ที่รวบรวมข้อมูลต่างๆมาดีแล้ว มีการปูพื้นฐานเล่าถึงวิถีชีวิตของพระราชวงศ์แต่ละองค์ที่ถูกสังหารในบ้านที่อิปาเตเยฟ และมีรายชื่อหนังสืออ้างอิงมาด้วย อ่านแล้วก็สะเทือนใจกับชะตากรรมที่ราชวงศ์ที่ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรรัสเซียได้รับ ดิฉันว่ามันช่างโหดร้ายเสียเหลือเกิน ที่ดิฉันรับไม่ได้คือบางกระแสกล่าวว่าพระราชวงศ์ที่เป็นหญิงถูกข่มขืน.......เรื่องนี้มันช่างโหดร้ายเสียเหลือเกิน นึกถึงสภาพของเจ้าหญิงน้อยๆทั้ง 4 ผู้งดงามแล้วหากเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นจริงๆดิฉันว่าคนทำไม่ใช่มนุษยมนาแล้วค่ะ จากคุณ : นางพญามารเมฆไฟ - [ 12 ก.ค. 50 13:28:09 ]

ความคิดเห็นที่ 121 สมเด็จเจ้าฟ้านิภานภดล ภาพจากหนังสือ "เฉลิมพระยศเจ้านาย" ฉบับมีพระรูป เป็นหนังสือพิมพ์พระราชทานในงานพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่ยาเธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมหลวงสงขลานครินทร ณ พระเมรุท้องสนามหลวง ปีมะเส็ง พ.ศ. ๒๔๗๒ พิมพ์ที่โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร จากคุณ : เพ็ญชมพู - [ 12 ก.ค. 50 13:31:17 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ขอบคุณคุณเพ็ญชมพูมากครับ สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับทั้งสองพระองค์  ยิ่งอ่านแล้วยิ่งรักในทั้งสองพระองค์มากยิ่งขึ้น ภาพของสมเด็จหญิงน้อย คห.121 นำมาจากต้นฉบับปี 2472 เลยใช่ไหมครับ ผมเคยเห็นแต่ฉบับหลัง ที่พิมพ์คราวเฉลิมพระอิสสริยยศสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ครับ วันนี้เน็ตมีปัญหา ช้ามาก เลยขอสนทนาเท่าที่ทำได้ก็แล้วกัน หากห่างหายไปหน่อย ให้ถือเสียว่าไม่ใช่เจตนาของผมครับ คุณนางพญาครับ พอบรรยายถึงหนังสือเล่มนี้เข้า "สนทยาโรมานอฟ" ก็ให้เกิดความรู้สึกอยากได้ขึ้นมาเต็มประดา  เรื่องต่างๆ แบบนี้พักหลังๆ ผมไม่ค่อยได้อ่านเท่าไรแล้ว เพราะเกิดความรู้สึกสลดใจอย่างบอกไม่ถูก และทำให้ชีวิตเราหม่นหมองไปด้วย  แต่ตอนหลังคิดว่ายังไงก็ควรต้องรู้ไว้บ้าง ประวัติศาสตร์ที่โหดร้ายจะได้ไม่ต้องเกิดซ้ำรอย อย่างน้อยเมื่อเรามีส่วนเกี่ยวข้อง และป้องกันได้  แม้จะเป็นเรื่องไม่น่าจดจำ แต่เราก็น่าจะรู้ไว้ เหมือนอย่างพวกกฎหมายอะไรเทือกนั้น เราไม่รู้ แต่ถ้าเกิดทำผิดอะไรขึ้นมาแล้ว จะปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่ได้ ฉันใดก็ฉันนั้น นำเอารูปส่วนหนึ่งของราชวงศ์โรมานอฟ เมื่อคราวเสด็จประพาสยุโรปครั้งแรก ทรงฉายกับพระเจ้าซาร์นิโคลัส ที่ตำหนักอาเลกแซนเดรีย พระราชวังซาร์วิกเซโล  4 กรกฎาคม ร.ศ.116 (พ.ศ.2440) จากหนังสือ "พระราชหัตถเลขาส่วนพระองค์ ถึงสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี" จากคุณ : NickyNick - [ 12 ก.ค. 50 14:39:09 ]

ความคิดเห็นที่ 123 ภาพนี้ขอมอบให้กับคุณนางพญาฯ ฉันทิ้งหัวใจไว้ที่ไฮเดลเบิร์ก เด็กหญิงน้อยๆ ชาวเยอรมันที่แอบชื่นชมในพระบารมีของพระมหากษัตริย์ไทยเมื่อคราวเสด็จครั้งแรก พ.ศ.2440 อีกไม่กี่ปีต่อมา ก็กลับเกาะกุมหัวใจเจ้าชายหนุ่มพระราชโอรสของพระองค์ที่เสด็จมาศึกษา ณ ประเทศแห่งนี้ หม่อมเอลิซาเบธ รังสิต หม่อมคู่ทุกข์คู่ยากของเจ้าชายรังสิต หรือสมเด็จกรมพระยาไชยนาทนเรนทร และที่นี่ คือที่อยู่สุดท้ายของท่าน ไฮเดลเบิร์ก ........... ภาพจากหนังสือ ตามเสด็จไกลบ้าน, 2540  โดยอัมพร จิรัฐติกร จากคุณ : NickyNick - [ 12 ก.ค. 50 14:52:14 ]

ความคิดเห็นที่ 124 ทรงฉายกับพระเจ้าซาร์นิโคลัส อีกรูปที่เห็นบ่อย [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 12 ก.ค. 50 14:52:23 ]

ความคิดเห็นที่ 125 คิดแล้วว่าพันทิปจะต้องเล่นพิเรนทร์อะไรกับเราอีก อารมณ์กำลังสุนทรีย์กับคุณนางพญาอยู่ และกำลังบรรเจิดกับคุณเพ็ญชมพู กลับหงุดหงิดในฉับพลัน คราวนี้รู้แล้ว ไม่ได้กินหรอก ลองอ่านกันดูซิ ผมกล่าวคำหยาบตรงไหน จากคุณ : NickyNick - [ 12 ก.ค. 50 15:22:54 ]

ความคิดเห็นที่ 126 โหลดก็ยาก ออโต้ดีลีทก็ง่ายเหลือเกิน เขียนยาวๆ ทีไรเป็นไม่ได้ นี่คือรูปที่กล่าวถึงครับ ที่อยู่สุดท้ายของท่าน   Mom Elisabeth Rangsit  1892-1973 จากคุณ : NickyNick - [ 12 ก.ค. 50 15:35:13 ]

ความคิดเห็นที่ 127 จากหนังสือไปเมืองนอกครั้งแรกฯกล่าวว่าหลังจากที่สมเด็จกรมพระชัยนารทฯสิ้นพระชนม์ลง หม่อมปฏิเสธที่จะอยู่เมืองไทยต่อไป เพราะรำลึกถึงอดีตที่ขมขื่นเมื่อครั้งสมเด็จกรมพระฯถูกจองจำในคุกไม่ไหว แม้สมเด็จกรมพระฯท่านจะเคยกล่าวอโหสิกรรมให้กับคนที่ทำกับท่านไปแล้ว แต่สุดท้ายอัฐิของหม่อมก็ได้กลับมาอยู่ร่วมกับสมเด็จกรมพระชัยนารทที่เมืองไทยอีกครั้ง ซึ้งใจมากเลยค่ะ........... "ย่ำสนทยาโรมานอฟ" ดิฉันแทบทนอ่านชะตาชีวิตของพระราชวงศ์ไม่ไหวทีเดียว แม้ว่าจะรู้อยุ่แล้วว่าสุดท้ายทุกพระองค์มีจุดจบเช่นไร แต่พอได้มาอ่านอย่างละเอียดมันหดหู่เหลือเกิน ไว้ดิฉันจะนำรูปหนังสือมาให้คุณNickyNickดูนะคะ ในหนังสือมีรูปของเจ้าหญิงทั้งสี่และพระเจ้าซาร์กับซาริน่าหลายรูปเชียวค่ะ รูปน่าสนใจทั้งนั้นเลย ดูแล้วเจ้าหญิงทั้งสี่น่ารักมากๆ คิดๆอยู่ว่าจะนำเรื่องราวจากหนังสือมาสรุปแล้วโพสลงเวปดีไหม แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 50 16:38:16 จากคุณ : นางพญามารเมฆไฟ - [ 12 ก.ค. 50 16:33:18 ]

ความคิดเห็นที่ 128 เมื่อทูลกระหม่อมจักรพงษ์เสด็จออกไปทรงศึกษาครั้งแรกที่อังกฤษก่อนจะไปรัสเซียนั้น เรื่องนี้มีพยานยืนยันในลายพระราชหัตถเลขาพระบาทสมเด็จพะจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานเจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี เมื่อครั้งยังเป็นพระยาวิสุทธิ์สุริยศักดิ์ และหนังสือกราบบังคมทูลของพระยาวิสุทธิ์ฯ ที่รวมพิมพ์แจกในงานพระราชทานเพลิงศพ ท่านผู้หญิงเสงี่ยม พระเสด็จสุเรนทราธิบดี ประเด็นเรื่องโรงเรียสวนกุหลาบและโรงเรียนเทพศิรินทร์นั้น หนังสือ ๖๐ ปีกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวไว้ว่า พระบทสมเด็จพระจุลจอมเกล้เจ้อยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศใช้ โครงการศึกษา ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๐ ก่อนที่จะทรงเผดียงคณะสงฆ์ช่วยขยายการศึกาออกสู่หัวเมืองในปี พ.ศ. ๒๔๔๒ ในช่วงนั้นโรงเรียนเทพศิรินทร์ยังมีฐานะเป็นโรงเรียนฝึกหัดอาจารย์อยู่ มาเปลี่ยนเป็นโรงเรียนมัธยมสามัญพิเศษในภายหลัง แต่ในช่วงปี พ.ศ. ๒๔๔๑ นั้นการเรียนการสอนหลักสูตรพิเศษที่เป็นภาษาอังกฤษนั้นมีเฉพาะที่โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ และโรงเรียนราชวิทยาลัยเท่านั้น ในประเด็นที่กล่าวถึงท่านนายกรัฐมนตรี ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช และ นายทวี บุญเกตุนั้น ประวัติของท่านนายก ม.ร.ว.เสนีย์ฯ ที่พิมพ์ในหนังสืองานพระราชทานเพลิงศพของท่านนั้นกล่าวไว้ว่า "...เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๔๘ ที่จังหวัดนครสวรรค์ การศึกษาเบื้องต้นหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช เข้าเรียนหลายแห่งด้วยกันในต่างจังหวัด เนื่องจากเป็นช่วงที่พระองค์คำรบรับราชการต่างจังหวัด ส่วนในกรุงเทพฯ เรียนที่โรงเรียนราชินี เทพศิรินทร์ อัสสัมชัญ และสวนกุหลาบ พ.ศ. ๒๔๖๓ เข้าศึกษาที่โรงเรียนเทรน คอลเลจ ประเทศอังกฤษ (ชั้นมัธยม)..." ส่วนท่านนายกฯ ทวี บุญเกตุ นั้น มีหลักฐานและภาพถ่ายปรากฏชัดเจนว่า ท่านได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนราชวิทยาลัย สมัยบางขวาง (คือที่เคยเป็นศาลากลางจังหวัดนนทบุรี) มาตั้งแต่ราวปี พ.ศ. ๒๔๕๔ จนจบชั้นมัธยมปีที่ ๗ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๑ จึงได้ออกไปศึกาต่อที่ประเทศอังกฤษ ดูจากประวัติของทั้งสองท่านแล้ว ย่อมเป็นไปได้ที่ท่านจะเรียนที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ เพราะในช่วงที่ท่านทั้งสองเข้าเรียนนั้นโรงเรียนเทพศิรินทร์ได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นโรงเรียนมัธยมสามัญ เช่นเดียวกับโรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตรและโรงเรียนมัธยมวัดบวรนิเวศก็เคยเป็นโรงเรียนฝึกหัดครูมาก่อนๆ ที่จะปรับมาเป็นโรงเรียนมัธยมสามัญ อีกโรงเรียนหนึ่ง คือ โรงเรียนเบญจมราชาลัย เดิมก็เป็นโรงเรียนฝึกหัดครูสตรีแห่งแรกของประเทศไทย แล้วเปลี่ยนเป็นโรงเรียนสามัญสำหรับสตรี ปัจจุบันเป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาแบบสหศึกษา จากคุณ : V_Mee (V_Mee) - [ 12 ก.ค. 50 22:03:16 ]

ความคิดเห็นที่ 129 หนังสือวังบางขุนพรหมฉบับที่น่าอ่านมากที่สุดคือ ฉบับชอง "บัวบาน" หรือ นายบัว  ศจิเสวี  ท่านผู้นี้เป็นมหาดเล็กในสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายาฯ สมเด็จฯ ทรงพระเมตตาคุณบัวมาก  รับสั่งเรียกว่า "ลูกบัว" มาจนตราบวาระสุดท้ายแห่งพระชนม์ชีพ ในการเรียบเรียงเรื่องวังบางขุนพรหมนั้น  คุณบัวได้มีโอกาสเฝ้าทูลถามพระองค์หญิงหลายพระองค์ในราชสกุลบริพัตร  ที่สำคัญคือ คุณบัวเป็นพนักงานธนาคารแห่งประเทศไทยที่ได้ติดตามพระองค์เจ้าวิวัฒนไชย ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนแรก  จากกรมศุลกากรมาอยู่ที่ธนาคารฯ ตั้งแต่แรกตั้ง  ในส่วนพระองค์ พระองค์เจ้าวิวัฒนไชยนั้นก็ทรงเป็นอนุชาของหม่อมเจ้าประสงค์สม  บริพัตร ชายาในสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต  จึงสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องสมบูรณ์ที่สุด หนังสือนี้คุณบัวได้ถวายลิขสิทธิ์แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อพระราชทานให้เป็นสมบัติของมูลนิธิสายใจไทย  เมื่อหนังสือที่พิมพ์จำหน่ายครั้งแรกหมดไปจากตลาด  ก๊ยัไม่มีการพิมพ์ใหม่อีกเลย  จึงจัดอยู่ในประเภทหนังสือหายากเล่มหนึ่ง จากคุณ : V_Mee (V_Mee) - [ 12 ก.ค. 50 22:12:46 ]

ความคิดเห็นที่ 130 สวัสดีค่ะพี่ Nicky คุณพุ่ม นี่ชื่อคุณ "พุ่มสกี้" จริงๆเลยค่ะ ชื่อจริง " พันเอก นิโคลาสโลโล เยวิช พุ่มสกี้ " ใบแพรวค้นได้จากผลงานเรื่อง"พุ่มสกี้"ของ " คุณสรศัลย์ แพ่งสภา" ตอนแรกยังคิดว่าเรามาเรียกกันเองว่า"พุ่มสกี้" เพราะชื่อรัสเซียส่วนมากมักจะมี สกี้ สกี้ ต่อท้าย เหมือนพม่าที่มี คยี คยี น่ะค่ะ จากคุณ : ใบแพรว - [ 13 ก.ค. 50 10:06:51 A:75.34.227.49 X: ]

ความคิดเห็นที่ 131 ขอขอบพระคุณข้อมูลจากคุณ V_Mee  # ๑๒๘ สำหรับข้อมูลที่ว่าทูลกระหม่อมจักรพงษ์เสด็จออกไปทรงศึกษาครั้งแรกที่อังกฤษก่อนจะไปรัสเซีย เรื่องนี้มีพยานยืนยันในลายพระราชหัตถเลขาพระบาทสมเด็จพะจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานเจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี เมื่อครั้งยังเป็นพระยาวิสุทธิ์สุริยศักดิ์ และหนังสือกราบบังคมทูลของพระยาวิสุทธิ์ฯ ที่รวมพิมพ์แจกในงานพระราชทานเพลิงศพ ท่านผู้หญิงเสงี่ยม พระเสด็จสุเรนทราธิบดี หากคุณ  V_Mee กรุณาเขียนเล่าเกี่ยวกับรายละเอียดของลายพระราชหัตถเลขาฯ และหนังสือกราบบังคมทูลฯ ดังกล่าว คิดว่าน่าจะมีประโยชน์มาก เรื่องการศึกษาของอดีตนายกรัฐมนตรีทั้ง ๒ ท่านมีรายละเอียดดังนี้ นายทวี  บุณยเกตุ การศึกษา โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จังหวัดจันทบุรี โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย (เรียนที่ตึกแม้นนฤมิตของเทพศิรินทร์) โรงเรียนราชวิทยาลัย คิงส์คอลเลจ ประเทศอังกฤษ วิชากสิกรรม ที่มหาวิทยาลัยกรีนยอง ประเทศฝรั่งเศส http://th.wikipedia.org/wiki/ทวี_บุณยเกตุ หม่อมราชวงศ์เสนีย์  ปราโมช การศึกษา เริ่มศึกษาที่โรงเรียนราชินี โรงเรียนอัสสัมชัญ โรงเรียนเทพศิรินทร์ และโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ตามลำดับ จากนั้นได้เดินทางไปศึกษาต่อที่ โรงเรียนเทรนต์ (Trent College) ในเมืองนอตติงแฮมไชร์ ประเทศอังกฤษ และได้เข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรี สาขานิติศาสตร์ที่วิทยาลัยวอร์สเตอร์ (Worcester College) ของมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด ในประเทศอังกฤษ แล้วสำเร็จการศึกษาด้วยคะแนนระดับเกียรตินิยมอันดับสอง หลังจากนั้น ก็เข้าศึกษาต่อที่สำนักเนติบัณฑิตอังกฤษ ณ สำนักเกรย์อินน์ ในกรุงลอนดอน ได้คะแนนเป็นที่หนึ่ง ได้รับรางวัลเป็นเงิน ๓๐๐ กีนีย์จากสำนักกฎหมายอังกฤษ (เกียรติประวัติอันนี้ได้เล่าลือมาถึงเมืองไทย จนมีการเข้าใจว่าได้รับเงินรางวัลพระราชทานจากพระเจ้าแผ่นดินอังกฤษ ซึ่งไม่เป็นความจริง แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังเข้าใจอย่างนั้น) และทางโรงเรียนเทรนด์ได้ประกาศให้นักเรียนหยุดเรียนหนึ่งวัน เพื่อเป็นการระลึกถึงและได้เรียกวันนั้นว่า " วันเสนีย์ " (Seni Day) นับเป็นคนไทยคนแรกและเป็นชาวเอเชียคนแรกที่ทำได้ เมื่อเดินทางกลับมายังประเทศไทย ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช ได้ศึกษาวิชากฎหมายไทยเพิ่มเติม จนกระทั่งได้รับเนติบัณฑิตไทย และเข้าฝึกงานที่ศาลฎีกาเป็นเวลา ๖ เดือน จึงได้เป็นผู้พิพากษา http://th.wikipedia.org/wiki/หม่อมราชวงศ์เสนีย์_ปราโมช มีข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับคุณใบแพรว # ๑๓๐ จากคุณวัฒนะ คุ้นวงศ์ เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก พูดถึงนายพุ่มสกี้ไว้ว่า นายพุ่มตัดสินใจไม่กลับประเทศ  ได้เปลี่ยนสัญชาติเป็นชาวรัสเซีย และหันมานับถือศาสนารัสเชี่ยนออร์โธดอกซ์ พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็นนายนิโคลัย พุ่มสกี้ (Nikolai Pumsky) http://www.thaiembassymoscow.com/sub/history/siam_emb.html แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 50 11:28:53 จากคุณ : เพ็ญชมพู - [ 13 ก.ค. 50 11:21:36 ]

ความคิดเห็นที่ 132 ขอบคุณทุกท่านครับ ขอบคุณคุณ V_Mee และคุณเพ็ญชมพู เกี่ยวกับรายละเอียดหลายสิ่งหลายอย่าง และขอบคุณรายละเอียดเรื่องหนังสือวังบางขุนพรหมด้วยครับ  ทราบว่าตอนนี้ไม่มีขายแล้ว แถมราคาตลาดหนังสือเก่าน่าจะขึ้นพรวดพราด  จากเดิมน้ำลายไหลอย่างเดียว ตอนนี้น้ำตากลับไหลเพิ่มอีกครับ ขอบคุณเรื่องข้อมูลสถาบันการศึกษา อ่านไปยังงงไปเหมือนกันครับ เพราะไม่มีพื้นฐานมาก่อน เช่น โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย (เรียนที่ตึกแม้นนฤมิตของเทพศิรินทร์) ตกลงว่าตึกนี้เป็นของโรงเรียนอะไรกันแน่ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน แล้วโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ กับโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยขณะนี้ เป็นโรงเรียนเดียวกันหรือเปล่า ตอนนี้ผู้ที่ร่วมชี้แจงข้อมูล และร่วมแสดงเหตุผล คงไม่ใช่ศิษย์เก่าของทั้งสองโรงเรียนเลยนะครับ เพราะทราบมาเลาๆ จากกระทู้เก่าก่อนว่า คุณ V_Mee  จบสถาบันเดียวกับอาจารย์ชัยอนันต์ สมุทวาณิช ส่วนคุณเพ็ญชมพู ก็ไม่น่าจะจบจากทั้งสองแห่ง เพราะทราบมาเลาๆ เช่นกันว่า ทั้งสองแห่งเป็นโรงเรียนชายล้วน ส่วนผมเองเรียนโรงเรียนวัด จะนำข้อมูลมาร่วมอภิปราย ไก่จะหมดเล้าไปเปล่าๆ เมื่อดูตัวอย่างอดีตนายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านที่คุณเพ็ญชมพูอ้างถึง และพิจารณาเฉพาะอายุแล้ว อยู่ในวัยที่เป็นรุ่นลูกของนายพุ่มสกี้ได้เลย  สถาบันการศึกษารุ่นนายพุ่มสกี้เป็นนักเรียนมัธยม กับรุ่นของอดีตนายกทั้งสองท่าน น่าจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันมาก แต่เป็นความรู้เสริมที่ดีที่ได้นำเอาเรื่องตึก เรื่องโรงเรียน มาเป็นตัวอย่างประกอบไว้ด้วย ขอบคุณมากเลยครับ ยังไงจะรอลายพระราชหัตถเลขาฯ และหนังสือกราบบังคมทูล ที่คุณเพ็ญชมพูได้เรียนขอจากคุณ V_Mee ไว้ใน คห.131  ไม่รู้ว่าจะมีปรากฏอยู่ในหนังสือฉบับพิมพ์ของคุรุสภาด้วยหรือไม่ครับ เผื่อคุณ V_Mee มีภารกิจยุ่ง ผมจะได้รับหน้าที่แทน จากคุณ : NickyNick - [ 13 ก.ค. 50 12:50:43 ]

ความคิดเห็นที่ 133 อยากจะลบก็ลบง่ายดี พอมาทีก็มาเป็นชุดแฝดเชียว ข้อความเหมือนกันครับ 133-134 เลยมาลบทิ้งซะหนึ่ง มาลบภาพอีก ลบไม่หมด แย่จัง แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 50 09:13:14 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 50 13:58:44 จากคุณ : NickyNick - [ 13 ก.ค. 50 13:08:50 ]

ความคิดเห็นที่ 134 ขอบคุณมากน้องใบแพรว พี่อ่านเจอแต่ พุ่มสกี้ ในหนังสือเจ้าพระยาพระเสด็จเพียงเล่มเดียวเท่านั้น แต่ก็ไม่มีหนังสืออื่นเพิ่มเติมเพื่อช่วยขุดคุ้ยข้อมูลให้กว้างขวางขึ้น มาทราบจากน้องใบแพรวว่า คุณสรศัลย์ แพ่งสภา ก็ได้เขียนเรื่องเกี่ยวกับพุ่มสกี้ไว้ด้วย ติดตามอ่านหนังสือของท่านบ้าง แต่ไม่มาก เพราะไม่มีเงินซื้อ เช่น หนังสือ "ราตรีประดับดาวที่หัวหิน" "หวอ ชีวิตไทยในไฟสงครามโลกครั้งที่ 2"  ส่วนใหญ่เป็นหนังสือใหม่ๆ ทั้งนั้น ขอบคุณมากที่แจ้งให้พี่ทราบจากอีกแหล่งหนึ่ง อ้อ แล้วหนังสือเล่มนั้นมีข้อมูลอะไรแปลกใหม่ หรือน่าสนใจพอจะเพิ่มเติมได้บ้างมั้ยครับ เรียนเชิญน้องใบแพรวได้ตลอดเวลาเลยนะ ถึงคุณนางพญามารเมฆไฟครับ "ย่ำสนธยาโรมานอฟ" ผมอาจมีโอกาสได้เห็นจากการหยิบยืมเพื่อนฝูงบ้าง แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นเมื่อไร ถ้าจะนำมาสรุปเรื่องราวและลงภาพให้พวกเราได้รับชม จะดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะคนไม่มีโอกาสได้เห็นภาพและรู้เรื่องราวดังกล่าว ยังมีอีกมากครับ  จะนับวันรอครับ เอาใจคุณนางพญาไว้ก่อนครับ เป็นพระรูปชายในฝันของคุณนางพญา กับสตรีที่ท่านมอบหัวใจไว้ให้ และพระโอรสธิดา น่าจะเป็นองค์ที่ 1 กับ 2 ครับ 1. หม่อมเจ้าชายปิยะรังสิต (2456-2533) 2. หม่อมเจ้าชายสนิทประยูรศักดิ์ (2460- ) 3. หม่อมเจ้าหญิงจารุลักษณ์กัลยาณี (2467- ) แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 50 13:51:02 จากคุณ : NickyNick - [ 13 ก.ค. 50 13:09:51 ]

ความคิดเห็นที่ 135 คุณพี่นิคคะ ดิฉันหายหน้าไปวันเดียว วันเดียวจริงๆ กระทู้คุณพี่ขึ้นมาร้อยกว่าความเห็น แสดงให้เห็นถึงความนิยมในเรื่องที่นำมาเขียนนะคะ มาลงชื่อไว้ก่อนค่ะ เดี๋ยวว่างๆจะเข้ามาอ่านใหม่ ขอบคุณคุณ ร ว ย ศ ที่เอาภาพการเสด็จรัสเซียมาโพสต์ทั้งหมดนะคะ ดิฉันตามดูในทีวีไม่ครบทุกวัน ดีใจที่ได้เห็นภาพค่ะ จากคุณ : little kitty - [ 13 ก.ค. 50 13:59:14 ]

ความคิดเห็นที่ 136 คุณ  NickyNick ถามใน # ๑๓๒ เกี่ยวกับเรื่องโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย และตึกแม้นนฤมิตร์ ๑. โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ กับโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยขณะนี้ เป็นโรงเรียนเดียวกันหรือเปล่า โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๕ ณ พระตำหนักสวนกุหลาบ ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขณะทรงดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ต่อมาได้ย้ายออกมาจากพระบรมมหาราชวังแยกเป็นโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบฝ่ายไทยและ โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบฝ่ายอังกฤษ   พ.ศ. ๒๔๕๔  โรงเรียนทั้ง ๒ ฝ่ายมารวมตัวเป็น “โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย” โดยอยู่ในพื้นที่ของวัดราชบูรณะ http://www.sk.ac.th/index.php?option=com_content&task=view&id=19&Itemid=107 ๒. ตึก (แม้นนฤมิตร์) นี้เป็นของโรงเรียนอะไรกันแน่ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน พ.ศ. ๒๔๕๐  สมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ ทรงมีหนังสือขอพระราชทานพื้นที่โรงเรียนสตรีสุนันทาลัย เพื่อทำการปรับปรุงเป็น "โรงเรียนราชินี" สวนกุหลาบอังกฤษสุนันทาลัยจึงมีความจำเป็นต้องหาสถานที่เป็นโรงเรียนใหม่ จนสุดท้ายได้มารวมกับโรงเรียนเทพศิรินทร์ ซึ่งเป็นเพราะกำลังมีการสร้างตึกที่ชื่อว่า "ตึกแม้นนฤมิตร์" โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระบรมราชโองการให้กรมศึกษาธิการในขณะนั้นเป็นผู้ทำสัญญาก่อสร้าง โดยระบุว่า เมื่อทำการก่อสร้างเสร็จ จะให้ใช้ชื่อว่า "โรงเรียนสวนกุหลาบ ตึกแม้นนฤมิตร์" เข้าสู่จุดที่เป็นความขัดแย้งทางประวัติศาสตร์ที่ได้มีการบันทึกไว้ นั่นคือช่วงของการเปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็นโรงเรียนเทพศิรินทร์... "สวนกุหลาบ" บันทึกไว้ว่า... "...ต่อมาได้มีการเปลี่ยน นามโรงเรียนสวนกุหลาบเป็นโรงเรียนเทพศิรินทร์แทนโดยอ้างถึงคำสั่งของปลัดทูลฉลองของกระทรวงธรรมการ แต่ไม่ปรากฏเหตุผลในการเปลี่ยนแปลง..." แต่ "เทพศิรินทร์" บันทึกเหตุการณ์จากหลักฐานจดหมายเหตุพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ลงวันที่ ๓ กันยายน ร.ศ. ๑๒๐ มีข้อความเขียนว่า "...รูปพรรณสันฐาน แลราคาที่จะว่าตกลงกันไว้ไม่เป็นติขัดขวางอันใด มีข้อน่าเสียดายอยู่นิดหน่อยที่เรียกชื่อว่า โรงเรียนสวนกุหลาบ เพราะโรงเรียนได้ตั้งแต่แรกที่ได้เกิดขึ้นในเมืองไทยแล้ว จะสูญเสียไปก็คราวนี้แหละ เพราะเหตุที่ไปตั้งอยู่ที่ตึกแม้นนฤมิตร์ซึ่งเงินของเราก็ได้ออกจริง ๆ แต่ของเราก็มั่งนี่จะทำอย่างไรให้ลองนึกดูที" จดหมายเหตุฉบับนี้แสดงพระราชประสงค์ของ องค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวว่าตึกเรียนนี้พระองค์ ได้บริจาคเงินแต่ก็เป็นเพียงบางส่วนจึงไม่ควรที่จะใช้นามว่าโรงเรียนสวนกุหลาบเหมือนโรงเรียนแรกเดิมจึงเป็นเหตุ ให้กรมศึกษาธิการส่งจดหมาย ลงวันที่ ๒ พฤษภาคม ร.ศ.๑๒๑ ถึงมิสเตอร์บรูโน นายช่างผู้รับเหมาก่อสร้างให้ เปลี่ยนนามที่หินแกะจากโรงเรียนสวนกุหลาบ เป็นโรงเรียนเทพศิรินทร์..." อย่างไรก็ดี โรงเรียนสวนกุหลาบที่ได้มารวมกับโรงเรียนเทพศิรินทร์ก็ได้ชื่อว่า "สวนกุหลาบอังกฤษเทพศิรินทร์" และในที่สุดก็เป็นสถานที่สุดท้ายสำหรับ "สวนกุหลาบฝ่ายอังกฤษ" เพราะการย้ายครั้งต่อมาคือการย้ายสวนกุหลาบฝ่ายไทยและอังกฤษมารวมกัน ณ "ตึกยาว" ซึ่งเช่าพื้นที่ของวัดราชบูรณะนั่นเอง http://www.sk.ac.th/index.php?option=com_content&task=view&id=273&Itemid=197 จากคุณ : เพ็ญชมพู - [ 13 ก.ค. 50 14:31:07 ]

ความคิดเห็นที่ 137 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงเสร็จสิ้นพระราชภารกิจในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสหพันธรัฐรัสเซียอย่างเป็นทางการแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันสุดท้ายของการเสด็จฯ เยือนรัสเซีย เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2550 เวลา 17.30 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ ออกท่าอากาศยานพูลโคโว เพื่อเสด็จพระราชดำเนินต่อไปยังสาธารณรัฐออสเตรีย รูป: กระทรวงการต่างประเทศ แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 50 15:44:36 จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 13 ก.ค. 50 15:37:21 ]

ความคิดเห็นที่ 138 และเสด็จถึง สาธารณรัฐออสเตรีย เป็นที่เรียบร้อย ครับ จบในส่วนของการเสด็จเยือนรัสเซียครับ ขอบคุณนะครับที่ไม่รำคาญ ที่ผมโพสนอกเรื่อง แต่ถ้ารำคาญ ผมก็ขออภัย [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : รวียศ (raveeyos) - [ 13 ก.ค. 50 15:43:33 ]

ความคิดเห็นที่ 139 อ่านจากหนังสือ ไปเมืองนอกครั้งแรกฯ ท่านชายใหญ่ (ท่านชายปิยะฯ)รูปงามมากค่ะ ดูสุขุม นิ่งๆ ดูออกแขกๆด้วย คงเป็นเพราะพระพักตร์ของพระบิดาออกไปทางนั้นคือในตาลึก พระขนงเข้ม ทั้งหม่อมมารดาเป็นชาวเยอรมันด้วยกระมัง ส่วนท่านชายรอง(ท่านชายสนิทฯ) ก็รูปงามแต่รูปในวัยเด็กดูออกแก่นและซนมากทีเดียวเชียวค่ะ ขอบคุณคุณNickyNickมากเลยนะคะที่นำรูปพระองค์มาให้ชม คุณ ร.ว.ย.ศ. (raveeyos)  จะกรุณาตั้งกระทู้ใหม่อีกได้ไหมคะ คือไม่ใช่อะไรนะคะ กระทู้นี้ค่อนข้างยาวแล้ว อีกอย่างดิฉันได้มีโอกาสตามข่าวเสด็จเยือนรัสเซียตลอดเห็นว่าน่าสนใจ น่าจะนำมาประมวลได้ เมื่อวานเห็นมีการกล่าวถึงห้องอำพัน  น่าสนใจมากทีเดียวและสวยงามมากๆด้วย น่าเสียดายที่ห้องนี้เป็นห้องที่ถูกบูรณะขึ้นมาใหม่ เพราะห้องเดิมถูกกองทัพนาซีทำลายไปเสียหมด จากคุณ : นางพญามารเมฆไฟ - [ 13 ก.ค. 50 16:23:55 ]