Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ร.ศ. ๑๑๒

    คงได้เคยอ่านและเคยซาบซึ้งกับบทพระราชนิพนธ์นี้

                                              “กลัวเป็นทวิราช           บตริป้องอยุธยา
                                        เสียเมืองจึ่งนินทา                 บ่ละเว้นฤาว่าวาย
                                               คิดใดจะเที่ยงแท้            ก็บ่พบซึ่งเงื่อนสาย
                                        สบหน้ามนุษย์อาย                จึงจะอุดแลเลยสูญฯ”


             ก่อนจะถึงจุดนี้  ต้องเท้าความกันยาว  เล่าสังเขปได้ความว่า

             เกิดขบถในเวียดนาม  องเชียงสือหนีมาอยู่ที่ไซ่ง่อน  ชาวไซ่ง่อนนับถือยกย่องให้ครองเมือง  แต่ก็รักษาเมืองต่อสู้ไม่ไหว  จำต้องหนีมาอยู่ที่เกาะกระบือในแดนเขมร  และได้อาศัยเรือพระยาชลบุรี ซึ่งลาดตระเวนอยู่บริเวณนั้น พาครอบครัวเข้ามาพึงพระบรมโพธิสมภารในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก  

             อยู่ได้ ๔ ปี  องเชียงสือได้สัญญาจากฝรั่งเศสว่าจะช่วยกอบกู้บ้านเมืองให้  องเชียงสือเขียนหนังสือทูลลาวางไว้บนที่บูชา เนื้อความในหนังสือนั้นว่า "ตั้งแต่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ทำนุบำรุงเป็นอเนกประการ ถึงให้กองทัพไทยไปช่วยตีเมืองไซ่ง่อนพระราชทานก็ครั้ง ๑ แต่การยังไม่สำเร็จ เพราะกรุงเทพฯ ติดทำสงครามอยู่กับพม่า จะรอต่อไปก็เกรงว่าพรรคพวกทางเมืองญวนจะรวนเรไปเสีย ครั้นจะกราบถวายบังคมลาโดยเปิดเผยก็เกรงจะมีเหตุขัดข้องจึงหนีไป เพื่อจะไปคิดอ่านตีเอาเมืองไซ่ง่อนคืน ถ้าขัดข้องประการใดขอพระบารมีเป็นที่พึ่งทรงอุดหนุนด้วย เมื่อได้เมืองแล้วจะมาเป็นข้าขอบขัณฑสีมาสืบไป" (จากประชุมพระนิพนธ์ในสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เรื่อง ตำนานรำโคม) แล้วหนีไป  ตั้งแต่นั้นมาฝรั่งเศสก็มีอำนาจในญวน

             ฝ่ายไทย  เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงทราบ  ก็ทรงไม่อยากให้เกิดศึกขึ้นอีกทาง  ในขณะที่เตรียมรับศึกพม่าอยู่ทางนี้นั้น  จึงทรงพระกรุณาองเชียงสือต่อไป  สนับสนุนเสบียงอาหารและศัสตราวุธตามสมควร  พวกญวนที่ตามองเชียงสือเข้ามาครั้งนั้นโปรดฯ ให้ไปตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บางโพ และสืบเชื้อสายกันมาจนบัดนี้  แต่การหนีขององเชียงสือยังให้กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาททรงพระพิโรธ  แล้วทรงพยากรณ์ไว้ว่า  ต่อไปญวนจะทำความเดือดร้อนให้กับลูกหลานเป็นแน่

             ก็เป็นจริงดังพระพยากรณ์ในกรมพระราชวังบวรฯ  ในรัชกาลที่ ๓ เกิดศึกอนุเวียงจันทน์  เจ้าอนุแพ้ก็หนีไปพึ่งญวน  พระเจ้าแผ่นดินญวนมีพระราชสาส์นเข้ามาทูลขอโทษเจ้าอนุ  และพาเจ้าอนุมาส่งยังเมืองเวียงจันทน์  ฝ่ายแม่ทัพนายกองซึ่งรักษาเวียงจันทน์มิได้มีความระวังสงสัย  พอตกค่ำเจ้าอนุและพวกก็ระดมยิงและฆ่าฟันทหารไทย  หนีข้ามน้ำมาได้สักสี่สิบห้าสิบคน  ทหารไทยไทยอีกฝั่งหนึ่งต้องยืนดูพวกเพื่อนถูกไล่ฆ่าอยู่ชายหาดหน้าเมือง  จนเจ้าพระยาบดินทร์เดชา(สิงห์)ยกทัพมารบชนะได้เมืองเวียงจันทน์  แต่เจ้าอนุหนีเข้าแดนเมืองพวนไปได้อีก  แล้วเจ้าน้อยเมืองพวนก็จับตัวได้  มีหนังสือบอกส่งตัวเจ้าอนุลงมากรุงเทพฯ

             พระเจ้าญวนก็ให้ญวนถือหนังสือเข้ามาอีกครั้ง  ว่าจะเข้ามาขอโทษเจ้าอนุ  พระยาวิชิตสงครามซึ่งตั้งอยู่ ณ เมืองหนองคายจับญวนผู้ถือหนังสือ  จึงมีหนังสือบอกมายังเจ้าพระยาบดินทรเดชา  เจ้าพระยาบดินทรเดชาตอบไปว่า ครั้งก่อนซึ่งเสียท่วงทีแก่อนุ ก็เพราะญวนเข้ามาเป็นนายหน้า ครั้งนี้จะล่อลวงอีกประการใดก็ไม่รู้ ให้จับฆ่าเสียให้สิ้น พระวิชิตสงครามจึงให้จับญวนมาฆ่าเสีย (พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเรื่อง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว) ฝ่ายพรเจ้าญวนเมื่อทราบเหตุก็ให้หาตัวเจ้าน้อยเมืองพวนไปเมืองญวน  และรับสั่งประหารชีวิตเสีย  แต่นั้นมาก็เกิดศึกญวนขึ้นเกือบตลอดรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

             ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ฝรั่งชาติตะวันตกออกหน้าเรื่องอิทธิพลอำนาจเหนือแผ่นดินแถบนี้  ตั้งใจจะครอบงำประเทศต่างๆ ในทางตะวันออกนี้  และเริ่มต้นรุกรานด้วยอุบายต่างๆ ทุกทิศทุกทาง  แต่พระปรีชาสามารถในองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงนำพาประเทศชาติได้จนตลอดรอดฝั่ง  ฝรั่งต่างชาติไม่สามารถอ้างเหตุที่จะรุกรานไทยได้เลย  ก็สงบอยู่

             จนกระทั่งเกิดศึกฮ่อขึ้นในหัวพันห้าทั้งหก  ไทยได้ส่งกองทหารขึ้นไปปราบหลายครั้ง  เมื่อฮ่อแตกหนีไปก็ซุ่มซ่อนอยู่ในป่าบ้าง  เข้าแดนญวนไปบ้าง  พอกองทัพไทยกลับลงมา  พวกฮ่อก็พากันยกกลับเข้ามาปล้นฆ่าก่อกวนอีก  เป็นอย่างนี้เรื่อยไป  จะกระทั่งฝรั่งเศสอ้างเหตุว่าไทยไม่สามารถปราบปรามฮ่อได้  และพวกฮ่อก็เข้าไปก่อกวนในแดนญวนประเทศในอาณัติฝรั่งเศสด้วย  ด้วยเหตุนี้จึงยกกองทัพรุกล้ำเข้าในพระราชอาณาเขต  อ้างว่าจะช่วยปราบปรามฮ่อ  แล้วไม่ยอมกลับออกไปจากพระราชอาณาเขต  จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ ร.ศ. ๑๑๒ ขึ้น  

             กระทู้นี้ให้ชื่อว่า ร.ศ. ๑๑๒ คัดจากประชุมพงศาวดารภาคที่ ๔  “เหตุสงครามระหว่างฝรั่งเศส” เป็นเหตุการณ์ที่ช่วยชาวไทยทุกคนได้ร่วมกันต่อสู้กับผู้รุกรานอธิปไตย  ถึงแม้อาวุธยุทโธปกรณ์จะสู้กับผู้รุกรานไม่ได้  แต่ก็มีความกล้าหาญ ความอดทนเสียสละเพื่อชาติบ้านเมืองของตนก็พอจะทดแทนส่วนที่บกพร่องได้บ้าง  บ่อยครั้งในการศึกแต่ละสนามที่ผู้รุกรานซึ่งมีอาวุธทันสมัยกว่าเพลี่ยงพล้ำให้แก่ฝ่ายเรา  แต่อย่างไรก็ตามด้วยอาวุธที่ทันสมัยกว่าฝ่ายเราจะเสียเปรียบมาโดยตลอด  จนในที่สุดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในฐานะจอมทัพไทย  ก็ทรงนำพาประเทศชาติให้รอดพ้นอีกครั้งหนึ่ง  ด้วยพระสติปัญญาความสุขุมคัมภีรภาพ  และกลยุทธที่ทุกคนต้องยกย่องพระองค์ท่าน

    ในภาวะของความขัดแย้งในบ้านเมืองอย่างทุกวันนี้  เราลองหันไปดูความสามัคคีของคนไทยสมัยนั้นดูบ้างนะครับ


    (เติมความเรื่องเจ้าน้อยเมืองพวน , แก้ "ท้าวความ")

    แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 50 13:51:33

    แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 50 09:33:13

    แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 50 13:26:41

     
     

    จากคุณ : กัมม์ - [ 25 ก.ค. 50 13:19:30 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom