คงได้เคยอ่านและเคยซาบซึ้งกับบทพระราชนิพนธ์นี้
กลัวเป็นทวิราช บตริป้องอยุธยา
เสียเมืองจึ่งนินทา บ่ละเว้นฤาว่าวาย
คิดใดจะเที่ยงแท้ ก็บ่พบซึ่งเงื่อนสาย
สบหน้ามนุษย์อาย จึงจะอุดแลเลยสูญฯ
ก่อนจะถึงจุดนี้ ต้องเท้าความกันยาว เล่าสังเขปได้ความว่า
เกิดขบถในเวียดนาม องเชียงสือหนีมาอยู่ที่ไซ่ง่อน ชาวไซ่ง่อนนับถือยกย่องให้ครองเมือง แต่ก็รักษาเมืองต่อสู้ไม่ไหว จำต้องหนีมาอยู่ที่เกาะกระบือในแดนเขมร และได้อาศัยเรือพระยาชลบุรี ซึ่งลาดตระเวนอยู่บริเวณนั้น พาครอบครัวเข้ามาพึงพระบรมโพธิสมภารในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
อยู่ได้ ๔ ปี องเชียงสือได้สัญญาจากฝรั่งเศสว่าจะช่วยกอบกู้บ้านเมืองให้ องเชียงสือเขียนหนังสือทูลลาวางไว้บนที่บูชา เนื้อความในหนังสือนั้นว่า "ตั้งแต่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ทำนุบำรุงเป็นอเนกประการ ถึงให้กองทัพไทยไปช่วยตีเมืองไซ่ง่อนพระราชทานก็ครั้ง ๑ แต่การยังไม่สำเร็จ เพราะกรุงเทพฯ ติดทำสงครามอยู่กับพม่า จะรอต่อไปก็เกรงว่าพรรคพวกทางเมืองญวนจะรวนเรไปเสีย ครั้นจะกราบถวายบังคมลาโดยเปิดเผยก็เกรงจะมีเหตุขัดข้องจึงหนีไป เพื่อจะไปคิดอ่านตีเอาเมืองไซ่ง่อนคืน ถ้าขัดข้องประการใดขอพระบารมีเป็นที่พึ่งทรงอุดหนุนด้วย เมื่อได้เมืองแล้วจะมาเป็นข้าขอบขัณฑสีมาสืบไป" (จากประชุมพระนิพนธ์ในสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เรื่อง ตำนานรำโคม) แล้วหนีไป ตั้งแต่นั้นมาฝรั่งเศสก็มีอำนาจในญวน
ฝ่ายไทย เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงทราบ ก็ทรงไม่อยากให้เกิดศึกขึ้นอีกทาง ในขณะที่เตรียมรับศึกพม่าอยู่ทางนี้นั้น จึงทรงพระกรุณาองเชียงสือต่อไป สนับสนุนเสบียงอาหารและศัสตราวุธตามสมควร พวกญวนที่ตามองเชียงสือเข้ามาครั้งนั้นโปรดฯ ให้ไปตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บางโพ และสืบเชื้อสายกันมาจนบัดนี้ แต่การหนีขององเชียงสือยังให้กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาททรงพระพิโรธ แล้วทรงพยากรณ์ไว้ว่า ต่อไปญวนจะทำความเดือดร้อนให้กับลูกหลานเป็นแน่
ก็เป็นจริงดังพระพยากรณ์ในกรมพระราชวังบวรฯ ในรัชกาลที่ ๓ เกิดศึกอนุเวียงจันทน์ เจ้าอนุแพ้ก็หนีไปพึ่งญวน พระเจ้าแผ่นดินญวนมีพระราชสาส์นเข้ามาทูลขอโทษเจ้าอนุ และพาเจ้าอนุมาส่งยังเมืองเวียงจันทน์ ฝ่ายแม่ทัพนายกองซึ่งรักษาเวียงจันทน์มิได้มีความระวังสงสัย พอตกค่ำเจ้าอนุและพวกก็ระดมยิงและฆ่าฟันทหารไทย หนีข้ามน้ำมาได้สักสี่สิบห้าสิบคน ทหารไทยไทยอีกฝั่งหนึ่งต้องยืนดูพวกเพื่อนถูกไล่ฆ่าอยู่ชายหาดหน้าเมือง จนเจ้าพระยาบดินทร์เดชา(สิงห์)ยกทัพมารบชนะได้เมืองเวียงจันทน์ แต่เจ้าอนุหนีเข้าแดนเมืองพวนไปได้อีก แล้วเจ้าน้อยเมืองพวนก็จับตัวได้ มีหนังสือบอกส่งตัวเจ้าอนุลงมากรุงเทพฯ
พระเจ้าญวนก็ให้ญวนถือหนังสือเข้ามาอีกครั้ง ว่าจะเข้ามาขอโทษเจ้าอนุ พระยาวิชิตสงครามซึ่งตั้งอยู่ ณ เมืองหนองคายจับญวนผู้ถือหนังสือ จึงมีหนังสือบอกมายังเจ้าพระยาบดินทรเดชา เจ้าพระยาบดินทรเดชาตอบไปว่า ครั้งก่อนซึ่งเสียท่วงทีแก่อนุ ก็เพราะญวนเข้ามาเป็นนายหน้า ครั้งนี้จะล่อลวงอีกประการใดก็ไม่รู้ ให้จับฆ่าเสียให้สิ้น พระวิชิตสงครามจึงให้จับญวนมาฆ่าเสีย (พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเรื่อง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว) ฝ่ายพรเจ้าญวนเมื่อทราบเหตุก็ให้หาตัวเจ้าน้อยเมืองพวนไปเมืองญวน และรับสั่งประหารชีวิตเสีย แต่นั้นมาก็เกิดศึกญวนขึ้นเกือบตลอดรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ฝรั่งชาติตะวันตกออกหน้าเรื่องอิทธิพลอำนาจเหนือแผ่นดินแถบนี้ ตั้งใจจะครอบงำประเทศต่างๆ ในทางตะวันออกนี้ และเริ่มต้นรุกรานด้วยอุบายต่างๆ ทุกทิศทุกทาง แต่พระปรีชาสามารถในองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงนำพาประเทศชาติได้จนตลอดรอดฝั่ง ฝรั่งต่างชาติไม่สามารถอ้างเหตุที่จะรุกรานไทยได้เลย ก็สงบอยู่
จนกระทั่งเกิดศึกฮ่อขึ้นในหัวพันห้าทั้งหก ไทยได้ส่งกองทหารขึ้นไปปราบหลายครั้ง เมื่อฮ่อแตกหนีไปก็ซุ่มซ่อนอยู่ในป่าบ้าง เข้าแดนญวนไปบ้าง พอกองทัพไทยกลับลงมา พวกฮ่อก็พากันยกกลับเข้ามาปล้นฆ่าก่อกวนอีก เป็นอย่างนี้เรื่อยไป จะกระทั่งฝรั่งเศสอ้างเหตุว่าไทยไม่สามารถปราบปรามฮ่อได้ และพวกฮ่อก็เข้าไปก่อกวนในแดนญวนประเทศในอาณัติฝรั่งเศสด้วย ด้วยเหตุนี้จึงยกกองทัพรุกล้ำเข้าในพระราชอาณาเขต อ้างว่าจะช่วยปราบปรามฮ่อ แล้วไม่ยอมกลับออกไปจากพระราชอาณาเขต จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ ร.ศ. ๑๑๒ ขึ้น
กระทู้นี้ให้ชื่อว่า ร.ศ. ๑๑๒ คัดจากประชุมพงศาวดารภาคที่ ๔ เหตุสงครามระหว่างฝรั่งเศส เป็นเหตุการณ์ที่ช่วยชาวไทยทุกคนได้ร่วมกันต่อสู้กับผู้รุกรานอธิปไตย ถึงแม้อาวุธยุทโธปกรณ์จะสู้กับผู้รุกรานไม่ได้ แต่ก็มีความกล้าหาญ ความอดทนเสียสละเพื่อชาติบ้านเมืองของตนก็พอจะทดแทนส่วนที่บกพร่องได้บ้าง บ่อยครั้งในการศึกแต่ละสนามที่ผู้รุกรานซึ่งมีอาวุธทันสมัยกว่าเพลี่ยงพล้ำให้แก่ฝ่ายเรา แต่อย่างไรก็ตามด้วยอาวุธที่ทันสมัยกว่าฝ่ายเราจะเสียเปรียบมาโดยตลอด จนในที่สุดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในฐานะจอมทัพไทย ก็ทรงนำพาประเทศชาติให้รอดพ้นอีกครั้งหนึ่ง ด้วยพระสติปัญญาความสุขุมคัมภีรภาพ และกลยุทธที่ทุกคนต้องยกย่องพระองค์ท่าน
ในภาวะของความขัดแย้งในบ้านเมืองอย่างทุกวันนี้ เราลองหันไปดูความสามัคคีของคนไทยสมัยนั้นดูบ้างนะครับ
(เติมความเรื่องเจ้าน้อยเมืองพวน , แก้ "ท้าวความ")
แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 50 13:51:33
แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 50 09:33:13
แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 50 13:26:41