ความคิดเห็นที่ 1 ว่ากันว่า หลังจากที่พระองค์ถูกสำเร็จโทษทั้งผ้าเหลืองสวรรคตแล้วมีการนำพระศพของพระองค์พร้อมทั้งศพของผู้ภักดีที่ยอมตายไปพร้อมกันไปฝังไว้ที่วัดอินทาราม บางยี่เรือ เขตธนบุรี (ถนนเทอดไทผ่านหน้าวัด) ในวัดนี้มีจารึกและอนุสาวรีย์ของพระองค์อยู่ด้วย(อันนี้ไม่ยืนยันเพราะไม่เคยเข้าไปดูให้เห็นด้วยตาตัวเอง) ว่าไปแล้ว คนไทยสมัยไหนๆก็โหดเนอะ ความดีความชอบในการกู้ชาติของพระเจ้าตากได้รางวัลตอบแทนคือความตายทั้งที่สละบัลลังก์ไปครองผ้าเหลืองแล้ว เศร้าในหฤทัยเป็นที่ยิ่ง จากคุณ : วิพิธวิสสุดา - [ วันเข้าพรรษา 07:12:28 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คัดลอกจาก พระเจ้าตากสินมหาราชแห่งชาติไทย  ส. พลายน้อยเขียน  สำนักพิมพ์ พิมพ์คำ พฤษภาคม ๒๕๕๐  หน้า ๑๖๕ "ที่หน้าพระวิหารใหญ่วัดอินทาราม ถนนเทอดไทย  บางยี่เรือ เขตธนบุรี  กรุงเทพฯ มีพระเจดีย์คู่หนึ่ง องค์ซ้ายมือยอดเป็นแบบบัวกลุ่ม  เป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เรียกกันว่า เจดีย์กู้ชาติ ส่วนองค์ทางขวามือยอดเป็นแบบปล้องไฉน เป็นที่บรรจุพระอัฐิของสมเด็จพระอัครมเหสี ส่วนที่พระอุโบสถนั้น  ตามประวัติว่าพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว   โปรดเกล้าฯให้พระยาศรีสหเทพ(ทองเพ็ง)   ซึ่งเป็นพระญาติของพระองค์เจ้าอัมพวัน ลูกเธอในสมเด็จพระเจ้าตากสิน   ได้สถาปนาขึ้นใหม่  ตรงที่เคยฝังพระบรมศพสมเด็จพระเจ้าตากสิน" จากคุณ : แสนอักษร - [ วันเข้าพรรษา 09:01:20 ]

ความคิดเห็นที่ 3 (อ้างอิงเดิม) "วัดอินทารามจึงเป็นวัดประจำรัชกาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และเป็นพระราชานุสาวรีย์ที่สำคัญของชาติ  เพราะเป็นที่ประดิษฐานสิ่งสำคัญอันเนื่องด้วยพระราชประวัติซึ่งจะหาจากที่อื่นไม่ได้ เช่น  พระแท่นบรรทม ซึ่งเป็นไม้กระดาน ๒ แผ่น   กว้างแผ่นละ ๘๘ ซม.  หนา ๕ ซม. และยาว ๒ เมตร ๔๘ เซนติเมตร มีลูกกรงทำด้วยงาช้าง   มีเสาพระวิสูตรเป็นพระแท่น.... .............. ..................... ในขณะที่ถูกคุมขังอยู่ในพระอุโบสถวัดแจ้งนั้น   พระพงษ์นรินทร์อายุ ๑๒ ปี ซึ่งเป็นพระราชโอรสก็ถูกขังรวมอยู่ด้วย สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มีประคำติดพระองค์อยู่สายหนึ่ง เป็นประคำกระดาษเลขยันต์ ลงรักปิดทองทั้ง ๑๐๘ เม็ด ก็ได้ให้แก่พระพงษ์นรินทร์ไป" อ่านเพิ่มเติมได้  http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K5640136/K5640136.html จากคุณ : แสนอักษร - [ วันเข้าพรรษา 09:20:51 ]

ความคิดเห็นที่ 4 บ้านเกิดพระเจ้าตากที่จีน มีหลุมพระศพด้วยครับ จำไม่ได้แล้วเมืองอะไร จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ วันเข้าพรรษา 13:29:21 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถามคุณแสนอักษรครับ แล้วที่มาของอำเภออุทัยที่จริงมาจากอะไรครับ เพราะเห็นโรงเรียนหลายๆโรงในอ.อุทัยเอาเรื่องที่พระเจ้าตากตีฝ่าออกไปรุ่งสว่างที่อ.อุทัยไปสอนนักเรียนกันเป็นเรื่องที่สอนกันผิดๆหรือเปล่า ที่สนใจเรื่องนี้เพราะผมเป็นเขยอำเภอนี้ครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : Cyber Sage - [ วันเข้าพรรษา 21:18:45 ]

ความคิดเห็นที่ 6 บทที่ ๔   ล่าถอยเพื่อตั้งหลัก "จดหมายเหตุความทรงจำของกรมหลวงนรินทรเทวี บันทึกเหตุการณ์ตอนพระยาตากสินหนีออกจากเมืองว่า "แผ่นดินต้นหนีออกจากเมืองกับผู้คนพรรคพวก ๕๐๐  มีปืนถือติดมือแต่ท่าน" เรียกว่า ทั้งกองทัพมีปืนเพียงกระบอกเดียว.............. ............................ ทางที่ดีควรหนีไปหาทางสู้ใหม่จะดีกว่า  หนีเพื่อสู้ไม่ใช่หนีเอาตัวรอด ...................................... ....................................... เส้นทางการเดินทัพของพระยากำแพงเพชรดังกล่าว   ปรากฏว่ามีผู้นำเอาเหตุการณ์ตอนนี้ไปเขียนเฉไฉ   อธิบายความให้เข้ากับนามตำบลและชื่ออำเภออุทัย  ให้เป็นที่มาของชื่อบ้านนามเมือง ซึ่งปรากฏข้อความดังต่อไปนี้ "(หน้า ๔๕) คำว่าอุทัย หมายถึงพระอาทิตย์แรกขึ้นหรือแสงอาทิตย์ยามรุ่งอรุณ  ชื่ออำเภอนี้มาจากเหตุการณ์ที่สู้รบกับพม่าตอนหนึ่ง  กล่าวคือ  ในพ.ศ. ๒๓๐๙............... .......จึงได้ตีฝ่าวงล้อมของพม่าในตอนกลางคืนมุ่งหน้าไปทางตะวันออก  ข้ามแม่น้ำป่าสักขึ้นฝั่งที่วัดพิชัย  และควบม้าเลียบคลองบ้านนกกระมัง  ซึ่งชาวบ้านตามรายทางได้ให้ความช่วยเหลือด้านเสบียงและอาวุธตลอดทาง พม่าได้ยกทัพไล่ตามมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีคลองแยกเป็นสามง่าม   ขณะนั้นใกล้รุ่งอรุณพระยาตากพร้อมกำลังพลตัดสินใจออกต่อสู้จู่โจมอย่างฉับพลันจนได้ชัยชนะ   จากนั้นได้เคลื่อนกำลังพลต่อไป หลังจากนั้นพระยาตากได้กลับมายังหมู่บ้านที่เคยนำทัพผ่าน  หมู่บ้านที่นำอาวุธให้ชื่อว่า หมู่บ้านธนู หมู่บ้านที่ให้เสบียงชื่อว่าบ้านข้าวเม่า หมู่บ้านที่นางโพและนายพรานร่วมใจกันสู้รบพม่าให้ชื่อว่าบ้านโพสาวหาญและบ้านพรานนก บริเวณที่นำทัพมาถึงตอนสว่างพอดีให้ชื่อว่า  บ้านอุทัย(บริเวณตำบลอุทัยในปัจจุบัน)" (หน้า ๔๕  ย่อหน้าสุดท้าย) ...................เมื่อเทียบกับพระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขาที่ยกมาในตอนต้นบท จะเห็นว่า ผิดอย่างตรงข้าม กองทัพพระยาตากเลยตำบลอุทัยไปถึงบ้ายสัมบัณฑิตตอนเที่ยงคืนและหยุดพักที่นั่น ไม่ใช่ไปสว่างที่บ้านอุทัย อีกประการหนึ่งพระยาตากตั้งค่ายอยู่วัดพิชัยแล้ว  เหตุไฉนจะให้ข้ามแม่น้ำป่าสักไปขึ้นที่ฝั่งวัดพิชัยอีก ชาวบ้านที่ให้ธนูกับข้าวเม่าก็ไม่น่าจะเป็นได้เพราะตำบลดังกล่าวพวกพม่าตระเวณไล่ล่าคนอยู่ทั่วไป   ถ้ามีข้าวเม่าอยู่ก็คงถูกขนไปหมดแล้ว ที่สำคัญคือไม่พบหลักฐานว่า  พระเจ้าตากได้เสด็จกลับไปทางนั้นอีก" ควรมิควร  ลองซื้อมาอ่านสักเล่มซิคะ คุณ Cyber Sage  ราคาเล่มละ ๑๘๐ บาท เป็นหนังสือในหมวดสารคดี  ในเครือสถาพรบุ๊คส์ แปลกที่ไม่มีจำนวนพิมพ์ ((พิจารณาดูก็ไม่น่าจะเกิน สองพันเล่ม   ในขณะที่หนังสือแฮรี่ พอตเตอร์ ฉบับแปล ประกาศว่าจะพิมพ์ สองแสน แสนอักษรจะไม่ซื้อแฮรี่ พอตเตอร์  แต่ได้ยืมไว้แล้ว ขออภัยที่ เฉไฉออกนอกเรื่อง   แบบว่า...อ่า  เจ็บใจ เป็นแค่นักอ่าน  ดันไปเจ็บใจ)) จากคุณ : แสนอักษร - [ วันเข้าพรรษา 23:42:36 ]

ความคิดเห็นที่ 7 รู้แต่ว่าเครื่องทรงของท่านถูกนำกลับไปฝังที่เมืองจีน อัฐิท่านอยู่ที่เจดีย์วัดอินทาราม แต่ที่ผมกำลังตามหาอยู่ คือ พระแสงดาบพระเจ้าตากครับ ไม่รู้อยู่ที่ไหน?ใครรู้บ้าง? เห็นด้วยครับ กองลาดตระเวนพม่าออกลาดตระเวนอยู่ทั่วไปหมด ทัพของพระเจ้าตากถึงไปปะทะกับกองทหารม้าพม่าที่บ้านพรานนก จนกองทัพไทยกำหนดให้ ๔ มกราคม เป็นวันทหารม้า วันที่ทหารม้าพระเจ้าตาก ๕ ม้า กับทหารราบ ๕๐๐ นาย รบชนะ ทหารม้าพม่า ๓๐ ม้า พลเดินเท้า ๒๐๐ นาย... จากคุณ : หมื่นแสง - [ 31 ก.ค. 50 00:10:59 ]

ความคิดเห็นที่ 8 พระองค์ท่านมีจิตวิญญาณแห่งทหารม้าในสายเลือด การเข้าประจัญบานด้วยม้าศึกเพียง ๕ ม้าต้องใช้ความรวดเร็ว เด็ดขาด รุนแรง ประดุจสายฟ้าแลบเมื่อสังหารนายกองพม่าได้ ม้าศึกอีก ๒๙ ม้าจะเสียขวัญแตกกระเจิงไปปะทะกับทหารราบพม่าทันที เพราะด้วยธรรมชาติของม้าศึกนั้นมันจะมีตัวจ่าฝูงผู้นำอยู่ เวลาเราขี่ม้าเราจะเข้าใจครับว่าม้ามันจะชอบวิ่งตามกันเป็นกลุ่ม เมื่อตัวหัวหน้าเสียขวัญแล้วลูกฝูงก็เสียขวัญตาม.....จิตวิญญาณทหารม้า...ของพระองค์ท่าน...สถิตย์อยู่ในใจทหารม้าทุกคน.... แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 50 00:19:22 จากคุณ : หมื่นแสง - [ 31 ก.ค. 50 00:17:43 ]

ความคิดเห็นที่ 9 บิดาท่านเป็นคนแต้จิ๋ว...จากอำเภอเถ่งไฮ่...จังหวัดแต้จิ๋ว...มณฑลกวางตุ้งครับ....มีหลุมศพของท่านอยู่ที่นั่น....เข้าใจว่าฝังเครื่องทรงฉลองพระองค์และพระมาลา จากคุณ : หมื่นแสง - [ 31 ก.ค. 50 00:27:08 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ตัวท่านเองมีนามว่า.....แต้อ๊วง......ในภาษาจีน กองเรือสำเภาที่เข้าโจมตีป้อมวิชัยประสิทธิ์ คือ เรือสำเภาฟูเจี้ยน เรือเร็วยกพลขึ้นบก คือ เรือขุดไม้ตะเคียน พระองค์ท่านถือได้ว่าเป็นพระบิดาของหน่วยสงครามพิเศษทางเรือและเหล่านาวิกโยธิน จากคุณ : หมื่นแสง - [ 31 ก.ค. 50 00:35:19 ]

ความคิดเห็นที่ 11 จะว่าไปพม่ารุกรบมาขนาดนั้น บ้านธนูบ้านข้าวเม่า ไม่น่ารอด ผมไปเจออีกข้อมูลหนึ่งครับ...สมรภูมิบ้านคู้ลำพัน...เห็นบอกว่าเป็นที่ทหารของท่านพักทัพนั่งรำพันอยู่..เป็นที่มาของชื่อ คู้ลำพัน อันนี้จริงไม่จริงไม่รู้ เป็นคำเล่าชาวบ้าน...แต่ก็น่าค้นคว้าดี... แต่ถ้าเป็นผมคงไม่มานั่งรำพันอยู่ริมคลองเป็นแน่ เพราะพม่ากำลังไล่ล่าอยู่...เล่าสู่กันฟังสนุกๆครับ...น่าค้นคว้าดี จากคุณ : หมื่นแสง - [ 31 ก.ค. 50 00:52:17 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ((พิจารณาดูก็ไม่น่าจะเกิน สองพันเล่ม   ในขณะที่หนังสือแฮรี่ พอตเตอร์ ฉบับแปล ประกาศว่าจะพิมพ์ สองแสน แสนอักษรจะไม่ซื้อแฮรี่ พอตเตอร์  แต่ได้ยืมไว้แล้ว ขออภัยที่ เฉไฉออกนอกเรื่อง   แบบว่า...อ่า  เจ็บใจ เป็นแค่นักอ่าน  ดันไปเจ็บใจ)) นอกเรื่องนิดครับ อิๆๆ แต่อ่านความเห็นคุณแสนอักษร แล้วโดนเหมือนกัน อิๆๆๆ จากคุณ : experimental - [ 31 ก.ค. 50 08:12:56 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อืมม์...เรื่องบ้านหันตราในหนังสือของคุณส.พลายน้อย นี่ใช่ที่เดียวกับทุ่งทหารกล้า ที่เคยเป็นที่ซ้อมรบของทหารอยุธยารึเปล่านะ เป็นชัยภูมิจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมากจริงๆ.... จากคุณ : หมื่นแสง - [ 31 ก.ค. 50 09:24:11 ]

ความคิดเห็นที่ 14 บ้านโพธิ์สาวหาญ ชาวบ้านเล่าว่า ผู้หญิงในหมู่บ้านร่วมมือกันรบกับพม่า เพราะผู้ชายตายหมดแล้ว บ้านสามบัณฑิต ชาวบ้านเล่าว่า พระสามรูปสึกมารบกับพม่า บ้านหนองไม้ซุง ชาวบ้านเล่าว่า เป็นไม้ซุงที่ใช้สร้างค่ายของพระยาตาก บ้านข้าวเม่า เป็นขนอนเก่าของอยุธยา ปรากฏชื่อในคำให้การหลวงประดู่ทรงธรรม ว่า "ขนอนบ้านเข้าเม่า" ชื่อ "แขวงขุนอุทัย" มีมาทำเนียบการแบ่งเขตปกครองมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา หรือจะเป็นเขตมูลนาย-ไพร่ ในความดูแลของ ตำแหน่ง"ขุนอุทัย" ทางทิศตะวันออก( อุทัย) ของพระนคร จากคุณ : วรณัย - [ 31 ก.ค. 50 10:29:11 ]

ความคิดเห็นที่ 15 (อ้างอิงเดิม  หน้า  ๑๕๗) "ในวันรุ่งขึ้น  วันอาทิตย์ เดือน ๔ แรม ๑๒ ค่ำ(วันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๓๒๔) จึงโปรดให้ไปนิมนต์พระสังฆราช  พระวันรัตน และพระรัตนมุนี ให้ออกไปเจรจาความเมืองกับพระยาสรรค์   ทรงรับสารภาพผิดยอมแพ้  ขอแต่ชีวิต  จะออกบรรพชา   พระยาสรรค์ก็ยอม ในวันนั้นค่ำลง เพลายามเศษ  สมเด็จพระเจ้าตากสินจึงออกทรงพระผนวช ณ พระอุโบสถวัดแจ้ง  พระยาสรรค์ก็ให้ทหารไปล้อมพระอุโบสถวัดแจ้งไว้อย่างแน่นหนามิให้หนีออกไปได้ .................... ................. ........... พอพระยาสรรค์รู้ข่าวก็ให้ไปเชิญพระยาสุริยอภัยมาปรึกษาข้อราชการ  แจ้งว่าได้จัดการบ้านเมืองไว้ถวายเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก แล้วพระยาทั้งสองได้ตกลงกันให้สมเด็จพระเจ้าตากสินลาสิกขาจับพันธนาการไว้" (หน้า ๑๖๖) วาระสุดท้ายของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเป็นปัญหาถกเถียงกันอยู่สองเรื่อง  เรื่องหนึ่งคือ วิธีประหารชีวิต พงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขาว่า  "ตัดศีรษะ" ......................... ............................................ ...............................   ส่วนที่เชื่อว่าเป็นการประหารด้วยท่อนจันทน์ ตามพระราชประเพณีก็มี" ขออภัยที่คัดลอกมาไม่เต็มที่  เพราะเจตนา คือ ชวนให้ไปหาหนังสือมาอ่านเท่านั้น ประทับใจในความทรงจำของคุณลุงสมบัติ  พลายน้อย  อายุ ๗๙ ชอบชื่อโบราณ  มีสง่าเหลือหลาย  บ้านโพธิ์สาวหาญ   บ้านสามบัณฑิต     สาธุ สมควรยิ่งแล้ว จากคุณ : แสนอักษร - [ 31 ก.ค. 50 11:42:21 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณ คุณแสนอักษรและทุกท่านที่มาให้ข้อมูล ส่วนตัวผมค่อนข้างจะเห็นด้วยกับข้อแย้งที่คุณแสนอักษรกล่าวถึงเรื่องการตั้งชื่อตำบล เพราะตำบลแถบนั้นอยู่ห่างจากเกาะอยุทธยาตั้งแต่5-20นาทีขับรถในปัจจุบันหรือน่าจะเป็น15นาที-2ชั่วโมงขี่ม้าในสมัยโบราณชื่อชุมชนต่างๆน่าจะมีอยู่เดิมแล้วนอกจากว่าจะมีการเปลี่ยนชื่อกันตอนนั้นซึ่งไม่น่าจะมีเวลามาวุ่่นวายเกี่ยวกับเรื่องเปลี่ยนชื่อชุมชนในยามหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนั้น จากคุณ : Cyber Sage - [ 31 ก.ค. 50 18:16:47 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ตามความเห็นด้านบนครับ จากคุณ : สะตอคุง - [ 31 ก.ค. 50 18:25:40 ]

ความคิดเห็นที่ 18 วัดแจ้งที่ว่านี่ หมายถึงวัดอรุณ (กรุงเทพ) ใช่มั้ยค่ะ ไม่ทราบว่ายังมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์อื่น ๆ เกี่ยวกับพระเจ้าตากที่นี่อีกหรือเปล่า จากคุณ : catty ขี้สงสัย - [ 31 ก.ค. 50 23:09:19 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เคยอ่านเจอบทความในไทยรัฐครับ เรื่องวัดหงส์ที่อยู่ใกล้ๆกัน ที่เล่ากันว่าตอนหามพระบรมศพผ่านหน้าวัดเลือดของพระองค์หยดลงบนพื้นดินหน้าวัด คนจีนที่ตามเสด็จเลยกอบดินเปื้อนเลือดมาปั้นเป็นรูปเคารพท่านไว้ เขตกองทัพเรือ ป้อมวิไชยประสิทธิ์ พระราชวังเดิม ผมว่ารูปปั้นที่วงเวียนใหญ่แล้วก็หน้าป้อมวิไชยประสิทธิ์ปั้นเหมือนพระองค์ท่านจริงๆ ไปกราบสักการะได้ครับ จากคุณ : หมื่นแสง - [ 1 ส.ค. 50 05:54:21 ]

ความคิดเห็นที่ 20 #18 วัดแจ้ง ที่หมายถึงวัดอรุณนั้น เป็นเรื่องการหลบหนีพม่า ของนายสุจินดา ครับ หนีมาแจ้งที่วัดอรุณ จากคุณ : วรณัย - [ 1 ส.ค. 50 08:34:07 ]

ความคิดเห็นที่ 21 # 20 วัดแจ้งนั้นว่า สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเสด็จฯ มาถึงหน้าวัดตอนรุ่งเช้าพอดีจึงเปลี่ยนชื่อจากวัดมะกอก เป็นวัดแจ้งมิใช่หรือ  ส่วนนายสุดจินดานั้นล่องเรือมายามค่ำผ่านหน้าวัดสลักได้อธิษฐานขอให้ผ่านด่านพม่าไปได้โดยปลอดภัยแล้วจะกลับมาปฏิสังขรณ์วัด ซึ่งต่อมาก็คือวัดมหาธาตุในปัจจุบัน มิใช่หรือคร้าบ จากคุณ : น้องหมูแดง - [ 1 ส.ค. 50 15:46:39 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ชีวิตท่านผูกพันกับวัดอินและวัดแจ้ง..ในวาระสุดท้ายก่อนการรัฐประหารกรุงธนบุรี๒๓๒๕ ว่ากันว่าท่านถูกกักตัวอยู่ในโบสถ์เล็กๆที่วัดแจ้ง ก่อนนำตัวไปสำเร็จโทษที่ป้อมวิไชยประสิทธิ์ แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 50 23:44:05 จากคุณ : หมื่นแสง - [ 1 ส.ค. 50 20:25:03 ]

ความคิดเห็นที่ 23 #21 ถูกต้องตามคุณน้องหมูแดงเลยครับ ท่านสุจินดามาหยุดที่วัดแจ้งในตอนค่ำครับ ไปหลบที่วัดสลัก แล้วคว่ำเรือ เอาสวะคลุมหัว  ว่ายกลับมาที่วัดแจ้งอีกครั้งตอนสองยาม คืนนั้นก็ไม่รู้ว่าจะไปสว่างที่ไหน รู้ว่าผ่านวัดสังข์กระจาย ... จากคุณ : วรณัย - [ 2 ส.ค. 50 20:37:36 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ท่านสุดจินดาท่านอาจเอาพวก กอกก กออ้อ กอบอน มาคลุมหัวก็ได้นะพี่ท่าน หรือเอาดินโคลนพอกหน้าพอกตาพรางตัว อิ..อิ...พอดีเห็นในละครประวัติศาสตร์พวกผู้กำกับแกชอบให้ท่านพระยาสุรสีห์เอากอผักตบชวามาคลุมหัวจังเลย เพราะว่าตามประวัติกล่าวว่า ผักตบชวาเริ่มเข้ามาในเมือง ไทยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 คือในปีพ.ศ.2444โดยครั้งนั้นเจ้า นายฝ่ายในตามเสด็จประพาสที่ประเทศอินโดนีเซีย พอดีท่านฝ่ายในได้เห็นพืชชนิดนี้ออกดอกสวยงาม จึงได้แยกต้นกลับมาปลูกที่เมืองไทย และใส่อ่างดินเลี้ยงไว้หน้าสนามวังสระปทุม ต่อมาเกิดน้ำท่วมวังสระปทุมทำให้ผักตบชวาเลยลอยกระจายไปตามแม่น้ำลำคลองสาธารณะและ แพร่พันธุ์จำนวนมาก กลายเป็นปัญหาอุปสรรคต่อการคมนาคม ทางน้ำ และการระบายน้ำทางชลประทานนับแต่นั้น ....ตั้งข้อสังเกตเล่นๆนะขอรับ..ไม่มีอะไร...ขอรับ...น้อมรับความรู้จากทุกท่าน..... แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 50 23:58:22 จากคุณ : หมื่นแสง - [ 2 ส.ค. 50 21:39:29 ]

ความคิดเห็นที่ 25 จะว่าไปการยกทัพทางเรือตามลำน้ำสมัยโบราณนี่อันตรายนะครับ เพราะไม่ค่อยมีวัชพืชน้ำให้พรางตัวมากเหมือนสมัยนี้ เพราะสมัยนี้เห็นพวกรบพิเศษเวลาฝึกรบตามแนวลำน้ำมีอะไรๆให้พรางตัวได้เพียบ.. จากคุณ : หมื่นแสง - [ 2 ส.ค. 50 21:46:23 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ละครเรื่องฟ้าใหม่เมื่อสองสามปีที่แล้ว เห็นกันจะๆเลยเรือพระเจ้าตากกับเรือเจ้าคุณเพชรบุรีแล่นออกจากที่ซ่อนกอผักตบชวา...เลยฉุกคิดขึ้นมาได้ นี่ถ้าผักตบชวาแพร่พันธุ์ตั้งแต่สมัยอยุธยาทั้งพม่าทั้งเราคงรบกันดุกว่านี้ ต่างฝ่ายต่างแต่งกองโจรว่ายเข้าหาเรือข้าศึกฆ่ากันเป็นว่าเล่นล่ะ พระยาสุรสีห์ท่านกล้าหาญจริงคว่ำเรือลอยคอไปตามลำน้ำถ้ากองเรือพม่าเกิดสงสัยกักเรือนั้นไว้โฉมหน้าประวัติศาสตร์คงเปลี่ยนไปนะครับ จากคุณ : หมื่นแสง - [ 2 ส.ค. 50 23:56:50 ]