ความคิดเห็นที่ 4
ก่อนจะกล่าวถึงว่า ปัจจุบันคำว่า "Siam" ยังเป็นที่รู้จักในต่างประเทศมากน้อยแค่ไหน ขอเชิญอ่านรายละเอียดในเรื่อง สยาม-ความเป็นมาในภาษาไทย จากหนังสือความเป็นมาของคำสยาม, ไทย, ลาว และขอม และลักษณะทางสังคมของชื่อชนชาติ โดย จิตร ภูมิศักดิ์ ๑ ในหนังสือ ๑๐๐ เล่มที่คนไทยควรอ่าน (พ.ศ. ๒๔๐๘-๒๕๑๙) งานวิจัย ของ วิทยากร เชียงกูล ผู้อำนวยการ ศูนย์วิจัยสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมกับคณะวิจัยอีก ๑๐ ท่าน ชื่อ "โครงการวิจัยเพื่อคัดเลือกและแนะนำหนังสือดีในรอบศตวรรษ" ซึ่งได้รับการสนับสนุน จากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๔๐-๒๕๔๑
ชื่อที่ชนต่างชาติเรียกคนไตว่า ซาม-เซียม นั้น ปรากฏขึ้นในภาษาไทยทางวงการนักปราชญ์ภาษาบาลีก่อน คือเรียกเป็นภาษาบาลีว่า สาม หรือ สฺยาม
สามเทสะ หรือ สยามเทสะ เคยปรากฏมาแล้วในศตวรรษที่ ๑๖ โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ลำพูน (หริภุญชัย) สมัยพระเจ้าอาทิตยราชเป็นกษัตริย์ ในราวระยะ พ.ศ. ๑๕๐๐-๑๕๕๐ ซึ่งในระยะเดียวกันนั้นเอง เราได้พบ สฺยำ-สฺยามฺ ในจารึกจามปา. และก่อนหน้านั้นขึ้นไปจนถึงใน พ.ศ. ๑๑๘๒ เราก็ได้พบชื่อ สฺยำ ในจารึกเขมรสมัยก่อนนครหลวง. ยุคนั้น สามเทสะ หรือ สยามเทสะ ใช้อยู่ในบริเวณล้านนาเท่านั้น ยังไม่คลุมลงมาถึงแคว้นละโว้ทางใต้.
ตกมาถึงสมัยสุโขทัย ศูนย์กลางอำนาจของไทยภาคเหนือกระจายออกเป็นนครรัฐขนาดเล็กหลายนครรัฐ เช่น เชียงใหม่, เชียงแสน, ลำพูน, ลำปาง, แพร่, น่าน, พลัว (ปัว) ฯลฯ. อำนาจทางการเมืองที่รวมศูนย์ที่สุดและกว้างขวางที่สุดคือ สุโขทัย. ซึ่งยังมิได้รวมถึงแคว้นละโว้. คำว่า สามเทสะ หรือ สยามเทสะ จึงเคลื่อนลงมาหมายถึงกรุงสุโขทัยหรืออาณาจักรสุโขทัย. ระยะนี้เองที่จีนเรียกสุโขทัยว่า ประเทศเซียน, ซึ่งก็หมายถึง สฺยาม.
สามเทสะ หรือ สยามเทสะ ใช้หมายถึงสุโขทัยอยู่ไม่นานก็เลื่อนความหมายลงมายังลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา. เมื่อกรุงศรีอยุธยาเกิดเป็นศูนย์กลางขึ้นในแคว้นละโว้เดิมใน พ.ศ. ๑๘๙๓ และได้ยึดครองเอาอาณาจักรสุโขทัยเข้าไว้เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรในต้นพุทธศตวรรษที่ ๒๐, คำว่า สยาม ก็เลื่อนลงมาหมายคลุมหมดทั้งสุโขทัยและศรีอยุธยา, และมีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงศรีอยุธยาแห่งเดียว.
เมื่อศูนย์กลางของสยามเลื่อนมาอยู่ที่กรุงศรีอยุธยาแล้ว, ทางอยุธยาก็เลยผูกขาดคำว่า สยาม เสียเลย ว่าจะต้องหมายความเพียงในขอบเขตอาณาจักรศรีอยุธยาเท่านั้น. พวกคนไทยในภาคเหนือ ในเขตแคว้นลำพูน-เชียงใหม่ ซึ่งเคยเป็น สามเทสะ มาแต่อดีตนั้น ถูกกีดกันออกไปนอกวงนอกชื่อ, ไม่ยอมเรียก สยาม หากเรียกว่า ยวน (คือไทยโยนก-ไตโยน) ในลิลิตยวนพ่าย มีโคลงบอกไว้ท้ายเรื่องบทหนึ่งว่า :
สยามกวนยวนพ่ายแพ้ ศักดยา......
ในที่นี้ สยาม คืออาณาจักรศรีอยุธยา คือ คนไทยใต้, ส่วนยวนคือคนไทยพายัพ หรือ ไตโยน (ไทยโยนก). ชื่อ ยวนพ่าย ก็หมายถึงชาวยวนหรือไทยโยนกนี้เอง.
ในระยะ พ.ศ. ๑๙๕๐ ลงมา ไทยเราเริ่มได้ติดต่อกับประเทศทางยุโรป เริ่มต้นด้วย โปรตุเกส, เดนมาร์ก ต่อมาก็ฮอลันดา, ฝรั่งเศส และอังกฤษ. ฝรั่งเหล่านั้นคืบคลานผ่านอินเดีย, พม่า-มอญ และชวา-มลายู เข้ามายังไทยแห่งกรุงศรีอยุธยา จึงพากันเรียกคนไทยอยุธยาว่า เซียม (Siam) ตามคำของชนชาติต่าง ๆ ในบริเวณนี้. ขณะเดียวกันก็ถือเอาคำ เซียม (Siam) เป็นชื่อเรียกอาณาจักรศรีอยุธยาไปด้วย. (อังกฤษเป็นพวกมาทีหลัง เห็นทีจะไม่รู้ว่า Siam นั้นประสงค์จะให้ออกเสียง เซียม หรือมิฉะนั้นก็ออกเสียงไม่ถนัดปาก จึงเอาไปอ่านเป็น ไซเอิม หรือ ไซแอม แปลกพวกออกไป) แต่แม้ว่าพวกฝรั่งที่เข้าติดต่อค้าขายจะเรียกอาณาจักรกรุงศรีอยุธยาว่า Siam, ทางไทยก็ยังไม่สนใจที่จะใช้นาม สยาม หรือ สามเทสะ เป็นชื่อประเทศในการติดต่อต่างประเทศ. ยังคงเรียกตัวเองวา กรุงเทพมหานครศรีอยุธยา หรืออะไรที่ยืดยาวทำนองนั้น โดยมีชื่อ ศรีอยุธยา อยู่ข้างใน. เช่นใน "พระราชสาส์นและราชมงคลประณามการ" ของพระเอกาทศรถซึ่งมีส่ง "ไปถึงทองฝิหลิบพระยาประตุการ" (Don Philippe แห่งโปรตุเกส) เมื่อราว พ.ศ. ๒๑๖๑, เรียกประเทศทั้งสองว่า :
"แผ่นดินเมืองประตุการแลแผ่นดินกรุงพระมหานครทวารวดีศรีอยุธยา."
(จาก การต่างประเทศในแผ่นดินพระเอกาทศรถ, ขจร สุขพานิช, วารสารศิลปากร ปีที่ ๔ เล่ม ๔, มกราคม ๒๕๐๔)
คำ สยาม ที่ใช้เป็นชื่อเรียกอาณาจักรทั้งหมด โดยใช้เป็นทางการอย่างเด็ดขาด แทนคำว่า กรุงเทพมหานครฯ นั้น มาเริ่มในสมัยรัชกาลที่ ๔. หลังจากสมัยรัชกาลที่ ๔ แล้ว คำ สยาม ก็ใช้เป็นชื่อของราชอาณาจักรไทยเรื่อยมา. รัชกาลที่ ๕ เมื่อลงพระนามก็มักใช้คำว่า สยามมินทร์ (ผู้เป็นใหญ่แห่งสยาม) แต่ถึงอย่างไรก็ตามความหมายของคำว่า สยาม ก็ยังคับแคบอยู่เพียงบรรดาหัวเมืองที่ขึ้นตรงต่อราชสำนักสยามเท่านั้น ส่วนเมืองที่เป็นประเทศราชอย่างประเทศเชียงใหม่, หรือเมืองที่เป็นนครรัฐ อย่างนครลำพูน ยังมีฐานะเป็นเมืองของท้าวพระยาสามนตราช มิได้รวมอยู่ในความหมายของคำ สยาม, หากรวมอยู่ในเขตอิทธิพลทางการเมืองของสยาม.
ข้อนี้จะเห็นได้ชัดจากเอกสารทางราชการเก่า ๆ ในยุคนั้นเช่นในสำเนาร่างประกาศตั้งกงสุลเมืองสิงคโปร์ สมัยรัชกาลที่ ๔ พ.ศ. ๒๔๐๖ ดังนี้ :
"สมเด็จพระปรเมนทรมหามกุฎ พระจอมเกล้าเจ้ากรุงสยามซึ่งเป็นพระเจ้าแผ่นดินใหญ่ที่ ๔ ในพระบรมราชวงศ์นี้ และเป็นเจ้าเป็นใหญ่ครอบครองพระราชอาณาจักรสยามราษฎร แวดล้อมด้วยนานาประเทศราชชนบทต่าง ๆ ทุกทิศ คือ ลาวโยน ลาวเฉียง ในทิศพายัพแลอุดร ลาวกาวแต่ทิศอีสานจนบูรพ์ กัมโพชาเขมรแต่บูรพ์จนอาคเนย์ เมืองมลายูเป็นอันมากแต่ทิศทักษิณจนหรดี แลบ้านเมืองของกะเหรี่ยงบางเหล่าแต่ทิศปจิมจนพายัพและข่าซองและชาติต่าง ๆ อื่น ๆ อีกเป็นอันมาก...."
จะเห็นว่า ข้อความตัวหนานั้น คือการพรรณนาถึงพวกเมืองขึ้น ดังมีรายการต่อไปอีกยืดยาว. ดูตามนี้แล้ว บริเวณที่เรียกว่าสยามแท้ ๆ (Siam proper) คือบริเวณภาคกลางของประเทศไทยเท่านั้น นอกนั้นออกไปคือ ประเทศราชชนบทต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้อำนาจการปกครองทางการเมืองของสยาม.
จากคุณ :
เพ็ญชมพู
- [
6 ก.ย. 50 15:04:11
]
|
|
|