ความคิดเห็นที่ 1 อยากอ่านอยากได้ยินชีวิตนักแปลของพี่ๆทุกท่าน หวังจะเห็นบอร์ดนี้เป็นที่พูดคุยกันไม่ใช่แค่ที่ถามแกรมม่า เพราะผมว่าวงการนี้มันก็มีแต่พวกเรานี่แหละ ที่กล้าลุยในสิ่งที่ตนรัก โย่ววว!!!! ปล - มีใครเวลาดูหนังแล้วอ่านซับแปลผิดแล้วหงุดหงิดบ้าง? ไม่ใช่ว่าจะติเค้านะ เพราะเราเข้าใจถึงภาวะการทำงานของนักแปล ว่ามันเร่งด่วนเพียงใด ตึงเครียดเพียงใด ย่อมมีผิดพลาดเป็นของธรรมดา แต่เรารู้สึกเหมือนเป็นการกระตุ้นตนเองว่าให้ระวังให้มาก ถ้าจะพลาด..ก็ต้องพลาดให้"เนียน" อิอิ จากคุณ : NAKORN66 - [ 9 ก.ย. 50 11:47:13 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อ่านชีวิตคุณกรแล้วสนุกดีค่ะ จะรออ่านกระทู้ี้นี้ต่อ จากคุณ : rien - [ 9 ก.ย. 50 12:21:57 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณนะครับคุณ rien ว่างๆก็มาจ๊ะจ๋าจุ๊บๆกันได้นะครับ ความฝันของผมคือการไต่เต้า (ว้าว @_@) ไปเป็นนักแปลบทภาพยนตร์ลงโรงให้จงได้ ไม่รู้ต้องไปหาดาบศักดิ์สิทธิ์ปักหินที่ไหน หรือต้องไปหากุนซือรอหน้าบ้าน3วันที่ใด ผมเคยไปยื่นใบสมัครให้บริษัทยักษ์ใหญ่(อ้วนๆเลยแหละ) ที่นำเข้าหนังฝรั่งเข้าโรงในไทย แต่ก็อย่างว่าแหละนะครับ เดินดุ่มๆเข้าไป อย่าว่าแต่จะขอทดสอบเลย เค้ามีมืออาชีพอยู่แล้ว เค้าจะมาสนใจหมูดำใส่เสื้อเชิ้ตปอนๆทำไม (แม้นว่าหน้าตาจะหล่อล่ำดำเตี้ยเหมือนเบน ชลาทิศ ก็ตาม) อยากพัฒนาฝีมือในหนังทุกด้าน ซึ่งทุกวันนี้ก็ได้สัมผัสมาแล้วทั้ง แอคชั่น ไซไฟ สยองขวัญ จุ๊บๆ ยะโฮ่ อะโด้เฮ้ และอะไรอีกหลายแนวที่อธิบายเป็นภาษามนุษย์ไม่ได้ 5555555555+ สู้ต่อไป ทาเกชิ!!!! จากคุณ : NAKORN66 - [ 9 ก.ย. 50 12:58:25 ]

ความคิดเห็นที่ 4 โอกาสจะมาเยือนผู้ที่พร้อมเท่านั้น มีความสนใจ มีความมุ่งมั่น ก็เดินหน้าไป ขอให้โชคดี จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 9 ก.ย. 50 14:38:31 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แม้แต่ตอนนี้ผมก็กำลังนั่งแปลงานสารคดีชิ้นหย่าย (ก้นบะเริ่ม) อยู่ที่มหาลัยสวนดุสิต เอาแลบท็อปมานั่งงุงิขโมยไฟใช้ นั่งตากแอร์ สบายแฮ รอแฟนเรียนอยู่นะครับเนี่ย ใครอยู่แถวนี้มาเจอกันได้นะ ผมคือบุรุษที่เป่งประกายสีม่วงรุ้งทองแถมฟ้าคราม ผมสยาย กล้ามเป็นมัด มีลายสักรูปหมีแพนด้าแคะขี้มูก พร้อมแล็บท็อปรุ่นใหม่ลัมโบกินี่ ตะโกนเรียกชื่อผม "ริคาโด้"!!! แล้วถ้าผมหันมายักคิ้ว ก็ใช่เรยยยยยย!!!! ปล - อย่าบ้าตามผมนะครับ 55555555555+ จากคุณ : NAKORN66 - [ 9 ก.ย. 50 15:34:28 ]

ความคิดเห็นที่ 6 หาคนหน้าแบบนี้น่ะครับ นั่งแปลงานอยู่ อิอิ จากคุณ : NAKORN66 - [ 9 ก.ย. 50 15:36:12 ]

ความคิดเห็นที่ 7 : ) อารมณ์ดีจังค่ะ จากคุณ : Mutation - [ 9 ก.ย. 50 20:02:29 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คุณกรเขียนสนุกจังเลย ถ้าแปลหนังคงสำนวนเด็ดจริงๆ...นั่นน่ะสิบอร์ดนี้ไม่ค่อยมีนักแปลมืออาชีพคุยกัน ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่หัดแปลหรือกำลังเรียนภาษาอังกฤษเข้ามาถาม   พวกเซียนเหยียบเมฆถือแซ่ทั้งหลายที่บินเข้ามาตอบ ก็ล้วนแต่เป็นมืออาชีพด้านอื่นที่ไม่ได้ทำงานแปลเป็นงานหลัก หรือเป็นคนอยู่ต่างประเทศ หรือ retired แล้ว ที่ตอบเล่นๆแก้เหงา หรือตอบเพื่อตัวเองจะได้ค้นคว้าข้อมูล (ซึ่งเป็นการหาความรู้ให้ตัวเองด้วย) เวลาตอบ กันเสียเป็นส่วนใหญ่ เรื่องแปลหนังโรงใหญ่นั้น เท่าที่รู้ว่า เท่าที่เป็นอยุ่ในขณะนี้นะ รู้สึกว่า หน้าใหม่ๆถึงจะเก่งมากๆ ก็ท่าทางจะยากที่จะเข้าสู่วงการ เนื่องจากขาโจ๋วเก่าๆ เขากำงานไว้ในมือหมดแล้ว เมื่อกำไว้เยอะๆก็จะ subcontract งานออกไป...เราไม่อยากพูดมากเรื่องนี้อีกเนื่องจากเคยเป็นกระทู้ร้อนแรงถึงกับยกพวกตีกัน ด่ากันหยายๆคายๆเป็นหลายๆร้อยความคิดเห็นกันมาแล้ว (เหตุเกิดเมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว) ..ก็เลยเพียงแค่หวังว่าอะไรๆในอนาคตอนางออันใกล้ๆนี้มันคงจะเปลี่ยนแปลงไปในทางทีดี ที่โปร่งใสกว่านี้บ้างเพื่อให้คนรุ่นใหม่ๆหน้าใหม่ๆไฟแรงๆอย่างน้องกรประสบความสำเร็จได้อย่างงดงามสมดั่งความตั้งใจ ส่วนการแปลหนังสือนั้น มันก็ไม่ใช่ว่าจะทำเงินได้มากนัก ส่วนใหญ่คนที่กระเหี้ยนกระหือรือจะแปลให้ได้นั้น มันได้ self satisfaction ยังไงล่ะ คือดีใจที่รังสรรค์อะไรสวยๆงามๆออกมาแล้วตัวเองอ่านแล้วชื่นใจ หรือได้ยินคนอ่านพูดว่าอ่านแล้วพอใจ นักแปลก็ปลื้มเท่านั้นเอง  หรือบางทีแปลๆไปแล้วเจออะไรหินๆเข้าจนซึมเศร้าไปหลายวัน แล้วพอนอนๆฝันเห็นเจ้ามาเข้าทรงใบ้หวย...เอ้ย...บอกใบ้ใบคำแปลให้...ก็เป็นประสบประการณ์ที่ทำให้มีความสุขแบบหลุดโลกไปได้อีกอย่างหนึ่ง บอร์ดนี้บางครั้งนักแปลมืออาชีพปลดล็อกอินเข้ามาถามก็มีนะ แต่ก็มีคนช่วยๆกันตอบไป แต่นักแปลที่เข้ามาไม่ค่อยพูดคุยเรื่องว่าไปหางานที่ไหนมา ซึ่งก็น่าเห็นใจเขา นั่นก็คงเป็นเพราะงานแต่ละอย่างกว่าจะหาได้มันก็แสนจะลำบากเลือดตาแทบกระเด็น... ก็เลยบางทีนะ...บางคนต้องเก็บไว้เป็น trade secrets ว่ามี knowhow อะไรหรือมี knowwho อะไรบ้าง ซึ่งนี่ก็เป็น sensitive issues ที่เพิ่งมีการยกพวกถล่มกันมาเมื่อเร็วๆนี้ จนเป็นที่สยองขวัญของบรรดาชาว pantip จนไม่ค่อยมีใครกล้าเข้ามาในยำภาษา   หลังจากที่ตัวเองบอบช้ำจากการได้งานแปลราคาถูกๆมานาน จนแปลๆไปแล้วถึงขั้นชีวิตครอบครัวล่มสลาย (เลิกกับแฟนเก่า) แล้วตัวเองกลายเป็นป่วยด้วย alcoholism แล้วเครียดๆเที่ยวไปเขียนกระทู้ล่อเป้า จนเป็นที่เกลียดชังของบรรดาเหล่านักแปลด้วยกันบ่อยๆ เราเพิ่งอาศัยเพื่อนๆ พี่ๆน้องๆ ที่เมตตาพาไปสั่งไปสอนให้เลิกอ่อนหัด โดยสอนเราให้รู้ว่า big companies หลายๆแห่งนั้น ไม่ deal with translators โดยตรง หากแต่ deal with companies ที่เป็น contractors และงานแปลชิ้นใหญ่ๆของหน่วยงานใหญ่ๆ ก็มีการฮั๊วงานกันเหมือนๆกับการประมูลงานราชการ...ก็เลยพอที่จะรู้ทางหนีทีไล่บ้าง แต่จะดำเนินการอย่างไรนั้น ก็ต้องหุบปากเอาไว้ก่อนเพราะกลัวโดนพรรคเพือกรุมเหยียบอกเอาข้อหาปากไม่มีหูรูด...แฮ่ๆๆๆ.... สิ่งที่ทำให้นักแปลสะบักสะบอมนั่นก็คือการโดนตัดราคา และการไม่มีอำนาจต่อรอง ยกตัวอย่างเช่น ถ้ารับสอนภาษาอังกฤษ พอนักเรียนสมัครเรียนครูก็เก็บเงินนักเรียนก่อนได้เลย  แต่รับแปลเอกสารนะ กว่าจะแปลเสร็จ กว่าจะวางบิล กว่าจะเก็บเงินได้นะ นักแปลถ้าสายป่านไม่ยาวแทบไม่มีข้าวสารกรอกหม้อ ไอ้ครั้นจะเอาเงินค่าแปลไวๆก็ต้องไปรับช่วงต่อจากบริษัทแปลหรือจากบริษัทนายหน้า (อาจเป็นพวกบริษัทจัดหางาน) ซึ่งนักแปลก็จะโดนกินหัวคิวบางครั้งถ้าโดนตัดราคาหรือโดนกินหัวคิวมากๆนักแปลถึงขั้นต้องรีบแปลจนแปลผิดไปเลยก็มี (ม่ายงั้นทำเงินได้ไม่ไวเหมือนชื่อบะหมี่ ทำให้ชักหน้าไม่ถึงหลัง เสียสุขภาพจิต) ดังนั้นการรวมตัวกันของนักแปลที่มีความสามารถไล่เลี่ยกันในเรื่องที่ต้องแปลบ่อยๆ แต่เก่งกันคนละ specialized fields  นั้น ก็น่าจะเป็นผลดี แต่คนในบอร์ดนี้ก็ไม่เคยรวมตัวกันได้ถึงขั้นนั้น  เนื่องจากพวกเซียนในนี้ไม่ได้มีอาชึพหลักเป็นนักแปล และพวกที่มีอาชีพหลักเป็นนักแปลต่างก็ไม่ได้เปิดเผยสถานภาพตนเองมากนักว่าแปลอะไร ทำงานให้ใคร ได้งานมาอย่างไร นั่นเอง...ทั้งนี้ ก็ด้วยเหตุตามที่ได้กล่าวมาแล้วนั่นเอง... นี่เป็นการแนะนำให้น้องกรรู้ข้อมูลของยำภาษาโดยสังเขป แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 50 21:24:31 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 9 ก.ย. 50 21:05:38 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ข้อเีขียนพี่แท่นวันนี้อ่านเข้าใจง่ายดีง่ะ จากคุณ : rien - [ 10 ก.ย. 50 00:31:14 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ยำภาษา โอ้ว - -" สรุปว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหมือนไข่ดาวยางมะตูมที่พร้อมจะทะลักไข่แดงออกมาราดข้าวผัดให้เราได้ใส่น้ำปลาพริกอันหอมละมุนอุ่นไอของมะนาวฝานที่ทำให้พริกไม่เปลี่ยนสี ตักข้าวคำโตพร้อมยางไข่แดงเยิ้มๆเข้าปากเพื่อลิ้มรสชาติอันหอมหวานและเมล็ดข้าวอันอ่อนนุ่มเคลือบด้วยน้ำมันไฟแรงอันสุดยอด!!! (เกี่ยวมั้ย?) ผมก็เข้าใจอะนะครับ ว่าวงการนี้มันมีบริษัทยักษ์ใหญ่กุมหนังเข้าโรงไม่มาก และนักแปลในสังกัดก็คงไม่ยอมปล่อยงานมาให้รุ่นน้องวัยกระเตาะ(แม้นจะกล้ามบึ้กหล่อล่ำแมกซิกันกระดกเหล้าเป้าตุงสักเพียงใดก็ตาม) แม้นว่าวันนี้ผมยังเสียดายค่ากระดาษกับค่าอัดรูปที่แนบไปกับ resume วันนั้นอยู่ แต่ตอนนี้ผมกำลังนับวันถอยหลังจะต้องออกจากงานฝ่ายขายแล้ว โอ้ว มันช่างวาบหวิวสยิวกิ้วถึงทรวงซะจริงๆ จากคุณ : NAKORN66 - [ 10 ก.ย. 50 10:08:38 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เลิกกับแฟนเก่า เพราะ ไม่มีเงินใช้หนี้เขา หรือเปล่า ก็น่าเห็นใจ Tansy นะ ได้ยิน ว่า เคยโดน ญ หลอกเอาเงินไปหมด ใช่ป่าว โดยเฉพาะ ญ ที่อยู่ด้วย นานๆ เขาได้เงินไปหลายล้านบาท อันนี้ มีคนบอกมา ฉันจะไม่ยอม ให้ใคร มาเอาเปรียบ เพื่อนฉันอีก จากคุณ : impish_girl - [ 10 ก.ย. 50 10:58:06 ]

ความคิดเห็นที่ 12 Tansy  หลอกผู้หญิง คนหนึ่ง ให้ตายใจ แล้วแอบแทงข้างหลัง ทะลุถึงหัวใจ มาหลอกยืมเงิน เพื่อนฉัน เพื่อที่จะเอา ไปซื้อโน๊ตบู๊ก แล้ว บอกเพื่อนฉัน ว่า จะเอาไว้ไปๆมาๆ สุดท้าย ไปหา เวอจายน่า ทางเนต แล้วหนีหายไป กับแสงแดด ที่แผดเผา ใจเพื่อนฉัน จนถึงทุกวัน มันไม่แฟร์ เลย สำหรับเพื่อนฉันเลย  แกรู้ไหม ว่าทำไมแกถึงไม่ประสบ ความสำเร็จใน ชีวิต แก เพราะ กรรม ที่ tansy ก่อไว้  มัน มาบดบัง ชีวิต แก ให้มืด มัว ตลอดเวลา  ได้แปลแต่ งานแย่ ๆ เห็นแก บอกเพื่อนฉัน ว่า แก จะเอาโน๊ตบูก พาเวอจายน่า ทางเนต ไปท่องโลกเหรอ แกคง ไป มาหลาย ประเทศแล้วซี  แก ไม่ละอายใจเลย เหรอ จากคุณ : impish_girl - [ 10 ก.ย. 50 11:06:55 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณ imprish_girl คุณมาโพสอะไรแบบนี้ทำไมครับ? กระทู้นี้ผมตั้งขึ้นมาอย่างตั้งใจเพื่อให้เหล่านักแปลได้คุยกัน ผมตั้งขึ้นมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพื่ออยากเป็นเพื่อนกับพี่ๆน้องๆ... ทำแบบนี้ทำไมครับ? จากคุณ : เสียใจนะครับ (NAKORN66) - [ 10 ก.ย. 50 11:12:24 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คดีค้างเก่าน่ะค่ะ คุณ NAKORN66 แต่เห็นด้วยค่ะว่าไม่ควรมาโพสต์ในกระทู้นี้นะคะ เกิดมีใครแจ้งเว็บมาสเตอร์ เดี๋ยวก็ถูกยึดอมยิ้มบัตรผ่านอีกหรอก จากคุณ : Guga - [ 10 ก.ย. 50 11:22:40 ]

ความคิดเห็นที่ 15 นึกถึงสมัยไฟแรง อ่านๆ ดูแล้วนึกภาพออกเลย เห็นคนๆ นึงโดดลงจากเรือพร้อมชูชีพ พอเรือผ่านไป หันไปดูข้างหลัง ภาพที่เห็นคือคนกำลังลอยคอบ้าง เกาะขอนไม้บ้าง ไม่ได้บั่นทอนกำลังใจนะครับ แค่เคยผ่านมาก่อน ตอนนี้ก็ยังแปลเหมือนเดิม แต่ยังชีพได้ด้วยการขายอะไหล่เครื่องจักรกล (ฮา) กลับกันเลยแฮะ คนขายของ  >>> นักแปล นักแปล >>> คนขายของ แต่อย่างว่าของแบบนี้ไม่ลองไม่รู้ สู้ต่อไป ขอให้โชคดีครับ จากคุณ : Abraxas - [ 10 ก.ย. 50 12:41:54 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ก๊ากกก โจทก์เก่า สีสัน สีสัน คุณเจ้าของกระทู้ ไม่ต้องตื่นเต้น ที่นี่ยังมีอะไรแปลกๆให้ดูอีกเยอะ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 10 ก.ย. 50 13:34:21 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มันน่างอนมั้ยละครับป๋า ดูซิเนี่ย ผมอุตสาห์ผูกชายกระโปรงเต้นระบำฮูล่าฮาวายมาผูกสัมพันธไมตรี ดันตกมาอยู่ท่ามกลางสงครามเพลิงสวาทฆาตกรพิมพ์เว้นวรรคสลักใจซะงั้น เฮ้อ - -" นี่กำลังสมัครเป็นนักแปล freelance กับบริษัทเกมยักษ์ใหญ่ (อีกแล้ว) ตอบกลับมาน่าพอใจมากครับ กำงรอเรียกตัว ปู้นๆ แต่ก็อย่างว่า ทำ freelance มือปืนรับจ้าง จะมีเงินเข้าพอจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าบ้าน ค่ามือถือ ค่าเนท ค่ากิ๊ก ชู้ แฟนอีกนับร้อยหรือเปล่าก็ไม่รุ เดือนนึงค่าใช้จ่ายหลายตังเลยครับ จากคุณ : NAKORN66 - [ 10 ก.ย. 50 14:01:53 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ^ ^ ^ อย่าเพิ่งงอนสิตะเองก้อ :) กลัวตังค์ไม่พอก็เป็นมือปืนรับจ้างสิคะ นี่เลยฉายา ลูกเจี๊ยบ ประจัญบาน (ล้อเล่นน้า) ขอแนะนำให้เต้นระบำฮูล่าฮาวายหาลำไพ่พิเศษในยามว่างค่ะ แต่ถ้าจะให้ดีเดี๋ยวนี้เค้าฮิตระบำหน้าท้องกันนะคะ คนอวบอึ๋มจะดูดีเป็นพิเศษเลย อิ ๆ เข้าเรื่อง ๆ เราก็เคยนึกอยากจะลาออกมาทำงานเป็น freelance เหมือนกันนะคะ แต่ก็กลัวว่าจะหาเงินได้ไม่พอกับค่าใช้จ่ายเลี้ยงดูแมวห้า หมาหก (เวอร์แล้วหล่อน) ทั้ง ๆ ที่บ้านก็ไม่ต้องเช่า ข้าวก็ไม่ต้องซื้อ กับก็ไม่ต้องจ่าย ตอนนี้ก็เลยทำทั้งงานประจำทั้งงานพิเศษไปพร้อม ๆ กัน เอาไว้ให้นายไม่เมตตาแล้วค่อยออกมาเป็นนักท่องเน็ต เอ๊ย นักแปลเต็มตัว ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ป.ล. แซวอีกนิด (ความคิดเห็นที่ 13 แอบให้อารมณ์หนังเกาหลี + พระเอก MV เลยนะคะ เราว่าคุณเจ้าของกระทู้น่าจะลองเขียนเรื่องสั้นดูนะคะ สำนวนใช้ได้เลย ประเดิมด้วยพล็อตเรื่องสด ๆ ร้อน ๆ เลยมั้ยคะ หาเอาแถวนี้เลย เอ้าช่วยคิดชื่อเรื่อง The Dying Flame of Yesterday หรือว่า From Lust to Dust ดีคะ) จากคุณ : ปลาทองอัลไซเมอร์ (zaida, film mania) - [ 10 ก.ย. 50 16:27:36 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เรื่องราวมันมีอยู่ว่า เมื่ออดีตกาล บริษัทที่ผมทำงานให้อยู่นี้ ก็จ้างนักแปล freelance รับเป็นจ๊อบๆ กระจายงาน เหมือนปกติทั่วไปนั่นแหละครับ แต่อยู่มาวันหนึ่ง เกิดมี"นิมิตร"เป็นพญาช้างสารกำลังวิ่งเปรี้ยวแข่งกับพญาสุกรบนฟากฟ้า เจ้านายผมสะดุ้งตื่นและเริ่มรับสมัครนักแปลภาษามาเป็น"พนักงานประจำ" ใช่ครับ (พยายามสะกัดเอาสาระออกจากใจความของผมให้ได้นะครับ แม้นมันจะมีอยู่เพียงอึปลาทองน้อยนิด) หลังจากนั้นผม(ผู้ซึ่งพึ่งจะหนีออกจากบ้านมา) ก็ได้เข้ามาทำงานร่วมกับสาวๆอีก 7 คน (โค้ดเนม: ขาว หมวย สวย อึ๋ม สบึมส์ ห้าว มิยาบิ) อยู่กันอย่างมีความสุข แปลทั้งบทภาพยนตร์ สารคดี จีน เกาหลี ซึ่งทุกพักเที่ยงผมจะเท่มาก เพราะเดินออกจากบริษัทพร้อมสาวๆ 7 คนรายล้อม พวกเรารักกันมากครับ เป็นแก๊งฮาเฮชะชะช่า แต่แล้วความสุขก็ถูกเงามืดจากจอมมารเจ้าครอบงำ อะมะช่าย ทุกคนก็เริ่มตระหนักว่า กำหนดงานบทหนัง 10 ชั่วโมง/เดือน เนี่ย มันหนักเอาเรื่อง สำหรับผมน่ะสบายครับ ซึ่งก็แล้วแต่ประเภทและอะไรหลายๆอย่างด้วยนะ แต่ประเด็นคือ สาวๆเหล่านั้นเริ่มท้อครับ สุดท้ายก็อย่างที่คาดเดาแหละครับ ออกกันเกือบหมด... สวรรค์พังทลาย Paradise Lost ผมตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤต แถมยังถูกย้ายแผนกไปเป็นผู้ช่วยฝ่ายขาย ทุกอย่างเลยจบอยู่เท่านั้น... (เพลงบรรเลง Moonlight Sonatra) จะมีมั้ยนะ บริษัทที่รับนักแปลเป็นงานประจำ จะมีมั้ยนะ บริษัทที่มีเจ้านายสาวสวยหุ่นอวบอึ๋มใส่ชุดรัดติ้วตาปากเปรี้ยวจี๊ด! (อย่าจ๊ะ เมียจ๋า ม่ายยยย!!!! พล่อก พล่อก ตุ้บ พลั่ก! อ๊ากกกกกกกกก!!!) จบครับ จบ จากคุณ : NAKORN66 - [ 10 ก.ย. 50 16:57:40 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ก่อนอื่นขอแก้คำผิดสองคำนะคะ คงไม่ว่ากัน เป็นพญาช้างสารกำลังวิ่งเปรี้ยวแข่งกับพญาสุกรบนฟากฟ้า ที่ถูกต้อง "วิ่งเปี้ยว" นะคะ แล้วก็ Sonatra ต้อง Sonata นะคะ ไม่มีตัว r ค่ะ (สงสัยความคิดกำลังแล่นเลยรีบพิมพ์ ไม่ก็นึกถึงปู่แฟรงค์ ซิเนตรา) น่าอิจฉาจัง (เคย)ได้ทำงานกับมาเรีย โอซาวา ด้วย ฮิ ๆ สงสัยที่เหลือคงประมาณ โซระ อาโออิ  ลีอาห์ ดิซอน  คิมแทฮี  ชองเฮเคียว จอนจีฮุน หลิวอี้เฟย หยางมี่ กันหมดเลย อวยพรให้ Paradise Regained เร็ว ๆ นะคะ ป.ล. มีคนฝากชมว่าน่ารักค่ะ.............................รูปน่ารักค่ะ จากคุณ : ปลาทองอัลไซเมอร์ (zaida, film mania) - [ 10 ก.ย. 50 17:46:16 ]

ความคิดเห็นที่ 21 : ) จากคุณ : Mutation - [ 10 ก.ย. 50 22:03:55 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คำถาม"เบาสมอง"นักแปล (อย่าโพสเครียดๆกันนะจ๊ะ Life is Beautiful!) เชื่อว่าเพื่อนๆก็คงจะมีแฟน มีคนรักกันหมดแล้ว (ไม่ก็มีกิ๊กเอ๊าะๆขาวๆ จริงมั้ยงับป๋า?) และก็คงมีบางท่านที่มีกรรมเหมือนผม คือ...แฟนไม่เข้าใจภาษาอังกฤษเลย ฮาว อาร์ ยู? โอ้ว ไอ แอม อะ บุ๊ก!!! เวลาอยากกระหนุงกระหนิงกัน เราก็อยากพาไปดูหนังจริงมะ? จะได้เล่นผีผ้าห่มกระหนุงกระหนิงวิ้ดวิ้วในโรงหนังมืดๆ ดูหนังบู๊สะบัด เอ๊กซ์ระเบิด เอ้ย มะช่าย ให้สำราญฤทัย ทีนี้คุณจะเลือกดูอะไรละ? ระหว่าง "พากษ์ไทย" หรือ Soundtrack???? ถ้าเป็นหนังการ์ตูนหรือหนังบู๊ไร้สมองยังพอทำใจได้ แต่เกิดว่าเป็นหนังคุณภาพFคัพยกทรงที่อยากดูมานาน และมีการฟาดฟันกันด้วยคารมตลอดเรื่อง? เช่นเรื่อง A Time to Kill ในอดีต? หรือ  Primal Fear? จะเลือกดูแบบไหนครับ? ถ้าเข้า Soundtrack แฟนดูไม่รู้เรื่องแน่ หันมาทำตาโปนๆน้ำตาปริบๆครางหงิงๆเหมือนลูกหมา puppy น่าฉงฉ๊าน น่าฉงฉาน จากคุณ : NAKORN66 - [ 11 ก.ย. 50 08:39:12 ]

ความคิดเห็นที่ 23 หนังประเภทที่คุณยกตัวอย่างมาผมเองก็ดูซาวด์แทรครู้เรื่องไม่เต็มร้อยเหมือนกันครับ   เพราะฉะนั้นผมเลือกดูพากษ์ไทยกับแฟนแน่นอน   ส่วนซาวด์แทรคนั้นค่อยซื้อมาดูที่บ้านแล้ววิเคราะห์ชั้นเชิงการแปลของคนทำซับอีกที   บางทีก็ได้อะไรดีๆไว้ทำมาหากินเหมือนกัน จากคุณ : Tanis - [ 11 ก.ย. 50 09:22:53 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เราชอบดูแบบเสียงในฟิล์มค่ะ เพราะทักษะการฟังเราก็ยังไม่แก่กล้าเท่าไหร่ ก็เลยถือเป็นโอกาสฝึกฟังไปด้วยในตัว (ในกรณีภาษาอังกฤษ) ถ้าฟังไม่ทันก็ยังมีคำบรรยายใต้ภาพช่วย ไม่ว่าจะดูหนังชาติไหนก็เลือกแบบเสียงในฟิล์ม (ฟังไม่ออกก็ยังสนุกอยู่ดี) เนื่องจากเคยดู Farewell to My Concubine ฉบับพากย์ กับ เสียงในฟิล์ม โหย น้ำเสียงตัวละครต่างกันมากเลย โดยเฉพาะเสียงเลสลี จาง  พากย์ไทยออเซาะซะ แต่เสียงเจ้าตัวจริง ๆ คนละเรื่องกันเลย น้ำเสียงเรียบ ๆ แต่แอบมีนัยนิด ๆ แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 50 10:54:22 จากคุณ : ปลาทองอัลไซเมอร์ (zaida, film mania) - [ 11 ก.ย. 50 09:38:03 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คุณกรก้อพาแฟนไปดูหนัง soundtrack ที่มีบรรยายไทยดิ ยังไงๆก็แฟนคุณก็ยังอ่านบรรยายไทยได้ เคยลองพยายามสอนแฟนพูดภาษาอังกฤษบ้างหรือยัง? สนุกดีนะ เราเคยสอนแฟนเก่า(ลำดับต้นๆเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว) ให้พูดภาษาอังกฤษ ด้วยวิธี "พูดไปเลย" ให้จำๆเป็นประโยคๆ พอพูดผิดก็แก้ให้ ใช้เวลาประมาณปีกว่าๆ ลงเอยเธอพูดได้ถูกต้องและคล่องตัวจริงๆนะ (ถึงจะไม่รู้ศัพท์หนังสือมากก็ตามเถอะ) พอเลิกกันแล้ว เธอเลยไปมีแฟนใหม่เป็นฝรั่งระดับ director ของบริษัทข้ามชาติไปเลย..55++... เราเคยสอนแฟนเก่าอีกคน(ลำดับเมื่อไม่นานนี้เอง)ให้พูดภาษาอังกฤษให้ถูกต้อง แฟนคนนี้เรียนจบปริญญาตรีเอกภาษาอังกฤษมา ทำงานเป็น tour guide พูดภาษาอังกฤษพอรู้เรื่องแต่พูดผิดธรรมชาติ (ไม่อยากใช้คำว่า grammar) มากมายหลายแห่งแบบไม่น่าเชื่อ พอสอนๆแบบ "พูดไปเลย" แล้วผิดตรงไหนก็แก้ให้ เธอย้อนกลับมาว่า "กรูไม่ได้กินน้ำลายฝรั่งมาเหมือนมรึงนิหว่าจะได้พูดถูกต้อง แล้วอีกอย่างหนึ่งนะ กรูทำงานเป็น tour guide พูดผิดๆถูกๆ กุๆมะๆแบบเนี้ย กรูก้อได้เงินซื้อบ้านซื้อรถมีเงินไปเที่ยวต่างประเทศ ไม่เหมือนมรึงทำงานแปล ไม่เห็นมีอะไรสักอย่างหนึ่ง เห็นเหลือแต่ hmoy กับรอยยิ้ม แล้วอีกอย่างหนึ่งนะ ถ้ากรูจะเรียนภาษาปะกิตน่ะ กรูไปเรียนกับฝรั่งจะดีกว่า จะได้ไม่จำสำเนียงปากเกร็ด นนทบุรีของมรึงมา..55+++" ตั้งใจจะเขียนให้ตลกนะ อย่าซีเรียส แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 50 10:54:35 แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 50 10:47:44 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 11 ก.ย. 50 10:42:00 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เป็นการเขียนให้ตลกที่เร้าใจมากเลยครับ - -" จะว่าไปตอนนี้ผมก็กำลังประสบปัญหา "แฟนใหม่ไปไม่รอด แฟนเก่ากำลังถวิลหา กิ๊กใหม่ก็กำลังจะเข้ามา ไอ้หยา จะกินปลาบ่อไหนดี กิ่วกิ๊ว!!!!" อย่างที่ท่าน tansy เคยพูดไว้เกี่ยวกับ self satisfaction ความพึงพอใจส่วนตัวสำหรับนักแปล ผมว่ามันคือแรงบันดาลใจนะ นี่เค้าก็มาเสนองานที่ดีกว่า เงินเยอะกว่า มั่นคงกว่าให้ผม อาจเป็นเพราะผมยังหนุ่มแน่น เลยยังอยากวิ่งล่าฝันของตัวเองอยู่ (Sexy Nakorn WeeWee Translator Fantasia!) นี่ผมได้งานเป็นมือปืนรับจ้างให้บริษัทเกม (ไชโย!!!) ให้คำละ 50 สตางค์ แต่ก็ไม่ได้หนักหนาอะไร ทำงานสนุกมาก มีอะไรให้ลุ้น ให้ตื่นเต้นตลอด (โดยเฉพาะวันกำหนดส่ง ซึ่งก็คือพรุ่งนี้ จ๊ากกกกกกก!!!) มีความสุขมากเลยครับ แม้ว่าแฟนใหม่ที่พึ่งคบมาได้ยังไม่ถึงปี กำลังจะตีจาก เฮ้อ -*- ไม่ใช่เพราะเกลียดกันอะไรนะ แค่นิสัยกับอารมณ์ที่รุนแรงพอกัน เลยไปด้วยกันบ่ได้ อยากดูหนังที่บู๊สะบัดพระเอกเก๊กเท่ ถ้าได้แปลหนังแบบนั้นเมื่อไหร่ พ่อจะเอาให้สุดฤทธิ์เลย วู้ววววววว!!! (ผลงานแปลบทหนังที่ชื่นชอบในชีวิต: Dracula อิอิ มันส์พะยะคะ) จากคุณ : NAKORN66 - [ 11 ก.ย. 50 11:30:46 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เข้ามาอมยิ้ม ดีใจด้วยกับชีวิตแฮปปี้ๆ ของคุณครับ อยากคุยมากกว่านี้แต่ติดงานอยู่พอสมควร คุยกับเพื่อนคนอื่นไปพลางๆ ก่อนนะครับ อ้อ..ช่วยตอบแบบสอบถาม ผมชอบดูหนังเสียงในฟิล์มมากกว่าครับ ผมฟังหนังพากย์ไทยไม่ค่อยรู้เรื่อง ยกเว้นหนังจีน มันฟังไม่เป็นธรรมชาติ แยกเสียงไม่ออก สมองผมน่าจะมีอะไรสักอย่างบกพร่อง ฟังภาษาอังกฤษออกมั่งไม่ออกมั่ง ยังรู้เรื่องมากกว่า เวลาดูพากย์ไทย ส่วนใหญ่ผมจะนั่งหลับ หลังๆ เลยปล่อยเด็กๆ ไปดูกันเอง แต่หนังเสียงในฟิล์มที่หลับทุกครั้งเวลาดูก็มีลอร์ดฯ กับแฮรี่ฯ เรื่องยาว ตัวละครเยอะ ดูแล้วเสียดายเวลา ป่านนี้ยังดูไม่จบสักตอน จากคุณ : พ่อโปรเจ็กต์ - [ 11 ก.ย. 50 12:52:41 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขออนุญาตไม่ขึ้นกระทู้ใหม่เพราะคำถามนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องการแปล ตกลงคำว่า พากษ์ หรือ พากย์ ถูกกันแน่ครับเมื่อใช้กับภาพยนต์ ผมจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าที่ถูกคือ  พากษ์หนัง (ภาพยนต์ที่เราดูในโรง  หนังใหญ่หนังตะลุงไม่เกี่ยว) กับ พากย์โขน (ที่ลิงรบกะยักษ์)   แต่ไม่แน่ใจความรู้ตัวเองเป็นอย่างมาก   ใครรู้ช่วยบอกที จากคุณ : Tanis - [ 11 ก.ย. 50 14:06:59 ]

ความคิดเห็นที่ 29 สวัสดีครับคุณพ่อโปรเจ็กต์ ชีวิตของผมแฮปปี้เพราะผมทำให้มันแฮปปี้ครับ ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมเปลี่ยนแฟนบ่อย เพราะผมมันอารมณ์ดีเกิน อยากอยู่กับคนอารมณ์ดี ทีนี้พอเราอารมณ์ดีเกินไป คนอื่นเค้าเลยเครียด (ไม่เข้าใจเหมือนกัน เพื่อนผมบอกว่ามันเป็น "สมดุลแห่งธรรมชาติ") ยกตัวอย่างเช่น ถ้าผมบอก "อะโห มันสุดยอดไปเลย ดีเลิศประเสริฐศรีสุดชีวิตอาทิตย์อุทัยผ้าสะไบโบกสะบัด! ไม่มีอะไรเทียมทัดเพชรพระอุมาลัลล้าโอ้วมายก๊อด! อุว้าว สะบะละแฮ่ม! มันยอดมากเลยจอร์จ!!!!" และจะมีคนตอบกลับมาว่า "จริงดิ? แน่ใจเหรอ?" งงมั้ยครับ? แฟนผมที่ผ่านมาหลายๆคนเป็นคนมองโลกมืดหมดเลย ทุกอย่างคือความเครียด เอาเรื่องเล็กๆน้อยๆมาคิดให้ปวดหมอง ไม่ยอมปล่อยวาง เฮ้อ -*- ปล - ผมว่าพากษ์หนังเนี่ย น่าจะสะกดถูกแล้วนะ แต่เรื่องสะกดคำต้องถามคุณ"ปลาทองอัลไซเมอร์" งิงิ จากคุณ : NAKORN66 - [ 11 ก.ย. 50 14:57:07 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ดูในพจนานุกรมราชบัณฑิต 2525 (โดยความเอื้อเฟื้อของคุณแอ๊ด ปากเกร็ด) เห็นมีแต่คำว่า "พากย์" นะคะ จากคุณ : Guga - [ 11 ก.ย. 50 15:21:28 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ไม่สามารถออกความเห็นใดๆ ได้ เพราะไม่ได้ดูหนังโรงมาหลายปีแล้ว ทำไมจิ้มอมยิ้มเจ้าของกระทู้ แล้วไม่เป็นอมยิ้มยักษ์สีเหลืองอ๋อยอ่ะ ทำไง บอกมั่งสิ จากคุณ : Canossa - [ 11 ก.ย. 50 16:09:41 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เรียน คุณ Tanis คุณ Tanis ช่างสังเกตดีจริง เท่าที่ผมทราบมา เราใช้ "พากย์" กับภาพยนตร์ครับ พากษ์นั้นใช้ในคำว่า วิพากษ์วิจารณ์ พอดีเห็นเป็นกระทู้คุยเล่น คุณเจ้าของกระทู้ก็เป็นคนใหม่ เลยไม่ได้ท้วง จากคุณ : พ่อโปรเจ็กต์ - [ 11 ก.ย. 50 16:13:24 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ยืนยันอีกคนว่า พากย์ ค่ะ คำว่า พากษ์หนัง - ม่ะมีนะตะเอง ตอบคำถามของกระทู้ว่า .. ปกติ จะดูแต่เสียงในฟิล์ม ฟังออกฟังทันฟังรู้เรื่อง ... ยกเว้นหนังอินเดีย ที่พูดภาษาแขก แม้กระทั่งหนังจีนกะลังภายใน ก็ขอเสียงในฟิลม์ อิ อิ .. เสียงแอฟเฟ็กมันได้ใจกว่ากันเยอะค่ะ อืม... "แฟนผมที่ผ่านมาหลายๆคนเป็นคนมองโลกมืดหมดเลย" ก็แหม ... คุณจะบ่นได้ยังไงล่ะ ก็คุณเองน่ะ มัวแต่ "เล่นผีผ้าห่มกระหนุงกระหนิงวิ้ดวิ้วในโรงหนังมืดๆ" อาราย อาราย มานก็ต้องมืดน่ะซิ คราวหน้า เวลาจะเล่นผีผ้าห่มกระหนุงกระหนิงคุยกันยิงมุขวิ้ดวิ้วสยิวกิ๋ว ก็ลองเปลี่ยนมาทำกลางแจ้งบ้าง หรือไม่ก็เปิดไฟให้สว่างๆ บ้างนะ ตะเอง... จากคุณ : o;] - [ 11 ก.ย. 50 16:16:58 A:125.25.88.222 X: TicketID:012689 ]

ความคิดเห็นที่ 34 โหย... สำนวนกระชากวัยสุดๆ จากคุณ : . (Guga) - [ 11 ก.ย. 50 16:44:16 ]

ความคิดเห็นที่ 35 "พากย์ไทย" โอ้ว นี่ผมใช้ผิดมาตลอดเลยรึนี่ คราวหลังไม่ต้องยั้งเลยครับ โขกสับมาได้เต็มที่ จะได้เก่งขึ้นนะครับ เพราะสุดท้ายความฝันผมคือการเป็นนักแปลมืออาชีพอยู่แล้วครับ หึหึ ฟู่วววว เรื่องเปิดไฟให้สว่างเนี่ย ถ้าคุยต่อเดี๋ยวจะติดเรทนะครับ อิอิ ขอเว้นไว้เท่านี้แล้วกันครับ ชูบูชูบู กิ่วกิ้ว >< ว่าด้วยเรื่องของนักแปลต่อ วันนี้คนจ่ายงานของบริษัทเกมโทรมาของานเร็วกว่ากำหนด ตอนแรกบอกเราเอาวันพุธ โทรมาอีกทีจะขอเลยซะงั้น ดีนะที่เราฝึกวิชา"ฝ่ามือยูไลแปลงานด่วนฉบับฮาเฮก๊อปแปะโลดกระโดดซิงค์ไม่กินข้าว" (แปลเป็นไทยว่า ไม่กินข้าวเที่ยง+วิ่งขึ้นออฟฟิส+เร่งแปลงานด่วน+แล้วตายในหน้าที่) มาแล้ว จึงผ่านไปได้ด้วยดี ทรหดอดทนสู้งานหนักเร่งได้ตามออเดอร์แบบนี้ เพื่อจะได้ซื้อใจ เค้าจะได้จ่ายงานให้เราเยอะๆ สิ้นเดือนพอออกจากงานประจำแล้วจะได้ไม่ต้องวาดรูปปลาเค็มพุ้ยข้าว เหนื่อยครับ หลับฟรี้ @_@ Z z z Z จากคุณ : NAKORN66 - [ 11 ก.ย. 50 17:11:46 ]

ความคิดเห็นที่ 36 สิ้นเดือนพอออกจากงานประจำแล้วจะได้ไม่ต้องวาดรูปปลาเค็มพุ้ยข้าว ^ ^ ^ ยังดีนะคะเนี่ย ยังมีอุปกรณ์สำหรับวาดรูปปลาเค็มไว้กินกับข้าว ลองนึกถึงคนที่ต้องจินตนาการรูปปลาเค็มแบบสร้างวิมานในอากาศบ้างสิ จากคุณ : ปลาทองอัลไซเมอร์ (zaida, film mania) - [ 11 ก.ย. 50 17:43:16 ]

ความคิดเห็นที่ 37 น้านนนนน... นักแปลรุ่นนี้ เวลามีไม่รู้จักเก็บก็ลำบากงี้แหละ มันต้องวาดรูปปลาไว้บนฝาบ้านหยั่งเรา จากคุณ : พ่อโปรเจ็กต์ - [ 11 ก.ย. 50 17:55:23 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ^ ^ ^ อย่างอึ้ง...อะไรจะเตรียมพร้อมขนาดนั้น จากคุณ : ปลาทองอัลไซเมอร์ (zaida, film mania) - [ 12 ก.ย. 50 09:23:59 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เห็นด้วยนะ ว่าชีวิตนักแปลทรหด รันทด อดทน แต่ตรงเร้าใจนี่ยังไม่เจอเลย มันเร้าใจตรงไหนคุณน้อง ตรงเจอเส้นตายกระชั้น อดนอน อดกิน ปวดหลังปวดมือ เหรอ อย่างบางทีเจอบทหนังมันๆ ก็สนุกดี แต่ยังไม่ถึงเร้าใจนี่น่า นึกไม่ออกว่าเร้าใจได้ไง :-) จากคุณ : lilymay - [ 12 ก.ย. 50 10:27:00 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อรุณสวัสดิ์พี่น้องและผองเพื่อน มิตรรักแฟนเพลงที่น่ารัก สาวน้อยกิ๊บเก๋แอ๊บแบ๊วสไตล์นิโคลบุษบาจ๊ะจ๋าข้าวไข่ดาวเหยาะแม็กกี้ โย่ว!!!! เช้าวันนี้นักแปล(ผู้กำลังไต่เต้าป่ามป๊ามไปเป็นมืออาชีพ) ก็กำลังยุ่งเหยิงกับงานฝ่ายขายอีกเช่นเคย การโทรติดต่อลูกค้าอันแสนเร้าใจ ข้าวเช้าที่ได้แต่ฝันว่าจะได้กิน ยาแก้ไข้ที่แทบจะละลายคากระเป๋ายังไม่มีเวลาจะโยนลงคอกระเดือกน้ำตาม วู้ว ชีวิต so bright! พี่น้องซำบายดีบ๊ออออออออออออ!!!!! จากคุณ : NAKORN66 - [ 12 ก.ย. 50 10:34:41 ]

ความคิดเห็นที่ 41 การแปลมัน"เร้าใจ"ตรงไหนหรอครับพี่? อันนี้มันอธิบายยาก มันเหมือนการอธิบายรสชาติของมาม่ารสหมูสับไข่ยางมะตูมชามใหญ่โรยต้นหอมซอย มันเหมือนข้าวมันไก่เนื้ออกอวบอั๋นกับน้ำจิ้มรสเด็ด มันเหมือนสปาเก๊ตตี้ซอสเนื้อที่กระเด็นมาเลอะเสื้อแล้วแต่เราก็ยังวางส้อมไม่ได้!!! มันคืออดรีนาลีนที่หลั่งไหลเวลาเราฝังเขี้ยวลงไปในหมูปิ้งยามเช้า!!! มันคือ!!! มันคือ!!! มันคือ........ ความ"เร้าใจ" อาจเป็นเพราะว่าผมเป็นนักแปลสายบันเทิง ที่ผ่านมาก็แปลภาพยนตร์ สารคดีสัตว์โลกน่ารักหมีแพนด้าเล่นมวยปล้ำ แมวน้ำโดดก้านคอยีราฟ อะไรเทือกนั้น ผมไม่เคยแปลพวกบทความวิชาการ นิยายวิทยาศาสตร์ขึ้นหึ้งอะไรแบบนั้นละมั้งครับ ผมเจอทางตันบ่อยครับ เพราะงานที่ได้มาบางครั้งก็ไม่มีเทปให้ซิงค์ปาก ทำให้เราต้องทำงานซ้ำสองสามรอบ แปลแล้วต้องมาตัดมา ย่อคำ บางทีสำนวนมันล้ำเกิน ก็ต้องหาสำนวนไทยมาเปลี่ยน บางทีบทหาย มีในวิดีโอแต่ไม่มีในบท บางทีมีแต่บท ไม่มีในวิดีโอ แต่เสียเวลาไปทั้งวัน แถมไม่ได้ตัง -*- ผมว่าผมสนุกกับงานที่ทำมากนะ แม้นว่ามันจะเหนื่อย มันจะต้องแข่งกับเวลา เมื่อวันก่อนทำแข่งกับเวลาเป็นนาที กำหนดส่งบ่ายสอง ไม่เสร็จเค้าขู่ว่าจะเอาส่งคนมาฆ่าชิงบท - -" เว่อร์ไปหน่อย แหะๆ แต่สุดท้าย มันก็คือความพอใจ ที่ได้เห็นนักพากย์อ่านบทที่เราแปลบนจอเงิน เห็นพระเอกตบจูบนางเอกแล้วพูดคำที่เราเขียนขึ้น... อ่า อารมณ์ศิลปินมันพุ่งพล่านครับ งงมั้ยครับ? กับความ"เร้าใจ"ของกระผม งิงิ จากคุณ : NAKORN66 - [ 12 ก.ย. 50 11:34:54 ]

ความคิดเห็นที่ 42 : ) จากคุณ : Mutation - [ 12 ก.ย. 50 19:42:23 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ผมก็ดูหนัง soundtrack อย่างเดียวเลยครับ ไม่ใช่เพราะคุณภาพของการแปลนะครับ แต่เป็นเรื่อง "น้ำเสียง" ของคนพากย์ เคยเช่า CD มาดู บังเอิญตอนนั้นมีแต่พากย์ไทย ก็ที่พ่อกล้ามใหญ่ Arnold แสดงนั่นแหละ แต่เป็นเรื่องไหนจำไม่ได้แล้ว โหย .. เสียงคนพากย์ ยังกะเสียงผู้หญิง เซ็งเลยตู จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 13 ก.ย. 50 06:48:55 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ก๊ากกก ลองจินตนาการดู คนเหล็กอาร์โนลด์บี้ผู้ร้ายจนเละแล้วหยอดคำคม "I'll be back!" ด้วยน้ำเสียงหวานแหวว "แล้วนู๋จะกลาบบบบมา" กึ๋ยยยยย จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 13 ก.ย. 50 08:54:24 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ^ ^ ^ คงเหมือนเรื่อง The Lord of th Rings ฉบับพากย์ไทยมั้งคะ คุณแอ๊ด ที่อารากอร์น หล่อเข้ม มาดแมน สมเป็นบุรุษอาชาไนย พูดเสียงหน่อมแน้ม แต่เฟรโด กลับเสียงห้าวเชียว จากคุณ : ปลาทองอัลไซเมอร์ (zaida, film mania) - [ 13 ก.ย. 50 09:46:18 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ขอถามหน่อยครับ นอกเรื่องแปลเอามากๆ เป็นเรื่องรักๆใคร่ๆนะครับ เนื่องจากที่นี่มีผู้ใหญ่เยอะ และนี่ก็ไม่ได้ตั้งกระทู้ใหม่ ถามในส่วนของห้องคุยกันสบายๆน่ะครับ ตอนนี้ผมคบผู้หญิงอยู่คนนึง ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ทะเลาะกันบ้างก็ตามประสาคนอยู่ด้วยกันแหละนะครับ อนาคตก็มองไว้ว่าจะหมั้น ซื้อบ้าน และแต่งงานกันไปตามปกติชน ทีนี้ ผมมีเรื่องอยากถามพี่ๆทั้งหลายที่ผ่านการแต่งงานมาแล้วครับ ว่า: 1. เธออยากให้ผมเอาเงินเดือนไว้ที่เธอ ซึ่งฟังดูแล้วผมใจหายมาก (ทะเลาะกันจนเรื่องจบไปแล้ว ผมไม่ยอม แต่มันยังคาใจ) เธอให้เหตุผลว่า เพราะผมใช้เงินไม่เป็น เดี๋ยวไม่มีเงินเก็บ ผมก็ไม่อยากจะคิดไม่ดี แต่มัน...นะ... ไม่ทราบพี่ๆเคยประสบเหตุการณ์แบบนี้มั้ยครับ? ผมเคยได้ยินเรื่องที่สามี (ซึ่งนี่ก็ยังเป็นแค่แฟน) สูญเสียความมั่นใจและความสุขไป เพราะเงินไม่อยู่กับตัว มีภรรยาให้ค่าขนม... จริงๆแล้วคนที่ประสบมามันเป็นยังไงแน่ครับ? 2. อยากให้ผมไปหมั้น (ตอนนี้ผมอายุ 24) เพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกันได้แบบไม่ต้องปิดบังครอบครัว คือปกติเธอก็อยู่คนเดียวอยู่แล้ว ประมาณว่าดื้อ ซึ่งก็ต้องมีแหวนหมั้น ราคาก็มหาศาลอยู่ หลักแสน... มันไม่น่าจะง่ายแบบนั้น เค้าคงไม่ยกลูกสาวให้ง่ายๆแบบนั้นหรอก จริงมั้ยครับ? ถ้าเค้ารู้ว่าอยู่ด้วยกัน หัวผมเสียบไม้ปักหน้าเมืองแน่ๆ แต่เธอบอกว่า เธอทำได้ ผมก็ยังสับสนอยู่ ผมเป็นหมูป่าเดี่ยวดาย ตอนนี้ตัดที่บ้านออกมาอยู่คนเดียว ที่บ้านเค้ายังไงก็คงไม่ยอมหรอก จริงมั้ยครับ? ผมสับสนมาก อยากฟังความเห็นของผู้ที่อาบน้ำร้อนมาก่อน เรื่องที่มันไม่เหมาะไม่ควรตามประเพณีน่ะผมเข้าใจดี ตอนนี้ผมทำตัวเหมือนฝรั่งน่ะผมเข้าใจดี ผิดศีลธรรมนั่นผมก็รู้อยู่... แต่ถ้าพี่ๆจะมองข้ามตรงส่วนนั้น แล้วช่วยเล่าประสบการณ์ของพี่ๆให้ฟัง ผมจะขอบคุณมากเลยครับ จุ๊บๆครับ ปล - ตอนนี้เหนื่อยจนสลบติดกันหลายวัน วันจันทร์มีงานแปลต้องซิงค์ปาก 2 เรื่อง ให้เวลา 1 วัน เพราะนัดนักพากย์มาวันอังคารแล้ว เป็นภาพยนตร์ฝรั่งสองเรื่อง ยาวเรื่องละชั่วโมงครึ่ง...โอ้ว เสียบกระทิงแดงเข้าเส้นแล้วอัดแรงเยอร์อีก 4 ขวด กระชากพลังสัมผัสคีย์บอร์ดแล้วร่ายรำ!!!!!! ฮัดช่า ย้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!! จากคุณ : NAKORN66 - [ 14 ก.ย. 50 11:17:32 ]

ความคิดเห็นที่ 47 1) กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว  เบอร์ 2 ในสำนักงานผมภรรยาให้เงินติดตัวมาทำงานวันละ 20 บาท   พี่แกกร่อยมากจริงๆเลยครับ  อยากจะเลี้ยงข้าวพวกผมซักมื้อแกก็ทำไม่ได้   ยังดีว่านานๆก็จะได้วีซ่าพาเด็กๆอย่างพวกผมไปเฮฮากันซักที     เอาเป็นว่าพบกันครึ่งทางสิครับ   ชวนเธอไปเปิดบัญชีร่วมกัน   แล้วต่างคนต่างแบ่งเงินเดือนของตัวเองใส่บัญชีนี้   ตั้งกติกาว่าต้องลงชื่อทั้งสองคนจึงจะถอนได้   แล้ววันหน้าคุณจะได้เอาเงินก้อนนี้ไปซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือว่าอยู่กันไม่ยืดถอนมาแบ่งกันตามหุ้นก็สุดแม้แต่เวรแต่กรรม 2) งานนี้ตัวใครตัวมันแล้วกัน   แต่ขอให้กำลังใจหน่อยว่ามีคนรอดตายจากกรณีอย่างนี้เยอะไป   เมื่อปีที่แล้วผมกับแฟนยังไปปูที่นอนให้คู่หนึ่งเลย จากคุณ : Tanis - [ 14 ก.ย. 50 15:05:59 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เป็นไอเดียที่ดีครับ เปิดบัญชีคู่ ตอนแรกผมก็คิดแบบนั้นอยู่เหมือนกัน แต่เธอยังไม่มีเงินเดือนนี่สิ -*- มีแต่ค่าขนม... คือ....พอจะเห็นภาพบ่ครับ? เธอเป็นลูกคนสุดท้องครอบครัวจีนสมัยเก่าน่ะครับ @_@ จากคุณ : NAKORN66 - [ 14 ก.ย. 50 16:16:26 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เป็นคำถามที่ตอบยากชะมัด เพราะมันขึ้นอยู่กับแต่ละคู่ แต่ละคน ไม่เหมือนกันเลย จะเล่ากรณีของครอบครัวผมให้ฟังเป็นตัวอย่าง ก็แค่หนึ่งตัวอย่าง หาประโยชน์อะไรมิได้ แต่ หลักใหญ่ นั้นมีอยู่ครับ เมื่อแต่งงานกันไปแล้ว คุณคือ "หัวหน้าครอบครัว" คุณต้องรับผิดชอบต่อครอบครัวที่จะเกิดขึ้นใหม่นี้ทั้งหมด ในทุกๆ มิติ ในแง่ตัวบุคคล ก็ภรรยาคุณ ลูกๆ ที่จะเกิดมา รวมถึงครอบครัวเดิมของทั้งสองฝ่ายที่คุณต้องคอยประคับประคองในเรื่องหยุมหยิมที่ (อาจ) จะมีมาในภายหน้า คุณต้องยืดอกรับทุกอย่าง นี่คือ ความเป็นลูกผู้ชาย เรื่องเงินน่ะเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น คุณต้องดู "อุปนิสัย" ของว่าที่ภรรยาคุณว่าเป็นคนเช่นไร เก็บหอมรอมริบเพื่อความมั่นคงทางการเงินของครอบครัวในวันข้างหน้า เพื่ออนาคตของลูก หรือว่าใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ฟุ้งเฟ้อไปกับเรื่องไม่มีแก่นสาร รวมถึงญาติของทั้งสองฝ่ายด้วย ว่าเธอมีทัศนคติอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ อันนี้ มีแต่ตัวคุณเท่านั้นที่ต้องสังเกตเอาเอง คนอื่นไม่มีทางทราบได้ ผมคงไม่ต้องบอกเป็นข้อๆ ว่าถ้าเข้ากรณีไหน คุณควรทำอย่างไร เพราะคนขนาดคุณ ทราบดีอยู่แล้ว ผมเพียงแนะว่า "ต้องทำให้เด็ดขาด" หวังผลร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะคุณคือ หัวหน้าครอบครัว เมื่อคุณ manage ชีวิตครอบครัวไปสู่จุดหมายปลายทาง ได้อุ้มหลานตัวน้อยน่ารัก มีชีวิตบั้นปลายอย่างสงบสุขตามวัย แล้วมองย้อนกลับมา คุณจะภูมิใจในสิ่งที่ได้ทุ่มเทลงไป และหายเหนื่อย ขอให้มีชีวิตครอบครัวที่ดีครอบครัวหนึ่งของเมืองไทย ไม่ต้องรวยล้นฟ้า เพียงมีครอบครัวที่อบอุ่น มีความสุขตามอัตภาพ ก็น่าอิจฉาแล้วครับ จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 14 ก.ย. 50 20:56:57 ]

ความคิดเห็นที่ 50 T^T ซาบซึ้งกับคอมเมน?ของพี่"หนุ่มไทยไร้นาม"มากครับ ผมคิดว่าตัวเองยังเด็ก ยังไม่มั่นใจเต็ม100%เลยว่าจะ pull this off เธอเป็นคนขี้บ่น (มาก...ถึงมากที่สุด) และผมก็หงุดหงิดทุกครั้งไป ยิ่งเวลาทำงานมาเหนื่อยๆ กลับบ้านมาเจอแต่เรื่องบ่นนั่นบ่นนี่ บ่นมันทั้งวัน บ่นแบบไปเรื่อยๆ เจออะไรก็บ่น... โอ้ว มัน bad มากเลยจอร์จ!!!! จากคุณ : NAKORN66 - [ 15 ก.ย. 50 08:57:34 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ผู้หญิงที่ไหนไม่ขี้บ่น? แล้วคุณไปเอาเด็กไม่มีเงินเดือนมาอยู่ด้วย พ่อแม่เขาว่าไง? เสียวกระบาลแทนวุ้ย แล้วกฏหมายพรากผู้เยาว์นี่มันมีรายละเอียดอย่างไรผมก็จำไม่ได้เสียด้วย ระวังให้ดีนา การอยู่ด้วยกันจะแต่งไม่แต่งยังไม่กระไรนัก แต่สำคัญว่ามันเป็นกระบวนการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน แล้วก็ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันได้หลังจากได้เห็นทั้งข้อดีข้อเสียของกันและกัน คนทุกคนมันก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย ตอนชวนกันมาอยู่ด้วยกันก็เห็นข้อดีอย่างเด่นชัด อยู่ๆไปทั้งสองคนก็เริ่มออกลายให้กันและกันเห็น เห็นลายกันแล้วก็ต้องถามใจละว่า ไปรอดหรือเปล่าหว่า? เมื่อคิดว่าไปรอด ต่อไปก็จะมีรายละเอียดในการบริหารจัดการเข้ามาเกี่ยวข้อง ใครหาเงิน? ใครเก็บเงิน? ระเบียบวิธีทางการบัญชี การเงิน และการงบประมาณ? ที่ต้องทำงบประมาณก็เพราะว่ายังไงๆกิเลสมันก็ทำให้รายจ่ายที่วางแผนไว้มันเกินรายได้อยู่เสมอ ยกเว้นแต่ว่าคุณจะรวยระดับพานทองแท้หรือทักษิณก็อีกเรื่องหนึ่ง ต้องยอมรับว่ามีคนช่วยเก็บเงินก็ดี ไม่อย่างนั้นเราก็ใช้ของเราไปเรื่อยๆ ไม่ได้มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน กรณีของผมเป็นอย่างนี้ คนอื่นเราไม่รู้ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 15 ก.ย. 50 10:05:43 ]

ความคิดเห็นที่ 52 อ่า ป๋าครับ อย่าเข้าใจผิดครับ คือจริงๆแล้วเธอายุมากกว่าผมอีกครับ 24 ครับ (ผมจะ 24 ปลายปีนี้)แต่สภาพครอบครัวเธอเป็นเหมือน..ลูกคนสุดท้อง ทำอะไรก็ได้ ประมาณนั้นน่ะครับ แล้วเผอิญมาตกหลุมตือโป๊ยก่ายอย่างผม มันก็เลยเป็นอย่างที่เล่าให้ฟังน่ะครับ ไม่ได้พรากผู้เยาว์นะคร้าบบบบบบบบบบบ!!! ><" ปล - กระทู้แปลเพลงกำลังมันส์ ป๋าแอ๊ดไปแปลด้วยจิครับ จะได้สนุกๆมีหลายๆเวอร์ชั่น คนอื่นๆด้วยนะคร้าบบบบบ สร้างสรรค์แก้เครียดครับ จากคุณ : NAKORN66 - [ 15 ก.ย. 50 11:01:52 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เรื่องเงินเดือน ผมชิงให้ก่อนที่เธอจะขอครับ วันดีคืนดีผมก็คุยกับเธอว่าผมจะรับผิดชอบรายจ่ายทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วย 1 ค่าใช้จ่ายประจำของครอบครัว 2 ค่าใช้จ่ายส่วนตัวของเขา ซึ่งเป็นเงินที่เขาจะเอาไปทำอะไรก็ได้ เราจะหลับตามองไม่เห็น 3 ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าหยูกค่ายา ค่าพักผ่อนหย่อนใจ ให้เบิกได้หมด ฯลฯ 4 มีให้พิเศษบ้าง ซื้อของให้บ้าง ตามสมควร 1, 2 เป็นรายจ่ายคงที่ ไม่พอมาเอาเพิ่ม เหลือยกให้เขา 3 ให้เขามาเบิกได้เลย 4 เราดูแลให้ตามสมควร อันนี้ดูในมงคลชีวิตข้อที่ว่าด้วยการบูชา เอ๊ย ดูแลภรรยา สรุปคือจ่ายหมด เธอย่อมไม่ขัดศรัทธา ส่วนเงินที่เหลือ เข้าบัญชีชื่อเรา เผื่อทำธุรกรรมกับแบงค์จะได้ดูมีเครดิต เรียกว่าเสียมากหน่อย ดีกว่าหมดตัว ฮ่า ฮ่า ... ส่วนเรื่องไปขอ คุณต้องพยายาม ถ้าเธอเป็นลูกคนจีนด้วยแล้ว มันอาจจะยากหน่อย คนจีนชอบคนขยัน ทำงานเก่ง มีความรับผิดชอบ ดูแลลูกเขาให้มีความสุขได้ ถ้าคุณยังไม่รวย อย่าขี้เมา อย่าเล่นพนัน อย่าลงทุนเกินตัว แวะเวียนไปบ้านเธอ หาขนม หาของกินติดไม้ติดมือไปบ้าง เป็นการเปิดตัว แต่ไม่ต้องไปบ่อย ไม่ต้องอยู่นาน คนจีนไม่ชอบ แม่ยายผม เจอกันครั้งแรก คำแรกที่ถามคือ ตึ้งไม่ตึ้ง จะกลับก็รีบกลับได้แล้ว พูดงี้จริงๆ จากคุณ : พ่อโปรเจ็กต์ - [ 15 ก.ย. 50 16:30:13 ]

ความคิดเห็นที่ 54 คุณพ่อโปรเจ็กต์คงจะรักภรรยามากเลยนะครับ ผมอ่านแล้วละอายใจจริงๆที่ยังระแวดระวัง เหมือนไม่เต็มที่กับเค้าให้มากกว่านี้ แต่ผมถูกพี่ๆใกล้ตัวเตือนมาว่า อย่าไว้ใจคนง่ายๆ ผมเลยสับสน ในใจผมก็รักผมก็ห่วง แต่เหมือนผมยังไม่ไว้ใจเค้า กลัวเค้าต้องการแค่"เงิน"ของเราน่ะครับ ผมไม่รวย ไม่กินเหล้า ไม่เล่นการพนัน สูบบุหรี่แต่เค้าไม่รู้ ผมสูบแต่ที่ทำงานเวลาพัก พอกลับบ้านกลิ่นก็หายหมดพอดี ไม่ลงทุนอะไร นี่ก็ทำงานหาเลี้ยงชีพไปเดือนต่อเดือน งานใหม่เค้าคอนเฟิร์มมาแล้ว ได้เงินเดือนดีมาก ก็ดีใจ....แต่... แต่ทำไมผมถึงกลัวว่าเค้าจะหลอกผมนะ ตอนเราเป็นนักแปล (กลับมาเรื่องนักแปลได้อีกวุ้ย) เค้าก็เหมือนแม่ผมคือ มันแปลแล้วเหนื่อยมาก ได้เงินไม่พอใช้ จะเลี้ยงดูเค้าได้ยังไง (คือก่อนหน้านี้เค้าชอบพูดทำนองว่า รีบหาเงินให้ได้เยอะๆ จะได้มาเลี้ยงดูเค้า) ซึ่งทำให้ผมหวั่นใจว่า ทำไมเค้าถึงชอบย้ำเรื่องพวกนี้ ให้เราทำงานเงินเดือนเยอะๆ ไม่ชอบก็ลองทำดู ขอให้ได้เงินเยอะไว้ก่อน   ให้รีบมาหมั้น จะเอาแหวนเพชร จะได้อยู่ด้วยกัน ให้ไปผ่อนบ้านด้วยกัน... อยากเจอผู้หญิงที่รักผมที่ตัวผม แต่ก็เผลอรักไปแล้ว นิสัยผมก็ไม่ชอบทิ้งใครง่ายๆ อยากอยู่ด้วยจนสุดท้าย... ทุกวันนี้เธอทำให้ผมหวั่นใจ สงสัยว่าที่เธอยิ้มกับผมมากขึ้น เป็นเพราะที่ทำงานใหม่เงินเดือนมากขึ้นสองเท่ารึเปล่า? ที่เธอทำดีกับผมมากขึ้นเพราะผมกำลังจะมีเงินเดือนสูงขึ้นรึเปล่า... ที่บ้านเค้าก็ลูกสาวล้วน (มีชายนึงแต่ไม่ได้เกี่ยวไรด้วย) แต่งงานกับสามีมีฐานะทั้งนั้น เค้าคงอยากให้เราเป็นเหมือนสามีพี่ๆเค้า... ออ ลืมเล่าว่าคุณพ่อเค้าเสียไปแล้วด้วย เลยมีแต่ผู้หญิงทั้งนั้นเลยที่ผมต้องฝ่าด่าน T^T จากคุณ : NAKORN66 - [ 15 ก.ย. 50 17:10:18 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ผมว่าถ้าเขาคบกับเรามาตั้งแต่ตอนที่เราลำบาก เขาก็รักเรานั่นแหละ แต่อยากให้เรามีเงินไปทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามประเพณี สำหรับผู้หญิง การใช้ชีวิตแบบนี้มันทำให้เขารู้สึกผิดครับ ยิ่งครอบครัวคนจีนซึ่งมีความคาดหวังสูง มันยิ่งกดดันมากๆ ถ้าเข้าใจสังคมคนจีนก็จะเข้าใจตรงนี้ครับ ภรรยาผมก็คนจีน ฐานะความเป็นอยู่ของเราด้อยที่สุดในกลุ่มญาติ สิ่งที่กู้หน้าเราไว้คือความรู้ครับ ความรู้เรื่องภาษาและอินเทอร์เน็ต ที่บังเอิญมีโอกาสได้แสดงออกและเข้าตากรรมการ คุณนครต้องหาโอกาส “ร่ายรำด้วยอาวุธที่ถนัด” ครับ ดึงความสามารถของเรามาใช้ให้เป็นประโยชน์ ชดเชยสิ่งที่ขาดไป จากคุณ : พ่อโปรเจ็กต์ - [ 16 ก.ย. 50 11:44:36 ]

ความคิดเห็นที่ 56 คุณพ่อโปรเจ็กต์พูดได้โดนใจมากครับ ขอบคุณครับที่ทำให้ตาสว่างวูบวาบเป็นประกาย วันนี้ก็พึ่งป้อนข้าวป้อนน้ำส่งนอนพักจากอาการป่วย ก็รักอะนะ คงทิ้งไปไม่ลงหรอก จากคุณ : NAKORN66 - [ 16 ก.ย. 50 11:52:05 ]

ความคิดเห็นที่ 57 :) จากคุณ : Mr. Blue - [ 16 ก.ย. 50 12:48:08 A:203.172.48.249 X: TicketID:078372 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ขอเล่าเรื่อง การไปเรียนต่างประเทศให้ฟังนะครับ หงุดหงิด งุงิปลายนิ้ว อยากระบาย เดี๋ยวจะเอาไปแปะใน blog ด้วย งิงิ มันเริ่มต้นในวันฝนตกฟ้าคะนองขณะที่ผมกำลังวิ่งเล่นในสวนพฤกษากับม้าสีขาวคู่ใจในชุดริบบิ้นสีชมพู... แม่ผมปรากฎกายลงมาจากฟากฟ้าและประกาศิตให้ผมตื่นจากภวังค์ด้วยการบอกข่าวร้ายเหมือนในมิวสิควิดีโอว่า... ผมต้องไปออสเตรเลียอาทิตย์หน้า.. (อันนี้เรื่องจริงไม่ได้โม้เลย เค้าบอกผมแบบฉุกละหุกมาก ตอนนั้นเราก็ยังเด็ก เค้าคงพาเราไปทำเอกสารอะไรก่อนหน้านั้นแล้วแต่เราไปแบบเด็กๆไม่รู้เรื่องอะไร กว่าจะรู้ก็สายเสียแล้ว) ฝันสลายตื่นจากภวังค์เหมือนโดน แบรด พิทท์ ตบด้วยสันดาบในหนังเรื่อง Troy.... รู้สึกตัวอีกทีผมน้ำตานองหน้าอยู่บนเครื่องบิน มุ่งหน้าไปมหานคร Sydney ประเทศออสเตรเลีย ดินแดนแห่งหมีโคอาล่าและจิงโจ้ นั่งน้ำตาซึมกุมมือแอร์สาวหุ่นอึ๋มในชุดสายการบินรัดรูปวาบหวิว โถ น้อง ต้องไปเรียนต่อต่างประเทศหรอคะ น่าสงสารจริงๆ อะ อ้าม (ป้อนข้าวไก่อบ) มามะ พี่จะกอดให้กำลังใจ เช็ดน้ำตาซะ โอ๋ๆ (อิอิอิอิ) พอไปถึงที่นั่นก็นั่งรถต่อไปที่เมืองหลวง Canberra ซึ่งเหมาะแก่การเกษียนหรือชมดอกไม้ และเหมาะแก่การเฉาตายเป็นอย่างยิ่ง... เสด็จแม่ของผมช่างมีวิสัยทัศน์กว้างไกล วางแผนไปไกลหลายสิบปี เค้าเลือกโรงเรียน Canberra Grammar School ซึ่งทั้งโรงเรียนมีคนไทยอยู่เพียง 2 คน (รวมผมด้วย) ด้วยมาดอันเย่อหยิ่งจองหองและหน้าตลกทะเล้นแบบไม่เกรงใจนรก พูดภาษาเค้าก็ไม่ได้ ได้แต่ทำหน้าติงต๊อง (มุขไทยใช้กับฝรั่งไม่ได้ผล....เชื่อดิ)ผมนั่งน้ำตาซึมถอนหายใจกินข้าวคนเดียวเป็นเวลานาน ไม่มีเพื่อน เหงา อยากกลับบ้าน ร้องไห้ ไม่มีใครให้อ้อน... และแล้ววันหนึ่ง ความชั่วร้ายจากก้นบึ้งแห่งจิตใจของผมมันก็เริ่มประทุออกมา ผมอยากหาเพื่อนมาก ผมหยิบไพ่สำรับนึง เดินดุ่มๆไปกลางห้องโถงกลางของแผนกคณิตศาสตร์ แล้วเริ่มบรรเลงสับไพ่อย่างเมามัน วิชาอะไรที่ได้เรียนมาจากบ่อนในไทย ผมเอามาสับไพ่หลอก กรีดไพ่เรียง เอียงไพ่แจก สลับสับมือ โชว์วิชาเกาจิ้งตัดเองของผมอย่างช่ำชอง!!! ได้ผล! หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ผมกลายเป็นเจ้าพ่อคาสิโนในโรงเรียนไปในทันที ผมรู้ครับว่า คงมีคนอยากจะด่าผมว่าทำไมทำตัวชั่วร้ายแบบนี้ แต่คิดซะว่าอ่านเพื่อความบันเทิง อย่าไปคิดมาก เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง คอยดูผลกรรมของผมละกัน หึหึ (ติดตามตอนต่อไป เร็วๆนี้) ปล - รูปนี่โรงเรียนผมครับ จากคุณ : NAKORN66 - [ 16 ก.ย. 50 16:08:47 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เพิ่งกลับจากไปชุมนุมเพื่อนเก่าสมัยคอลเลจที่ Clare Valley เมื่อคืนไปถกกันที่ Skillogalee  Winery หลังจากรีสลิงก์ ชีราซ หลายขวดแล้ว ก็งัดไวน์แดงแฟลกชิพที่เมิ้มไว้ยังไม่ได้ปล่อยออกตลาดมาให้ชิมกันเป็นที่เบิกบานใจได้ที่ รู้ไหมว่าลงท้ายถกกันเรื่องอะไรถ้าไม่ใช่ชีวิตแต่งงาน ฉบับที่คุยกันมันยาว เอาฉบับสรุปไปก็แล้วกัน เราว่ากันว่าชีวิตแต่งงานที่ประคองอยู่กันไปได้ ต้องเป็นวงกลมสองอันที่มี่ส่วนหนึ่งตัดกัน และอีกส่วนเป็นเอกเทศของมัน ไม่งั้นอยู่กันไม่รอด แต่ที่ว่าส่วนร่วมส่วนแยกจะมากแค่ไหนตรงนี้ต้องว่ากันเอาเองตามอัตภาพ สมัยนี้น่าจะเป็นสมัยที่ช่วยกันทำมาหากินไม่ใช่หรือ สาวๆ เขาคงไม่หวังจะให้ใคร "เลี้ยง" หรอกน่า แล้วอย่างคุณน้องก็คงไม่อยากได้สาวแบบนั้นหรือเปล่า การอยู่ด้วยกันก่อนดูจะเป็นแฟชั่นของสมัยนี้ จะว่าดีก็ดี จะว่าแย่ก็แย่ได้ เช่นตัดสินใจง่ายๆ ก็ไปอยู่ด้วยกันแล้ว อยู่ๆ ไปไม่พอใจก็เลิกกัน แล้วก็เริ่มต้นใหม่ แบบนี้มันวุ่นวายได้ แต่ถ้าหากว่าคิดดีแล้ว ดูกันพอสมควรแล้ว มั่นใจพอควร ไปลองอยู่ด้วยกัน ก็คงไม่ต่างจากการแต่งงานเท่าไรหรอก สักแต่ไม่มีทะเบียนเท่านั้นเอง เมื่อเราคิดจะจริงจัง ก็ต้องวางแผนว่าจะขีดให้วงกลมล้ำกันแค่ไหน เรื่องเงินเรื่องทองเป็นเรื่องสำคัญเหมือนกันแหละ ที่ถามๆ มานี่แปลว่าคุณยังไม่รู้ใจกันดี ไม่งั้นไม่ถาม ก็มีแค่สองวิธี คือลงทุนเชื่อใจแล้วก็เอาทุกอย่างลงกองกลางหารสอง หรือยังไม่แน่ใจก็ทำอย่างคุณพ่อโปร ว่าแบ่งไว้ส่วนหนึ่งเป็นของตัวคุณเอง ไม่รู้นะ เรื่องอย่างนี้มันอยู่ที่ gut feeling ถามใจตัวคุณเองสิ จากคุณ : lilymay - [ 16 ก.ย. 50 22:33:31 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ขณะนี้เวลา 3.00 น. ตีสามแล้ว ผมยังซิงค์งานไม่เสร็จ หนังชั่วโมงครึ่ง แต่เต็มไปด้วยเนื้อหาสาระว่าด้วยเรื่องไฟป่าและวิทยาศาสตร์..ทั้งทฤษฎี ทั้งแอคชั่น ทั้งอะไรต่อมิอะไรที่ต้องใช้การค้นคว้าหาคำที่ถูกต้อง แม้ว่ามันจะไม่ได้เข้าโรง แต่เราก็อยากทำงานให้ดี อยากกลั่นกรองทุกถ้อยคำให้ออกมาสมจริงและ"ดูสนุก" ตีสามแล้วที่เรายังนั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าคอม ชาเขียว super lemon หมดไป 2 ขวด... กระทิงแดงผสมแรงเยอร์ใส่โค้กZERO หมดไป1กระติก...มาม่าหมูสับไข่ยางมะตูมที่ซัดหมดไปเมื่อไหร่ไม่รู้ตัว... ทั้งหมด...ก็เพื่อความเป็นศิลปิน..ใช่.... เราจะแปลส่งๆไปให้มันผ่านๆไป เชื่อได้เลยว่านักพากย์หรือคนดู ก็คงไม่สนใจเท่าไหร่ เพราะไม่ใช่หนังฟอร์มยักษ์... แต่มันยอมไม่ได้ จะให้แปลผิด แปลมั่วไม่ได้ แน่นอน...ถ้าไม่จำเป็น... ถ้าสุดวิสัยจริงๆ การตัดคำ หรือประโยคออก เพื่อให้ปากกับคำพูดสัมพันธ์กันอย่างสมบูรณ์ย่อมเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ พรุ่งนี้ต้องปิดเรื่องนี้ให้จบ และมีหนังสยองขวัญใช้ภาษาโบราณอีกหนึ่งเรื่อง ส่งเย็นพรุ่งนี้เหมือนกัน... ต้องเข้าบริษัทไปในสภาพซอมบี้ พร้อมบะหมี่สำเร็จรูปและกระทิงแดงกับน้ำแข็ง... เท่...เท่จริงๆ... บอกได้เลยว่า ไอ้อารมณ์นี้แหละ...คือมืออาชีพ...จริงมั้ยครับ? ถึงฝีมือผมยังไม่ถึงขั้น... แต่ไอ้อารมณ์นี้แหละ..มันต้องใช่แน่ๆ จากคุณ : NAKORN66 - [ 17 ก.ย. 50 03:07:53 ]

ความคิดเห็นที่ 61 น่าสนใจนะ ไฟป่า ผมเคยเรียนเรื่องนี้ในเชิงทฤษฎี ต้นกำเนิด ลักษณะ รูปแบบ การป้องกัน การแก้ไข มีหลายเรื่องที่ไม่เคยรู้มาก่อน เช่น เขาแบ่งเป็นไฟที่ไหม้ลามจากเรือนยอด บนดิน ใต้ผิวดิน (รูปแบบ) การชิงเผาเพื่อลดการสะสมเชื้อไฟ (ป้องกัน) การจุดไฟสู้ไฟหรือการถากไลน์ป้องกัน (แก้ไข) ฯลฯ สนุกมาก ได้ฝึกงานในพื้นที่จริง กับไฟจริงๆ โดยไม่ตั้งใจเมื่อเพื่อนบางคนเผาป่าโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ตอนนี้ต้องไปทำงานก่อน สองวันนี้ต้องตรวจงานสามสิบกว่าชั่วโมงเหมือนกัน คงประมาณเดียวกับแปลหนังวันละเรื่องนั่นแหละ จากคุณ : พ่อโปรเจ็กต์ - [ 17 ก.ย. 50 10:12:02 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ขณะนี้เวลา 1.41น. ของวันถัดมา... งานเสร็จหมดแล้ว ซิงค์ปากหนังสองเรื่อง แปลแบบถึงพริกถึงขิงมาก อินสุดๆตะโกนลั่นห้องเลย 5555+ พรุ่งนี้ไปส่งที่ทำงานไม่ไหว เลยส่ง email ไปให้พี่สาวสุดสวยที่ทำงานส่งต่อให้ที (มีแฟนแล้วนะ นะโมนะโม อิอิ)  ตาบวมเป่ง ไม่รู้โดนอะไรมาครับ เดี๋ยวอีกแปบจะนอนแล้ว จากคุณ : NAKORN66 - [ 18 ก.ย. 50 01:44:46 ]

ความคิดเห็นที่ 63 22/9/50 เวลา 11.00น. ขณะนี้ผมกำลังพักผ่อนอยู่ในห้องสมุดของม.สวนดุสิต นั่งตากแอร์ใช้เนทบนแล๊ปท็อปคู่ใจ (ซึ่งกำลังวางแผนจะเปลี่ยนเป็นตัวท็อป ถ้าแผนการปล้นธนาคารสำเร็จ) ภารกิจเร่งด่วน เอางานแปลภายใน 24 ชม ที่ได้รับมาเมื่อวันก่อนเสร็จสิ้นไปเมื่อวานนี้ และก็ได้รับความไว้่วางใจจากบริษัท เนื่องจากความที่บริษัทนี้เป็นบริษัทเกมที่น่าเชื่อถือ คาดว่าคงไม่น่ามีปัญหากินข้าวมองรูปปลาเค็ม แม้นจะเป็นงาน Freelance แต่รายได้ก็เอามาใช้จ่ายประจำวันได้ไม่ขัดสน (โอ้ว เก๊กมาก เริ่มเกร็งปาก) ภารกิจที่ได้รับมาเมื่อวานนี้คือ คู่มือเกม กับ เอกสารว่าด้วยรายละเอียดแพชท์ใหม่ ซึ่งทั้งสองต้องเทียบคำศัพท์เฉพาะกับไฟล์ต้นฉบับ สนุก ตื่นเต้น เร้าใจ ยิ่งพอรู้ว่าอีกไม่กี่ ชม เราต้องส่งงานแล้ว และตอนนั้นเป็นเวลาตี4 เนี่ย..มันระทึกขวัญจริงๆ ด้วยสปิริตจิตวิญญาณแห่งนักแปลทำให้การทำงานข้ามวันประสบความสำเร็จไปด้วยดี โดยไม่มีอาการ"หลับใน" (ซึ่งหมายถึงอาการที่หลับใน แล้วพิมพ์กระเดือยอะไรออกไปอ่านไม่รู้เรื่อง) เป็นเรื่องที่น่าเศร้า ที่งานแปลของผมไม่เพียงพอสำหรับการดำรงชีพได้ เนื่องจากตอนนี้ผมมีอีกชีวิตต้องดูแล ไม่ใช่ตัวคนเดียวหารสองเหมือนสมัยออกจากบ้านมาใหม่ๆแล้วแชร์อยู่กับพี่ชาย เราต้องคิดถึงอนาคตไว้ก่อน ต้องดึงเอาความสามารถทั้งหมด (หมูทำอะไรก็อร่อย) ออกมาเพื่อหาเงินให้ได้มากพอจะ support ทั้งอาหารการกิน หยูกยา ค่าบ้านค่าน้ำค่าไฟค่าเนทค่าโทร สารพัด - -" เฮ้อออออ ชีวิตต้องสู้จริงๆครับ พอเค้าเห็นว่าเราทำงานด่วนได้ ทีนี้เลยป้อนงานด่วนใหญ่เลย งานหน้าเห็นว่าเป็นงานโฆษณาเกม เอ้า มาสู้กันต่อไป กร๊ากกกกฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : NAKORN66 - [ 22 ก.ย. 50 11:06:54 ]

ความคิดเห็นที่ 64 โอ๊ะโอ ข้า น้อยสมควรตายหมื่นๆ  ครั้ง แต่ครั้งนี้ ขอไว้ก่อน  ก็แค่อยากให้เพื่อนได้เงินคืน นะคะ  คุณ NAKRON99 ไม่เคยถูกใคร ยืมเงินแล้วชักดาบออก มาแทงข้างหลัง เลย คงไม่รุ้ว่า มันเป็นอย่างไร รูปโรงเรียนเก่าคุณ NAKORN99 สวยดีนะคะ     ช่ายคะชีวิตเรา ต้องสู้ไปไม่หยุดนิ่ง  คนเก่งจริง ต้องฟันฝ่า อย่าหวั่นไหว แล้วจะพบ ความสำเร็จ อีกไม่ไกล สิ่งที่ได้ คือรางวัลแห่งความเพียรคะ     ถ้าจะบอก เวบมาสตงมาสเตอร์ มายึดบัตร อะไรก็ได้  ทำไปเถอะคะ ถ้าทำแล้วมีความสุข  ก็ทำไปเลยคะ ไม่ว่ากัน อยุ่แล้ว เพราะฉันอะไรก็ได้ ยังไงก็ได้  ขออย่างเดียว อย่าให้ใครมายืมเงินเพื่อนฉัน อีกก็แล้วกัน จากคุณ : impish_girl - [ 11 ต.ค. 50 08:07:36 ]

ความคิดเห็นที่ 65 แวะมาบ้านเก่า คนแถวนี้ยังคุยกันสนุกเหมือนเดิมนะครับ 5555 จากคุณ : abanibi - [ วันรัฐธรรมนูญ 09:52:30 ]