ความคิดเห็นที่ 1 เท่าที่ผมจำได้ ตอนเรียนวิชาประวัติศาสตร์ศิลปะยุโรป (สมัยเรียนปริญญาตรี) ศิลปะบารอค นี่จัดได้ว่าเป็นสมัย/รูปแบบศิลปะที่นักประวัติศาสตร์ศิลปะจัดให้เป็นยุคเสื่อมแล้ว คือเป็นศิลปะที่ค่อนข้างแน่น เลอะเทอะ บางคนบอกว่าเป็นศิลปะที่รังเกียจพื้นที่ว่างเปล่า คือมีพื้นที่เท่าไหร่ก็พยายามยัดเยียดเบียดๆอัดๆใส่เข้าไป จนดูรกรุงรัง ส่วนโรโคโค นี่.. ผมจำไม่ได้แล้วครับ ถ้ามีท่านใดทราบก็ช่วยมาบอกต่อกันด้วยนะ หรือถ้ามีเวลาเดี๋ยวผมขอไปค้นข้อมูลแล้วจะเอามาบอกอีกที ส่วนเรื่องเกี่ยวกับ Red brick นั่นก็ถูกต้องแล้วครับ ประวัติศาสตร์ว่าไว้อย่างนั้น ไม่เฉพาะอังกฤษนะครับ ในช่วงเวลาร่วมสมัยกัน งานสถาปัตยกรรมและแลนด์สเคป ในประเทศอื่นๆ ของภาคพื้นแผ่นดินใหญ่ยุโรปก็มีรูปแบบคล้ายๆกัน อย่างในโซนเมืองเก่า ย่านเก่าของปารีส นั่นก็ชัดเหมือนกัน ถนนหนทางก็ปูด้วยหิน แล้วทุกวันนี้เค้าก็ยังสงวนรักษาสภาพแบบนั้นเอาไว้ ผมว่าน่าดูมากๆ เป้ฯเสน่ห์ ถูกใจคนที่ชอบซึมซับอดีตหรือโหยหาความคลาสสิคในช่วงเวลาที่ตนเองเกิดไม่ทัน (เช่น ผมคนนึง) จากคุณ : กุมภีน - [ 27 ก.ย. 50 09:54:30 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ศิลปะแบบ บารอค baroque มีรากศัพท์มาจากภาษาโปรตุเกสโบราณจากคำว่า barrocoแปลว่าไข่มุกที่บิดเบี้ยว(ไข่มุกถือว่าเป็นราชาแห่งอัญมณีในช่วงนั้นเพราะหายากยิ่งที่บิดๆเบี้ยวๆแล้วราคายิ่งแพง ก่อนที่จะเสียแชมป์ให้เพชรในช่วงโรโคโค) เข้าเรื่องนะครับ ศิลปะแบบนี้เกิดและฟูมฟักในอิตาลีประมาณปี 1600 ในขณะนั้นศิลปะในยุโรปเข้าสู่ช่วงปลายของ manerism แล้ว จากนั้นจึงแพร่หลายไปทั่วยุโรป เอกลักษณ์ของศิลปะแบบบารอค ถ้าเป็นทางมัณฑณศิลป์ คือการเน้นการประดับประดามากมาย ถ้าทางทัศนศิลป์จะเน้นอารมณ์ความเคลื่อนไหว ไม่ใช่ภาพที่ดูนิ่งๆแบบก่อนๆ ภาพของ rubens จิตรกรเอกในสมัยบารอค จากคุณ : odia - [ 27 ก.ย. 50 10:51:38 ]

ความคิดเห็นที่ 3 หากเปรียบศิลปะเป็นคนแล้ว baroque คือ บุรุษ rococo คือ สตรี ศิลปะแบบโรโคโค เกิดจากการสนธิคำในภาษาฝรั่งเศสว่า rocaille ที่แปลว่าเปลือกหอนเชลล์ กับคำว่า barroco กลายเป็น rococo ใช้เรียกรูปแบบทางศิลปะทางทัศนศิลป์ มัณฑณศิลป์ วิจิตรศิลป์ ประติมากรรม และการแต่งกาย เป็นรูปแบบที่ถูกจริตชาวฝรั่งเศสมาก ส่วนใหญ่ศิลปะแบบโรโคโคจะเน้นไปที่การตกแต่งภายในมากกว่า ที่กล่าวว่าศลปะแบบโรโคโคเปรียบได้กับสตรีก็เพราะถึงแม้จะมีการประดับประดามากมายเช่นเดียวกับศิลปะแบบบารอค แต่มีความพริ้วบางอ่อนไหวนุ่มนวลกว่ามาก และเน้นความเคลื่อนไหวมากเหมือนผู้หญิง แต่บารอคจะหนักแน่น เส้นหนา แบบผู้ชาย ตัวอย่างเช่น ถ้าการประดับปูนปั้นที่มุขหน้าบันแห่งหนึ่ง ถ้าเราลองแบ่งครึ่งมุขหน้าบันนั้น2ข้างจะไม่เหมือนกัน แต่มีน้ำหนักเท่ากัน ในขณะที่ศิลปะแบบบารอค2ข้างเค้าจะปั้นเหมือนกัน ศิลปะแบบโรโคโคเริ่มพัฒนาออกจากศิลปะบารอคในช่วงปี 1700 และหยุดพัฒนาในช่วง1750ช่วงนี้อยู่ในระยะคงตัวครับ ก่อนที่ราวๆปี1789-90จะกลายเป็นศิลปะแบบ neoclassic ที่ได้รับแนวคิดและรูปแบบมาจากศิลปะกรีกโรมัน รูปล่างนี่เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับศิลปะแบบโรโคโคครับThe Rococo Basilica at Ottobeuren (Bavaria) จากคุณ : odia - [ 27 ก.ย. 50 11:10:08 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อันนี้เป็นการตกแต่งภายในแบบบารอคครับลองเทียบกันดู จะเห็นว่าบารอคจะเป็นอะไรที่คล้ายๆกับทำเป็ฯบล็อคเป็นแพทเทดร์นตายตัว แต่โรโคโคจะใข้ความสามารถในการคิดและสร้างสรรค์อย่างเต็มที่มากกว่า Sicilian Baroque: San Benedetto in Catania. จากคุณ : odia - [ 27 ก.ย. 50 11:28:26 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ภาพ the swing ของFragonard, Jean-Honoréเป็นตัวอย่างของศิลปะโรโคโค อิทธิพลของคิลปะแบบโรโคโคยังยังส่งผลต่อศิลปะดังนี้ ศิลปะแบบ art nouveau ในช่วงปลายวิกตอเรียน เอเวอร์เดียน สิลปะแบบ art deco อันนี้พัฒนามาจาก art nouveau อีกทีครับ ศิลปะแบบ psycadalic art ในช่วงยุค70's จากคุณ : odia - [ 27 ก.ย. 50 11:39:19 ]

ความคิดเห็นที่ 6 นึกถึงหนังสือ The Story of Art ของ Ernst Gombrich เขียนไว้ดีมากครับ จากคุณ : BlueWhiteRed - [ 27 ก.ย. 50 13:01:34 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เก็บๆๆ กระทู้นี้ เข้าคลังโลดดดด :-) จากคุณ : เซียงหยาง (xiangyang) - [ 27 ก.ย. 50 19:08:26 ]

ความคิดเห็นที่ 8 โอวววว กรี๊ดดด ชอบมาก กระทู้นี้   มีอีกไม๊คะ  ขออีกๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : letsgokrabi - [ 28 ก.ย. 50 01:35:53 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มีหนังสือแนะนำไม๊คะ นอกจากThe Story of Art ของ Ernst Gombrich ขอแบบภาษาไทยนะคะ กลัวจะอ่านภาษาฝรั่งรู้เรื่อง แบบไปคนละเรื่องเดียวกันน่ะค่ะ เอาแค่ ให้อ่านแล้วดูศิลปะสนุกขึ้นนิดนึง ไม่ต้องถึงกับ ฉลาดเริ่ด ก็ได้ค่ะ (เพราะกลัวจะอ่านไม่รู้เรื่อง) จากคุณ : letsgokrabi - [ 28 ก.ย. 50 01:44:57 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คุณ letsgokrabi ครับ บ้านเราไม่ค่อยแปลหนังสือดีเป็นภาษาไทย ต่างจากญี่ปุ่น อย่าง The Story of Art ของ Ernst Gombrich ถือเป็นหนังสือศิลปะระดับคลาสสิคที่ขึ้นหิ้งไปแล้ว เป็นงานที่ใครต่อใครยกย่องครับ จากคุณ : BlueWhiteRed - [ 28 ก.ย. 50 12:42:03 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อีกเล่มที่ดีมากคือ Civilization ของ Kenneth Clarke เล่มนี้ดัดแปลงมาจากซีรีส์สารคดีทางทีวีครับ น่าอ่านมาก ครอบคลุมทั้งศิลปะและอารยธรรมตะวันตก จากคุณ : BlueWhiteRed - [ 28 ก.ย. 50 12:43:17 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณค่ะ งั้นจะหา  The Story of Art ของ Ernst Gombrich  มาใส่ไว้ใต้หมอน ค่อยๆให้มัน ออสโมซิสเข้าหัวไปก้อได้เนอะ  อิอิ แบบว่า อ่อน reading อ่ะค่ะ ยิ่งเป็ฯพวกศัพท์เฉพาะทางแล้วยิ่งเหวอ แต่จะพยายามแกะวันละหน้าคร่งหน้าก้อยังดีเนอะ และหวังว่า หนังสือเล่มนี้ จะมีรูปภาพเยอะกว่าตัวหนังสือ แหะๆ จากคุณ : letsgokrabi - [ 30 ก.ย. 50 04:34:20 ]