ความคิดเห็นที่ 9
จิ้นซี เกิดก่อน เจงกิสข่านนานหลายปี เป็นคนรวมประเทศจีนให้อยู่ในแพงเดียวกัน กำแพงเมืองจีนก็มีมาก่อน จิ้นซี แล้วแต่จิ้นซีมาต่อเติมให้สมบรูณ์ แต่ถ้าจะมองอย่างตรงไปตรงมาแล้ว กำแพงเมืองจีนสะท้อนให้เห็นความ เก่งกาจในการรบของชนเผ่าเร่ร่อนต่างๆ ในทุ่งราบตอนเหนือของจีน ซึ่งไม่ได้มีแต่มองโกล อย่างเดียว จนจีนต้องสรางกำแพงมาป้องกัน กำแพงเมืองจีนเสร็จสมบรูณ์แล้ว ตอนที่ เตมูจินเกิด คนจีน กับมองโกล ถ้ามองเผินๆ อาจคล้ายๆ กัน ขาวๆ ตี๋ๆ แต่จริงแล้ว ชาวมองโกล กับมีความเป็นมาใกล้ชิดกับพวกชนเผ่า เร่ร่อนในเอเชียกลาง ซะมากกว่า วัฒนะธรรมของจีน จึงแตกต่างจาก มองโกลมาก โดยเฉพาะวิธีคิด กองทัพมองโกล ยึดถือหลัก การข้อหนึ่งก็ คือใครเก่งคนนั้นได้เป็นใหญ่ โดยเจงกิสข่านเคยกล่าวไว้ว่า " นักรบไม่อาจชนะการศึกด้วยชาติตระกูล " แตกต่างกับจีนที่ มีราชวงศ์ ขุนนาง ระดับต่างๆ ขันที คนรบเก่งก็ตายไป คนใกล้ชิดได้เป็นใหญ่ นี้คือหลักการของจีน และข้อสำคัญ พื้นฐานของคนสองชาติพันธ์ นี้ต่างกันสิ้นเชิงคือ คนมองโกล กินเนื้อสัตว์ ดื่มนมเปรี้ยว นุ่งหนังสัตว์ ขี้ม้ายิงธนู เล่นมวยปล้ำ บึกบึน อดทน กินง่ายอยู่ง่าย โหดเหี้ยม มีวินัยสูง ใช้ ธนู ดาบโค้ง เป็นอาวุธหลัก ยุทธวิธีการรบก็เป็นแบบของจริง ๆ มีทั้งจู่โจมสายฟ้าแลบ , ถอยล่อศัตรูมาติดกับ ฯลฯ หลักการของชายมองโกลก็คือ ถ้าต้องการสิ่งใดจงแย่งชิงเอา ขนาดเมียของเตมูจินก็เคยโดยเผ่าอื่นแย่งไปเป็นเมีย แม่ของเตมูจิน ก็ถูกพ่อเตมูมินฉุดมา ชื่อเตมูจิน ก็ตั้งตามชื่อศัตรูที่พ่อเตมูจินฆ่าได้ ส่วนคนจีนในยุคนั้น ปลูกข้าว เลี้ยงไหม เล่นหมากล้อม จิบน้ำชา นับถือขงจื้อ เก่งแต่เล่นสำนวนโวหารไปวันๆ ฮ่องเต้ อ๋อง คนระดับชั้นสูง อาจไม่เคยเห็นการฆ่าฟันเลย ใช้กระบี่เล็กตรงๆ ยาวๆเป็นอาวุธ ศึกษาพิชัยสงครามซุนวูถือว่าเป็นของดี แต่จริงๆแล้วคนละเรื่องกับการรบจริงๆ ในสนามเลย เป็นเรืองคิดเอาฝันเอา ดังนี้น ถ้ากองทัพของคนสองจำพวกนี้มาเจอกัน คุณจะเดิมพันข้างไหน ทั้งๆที่ จริงๆ แล้วทัพ เจงกิสที่ตีเมืองจีน มีกำลังแค่ ๕๐๐,๐๐๐ คนเท่านั้น ไม่ได้มีเป็นแสนเป็นล้าน
จากคุณ :
jack
- [
12 ต.ค. 50 19:52:16
A:202.139.223.18 X: TicketID:157285
]
|
|
|