ในช่วงที่เติ้งหลบไปที่กวางตุ้งนั้น อยู่ภายใต้การคุ้มครองของแม่ทัพสี่ซื่ออิ่วแห่งเขตทหารกว่างโจว เมื่อสุขภาพของประธานเหมาะทรุดหนักนั้นก็มีเหล่าสหายนำในพรรคเช่น จอมพลเย่เจี้ยนอิง เลี่ยวจื่อเกา เฉินหยุน ฯลฯ มาเยี่ยมเยียนเติ้งเพื่อวางแผนกันทำลายแก๊งสี่คน
ปัจจัยสำคัญว่าพวกแก๊งสี่คนจะชนะหรือเติ้งจะแพ้ก็คือ ฮว่ากั๋วเฟิง ทายาทของท่านประธานเหมาว่าเขาจะเลือกยืนอยู่ข้างใคร ซึ่งฮว่ากั๋วเฟิงก็เลือกที่จะยืนอยู่ข้างสหายเก่าแก่ในพรรคอย่างพวกของเติ้งเสี่ยวผิงและจอมพลเย่เจี้ยนอิง โดยวางแผนกับจอมพลเยี่เจี้ยนอิงเพื่อจับกุมแก๊งสี่คนก่อนทื่พวกเขาจะทันก่อการ วันที่ 6 ตุลาคม 1976 ตำรวจของรัฐบาลเข้าจับกุมเจียงชิง เหยาเหวินหยวน จางชุนเฉียว และ หวางหงเหวินได้ทั้งหมด และเปิดการประชุมลงโทษพวกเขา เมื่อหัวหน้าแก๊งทั้ง 4 โดนจับลูกน้องทั้งหลายของพวกเขาก็แตกกระจายหนีหายกันไป ประเทศจีนจึงรอดจากสงครามกลางเมืองไปได้
เมื่อแก๊งสี่คนโดนกำจัด ฮว่ากั๋วเฟิงก็เชิญเติ้งเสี่ยวผิงกลับมาทำงานให้พรรคออีกครั้งในฐานะที่เป็นสหายอาวุโส แต่เติ้งก็ยังทำตามนโยบายของตนไม่ถนัดนัก เพราะเด็กใหม่อย่างฮว่ากั๋วเฟิงนั้นยังอยู่
เพื่อขจัดฮว่ากั๋วเฟิง และดำเนินนโยบายประเทศตามที่เติ้งต้องการ เติ้งก็ได้เตรียมแผนการเดียวกับที่ครุสชอฟเคยเล่นเมื่อปี 1956 โดยการทำลายชื่อเสียงของผู้หนุนหลังฮว่าอย่างประธานเหมาก่อน เพื่อทำให้ฮว่ากั๋วเฟิงคือตัวเลือกที่ผิดพลาดของประธานเหมา แน่นอนแผนการของเติ้งง่ายดายและสำเร็จได้ไม่ยาก เพราะเทียบกันแล้ว เติ้งเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนในยุโรปรุ่นแรกๆ ร่วมหัวจมท้ายกับพรรคมาตั้งแต่ปี 1921 จนถึงตอนนั้น (1978) ก็แทบจะมากกว่าอายุของฮว่ากั๋วเฟิงเสียอีก เกรียรติภูมิของเติ้งเสี่ยวผิงในการศึกและการบริหารก็เหนือกว่าฮว่ากั๋งเฟิงแบบเทียบไม่ติด แผนการของเติ้งได้รับการตอบสนองด้วยดีจากพวกหูเหยาปังและจ้าวจื่อหยา รวมทั้งศัตรูผู้แค้นเคืองประธานเหมาทั้งหลาย
ในช่วงปี 1977-1981 เติ้งและพวกพ้องส่งจดหมายเวียนในพรรคว่าด้วยความผิดพลาดของประธานเหมา และความไม่เหมาะสมของฮว่าในหลายๆประการหลายครั้ง มีการออกมาวิพากษ์วิจารณ์รวมทั้งใส่สีตีไข่ป้ายสีประธานเหมาต่างๆนาๆจากสื่อและมวลชนจำนวนมาก จนมีคนเสนอว่าให้เอาร่างของประธานเหมาจัดการเหมือนร่างของสตาลินบ้าง บางคนเพี้ยนหนักบอกว่าให้ลบชื่อปลดป้ายประธานเหมาออกไปเลยก็มี
ฮว่ากั๋วเฟิงโดนถอดถอนออกจากทุกตำแหน่งในปี 1981 เมิ่ออุปสรรคสุดท้ายของเติ้งโดนกำจัด เติ้งเสี่ยวผิงก็ขึ้นนั่งเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ให้จ้าวจื่อหยาและหูเหยาปังเข้าคุมพรรคและกองทัพ เติ้งเสี่ยวผิงจึงได้ปกครองจีนอย่างสมบูรณ์ในปี 1981 นี้เอง และเริ่มผลักดันนโยบาย 4 ทันสมัยอย่างจริงจังในปี 1982
แน่นอนครับว่าในยุคแรกๆนั้น เติ้งก็ต้องต่อสู้กับเหล่าผู้อาวุโสในพรรค (พวก 8 เซียนซึ่งเติ้งเองก็เป็นหนึ่งในนั้น) ที่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับ 4 ทันสมัยและการให้มวลชนมีเอกสิทธิ์ในด้านที่ดิน รวมไปถึงการเปิดเมืองท่าหลายๆแห่งรับการลงทุนจากภายนอก เติ้งก็ค่อยๆใช้วาทะศิลป์ล็อบบี้ให้พวกนี้เห็นด้วยทีละน้อยๆ และค่อยๆเปลี่ยนจีนจนเป็นแบบผสมเหมือนทุกวันนี้
ปล. 8 เซียนส่วนใหญ่ถึงแก่กรรมหรือไม่ก็วางไปหมดในช่วงปี 1995-98 นั่นก็ทำให้เจียงเจ๋อหมินที่เป็นพวกหัวทุนนิยมกว่า เดินหน้าจีนตามแบบที่เขาต้องการโดยค่อนข้างไร้อุปสรรค และผลักดันนโยบาย 3 แนวร่วมออกมาในช่วงภายหลังจากการถึงแก่กรรมของเติ้ง
แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 50 18:53:33
แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 50 16:42:50
แก้ไขเมื่อ 14 ต.ค. 50 16:42:20