คำว่า "รัฐชาติ" นี่แปลไม่ออกจริงๆ ไม่รู้ใครบัญญัติ และแพร่หลายเร็วมาก
แต่ที่นี่เราเรียก "ราชอาณาจักร" มาแต่โบร่ำโบราณแล้วครับ
การปกครองสมัยโบราณเคยได้อ่านอยู่บ้าง
แต่โบราณมามีการปกครองที่ผสมกันอยู่หลายอย่าง ไม่ใช่ใช้วิธีเดียวในการปกครองทั่วราชอาณาจักร ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายอย่าง
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=rattanakosin225&month=21-03-2007&group=2&gblog=37
คำว่า "บรรณาการ" เป็นส่วนของเมืองประเทศราชที่ขึ้นต่อกรุงศรีอยุธยา
ในส่วนการปกครองที่เป็นเจ้าเมืองเราเรียก ส่วยสาอากร ประกอบด้วย๔ อย่าง
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=rattanakosin225&group=10&date=09-04-2007&gblog=2
เรียกว่าจังกอบอย่าง ๑ อากรอย่าง ๑ ส่วยอย่าง ๑ ฤชาอย่าง ๑ เรียกรวมกันว่า ส่วยสาอากร หรือ ส่วยสัดพัฒยากร หาได้เรียกว่า ภาษีอากร อย่างทุกวันนี้ไม่
จังกอบ นั้นเก็บชักส่วนสินค้า หรือเก็บเงินเป็นอัตราตามขนาดยานพาหนะที่ขนสินค้า เช่นเรือเป็นต้น เมื่อผ่านด่านขนอนทางบกทางน้ำ ในกฎหมายลักษณะอาญาหลวง (มาตรา ๑๐) ว่าพิกัดเก็บ ๑๐ หยิบ ๑ ประเพณีเก็บจักกอบนี้ มีมาแต่ดึกดำบรรพ์ ปรากฏในจารึกของพระเจ้ารามคำแหงมหาราช ครั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานีของประเทศสยามนี้กล่าวว่า เมื่อพระเจ้ารามคำแหงครองกรุงสุโขทัยนั้น ทรงทำนุบำรุงราษฎรให้ไปมาโดยผาสุก เจ้าเมืองบ่เอาจะกอบในไพร่ลู่ทาง ดังนี้
อากร นั้น เก็บชักส่วนผลประโยชน์ที่ราษฎรทำมาหาได้ โดยประกอบอาการต่างๆ เช่น ทำนา ทำไร่ ทำสวน เป็นต้น หรือโดยให้สิทธิของรัฐบาล เช่น อนุญาตให้เก็บของในป่า จับปลาในน้ำ และต้มกลั่นสุราเป็นต้น พิกัดที่เก็บเข้าใจว่าคงประมาณอยู่ราว ๑๐ หยิบ ๑ ในผลประโยชน์ที่ได้นั้นเป็นอัตรา
ส่วย นั้นคือยอมให้บุคคลบางจำพวกส่งสิ่งของ ซึ่งรัฐบาลต้องการใช้แทนที่คนเหล่านั้นต้องมาประจำทำราชการด้วยแรงของตน ยกตัวอย่างดังเช่น ยอมอนุญาตให้ราษฎรที่ตั้งภูมิลำเนาอยู่ชายดงพระยาไฟ หาดินมูลค้างคาวอันมีตามถ้ำที่ภูเขาในดงนั้น มาหุงดินประสิวส่งหลวงสำหรับทำดินปืน หรือเช่นยอมให้ราษฎรชาวเมืองถลางหาดีบุกอันมีมากในเกาะนั้น ส่งหลวงสำหรับทำลูกปืนแทนแรงรับราชการเป็นต้น อัตราส่วยที่ต้องส่งคงกำหนดเท่าราคาที่ต้องจ้างคนรับราชการแทนตัว
ฤชา นั้นคือค่าธรรมเนียม มีกำหนดเรียกจากการต่างๆ ซึ่งรัฐบาลทำใช้เพื่อประโยชน์แก่ราษฎรบางคนเฉพาะตัว ยกตัวอย่างดังผู้ใดจะขอโฉนดตราสารเป็นสำคัญ แก่กรรมสิทธิของตน มิให้ผู้อื่นบุกรุกแย่งชิงที่เรือกสวนไร่นา รัฐบาลก็เก็บค่าฤชาจากเจ้าของกรรมสิทธินั้น หรือเช่นราษฎรเป็นความกัน รัฐบาลต้องชำระให้โรงศาล ฝ่ายใดแพ้คดีถูกปรับไหมให้ใช้เงินแก่ฝ่ายชนะเท่าใด รัฐบาลย่อมเก็บเป็นฤชากึ่งหนึ่งนั้น เรียกว่าเงินพินัย
"ชาติ" มีความหมายมากกว่าการทำแผนที่หรือการปกครองแบบใหม่ๆ
ผมจึงไม่เห็นด้วยถ้าบอกว่า "เราเพิ่งจะรวมเป็นชาติก็สมัยร4-5อะครับ" ครับ
สวัสดีครับ คุณ Tanis คุณ pablo
เรื่องธง ที่ Blog คุณ เซียงยอดละเอียดถี่ถ้วนมาก มีหลายธงที่ผมเพิ่งจะเคยเห็น
เรียนเชิญครับ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=xiengyod
ผมไม่ค่อยรู้ เอาแต่ที่พอรู้ ถูกผิดอย่างไรยกโทษให้ด้วยนะครับ
ธงประจำพระองค์แต่โบราณมา เราไม่มีหลักฐานว่าเป็นธงแบบใด
ธงประจำพระองค์พระเจ้าแผ่นดินผืนแรกที่เป็นทางการ น่าจะเป็นธงพระมหามงกุฎ ธงประจำพระองค์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (คู่กับธงพระมหาจุฑามณี ประจำพระองค์พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว) มีเกร็ดพงศาวดารว่าสมัยนั้นพวกฝรั่งต่างชาติเข้ามาค้าขายและชักธงชาติขึ้นบนเสา ราษฎรเล่าลือกันไปว่า บังอาจแข่งพระบารมี ... แต่ในขณะนั้นเราก็มีธงชาติใช้กันแล้วครับ เรียกว่า ธงช้าง ที่เราคุ้นๆ กัน และยังมี "ธงไอยรา" พื้นแดงเหมือนธงชาติ มีรูปช้าง ๓ เศียรสีขาวผูกเครื่องยืนแท่น มีบุษบกตั้งบนหลังช้าง และมีรูปฉัตรตั้งข้างหน้าและข้างหลังข้างละ ๔ คัน อยู่กลางธง สำหรับรัฐบาลสยาม
สำหรับธงประจำพระองค์นี้ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงสถาปนา ธงบรมราชธวัชมหาสยามินทร เป็นธงประจำพระองค์ ถึง พ.ศ. ๒๔๔๐ โปรดฯให้เปลี่ยนนามเรียกว่า "ธงมหาราช" ได้ใช้ต่อมาจน ถึงรัชกาลที่ ๖ เมื่อพ.ศ. ๒๔๕๔ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดฯให้สร้าง ธงมหาราช คือ ธงพระครุฑพ่าห์แดงบนพื้นสีเหลือง ส่วนกว้างและส่วนยาวเท่ากัน เรียก ธงมหาราชใหญ่ และโปรดฯให้สถาปนาธงต่างๆ อีกมากมาย
เก่าแก่กว่านั้นก็มี แต่ไม่ยืนยันว่าจะเรียกธงประจำพระองค์ได้หรือไม่นะครับ
เป็นธงชัยประจำองค์พระเจ้าแผ่นดินเรียกว่า กระบี่ธุช กับธง ครุฑพ่าห์ มีตำนานดังนี้ครับ
อธิบายเรื่องธงไทย หมวดธงประจำพระองค์
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=rattanakosin225&date=03-04-2007&group=9&gblog=2
....ธงกระบี่ธุชนั้น มีรูปวานรทรงเครื่องบนพื้นผ้าแดง และธงครุฑพาหะน้อย มีรูปครุฑแดงบนพื้นผ้าเหลือง โปรดฯให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๓ คราวเสด็จไปสมโภชพระปฐมเจดย์ และพระราชมณเฑียร ณ พระที่นั่งสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม ราษฎรขุดได้แผ่นสัมฤทธิ์รูปกระบี่ ๑ รูปครุฑ ๑ คู่กัน เป็นของประจำธงชัยสำหรับกระษัตริย์แต่โบราณ เจ้าพระยาศรีวิไชยชนินทร (ชม สุนทราชุน) เมื่อยังเป็นพระยาสุนทรบุรี สมุหเทศาภิบาลมณฑลนครชัยศรี นำขึ้นทูลเกล้าถวาย จึงโปรดฯให้ประกอบเป็นธงกระบี่ธุช และธงพระครุฑพาหะน้อย สำหรับนายทหารเชิญนำเสด็จพระราชดำเนินโดยกระบวนราบ ธงกระบี่ธุชไปข้างขวา ธงพระครุฑพาหะน้อยไปข้างซ้าย หรือเสด็จพระราชดำเนินโดยกระบวนรถพระที่นั่ง มีนายทหารเชิญขึ้นม้านำข้างหน้าข้างขวาและข้างซ้ายอย่างกระบวนราบ....
แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 50 13:10:11
แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 50 12:58:09
แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 50 09:25:01