PANTIP.COM : K5988818 “สุรยุทธ์” สั่งชำระแบบเรียนประวัติศาสตร์ []

ความคิดเห็นที่ 25

ผมมีกรณีศึกษาประวัติศาสตร์นครเชียงใหม่จากแผนที่เก่าเมืองนครเชียงใหม่
เริ่มต้นจากการที่ผมได้เข้าไปมีส่วนร่วมจัดทำหนังสือ ๑๐๐ ปี โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย เมื่อเริ่มจัดทำหนังสือก็อ่านเอกสารต่างๆ ที่โรงเรียนเคยจัดทำไว้ ก็พบข้อสงสัยหลายเรื่อง จึงเริ่มศึกษาเอกสารจดหมายเหตุรวมทั้งหนังสือและบทความต่างๆ ที่เกี่ยวกับเมืองนครเชียงใหม่ รวมทั้งไปได้แผนที่เมืองนครเชียงใหม่สมัยพระจ้าอินทวิชยานนท์มาหนึ่งแผ่น ซึ่งไขปริศนาเรื่องที่ตั้งโรงเรียนยุพราชได้ว่า แต่เดิมเคยเป็นที่ตั้งคุ้มหลวงของพระเจ้าอินทวิชยานนท์ และมีการได้ที่ดินเพิ่มเติมมาในวาระต่างๆ อีกหลายคราว ซึ่งจากข้อมูลเดิมของโรงเรียนที่บันทึกไว้เมื่อเทียบกับข้อมูลที่ปรากฏในแผนที่เมืองนครเชียงใหม่นั้นไม่ตรงกัน จึงได้ศึกษาขยายความจนได้ข้อยุติ และจากการที่ได้ค้นพบข้อผิดพลาดในเรื่องประวัติของโรงเรียนยุพราชนั้น เมื่ออ่านรายละเอียดในแผนที่เปรียบเทียบกับข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่มีการเผยแพร่กันไว้ก่อน ก็พบข้อแตกต่างอีกหลายเรื่อง จึงเป็นเหตุให้ศึกษาค้นคว้าจนไค้วามกระจ่างอีกหลายเรื่อง เช่น เรื่องโลหะปราสาทเมืองนครเชียงใหม่ เค้าสนามหลวงหรือศาลาลูกขุนเมืองนครเชียงใหม่ รวมทั้งยังพบเงื่อนงำว่า เวียงแก้วนั้นไม่น่าจะใช่คุ้มของพระเจ้ามังราย แต่สมควรจะเป็นคุ้มของเจ้านายพม่าที่มาครองนครเชียงใหม่เป็นต้น

ที่กล่าวมานี้ใคร่จะเน้นย้ำให้เห็นว่า การศึกษาประวัติศาสตร์นั้นไม่ใช่เพียงเรื่องที่จะมุ่งขุดคุ้ยเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จนเป็นเหตุให้มานั่งทะเลาะกันจนไม่มองหน้ากัน แต่การศึกษาประวัติศาสตร์นั้นควรมุ่งเน้นศึกษาค้นคว้าเพื่อตอบข้อสงสัย โดยการหาหลักฐานมาสนับสนุนข้อสันนิษฐานของตน ดังเช่น ผมไปพบเอกสารแบบเรียนเรื่องท้องถิ่นของกระทรวงศึกษาธิการที่กล่าวถึงพระเจ้านครเชียงใหม่โปรดให้หมื่นด้ามพร้าคตไป่ยแบบโลหะปราสาทมาจากกรุงลังกา มาสร้างขึ้นที่นครเชียงใหม่เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต เอกสารประวัติศาสตร์เมืองนครเชียงใหม่หล่าวไว้แต่เพียงนี้ และถ้าเรื่องนี้เป็นจริงโลหะปราสาทที่วัดราชนัดดารามก็ต้องเป็นแห่งที่ ๔ ไม่ใช่แห่งที่ ๓ ดังที่เชื่อกันมา จากปมปัญหานี้เมื่อตรวจดูในแผนที่เมืองนครเชียงใหม่ที่กล่าวถึงก็พบจุดที่น่าสนใจที่ในแผนที่เรียกว่า หอพระแก้วร้าง และเมื่อสืบค้นข้อมูลต่อไปก็ไความชัดเจนว่า นครเชียงใหม่เคยมีโลหะปราสาทจริง เป็นปราสาทไม้เครื่องบนเป็นโลหะเก้ายอด อยู่ในพื้นที่ที่เคยเป็นศาลากลางจังหวัดหลังเก่าตรงที่เป็นหอศิลปวัฒนธรรมเมืองนครเชียงใหม่ในปัจจุบัน เป็นต้น

การเรียนประติศาสตร์จึงเป็นการเรียนหลักการศึกษาค้นคว้าและตีความข้อมูล หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือการเรียนให้รู้จักคิดวิเคราะห์ปัญหา ไม่ใช่การเรียนให้ท่องจำเป็นนกแก้วนกขุนทอง ที่ท่านนายกสุรยุทธ์มุ่งแก้ไขการเรียนวิชาประวัติศาสตร์นั้น ในความเห็นส่วนตัวเชื่อว่า ท่านคงมุ่งให้ผู้เรียนได้รู้จักคิดวิเคราะห์ และนำผลที่ได้จากการเรียนประวัติศาสตร์ไปปรับใช้แก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะประวัติศาสตร์ย่อมซ้ำรอยเสมอ ถ้าเราเรียนรู้อดีต เราย่อมทราบว่าคนในอดีตท่านจัดการกับปัญหานั้นอย่างไร ประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวอย่างไร และถ้าเราประสบเหตุเดียวกันนั้นเราจะแก้ปัญหานั้นอย่างไรมากกว่า ไม่ใช่ให้ไปขุเค้ยอดีตให้มาทะเลาะกัน อย่างนั้นอย่าเรียนประวัติศาสตร์เลยครับ

จากคุณ : V_Mee (V_Mee) - [ 8 พ.ย. 50 17:39:22 ]