มีเหมือนกัน แต่เป็นกรณีที่อาจารย์นิสัยไม่ดี เจอ 3 รายของจริงจะเล่าให้ฟัง
รายแรก เป็นสถาบันที่ผลิตครูปีละมากๆ ซึ่งเคยมอบปริญญาให้คนดังไป โดยคนดังไม่ได้เข้าเรียนเลย รายนี้ไม่ใช่เอกอังกฤษด้วย (แต่เรียนศึกษาศาสตร์)
คนที่รับเคราะห์ไปเป็นนักศึกษาหญิงปริญญาตรีปี 4 ซึ่งเป็นแฟนลูกพี่ลูกน้องเรา (ลูกช่ายอา) โดยอาจารย์สั่งให้เอาหนังสือจิตวิทยาครูภาษาอังกฤษทั้งเล่ม มาแปลเป็นไทย ถ้าแปลไม่เสร็จไม่ได้รับปริญญาตรี
ลูกพี่ลูกน้องเราก้อมาขอร้องให้เราช่วยแปล ไอ้เราก้อช่วยๆไป โหหนังสือมันโหดว่ะ มีทั้ง American slang แปลกๆ กับศัพท์วิชาการด้านจิตวิทยา ปนกับศึกษาศาสตร์ลึกมากๆ แถมยังเขียนเป็น metaphors (อุปมาอุปมัย) และ puns (เล่นคำให้ตลกๆ คงคล้ายๆที่ภาษาไทยเรียกว่า คำสองแง่สองง่าม หรือคำสองนัย นั่นแหละ) ที่เข้าใจยากมากๆเลยอ่ะ
เราต้องเอา dictionaries เกือบ 10 เล่มวางรอบกายเราเหมือนฆ้องวง กว่าจะแปลให้น้องคนนั้นได้อย่างสะบักสะบอม (สมัยก่อนไม่มี dictionary ที่เป็น software ไม่มีที่เป็น online ไม่มี google เพราะไม่มี internet)
งานนี้ ขณะที่กำลังแปลอยู่นะ มีเพื่อนเรา 3 คนเข้ามาเยือนเรา คนหนึ่งอยู่อังกฤษมา 24 ปี อีกคนอยู่แคนาดามา 18 ปี อีกคนอยู่ออสเตรเลียมาเฉียดๆ 20 ปี ทุกคนจบมหาลัยดีๆที่นั่นกันหมด พวกมันเห็นเราแปลอะไรอยู่แล้ว แล้วพวกมันก้อชะโงกเข้ามาดู
แล้วหนึ่งในเพื่อนเรา มันหันไปถามน้องผู้หญิงคนนั้นว่า
"หนูๆ นี่หนูแปลเสร็จส่งอาจารย์ แล้วหนูได้ปริญญาอะไรเนี่ย"
น้องคนนั้นตอบว่า "ได้ปริญญาตรีค่ะ"
พวกเพื่อนเราฮากันแตก จนน้ำลายกระเด็นเลย พวกเขาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
"แล้วกันนึกว่าได้ doctorate เสียอีก เพราะหนังสือเล่มนี้ยากมากๆเกินปริญญาตรีแน่ๆ.....โหพวกพี่ๆยังอ่านหนังสือเล่มเนี้ยไม่รู้เรื่องเลย อาจารย์หนูเก่งขนาดไหนเนี่ย อยากจะเอาหนังสือเล่มนั่นไปลองภูมิถามอาจารย์หนูดิว่า ตัวมันเองอ่านรู้เรื่องหรือเปล่า? ก๊ากๆๆๆๆๆๆ"
จากนั้น พวกเราทุกคนต่างก็นั่งบริกรรมว่า อาจารย์มันเอาไปทำอะไรกันหว่า? ก้อยังคิดไม่ออก
ครั้นอีกหลายปีต่อมาเราต้องแปลกฎทบวงมหาลัยจากไทยเป็นอังกฤษให้ลูกค้า มันมีข้อความว่า คนที่จะได้ตำแหน่ง รองศาสตราจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ หรือศาสตราจารย์ นั้น จะต้องมีผลงานแปล จากภาษาต่างชาติภาษาใดภาษาหนึ่งเป็นไทย หรือจากไทยเป็นภาษาต่างชาติ ภาษาใดภาษาหนึ่ง (แต่ตอนนี้คิดว่าคงไม่มีข้อกำหนดนี้แล้วนะ)
ฮ่วย!!! เราก้อเลยรู้ว่า
"อ๋อ มันเป็นอย่างนี้เอง อาจารย์มันเอาหนังสือยากๆ ให้ลูกศิษย์แปล แล้วรู้ว่า ยังไง ยังไง ก้อแปลไม่ได้ ก็ต้องไปจ้างคนอื่นแปลอยู่ดีนั่นแหละ พอแปลเสร็จมานะ ก้อหวานหมูอาจารย์เลย เพราะว่าอาจารย์ก้อเอาไปปรับปรุงนิดหน่อย แล้วเอาไปยื่นส่งเป็นผลงานตัวเองเพื่อเลื่อนตำแหน่งนี่เอง"
มิน่าเล่า ระบบการศึกษาไทย มันถึงได้ลงนรก ลงเหว มันเล่นระบบ hypocricy คือแสแสร้งเป็นพลเมืองดี แล้วสวมหน้าการเข้าหากันแบบนี้เองอ้ะ
เซ็งจริงๆว่ะ
อีก 2 ราย ยังไม่มีแรงจะเล่า ตอนนี้ง่วงนอน จะไปนอนก่อน พรุ่งนี้หรืออีกสองสามวันจะมาเล่าต่อ
แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 50 04:06:26
แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 50 23:27:41
แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 50 23:27:06
แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 50 23:22:30
แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 50 23:21:02