PANTIP.COM : K6006003 เหตุการณ์เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2519 [ประวัติศาสตร์]

ความคิดเห็นที่ 15

เหตุการณ์ทั้งสองครั้งมีเบื้องหลัง ขึ้นอยู่กับมุมมองของผู้บอกเล่า การศึกษาเหตุการณ์ทั้งสองครั้งนี้จึงเป็นเรื่องที่ต้องฟังความทั้งสองด้าน และต้องศึกษาถึงสภาวะของบ้านเมืองในช่วงหลัง ๑๔ ตุลา ๑๖ ที่มีการเดินขบวนเรียกร้องต่างๆ โดยมีขบวนการนิสิตนักศึกษาที่เป็นพลังบริสุทธิ์ร่วมผลักดัน ในขณะเดียวกันการข่าวของรัฐบาลก็ยืนยันว่ามีพลพรรค พคท. แทรกซึมเข้ามาในหม฿นิสิตนักศึกษา จึงทำให้เกิดการเผชิญหน้ากันขึ้น โดยส่วนตัวผมเคยได้รับมอบหมายให้เข้าร่วมประชุมศูนย์กลางนักเรียนแห่งประเทศไทยในช่วงหลังเหตุการณ์ ๑๔ ตุลา ได้เห็นคุณธงชัย ซึ่งเวลานั้นยังเป็นนักเรียนสวนกุหลาบและเป็นแกนนำของศูนย์กลางนักเรียนอภิปรายในที่ประชุมหลายครั้ง แต่ละครั้งแนวการอภิปรายก็ส่อไปในแนวทางสังคมนิยมมาโดยตลอด ในขณะเดียวกันผมเองก็มีโอกาสได้พูดคุยกับจอมพลประภาส จารุเสถียร เป็นการส่วนตัวหลายครั้ง รวมทั้งได้มีโอกาสสอบถามข้อมูลจากนายทหารผู้ใหญ่ที่มีส่วนร่วมตัดสินใจในเหตุการณ์ทั้งสอง เมื่อนำข้อมูลที่ได้รับมาประมวลแล้ว สามารถวินิจฉัยได้ว่า เหตุการณ์ ๑๔ ตุลานั้น เป็นการขับเคลื่อนโดยบริสุทธิ์ใจจริง แต่มีการแทรงแซงโดยนายทหารบางกลุ่มซึ่งต้องการโค่นล้มคณะผู้นำกองทัพในเวลานั้น จึงทำให้สถานการณ์แปรเปลี่ยนไปในทางเลวร้ายจนเกิดเป็น "วันมหาวิปโยค" ส่วนเหตุการณ์ ๖ ตุลาคม นั้น เริ่มจากความ้อือมระอาของประชาชนต่อการใช้กฎหมู่เรียกร้องในเรื่องต่างๆ ไม่เว้นแต่ละวัน โดยอ้างว่าเป็นการเรียกร้องตามระบอบประชาธิปไตย มีการนัดหยุดงานซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนอยู่ไม่เว้นวัน และทุกกรณีมักจะมีนิสิตนักศึกษาไปร่วมเป็นแกนนำเรียกร้องด้วยทุกครั้ง การที่นิสิตนักศึกษาซึ่งเป็นพลังบริสุทธิ์ได้เข้าไปเป็นแกนนำเรียกร้องความเป็นธรรมนั้น ก็เป็นผลพวงมาจากการปฏิบัติของข้าราชการในท้องถิ่นที่ใช้อำนาจเบียดเบียนราษฎร แต่การเรียกร้องต่างๆ นั้นมาสร้างเดือดร้อนให้แก่คนในกรุงเทพฯ ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากความไม่เป็นธรรมนั้น จึงสร้างความเดือดร้อนและเอือมระอาให้แก่ชาวกรุงเทพฯ เป็นอันมาก เมื่อมีการปลุกกระแสว่ามีพลพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยแทรกซึมเข้ามาอยู่ในหมู่นิสิตนักศึกษา กลุ่มมวลชนต่างๆ ซึ่งระอากับการปลุกระดมมวลชนจึงรวมตัวกันต่อต้านขบวนการนิสิตนัศึกษา จึงทำให้เกิดกระแส "ขวาพิฆาตซ้าย" ขึ้น และเมื่อสถานการณ์บานปลายไปถึงขั้นปลุกกระแสมวลชนฝ่ายขวาให้พิฆาตฝ่ายซ้าย คือ กลุ่มนิสิตนักศึกษาผ่านทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งหนึ่ง จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ วันที่ ๖ ตุลาคม ๑๙ ขึ้น

เหตุการณ์ ๖ ตุลาคม ๑๙ นั้น มีการเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มขวา และกลุ่มซ้ายที่ชัดเจน แกนนำนิสิตนักศึกษาที่เรียกว่า ฝ่ายซ้ายนั้นเมื่อทราบข่าวว่า ฝ่ายขวาจะบุกเข้าไปในธรรมศาสตร์ก็หายตัวกันไปหมด จึงทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมในธรรมศาสตร์ขาดแกนนำที่จะเจรจาต่อรองกับฝ่ายขวาซึ่งกำลังบ้าตลั่งตามกระแสปลุกระดมของสื่อของรัฐ จึงบุกเข้าไปในธรรมศาสตร์และกระทำการรุรแรงต่อผู้ชุมนุมในมหาวิทยาลัย กว่าทหารจะเข้าควบคุมสถานการณ์ได้นั้น เหตุการณ์ก็ลุกลามบานปลายไปมาก

จากการติดตามผลการศึกษาเหตุการณ์ทั้งสองนี้ มักจะเป็นมุมมองจากฝ่ายนิสิตนักศึกษาเพียงฝ่ายเดียว ในขณะเดียวกันหลักฐานทางทหารที่มีการนำออกมาเปิดเผยก็มักจะไม่ได้รับการยอมรับ ดังเช่นข้อมูลฝ่ายจอมพลถนอม กิตติขจร ที่ ดร.สุวิทย์ ยอดมณี เคยนำมาเปิดเผยนั้นก็ถูกต่อต้านจากขบวนการนิสิตนักศึกษา โดยอ้างว่า เอกสารหลักฐานนั้นเชื่อถือไม่ได้ แต่ถ้าจะรับฟังแล้วสอบทานความจริงกันบ้าง ก็จะได้มุมมองอีกด้านหนึ่ง ซึ่งโดยส่วนตัวผมซึ่งได้รู้เห็นเหตุการณ์ตอนที่เกิดการปะทะกันที่ข้างเขาดินนั้นก็ถูกต้องตรงตามรายงานของดร.สุวิทย์ ทุกประการ

จากคุณ : V_Mee (V_Mee) - [ 11 พ.ย. 50 22:57:23 ]

ความคิดเห็นที่ 19

การสังหารหมู่ในวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙

เวลาเช้ามืดราว ๒ นาฬิกา กลุ่มกระทิงแดงทุกจุด รอบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เตรียมปฏิบัติการโดยประสานงานกับตำรวจนอกเครื่องแบบ และมีกลุ่มกระทิงแดงเข้าแทรกตัวปะปนกับหมู่นิสิตนักศึกษา กลุ่มนวพลได้เรียกร้องให้รัฐบาลจับกุมนิสิตนักศึกษา

เวลาราว ๕ นาฬิกา เริ่มมีการยิงตอบโต้จากภายนอกเข้าสู่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยถูกล้อมไว้ เวลา ๗ นาฬิกา กลุ่มทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน ลูกเสือชาวบ้าน กระทิงแดง และกลุ่มอันธพาล ได้ใช้รถบัสพุ่งชนประตูมหาวิทยาลัย ทั้งหมดเข้าสู่มหาวิทยาลัยและใช้อาวุธหนักระดมยิง ตำรวจหน่วยคอมมานโด หน่วยปฏิบัติการพิเศษและตำรวจท้องที่เข้าถึงที่เกิดเหตุ เวลา ๘ นาฬิกา ตำรวจตระเวนชายแดนพร้อมอาวุธครบมือเข้าไปในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมยิงกระสุนเข้าใส่นักศึกษา

เวลา ๘.๓๐ - ๑๐.๐๐ น. นักศึกษาและประชาชนในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิ่งหนีวิถีกระสุนจากตำรวจตระเวนชายแดนและกลุ่มผู้ก่อเหตุ นักศึกษาบางคนวิ่งหนีออกทางประตูหน้ามหาวิทยาลัย นักศึกษาบางส่วนหนีออกทางแม่น้ำเจ้าพระยา หลายคนถูกรุมตี รุมกระทืบ บางคนที่ถูกทำร้ายบาดเจ็บถูกนำไปแขวนคอ และถูกผู้คนแสดงท่าทางเยาะเย้ยศพ กลุ่มคนบางกลุ่มลากเอาศพนักศึกษามาเผากลางถนนราชดำเนิน ตรงข้ามพระแม่ธรณีบีบมวยผม โดยใช้ยางรถยนต์ทับและราดด้วยน้ำมันเบนซิน บางส่วนใช้ของแข็งทำอนาจารศพนักศึกษาหญิง

เวลาราว ๑๑ นาฬิกา เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าเคลียร์พื้นที่ และให้นักศึกษานอนคว่ำหน้ากับพื้นสนามฟุตบอล จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถออกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อควบคุมตัวไว้ที่โรงเรียนตำรวจนครบาล บางเขน กลุ่มคนที่มุงดูใช้ก้อนหิน อิฐ ไม้ ขว้างปาผู้ที่อยู่บนรถ

เวลาบ่าย กลุ่มลูกเสือชาวบ้าน นำโดย พล.ต.ท.เจริญฤทธิ์ จำรัสโรมรัน และกลุ่มแม่บ้าน นำโดย ทมยันตี ได้บุกเข้าทำเนียบรัฐบาล บางคนได้ถือเชือกเข้าไปโดยจะเข้าไปแขวนคอ ๓ รัฐมนตรีของรัฐบาล ได้แก่ ชวน หลีกภัย ดำรง ลัทธิพิพัฒน์ สุรินทร์ มาศดิตถ์ เนื่องจากกล่าวหาว่าบุคคลทั้ง ๓ เป็นคอมมิวนิสต์ แต่ ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช นายกรัฐมนตรี ได้ลงไปพบและยืนยันว่าบุคคลทั้ง ๓ ไม่ได้มีพฤติกรรมดังกล่าว

ครั้นถึงเย็นวันนั้น คณะทหารที่เรียกตัวเองว่า คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ภายใต้การนำของพลเรือเอก สงัด ชลออยู่ ได้ทำการยึดอำนาจการปกครอง มีผลให้ ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช ต้องพ้นจากตำแหน่ง และนายธานินทร์ กรัยวิเชียร เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่

หลังจากเหตุการณ์นี้ มีการพิจารณาคดีในศาลยืดยาวถึง ๓ ปี โดยแกนนำนักศึกษา ๑๙ คนถูกคุมขังตีตรวนโดยตลอด แต่ฝ่ายผู้เข้าล้อมปราบไม่มีผู้ใดได้รับการลงโทษ มีผู้เข้าฟังการพิจารณาคดีจำนวนมาก รวมถึงกลุ่มสิทธิมนุษยชนจากประเทศต่างๆ จนเมื่อ ๓ ปีผ่านไป ได้มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ทำให้ผู้มีส่วนรับผิดชอบในเหตุการณ์นี้ ไม่ต้องถูกสอบสวนลงโทษแต่อย่างใด

จากวิกิพีเดีย
http://th.wikipedia.org/wiki/เหตุการณ์_6_ตุลา

อยากให้อ่านเพิ่มเติม

ใครเป็นใครในกรณี ๖ ตุลา
http://2519.net/autopage/show_page.php?t=10&s_id=13&d_id=21

จากคุณ : เพ็ญชมพู - [ 12 พ.ย. 50 14:33:12 ]