ความคิดเห็นที่ 1 เออไม่ค่อยเข้าใจคำถามอะครับ หลายๆ local รวมกันเป็น global ประมาณนี้ปะครับ หลายๆ locations รวมกันก็เป็น globe จากคุณ : Parky - [ 12 พ.ย. 50 22:38:52 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เคยได้ยินคำนี้ไหม"คิดในระดับโลกแต่ทำในระดับท้องถิ่น" น่าจะเป็นเรื่องของ"ระดับ"ของสำนึำกทางสังคม(Social Conscious) กับขนาดของการผลิต(Economy of Scale) ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงเป็น วิธีการทางเศรษฐศาสตร์ในยุคใหม่ที่คิดถึงการใส่ใจต่อหน่วยชีวิต สิ่งแวดล้อม และธรรมชาติ ของระบบโดยรวม ในระบบการผลิต ที่ส่งเสริมความเป็นมนุษย์ ในแบบองกรที่มีลักษณะบริหารแบบครอบครัว เป็นการมองอย่างกว้าง ในระบบทั้งหมดผลลัพท์ดีกว่าและรวดเร็วกว่าการผลิตในขนาดที่ใหญ่โตแต่ความคิดคับแคบ แต่การมองอย่างกว้าง ทำในขนาดท้องถิ่นจะมีการผลิตคราวละไม่มาก แต่ผลลัพท์ดีกว่าและรวดเร็วกว่า เป็นหลักการการผลิตที่อิงความเป็นมนุษย์ที่สำพันธ์กับเทคโนโลยีเบา แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 50 00:55:05 แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 50 00:48:01 แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 50 00:46:37 แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 50 00:44:55 จากคุณ : the author - [ 13 พ.ย. 50 00:39:51 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ระดับโลก กับระดับท้องถิ่น มีความสัมพันธ์กันในเชิงการเปลี่ยนถ่ายทางวัฒนธรรมรึป่าวคับ? ในที่นี้รวมถึงสินค้า และวิถีชีวิตต่างๆด้วย อย่างอาหารไทยท้องถิ่น ต้มยำกุ้ง และต่างๆมากมาย ที่มาจาก local ของไทย ได้กลายไปเป็นที่นิยมในตลาด และชุมชนโลก global เกิดการ glocalization รึป่าวคับ?    -_-" จากคุณ : Fragile Boy - [ 13 พ.ย. 50 02:07:15 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สองคำนี้เป็นคำคุณศัพท์ เอาไว้ขยายสิ่งที่ต้องการพูดถึง global คือประเด็นร่วมของมนุษยชาติ เช่น global warming, global population local ได้แก่ประเด็นเฉพาะถิ่นที่ เช่น local government, local knowledge จากคุณ : Foucault lover - [ 13 พ.ย. 50 04:03:30 ]

ความคิดเห็นที่ 5 Additive model Global = Local1 + Local2 + Local3 + ...+ Localn + ... Multiplicative model Global = Local1 x Local2 x Local3 x ...x Localn x ... Emerging properties model Global = Local1 + Local2 + Local3 + ...+ Localn + ...+ Emerging properties Fractional model Local = K x Global, K = Locality Coefficient and... Destructive model Localus vs. Localarab = Globalwar :) แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 50 06:58:08 แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 50 06:47:20 จากคุณ : Amygdala - [ 13 พ.ย. 50 06:44:26 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ทั้งสองคำ    เชื่อมต่อและทรงความหมายขึ้นมา  เพราะ เทคโนโลยี โดยเฉพาะ  เทคโนโลยีที่ถูกใช้ เพื่อ การสื่อสาร ทำให้มนุษย์ทุกภาคส่วนของภูมิรัฐศาสตร์นั้น....เป็นหนึ่งเดียว หรือ พยายามให้...เป็นหนึ่งเดียว........ตรงนี้ คือ  ภาวะใหม่ของมนุษยชาติ เป็นการผุดบังเกิดที่เพิ่งมีในไม่กีสิบปีนี้  และคงกำลังเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ ........เรียกมันว่า  โลกาภิวัฒน์ รอลุ้นกันอยู่ว่า   นี่จะเป็นมายา  หรือ ของจริง...กันแน่ เพราะ  ที่จริง  มันก็ยังไม่เสถียร   แต่กำลังก่อรูปไปได้เรื่อยๆ... แต่พื้นฐานสังคม  ก็ต้องท้องถิ่น เหมือน เซลส์ที่เป็นหน่วยย่อยแห่งองคาพยพแห่งร่างกาย เหมือนครอบครัว  ที่ย่อยสุดของโครงสร้างสังคม เหมือนหมู่บ้าน หรือท้องถิ่น  ที่กำลังพูดถึงนี้   กำลังถูกถือถูกใช้... เป็นหน่วยย่อยสุด   ของชุมชนโลก...... สินค้าโอทอป   ก็มีพื้นฐานความคิดแบบยกระดับสินค้าดีท้องถิ่นสู่ตลาดโลก หนังเกาหลี   ระยะหลังนี้  ก็พยายามขายวัฒนธรรมชาติเพื่อโลกกว้าง อินเตอร์เนต  สามารถทำให้คนธรรมดาที่อยู่ในหมู่บ้าน  รู้จักโลกกว้างทุกหนแห่งได้   ผ่านหน้าจอมอนิเตอร์ในรูปแบบการท่องโลกแบบทุติยภูมิ   ซึ่งเท่ากับส่งเสริมการเรียนรู้อย่างไร้พรมแดน  ไร้ชนชั้น  ไร้การปิดกั้นใดๆ....... ในอนาคต   ปัจเจกบุคคลย่อมสามารถเข้าถึง ภาวะมนุษย์โลกที่แท้ทางวิทยาศาสตร์ได้ไม่ยาก   ถ้ารู้จักขวนขวายและใช้สอยช่องทาง...ทางด่วนความรู้ ที่เทคโนโลยีการสื่อสารเนรมิตให้อย่างอัศจรรย์.................ในราคาประหยัด.... จากคุณ : dicky5 - [ 13 พ.ย. 50 11:27:36 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คงจะหมายถึงความสัมพันธ์ระหว่าง                                       ส่วนย่อย                 กับ               ภาพรวม     เเบบกว้างๆ   หมายถึง   ไม่ได้เจอะจง   ว่าเป็นความสัมพันธ์ในเรื่องใด   globla   ส่วนใหญ่เขาพูดถึงเรื่องอะไร   การสื่อสาร   เทคโนโลยี   ลักษณะที่เป็น  อยู่  มี  ร่วมกัน  หรือ  อะไร? ภาพรวมที่เกิดขึ้น    คือ   ส่วนหลัก   ของ  ส่วนส่วนย่อย   ที่มีลักษณะเหมือนๆกัน  ซ้ากัน  การขับเคลื่อนไปในทิศเดียวกัน  เเบบเดียวกัน   ถ้าเจอะจงว่า    "คน"     หมายถึง   ลักษณะภาพรวม  ที่มีส่วนร่วมกัน  ของคนในโลก   ที่มีการขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน  เเบบเดียวกัน  วิถีทางเดียวกัน   โดยจงใจ   เลือกจาก   เรื่องใดเรื่องหนึ่ง   ขึ้นมา   ขณะที่  local  นั้น   จะมีลักษณะเฉพาะเจอะจงกว่า    เเต่เมื่อ  local  หลายๆ local  ที่คล้ายกัน   เเผ่ขยาย  ส่วนร่วมที่เป็นหลักซึ่งกันเเละกัน  ไปสู่ local  อื่นๆ  สุดท้าย   local  จะกลายเป็น  globla  ในที่สุด ปัจจัยที่สำคัญในการขับเคลื่อน  local  จนไปสู่การกลายเป็น  global   น่าจะขึ้นอยู่กับ   พลังในการขับเคลื่อน  ที่มีทิศทางที่เเน่นอน  ร่วมกัน  ระหว่าง  local ต่างๆ   local  เดี่ยวๆ  จึงไม่อาจนำไปสู่ globla  ได้   สิ่งที่เป็นสื่อกลาง   ที่ทำให้เราศึกษาเปรียบเทียบ   ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 อย่างนี้  น่าจะเป็น  "การสื่อสาร"   หมายถึง  เราไม่จำเป็นต้องไปอยู่ใน  local นั้นโดยตรง  เเต่สามารถเรียนรู้ได้   การสื่อสารที่ทันสมัย     การสื่อสาร   ยังถือเป็น   เครื่องมือ   ที่ใช้ร่วมกันระหว่าง           local   กับ    local                         เเละ      global  กับ    local จากคุณ : โยชิซูกุ - [ 13 พ.ย. 50 14:44:40 ]

ความคิดเห็นที่ 8 Wholistic thinking... The whole is more than the sum of its parts. Global is more than the sum of its locals. The concept of Systems... System lies in the mind of the beholder system within system within system within system System is local System is global Organisation tends to destroy itself. Second law of Thermodynamics... Entropy increases In order to reduce entropies...more entropies are generated Open systems...the interactions between systems are needed for the systems to survive... Cybernetic control Middle path ทางสายกลาง เอ เราท่าจะบ้าไปแล้า แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 50 17:51:39 จากคุณ : ตา สติเฟื่อง (ta/'o-o/') - [ 13 พ.ย. 50 17:50:37 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมคิดว่า จขกท.คงจะเอามาจากหนังสือ ทางเลือกใหม่ของชีวิตสมัยโลกาภิวัตน์ (Global Live, Local Choices) ซึ่งเขียนโดย อาจารย์วินิจฉัย แสงสว่างวัฒนะ ซึ่งตีพิมพ์ถึง 4 ครั้ง ซึ่งคงหมายถึงการหาทางดำรงชีวิตให้อยู่ได้ในสภาวะที่ประเทศถูกโลกจักรวรรดิ์นิยมกลืนกินชาติ  เพราะอาจารย์วินิจฉัยได้ให้ความหมายของคำว่า GLOBALIZATION ไว้ว่า    เราจะนิยามความหมายในเชิงรูปแบบอย่างไรก็ได้ แต่อย่าลืมเนื้อหาที่มีความหมายดังต่อไปนี้เข้าไปด้วย เราจะได้มีจิตตื่นอยู่ต่อภัยของการตาม Globalization ไม่ทัน นั่นคือ "....การแผ่ซ่านเข้าครอบครองทรัพยากรโลกโดยชอบธรรม ด้วยภูมิปัญญาทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี่ของผู้มีอำนาจทางเศรษฐกิจ ซึ่งเปลี่ยนรูปแบบครอบครองด้วยการสงครามเป็นผู้ผลิตและผู้ขายสินค้าไฮเทค"  (จากหน้า 25) จากคุณ : ลุงกฤช - [ 14 พ.ย. 50 23:26:02 ]