ความคิดเห็นที่ 1 ความหมายมันก็ต่างกันนิดหน่อยอะครับ meet with = have a meeting with ซึ่งต่างจาก meet ซึ่งหมายถึง พบ หรือ เจอ เช่น I met John at the barbershop last night. ผมว่าคุณก็ใช้ถูกต้องแล้วอะครับ delegation ใช้ได้ครับ ในความหมายของคณะผู้แทน ส่วน delegate(s) น่าจะมีนัยถึง individual member(s) มากกว่าครับ จากคุณ : บูมเมอร์ - [ 13 พ.ย. 50 15:17:06 ]

ความคิดเห็นที่ 2 will meet with จะประชุมกับ จากคุณ : พ่อโปรเจ็กต์ - [ 13 พ.ย. 50 15:23:55 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ลองพิมพ์คำว่า "meet with" ลงไปถามน้ากุ๊ก จะออกมาล้านกว่า about 1,630,000 for "meet with" <<<ช่วยแสดงความคิดเห็นหน่อยนะคะ เราจะได้มองออกว่าเราควรจะทำอย่างไรกับตัวเองต่อไปในอนาคตค่ะ ขอบคุณทุกท่าน >>> ตอนนี้แนะนำว่าอย่าไปบอกให้นายรู้เป็นอันขาด เพราะคนที่ฟันธงลงไปโดยไม่รู้จริงย่อมแสดงว่าเป็นคนมีอีโก้อย่างแรง ขืนบอกไปเขาเสียหน้าจะมาเล่นงานคุณเรื่องอื่น เขาไม่ถามก็ไม่ต้องบอก ปล่อยให้โง่ไปอย่างนี้ดีแล้ว ความจริงการมีนายโง่ก็ดีไปอย่างคือว่าหลอกง่าย ส่วนที่ถามว่าเราควรจะทำอย่างไรกับตัวเองต่อไปในอนาคต คุณไม่ได้บอกวันเดือนปีเกิดเวลาตกฟากมาด้วย แต่ถึงไม่ได้ผูกดวงชตา ก็ขอทำนายว่า ตอนนี้อยู่เฉย ๆ ไปก่อน อย่าเพิ่งกระโตกกระตาก ไปเม้าท์กับเพื่อนร่วมงาน ภัยจะมาถึงตัว คอยดูหางานใหม่ไปเรื่อย ๆ ถ้าเจอที่ไหนจ่ายเงินเดือนมากกว่าและนายฉลาดกว่าที่เดิมค่อยลาออก จากคุณ : nickycharles - [ 13 พ.ย. 50 18:22:23 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอให้เชื่อ #1, #2, #3 อย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะ #3 นั้นแน่นอนที่สุด คาถาของเซียนระดับตากแดดตากลมรับไอฟ้าไอดินมานับพรรษาไม่ถ้วนนั้นเชื่อถือได้แน่นอน อ้อ แล้วคอยป้องกันอย่าให้นายคุณมาอ่านกระทู้นี้ก็แล้วกัน เผื่อจะมีผู้หวังดีแต่ประสงค์ร้ายไปส่งข่าว จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 13 พ.ย. 50 20:22:35 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบพระคุณทุกท่านมากๆค่ะ เหตุผลที่เราถามคำว่า delegation เราใช้ในความหมายว่า ตัวแทนจากองค์กรแห่งหนึ่ง แต่ว่ามีหัวหน้า (อีกคน) มาทักท้วงว่า ใช้ไม่ได้ ให้ใช้คำว่า delegate เราก็เลย print ความหมายไปให้เค้าดู ว่ามันมีความหมายอีกอย่างหนึ่งเหมือนกัน แต่ว่าจะพยายามไม่ให้ดูก้าวร้าว เหมือนมีอะไรไปปรึกษา + ทำหน้ามึนๆ เอ๋อๆ แบบว่า เอ หนูก็ว่าน่าจะใช้ได้นะคะ delegation  [countable] 1.a group of people who represent a company, organization etc delegation to the head of the American delegation to the United Nations delegation of a delegation of government officials A trade delegation will visit Kuwait. 2 [uncountable] the process of giving power or work to someone else so that they are responsible for part of what you normally do delegation of the delegation of authority แต่แปลกที่เค้าก็อ่านที่เรา print ไปให้ดู แต่ใช้ปากกาวงให้เราดู แต่หมายเลข 2  แล้วก็บอกเราว่าใช้ในความหมายนี้ เราว่าจะถามว่า แล้วความหมายแรกล่ะคะ แต่เราก็ไม่ได้ถามหรอกนะคะ แล้วก็คิดว่า ต่อไปนี้ จะไม่พูดอะไรแล้ว ไม่ว่าเค้าจะแก้อะไรยังไงก็ตาม เราก็จะ ค่ะ ค่ะ แล้วก็แก้ไปตามเค้าพูดอย่างเดียวเท่านั้น แล้วก็จะลองหาทางหนีทีไล่ใหม่ๆไปพร้อมกันค่ะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆทุกท่านค่ะ เข้ามาแล้วไม่ผิดหวังทุกครั้ง ขอบพระคุณอีกครั้งนะคะ โดยเฉพาะคุณ nickycharles แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 50 08:58:37 แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 50 08:57:23 จากคุณ : เรานึกแล้วว่าคุณต้องอ่าน - [ 14 พ.ย. 50 08:43:50 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มีสิ ฝรั่งนี่แหละครับใช้ แต่ meet with ไม่แปลว่า "พบ" ในความหมายของ "meet" ตัวเดียวโดดๆนะครับ meet with ใช้ไดครับ เมื่อแปลว่า "พบกับ(บุคคล)ด้วยตัวเอง"  เช่น When you were convenient, I would meet with you for an interview. ในการสมัครงาน มาดู concordance การใช้ meet with กัน 1. On Friday, Roger Maris, the Yankee outfielder and winner of the American League's most-valuable-player award, will meet with Roy Hamey, the general manager. 2. Hearst made several trips to Chicago to confer with Andrew Lawrence, the former San Francisco Examiner man who was now his Chicago kingpin, and once to meet with Bryan. 3. I, flew in from Sydney, to meet with him. 4. That, however, may also bring the police, if the thinking does not meet with social approval. (อันนี้ meet with แปลว่า "บรรจบกับ หรือ สอดคล้องกับ") 5. President Kennedy will meet with Soviet Premier Nikita S. Khrushchev in Vienna June 3 and 4. ฯลฯ ตัวอย่างเหล่านี้มาจากสื่อตะวันตกทั้งนั้นครับ จากคุณ : ลุดวิก - [ 14 พ.ย. 50 18:05:57 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เข้าใจว่าพี่ nickycharles คคห 3 คงจะตอบ คุณ จขกท เจ้านี้ให้เป็นการส่งท้าย ให้ห้องรวมพลฯ แล้วท่านก็ไปนอนแบบไม่ตื่นอีกเลย คิดถึงค่ะ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6022786/K6022786.html จากคุณ : PatPDX - [ 16 พ.ย. 50 08:34:36 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เออ จริงด้วย นี่เป็นปัจฉิมลิขิตของพี่เขาแท้ๆเลย พี่เขาพักอยู่คนเดียว เมื่อมีผู้ไปพบตอนเย็นวันพุธท่านเสียชีวิตแล้ว สอบถามแล้วหมอเขาชัณสูตรว่าเสียชีวิตมานานประมาณสิบชั่วโมง ก็อนุมานว่าเป็นเช้าวันพุธ คคห. ที่พี่เขาแปะไว้ที่นี่เวลา 18:22 น. เย็นวันอังคาร น่าจะเป็นโพสติ้งครั้งสุดท้ายในพันทิปแล้วละ ระหว่างเย็นวันอังคารถึงเช้าวันพุธ คือเวลาที่พี่เขาจากไป ไปดีนะพี่ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 16 พ.ย. 50 13:13:48 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คิดถึงลุงมากค่ะ เซฟกระทู้เก็บไว้แล้ว หลับให้สบายนะคะลุง จากคุณ : lynet - [ 16 พ.ย. 50 14:34:50 ]

ความคิดเห็นที่ 10 หลังไมค์ไปหาคุณ nickycharles ตอน 3 ทุ่มครึ่งวันที่ 13 เขียน (ต่อว่ากลายๆ) ว่าคุณ nickycharles หายไปนานๆ เรื่อยเลย เพิ่งเห็นมาตอบกระทู้นี้ อย่าหายไปนานๆ สิคะ อยากให้ตอบกระทู้บ่อยๆ กลับกลายเป็นว่าจะไม่ได้เห็นข้อความจากคุณ nickycharles อีกแล้ว แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 50 21:45:06 จากคุณ : พิมล (พิมล) - [ 16 พ.ย. 50 21:43:48 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คุณลุงตอบได้สะใจมากครับ คงไมลืมคุณลุงแน่ครับ จากคุณ : PEDestrain - [ 16 พ.ย. 50 21:46:29 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณค่ะ คุณ nickycharles จากคุณ : รู้กัน (ta/'o-o/') - [ 16 พ.ย. 50 23:00:52 ]

ความคิดเห็นที่ 13 หลังจากเขียน คคห.3 ในกระทู้นี้แล้วได้เกือบ 2 ชั่วโมง นั่นก็คือเมื่อเวลา 20.21 น. พี่ nickycharles ใช้มือถือเบอร์ใหม่ของเขา โทรเข้ามือถือเรา เราได้ยินเสียงเขาแต่เขาไม่ได้ยินเสียงเรา เขาจึงวางหูไป อีกหนึ่งนาทีต่อมาคือเมื่อเวลา 20.22 น.เราเอามือถือเราโทรกลับไปเข้ามือถือเบอร์ใหม่ของเขา เราได้ยินเสียงเขาพูดว่า "ต้องการพูดกับใครครับ" เสียงเขาชัดเจน และเป็นปกติมากๆ เราตอบว่า "เราเองพี่ เราเอง" แล้วเราพูดอีกว่า "พี่ได้ยินเสียงเราหรือเปล่า" ซ้ำๆกันอยู่หลายๆรอบ แต่พี่เขาไม่ได้ยินเราเลย ก็เลยวางหูไปอีกรอบหนึ่ง อนิจจา นั่นคือครั้งสุดท้ายที่เราได้ยินเสียงเขา....!!!!! เรารู้เรื่องการจากไปของเขาเกือบจะเป็นลำดับต้นๆเลยทีเดียว แต่เรางงจนซึมเศร้า แล้วเขียนอะไรไม่ออก ได้แต่นั่งเหม่อมองผนัง 4 ด้านในห้องตัวเอง มาจนถึงคืนวันศุกร์ พอคิดย้อนหลังได้ เราก็พยายามเล่าฉากเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น โดยพยายามเขียนเรื่องต่างๆเกี่ยวกับความรักและความห่วงใยของคนที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อให้คลายความเศร้า และพยายามที่จะรำลึกถึงบุญคุณพี่เขา ที่ตั้งแต่เขารู้จักกับเรามาพี่เขาให้ความสงสารเอ็นดูแก่เรา โดยรับรู้ว่าเรามีความยากลำบากอย่างแสนสาหัสในการหางานแปลดีๆมาทำ ดังนั้น พี่ nickycharles จึงระดมกำลังกับพวกน้องๆและเพื่อนๆช่วยๆกันหางานแปลดีๆมาทำกัน ได้มาทั้งงานเอกสารและงานหนังสือที่น่าจะมีมาอย่างต่อเนื่องจนทำให้ตัวเราเองเลิกบ่นได้ว่าหางานแปลดีๆไม่ได้เพราะอะไร พอเราเปิดกระทู้เล่าเรื่อง พวกเพื่อนๆที่อยู่ในทีมงาน ไม่อยากให้ผู้คนเดาได้ว่าพวกเราทำงานแปลเอกสารให้บริษัทไหน และทำงานแปลหนังสือให้สำนักพิมพ์ไหน ก็เลยช่วยๆกันอุ้มกระทู้นั้นหายไป โดยมีตัวเราเองช่วยกดลบมันทิ้งด้วยอีกแรงหนึ่ง ซึ่งพอคิดๆไปแล้วก็นับว่าเป็นการดี เนื่องจากสถานการณ์ตอนนี้เรามีงานอยู่ในมือที่ต้องรีบแปลให้เสร็จไวๆ เพื่อป้องกันไม่ให้งานเก่าชนกับงานใหม่ การเลิกปั่นกระทู้จะเป็นเรื่องที่ปลอดภัยกว่า เนื่องจากว่า เราจะได้ทุ่มเทเวลาทั้งหมดเพื่อที่จะทำงานที่อยู่ในมือ ให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 18 พ.ย. 50 03:34:17 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สาธุ อมิตาภาพุทธ อ้อ ไอ้กระทู้นั้นมันหายไปอย่างนี้นี่เอง จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 18 พ.ย. 50 08:05:34 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขยายความ คคห.13 เมื่อพี่ nickycharles พาพวกน้องๆและเพื่อนๆไปทำกิจกรรมเพื่อให้ได้งานแปลมา ความมีเสน่ห์ของพี่เขามีส่วนเป็นอย่างมากที่ทำให้พวกเราประสบความสำเร็จ นั่นก็คือเขาพูดอะไรตลกๆเพื่อ break the ice แล้วเวลาติดต่อหน่วยงานอะไรก็ทำได้ง่ายหมด และที่สำคัญก็คือเมื่อได้งานมาแล้วพี่เขาไม่ทำหรอก เขาสละสิทธิ์โดยไม่ได้เรียกร้องผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น  ที่ไปช่วยเจรจาให้ได้งานมาก็เพื่อช่วยเหลือพวกน้องๆและเพื่อนๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อช่วยเหลือเพื่อนจอมขี้บ่นชื่อ tansy ในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมานี่ พี่ nickycharles แนะนำลูกค้าและแหล่งงานให้เราหลายครั้งแล้ว แถมยังช่วยเราทำงานแปล ทั้งแปลหนังสือ(แปลให้บางตอน) และแปลเอกสารให้เราในปริมาณขนาดย่อมๆ โดยไม่ยอมรับส่วนแบ่งค่าแปลเลยแม้แต่บาทเดียว เขาบอกว่า 'อยู่ว่างๆทำเล่นสนุกๆ'   งานชิ้นสุดท้ายที่เขาหามาให้เราทำ เป็น manual การใช้อุปกรณ์อะไรบางอย่างจากลูกค้าสิงคโปร์ ต้นฉบับภาษาอังกฤษมีรูปสีมากมาย  ตอนส่งงานให้เราเขาย้ำว่า 'เฮ้ย ไอ้แท่น ห้ามเมา ห้ามเบี้ยว ห้ามดำน้ำนะโว้ย ทำดีๆ อย่าให้เสียหน้ากรูนะโว้ย'  เราเห็นราคาดีเราเลยแปลเป็นไทยแบบจัดหน้าให้มีรูปสีสวยงามเหมือนต้นฉบับภาษาอังกฤษ  ทำเสร็จแล้วส่งงานเป็น *.pdf file ไปให้แล้ว   พอวันที่เจอกับพี่เมื่อไปทำกิจกรรมหางานแปล พี่เขาเอาเงินค่าแปล manual มายื่นให้เรา แล้วพูดว่า 'โหรู้ไหม ลูกค้าสิงคโปร์พอเปิด file ดูแล้วนะ He was very impressed. ลูกค้าบอกว่ามันดีเกินคาด จนถึงกับรีบส่งเมียเขามาเคาะประตูบ้านกรูบอกว่า ให้รีบเขียน invoice ไวๆ จะได้เอาเช็คมาจ่ายให้ทันควัน... มรึงทำได้ไงวะ...555+++?' เราหัวเราะร่วนๆแล้วตอบว่า 'งานแบบนี้ คิดว่า ส่วนใหญ่เขาใช้ Adobe Illustrator ทำ graphic กัน แต่ software ตัวเนี้ย มันใช้ยากบรรลัยเลย  เราเลยหาวิธีเล่นแร่แปรธาตุ โดยใช้ software ตัวอื่น 2-3 ตัวที่ใช้ง่ายกว่านั้นมาใช้งานผสมผสานกัน  มันก็เลยทำงานแปล manual แบบนี้ให้คำแปลออกมาโดยเก็บรูปสีสวยๆในต้นฉบับไว้ได้ครบถ้วน ในขณะที่มีภาษาปลายทางไปทับภาษาต้นทางได้แบบ seamlessly  แบบว่า ไม่ต้องไปเรียน graphic design มาให้ยุ่งยาก นโยบายก็คือ ใช้ tools ง่ายๆ ทำชีวิตให้ง่ายๆเข้าไว้ ถ้าคนเรียน graphic design ยากๆมาเห็นวิธีการง่ายๆของเรานะ มันจะตกใจว่า เส้นผมบังภูเขา... เอ่อ แต่ว่าค่าแปล manual ชี้นนี้น่ะ พี่เก็บไว้เถิดนะ เพราะว่าพี่เคยช่วยทำงานแปลชิ้นหนึ่งให้เรา มูลค่าสูสีกันเลย' พี่เขาหัวเราะแล้วบอกว่า 'อ๋อ ตอนนี้กรูสบายกว่ามรึงหลายเท่า มรึงยังลำบากอยู่ มรึงเอาเงินไปใช้เถอะ' แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 50 12:35:02 แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 50 12:28:39 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 18 พ.ย. 50 12:17:36 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ง่า... มีคนเขาเล่าลือว่าปู่แท่นตั้งกระทู้เกี่ยวกับปู่ทีดี แล้วก็หายไป คนมาไม่ทันได้แต่แอบเซ็ง จากคุณ : i_tua_yung - [ 18 พ.ย. 50 22:06:01 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ถึงแม้จะมิค่อยได้มาเสวนาประสาสะกับชาวเว็บบอร์ดห้องสมุด (เพราะมัวแต่มุดอยู่แถวถนนนักเขียน-บทกวี-ความเรียง ฯลฯแถวนั้น ) ได้ลิงค์นี้มาจากกระทู้บางกระทู้ที่นี่ ขอแสดงความเสียใจกับทุกท่านด้วย และ หวังใจว่า คุณ NickyCharles ไปดีเป็นที่ยิ่งค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 19 พ.ย. 50 11:38:23 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มิน่า ว่าจะมาอ่านกระทู้ของคุณแท่นสี เห็นอยู่เมื่อวันอาทิตย์ หายไปไหน ตกใจหมด จากคุณ : Canossa - [ 19 พ.ย. 50 15:19:41 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ^ ^ เด๋ววันหลังรวมตัวกันเอ็มแล้วลากลุงแท่นมาเล่าว่าพิมพ์อะไรไปมั่งดีม๊ะคะ อิอิ จากคุณ : i_tua_yung - [ 19 พ.ย. 50 20:50:02 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่ค่อยออนเอ็มอ่ะ เพราะออนแล้ว ตัวจะแปะกะคอมพิวเตอร์ตลอด แล้วที่บ้านก็ไม่มีเนตด้วย คือว่าเคยเล่น irc จนถึงขนาด addict ตอนที่ได้ข่าวว่าน้องที่รู้จักในเนต สามารถแกะตัวเองออกจากอาการ internet addict ได้ ตอนนั้นทึ่งมาก ว่าทำได้ไง ยังนึกเลยว่าโชคดีที่ไม่ได้เล่นเนตตอนเรียนโท ไม่งั้นจบเห่แน่ๆ (สมัยนั้น ยังไม่มี www รึไม่ก็เพิ่งจะมีเอง) พอตอนหลังมันเล่นเนตไม่ค่อยสะดวก และงานเริ่มโหมกระหน่ำ ก็เลยค่อยๆ ซาจากเล่นเนต ตอนไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น กลับมาติดเนตอีก เพราะไม่ค่อยมีใครให้คุยด้วย แถมคุยกับคนอื่นก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง พอกลับมา พบว่าที่บ้านมีแต่คนแก่สองคน(พ่อกะแม่) เฝ้าบ้าน พี่ๆ หายไปหมด เลยรู้สึกว่าถ้าต่อเนตที่บ้าน จะไม่ได้คุยกะพ่อแม่แหงๆ ก็เลยไม่ต่อเนต อยู่บ้านให้พ่อแม่ดูแล(กลับมามีกับข้าวรอไว้ ไม่เหมือน ตอนเรียนที่ญี่ปุ่น กลับที่พักแทบสลบเหมือด แถมต้องหาของกินด้วยตัวเอง) แล้วยังจะมาเฝ้าหน้าจอ ก็กระไร ทั้งๆ ที่มีคนสงสัยทำไมจึงไม่ต่อเนตที่บ้าน จะได้เล่นเนตได้ รู้นิสัยตัวเองว่าถ้าเข้าเนตเมื่อไหร่ ไม่ต่ำกว่าสองสามชั่วโมง ก็เลยไม่อาจออนเอ็มด้วยประการฉะนี้ จากคุณ : Canossa - [ 20 พ.ย. 50 19:29:43 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ลูกสาวที่บ้าน ได้รับประกาศิตเด็ดขาด อนุญาตให้เอ็มเฉพาะวันศุกร์หรือวันเสาร์ ไม่ให้เกินสองชั่วโมง จะสั่งเสียพิรี้พิไรกับเพื่อนๆอย่างไรก็ให้ทำในเวลานี้ ที่เหลือคือเวลาทำการบ้านกับอ่านหนังสือหรือดูหนังบ้าง ดูทีวีบ้าง หรือไปออกกำลังบ้าง ถ้าเกินกำหนด ดึงตัว Wireless USB adapter ออกเก็บโลด ฮ่าๆๆๆๆๆ นอกจากนั้นก็ต้องคอยสอดส่องมดแดงทั้งหลายที่คอยดอดมาเอ็ม สั่งไว้เลยว่าไม่รู้จักห้ามยุ่ง ให้เอ็มได้แต่กับเพื่อนที่โรงเรียน เห็นเพื่อนๆลูกบางคนแล้วกลัวใจ ไม่รู้พ่อแม่เขาดูแลลูกกันอย่างไร รู้สึกเขาจะออนไลน์เอ็มไว้ได้ตลอดเวลา ลูกเราต่อปุ๊บก็เจอะปั๊บเลย ถามว่านัดกันไว้หรือเปล่า ลูกสาวบอกว่าเปล่า ยายคนนี้เขาออนอย่างนี้แหละ แล้วมันมีเวลาที่ไหนทำการบ้านหรือดูหนังสือหว่า จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 21 พ.ย. 50 00:54:56 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คุณหมอโหดดดดดดดดดดดดดดด มีลูกสาวสวยก็งี้แหละ แสดงว่าตัวจริงคุณหมอต้องไว้หนวดเฟิ้ม หน้าดุๆ ตาโปนๆ คอยถลึงลูกกะตาตลอดเวลา เอิ๊กๆๆๆ (ขออภัยนะขอรับ อยากเปลี่ยนบรรยากาศซึมเศร้าของกระทู้ :-) คุณหมอไม่รู้อะไร พวกที่ออนเอ็มบางคนน่ะ ตัวเดินไปไหนไม่รู้ ซักพักค่อยเดินมาดูหน้าจอ แต่เปลืองไฟน่าดูเลย มีรุ่นพี่คนนึงเล่าว่า ตอนที่ไม่มีอินเตอร์เนต กะชีวิตหลังมีอินเตอร์เนต ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์พุ่งพรวดเกินสองเท่า 555 มีเรื่องจริงที่ตลกมากหนนึง สมัยนั้นคนเห่อไอซีคิวกันมากมาย มีเด็กป.โทคนนึงเปิดไอซีคิวทิ้งไว้ แล้วคลิกให้มันแอบไว้ข้างล่าง เผื่อตัวเองไม่อยู่ จะได้ไม่โชว์ข้อความ กะเผื่อใครจะใช้คอมระยะสั้น ทีนี้ อาจารย์ที่ปรึกษาของเด็กคนนั้น(อายุเยอะมากแล้ว ไม่ใช่คนวัยหนุ่มสาว) ก็มาใช้คอมตัวนั้น ตอนที่อาจารย์พิมพ์งาน ก็มีเสียงกุ๊กกู๋ของไอซีคิวดังตลอดเวลา เพราะมีสาวส่งข้อความแล้วสงสัยทำไมหนุ่มไม่ตอบ ดังอย่างต่อเนื่อง แบบจะถามว่าตะเองหายไปไหน ทำไมไม่ตอบเค้าล่ะ ตอนนั้นนั่งทำงาน กับรุ่นน้องคนนึง เห็นเหตุการณ์ตลอด ต้องเก๊กหน้าสุดชีวิต อาจารย์ก็บ่นตลอดเวลา ว่าทำไมมีเสียงประหลาดมารบกวนสมาธิตอนพิมพ์งาน กลั้นหัวเราะกันสองคนแทบแย่ พออาจารย์ไปแล้ว เท่านั้นแหละ นั่งหัวเราะ ใหญ่เลย พอตัวการมา ก็ด่ามันใหญ่ ปัจจุบัน อาจารย์ผู้ใหญ่คนที่ว่า เล่นเนตแทบทุกวันเพื่อค้นข้อมูล แถมแชตออนไลน์ด้วยนะ ไม่ใช่กะใครที่ไหนหรอก ลูกสาวอาจารย์อยู่เมืองนอกน่ะ จากคุณ : Canossa - [ 21 พ.ย. 50 11:09:47 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เห็นด้วยกะคุณพี่ข้างบนค่ะลุงแอ๊ด อย่างมู๋เนี้ย ออนทิ้งไว้ตลอดอ่ะค่ะ ถึงไม่อยู่ก้อเถอะ เผื่อใครมีธุระ หรือ เขาจะลากคุยกะ 10-20 คน เรากลับมาจะได้ตามอ่านได้ ไม่ตกข่าว ว่าเขาอัพเดทอะไรกัน บางทีไม่ได้ดูข่าว ทันข่าวก็เพราะเพื่อนๆ คุยกันนี่แหละค่ะ แต่ลุงออกเดินทางบ่อยๆ ไม่ใช่เหรอคะ จะมีเวลาดูแลลูกสาวเหรอออ ลูกสาวลุงอายุเท่าไรหว่า... น่าจะพอๆ กะมู๋อ๊ะป่าว ยั่งงี้คุมมากไม่ดีนะ เดี๋ยวมีต่อต้านนะลุงงง แก้ไขเมื่อ 21 พ.ย. 50 23:50:53 จากคุณ : i_tua_yung - [ 21 พ.ย. 50 23:33:23 ]

ความคิดเห็นที่ 25 พูดถึงคอมแล้วนึกขึ้นได้ ลุงๆๆ ถามไรหน่อยจิ มันมี FWD mail เรื่องวุ้นในลูกตาเสื่อมนี่เรื่องจริงป่าวอ่ะ แบบว่าจ้องทีวี จ้อมคอมนานๆ แล้วพอมันจะมีเส้นสีดำๆ ติดตาไปนานๆ คล้ายๆ เวลาออกไปเจอแดดเปรี้ยงๆ ยั่งงั้นละมั้ง ถ้าจำไม่ผิด... เอ๊กกก ก็เขาบอกว่า พวก FWD mail เชื่อไม่ได้ร้อยละ 99 อ่ะ จากคุณ : i_tua_yung - [ 21 พ.ย. 50 23:53:37 ]

ความคิดเห็นที่ 26 น้อง "ไอ้ตัวยุ่ง" โรคเกี่ยวกับดวงตานี่มีมากมายที่เราไม่รู้จักหรือไม่เคยได้ยิน สมัยที่ยังเป็นอาจารย์อยู่ (ก็กลุ่มคนที่ใช้สายตามากที่สุดพวกหนึ่งน่ะค่ะ) มีเพื่อนคนหนึ่งบ่อน้ำตาแห้ง ต้องใส่แว่นสีดำสนิทตลอดเวลา และต้องคอยหยอดตาเสมอด้วย กันบ่อจะแห้งอีก กับอีกคนหนึ่งเป็นโรคภาพไม่ตกจอตา รายนี้ก็ต้องใส่แว่นเหมือนกัน และคนที่จะส่งงานหรือเขียนโน้ตถึงเธอก็ต้องเขียนตัวโตๆ ไม่งั้นท่านจะอ่านไม่ออก และลายมือเธอเองก็เปลี่ยนไปคงเพราะโฟกัสไม่ดี คนนี้น่าเสียดายมากเพราะมาเป็นเอาตอนที่ได้รับทุนไปเรียนต่อปริญญาเอก เลยไปไม่ได้ ต้องรักษาอยู่หลายปี ฉะนั้น ระวังตัวไว้ก็ดีนะคะ เขาว่าคอมพิวเตอร์เนี่ย ใช้แต่ละครั้งอย่าให้เกิน 2ชั่วโมง พอถึง 2 ชั่วโมงแล้วก็ให้พักบิดตัว เดินไปไหนๆ หรือดูภาพอะไรเขียวๆ สัก 10 นาที แล้วค่อยทำงานต่อ อันนี้จะช่วยได้ค่ะ พี่เปิ้ล จากคุณ : abkorn - [ 26 พ.ย. 50 13:23:18 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ^ ^ ขอบคุณค้า จากคุณ : i_tua_yung - [ 26 พ.ย. 50 13:59:40 ]

ความคิดเห็นที่ 28 นี่เด็กมันยังเล็กอยู่ ยัยตัวยุ่ง ยังไม่แก่วัดอย่างเธอ อายุยังไม่เต็มสิบสี่เลย ขืนปล่อยให้ออนเอ็มทั้งวันก็ไม่ได้ทำอะไรกันแล้ว การบ้านก็ไม่ได้ทำ หนังสือที่ควรจะอ่านก้ไม่ได้อ่าน แล้วเพื่อนๆที่คุยด้วยบางคนก็ท่าทางไม่น่าไว้วางใจ วันหนึ่ง ลูกสาวนั่งกิ๊กๆกั๊กๆหน้าจอ แว่วๆได้ยินว่า "ไม่เอาน่า เมาก็ไปนอนเหอะ" เราเลยหูตาสว่าง ลุกไปถามว่าใครเมา ได้ความว่าเป็นรุ่นพี่ผู้ชายอยู่ ม.4 ไอ้นี่เพิ่งไปกินเหล้ามา เลยสั่งสอนลูกสาวว่า ไอ้คนที่อยู่ ม.4 แล้วริอ่านกินเหล้า ไอ้เวรนี้:-) เป็นเด็กเป็นเล็กไม่รู้จักหัดรับผิดชอบทำสิ่งดีๆ ให้บล๊อกโดยทันทีและตลอดไป ห้ามคบ เรื่องห้ามเด็กนี่มันก็ต้องห้ามมั่งสิ จะปล่อยให้เสรีไม่ได้หรอก พ่อแม่ต้องเป็น กบว. ให้ลูก เพื่อให้เขาเกิดวิจารณาญาณ รู้จักคิด รู้จักไตร่ตรอง จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 26 พ.ย. 50 15:38:06 ]

ความคิดเห็นที่ 29 มิน่าล่ะ พี่เข้าเอ็มทีไร ก็เห็นน้องยุ่งออนตลอดเลย (ขำที่น้าแอ๊ดว่า น้องยุ่งเป็น "เด็กแก่วัด" ฮิฮิฮิ) จากคุณ : Guga - [ 26 พ.ย. 50 16:06:02 ]

ความคิดเห็นที่ 30 โห... คุณหมอเฝ้าลูกสาวถึงหน้าจอเลยเหรอ หยั่งงี้ใครจะฝ่าด่านอรหันต์ไปได้เนี่ยยยยย จากคุณ : Canossa - [ 26 พ.ย. 50 18:51:38 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ไม่ได้เฝ้าหน้าจอหรอก แค่แบกทางเข้าบ้านไปด้วย Net ที่บ้านใช้ wireless router + ADSL modem ดังนั้นเครื่องที่จะเข้าเน็ตได้ก็ต้องมี wireless card หรือ USB wireless receiver เราถอด wireless ออกซะอย่าง จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 27 พ.ย. 50 08:53:49 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ^ ^ โหดดดดดดดดดดดดดดดด จากคุณ : i_tua_yung - [ 27 พ.ย. 50 21:51:36 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ^ ^ เป็นเรา เราจะยอมอดขนม เก็บเงินไปซื้อ wireless receiver จ้ะ จากคุณ : Guga - [ 28 พ.ย. 50 15:41:04 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ^ ^ ^ ชี้โพรงให้กระรอก อิอิอิ คุณหมอต้องกันสุดชีวิต ไม่ให้ลูกสาวอ่านกระทู้นี้ 555 จากคุณ : Canossa - [ 28 พ.ย. 50 18:15:22 ]