Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ว่าด้วย The 8th HABIT#01

    เพื่อเป็นการแบ่งปันให้กับเพื่อนๆทุกท่านและเป็นการย่อยความคิดที่ได้รับจากการอ่านหนังสือของตัวเอง  ผมจึงคิดว่าน่าจะเริ่มแบ่งปันข้อคิดที่ได้จากการอ่านหนังสือให้กับทุกคน  โดยมีความเชื่อส่วนตัวว่าสิ่งที่แบ่งปันไปน่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย  ก็เลยคิดว่าคงจะเริ่มจากหนังสือ The 8th HABIT (อุปนิสัยที่8) เป็นเรื่องแรก  หากเพื่อนๆมีข้อคิดเห็นประการใดเกี่ยวกับบทความหรือมีความคิดเห็นแตกต่าง  สามารถเมล์มาพูดคุยกันได้นะครับ  ว่าแล้วเราก็เริ่มกันเลยดีกว่าครับ


    เริ่มต้นบทที่1 ก็เริ่มหดหู่กันเลยครับ  เพราะผู้เขียนได้ยกประโยคคำพูดของคนที่หงุดหงิด  สิ้นหวัง  มาเป็นตัวเริ่มของข้อเขียน  เราอ่านไปพร้อมกันเลยครับ

    “ผมถึงทางตันแล้ว  หมดหนทางก้าวหน้า”
    “บางที่ฉันอาจขาดคุณสมบัติที่จำเป็น”
    “ผมรู้สึกท้อแท้และหมดกำลังใจ”
    “ฉันถูกนายจ้างคุมแจตลอดเลย  อึดอัดจริงๆ”
    “ฉันทั้งโกรธ  ทั้งกลัว  แต่จะให้ยอมตกงาน  คงทำไม่ได้หรอก”
    ฯลฯ (และอีกมากที่พิมพ์ไม่ไหว)

    นี่เป็นคำที่ใช้เริ่มต้นบทแรกในหนังสือเรื่องอุปนิสัยที่ 8  เป็นการเริ่มเรื่องที่กล่าวถึงชีวิตที่ถูกวงจรของงานประจำ  ความซ้ำซากจำเจเข้าครอบงำ  ความรู้สึกที่ไม่ได้ถูกปลดปล่อยหรือไม่ได้ถูกอนุญาตให้ทำงานสมศักยภาพของตัวเอง  ซึ่งคงเป็นการเริ่มต้นที่โดยใจคนหลายๆคนแน่ๆครับ  ผมยังมีอารมณ์ร่วมไปด้วยเลย  เพราะว่าก็มีบางช่วงที่อารมณ์เตลิดเปิดเปิงพาไปให้คิดได้แบบข้อความที่ผู้เขียนได้กล่าวไว้เหมือนกัน  หลังจากอารัมภบทแล้วผู้เขียนได้พูดถึงประสบการณ์ในการสัมมนาที่ตนเองเป็นผู้จัด  โดยได้มีโอกาสถามผู้ร่วมสัมมนาว่า
    “เห็นด้วยหรือไม่ว่าคนในองค์กรของเขามีความสามารถ  สติปัญญา  สมรรถภาพและความคิดสร้างสรรค์สูงกว่างานที่ทำอยู่แต่ไม่ได้ถูกเปิดโอกาสให้ใช้”
    ผลปรากฏว่าคนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับผู้เขียน  นอกจากนี้ผู้เขียนยังได้พูดถึงแบบสอบถาม xQ (Execution Quotient – ความสามารถในการปฏิบัติงาน) ซึ่งมีผลสรุปที่น่าสนใจเช่น มีเพียงร้อยละ 37 เท่านั้นที่บอกว่าเข้าใจสาเหตุและเป้าหมายขององค์กรว่ากำลังทำอะไร  ซึ่งผู้เขียนได้ให้ข้อคิดจากแบบสอบถาม xQ ไว้อย่างน่าฟังว่า
    “หากเปรียบเป็นทีมฟุตบอลตามสัดส่วนข้างต้น (ข้อมูลสรุปแบบสอบถาม xQ) เราจะพบว่ามีเพียงสื่คนจากสิบเอ็ดคนในสนามเท่านั้นที่รู้ว่าเป้าหมายของตนเองคืออะไร  จะมีสองคนเท่านั้นที่สนใจและรู้ว่าตัวเองเล่นตำแหน่งอะไร  และคนที่เหลืออีก 9 คนกำลังสร้างความสับสนและขัดขวางการเล่นของสองคนนั้น  แทนที่จะแข่งขันกับฝ่ายตรงข้าม”  โอ้ T_T จริงหรือนี่ช่างน่าเศร้านัก

    หลังจากการยกตัวอย่างดังกล่าว  ผู้เขียนได้เริ่มพรรณาถึงเหตุผลของการที่จำเป็นที่ต้องมีอุปนิสัยที่8  ว่าเหตุผลใดที่จำเป็นต้องมีซึ่งผมจะไม่กล่าวถึงในรายละเอียด  แต่โดยส่วนตัวสรุปเอาง่ายๆเอาเองว่า

    หากเรานึกภาพของวงล้อของเกวียนเราจะพบว่าจริงๆแล้ว The 7th HABIT เป็นการกล่าวถึงซี่ล้อต่างๆที่ขับเคลื่อนให้ล้อเคลื่อนไป  โดยมี The 8th HABIT ทำหน้าที่เป็นดุมล้อที่กำกับซี่ล้อทั้งหมด  หากไม่มีดุมล้อซี่ล้อก็จะไม่สามารถขับเคลื่อนไปได้ ทั้งสองต้องทำงานไปควบคู่กัน  โดยน้ำหนักความสำคัญจะอยู่ที่ดุมล้อเป็นหลักที่คอยกำกับให้ซี่ล้อทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ  โดยความรู้สึกส่วนตัว The 7th เป็นอะไรที่มีความเป็นรูปธรรมที่อธิบายเป็นหลักปฏิบัติที่ง่ายกว่า  ส่วน The 8th HABIT จะมีความเป็นรูปธรรมที่น้อยกว่ายากต่อการอธิบาย  ซึ่งหากจะสามารถสร้างความเข้าใจขึ้นมาได้อ่านจะต้องอ่านสักหลายรอบหน่อย (ToT เหนื่อยแน่ตู)
    หากจะให้สรุปในแบบของผมเอาเองผมจะให้คำแทน The 8th HABIT ว่า INSPIRATION ครับ

    สำหรับเริ่มต้นไว้แค่นี้ก่อนนะครับ  หากมีคำแนะนำและข้อคิดเห็นสามารถเมล์มาพูดคุยกันได้ครับ

    จากคุณ : หงส์ร่อนมังกรรำ - [ 11 ธ.ค. 50 18:23:15 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom