ความคิดเห็นที่ 1 ในระหว่างพี่น้อง  คือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้ง 2  พระองค์กับใต้ฝ่าพระบาท  ทรงเรียกชื่อเล่นกันไหมเพคะ   “ก็แน่นอน  เราเรียกกันตามชื่อเล่น  ฉันก็เปลี่ยนชื่อไป  ตอนอยู่เมืองไทยเป็นพี่หญิง   ...พอไปอยู่เมืองนอกไม่มี  พี่หญิงตกไปแล้ว (ทรงพระสรวล)  เรียกชื่อเฉยๆเป็นฝรั่งกันไป ...กับพระเจ้าอยู่หัวก็เรียกชื่อกันเป็นน้องนี่  แต่เดี๋ยวนี้ซิไม่ได้  ไปพูดกับใครก็ต้องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ท่านผู้หญิงทัศนาวลัยเอ่ยเสริมว่า “แต่เวลาอยู่กันเองก็เรียกได้” สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯหันพระพักตร์ไปตรัสกับพระธิดาว่า “เรียกได้  แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเรียก พระเจ้าอยู่หัวก็ไม่เรียกแม่นะ ท่านเรียก อื้ออ...อย่างนั้นๆอย่างนี้  แม่ก็บอกว่า  อื้ออออ....อย่างนั้นอย่างนั้นๆ “ลูกไม่ได้สังเกต” พระเจ้าพี่นางเธอฯทรงพยักพระพักตร์ยืนยัน “ลองสังเกตดูสิ ไม่ออกชื่อไม่ขานชื่อกัน” จากคุณ : บ่วยบ๊วย - [ 9 ม.ค. 51 14:07:14 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ใต้ฝ่าพระบาทยังทรงจำได้หรือไม่เพคะว่าก่อนพระบรมชนกสิ้นพระชนม์ ได้รับสั่งอะรับใต้ฝ่าพระบาทบ้าง ........ “ท่านทรงงานมากเหลือเกิน ทรงงานตลอดเวลา  ทรงไม่มีเวลาเลย ...แต่งานในบ้านท่านก็ช่วย  คือถึงเวลาจำเป็น  ท่านก็กวาดบ้านเป็น  ทำอะไรเป็น  ท่านทำทุกอย่าง  ชุนถุงพระบาทยังเป็น ...แม่เคยเล่าว่า  เคยไปอยู่ที่ไหนไม่รู้  นั่งอยู่ด้วยกัน  ไม่มีทีวี.ดู  ก็นั่งฟังแผ่นเสียง  ต่างคนต่างชุนถุงตีนของตัว  เพราะสมัยนั้นต้องชุนถุงตีน  เพราะไม่ใช่ไนล่อนที่พอขาดแล้วทิ้ง  เขาไม่ทิ้งกัน  ต่างคนต่างชุน  ไม่ใช่แม่ชุนถวาย  ทูลหม่อมฯ ท่านมีความสามารถในหลายๆด้าน  ก็จำได้แค่นี้” สมเด็จพระพันวัสสาฯทรงมีส่วนในการเลี้ยงดูใต้ฝ่าพระบาทหรือไม่เพคะ “แบบไทย   ท่านไม่ได้เลี้ยงแต่ท่านหาคนเลี้ยงมาประทาน  ซึ่งแม่ก็ไม่ค่อยชอบ  ท่านพยายามหาคนมาเยอะเชียว  แม่ก็เกรงพระทัย  รับบ้างไม่รับบ้าง  แล้วบอกว่าใช้ไม่ได้อะไรอย่างนี้ ...แม่ชอบมีแหนน  แล้วมีพี่เลี้ยงอีกคนเท่านั้น  นอกจากนั้นก็จะเป็นมหาดเล็ก  แต่จะมาเลี้ยงลูกนี่ท่านไม่ค่อยชอบนัก  ท่านก็จะดูแลเรื่องนี้ ...แต่เวลาไปเฝ้าสมเด็จพระพันวัสสาฯ  ท่านเสวยอะไร  ท่านก็อยากให้หลานด้วย  แต่พอจะหยิบให้  ท่านก็จะบอกว่า ‘โอ้ย...ไม่ได้หรอก  เดี๋ยวแม่เขาจะมาว่าเอา’ คือแม่เรียนมาทางด้านโภชนาการ  เลี้ยงเรามาจนรู้ดีว่าควรกินอะไร  ไม่ควรกินอะไร  รับประทานต้องให้ครบอย่างนั้นอย่างนี้  ไม่ได้รับประทานอะไรนอกเวลา ...ทีนี้สมเด็จพระพันวัสสาฯทรงทราบดี   พอท่านจะให้อะไร ท่านก็ ‘โอ้ย   ไม่ได้ๆ   เดี๋ยวแม่มาว่าเอา’ คือท่านก็เกรงพระทัยแม่  รักด้วย” จากคุณ : บ่วยบ๊วย - [ 9 ม.ค. 51 14:09:29 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ทราบว่าสมเด็จพระพันวัสสาฯทรงรักสมเด็จพระศรีฯ “...ทรงรักหลานๆมากเชียว  เพราะในลายพระหัตถ์  ท่านจะเขียนซองเล็กๆถึงหลาน  ก็คือถึงฉันนะ  เพราะฉันอ่านหนังสือออกคนเดียว  พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 8  พออ่านออกบ้างนิดหน่อย ...แล้วมีโปสการ์ดถึงแม่ว่า  คิดถึงหลานเหลือเกิน  ขนาดเวลาหน้าร้อนเราไปหัวหินกัน  ไม่ได้ประทับอยู่กรุงเทพฯ  ท่านก็เขียนไปว่า ‘หลานไม่อยู่  คิดถึงมาก  แล้วก็ไปเห็นชามเล็กๆ  แล้วคิดถึงหลาน’ ท่านทรงรักมาก  เพราะเป็นหลาน 3 คน ที่ท่านมีอยู่” ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระอนุญาตกราบทูลถามถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล  ว่าเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล  เสด็จขึ้นครองราชย์ครอบครัวรู้สึกเช่นไรเพคะ “อันนี้แปลกมาก  ฉันไม่รู้  เพราะฉันไม่อยู่  ฉันไปอยู่ที่ภูเขา   จำไม่ได้ว่าทราบได้อย่างไร ในหนังสือมี  เจ้านายเล็กๆมีอยู่ละเอียดพอควร ...จะมีเอกสาร  เอกสารนี่แม่เขียนมาถึงสมเด็จพระพันวัสสาฯเลย   ...มีความรู้สึกว่าไม่อยากให้เป็นเลย  มีหมดเลยว่า ไม่อยากให้รับ  แต่เมื่อคิดถึงบ้านเมือง  คงจะต้องรับ ...แต่ระหว่างน้องๆ 2  คน  คงต้องพูดอะไรกันแน่  แต่พูดอะไรนี่ไม่ทราบคงจะเล่นๆกันมากกว่า  เพราะยังเล็กอยู่  8  กับ 10 ...ในลายพระหัตถ์ของแม่ที่เขียนถึงสมเด็จพระพันวัสสาฯ  เพราะท่านโน้ตเอาไว้เลยว่า  รัชกาลที่  8  ทรงคิดว่าจะตอบหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ที่มาอัญเชิญขึ้นครองราชย์ว่าอย่างไร  ที่ไม่อยากเป็นพระเจ้าแผ่นดิน  มีเหตุผล  4-5 ข้อ ...มีอันหนึ่งที่ว่า  เก้าอี้มันสูงไปท่านซนก็อาจจะตกจากเก้าอี้  แล้วไปไหนก็ต้องกางร่ม  ก็จะไม่ได้รับแดด  เพราะเวลานั้นต้องมีวิตามินดี.นี่  อย่างนั้นก็จะไม่โดนแดด  แล้วถ้าซนหน่อย  เดี๋ยวพระยาพหลฯดุเอา ...มีหลายข้อที่ท่านคิดเอง  แล้วแม่ก็จดเอาไว้ว่าท่านตอบอย่างนี้  แต่ตอบหรือเปล่าไม่ทราบ  เพราะฉันไม่อยู่” จากคุณ : บ่วยบ๊วย - [ 9 ม.ค. 51 14:11:03 ]

ความคิดเห็นที่ 4 หลังจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล  เสด็จขึ้นครองราชย์  และเสด็จพระราชดำเนินกลับเมืองไทยครั้งแรก  ในปี  พ.ศ.2481  ใต้ฝ่าพระบาททรงรู้สึกอย่างไรบ้างเพคะ “อันนี้ต่างกัน คือเมื่อขึ้นครองราชย์แล้ว (พ.ศ.๒๔๗๗) รัฐบาลก็อยากให้กลับมา  แม่ก็พยามบอกว่าเวลานี้ร่างกายพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๘  ยังไม่แข็งแรง  ขอผลัดไปก่อน  ก็ได้ไปปีหนึ่ง ...อีกปีหนึ่งก็ให้เหตุผลว่า  ปีนี้จะต้องสอบ  ยังไม่เหมาะที่จะกลับ  ตั้งหลายปีกว่าจะได้กลับ ...ตอนกลับมา  ๒  พระองค์คงมีความสุข  เพราะกลับมาด้วยเรือเดินสมุทรเดนมาร์คเล็กๆ ท่านก็สนุกกัน แต่ที่ฉันตกใจและตื้นตันคือ เมื่อขึ้นเรือรบขึ้นมาจากสันดอน  ขึ้นมาตลอดแม่น้ำเจ้าพระยา  สองฝั่งแม่น้ำคนคอยเต็ม  คอยดู  เพราะบ้านเมืองไม่มีพระเจ้าแผ่นดินมานานแล้ว  คอยดูว่าเด็กแค่ไหน ...เสียงต้อนรับ  ได้ยินแล้วตกใจมาก  ยิ่งมาใกล้กรุงเทพฯ  คนยิ่งแน่นๆๆๆ  เสียงดัง  โบกมือกัน ไชโยกันแน่นฝั่งเลย ...นี่เป็นความรู้สึกที่ประทับใจฉันมาก  เพราะทีหลังเราไม่ได้มาอย่างนี้กันอีก  มีแค่ครั้งแรกเท่านั้นที่มาทางเรือรบยืนกันข้างเรือ  โบกมือตลอดเลย  ยิ่งใกล้กรุงเทพฯยิ่งเยอะ ...แล้วในหนังสือ  ๔  แผ่นดินนั่นก็จะมีตอนที่แม่พลอยเขียนไว้  คนนี้เต็มถนน  ดีใจเหลือเกิน  เพราะว้าเหว่ว่ไม่มีพระเจ้าอยู่หัวมานาน  ยิ่งเป็นองค์เล็กๆอย่างนี้ จากคุณ : บ่วยบ๊วย - [ 9 ม.ค. 51 14:12:45 ]

ความคิดเห็นที่ 5 การเสด็จกลับมาประทับที่กรุงเทพฯครั้งนี้  ใต้ฝ่าพระบาททรงรู้สึกแตกต่างจากครั้งก่อนๆหรือไม่เพคะ “แตกต่างสิ  เพราะพออยู่ไป  กรมรถไฟก็ให้รถไฟหรือเครื่องยนต์ไม่รู้  นั่งบนหลังคาได้ ๒  พระองค์  มีรถไฟขับได้  ก็สนุก ...ฉันก็สนุกมากที่สั่งแผ่นเสียงมาได้  เพราะอยู่เมืองนอกกว่าจะซื้อได้อันก็แพง  ต้องเก็บสตางค์ไว้ซื้อ  คือได้เงินอาทิตย์ละครั้ง  จะซื้อแผ่นเสียง  ๑  อันก็ได้  หรือว่าไปดูหนัง  ๑  ครั้ง  ก็ต้องเลือกเอา  ไป ๒ อย่างไม่ได้  ก็ซื้อได้ทีละแผ่น ...พอมาถึงเมืองไทย  ฉันบอกว่าอยากได้แผ่นเสียง  แผ่นเสียงก็มาถึงเป็นตั้ง (ทรงพระสรวล)  แล้วฉันจะต้องไปงาน  จะต้องมีเสื้อผ้า  ก็มีคนมาวัดตัว  แล้วเสื้อผ้าก็มากองโต  เปลี่ยนได้ทุกวัน อยู่เมืองนอกมีไม่กี่ชุด ...ก็สนุกกันมาก  แต่ในทางวัตถุเท่านั้น  แม่ก็ทุกข์หน่อยหนึ่ง  เพราะคนเข้ามาหามาก  มาอะไรมากมายหลายอย่าง  แต่เด็กๆก็สนุกกัน  อยู่น้อย  อยู่แค่ ๒  เดือน  แต่ก็สนุกดี จากคุณ : บ่วยบ๊วย - [ 9 ม.ค. 51 14:16:38 ]

ความคิดเห็นที่ 6 หลังจากจบโรงเรียนราชินี  ใต้ฝ่าพระบาททรงไปศึกษาต่อต่างประเทศเลยหรือเพคะ “ใช่...พอไปต่างประเทศ  ฉันไปอยู่โรงเรียนเล็กๆ  ไปด้วยกัน 3  คน  โรงเรียนก็มี 3 ชั้น  ก็อยู่ชั้นละคนพอดี ..อันนี้ฉันเพิ่งทราบว่าเรียนตอนแรกภาษาก็แย่อีกละ  ไปโดนภาษาฝรั่งเศสเคยเรียนก่อนที่เมืองไทย  เพราะแม่บอกว่าจะไปสวิสต้องเรียนภาษาฝรั่งเศส  แม่ก็ไปฟังเขาสอนที่จุฬาฯ ที่สอนผู้ใหญ่แล้ว  แม่ก็จูงฉันไปฟังด้วย ...ฉันอายุ 9 ขวบ  ก็ไม่รู้เรื่อง  ท่านเลยไปพูดกับอาจารย์ชาวฝรั่งเศสนั่นว่า  มาสอนฉันที่บ้านได้ไหม  เขาก็อุตส่าห์มา  มาสอนคำว่า  บ้าน  โต๊ะ ต่างๆ ...แต่ฉันนี่ด้วยความซน  ก็เอาสีน้ำมาเขียนหน้าครูแทน  ครูผู้ชายนะแกก็ใจดี๊ใจดียอมให้เขียน(ทรงพระสรวล)เขียนให้เป็นอินเดียน  เลอะเทอะเชียว” ใต้ฝ่าพระบาททรงมีอัจฉริยะภาพทางการประพันธ์  แต่เหตุใดจึงทรงเลือกเรียนวิทยาศาสตร์และเคมีดูไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันได้เลยนะเพคะ “เพราะว่าฉันชอบการสอนหนังสือตั้งแต่เด็กๆ  สอนหมด  แต่คนนี้สอนไม่ค่อยได้ (ทรงหันมาทางท่านผู้หญิงทัศนาวลัย  พร้อมแย้มพระโอษฐ์)  จำได้หรือเปล่า  ร้องห่มร้องไห้กัน  แต่ทีหลังเขาก็เก่ง  คำนวณก็ใช้ได้ ...แต่ตอนนั้นมีโจทย์มา  ถามว่านี่ทำยังไง  บอกว่าบวก ไม่ใช่ลบ  เอ้อคูณ  แล้วจะไม่โมโหยังไง  ตอบอย่างนี้  (ทรงพระสรวล) ไม่คิดเลย” ท่านผู้หญิงทัศนาวลัย หัวเราะเบาๆ “เมื่อกี้สัมภาษณ์ถูกถามเหมือนกันว่าแม่เคยสอนไหม  บอกว่าแม่ลูกสอนกันไม่ค่อยได้หรอก” สมเด็จพระพี่นางฯรับสั่งถึงท่านหญิงฯอย่างเอ็นดูว่า “ทีหลังได้นะ  พอลูกไปโลซานน์แล้วต้องใช้รีซันนิ่ง  ตอนนั้นเก่ง  โลจิกดีแต่ตอนเล็กๆไม่รู้จักโลจิกเลย  เดาหมด  ตั้ง 4 อย่างเอาหมดเลย (ทรงพระสรวล)” “ลูกคิดว่าก็ต้องถูกซักอัน” ท่านผู้หญิงฯตอบกลั้วเสียงหัวเราะ คำตอบนี้ทำให้สมเด็จพระพี่นางฯ  ทรงขบขันมากกว่าถือเป็นคำตอบจริงจัง “เลยยิ่งโมโห  เพราะถูกอันสุดท้ายเลย  (ทรงพระสรวล)  แต่สอนคนอื่นได้ชอบสอนหนังสือเด็กๆมาก  เลยคิดว่ายังไงๆฉันต้องเป็นครูแน่” จากคุณ : บ่วยบ๊วย - [ 9 ม.ค. 51 14:18:09 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ได้ยินว่านักศึกษากลัวสมเด็จอาจารย์พระองค์นี้กันมากเพคะ “ที่ธรรมศาสตร์นี่ต่างจากจุฬาฯ  ที่ธรรมศาสตร์เวลาขึ้นลิฟท์  นักศึกษาที่ธรรมศาสตร์ยังขึ้นลิฟท์ไม่เป็นเลย  (แย้มพระโอษฐ์  พระสุรเสียงไม่ได้จริงจังนัก)  เราจะออก  เขาดันเข้า  ไม่ให้ออก” ท่านผู้หญิงทัศนาวลัยซึ่งเป็นศิษย์เก่าจุฬาฯแย้งว่า “ไม่ต้องที่ธรรมศาสตร์หรอกแม่  ที่จุฬาฯก็เป็น” “แต่ธรรมศาสตร์ยังมีอะไรอีกอย่างหนึ่ง  ฉันเดินบนเฉลียงชั้น 3 ห้องที่ฉันต้องเดินไปสอน  ทางเดินจะแน่นเสมอเวลานักศึกษาออกจากห้อง ...ฉันก็เดินไป  โดยมากมีอาจารย์เดินตามฉันไปคนหนึ่ง  ไปส่ง  แต่ช่วยอะไรไม่ได้หรอก  นักศึกษาก็ชน  หน้าก็แก่   ไม่ใช่เป็นนักศึกษา  ทำไมถึงต้องมาชนอาจารย์  (ทรงพระสรวล)  แต่ถ้าเป็นลิฟท์  ฉันจะบอกเธอคอยก่อน   แล้วดันเขาออกเหมือนกัน  แต่เดินนี่ช่วยไม่ได้เขามาชน ...เวลาฉันไปสอน  มีตำรวจเป็นคนขับให้  ไปถึงเขาไม่ขึ้นไป  บางทีเขาก็หายไปเลย...  มีอาจารย์คอยอยู่คนหนึ่ง  เวลาจะไปห้องสอน  อาจารย์บางทีก็เดินไปด้วยคุยไปด้วย  บางทีก็ไม่ทันฉันไปก่อน  คือไม่ต้องการให้รู้ว่าเป็นใคร  แต่ต้องการให้รู้ว่านักศึกษาควรจะไม่ไปชนอาจารย์... แม้สมเด็จพี่นางเธอฯจะทรงมีตัวอย่าง  ท่านผู้หญิงทัศนาวลัยก็ยังคงยืนยันความเห็นเดิมว่า “แต่เดี๋ยวนี้ที่ไหนก็เป็น” สมเด็จพระพี่นางเธอฯรับสั่งถามอย่างไม่แน่พระทัย “เหรอ  เมื่อก่อนที่จุฬาฯนี่ตัวลีบกันเลย” ท่านผู้หญิงทัศนาวลัยพยักหน้าย้ำว่า “เดี๋ยวนี้ไม่เลย  เป็นอาจารย์ทั่วไปนี่ชนเลย” สมเด็จพระพี่นางฯจึงทรงพระสรวลรับฟัง จากคุณ : บ่วยบ๊วย - [ 9 ม.ค. 51 14:19:38 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตอนทรงพระครรภ์ ใต้ฝ่าพระบาททรงนึกไว้บ้างหรือไม่เพคะว่าเป็นลูกผู้หญิงหรือผู้ชาย “ไม่ได้นึกอะไร  อะไรก็ได้” ท่านผู้หญิงทัศนาวลัยเย้าสมเด็จแม่ว่า “ก็ออกมาเป็นผู้หญิง” สมเด็จพระพี่นางเธอฯทรงพยักพระพักตร์ “ใช่   ตอนนั้นหาชื่อไว้สำหรับทั้งสอง  ผู้ชายชื่ออะไรไม่รู้   น่ากลัว” ใต้ฝ่าพระบาททรงเลี้ยงพระธิดาอย่างไรเพคะ  ลำบากมากหรือไม่ “เขาเกิดปี  ๒๔๘๘   เวลานั้นจนมากนะ  คือเวลานั้นสงคราม  คนนี้เลยไม่ค่อยได้กินของดีนัก   แต่ทำไมเขาออกมาสูงอย่างนี้ไม่ทราบ  สูงมากๆ  ฉันเลี้ยงเอง แล้วตอนนั้นฉันได้เงินน้อยมาก พอแต่งงานแล้วมีลูกแล้ว  ยังไม่ได้ทำอะไร  แม่เป็นคนให้เงิน ...คือตอนนั้นฉันยังเรียนไม่ได้ปริญญา  ฉันมาแต่งงาน  แล้วบอกว่าจะไม่เรียนต่อแล้ว  แต่มีคนบอกให้เรียนเถอะนะ  ตอนหลังเลยมาเรียนต่อจนจบ ...แต่ตอนนั้นแม่ให้เหมือนเป็นเงินเดือน  เทียบสมัยนี้  1.200  บาท  จะทำอะไรได้  ต้องเช่าบ้าน  กินข้าว  เลี้ยงลูก  กินอยู่กัน 3  คน  ทุกอย่าง จนขนาดที่ว่าเวลาฉันผ่านซื้อกับข้าว  คือพอไปเรียนกลับมา  ก็ต้องซื้อของกิน  ก็ต้องเลือกเอา  จะกินขนมดี  หรือจะกินเนื้อ ต้องเลือกเอา  เอา 2  อย่างไม่ได้  ต้องประหยัด จากคุณ : บ่วยบ๊วย - [ 9 ม.ค. 51 14:20:56 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ทรงเคยทำอะไรให้ท่านผู้หญิงทัศนาวลัยรับประทานบ้างเพคะ “ก็เปิดกระป๋องเป็นแป้ง  เอาน้ำเจือ  ธรรมดาเขาชอบรับประทานตับนะ ...ตอนนั้นก็ทานนม  แต่เลี้ยงไม่ดี  เพราะตอนนั้นให้กินนมข้นมากเกินไป ได้กินนมแม่อยู่  3  เดือน  เพราะฉันไม่มีให้  เลยเป็นนมข้น   หมอเป็นคนบอกว่าให้ได้  แต่ควรให้ตอนต้น แล้วหยุด  แต่เราให้นานไปหน่อย  เพราะมันง่ายดี (แย้มพระโอษฐ์) ต่อมาเมื่อท่านผู้หญิงทัศนาวลัยก็มีลูก  (คุณจิทัศ  ศรสงคราม)  ใต้ฝ่าพระบาททรงใกล้ชิดสนิทสนมกับพระนัดดาเหมือนพระธิดาหรือไม่เพคะ “พูดถึงนัดดาเมื่อเล็กนี่  เขาไม่ชอบให้คนไม่คุ้นอุ้ม  แล้วแม่เขาก็หวงด้วย ลำบากมากตอนเล็กๆ  ถึงเดี๋ยวนี้เขาก็เรียบร้อยดี ได้ข่าวว่าคุณจิทัศไว้ผมยาวด้วย  ใต้ฝ่าพระบาทไม่ว่าหรือเพคะ “ไม่ว่า  ทำไมหละ  ถ้าสะอาดดี อะไรดีก็ไม่เป็นไร  ถ้ารุงรังสกปรกเหม็นก็ไม่ดี  (ทรงพระสรวล)  แต่หลานฉันผมแข็งหน่อย  ชี้หน่อยๆ  ยังไม่ยาวเต็มที่” “แต่มาครั้งหลังนี้ไม่ชี้แล้วค่ะ” ท่านผู้หญิงทูล สมเด็จพระเจ้าพี่นางฯ  แย้มพระโอษฐ์รับด้วยความพอพระทัย จากคุณ : บ่วยบ๊วย - [ 9 ม.ค. 51 14:22:28 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขณะที่ทรงเฝ้าดูแลสมเด็จพระศรีฯใต้ฝ่าพระบาทใช้เวลาช่วงใดทรงงานเพคะ “อยากให้เห็นห้องที่ฉันอยู่ที่โรงพยาบาล  ฉันมีเตียง  2  เตียง  อีกเตียงใครมานอนไม่ได้หรอก  แฟ้มเต็ม (ทรงพระสรวล)  แน่นไปหมด  แล้วมีคอมพิวเตอร์  1  เครื่อง  เครื่องพิมพ์ดีด  ที่คล้ายๆคอมพิวเตอร์อีก เครื่องหนึ่ง  เครื่องถ่ายเอกสารก็ต้องเอาไป  ถ้าอย่างนั้นไม่ทัน” ใต้ฝ่าพระบาทมีพระกรณียกิจมากมาย  ทรงแบ่งเวลาทรงงานอย่างไรเพคะ “ไม่ได้แบ่งอะไร  แบ่งไม่ได้” จากคุณ : บ่วยบ๊วย - [ 9 ม.ค. 51 14:23:31 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณ จขกท.มากค่ะ ขอร่วมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านค่ะ จากคุณ : รัตตมณี (kulratt) - [ 9 ม.ค. 51 15:18:48 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณคุณบ่วยบ๊วยมากค่ะ ใจดีมากเลย กำลังคิดอยากอ่านพอดี ไม่ทราบว่าจบหรือยัง ถ้ายังไม่จบก็จะรออ่านต่อนะคะ จากคุณ : YellowTiburon - [ 9 ม.ค. 51 15:23:51 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณมากๆครับ ถ้ายังไม่จบก้รออ่านต่อยู่เหมือนกันนะครับ จากคุณ : C.H.A.I.N.A.R.A.I - [ 9 ม.ค. 51 15:28:01 ]

ความคิดเห็นที่ 14 รออ่านต่อครับ ขอบคุณมากๆที่นำมาลงนะครับ จากคุณ : pacharawong - [ 9 ม.ค. 51 15:41:13 A:118.172.18.87 X: TicketID:163604 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณคับ จากคุณ : ชาย_วชิร - [ 9 ม.ค. 51 15:42:58 ]

ความคิดเห็นที่ 16 รออ่านด้วยคนค่ะ จากคุณ : ลิลลี่อ้วน - [ 9 ม.ค. 51 15:43:40 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณ จขกท. ค่ะ น่าเสียดายที่ผู้สัมภาษณ์ดูจะไม่ค่อยได้เตรียมตัวในการตั้งคำถามเท่าใดนัก หากเตรียมตัวดีๆ คงได้ทราบคำตอบในเรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจมากกว่านี้ ^^ จากคุณ : tiara - [ 9 ม.ค. 51 15:47:24 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มาปูเสื่อรอค่ะ จากคุณ : brienz - [ 9 ม.ค. 51 15:57:04 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณจขกท. มากๆ ค่ะ บางเรื่องไม่เคยรู้มาก่อนเลย จากคุณ : Attacus - [ 9 ม.ค. 51 16:00:17 ]

ความคิดเห็นที่ 20 รอค่ะ รอ  อยากอ่านอีก จากคุณ : bolton fanclub - [ 9 ม.ค. 51 16:18:59 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มารออ่านตอนต่อไปนะครับ ดีมากๆเลย จากคุณ : ซอร์บอนน์ - [ 9 ม.ค. 51 16:27:49 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณ จขกท ที่นำบทสัมภาษณ์มาฝากค่ะ จากคุณ : nanny_nan - [ 9 ม.ค. 51 16:31:15 ]

ความคิดเห็นที่ 23 สมเด็จพระพี่นาง และ พระธิดา จากคุณ : akkarachai - [ 9 ม.ค. 51 16:51:43 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณที่นำมาให้อ่าน เคยอ่านบทประทานสัมภาษณ์นี้มาแล้วแต่ก็อ่านได้อีกไม่เบื่อ เพราะชื่นชมพระจริยวัตรพระองค์ท่าน จากคุณ : พนอจัน - [ 9 ม.ค. 51 17:18:37 ]

ความคิดเห็นที่ 25 9ติดตามอ่านค่ะ ขอบคุณที่นำลง จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 9 ม.ค. 51 17:24:54 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบพระคุณมากค่ะ  อ่านไปยิ้มไปค่ะ มีต่ออีกไหมคะ  แฮ่ จากคุณ : biebie999 - [ 9 ม.ค. 51 18:53:00 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่นำมาให้แบ่งปันกันอ่านนะคะ จากคุณ : aStiMegOEsbY - [ 9 ม.ค. 51 20:16:34 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณมากครับ มีอีกก็มาลงอีกนะครับ จากคุณ : กริชครับผม - [ 9 ม.ค. 51 20:31:49 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณมากค่ะ...ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันสิ่งดีๆร่วมกัน นี่ต้องอ่านออกเสียงให้คุณยายฟังไปด้วย คุณยายยิ้มใหญ่ จากคุณ : Norikoจัง - [ 9 ม.ค. 51 20:36:01 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : ชายชิน - [ 9 ม.ค. 51 21:27:10 ]

ความคิดเห็นที่ 31 มีอีกมั้ยคะคอยอ่านต่อค่ะ ขอบคุณเจ้าของกระทู้มากๆเลยค่ะ จากคุณ : kikgle (kikgle) - [ 9 ม.ค. 51 21:44:50 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณนะคะที่สละเวลามาพิมพ์ให้อ่านกันในนี้ ชื่นชมคำตอบของพระองค์มาก โดยเฉพาะต้นเรื่องว่าชอบปีไหนไม่ชอบปีไหน รออ่านต่อนะคะ จากคุณ : ตั้งเพ็กเง็ก - [ 9 ม.ค. 51 22:24:37 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณค่ะ  เพิ่งเคยอ่านครั้งแรก  อ่านไปนึกภาพตามก็แอบอมยิ้ม ได้กลิ่นไอของความผูกพันของ แม่ และลูกเลยค่ะ จากคุณ : rosella - [ 9 ม.ค. 51 22:43:13 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณ จขกท ค่ะ จากคุณ : ป้อมเตี้ยตุ่น - [ 9 ม.ค. 51 23:04:28 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ทราบว่าสมเด็จพระพันวัสสาฯทรงรักสมเด็จพระศรีฯ “...ทรงรักหลานๆมากเชียว  เพราะในลายพระหัตถ์  ท่านจะเขียนซองเล็กๆถึงหลาน  ก็คือถึงฉันนะ  เพราะฉันอ่านหนังสือออกคนเดียว  พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 8  พออ่านออกบ้างนิดหน่อย ...แล้วมีโปสการ์ดถึงแม่ว่า  คิดถึงหลานเหลือเกิน  ขนาดเวลาหน้าร้อนเราไปหัวหินกัน  ไม่ได้ประทับอยู่กรุงเทพฯ  ท่านก็เขียนไปว่า ‘หลานไม่อยู่  คิดถึงมาก  แล้วก็ไปเห็นชามเล็กๆ  แล้วคิดถึงหลาน’ ท่านทรงรักมาก  เพราะเป็นหลาน 3 คน ที่ท่านมีอยู่” อ่านแล้วน้ำตาไหล เข้าใจถึงสมเด็จพระพันวัสสา ว่าทรงเสียทุกคนไป เหลือแต่พระราชนัดดาสามพระองค์นี้ จากคุณ : natthaset - [ 10 ม.ค. 51 01:28:30 ]

ความคิดเห็นที่ 36 มารออ่านต่อนะคะ ขอบคุณจขกท.มากค่ะ จากคุณ : xbeai - [ 10 ม.ค. 51 01:59:57 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : ศรีธนา - [ 10 ม.ค. 51 08:06:59 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณ คุณบ่วยบ๊วยมากครับ จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 10 ม.ค. 51 11:24:35 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ดูรูปไปก่อนนะคะ  วันนี้ยังพิมพ์ไม่ทันงานเพียบเลยค่ะ  เดี๋ยวจะลงรายละเอียดให้อีกทีนะคะ จากคุณ : บ่วยบ๊วย - [ 10 ม.ค. 51 14:36:28 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เมื่อในหลวงยังทรงพระเยาว์ จากคุณ : บ่วยบ๊วย - [ 10 ม.ค. 51 14:37:08 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ภาพท่านหญิงทัศนาวลัย จากคุณ : บ่วยบ๊วย - [ 10 ม.ค. 51 14:37:41 ]

ความคิดเห็นที่ 42 มารออ่านต่อด้วยคนค่ะ จากคุณ : GiRLGeNiuS - [ 10 ม.ค. 51 14:56:38 ]

ความคิดเห็นที่ 43 มานั่งรอด้วยคนค่ะ จากคุณ : บัวผันภรรยาบัวลอย - [ 10 ม.ค. 51 15:45:21 ]

ความคิดเห็นที่ 44 vote ค่ะ จากคุณ : i-tim (i-tim) - [ 10 ม.ค. 51 17:52:56 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณนะคะ สำหรับกระทู้ดีๆ จากคุณ : อาซิ่ม - [ 10 ม.ค. 51 19:08:11 ]

ความคิดเห็นที่ 46 คห 39 คุณบ่วยบ๊วยตะ เด็กชายที่แก้มกลมๆ นอนหนุนตักสมเด็จพระพี่นาง ใช่ในหลวงหรือเปล่าคะ แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 51 20:30:55 จากคุณ : :) (พอดีเลย) - [ 10 ม.ค. 51 20:30:19 ]

ความคิดเห็นที่ 47 มาปูเสื่อรออ่านต่อด้วยคนค่ะ จากคุณ : วนัสนันท์ - [ 11 ม.ค. 51 01:31:34 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณ คุณบ่วยบ๊วย มากค่ะ ที่นำมาให้อ่าน มาขอปูเสื่อนั่งรอด้วยอีกคน จากคุณ : เกิดมาใจดำ - [ 11 ม.ค. 51 02:09:47 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณมากค่ะ แต่อ่านตอนต้นๆ แล้วหงุดหงิดคนสัมภาษณ์  ไม่เตรียมตัวไปเล้ย จากคุณ : ยาควัน - [ 11 ม.ค. 51 13:02:54 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : Baton - [ 11 ม.ค. 51 14:19:49 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณ คุณ จขกท มากค่ะ ที่นำเรื่องราวดีๆมาให้อ่าน จากคุณ : @# k[A]tty #@ - [ 11 ม.ค. 51 16:26:56 ]

ความคิดเห็นที่ 52 พระกรณียกิจหนึ่งของใต้ฝ่าพระบาทคือการเสด็จต่างประเทศทรงมีเกณฑ์อย่างไรเพคะ  ในการเลือกประเทศที่จะเสด็จ “ฉันไม่เลือกหรอก  แล้วแต่เขาเชิญ  บางอันเลือกที่อยากไปก็ไป  เหมือนเขมรนี่เขาไม่ได้มาเชิญหรอก  แต่อยากไป” คณะที่ตามเสด็จเขาต้องออกสตางค์เองหรือเพคะ “ต้องออกเอง  ก็แล้วแต่  มีบางคนไม่ต้องออก  แต่โดยมาฉันมีเพื่อนเป็นเศรษฐี (ทรงพระสรวล)   เขาออกได้เขาก็ออก  มีบางคนออกไม่ได้  หรือที่ไปทำงานให้ฉันจริงๆ  แล้วก็มีข้าหลวงน่ะแน่นอน” ทุกครั้งที่ได้ดูข่าวพระราชกรณียกิจที่เสด็จต่างประเทศของใต้ฝ่าพระบาท  รู้สึกจะสนุกและได้ความรู้มาก  ผู้ใดเป็นผู้ทำถวายเพคะ “ฉันทำเอง” ทรงมีวิธีทำอย่างไรเพคะ  จึงได้ชวนติดตาม “วิธีทำของฉันแตกต่างจากคนอื่นข้อหนึ่ง  อย่างเวลาเจ้านายทุกพระองค์เสด็จต่างประเทศ  จะมีข่าวส่งผ่านดาวเทียมมากรุงเทพฯ    นักข่าวก็จะเขียนข่าวส่งมาเป็นแฟ็กซ์  2  อันนี้ก็มาประกอบเข้าด้วยกันที่กรุงเทพฯทันทีวันนั้นหรือวันรุ่งขึ้น  โดยคนที่ไม่รู้จักประเทศนั้นหรือไม่เคยไปประเทศนั้นเลยก็มี  ดู 2 อันควรจะเป็นอย่างนี้ๆก็ใส่เข้าไป บางทีก็ไม่ตรง  แล้วบางทีก็เขียนซะหรูหรา ประวัติศาสตร์เต็มที่  แต่มันไม่เข้ากับภาพที่ออกมา ...แต่ของฉัน  ฉันไม่ให้ส่ง  มีเหมือนกันที่ออฟเฟอร์ว่าจะส่งดาวเทียมไหม  ฉันบอกว่าไม่เอา  ฉันใส่กระป๋องนะ  คือให้ถ่ายไว้ให้หมด ...แล้ววิธีถ่ายของฉัน  ฉันต้องเคี่ยวเข็ญด้วยว่า  ต้องถ่ายอย่างนั้นอย่างนี้  คือถ้าไปดูสถานที่อันหนึ่ง  อย่างเป็นโบสถ์อันหนึ่ง  หรือเป็นปราสาทอันหนึ่ง  เป็นสถาปัตยกรรมหรืออะไรก็ตาม  กว่าจะได้ตามต้องการ  ก็เพิ่งมาได้อันสุดท้ายนี่ ...เพราะพอไปถึงเขาก็วิ่งไปถ่ายอะไรที่เขาชอบ   ถ่ายดอกไม้  ถ่ายอะไรก็ตามนะ  แล้วอันนี้ก่อน  อันนั้นก่อน ฉันบอกว่าไม่ได้  พยายามอยู่กับฉันหน่อย   เพราะฉันอยู่ติดกับคนอธิบาย ...วิธีถ่ายของฉัน  ถ้าเป็นปราสาท  ถ้าถ่ายได้จากตรงนี้  ก็ถ่ายไปให้เห็นทั้งหมด  ว่ารูปร่างเป็นอย่างไร  ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร  เก็บเอาไว้  แล้วไปอยู่ไกลๆ  แต่ต้องเห็นทั้งหมด ...เพราะคนที่เขียนทีหลัง  หรือคนที่ดูก็เถอะ  พอพูดถึง  อ้า  !  หน้าตาเป็นอย่างนี้  พอถ่ายทั้งอันได้แล้ว  ถึงไกลแค่ไหนก็ต้องพยายามไปถ่ายจากไกลๆให้เห็น ...เสร็จแล้วก็ถ่ายทางเข้า บางทีทางเข้าไม่เหมือนกัน  ถ่ายทางเข้าเสร็จแล้วเธอจะไปถ่ายอะไรก็ตามใจ   เราหาได้ทีหลัง  แต่ 2 อย่างนี้ฉันบังคับ ...แต่ไม่เป็นอย่างนั้น  คนบรรยาย  ก็บรรยายไว้ยาว  โดยมากของฉัน  เวลาฉันไปแสดงปาฐกถา  ฉันจะเตรียมรูป สไลด์ก่อน  แล้วบรรยายตามภาพ  ฉันชินกับรูปก่อนแล้วคำบรรยาย ...แต่นักข่าวเขาต้องบรรยายก่อนแล้วหารูปมาใส่ทีหลัง  ฉันก็เกือบแย่ ทะเลาะกัน (ทรงพระสรวล)  ฉันก็ต้องยอมเขา  เขาต้องทำอย่างนั้นก็ได้  ไม่เป็นไร  เราก็ต้องมาเขียน  เดี๋ยวจะอธิบายว่าเขียนยังไง ...บางทีก็เขียน  เขาก็พูดมาก  แล้วนักข่าวคนนี้บางทีเขาถ่ายข้างในก่อน  แล้วเขาไปฉายข้างในก่อน  ว่าอย่างนั้นอย่างนี้  เสร็จแล้วถึงมาดูทางเข้า  ฉันบอกอย่างนี้ไม่ไหว ใช้ไม่ได้ ...คนนี้มาทำด้วยกันทะเลาะกันไปฉันบอกคราวหน้าฉันไม่เอาเธอไปด้วย  แล้วตั้งใจจะไปเวียดนามเดือนธันวา  พอดีแม่ป่วยเลยไปไม่ได้ ...เสร็จแล้วฉันเลยไปเดือนกุมภาปีหน้า   ตอนนั้นฉันหายโกธรแล้ว  เลยบอกเธอไปเถอะ (ทรงพระสรวล) จากคุณ : บ่วยบ๊วย - [ 11 ม.ค. 51 17:15:07 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบพระคุณ คุณบ่วยบ๊วย มากค่ะ ที่นำสิ่งดีๆมาให้อ่าน จากคุณ : โตมิโต กูโชว์ดะ - [ 11 ม.ค. 51 20:39:40 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ดีใจ คุณบ่วยบ๊วยเข้ามาพิมพ์ต่อแล้ว ขอบคุณมากค่ะ ขออนุญาตรออ่านต่อนะคะ จากคุณ : YellowTiburon - [ 11 ม.ค. 51 22:22:57 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณครับ อ่านเพลินมากๆ จากคุณ : popodyssey - [ 11 ม.ค. 51 22:58:19 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขออนุญาตมารออ่านเหมือนักนครับ จากคุณ : กริชครับผม - [ 11 ม.ค. 51 23:32:10 ]

ความคิดเห็นที่ 57 มารออ่านต่อค่ะ ขอบคุณ จขกท.อีกครั้งนะคะ อีกโหวตด้วยค่ะ จากคุณ : xbeai - [ 12 ม.ค. 51 00:04:54 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เข้ามาอ่านด้วยคนครับ จากคุณ : กระเทืองแก่ (Mascagni) - [ 12 ม.ค. 51 09:03:47 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณ จขกท ที่นำมาให้ได้อ่านครับ จากคุณ : คุณชายกบ - [ 12 ม.ค. 51 11:48:32 ]

ความคิดเห็นที่ 60 รายได้จากการจำหน่ายหนังสือเป็นของใครเพคะ “เป็นของการกุศล  แต่กว่าจะได้นะ ฉันลงทุนไปก่อน” มีคนบอกว่าหาซื้อหนังสือพระนิพนธ์ของใต้ฝ่าพระบาทยากนะเพคะ “ใช่  ตอนนี้มี  3  แห่งที่หาซื้อได้ คือที่นี่ (วังเลอดีส)  ง่ายหน่อยก็ที่สายใจไทย  และศูนย์หนังสือจุฬาฯ  คนที่ขายของเราคือจงรัก (ข้าหลวง)  เขาไม่ยอมส่งตามร้านเลย  เพราะกว่าจะตามได้  2  ปี  3  ปี  แล้วคิด  25  เปอร์เซ็น เขาเลยไม่ยอม  (ทรงพระสรวล)” บรรณาธิการจึงกราบทูลว่า “ทรงฝากทางนิตยสาร ‘พลอยแกมเพชร’ ขายได้นะเพคะ” “คิดกี่เปอร์เซ็น” (ทรงพระสรวล) “ไม่คิดเพคะ  แต่สำหรับค่าส่ง” “ค่าส่งไม่เป็นไร  อันนี้เข้าใจ  อย่างบางทีถ้ามีคนธนาณัติมา  เราก็ส่งหนังสือไปให้  แต่ต้องส่งสตางค์มาก่อน  เราจะไม่ส่งหนังสือมาให้ก่อน (ทรงพระสรวล)   “เราขายให้ได้เพคะ” “ได้สตางค์เร็วไหม  (ทรงพระสรวล) “รับหนังสือไปแล้วจ่ายสตางค์ทันทีเพคะ” สมเด็จพระพี่นางฯ  แย้มพระสรวลอย่างพอพระทัย “เดี๋ยวพูดกับเจ้าหน้าที่เขา  เพราะนี่ลำบากอย่างนี้  ถึงได้ขายได้แค่ 3 แห่งเท่านั้น” “เมื่อก่อนมีลูกเป็นเอเย่นต์ใหญ่  แต่พอลูกไปอยู่สวิสเลยหยุด” ท่านผู้หญิงทัศนาวลัยออกตัว “ใช่ๆ คนนี้  แต่นี่เป็นเอเย่นต์ที่ขายข้างนอก” ท่านผู้หญิงทัศนาวลัยเล่าวิธีการจำหน่ายหนังสือว่า “จะเป็นเอเย่นต์แบบนี้  อยู่ในท้ายรถเลย  ใครจะเอาอะไรนี่  ท้ายรถมีเลย  บางทีไปขายก็ไปด้วย  ไปส่งตามที่ต่างๆ  แต่ตอนหลังเก็บเงินยากเลยไม่เอา” “เอเย่นต์คนนี้ดีมาก  ถ้าเขาเอาไป  100  เล่ม  เขาก็จ่ายเลย  เสร็จแล้วสตางค์ไม่ได้มา  เพราะจ่ายไปก่อน  แล้วขาดทุน  (ทรงพระสรวล) แต่ท่านผู้หญิงทัศนาวลัยก็ยอมขาดทุน “บางคนเขาเอาไปขายต่อ  เขาก็ขอหักเปอร์เซ็นต์  คนนี้ขาดทุน “ทำหนังสือมีดีอย่างเดียว  ถ้ามีคนพิมพ์ให้  เหมือน ‘เจ้านายเล็กๆ’ พิมพ์โดยทหารบกทีหนึ่ง  ขายได้ก็ถวายพระเจ้าอยู่หัว  ภายใน 2 เดือน ได้  9  ล้าน ...หรือกองทัพเรือ  พิมพ์ ‘เจ้าฟ้าทหารเรือ’ ให้  เขาออกค่าใช้จ่ายให้หมดเลย ...แต่หนังสือท่องเที่ยว  ออกไป  กว่าจะเก็บเงินได้  หรือกว่าจะคุ้ม  หรือการกุศลกว่าจะถึง” ใต้ฝ่าพระบาทไม่ทรงลงโฆษณาบ้างละเพคะ “(แย้มพระโอษฐ์)  ก็มาทำสิ  จะให้หนังสือไปเล่มหนึ่ง  ทำเขียนเองแล้วให้แอพพรูฟก่อน” “ลูกไปโทรศัพท์บอกยายหน่อยดีไหม (หมายถึงสมเด็จพระศรีนครินทร์ฯ)  แต่เมื่อวานแม่ก็บอกยายไปแล้วนะ  ว่าวันนี้อาจะถึง 3 ทุ่ม  ท่านยังบอกว่าไม่เป็นไร  บางที 4 ทุ่ม  ยังได้” ท่านผู้หญิงทัศนาวลัยยังคงทูลถามคำถามเดิมว่า “แม่จะให้ลูกไปแทนไหม” “ไม่ต้องหรอก  เพราะพรุ่งนี้ลูกอยากอยู่บ้านไม่ใช่เหรอ  ไปโทรศัพท์บอกหน่อยดีกว่า” ท่านผู้หญิงทัศนาวลัยจึงลุกออกไป จากคุณ : บ่วยบ๊วย - [ 12 ม.ค. 51 11:51:41 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เข้ามาชื่นชมพระบารมี และรออ่านนะคะ ขอบคุณอีกครั้งที่นำมาให้อ่านกัน จากคุณ : ตั้งเพ็กเง็ก - [ 12 ม.ค. 51 13:49:29 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ตามมาอ่านต่อค่ะ จากคุณ : biebie999 - [ 12 ม.ค. 51 15:49:09 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ขอบคุณมากคับ จากคุณ : นายคัน - [ 12 ม.ค. 51 18:35:04 ]

ความคิดเห็นที่ 64 มารออ่านต่ออีกค่ะ จากคุณ : xbeai - [ 12 ม.ค. 51 20:28:07 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ขอบคุณมากค่ะ คุณบ่วยบ๊วย  จะมารออ่านต่อนะคะ จากคุณ : yaam - [ 12 ม.ค. 51 23:09:52 ]

ความคิดเห็นที่ 66 รออ่านต่อนะคับบบ จากคุณ : Hottest - [ 12 ม.ค. 51 23:37:37 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ขอขอบคุณน่ะค่ะ    มารออ่านต่อค่ะ แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 51 23:46:09 จากคุณ : แทนทาลัม - [ 12 ม.ค. 51 23:45:31 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ขอบคุณค่ะ เคยเข้าเฝ้าครั้งหนึ่งค่ะ พระองค์ท่านทรงเปี่ยมไปด้วยพระเมตตาค่ะ จากคุณ : SweetPolarBear - [ 13 ม.ค. 51 01:47:29 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ชอบวิธีการที่ท่านเตรียมพระองค์ก่อนเสด็จประพาสจังเลยค่ะ เสด็จไปถึงที่ไหน ท่านทรงได้รายละเอียดทุกด้านจริงๆ ขอบคุณ คุณบ่วยบ๊วยนะคะ จากคุณ : นางกอแบกเป้ - [ 13 ม.ค. 51 07:26:16 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ชื่นชอบความเป็นเจ้านายที่น่าเคารพนับถือ ทรงทำคุณประโยชน์โดยตั้งพระทัยแน่วแน่ แม้จะเหนื่อยยากเกินกว่าที่เจ้านายจะต้องทรงมาลำบาก ท่านก็ทรงทำอย่างมุ่งมั่น ชอบสรรพนามที่ทรงใช้ในครอบครัว ฟังแล้วอบอุ่น ไม่มียศมีศักดิ์มาเป็นเครื่องกีดขวาง คงไม่สามารถลืมพระองค์ได้จริง ๆ ทุกวันนี้ภาพของสมเด็จย่าก็ยังแจ่มชัดอยู่ในจิตใจ แม้ว่าพระองค์จะจากไปนานแล้ว และสำหรับสมเด็จพระพี่นางพระองค์นี้ก็คงจะเป็นเช่นเดียวกัน พระองค์คงสถิต ณ สวรรคาลัยแล้วในเวลานี้ แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 51 08:24:21 จากคุณ : วี (Valar) - [ 13 ม.ค. 51 08:23:21 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ผมนึกขำตอนที่ท่านตรัสถึงเรื่องการเข้าออกลิฟท์ ดูจะเป็นกันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเลยแฮะ ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพในปัจจุบันหน่อย ก็คงเป็นการเข้าออกรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดิน แต่ละคนจะเดินเข้าท่าเดียว ไม่ยอมให้คนเดินออก อ้อ ผมชอบสรรพนามที่ท่านใช้เรียกกันเองจังครับ ดูแล้วอบอุ่นดี ว่าแต่บทสัมภาษณ์จบแล้วหรือครับ หรือว่ายังมีต่ออีก จากคุณ : เมื่อวันฟ้าหม่น - [ 13 ม.ค. 51 08:56:21 ]

ความคิดเห็นที่ 72 มีความสุขครับ จากคุณ : k.seng - [ 13 ม.ค. 51 16:25:31 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ขอพระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย ขอขอบคุณเจ้าขอกกระทู้ที่นำมาให้อ่านค่ะ จากคุณ : กอหญ้าพาฝัน - [ 13 ม.ค. 51 20:15:45 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : Esprite - [ 13 ม.ค. 51 21:15:52 ]

ความคิดเห็นที่ 75 รอคุณบ่วยบ๊วยมาพิมพ์ต่อนะคะ จากคุณ : ศรีธนา - [ 14 ม.ค. 51 05:02:57 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ขอบพระคุณครับ ติดตามและเป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : กัมม์ - [ 14 ม.ค. 51 07:44:49 ]

ความคิดเห็นที่ 77 พิมพ์ไม่ทันคนอ่านเลยคะ  แต่ก็จะพยายาม  ขอบคุณทุกท่านที่ได้ติดตาม จากคุณ : บ่วยบ๊วย - [ 14 ม.ค. 51 09:08:30 ]

ความคิดเห็นที่ 78 เวลาใต้ฝ่าพระบาทเสด็จไหน  ทำไมมีรถตำรวจตามหลัง  แทนที่จะนำหน้าหละเพคะ “ก็รำคาญ  ให้เขาไปด้วยอย่างนั้นแหละ  แต่เวลานี้ไปกลางคืนแล้วกลับไปศิริราชนี่ให้เขานำ  หรือเวลารถติด  แต่ถ้าเฉยๆ  เขาก็ขับตามไป  แต่เดี๋ยวนี้ก็เกือบจะติดตลอดเวลาแล้ว  (ทรงพระสรวล) ...ก่อนนี้ไม่ติดก็ไปเป็นประชาชนธรรมดา  แต่เวลามีอะไรฉุกเฉินหรือเวลามีงาน  ก็เริ่มไปอย่างนี้ก่อน  พอติดมากๆ  ก็เอ้า...นำไป” จากคุณ : บ่วยบ๊วย - [ 14 ม.ค. 51 09:09:30 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ถ้าใครสนใจเรื่องราวของ 'สมเด็จพระพันวัสสาฯ' หรือเรียกง่ายๆว่าสมเด็จย่าของในหลวง และสมเด็จพระพี่นางเธอฯ' กรุณาคลิ๊กไปที่กระทู้นี้ จะได้ทราบถึงประวัติ และเรื่องราวของท่าน กับหลานๆทั้ง 3 พระองค์  อันเป็นที่รักยิ่ง... ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นยิ่งนัก อยากให้ทุกท่านได้ทราบกัน http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6224167/K6224167.html จากคุณ : บ่วยบ๊วย - [ 14 ม.ค. 51 09:17:26 ]

ความคิดเห็นที่ 80 อ่านไปยิ้มไป  มีความสุขจังเลยยยยยย เราก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบดูข่าวพระราชสำนัก  เวลาพระองค์ท่านเสด็จไปตามที่ต่างๆ  สนุกและได้ความรู้มากมายเลยค่ะ จากคุณ : ยาควัน (ยาควัน) - [ 14 ม.ค. 51 09:57:10 ]

ความคิดเห็นที่ 81 รู้สึกดีจังที่ได้มาอ่าน จากคุณ : MiKi (Sichon) - [ 14 ม.ค. 51 11:13:03 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เป็นกระทู้ที่อ่านแล้วแช่มชื่นหัวใจค่ะ ขอบคุณคุณบ่วยบ๊วยที่เอามาแบ่งปันนะคะ จากคุณ : little kitty - [ 14 ม.ค. 51 11:16:46 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ครบ  50  ปี  ใต้ฝ่าพระบาท  ได้ทรงเตรียมทำสิ่งใดทูลเกล้าฯถวายหรือไม่เพคะ “ไม่เตรียมอะไรเลย  คนอื่นเตรียมของเยอะมากแล้ว  เราก็จะไปนั่งในงานเท่านั่นแหละ (ทรงพระสรวล) ...คือฉันทำอะไรบางทีกะทันหัน  คือคิดอยากทำอะไร  ไม่ตัดสิน ...เหมือนวันเกิดฉันคราวนี้  ไม่มีใครทำหนังสือให้  มาคิด  เอ๊ะ !  ตายก็ไม่มีหนังสือแจกสิ  ทำยังไงดี  เลยตัดสินใจเมื่อซักอาทิตย์หนึ่งนี่เอง  ว่าจะทำ ...เวลานี้ฉันลำบากมาก  วันที่  24  นี้ต้องส่งเขา  แต่คิดว่าเป็นหนังสือที่ทำไม่ยาก  แต่ที่ว่าไม่ยากนี่บางทีออกมายากที่สุด ...ไม่รู้เคยเห็นหนังสือ ‘ไปรษนียบัตรเจ้าฟ้า’ ไหม  อันนั้นดูเหมือนง่ายที่สุดเอาโปสการ์ดมาวางเรียงๆกัน  แต่ยากที่สุด  เพราะต้องเอามารีเสิร์ชอีก  ฉันอธิบายไว้ด้วยว่ายากยังไง  ถ้าอ่านดีๆในคำนำ  ต้องรีเสิร์ชหมด  เพราะบางทีใส่ผิด  เวลานี้ยังผิดอยู่หนังสือเล่มหนึ่ง  เพราะฉันต้องการให้ถูกเปี๊ยบเลย ...แล้วฉันต้องไปสืบประวัติอะไรต่างๆของท่าน  ที่นึกว่ารู้ดีมาอีก  ต้องไปค้นไปอ่านทุกอย่างที่เกี่ยวกับสมัยนั้น  ก็ได้มาเยอะ  ที่เขียนสั้นๆแค่นั้นนะ  แทบตายกว่าจะได้พารากราฟหนึ่ง  หนังสือเล่มนั้นหนะที่เหมือนง่ายที่สุด  แต่ยากที่สุดเท่าที่ทำมา จากคุณ : บ่วยบ๊วย - [ 14 ม.ค. 51 11:45:27 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ขอบคุณมากค่ะ มารออ่านต่อนะคะ จากคุณ : xbeai - [ 14 ม.ค. 51 12:51:35 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ตอบ ค.คิดเห็นที่ 46 เป็นรัชกาลที่ 8 ค่ะ พอดีพึ่งดูจาก หนังสือยุวกษัตริย์ค่ะ จากคุณ : พิมลวรรณ (PmwW2) - [ 14 ม.ค. 51 15:14:51 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เข้ามาโหวตและลงชื่อรออ่านอีกรอบค่ะ... คุณเจ้าของกระทู้สู้ๆ อย่าพึ่งหมดแรงพิมพ์นะคะ จากคุณ : วนัสนันท์ - [ 14 ม.ค. 51 17:32:47 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ^ ^ เข้ามาให้กำลังใจคุณจขกท.เหมือนกันค่ะ ขอบคุณที่อุตสาห์เสียเวลามาแบ่งปันสิ่งดีๆให้แก่กัน จากคุณ : aS-tiMe-gOEs-bY (aStiMegOEsbY) - [ 14 ม.ค. 51 19:04:28 ]

ความคิดเห็นที่ 88 เข้ามารออ่านทุกวันค่ะ จากคุณ : negnew - [ 15 ม.ค. 51 03:01:06 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ขอบคุณ คุณบ่วยบ๊วยมากครับ อ่าน คห.๕๒ ทำให้รู้เบื้องหลังข่าวเสด็จเยือนต่างประเทศ ว่าทำไมถึงออกมาดีอย่างนี้ จากคุณ : NickyNick - [ 15 ม.ค. 51 09:15:33 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ขอบคุณมากครับ เชิญชมวีดีโอเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ชุดภาพประกอบเพลง แสงหนึ่งคือรุ้งงาม  ได้ที่ http://thaniyo.brinkster.net/t078.html จากคุณ : ไชยมงคล - [ 15 ม.ค. 51 13:01:00 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ขอบคุณคุณบ่วยบ๊วยมากค่ะ ที่นำมาให้อ่านกัน จากคุณ : Metronome - [ 15 ม.ค. 51 14:39:24 ]

ความคิดเห็นที่ 92 เข้ามาอ่านอยู่เสมอค่ะ ขอบคุณคุณบ่วยบ๊วยมากนะคะ จะคอยตามอ่านอีกค่ะ จากคุณ : นิค่ะ (นิค่ะ) - [ 15 ม.ค. 51 21:38:51 ]

ความคิดเห็นที่ 93 อย่าเพิงเบื่อพิมพ์ซะก่อนนะครับ จากคุณ : กริชครับผม - [ 15 ม.ค. 51 21:42:27 ]

ความคิดเห็นที่ 94 เคยมีหนังสือเล่มนี้ค่ะ แต่เพื่อนยืมไป แล้วหายไปเลย เสียดายสุดๆ จากคุณ : Pyramid - [ วันครูแห่งชาติ 15:38:32 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ขอบคุณ จขกท มากๆ ค่ะ จะตามอ่านทุกวันเลยค่ะ จากคุณ : KoN_mAi_Pi_SaTe - [ วันครูแห่งชาติ 16:14:40 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ตามมาอ่านเป็นรอบที่ 3 แล้วค่ะ... จะรออ่านต่อนะคะ ... ขอบคุณค่ะ จากคุณ : pounggati - [ วันครูแห่งชาติ 21:49:09 ]

ความคิดเห็นที่ 97 อ่านรอบที่ 3 เช่นกันค่ะ ขอบคุณจขกท.นะค่ะ จากคุณ : ลูกสาวคนที่สาม - [ 17 ม.ค. 51 00:49:29 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ขอพระราชทานกราบทูลถามคำถามสุดท้าย  ว่าใต้ฝ่าพระบาททรงคิดว่า  สิ่งใดจะเพิ่มเติมความสุขให้กับพระองค์บ้างในตอนนี้ “ขอเวลาทำหนังสือมากขึ้น  เพราะฉันชอบทำหนังสือ  ชอบไปเที่ยว  ชอบมาก  แต่ทั้ง  2  อย่างที่ฉันว่านั่นแหละคือมีทั้งความสุข  แล้วก็ความทุกข์  ไปทำวีดีโอเหนื่อย  ทำหนังสือก็เหนื่อย  แต่ออกมาแล้วก็สวยดี” จากคุณ : บ่วยบ๊วย - [ 17 ม.ค. 51 15:51:56 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ก่อนใต้ฝ่าพระบาทจะเสด็จไปเฝ้าสมเด็จพระศรีฯที่โรงพยาบาลศิริราชข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระอนุญาตชมห้องทรงงานที่นี่ได้หรือไม่เพคะ “ไปสิ  ไปด้วยกัน  ไปดูสิ  เดินเกือบไม่ได้  ในห้องเมื่อก่อนเป็นที่ประชุมแต่เวลานี้ไม่มีที่ให้คนนั่งประชุมแล้ว เพราะทั้งบนโต๊ะ  ตามชั้นหนังสือลุกลามไปจนถึงพื้น  เต็มไปด้วยหนังสือนานาประเภท  แต่ก็เป็นระเบียบเรียบร้อยไม่รกอย่างงที่รับสั่งไว้สักนิด การสัมภาษณ์ครั้งนี้เสร็จสิ้นลงเมื่อเวลา  21.00 นาฬิกา พอดี จากคุณ : บ่วยบ๊วย - [ 17 ม.ค. 51 16:01:01 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ขอบคุณนะคะ มารอชมทุกวันเลยค่ะ จากคุณ : ตั้งเพ็กเง็ก - [ 17 ม.ค. 51 23:36:17 ]

ความคิดเห็นที่ 101 บทสัมภาษณ์ท่านหญิงทัศนาวลัย (คัดมาบางส่วน) “เมื่อเด็กๆ  ตอนอยู่โรงเรียนมาแตร์ฯ   มีการบ้านกลับมาทำ  แม่จะสอนลูก  แต่ลูกจะรู้สึกไม่ค่อยสนุกนัก (หัวเราะ) ...แต่อย่างบางทีทำวาดเขียน  ท่านมาช่วยวาด  พอออกมาแล้วเราไม่ค่อยชอบใจนิดหน่อย  แต่ก็ถือได้ว่าช่วยกันทำ (หัวเราะ)  ตอนอยู่สวิส  โตหน่อย ค่อยสอนกันได้” จากคุณ : บ่วยบ๊วย - [ 18 ม.ค. 51 10:00:01 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ....ใครๆคิดว่าเราห่างเหิน  ไม่ค่อยได้เจอกัน  เพราะเวลาที่ท่านเสด็จไปงาน  เราก็ไม่ค่อยได้ไปด้วย ...แต่ท่านมีอะไร   พูดกับใครไม่ได้  ท่านก็มาคุยด้วย  พูดอะไรต่ออะไรให้ลูกฟัง  ปรึกษาหารือกัน ...เราทูลท่านว่า  หากมีงาน  เช่นงานที่เกี่ยวข้องกับวัดหรือเป็นงานศพ  ก็อาสาสมัครเป็นข้าหลวงตามเสด็จ  เพราะไม่ค่อยมีใครอยากไปงานอย่างนั้น ...ทูลท่านเสมอ  ว่าจะให้ไปทำอะไร  ที่ไหน  ได้ทันที  งานอื่นทิ้งได้  แม่ต้องมาก่อน ...แต่ถ้าหากว่าท่านมีคนเยอะแล้ว  ท่านไม่ว้าเหว่แล้ว  เราก็ขอตัว ...เลยไม่ค่อยจะได้เห็นว่าเราไปไหนด้วยกัน ...โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  สมเด็จยายประชวร  ก็จะไม่มีทางเห็นว่าไปไหนด้วยกันได้  เพราะเราสลับกันไปเฝ้าอาการประชวรสมเด็จยายค่ะ” จากคุณ : บ่วยบ๊วย - [ 18 ม.ค. 51 10:08:19 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ขอบคุณคุณบ่อยบ๊วยมากครับผม จากคุณ : กริชครับผม - [ 19 ม.ค. 51 10:46:20 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ขอบคุณเจ้าของกระทู้มาก ๆ ค่ะ จากคุณ : by request - [ 19 ม.ค. 51 18:43:19 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ขอบคุณ เจ้าของกระทู้มากๆ เลย ค่ะ มีน้ำใจ มากๆ ที่นำมา แบ่งปันกันอ่าน จากคุณ : นู๋_ดุ๊ก - [ 19 ม.ค. 51 19:56:15 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ขอบคุณเจ้าของกระทู้ ที่ช่วยแบ่งปันสิ่งดีมาก ๆ ให้อ่านครับ จากคุณ : daphuma (daphuma) - [ 20 ม.ค. 51 00:17:33 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ขอบคุณเรื่อราวดีๆ ที่แบ่งปันให้ชาวพันทิปได้รับทราบครับ จากคุณ : เช็งซิมอี๊ - [ 20 ม.ค. 51 10:14:24 ]

ความคิดเห็นที่ 108 มีอีกมั้ยคะ  เอาอีกๆ จากคุณ : ยาควัน - [ 20 ม.ค. 51 15:21:26 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ซาบซึ้งในพระจริยวัตรอันงดงามของพระองค์ท่านครับ ขอบคุณเจ้าของกระทู้มากครับปผม สำหรับบทความยอดเยี่ยม จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 21 ม.ค. 51 13:23:40 ]

ความคิดเห็นที่ 110 เข้ามาชื่นชมเรื่อยๆ นะคะ จากคุณ : ศรีธนา - [ 22 ม.ค. 51 18:33:16 ]

ความคิดเห็นที่ 111 เข้ามาลงชื่อรออ่านด้วยอีกคนค่ะ  ^ ^ ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆที่เอามาให้อ่าน จากคุณ : satiga - [ 23 ม.ค. 51 19:34:53 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : จำปีขี้สงสาร - [ 25 ม.ค. 51 23:19:07 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ขอบพระคุณเจ้าของกระทู้ครับ จากคุณ : karinas - [ 26 ม.ค. 51 18:41:41 ]

ความคิดเห็นที่ 114 ขอ ธ สถิตอยู่ ณ สุขคติภูมิ ด้วยความสงบด้วยเทอญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม จากคุณ : ดวงลดา - [ 28 ม.ค. 51 16:49:03 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ซาบซึ้งในพระจริยาวัตรของพระองค์ท่านครับ ขอทรงเสด็จสู่สรวงสวรรค์ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม จากคุณ : Notto (dedae_sc) - [ 29 ม.ค. 51 21:46:38 ]