ความคิดเห็นที่ 1 คุณยายอิฉันเล่าว่า พระองค์ท่านทรงเป็นผู้มีจริยาวัตรงดงามมากพระองค์หนึ่ง เข้าใจว่า ตอนที่พระองค์ท่านประสูติ ทูลหม่อมพ่อของท่าน ( ร.๔ )ทรงผูกดวงแล้วอาจจะทรงเล็งเห็นอนาคตของพระธิดาพระองค์นี้ พระองค์ท่านจึงทรงพระราชทานพระนามว่า "สว่างวัฒนา" พร้อมทั้งทรงพระราชทานทรัพย์สินส่วนพระองค์ให้จำนวนหนึ่ง ความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของพระองค์คือ เสียพระโอรส สมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศฯ มกุฏราชกุมารองค์แรกของประเทศ อีกทั้ง ต่อมาก็ทรงเสียสละเจ้าฟ้าหญิงวไลยอลงกรณ์ให้กับพระพันปี(พระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี )นำไปเลี้ยงดูดุจพระธิดาของพระองค์เอง ต่อมาก็ทรงเสียพระทัยกับการสวรรคตของพระสวามี ( พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) แล้วจู่ๆวันหนึ่ง ทูลกระหม่อมแดงฯ(พระบรมราชชนก)ก็สิ้นพระชนม์ แม่คนไหนจะไม่เสียใจล่ะคะ เมื่อลูกตายก่อนแม่น่ะค่ะ แต่พระองค์ยังครองพระยศ และ ทรงมีขัตติยมานะอย่างเจ้านายในราชสกุลจวบจนวาระสุดท้ายได้เป็นอย่างดี ตอนจอมพลป. ปฏิวัติวัฒนธรรม"มาลานำไทยให้เจริญ" มีคุณหญิงท่านหนึ่งต้องการเอาใจท่านผู้นำด้วยการอาจเอื้อมไปทูลให้ท่านเป็นผู้นำในการสวมพระมาลา พระองค์ทรงตรัสตอบว่า "หากอยากให้ฉันสวมหมวกละก็ ให้มาตัดเอาหัวฉันไปตั้งเอาไว้ให้คนชม" ลป.เรื่องพระดำรัสนี่ อิฉันจำได้ไม่ค่อยแม่น แต่คนที่มากราบทูล คือ หนึ่งในข้าหลวงเดิมที่สามีมียศศักดิ์ขึ้นมาอย่างรวดเร็วหลังการปฏิวัติ ๒๔๗๕ ซึ่งการกระทำจาบจ้วงนี้ ทำให้พระองค์ท่านเสียพระทัยยิ่ง เพราะความเนรคุณของคน   ปล.อีกครั้งว่า เรื่องคนที่เสนอกับจอมพลป.เรื่องสวมพระมาลานี่ เป็นแบบ พงศาวดารกระซิบน่ะค่ะ กระซิบกันแบบไม่เอ่ยชื่อ จากคุณ : นางกอแบกเป้ - [ 12 ม.ค. 51 08:14:58 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เป็นจริงตามที่คุณ "นางกอแบกเป้" กล่าวไว้ ที่ได้ฟังมาจากหลายทางคือ พระราชโอรส พระราชธิดา พระราชนัดดา พระองค์สำคัญๆ สิ้นพระชนม์ก่อนพระองค์เกือบทั้งหมด จากคุณ : ปรียทรรศิกา - [ 12 ม.ค. 51 09:41:11 ]

ความคิดเห็นที่ 3 โดยส่วนตัว จะชอบอ่านเรื่องที่เกี่ยวกับสมเด็จพระศรีสวรินทราบรมราชเทวี เป็นพิเศษ เพราะชื่นชมในพระจริยวัตรของพระองค์ท่าน ท่านเป็นขัตติยะราชนารี่ที่สมควรได้รับการยกย่องเชิดชูเป็นอย่างมาก ท่านผ่านเหตุการณ์บ้านเมืองมาหลายช่วงพระชนม์ชีพ ทั้งดีและร้าย แต่ท่านก็ยังทรงเข้มแข็ง สถิตย์เป็นที่พึ่งของเหล่าพระประยูรญาติได้มาได้นานมากกว่าท่านใด พระจริยวัตรที่ประหยัดมัธยัศถ์ของพระองค์ท่าน ก็เป็นที่น่ายกย่องสรรเสริญ พระองค์ไม่ทรงโปรดฉลองเพชรนิลจินดาเกินความจำเป็น ท่านมีพระราชทรัพย์มากมาย ส่วนมากเป็นที่สวนไร่นา ซึ่งต่อมาก็มีราคาสูงเทียบเท่าทอง เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ท่านต้องทรงเสียพระทัยเป็นอย่างมาก จากการที่พระโอรสเลี้ยง ที่พระองค์ได้รับการฝากฝังจากพระพุทธเจ้าหลวง ต้องต้องโทษ เคยอ่านว่า ท่านกล่าวว่า ท่านจะไปพบพระพุทธเจ้าหลวงได้อย่างไร ในเมื่อพระโอรสที่ท่านเลี้ยงดูมาประดุจลูก ต้องประสบเคราะห์กรรมต้องโทษ ท่านเสียพระทัยเป็นที่สุด ขนาดหลังจากที่ท่านนั้นพ้นโทษมาแล้ว ไม่กล้าเข้าเฝ้าสมเด็จพระศรีสวริน ด้วยเกรงว่าจะทำให้ท่านทรงเสียพระทัยมากยิ่งขี้น กล่าวถึงด้วยเรื่องความรักภักดีต่อพระขนิษฐา พระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี เมื่อพระสถานะพระราชินีของพระองค์ท่านต้องเปลี่ยนไปเพราะการสิ้นพระชนม์ของพระโอรสเจ้าฟ้าวชิรุณหิศ พระองค์ท่านต้องถูกลดพระฐานะลง พระขนิษฐาซึ่งเป็นพระมารดาขององค์รัชทายาทพระองค์ใหม่ขึ้นเป็นราชินีแทน ท่านก็ทรงทำพระทัยได้ ไม่มีจิตริษยาในโชควาสนาของพระขนิษฐา ให้ความเคารพยกย่องด้วยความจริงใจ ดั่งเป็นที่ประจักษ์ในน้ำพระทัย จะเห็นได้จากการที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าให้ความเคารพสมเด็จป้าเป็นอย่างมาก ทรงไว้วางพระทัยฝากฝังให้ดูแลพระราชธิดาพระองค์เดียวของท่าน เคยได้อ่านว่า พระนางสุวัทนา พระมารดาของเจ้าฟ้าเพชรรัตน์ ได้กล่าวว่า ถ้าไม่ได้สมเด็จพระพันวสา พระราชธิดาก็จะไม่ได้เป็นพระองค์ อ่านแล้วก็ซาบซึ้งในน้ำพระทัยที่กว้างใหญ่ พระเมตตาบารมีที่ประทานแด่พระญาติพระวงศ์ จากคุณ : พนอจัน - [ 12 ม.ค. 51 10:02:09 ]

ความคิดเห็นที่ 4 พระฉายาลักษณ์ทรงฉายพระรูปร่วมกับพระพี่นาง พระน้องนาง จากคุณ : พนอจัน - [ 12 ม.ค. 51 10:17:57 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อยังทรงพระเยาว์ จากคุณ : พนอจัน - [ 12 ม.ค. 51 10:22:00 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อ่าน พระราชประวัติแล้วน้ำตาซึมได้หลายรอบเหมือนกันครับ โดยเฉพาะช่วงปลายพระชนชีพ ช่วง พระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ พระโอรสบุญธรรมถูกจับ ช่วงนั้นน่าสงสารพระองค์ท่านอย่างที่สุด ครับ จากคุณ : ฟ้าสีคราม (wenxuan1983) - [ 12 ม.ค. 51 13:39:13 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เพิ่งเข้าไปอ่านเรือนไทย วิชาการ ไปพบข้อความเกี่ยวกับพระพันวสาพอดี ท่านที่ต้องโทษคือ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร เป็นพระบิดาของพระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ พระสวามีของมจ.วิภาวดี รังสิต จากคุณ : พนอจัน - [ 12 ม.ค. 51 13:58:26 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ทรงมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการขึ้นครองราชย์ของ ร.8 ว่า "ทำกรรมให้กับเด็ก  เพราะลูกแดง (หมายถึงสมเด็จพระบรมชนก) ไม่ได้มุ่งหวังที่จะให้ลูกเป็นพระเจ้าแผ่นดิน  อยากให้หัดเป็นคนธรรมดา  พลเมืองช่วยบ้านเมือง" จากคุณ : บ่วยบ๊วย - [ 12 ม.ค. 51 14:04:50 ]

ความคิดเห็นที่ 9 จำได้เหมือนกับว่าพระิองค์ท่านต้องทรงออกเงินในการก่อสร้างพระเมรุของสมเด็จฯ เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ด้วยนี่ครับ เพราะรัฐบาลยุคนั้นอ้างว่าไม่มีเงินพอ แต่จำไม่ได้ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดน่ะครับ จากคุณ : Cholesterol Lover - [ 12 ม.ค. 51 14:05:27 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เคยปรารภด้วยความเศร้าสลดพระราชหฤทัยว่า  ต้องพจญกับเหตุการณ์ต่างๆ  อย่างไม่ทรงคาดถึงในบั้นปลายพระชนม์ชีพว่า "ดูใครๆ  ก็ตายกันไปหมด  ได้มีชีวิตยืนอยู่นี่ก็ไม่เห็นมีอะไรจะดี  เปลี่ยนชื่อไป  เปลี่ยนชื่อไป  จนจะจำชื่อตัวเองไม่ได้" จากคุณ : บ่วยบ๊วย - [ 12 ม.ค. 51 14:08:10 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ด้วยความเคารพนะครับ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารังสิตประยุรศักดิ์ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ทรงเป็นพระบิดาของ หม่อมเจ้าชายปิยะรังสิต รังสิต ซึ่งต่อมาหม่อมเจ้าชายปิยะรังสิต ได้ทรงเสกสมรสกับ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต (พระนามเดิมคือหม่อมเจ้าหญิงวิภาวดี รัชนี พระธิดาในพระราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจรัส กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ กับหม่อมเจ้าหญิงพิมลพรรณ วรวรรณ) จากคุณ : คนไกลบ้าน - [ 12 ม.ค. 51 15:08:01 A:69.239.50.242 X: TicketID:165185 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แก้ไขนะครับ ขอประทานโทษด้วย พระนามที่ถูกต้องคือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร จากคุณ : คนไกลบ้าน - [ 12 ม.ค. 51 15:12:48 A:69.239.50.242 X: TicketID:165185 ]

ความคิดเห็นที่ 13 วันที่ ๙ มิถุนายน ๒๔๘๙ อันเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 8  สวรรคต โดยถูกปลงพระชนม์ ก็ตกลงกันที่จะไม่กราบบังคมทูลให้ทรงทราบ  เพราะไม่มีใครทายถูกว่าจะเกิดอะไรขึ้น  ความทุกข์ครั้งสูญเสียสมเด็จพระบรมฯ ก็ดี  ครั้งสูญเสียสมเด็จพระราชโอรสราชธิดาก็ดี มากกว่าหรือน้อยกว่าใครจะประมาณได้  ทุกคนในวังสระปทุม ไม่ไว้ทุกข์ ไม่ร้องไห้ เคยปฏิบัติหน้าที่อย่างไร  ปฏิบัติต่อไปอย่างนั้น  ในเวลาเดียวกันกับที่เชิญพระบรมศพลงพระโกศ สมเด็จฯ  ประทับที่พระเฉลียงทอดพระเนตรท้องฟ้าอยู่ครู่หนึ่งแล้วตรัสขึ้นว่า “วันนี้เป็นอะไรฟ้าเศร้าจริง  นกสักตัว  กาสองตัวก็ไม่มาร้อง  เศร้าเหลือเกิน  ทำไมมันเงียบเชียบไปหมดอย่างนี้ล่ะ” ไม่มีใครกราบบังคมทูลตอบ  ใครทนได้ก็เฝ้าอยู่ต่อไป  ใครเหลือทนก็คลานหนีออกไปเข้าห้องร้องไห้จนสะใจ ดังนั้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน เสด็จมาเฝ้าหลังจากรัชกาลที่ ๘  สวรรคตแล้ว  ก็ต้องมีคนผิดศิลข้อมุสาอยู่คนหนึ่งเสมอ  เพราะทรงสงสัยตรัสถามว่า “หลานฉันสองคนนี่” คำกราบบังคมทูลตอบก็คืออีกพระองค์หนึ่งอยู่ต่างประเทศ จากคุณ : บ่วยบ๊วย - [ 12 ม.ค. 51 15:17:58 ]

ความคิดเห็นที่ 14 หลังจากนั้นมิไยใครจะรับผิดชอบหรือไม่รับผิดชอบในกรณีสวรรคต  มิใยใครจะใส่ใคล้ใครหรือแก้ตัวแทนใคร  ใยใครจะปฏิวัติ  มิใยใครจะรัฐประหาร  มิใยใครจะเป็นรัฐบาล  มิใยใครจะหลบไปอยู่ที่ไหน  สมเด็จฯไม่ทรงรับทราบ  ความลืมที่ต้องพระราชประสงค์คืบคลานเข้ามาทุกระยะ  ความทรงจำเหลืออยู่น้อยมาก  พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 8  ใน พ.ศ. ๒๔๙๓  ก็ไม่ทรงทราบ จากคุณ : บ่วยบ๊วย - [ 12 ม.ค. 51 15:23:02 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขออนุญาตเล่าด้วยครับ เรื่องที่เสด็จในกรมชัยนาทฯ ทรงต้องโทษนี้ ทรงต้องไปประทับที่ห้องขัง สน. พระราชวัง  พอเรื่องทราบถึงสมเด็จพระพันวัสสา สมเด็จถึงขนาดทรงขอร้องจอมพล ป.  ให้นำเสด็จในกรมมาขังอยู่กับพระองค์ที่วังสระปทุม โดยพระองค์ทรงรับประกันด้วยทรัพย์สินทั้งหมดของพระองค์เอง ถึงขนาดทรงบอกว่า "ยอมเป็นขอทาน" แต่ก็ไม่เป็นผล แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 51 15:46:13 แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 51 15:45:21 จากคุณ : นอกราชการ - [ 12 ม.ค. 51 15:44:57 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ทำไมพระองค์ท่านถึงต้องทุกข์พระราชหฤทัยไม่มีที่สิ้นสุดเช่นี้....... อีกทั้งการกระทำของรัฐบาลในสมัยนั้นดูเป็นการหมิ่นพระเกียรติยศของพระองค์ในฐานะพระกุลเชษฐอย่างสูงที่สุด.... จากคุณ : รวีช่วงโชติ - [ 12 ม.ค. 51 20:33:28 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ^ ^ ^ สมัยนั้นเป็นสมัยที่ทุกๆ คนแสดงความรังเกียจบรรดาเจ้านาย น่ะครับ เป็นความต่อเนื่องมาจากกบฏ เอ่อ รัฐประหารสมัย 2475 น่ะครับ รัฐบาลต้องริดรอนอำนาจของพระราชวงศ์เอาไว้ให้มากที่สุด ใครทำอะไรได้ ก็ทำ จะได้เป็นที่ชื่นชอบของผู้มีอำนาจในสมัยนั้น มายุติในสมัยจอมพลสฤษฏ์ ที่พื้นฟูขนบธรรมเนียมประเพณีเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ขึ้นมาใหม่น่ะครับ จากคุณ : กริชครับผม - [ 12 ม.ค. 51 21:54:37 ]

ความคิดเห็นที่ 18 สมเเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า จากคุณ : พนอจัน - [ 12 ม.ค. 51 21:55:58 ]

ความคิดเห็นที่ 19 จอมพล ... ตัวเองเป็นไพร่ แล้วยังมีนิสัยไพร่ๆ ทำกับพระราชวงศ์แบบนี้ ขอให้ตกนรกคะ จากคุณ : Material Girl - [ 13 ม.ค. 51 01:25:51 ]

ความคิดเห็นที่ 20 พระพันวัสสา  ท่านแกร่งมากมาก จากคุณ : tinglee tingamee - [ 13 ม.ค. 51 04:44:35 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ชอบพระฉายาลักษณ์นี้เป็นพิเศษ ท่านทรงรักทั้งสองพระองค์มาก จากคุณ : พนอจัน - [ 13 ม.ค. 51 08:15:39 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อ่านแล้วจะร้องไห้... จากคุณ : โอ้ย...แจ่ม - [ 13 ม.ค. 51 14:59:39 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อ่านมาถึงที่ตรงคห. 16 และ17 แล้วให้เศร้าใจ เมื่อนึกถึงบทสัมภาษณ์ของ ม.ร.ว. ถนัดศรีเรื่องครั้งสมัยรัชกาลที่7ไว้ ที่อ่านเมื่อไหร่รู้สึกเสมอเลยว่า ....อำนาจเป็นของไม่เข้าใครออกใครจริงๆ "พ่ออยากให้เข้าทหาร แต่ในสมัยนั้นเป็นยุคที่เขาแอนตี้เจ้ากันแล้ว สกุลสวัสดิวัตน์ ผู้ใหญ่ในแผ่นดินยุคนั้นถือว่าเป็นผู้มีอิทธิพลให้อยู่ในนี้ไม่ได้ ต้องไปอยู่ข้างนอก เพราะขนาดเสด็จปู่ยังโดนเนรเทศให้ไปสิ้นที่ปีนังเลย ในปี พ.ศ.2484-2485 พวกเราโดนปลดหมดทุกคน ไม่มีใครเหลือ จะเข้า โรงเรียนนายร้อย นายเรือ อะไรไม่ได้ทั้งนั้น เขาไม่รับ ทั้งๆ ที่พ่อเป็นนักเรียนนายร้อยรุ่นเดียวกับจอมพลแปลก พิบูลสงคราม และจอมพลผิน ชุณหะวัณ อย่าลืมว่าสมัยนั้น ปู่ผมเป็นทั้งน้า และพ่อตาของรัชกาลที่ 7" สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าซึ่งเป็นพระเชษฐภคินี ของสมเด็จปู่ของคุณชาย  พระองค์ท่านย่อมได้รับผลกระทบจากเรื่องครั้งนั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นเรื่องที่อ่านเมื่อไร น้ำตาก็รินท่วมใจทุกที แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 51 17:39:44 จากคุณ : ozora - [ 13 ม.ค. 51 17:39:22 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คุณชายคึกฤทธิ์ นำพระจริยาวัตรของสมเด็จพระพันวัสสาฯมาใส่เป็นตัวละครหนึ่งใน"สี่แผ่นดิน"ด้วยครับ ทายสิครับว่าใคร... "เสด็จ" ของแม่พลอยครับ จากคุณ : Shakesple - [ 13 ม.ค. 51 20:02:13 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อ่านเรื่องของท่านครั้งใด น้ำตาไหลทุกที จากคุณ : ลูกสาวคนที่สาม - [ 14 ม.ค. 51 04:07:57 ]

ความคิดเห็นที่ 26 น่าสนใจมากครับ ขออนุญาตเซฟเก็บไว้อ่าน เรื่องแบบนี้คนรุ่นหลังเหลือ รับรู้ได้น้อยเต็มที จากคุณ : พลายแป้ง - [ 14 ม.ค. 51 04:13:28 A:83.219.124.37 X: TicketID:120371 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ทำไมตอนนั้นจึงตัดสินใจที่จะไม่ทูลให้พระองค์ทราบว่าหลานท่าน (ร ๘) สิ้นพระชนม์ จากคุณ : สงสัย - [ 14 ม.ค. 51 07:56:09 A:86.129.144.164 X: TicketID:160086 ]

ความคิดเห็นที่ 28 สาเหตุที่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับพระองค์ท่าน เพราะจำได้ในสมัยเป็นเด็กอายุประมาณสิบขวบ คุณย่าซึ่งเลี้ยงดูมา กล่าวถึงท่านบ่อยมาก คุณย่ามักจะเล่าถึงพระพันวัสสา แต่ด้วยความเป็นเด็กก็ไม่ได้สนใจอะไร รู้แต่เพียงว่าน้าชายของย่าทำงานเกี่ยวกับการตบแต่งเขามอในวังสระปทุม ซึ่งพระพันวัสสาท่านประทับอยู่ ยังรู้สึกเสียดายที่ตอนนั้นไม่ได้ซักถามเรื่องราวเกี่ยวกับพระองค์ท่าน สมัยก่อนย่าจะพูดถึงพันวัสสา พระพันปี เล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเรื่องราวแต่หนหลังให้ฟัง ถ้าคนสมัยก่อนยังมีชีวิตอยู่แล้วออกมาเล่าถ่ายทอดให้คนรุ่นใหม่ฟัง คงดีไม่น้อย แต่ส่วนมากจะเก็บงำ ด้วยคิดว่าเรื่องของเจ้านาย ไม่ควรนำมาพูดในที่สาธารณะ เคยอ่านเรื่องชีวิตเหมือนฝันของคุณหญิงมณี แล้วรู้สึกว่า รัฐบาลสมัยนั้นบีบคั้นราชวงศ์มาก รัชกาลที่๗ ท่านต้องตรอมพระทัย มีเรื่องฟ้องร้องกันระหว่างท่านกับรัฐบาล ซึ่งไม่น่าเกิดขึ้นได้ ถ้าใครมีโอกาสควรไปหามาอ่าน จะทราบประวัติศาตร์หน้าหนึ่งของไทยอย่างลึกซึ้ง เพราะท่านที่มาเล่าเป็นพระสุนิสาที่มีความใกล้ชิดกับพระองค์ท่าน เรื่องนี้เคยตีพิมพ์เป็นตอนๆในหนังสือแพรว จากคุณ : พนอจัน - [ 14 ม.ค. 51 08:15:30 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ตอบคุณคห.๒๗ สาเหตุที่ไม่ทูลให้ท่านทราบ ก็คงคิดกันว่าท่านพระชนมายุสูงมากแล้ว ถ้ามีเหตุให้ต้องเสียพระทัยซ้ำๆหลายครั้ง คงไม่เป็นการดีต่อพระหฤทัยของท่าน ที่ต้องรับทราบแต่การสูญเสีย ท่านผ่านการสูญเสียครั้งแล้วครั้งเล่า จากการพลัดพลาดจากคนที่ท่านรัก ต่างมาจากท่านไปหมด จนท่านตรัสว่า อยากจะลืมให้หมด ไม่อยากจะจดจำสิ่งใด และท่านก็ลืมความหลังครั้งก่อนได้จริงๆ จากคุณ : พนอจัน - [ 14 ม.ค. 51 08:25:08 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ตอนที่ยายของเรายังมีชีวิตอยู่ก็เคยเล่าให้ฟั้งว่า วันที่ ร.8 สิ้นพระชนม์นั้น ฟ้ามืดมัวหม่น ทั้งประเทศมีแต่ความเศร้าสลดอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ฟังแล้วก็เศร้าทั้งๆที่ตอนนั้นเราก็ยังเด็กอยู่มาก จากคุณ : บ่วยบ๊วย - [ 14 ม.ค. 51 09:30:41 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เคยอ่านเล่มนึงครับ ชื่อเรื่องจำไม่ค่อยได้แน่ คิดว่าเป็น "ความทรงจำของสมเด็จพระศรีสวรินทราฯ" มั๊งครับ หนังสือหายาก  อ่านแล้วก็ได้แง่มุมจากด้านของพระราชวงศ์ฝ่ายในที่มีต่อบ้านเมือง คณะราษฎร ปรีดี และก็เรื่องที่เรากำลังพูดถึงอยู่ด้วยครับ ไม่แน่ใจตามห้องสมุดจะยังมีเหลืออยู่หรือเปล่า เศร้ามากๆ ครับ จากคุณ : ciri - [ 14 ม.ค. 51 13:52:24 ]

ความคิดเห็นที่ 32 แล้วภายหลัง หลังจากมีพระราชพิธีในปี 2493 พระองค์ท่านทราบมั๊ยคะว่า รัชกาลที่ 8 ทรงสิ้นพระชนม์แล้ว เศร้าจังค่ะ รู้จักพระนามของท่านตอนที่อ่านเรื่องราวของสมเด็จย่า ยังคิดในใจเลยว่า พระองค์ท่าน "ใจนักเลง" จริงๆ จากคุณ : เงาใบไม้ - [ 14 ม.ค. 51 14:16:09 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ^ ^ ^ ท่านไม่ทรงทราบเลยครับ จากคุณ : นอกราชการ - [ 14 ม.ค. 51 15:27:57 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณค่ะ การไม่รู้ในครั้งนั้น ทำให้พระองค์ท่านเจ็บปวดน้อยลง จากคุณ : เงาใบไม้ - [ 14 ม.ค. 51 15:38:05 ]

ความคิดเห็นที่ 35 สมเด็จพระศรีสวรินทราบรมราชเทวี พระโอรส พระราชธิดา จากคุณ : พนอจัน - [ 14 ม.ค. 51 18:09:58 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เคยอ่านในหนังสือที่ระลึกงานศพของคูณไข่มุกด์ ชูโต เขียนไว้ว่า สมเด็จฯ ท่านได้อธิษฐานขอลืมเรื่องทั้งหมด และก็เป็นจริงอย่างที่ท่านทรงขอ ในเรื่องพระราชพิธีสมรสของรัชกาลปัจจุบันได้เขียนไว้ว่า วันที่เข้าไปขอให้สมเด็จฯท่านรดน้ำให้ วันนั้นเป็นวันที่สมเด็จฯ ท่านทรงระลึกความจำได้ดี เรื่องเศร้าอีกเรื่องของเรา จากคุณ : ตั้งเพ็กเง็ก - [ 14 ม.ค. 51 18:33:17 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ผฟมก็เคยคิดน่ะ  ตอนที่ท่านทรงรดน้ำพระราชทาน ในหลวงองค์ปัจจุปัน  กับ พระราชิยนีองค์ปัจุปันอ่ะ ยังไง ยังไง  ท่านต้องทรงทราบว่า  พระราชนัดดาที่ทรงรดน้ำสมรสให้อยู่นั้นเป็น KING เพราะว่า  เครื่องราช ต่างๆที่ ในหลวงร 9 ท่านใส่อยู่  อาจจะเป็นเฉพาะของ KING อย่างสมเด็จพระพันวัสสา  ท่าน เคยเป็นมา ถึงระดับ QUEEN ที่ออกรับราชวงค์ต่างชาติ  จนกระทั่ง มาเป็น ย่า ของ KING ถึง 2 องค์  ลูกท่านก็ ระดับ เจ้าฟ้า พระบรมโอรสาธิราช  และเจ้าฟ้าชั้นสูง มีเหรอที่ท่านจะไม่ทรงทราบว่า ที่ ในหลวงทรงอยู่นั้น เป็นเครื่องแต่งกาย สำหับ คนที่เป็น KING หรือ ไม่ แถม ท่านคงไม่ทรงเห็น ร 8 ไปด้วย  ยังไงซะท่านต้องทราบ ครับ แต่ท่านเป็น QUEEN ระดับ Grand Dowager แล้ว  ผมว่าท่าน ทรงเลือกที่จะ ไม่พูดถึง เพื่อไม่ให้คนในงาน  ไม่สบายใจ Grand Dowager ผมคิดเองว่าน่าใช่ คือทรง เป็น ย่าของ king และทรงเคยเป็น QUEEN ด้วย จากคุณ : tinglee tingamee - [ 15 ม.ค. 51 05:44:27 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เอ..คห.24 ค่ะ ทำไม จึงเป็นเสด็จล่ะค่ะ สมเด็จพระพันวสาพระองค์ท่านเป็นสมเด็จมาตั้งแต่เกือบต้นๆรัชกาลนี่น่า เป็นสมเด็จพระอัครมเหสีในพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นสมเด็จแม่ของพระโอรสพระธิดาในพระองค์เอง เป็นสมเด็จป้าของพระโอรสพระธิดาในพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี(พระยศในเวลานั้น) เป็นสมเด็จพระตำหนักของคนทั่วๆไป การที่เรียกท่านว่า"เสด็จ"ไม่เป็นการลดพระเกียรติหรือค่ะ เพราะแม้แต่พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวยังกล่าวถึงสมเด็จพระพันวสาในจดหมายที่ทรงเขียนถึงสมเด็จเจ้าฟ้าวชิราวุธในขณะที่ศึกษาอยู่ต่างประเทศว่า "สมเด็จป้า" เลย จากคุณ : supply1 (supply1) - [ 15 ม.ค. 51 09:55:03 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เห็นด้วยกับคุณความเห็นข้างบนค่ะเคยคิดเหมือนกันว่าจากเครื่องทรงหรืออะไรต่างๆท่านจะไม่ทรงแปลกใจบ้างเชียว จากคุณ : supply1 - [ 15 ม.ค. 51 10:03:04 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ในเวลานั้นสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า  ทรงมีพระอาการหลงเลือนแล้วครับ ในวันราชาภิเษกสมรสของรัชกาลที่ 9 สมเด็จพระพันวัสสาฯ ทรงตรัสกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในทำนองว่า ให้หันไปยิ้มกับผู้คนที่มาเฝ้า  ซึ่งผู้ที่เข้าเฝ้าฯ ในเวลานั้นต่างแปลกพระทัยและแปลกใจ เนื่องจากทรงตรัสได้เหมือนปกติ ทั้งที่ทรงมีพระอาการหลงเลือนแล้ว จากคุณ : ทับศานต์ใจ - [ 15 ม.ค. 51 11:28:22 ]

ความคิดเห็นที่ 41 สมเด็จ 6 แผ่นดิน ทรงสูงสุดกว่าผู้ใด แต่ก็ทุกข์กว่าผู้ใดเช่นกัน -  เมื่อประสูติ ไม่มีกี่ปี พระราชบิดา(รัชกาลที่4)ก็เสด็จสวรรคต -  โตขึ้น พี่สาว(สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ฯ) สิ้นพระชนม์    ที่บางปะอิน -  เมื่อสถาปนาขึ้นเป็นพระบรมราชเทวี พระราชโอรส   (เจ้ามหาวชิรุณหิศฯ) สิ้นพระชนม์ -  เมื่อสถาปนาน้องสาว(พระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรีฯ)ขึ้นเป็นพระบรมราชินี   ให้เหนือกว่าตำแหน่งพระบรมราชเทวี อิศริยยศ อิศริยศักดิ์ก็ลดลงโดย    ปริยาย -  พระราชสวามี(รัชกาลที่ 5) เสด็จสวรรคต -  น้องสาว(สมเด็จพระศรีพัชรินทรา พระบรมราชินีนาถ ) สวรรคต -  พระโอรส พระธิดา ทยอยสิ้นพระชนม์ไปจนเกือบหมด -  หลานป้า(รัชกาลที่ 6) สวรรคต -  พระโอรสองค์เล็ก(เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช) สิ้นพระชนม์ -  หลานป้า(รัชกาลที่ 7) สละราชสมบัติ และสวรรคต -  พระธิดาองค์สุดท้าย(เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์) สิ้นพระชนม์   โดยรัฐบาลอ้างว่าไม่มีเงินสำหรับจัดงานพระศพ -  พระโอรสนอกพระอุทรที่ทรงเลี้ยงมาแต่ทรงพระเยาว์   (กรมขุนชัยนาท) ถูกจับเป็นนักโทษการเมือง -  เหตุการณ์ที่น่าเศร้าเหตุการณ์เดียวที่พระองค์ไม่ทราบคือ   หลานย่า (รัชกาลที่ 8) สวรรคต -  เหตุการณ์ที่น่ายินดีที่สุดตอนปลายพระชนม์ชีพ คือ   หลานย่า(รัชกาลที่9) เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ -  เหตุการณ์ที่ทรงทำในฐานะผู้เป็นใหญ่สูงสุดในราชวงศ์ฝ่ายใน   คือ ทรงรดน้ำพระมหาสังข์ถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและ   สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ คราวอภิเษกสมรส -  เหตุการณ์สำคัญที่สุขและทุกข์ทั้งหลาย  เกินกว่าที่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง   จะสามารถรับได้ แต่พระองค์ทรงรับและทรงแบกโลกแห่งความสุขและ   ทุกข์นั้นทั้งหมด ไว้บนบ่าเพียงพระองค์เดียว ราชนารีผู้ทรงศักดิ์แห่งพระราชวงศ์จักรี ราชนารีผู้ที่พระราชบิดาผูกดวงไว้ให้พรั่งพร้อมด้วยเกียรติยศและอายุ ราชนารีที่ทรงเคยตรัสว่า "ขอให้ทรงลืมทุกสิ่ง เพราะสิ่งใดที่พระองค์ จำได้ล้วนเป็นความทุกข์ทั้งนั้น" ราชนารีผู้ทรงดำรงพระชนมชีพมา 6 แผ่นดิน ราชนารีผู้ทรงพระนามว่า “สว่างวัฒนา” สมเด็จพระศรีสวรินทิรา พระบรมราชเทวี พระพันวสาอัยยิกาเจ้า จากคุณ : เรือนแก้ว...ติกาหรัง - [ 15 ม.ค. 51 13:43:47 ]

ความคิดเห็นที่ 42 รู้สึกว่า จะไม่มีบันทึกที่ไหนเลยกล่าวว่าสมเด็จเริ่มทรงเลือนตั้งแต่เมื่อใด แต่คงจะก่อนปี ๒๔๘๙ ไม่นานนัก เนื่องจาก ในปี ๒๔๘๔ พระชนม์ เกือบ ๘๐ ก็ยังเสด็จ ไปงานพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ พระราชธิดาองค์สุดท้าย ซึ่งหลังจากงานพระศพได้ทรงอฐิษฐานให้ลืม เนื่องจากนึกอะไรได้ก็ทุกข์ทั้งนั้น แต่ถึงแม้จะทรงเลือนแต่ดูเหมือนพระอนามัยอื่นๆยังดีอยู่ ทรงพระดำเนินได้แม้พระชนมายุจะมาก เห็นมีรูปหนึ่งที่ท่านหญิงแก้ว ประคองสมเด็จทรงพระดำเนิน คาดว่าน่าจะเป็นงาน ราชาภิเษกสมรส ปี ๒๔๙๓ ซึ่งพระชนม์ก็ ๘๘ พรรษาแล้วครับ จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 15 ม.ค. 51 13:57:13 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณคับ จากคุณ : ชาย_วชิร - [ 15 ม.ค. 51 17:10:32 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ......ยิ่งฟังก็ยิ่งเศร้า จากคุณ : รวีช่วงโชติ - [ 15 ม.ค. 51 23:53:45 ]

ความคิดเห็นที่ 45 อีกเรื่องหนึ่งที่รัฐบาลสมัยนั้นกระทำต่อพระองค์ท่านก็คือเรื่องพระนามค่ะ รัฐบาลต้องการให้ผู้ชายฟังเป็นชื่อผู้ชาย ส่วนผู้หญิงก็ต้องฟังเป็นผู้หญิง รัฐบาลเกิดเห็นว่าพระนาม "สว่างวัฒนา" สมควรเป็นชื่อผู้ชายมากกว่าก็กราบบังคมทูลขอให้ทรงเปลี่ยน สมเด็จทรงทราบก็กริ้วตรัสว่า "ชื่อฉัน ทูลหม่อม (ร.4) พระราชทาน ท่านทรงทราบดีว่าฉันเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง" สมเด็จก็เลยไม่ต้องทรงเปลี่ยนพระนามตามคำกราบบังคมทูล อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องยกย่องน้ำพระราชหฤทัย ก็คือเมื่อเปลี่ยนแปลงการปกครอง แม้จะทรงไม่พอพระทัย หากก็ไม่ทรงละทิ้งกิจการของสภากาชาดไทย เสด็จฯไปประชุมมิได้ขาด แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการจากเดิมที่เป็นพระญาติก็ตาม แก้ไขเมื่อ 16 ม.ค. 51 18:58:10 จากคุณ : วรพันธ์ - [ วันครูแห่งชาติ 18:56:49 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ตอบคุณ Supply1 (ความเห็น 38): ผมไม่ได้บอกว่า"เสด็จ"ในเรื่องสี่แผ่นดิน"คือ"สมเด็จพระพันวัสสานะครับ คุณชายคึกฤทธิ์นำเอาพระจริยาวัตรของพระพันวัสสาไป"ใส่"ในตัวละครที่สร้างขึ้นมาครับ "เสด็จ"ในเรื่องสี่แผ่นดินไม่ปรากฏพระนามแต่เป็นที่เข้าใจว่าน่าจะเป็นพระองค์เจ้าที่เป็นพระน้องนางเธอพระองค์หนึ่งของรัชกาลที่ 5 ครับ (ตามท้องเรื่อง) เช่นเดียวกับที่คุณศรีบูรพานำเอาพระจริยาวัตรของพระนางเธอลักษมีลาวัณไป "ใส่" ในตัวคุณหญิงกีรติ ในเรื่อง "ข้างหลังภาพ" ครับ จากคุณ : Shakesple - [ 18 ม.ค. 51 05:01:34 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เสริมจากคุณจำปูน ครับเรื่องงานพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ (จากหนังสือ "สมเด็จพระศรีสวรินทิราฯ โดยคุณสมภพ จันทรประภา) ...แต่มาถึงงานพระเมรุสมเด็จพระราชธิดาซึ่งดำรงพระยศเป็นสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า รัฐบาลแจ้งให้ทราบว่าไม่มีเงินที่จะใช้ในการพระเมรุตามพระราชอิสริยยศ ถ้าต้องพระประสงค์จะถวายพระเพลิงก็ต้องพระราชทานเงิน สมเด็จฯ ในเวลานั้นก็ไม่ทรงมีเงินสดมากนัก พระราชทรัพย์ที่ทรงมีก็เป็นตึกแถวที่ดินตามแบบคหบดีรุ่นเก่าๆ ทั้งหลาย ถึงกระนั้นก็ทรงยอมพระราชทานเงินเพื่อใช้ในการถวายพระเพลิงสมเด็จพระราชธิดาของพระองค์ หรือสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าในทางราชการ    พระเมรุสร้างขึ้น ณ ท้องสนามหลวงอย่างเร่งรีบ ไม่ต้องพูดถึงความงาม ไม่ต้องพูดถึงความโอ่โถง ไม่ต้องพูดถึงอะไรทั้งสิ้น เพราะแม้แต่ความเรียบร้อยก็พูดได้ยาก สภาพของกระบวนแห่พระศพขะมุกขะมอม เพราะไม่มีเจ้าพนักงานมาเดิน 4 สาย ใช้ยุวชนทหารมาเดินแทน ก็เครื่องแบบยุวชนนั้น โดยทั่วไปก็ไม่ค่อยจะเรียบร้อยอยู่แล้ว โดยเฉพาะถุงเท้าและรองเท้า เป็นงานเมรุกลางเมืองที่น่าเศร้าที่สุดตั้งแต่สร้างกรุงมา    อย่างไรก็ตาม พระศพก็มาถึงท้องสนามหลวงจนได้ และต้องหยุดคอยผู้สำเร็จราชการอยู่อีกเป็นเวลานานจึงได้เคลื่อนไปเวียนรอบพระเมรุ ได้ทราบต่อมาภายหลังว่ารัฐบาลก็ได้สังเกตุเห็นความบกพร่องต่างๆ ดังกล่าวและได้ตำหนิไปยังผู้รับผิดชอบ.... จากคุณ : ciri - [ 18 ม.ค. 51 13:12:08 ]

ความคิดเห็นที่ 48 และจากหนังสือเล่มเดียวกัน ได้กล่าวถึงพระอาการดังกล่าวเริ่มครั้งแรก เมื่อเสด็จฯ อินโดนีเซีย ปี 2480 ครับ แต่อ่านดูเหมือนกับเป็นแค่บางเวลาครับ (คุณสมภพทูลถามจาก หม่อมเจ้าอัปภัศราภา เทวกุล ซึ่งโดยเสด็จฯ ด้วย) จากคุณ : ciri - [ 18 ม.ค. 51 13:24:34 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ท่านทรงแกร่งมากมาก จากคุณ : tinglee tingamee - [ 18 ม.ค. 51 17:17:49 ]

ความคิดเห็นที่ 50 พระองค์ท่านทรงเป็นแบบอย่างที่ดีมาก ๆ จากคุณ : daphuma - [ 20 ม.ค. 51 00:53:05 ]

ความคิดเห็นที่ 51 อ่านแล้วเศร้าใจจังค่ะ ไม่ค่อยทราบประวัติท่านมากนัก แต่อ่านแล้วน้ำตาซึมค่ะ จากคุณ : redruby (redruby) - [ 21 ม.ค. 51 15:00:06 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เป็นครั้งแรกที่ได้ตั้งใจอ่านเรื่องของพระพันวสาจริงจัง.... เศร้าใจจังค่ะ... จากคุณ : Norikoจัง - [ 26 ม.ค. 51 14:25:49 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เศร้าใจจังค่ะ... จากคุณ : จำปีขี้สงสาร - [ 26 ม.ค. 51 22:50:32 ]

ความคิดเห็นที่ 54 อ่านแล้วเศร้าจังค่ะ ไม่ค่อยได้รู้เรื่องของพระองค์ท่านเลย ถ้าจะอ่านยาวๆมากกว่านี้ หาอ่านได้จากหนังสือเล่มไหนบ้างค่ะ ส่วนใหญ่ที่อ่านเจอก็เป็นแค่การลำดับพระราชวงค์แล้วก็ประวัติพระองค์ท่าน จากคุณ : su_k3430 - [ 27 ม.ค. 51 07:47:07 ]

ความคิดเห็นที่ 55 พระตำหนักเหลือง วังสระปทุม ก่อนบูรณะครับ จากคุณ : akkarachai - [ 11 ก.พ. 51 14:15:16 ]