ความคิดเห็นที่ 1 ก็คงมีคนเข้ามาคุ้มครองไง ครับ เพราะประเทศกัมพูชา รัฐบาลไม่เเยเเสโบราณสถานเลยครับ นครวัด นครธม วัดวา อีกมากมาย ปล่อยให้พัง ปล่อยให้มีคนขโมย ต้องรอให้ประชาคมโลกเตือน ก็ยังไม่ทำ ยูเนสโก้ ต้องโดดมาช่วยซ่อมให้ เห็นเเล้วเหนื่อยใจ น่าจะเป็นของบ้านเรา เสียดาย จากคุณ : Atomic Secret - [ 26 ม.ค. 51 05:18:04 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณครับ   อดสงสัยไม่ได้ เพราะในข่าวเหมือนกับไทยจะดิ้นรนผลักดันอย่างไรไม่รู้ จึงสนใจว่า  จะมีผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับทางฝั่งไทยอย่างไรหรือไม่น่ะครับ จากคุณ : เข้ามาจอบ - [ 26 ม.ค. 51 15:55:40 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้คณะกรรมการยูเนสโกประกาศเลื่อนการประกาศให้เขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ในการประชุมใหญ่ที่ประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะเห็นว่ายังเป็นประเด็นที่ทางการไทยและกัมพูชาต้องหารือกันให้ชัดเจน โดยยูเนสโกขอให้สองประเทศตกลงกันให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยให้รัฐบาลกัมพูชาเสนอเรื่องเข้าไปใหม่ในปีหน้า http://webboard.mthai.com/52/2007-07-01/332021.html เขาพระวิหารอยู่ในเขตแดนของกัมพูชานะคะ ดังนั้น ทางการไทยไม่มีสิทธิที่จะยื่นขอ แต่อาจจะเสนอว่าน่าจะเป็นโบราณสถานที่ได้รับการขึ้นบัญชีได้ แต่ก็ต้องได้รับความยินยอมจากผู้เป็นเจ้าของโดยชอบธรรม ส่วนเรื่องการที่ศาลโลกพิพากษาให้เป็นของเขมรนั้น เป็นเรื่องของการเมืองล้วนๆ โดยมีฝรั่งเศสเป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง (คลับคล้ายคลับคลาว่า ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมชเป็นหัวหน้าคณะทนายความ ) ที่แพ้ก็แพ้เพราะอิทธิพลฝรั่งเศส รวมไปถึงการขุดร่องเพื่อเปลี่ยนทิศทางการไหลของสันปันน้ำด้วย น่าเสียดายเหมือนกันนะคะ ที่โบราณสถานอันยิ่งใหญ่ในอดีต หนึ่งในเทวาลัยที่พระเจ้าแผ่นดินแห่งเมืองพระนคร เมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์จะต้องพระราชทานศิวลึงก์ทองคำ และ ข้าทาสถวายเป็นราชสักการะ จะต้องมาถูกทิ้งร้างให้ผุพัง รวมไปถึงการซ่อมแบบขอไปทีในบางจุดที่เป็นการ"ทำลาย"มากกว่าการ"บูรณะ" สมัยเรียน อิฉันมีเพื่อนฝรั่งเศสคนหนึ่งที่คุณปู่ของเธอเป็นหนึ่งในคณะที่ปรีกษาของ คณะทนายความเขมร เธอบอกกับอิฉันเมื่อเราขึ้นไปเที่ยวเขาพระวิหารกันว่า "นี่ถ้าปู่มาเห็นคงเสียใจมากที่ช่วยให้ตกอยู่ในความครอบครองของเขมร" จากคุณ : นางกอแบกเป้ - [ 26 ม.ค. 51 18:23:55 ]

ความคิดเห็นที่ 4 รูปเขาพระวิหารล่าสุด เมื่อวันที่ ๘ มกราคม ๒๕๕๑ จากคุณ : นางกอแบกเป้ - [ 26 ม.ค. 51 18:52:17 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อีกรูปค่ะ จากคุณ : นางกอแบกเป้ - [ 26 ม.ค. 51 18:58:33 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มีอีกค่ะ จากคุณ : นางกอแบกเป้ - [ 26 ม.ค. 51 18:59:09 ]

ความคิดเห็นที่ 7 และอีก จากคุณ : นางกอแบกเป้ - [ 26 ม.ค. 51 18:59:38 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อีกแล้ว จากคุณ : นางกอแบกเป้ - [ 26 ม.ค. 51 19:00:12 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แล้วอีก จากคุณ : นางกอแบกเป้ - [ 26 ม.ค. 51 19:00:43 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เบื่อหรือยังคะ จากคุณ : นางกอแบกเป้ - [ 26 ม.ค. 51 19:01:30 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สุดท้ายแล้วค่ะ จากคุณ : นางกอแบกเป้ - [ 26 ม.ค. 51 19:02:08 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล ผมเป็นคนในพื้นที่น่ะครับ  แต่ไม่มีโอกาสขึ้นไปชมเขาพระวิหารขณะที่ยังคงความสวยงามอยู่ เคยขึ้นไปครั้งหนึ่งเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน(พร้อมกับครอบครัว) แม่ถึงกับเอ่ยปากว่า  เขาพระวิหารขณะเป็นของไทยนั้น  ไทยบำรุงรักษาเป็นอย่างดี เทียบกับตอนนี้  เขาพระวิหารชำรุดทรุดโทรมลงไปเยอะมาก ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่า  เขาพระวิหารชำรุดทรุดโทรมลงไปมากเพียงใด ในห้วงความคิดขณะที่ชมเขาพระวิหาร  ผมตระหนักชัดเลยว่า   ปราสาทหินบริเวณอีสานใต้ทั้งหมด  เปรียบได้กับดวงดาวที่รายล้อมเขาพระวิหารซึ่งเปรียบได้กับดวงจันทร์ จากคุณ : เข้ามาจอบ - [ 26 ม.ค. 51 21:28:47 ]

ความคิดเห็นที่ 13 http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6271993/K6271993.html#2 ลองดูกระทู้นี้ครับ จากคุณ : Humble - [ 27 ม.ค. 51 01:49:22 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เคยขึ้นไปครั้งนึงเมื่อประมาณ 7-8 ปีก่อนมั้ง ได้เห็นบางสิ่งบางอย่างบนนั้นที่ทำให้อึ้งกิมกี่ไปเลย นั่นก็คือ.... "ปืนใหญ่" ปืนใหญ่จริงๆ ครับ แถมเป็นปืนใหญ่สมัยใหม่ ไม่ใช่สมัยโบราณยุคขอมยุคอยุธยาด้วย ให้ตายดิ เห็นกับตาตัวเองแล้วก็ยังไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเจอของพรรค์นี้อยู่ในโบราณสถานแบบนี้ แถมภายในเจดีย์เล็กๆ (ไม่รู้เรียกถูกหรือเปล่า) แทนที่จะเก็บเทวรูปอะไรไว้ มองเข้าไปกลายเป็นว่าเก็บลูกกระสุนปืนใหญ่ซะอย่างนั้น เฮ้ออออออออออ จากคุณ : เกียรตินำ - [ 27 ม.ค. 51 16:23:49 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อ้อ เกือบลืม เคยมีซากเครื่องบินของเมกาบนนั้นด้วยนะคะ แต่ไปเที่ยวนี้ไม่ยักเห็น หรือมัวแต่เหนื่อยไม่รู้เลยไม่ได้สังเกตุ บนนั้นน่ะ กับระเบิดยังมีอีกเป็นดงเลยค่ะ จากคุณ : นางกอแบกเป้ - [ 27 ม.ค. 51 18:35:58 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ไปมาเมื่อวาน ขอมองต่างมุมนะ ไกด์ท้องถิ่น (ชาวไทย) บอกให้ฟังว่า โบราณสถานของไทยมักจะบูรณอย่างสวยงาม มีการต่อเติมจุดที่หักพังด้วยของใหม่ที่พยายามทำเลียนแบบ แต่ของเขมร เขาจะทิ้งไว้อย่างนั้นเอง เสาหัก ก็หักนอนไว้อย่างนั้น ตรงไหนร้าวตรงไหนทรุด ก็ทิ้งไว้ตามสภาพของกาลเวลา แต่กลายเป็นว่า นักท่องเที่ยวชอบแบบหลัง คนชอบโบราณคดี ก็ชอบแบบหลัง เพราะเขาได้เห็นการพัดผ่านของ "กาลเวลา" ที่ชัดเจน แม้แต่ปืนใหญ่ หรือซากเครื่องบิน มันก็คือประวัติศาสตร์ มิใช่หรือ ? ประวัติศาสตร์ว่า ครั้งหนึ่งที่นี่เคยเป็นอะไร และเคยเป็นอะไรในกาลต่อมา ไม่รู้สิครับ ผมชอบประวัติศาสตร์ที่มีพลวัตร มากกว่าประวัติศาสตร์ซ่อมใหม่ จากคุณ : บุญชิตฯ (Players) - [ 28 ม.ค. 51 08:53:49 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ดิฉันเองก็ชอบไปดูโบราณสถานที่เก่า แบบเก่าจริงๆ ไม่ใช่แบบเก่าแล้วแต่งใหม่ อย่างนั้นดูแล้วไม่ค่อยได้อารมณ์ จากคุณ : PatPDX - [ 28 ม.ค. 51 12:48:26 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ต่างคนต่างมุมมองค่ะ คุณบุญชิต แต่ไอ้การจะปล่อยเอาไว้ให้จมดินจมทรายนั้นก็ไม่ไหวเหมือนกัน หรือบูรณะโดยใช้ ช่างรับเหมาที่ไม่มีความรู้ทางประวัติศาสตร์(อย่างที่กรมศิลปากรทำกับบางโบราณสถาน)ก็ไม่ได้ ส่วนโบราณสถานในเมืองไทยนั้น เราใช้วิธีการอนุรักษ์แบบอนัสติโลซิสคะ (ดังเช่นที่ใช้อนุรักษ์ ปราสาทหินพิมาย พนมรุ้ง บรมพุทโธ นครวัด ปราสาทบากอง บายน ฯลฯ ) หลักการของการอนุรักษ์แบบอนัสติโลซิสคือ                          การซ่อมแซมโบราณสถานโดยวิธีอนาสติโลซิส   วิธีการนี้คือ การรื้อถอนโบราณสถานที่พังทลายลงมาแล้วประกอบขึ้นใหม่ เพื่อให้รูปร่างเหมือนของเดิม โดยให้หมายเลขและทิศลงบนก้อนศิลาแต่ละก้อน หลังจากนั้นจึงปรับพื้นดิน เสริมคอนกรีต เพื่อให้รองรับน้ำหนักได้ แล้วจึงประกอบโครงสร้างตามรูปแบบของเดิม โครงสร้างในตัวโบราณสถานจะทำด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ท่อระบายน้ำฝนก็ทำด้วยวิทยาการสมัยใหม่ แล้วซ่อนโครงสร้างด้วยการนำศิลาทรายของเดิมมาก่อทับ หากหาของเก่าไม่เจอ จะนำของใหม่มาเสริมแทน แต่จะไม่สลักลวดลายเลียนแบบของโบราณ เพราะกฏการบูรณะมีอยู่ว่า            ***จะไม่ทำของเก่าให้เป็นของใหม่*******                                  วิธีการบูรณะ 1/  นำผังรูปแบบส่วนที่จะทำการบูรณะและถ่ายภาพประกอบทุกขั้นตอน 2/  เคลื่อนย้ายศิลาทรายที่พังโดยการทำรหัส 3/  ขุดแต่งรอบโบราณสถาน เพื่อหารากฐานเดิมแรกสร้าง 4/  ก่อสร้างรากฐานโครงสร้างภายใน แล้วจึงนำของเดิมกลับมาเรียงตามรหัส 5/  สำหรับศิลาทรายที่พังลงมาโดยไม่ทราบรูปทรง ต้องทดลองประกอบบนพื้นดินก่อนที่จะนำขึ้นไปไว้ตามตำแหน่งเดิมของโบราณสถาน **วิธีการซ่อมโบราณสถานโดยวิธีนี้ นักวิชาการชาวฮอลันดาใช้ซ่อม บูโรพุทโธในอินโดนีเซียก่อน ต่อมานักวิชาการชาว ฝรั่งเศสได้เรียนรู้และนำมาซ่อมโบราณสถานในกัมพูชา ***ในเมืองไทยได้รับความร่วมมือจาก M.Bernard P.GROSELIER โดยร่วมมือกับ มจ.ยาใจ จิตรพงศ์ ซ่อมพิมายเป็นที่แรก ก่อนจะมาซ่อมพนมรุ้ง ข้อความข้างบนนี้มาจากเล็คเชอร์สมัยที่อิฉันเรียนปริญญาตรีค่ะ วิชานี้ ท่านอาจารย์ ม.จ.สุภัทรดิศ ประทานการสอน ร่วมกับ ม.ร.ว.สุริยวุฒิ สุขสวัสดิ์ และ บางส่วนมาจากตอนเรียนระดับปริญญาโทเกี่ยวกับ Systems de la conservation des patrimoines ที่ Universite de Nantes ค่ะ จากคุณ : นางกอแบกเป้ - [ 29 ม.ค. 51 07:20:53 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ^ ^ ^ อยากรู้วิธีการบูรณเหลือเกินครับ  ว่ามีวิธีใดบ้าง ข้อดีและข้อเสียเป็นอย่างไร จะหาข้อมูลได้ที่ไหนบ้างครับ จากคุณ : เข้ามาจอบ - [ 29 ม.ค. 51 10:39:31 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าเท่าที่ฟังคุณนางกอแบกเป้นครวัดนครธมน่าจะบูรณะแบบ อนัสติโลซิส เหมือนกันนะครับ จากคุณ : เชษฐา - [ 31 ม.ค. 51 17:06:05 ]