ตัวแปรอีกหลายๆอย่างที่ต้องพิจารณาก็คือว่า คนที่ไปอยู่ในสภาพแวดล้อมของการพูดภาษาอังกฤษนั้น มีพื้นฐานเดิมแบบไหน
ยกตัวอย่างกรณีของนักเรียนทุน King's Scholarship คนหนึ่งเมื่อเทียบกับเรา
นักเรียนทุน King's Scholarship รู้สึกจะเป็นนักเรียนเตรียมอุดมนะ ได้ทุนไปเรียนประเทศอังกฤษ ภายใน 6 เดือนแรกที่อยู่ประเทศอังกฤษ เขากวดวิชาแล้วสอบผ่านทุกรายวิชาแล้วเข้ามหาลัยไปเรียนแพทย์ อีก 5-6 ปี ต่อมาเขาเรียนจบแล้วกลับไปเมืองไทยเรียบร้อยแล้ว ลองคิดดูดิว่าเพียงแค่ช่วงเวลาอันน้อยนิด เขาเรียนรู้ทักษะภาษาอังกฤษมากพอที่จะเรียนแพทย์จบมาได้
ทีนี้มาดูเรา
เรียนระดับมัธยมในไทยภาษาอังกฤษไม่กระดิกหู ฟัง พูด อ่าน เขียน ไม่รู้เรื่องหมด ตอนสอบไล่มัธยมต้นเราได้คะแนนประมาณ 20-30% พ่อแม่เราบอกว่าเรียนแบบนี้อย่าเรียนเลยเพราะสอบเข้ามหาลัยไม่ได้แน่ๆน่ะ ....ฮ่าๆๆๆๆ ....แต่นักเรียนเตรียมอุดมสอบไล่ได้คะแนน 99.99% ตลอดมาตั้งแต่มัธยมต้นจนถึงมัธยมปลาย (แสดงว่าพี่แกเรียน top ทุกวิชาเลยอ้ะ...โอ้ยคิดๆแล้วตูจะบ้าตายอ้ะ....ว่าทำไงจะเรียนเก่งขนาดนี้ได้นะ....!!!!) สมัยนั้นเขานับเป็นเปอร์เซ็นต์กัน ....(กรรมการตรวจข้อสอบหักคะแนนนักเรียนทุนแค่ 0.01% ออกไปเพราะเอาปากกาเขียน หักคะแนนเขียนหนังสือไม่มีหัวไม่มีตัว ถ้าพิมพ์ดีดมาละจะได้ครบ 100.00% เลย)
เราไปอังกฤษพร้อมๆนักเรียนทุนคนนั้น... 6 เดือนแรกของการใช้ชีวิตอยู่ในประเทศอังกฤษทำให้เราพอฟังรู้เรื่องและจับคำศัพท์มาเรียงกันเป็นประโยคได้ แต่ยังไม่เป็นธรรมชาติ (ยังผิด grammar เละเทะอยู่) ถ้าฝรั่งพูดเร็วๆเราก้อยังฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง.... อีก 5-6 ปีต่อมา (ในขณะที่นักเรียนทุนเรียนแพทย์จบไปแล้ว) เราเพิ่งจะฟังและพูดภาษาอังกฤษได้คล่องแบบเป็นธรรมชาติ (คือฟังฝรั่งพูดเร็วๆมากสุดๆรู้เรื่อง แถมรู้ด้วยว่าเป็นสำเนียงอะไร แล้วเราก็โต้ตอบกลับไปได้รวดเร็วอีกด้วย) แต่เราเพิ่งเริ่มที่จะอ่านหนังสือได้นิดหน่อย คืออ่านได้แต่เรื่องง่ายๆเท่านั้น (เพราะเราไม่มีพรสวรรค์ทางด้านภาษาเอาเสียเลย) ซึ่งถ้าเราไปเรียนแพทย์ เราคงอ่าน textbooks ไม่รู้เรื่อง แล้วเรียนไม่จบแน่ๆ .....กว่าเราจะอ่านหนังสือภาษาอังกฤษยากๆได้เราต้องใช้ชีวิตอยู่ในประเทศอังกฤษอีกตั้งหลายปี ....(ไม่อยากบอกจำนวนปี เพราะอาย) ...จนป่านนี้เราก็ยังไม่เก่งภาษาอังกฤษมากนัก แค่พอฟัง พูด อ่าน เขียนได้อย่างละนิดอย่างละหน่อย ไม่ perfect ดีเลิศแต่ประการใด....
แต่คนไทยที่อยู่แต่เมืองไทยที่เติบโตมาแบบว่า มีพ่อแม่ส่งเสริมให้ลูกอ่านหนังสือ และรักการเรียนภาษา หลายๆคนอยู่แต่เมืองไทยแล้วชอบเรียนภาษาอังกฤษ ยังเก่งภาษาอังกฤษมากกว่าเราหลายเท่า มีเยอะแยะไปในเมืองไทย...
แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 51 02:02:59
แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 51 16:40:06
แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 51 16:37:30
แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 51 16:23:13
แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 51 12:43:57
แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 51 10:39:58
แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 51 10:21:51