ความคิดเห็นที่ 1 http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2006/11/K4922151/K4922151.html http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2007/07/K5641305/K5641305.html จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 3 ก.พ. 51 17:24:11 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ^ ^ ^ ^ ^ ^ ^ ^ จำเป็นต้องชี้แจงกระทู้ (link ที่ 2 ที่ คุณ  the grinning cheshire cat แปะไว้) เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด  คือกระทู้นี้ (แปะ link ไว้ข้างล่างอีกที เผื่อ คุณ  the grinning cheshire cat ลบออก คนอ่านจะได้รู้ว่าเราพูดถึงเรื่องอะไร) http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2007/07/K5641305/K5641305.html เราคิดว่าคุณ  the grinning cheshire cat กำลังช่วยเพื่อนคุณ (Clear Ice) โปรโมทผลงานหนังสือของเธอ และกำลังทำให้คนอ่านที่ไม่รู้ภูมิหลังเข้าใจเราผิดๆและเป็นการใส่ร้ายป้ายสีผู้อาวุโสที่ล่วงลับไปแล้ว (คือพี่ nickycharles)  โดยที่คุณ the grinning cheshire cat ไม่รู้ implications ว่าทำไมเราจึงไม่เข้าไปโต้ตอบคุณ Clear Ice ในกระทู้นั้น   ที่เราไม่เข้าไปโต้ตอบกระทู้นั้นเป็นเพราะว่า 1. พี่ nickycharles สั่งห้ามไม่ให้เราโต้ตอบ เพราะว่ามีคนยุแยงให้เข้าใจผิด ก็ปล่อยให้พวกเขาทะเลาะกันไปเอง 2. เราเขียนอีกกระทู้หนึ่งบอกละเอียดถึงความเป็นไปได้ และความเป็นไปไม่ได้ ในการหางานแปล และเล่าความลับมากไปเพื่อบอกว่าเราก้อพอรู้เรื่องวงการแปลดีพอสมควรว่าใครเป็นใคร แล้วพอเราพูดมากเข้า แฟนเราซึ่งเป็นเพื่อนของคุณก็บอกว่า สิ่งที่เราพูด อาจทำให้คนโยงใยได้ว่าตัวคุณ the grinning cheshire cat แปลหนังสือให้สำนักพิมพ์ไหน และมีกรณีพิพาทกับสำนักพิมพ์ไหน  ดังนั้น เพื่อปกป้องคุณ the grinning cheshire cat เราจึงยอม หยุดชี้แจงเรื่องวงการแปล และยอมให้แฟนเราลบกระทู้ของเรา  ดังนั้น จึงเป็นการลบเหตุผลที่เราให้ไว้ ซึ่งเป็นการชี้แจงว่าเราไม่เที่ยวไปพูดว่าคนจะแปลหนังสือจนมีชื่อเสียงได้ต้องมีเส้น  (จริงๆแล้วเรามาเขียนเรื่องจริงแต่ ประชดประชันว่า “ตัวเราเองเกือบจะตายแล้วที่หางานดีๆไม่ได้ จึงต้องใช้เส้น ต่างหาก) ......ที่ลบไป และเราก็ไม่โกรธที่ลบไป มันลบไปเพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อคุณ the grinning cheshire cat แต่ตอนนี้คุณกำลังทำให้คนเข้าใจเราผิด และเมื่อกระทู้ที่คุณ the grinning cheshire cat  ปลุกผีขึ้นมานี้ มันเป็นการหมิ่นประมาทพี่ nickycharles ท่านผู้อาวุโส ที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งเคยบำเพ็ญประโยชน์ให้แก่สังคม  ดังนั้น เราจึงต้องขอขมาต่อวิญญาณของพี่เขาว่าเราต้องละเมิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับพี่ว่าจะไม่โต้ตอบ แต่จะขอโต้ตอบกับ Clear Ice ดังต่อไปนี้ แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 51 10:19:41 แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 51 10:16:35 แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 51 09:56:09 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 4 ก.พ. 51 08:55:42 ]

ความคิดเห็นที่ 3 หมายเหตุ คคห เลขที่ ซึ่งจะกล่าวถึง คือ คคห ในกระทู้นี้ http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2007/07/K5641305/K5641305.html ในตัวกระทู้ แรกเริ่ม Clear Ice: อ่านคคห.ที่ 4 ของคุณ tansy และคคห.ที่ 7 ของคุณ nickycharles แล้วอึ้งๆ แฮะ เพราะคิดว่า น่าจะเกิดการเข้าใจผิดอะไรบางอย่างนะคะ T^T tansy ตอบ: ใช่แล้ว  คุณเข้าใจผิดอย่างแรงเลย....!!!คุณกำลังตกเป็นเหยื่อคนอื่นที่เขายุให้คุณมาทะเลาะกับเรา  ทั้งๆที่ครั้งหนึ่งคุณกับเราก็เคยเป็นมิตรกัน Clear Ice: อ่านบางคำแล้วสะอึก เช่น "ล็อคคอได้งานมาแล้ว" "ส้มหล่นทับใส่ลังเบ้อเริ่มได้งานแปลมาแล้ว" .... เหอๆ ที่พูดมานี่ได้คิดบ้างหรือเปล่าคะว่า คนที่ถูกพาดพิงถึง เสียหายนะ เรื่องไม่จริงแท้ๆ อ้างมาจากไหนหรือคะ tansy ตอบ: “ส้มหล่น”  น่ะคือเรา ไม่ใช่นักแปลอื่นที่คุณคิด ...!!!!  พี่ nickycharles เขาหมายถึงตัวเรา tansy เคยมีปัญหา ไม่รู้จักผู้คน ต้องรับงานแปลเอกสารราคาถูกๆ ได้หน้าหนึ่งแค่ไม่เกิน 200 บาท แต่พอเรามาเจอแฟนใหม่  (ซึ่งเป็นเพื่อนของ the grinning cheshire cat) แฟนใหม่เรา ซึ่งรู้จักผู้คนมากพอสมควร มีเครือข่ายรับงาน หางานมาให้เราทำ หน้าละ 700-2,000 บาท ...เป็นงานแปลเอกสารนะ  ขอเน้น  ไม่ได้เป็นงานแปลหนังสือ  พี่ nickycharles คุยกับเราเล่นๆ แล้วมีคนบางคน (ไม่อยากเอ่ยชื่อ) เข้ามาตีความเป็นว่า เราดูถูกนักแปลที่แปลหนังสือ .... ส่วนคำว่า "ล็อคคอได้งานมาแล้ว" พี่ nickycharles หมายถึง wrap up the negotiations (คือเจรจากันแล้วและตกลงได้งานมาแล้ว)  คืออยู่ดีๆ มีเพื่อนมากระซิบบอกว่าบริษัทแห่งหนึ่งให้ข้อมูลมาเป็นการภายในว่าจะมีงานแปลเอกสาร ย้ำนะ ว่าแปลเอกสาร ไม่ใช่แปลหนังสือ พี่ nickycharles เรา และเพื่อนอีก 4 คน รวมเป็น 6 คน จึงรีบไปเจรจา แล้วได้งานมา  (ตอนนี้แปลเสร็จไปแล้วด้วย)  มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ เรื่องแปลหนังสือเอาเสียเลย  ....ไปกันคนละเรื่องเลย...!!! ......... .แล้วในอีก 4 คคห คือ 1-4 คุณ Clear Ice ก็เลยร่ายเสียยาวเลย แล้วก็เลยฉวยโอกาสโฆษณาหนังสือแปลของคุณเองเสียเลย ...  ...แต่จริงๆแล้ว...คุณหลงประเด็น .... แต่เราไม่ได้ตอบคุณ เพราะพี่ nickycharles ห้ามเราเอง  เราได้แต่นั่งหัวเราะอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์  ...... จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 4 ก.พ. 51 08:59:23 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คคห 7 Clear Ice: คุณ nickycharles คะ คุณเป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ ดิฉันไม่ต้องการคำประกาศคุณงามความดีหรอกค่ะ เพราะไม่ได้ทำเพื่อหวังผลอะไร ใครจะเอาที่ดิฉันเขียนไว้ไปใช้ ไปวิจารณ์อะไร ก็ไม่เคยไปยุ่งวุ่นวาย แต่สิ่งที่คุณเขียนลงไป เป็นทำนองว่า ดิฉันใช้เส้นสาย ดิฉัน "ได้งานแบบส้มหล่น" คุณกำลังปั้นน้ำเป็นตัวนะคะ tansy ตอบ: "คนที่ใช้เส้นสาย” กับ “ได้งานแบบส้มหล่น” คือตัวเรา  พี่ nickycharles เขาไม่ได้ว่าคุณ.....!!!  จริงๆแล้วพี่ nickycharles เป็นอดีตผู้บริหารระดับสูงของบริษัทมหาชนที่มีชื่อเสียงมากๆ  เขามีเครือข่ายนักการเมือง และคนในวงการไฮโซมาก พอที่จะทำให้ “คุณน้ำอบ” ตาลุกวาว  .....พี่ nickycharles สงสารเราที่ได้ยินเราบ่นๆว่า ไม่มีโอกาสได้งานดีๆทำเพราะเราไม่รู้จักผู้คน พี่เขาก็เลยพาเราไปออกงานสังคมหรูๆ แล้วไปพบปะผู้คนในวงการต่างๆ ทำให้เราได้งานดีๆมา   หมายเหตุ: เราแค่บ่นว่าเราไม่ได้งานเพราะไม่มีเส้น แต่เราไม่ได้ระบุชื่อว่าใครได้งานเพราะมีเส้น  เราว่านักแปลบางคนคิดไปเอง ไม่อยากคิดว่า “กินปูนร้อนท้องนะ”    เราคิดว่าคุณว่าพี่ nickycharles แรงเกินไปนะ ที่คุณบอกว่า “ปั้นน้ำเป็นตัว” น่ะ ....!!!  ...คุณโมโหก็เลยเข้ามาใส่เอา ใส่เอา โดยไม่ถามเหนือถามใต้  คุณจึงไม่รู้ว่า พี่ nickycharles บอกว่า tansy มี knowhow แต่ไม่มี knowwho  แต่เขาไม่ได้ขี้คุย คือเขาไม่ได้เผยความลับว่า เขาเป็นคนหา knowwho มาให้เรา เราจึงได้งานดีๆทำ.....และเขาไม่ได้อธิบายว่า knowwho บางแหล่งของเรามาจากแฟนเรา (ที่เป็นเพื่อนคุณ the grinning cheshire cat)   พวกเราคุยกันเองในห้องยำภาษา เราไม่ได้พาดพึงถึงนักแปลหนังสือ ไม่ได้ดูถูกความสามารถของนักแปลหนังสือท่านใด    ถ้าไม่เคลียร์เรื่องนี้กันเดี๋ยวคนหลายๆคนจะเข้าใจผิดทะเลาะกันอีก แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 51 09:52:12 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 4 ก.พ. 51 09:08:11 ]

ความคิดเห็นที่ 5 Clear Ice: การที่คุณลบออกน่ะ "ทุเรศ" ค่ะ ทำอะไรให้เป็นลูกผู้ชายหน่อย ไม่ใช่ถูกแย้งก็ลบหนี คุณจะทำอะไรต่อไปนี้ ดิฉันคงจะไม่มีการพอใจหรือไม่พอใจหรอกค่ะ เพราะคนประเภทคุณ ดิฉันไม่อยากเสวนาด้วย อย่าได้มาเกี่ยวข้องกันอีกนะคะ ขยะแขยง tansy ตอบ : เรายังงงเลยว่าคุณทำไมถึงโกรธพี่ nickycharles มากขนาดนั้น  .....เราถามพี่เขาว่า พี่เขาลบข้อความออกไปทำไม  พี่เขาตอบว่า มีคน (ไม่อยากเอ่ยชื่อ) ไปตีความผิดๆในเรื่องที่พี่เขาพูดถึงเราตลกๆ  คนๆนั้น นั่นแหละ “ปั้นน้ำให้เป็นตัว” และเป็นบ่างช่างยุ  เขายุให้คุณ Clear Ice มาทะเลาะกับเราและกับพื่ nickycharles   พี่ nickycharles ไม่อยากให้คนเข้าใจผิด และเขาเป็นผู้ดีพอที่จะไม่มาทะเลาะกับคนเหมือนพวกแม่ค้าข้างถนน  เขาจึงลบข้อความทิ้ง เพื่อเป็นการเอาใจคุณ Clear Ice ไม่ให้โกรธ แต่คุณกลับใช้วาจาไม่สุภาพกับคนอายุเกือบ 80 ที่ไม่มีพิษมีภัยกับใคร  โดยการไปว่าเขาว่า  “การที่คุณลบออกน่ะ "ทุเรศ" ค่ะ ทำอะไรให้เป็นลูกผู้ชายหน่อย ไม่ใช่ถูกแย้งก็ลบหนี”  และพูดว่า “อย่าได้มาเกี่ยวข้องกันอีกนะคะ ขยะแขยง” ซึ่งน่าเกลียดมากๆ คุณไม่รู้จักประมาณตนเอาเสียเลย  ถ้าคุณรู้ว่าพี่ nickycharles อยู่ในวงสังคมระดับไฮโซแค่ไหน  คุณจะตกใจว่า แท้จริงแล้ว มันน่าจะเป็นพี่เขาที่พูดกับคุณว่า “อย่าได้มาเกี่ยวข้องกันอีกนะครับ ผมไม่ลดตัวไปทะเลาะกับคุณหรอก” .....แต่พี่เขาก็นิ่งเฉย ยอมให้คุณด่าว่าเอา .....คุณยังไม่รู้สึกตัวอีกหรือ?! ..........หลังจากคุณมาระบายอารมณ์กับคนแก่ที่รักสงบแล้ว ใน คคห 10 คุณ Clear Ice  ก็ไปโชว์พาวโดยการโฆษณาผลงานหนังสือของคุณอีกต่อไป ....555++++.... จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 4 ก.พ. 51 09:13:19 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คคห 30 Clear Ice: ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะ ไม่พอใจกับบางคำพูด เพราะมันเป็นสิ่งที่ "ไม่จริง" เช่น ที่ได้เขียนไว้ในเนื้อความในกระทู้ และที่แค็ปมาแปะไว้ใน คคห.ที่ 8 ในกระทู้นี้ และ คำพูดของคุณ tansy คคห.ที่ 2 ในกระทู้ที่แล้ว ซึ่งเขียนว่า "link ที่คุณแอ๊ดแปะไว้ ใน คคห 2 เป็นวิธีการที่ดีที่คุณ clear ice แนะนำไว้ในเรื่องวิธีการเสนองานแปลให้สำนักพิมพ์  มันทำให้นักอยากแปลมึความสุขมากๆเมื่ออ่านกระทู้นี้ "เพราะมันทำให้นักอยากแปลมีความหวัง" คุณ clear ice จีง popular" tansy ตอบ:   เราไม่ได้ตำหนิคุณ เราชมคุณว่า กระทู้แนะนำวิธีติดต่อสำนักพิมพ์ ที่คุณแปะไว้ ซึ่งเป็นกระทู้อมตะนั้น มีประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง  น้ำเสียงที่เราพูด เราหมายถึง นักอยากแปลอ่านกระทู้แล้วหวังน่ะ หวังได้ แต่ต้องรู้จักประเมินความน่าจะเป็นไปได้ด้วย ซึ่งเราก็เล่าเรื่องวิธีการติดต่อสำนักพิมพ์หลายๆวิธี เอาไว้ในอีกกระทู้หนึ่ง  แต่เราพูดมากเกินไป ไปแฉเรื่องคนในวงการแปล บรรณาธิการ นักแปล ฯลฯ และเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น เพื่อให้นักอยากแปลรู้ทางหนีทีไล่ และรู้ว่าจะเจออะไรบ้าง  แต่เรายอมให้แฟนเราลบกระทู้นั้นไปเพื่อประโยชน์แก่คุณ the grinning cheshire cat  เพราะอาจมีคนโยงใยไปถึงกรณีพิพาทระหว่าง the grinning cheshire cat กับสำนักพิมพ์   Clear Ice: ไอซ์ไม่เคยคิดว่าตัวเอง popular และที่แน่ๆ คุณ tansy เองก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจ เพราะรู้จักไอซ์มาหลายปีตั้งแต่ตอนเล่นถนนนักเขียนว่า ไอซ์ จำเป็นต้อง "สร้างความหวังให้คนอื่น" เพื่อยกตัวเองหรือเปล่า tansy ตอบ: พูดอย่างนี้ ถ้าเป็นแปลหนังสือก็ต้องถือว่า “แปลเกิน”  คุณพูดเรื่องความสำเร็จของคุณ โฆษณามาหลายกระทู้แล้ว เราพูดเรื่องความไม่สำเร็จของเรา มันเป็นตัวอย่างที่เป็นประโยชน์ทั้งสองมุมมอง  คุณสร้างความหวังให้คนอื่น มันก็ดี แต่เราบอกว่าเราทำอะไรผิดพลาด มันแปลว่า คนอ่านจะได้ไม่ทำผิดพลาดอย่างเรา และก็ยังมีความหวังต่อไปได้  มันแค่ “ส่อความว่า” ความจริงที่เราพูด คนไม่ชอบอ่าน เราจึง unpopular แต่ไม่น่าจะได้รับการตีความว่า เรากล่าวหาคุณว่าคุณสร้างความหวังให้คน "เพื่อยกตัวเอง" อย่างที่คุณกล่าวหาเรา ซึ่งนับว่าเป็น overinterpretation นะ  จะบอกให้ จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 4 ก.พ. 51 09:36:03 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ^ ^ เปิดกระทู้เข้ามาดู เห็นคุณแทนสี่แล้วถึงกับอึ้งไปเลยทีเดียว บอกตรงๆ นะคะว่า อ่านข้างบนแบบผ่านๆ เพราะเบื่อ...เบื่อมากๆ ค่ะ สำหรับเรื่องคุณ nickycharles นั้น หลังจากที่ท่านเสียชีวิตไป ไอซ์ก็ได้ขออโหสิกรรมให้เลิกแล้วต่อกันไปตั้งนานแล้ว อย่าขุดเรื่องนี้ขึ้นมาอีกเลยค่ะ มันไม่ได้ประโยชน์อะไร สำหรับคุณแทนสี ไอซ์เองก็ไม่ได้ตั้งตนเป็นศัตรูกับคุณเลย จนถึงตอนนี้ก็ไม่เคยคิดว่าคุณเป็นศัตรู เคยคุยกันอย่างเป็นมิตรมา ไอซ์ก็จำได้ แต่...เมื่อมีการเข้าใจผิดกัน ไอซ์ก็ย่อมมีสิทธิที่จะชี้แจ้ง ไม่ใช่หรือคะ บอกตรงๆ ว่าไอซ์ไม่อยากจำเรื่องเข้าใจผิดหรือเรื่องแย่ๆ ใส่ใจเท่าไหร่ ถือว่าชี้แจงกันไปแล้วก็จบกัน เพราะมันน่าเบื่อที่จะพูดวนเป็นลูปค่ะ เวลาของไอซ์มีค่าเกินกว่าที่จะมาใส่ใจกับเรื่องเก่าๆ ซ้ำซาก ไร้ประโยชน์แบบนั้น .... สำหรับใครที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ ก็ลองอ่านโดยใช้วิจารณญาณเถอะค่ะ สองกระทู้นั้นไอซ์ตั้งมานานแล้ว โดยเฉพาะกระทู้แรก ถ้าได้เห็นวันที่ก็คงจะทราบดี และในกระทู้นั้น ไอซ์ได้พูดถึงหนังสือของตัวเองหรือเปล่า สำหรับกระทู้ที่สอง เป็นการยกตัวอย่างการเสนองานแปล ซึ่งไอซ์ก็ไม่ได้แปลเล่มที่เสนอไป เป็นสองกระทู้ที่ตั้งขึ้นด้วยหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นจากใจจริง the grinning cheshire cat เป็นเพื่อนกับไอซ์จริงๆ แต่เขามาแปะกระทู้นี้เพื่อช่วยไอซ์โปรโมทหนังสือหรือว่าต้องการตอบคำถามของเจ้าของกระทู้ คิดว่าทุกคนคงจะมีคำตอบในใจอยู่แล้ว ... ตื่นมาเจออะไรแบบนี้ เหนื่อยใจจริงๆ ... ต้องขอโทษเจ้าของกระทู้ด้วยนะคะที่เข้ามาแปะอะไรยืดยาว ยังไงลองอ่านสองกระทู้บนที่ the grinning cheshire cat แปะไว้เถอะค่ะ คิดว่าน่าจะมีประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อย และพอดูเป็นแนวทางได้บ้าง หรือถ้ามีคำถามเพิ่มเติมอะไร ลองเข้าไปถามในห้องรวมพลนักแปลก็ได้ ที่นั่นมีพี่ๆ ที่สามารถให้คำแนะนำที่ดีมากมายค่ะ เอาใจช่วยนะคะ ^^ จากคุณ : Clear Ice - [ 4 ก.พ. 51 10:35:50 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณครับคุณ Clear Ice ผมอ่านกระทู้ทั้งสองแล้วได้ประโยชน์พอสมควร เรื่องทะเลาะกันนี่ต้องบอกว่าผมไม่ชอบเส้นสาย ไม่ชอบการแบ่งชนชั้น ไม่ชอบคำถามที่ว่าคุณเป็นใครมาจากใหน ความเห็นอื่นๆของด จากคุณ : anchan42 (anchan42) - [ 5 ก.พ. 51 07:43:51 ]

ความคิดเห็นที่ 9 วิธีการที่คุณ Clear Ice ให้ไว้ใน ..........ใส่ link นั้นนับว่ามีประโยชน์มาก แต่เท่าที่เราอ่านผ่านๆดูนะ รู้สึกว่าจะใช้ได้ดีในกรณีที่คุณมีหนังสือในดวงใจอยู่แล้ว นั่นก็คือคุณทำตัวอย่างการแปล และแนะนำว่าหนังสือที่คุณอยากแปลนั้น ดีอย่างไร ....ส่วนเรื่องการจัดหน้าหรือการเลือก font นั้น ข้อให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า แต่ละสำนักพิมพ์จะใช้ format ที่แตกต่างกันออกไปบ้างพอสมควร แต่เราจะให้ข้อมูลบางอย่างที่เป็นประโยชน์เพิ่มเติมด้วยเช่นเดียวกัน...ซึ่งคิดได้โดยใช้ common sense แต่ยังไม่มีนักแปลมืออาชีพนำมาเปิดเผยบนเว็บ...นั่นก็คือว่า ในกรณีที่นักอยากแปลไม่เกี่ยงว่าจะแปลหนังสือเล่มไหน เพียงแค่อยากเลือกแนวหนังสือที่จะแปล ให้ลองใช้วิธีการต่างๆดังต่อไปนี้นะ ไปทำ survey ว่าสำนักพิมพ์ไหนทำหนังสือในแนวที่เราอยากจะแปล โดยการเดินเข้าไปในร้านหนังสือใหญ่ๆที่นั่งอ่านได้นานพอสมควร อย่างเช่นคิโนะคุนิยะที่สยามพารากอน เข้าไปหยิบหนังสือมาพลิกๆอ่านๆดู (browse through) เพื่อเรียนรู้ว่าหนังสือแนวไหนที่ขายดีอยู่ในขณะนี้...เอามาลองพลิกๆอ่านดู ถ้าสนใจสำนักพิมพ์ไหนก็จดชื่อบรรณาธิการบริหาร ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และ email address (ถ้ามีให้) ของสำนักพิมพ์ การ survey อีกแบบหนึ่งที่ลึกยิ่งไปกว่านั้น ก็คือไปตามร้านเช่าหนังสือ เวลาคุณมองหนังสือบนชั้น คุณจะรู้ทันทีว่าหนังสือแนวไหนกำลังมาแรง แต่กรณีนี้จะเป็นการ survey ที่ลึกกว่า ซึ่งใช้เงินน้อยมากๆ นั่นก็คือ เช่าหนังสือหลายๆเล่มไปลองอ่านดู ซึ่งคุณจะได้เปรียบเทียบฝีไม้ลายมือของนักแปลที่มีอยู่ในท้องตลาดในขณะนี้ได้ จากนั้นคุณก็ทำเช่นเดียวกัน นั่นก็คือ จดชื่อบรรณาธิการบริหาร ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และ email address (ถ้ามีให้) ของสำนักพิมพ์ ถ้าโชคดีนะ ในตัวหนังสือบางเล่มจะมีโฆษณารับนักแปลด้วย ก็ยิ่งติดต่อง่ายใหญ่เลย .... ในการติดต่อสำนักพิมพ์นั้นมีปัจจัยหลายอย่างที่จะทำให้สำเร็จหรือไม่สำเร็จ แต่ที่แน่ๆก็คือ “จังหวะเวลา” นั่นก็คือถ้าเป็นช่วงที่สำนักพิมพ์กำลังต้องการนักแปลเพิ่ม ก็อาจติดต่อได้ง่ายหน่อย การส่ง mail ไปติดต่อถ้าเป็นสำนักพิมพ์ใหญ่ๆมากๆ โอกาสตอบกลับอาจมีน้อยกว่าติดต่อสำนักพิมพ์เล็กๆ นั่นก็เพราะว่า สำนักพิมพ์ใหญ่ๆ mail box จะเต็มบ่อยๆ หรือเขาไม่มีเวลาตอบกลับ... ในกรณีนี้ต้องทำใจ แล้วต้องตื้อลูกเดียว เช่นใจกล้าๆโทรไปขอพูดกับบรรณาธิการบริหารหรือเดินเข้าไปในสำนักพิมพ์เลย .... บางสำนักพิมพ์นะ บรรณาธิการบริหารอาจไม่ยอมพูดโทรศัพท์ด้วย แต่บางสำนักพิมพ์เขายอมพูดด้วย เรื่องมันก็ง่ายขึ้น เราก็สามารถถามเขาได้ว่าจะให้ส่งตัวอย่างการแปล และ profile ของเราเอง ไปให้ใคร และที่ไหน และจะพิมพ์ด้วย format ไหน หมายเหตุ แฟนเราเคยใช้วิธีโทรไปถามแล้วได้ผล บรรณาธิการบริหารยอมคุยด้วยแล้วก็ได้แปลไปหลายเล่มแล้ว เราเคยใช้วิธีโทรไปถามได้ผล 2 ครั้ง ครั้งหนึ่งไม่ใช่งานแปล แต่จะส่งงานเขียนเรื่อง Zen Macrobiotics บรรณาธิการบริหารรับโทรศัพท์แล้วตอบว่า “สนใจครับ เชิญส่งมาได้เลย” ไอ้เราก้อมัวแต่ยุ่งเรื่องอะไรอยู่แล้วลืมเขียน ก็เลยชวดโอกาสไป ส่วนอีกครั้งหนึ่งเราโทรไปอีกสำนักพิมพ์หนึ่ง แล้วเสนอว่าอยากแปลหนังสือในแนวเพศศึกษา แล้วบอกสรรพคุณว่าหนังสือเล่มนั้นจะต้องขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเพราะอะไร เขาจึงสนใจ แล้วนำเรื่องเสนอไปให้คณะกรรมการบริหาร แต่ทางสำนักพิมพ์ปฏิเสธบอกว่ามันโป๊เกินไป เราก้อเลยไม่ได้แปล แต่ว่าได้ทำความรู้จักบรรณาธิการบริหารไว้ ...แล้วอีก 2 เดือนต่อมาเขาโทรมาถามเราว่าเราอยากจะลองแปลนิยายดูหรือไม่ เราตอบ “ก็ได้” เขาก้อส่งบททดสอบมา เราก็ทำส่งไป แล้วเขาก็ให้เราเซ็นสัญญา แล้วก็เริ่มแปลได้ ... แต่เราเป็นคนที่ถ่อมตน ติดดิน ไม่อยากโฆษณาผลงานของเรา เราจึงกล้าพูดตลกๆบนเว็บได้ว่าเราคงแปลได้ห่วยแตก เพราะแปลไปได้แค่ 4 เล่มเอง สำนักพิมพ์แทบจะเจ้งแน่ะจนสำนักพิมพ์ต้องหยุดทำหนังสือแปล ...เราเลยต้องเลิกแปลหนังสือ ...555+++...... จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 5 ก.พ. 51 20:44:46 ]

ความคิดเห็นที่ 10 วิธีการอีกอย่างหนึ่งในการหางานแปลให้ได้ sureๆ นั่นก็คือ “ทำความรู้จักเพื่อนฝูงที่เรียนจบมาทางด้านภาษาจากมหาลัยดังๆ” เพราะคนกลุ่มนี้มักจะทำงานให้สำนักพิมพ์หรือบริษัทต่างๆ(ในกรณีแปลเอกสาร) และจะช่วยแนะนำเราให้กับบรรณาธิการบริหารของสำนักพิมพ์ หรือจะแนะนำผลงานของเราให้แก่ลูกค้าที่อยากแปลเอกสารได้ เรายอมรับว่าครั้งหนึ่งเราเคยมีนิสัยหยิ่งไม่ง้อใคร ไม่ชอบการเล่นเส้นสาย แต่ความจริงที่นักแปลเกือบทุกคนปฏิเสธไม่ได้ นั่นก็คือ “นักแปลกับนักแปลที่เป็นเพื่อนซี้กันจะแนะนำแหล่งงานให้กันและกัน แต่ถ้าเขาไม่รู้จักคุณ เขาไม่กล้าแนะนำคุณให้แหล่งงานที่ไหนหรอก” .... เพียงแต่ว่านักแปลจะกล้ายอมรับหรือไม่ยอมรับเท่านั้นเอง เนื่องจากการยอมรับว่าได้งานเพราะเพื่อนฝูงช่วยแนะนำกันไปแนะนำกันมา มันดูเหมือนไม่เป็นการโชว์ฟอร์มเจ๋ง ว่าเก่งจริง มีบางครั้งที่เรายึดติดกับแหล่งงานเดิมๆมากเกินไป ครั้นเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป เราต้องวิ่งหางานใหม่ เราลำบากมากๆ จนแทบจะหมุนเงินไม่ทัน เพราะหางานใหม่ไม่ทัน แต่เรารอดตายมาได้เพราะเพื่อนฝูงหางานให้เรานั่นเอง  ....ดังนั้น เราจึงรับสารภาพตรงๆว่า ถึงเราจะมี knowhow มากพอ แต่เราก็แทบอดตาย เราจึงต้องใช้ knowwho (คือยอมรับความช่วยเหลือจากเพื่อนๆที่หาแหล่งงานมาให้เรา) ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขสถานการณ์โดยด่วน เนื่องจากเราทำงาน freelance เต็มตัว ไม่ได้ทำงานประจำเลย ดังนั้น เมื่อลำบากแล้วเพื่อนฝูงช่วย เราก็ต้องเลิกหยิ่ง แล้วเราก็ไม่ปิดบังแต่ประการใดว่าเพื่อนฝูงช่วยเราไว้ .... เราเห็นนักแปลส่วนใหญจะพูดเหมือนๆกันเป็น cliche' ว่า “ติดต่อสำนักพิมพ์ไปแล้วได้งานแปลค่ะ ไม่ใช้เส้นค่ะ ตอนนี้มีผลงานคือ ....(โฆษณาหนังสือตัวเองหลายเล่ม)....” เราก็เลยอยากทำตัวให้ต่างจากผู้อื่น ให้มันฉีกแนวออกไป เราจึงไปพูดติดตลกบนเว็บเป็นข้อความแบบ satirical ว่า “เราได้งานเพราะใช้เส้น...555+++...”  ทั้งนี้ เพื่อไม่เป็นการอวดอ้างความเก่งแต่อย่างใดนั่นเอง .....เพราะนั่นมันเป็นนิสัยเราที่ชอบพูดตรงๆ.....เราไม่ใช่ hypocrite แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 51 10:02:21 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 5 ก.พ. 51 20:46:27 ]

ความคิดเห็นที่ 11 พี่nickycharles ก็แค่พูดติดตลกว่า tansy มี knowhow แต่ไม่มี knowwho (แต่ไม่ได้พูดรายละเอียดข้อมูลส่วนตัวเราว่า ตอนหลังๆ tansy ต้องยอมพึ่ง knowwho เพราะว่าชีวิตลำบากมากๆ) ก็เลยอยู่ดีๆมีคนอยากเห็นคนอื่นทะเลาะกัน เข้าไปตีความว่าพี่ nickycharles กับเรารวมหัวกันไปดูถูกนักแปลหนังสือว่า หาว่า “นักแปลทุกคนต้องใช้เส้น ม่ายงั้นจะไม่ประสบความสำเร็จ” ... แท้จริงแล้วพี่ nickycharles แค่พูดถึงเรื่องชีวิตนักแปลแบบหลายๆมุมมอง โดยพูดจากข้อมูลที่พี่เขารู้ว่าเราเข้าไปเขียนกระทู้บ่นๆในห้องยำภาษาหัวข้อเรื่อง “ข้อคิดในการหางานแปล” (ถ้าเรางมเจอมันในคลังกระทู้เก่าๆ จะเอามาแปะให้อ่าน) แล้วอยู่ดีๆมีผู้หญิงคนหนึ่ง(ซึ่งเรียนมาทางด้านภาษาและมีงานแปลอยู่ในมือเพียบเลย) ผ่านเข้ามาอ่านกระทู้ของเราเข้า เธอเกิดความสงสารเราอย่างจับใจ เธอจึงติดต่อเรา แล้วเอางานราคาดีๆ มาแบ่งให้เราทำ แล้วต่อมาเรากับเธอก็กลายเป็นแฟนกัน ... เราเลยจากการที่เกือบๆจะอดตายอยู่แล้ว เราได้งานจากแฟนเรา (เธอแนะนำลูกค้าให้) เป็นงานแปลเอกสารหน้าละ 700 - 2,000 บาท เรารับงานเข้าไปหลายๆหน้านะ แล้วรับไปหลายๆชุดด้วย (อ้อพี่ nickycharles ก็สงสารเราหางานแปลให้เราอีกหลายๆชุดด้วยเหมือนกัน)....พอเรารับเงินค่าแปลมา  มันพลิกสถานการณ์เราได้แบบที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า against all the odds ไปเลย... จากนั้นอีกไม่นาน พอเราลืมตาอ้าปากได้ เราก้อตอบแทนพี่ nickycharles โดยการหาหนังสือเล่มหนึ่งจากสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งให้พี่ nickycharles เขาแปลจนจบ แล้วพี่เขาก็รับทรัพย์ไปเรียบร้อยแล้วด้วยเช่นกัน เราพูดจาแบบติดดิน แบบตรงไปตรงมา ไม่เสแสร้ง (ไม่ชอบ hypocrisy) คนบางคนอ่านแล้วหมั่นไส้เรา หาว่าเรา "ทำตัวขวางโลก" .... ความหมั่นไส้ ทำให้มี preconception จึงเกิดกรณีตีความสิ่งที่เราพูดไปในทางผิดๆ ผลก็คือ "ผู้คนเป็นจำนวนมาก ต้องมาทะเลาะกัน ด่ากันหยาบๆคายๆ ในเรื่องที่มันไม่น่าจะเป็น sensitive issue เอาเสียเลย".... แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 51 23:54:37 แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 51 23:53:10 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 5 ก.พ. 51 20:59:06 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ส่วนเรื่องที่คุณ anchan42  พูดใน #8 นั้นที่ว่า "เรื่องทะเลาะกันนี่ต้องบอกว่าผมไม่ชอบเส้นสาย ไม่ชอบการแบ่งชนชั้น ไม่ชอบคำถามที่ว่าคุณเป็นใครมาจากใหน ความเห็นอื่นๆของด" นั้น เราต้องขอชี้แจงว่า เราก็ไม่ชอบเส้นสาย และพี่nickycharles ถึงจะอยู่ในระดับชั้นไหนก็ตาม แต่เขาก็เป็นมิตรกับคนได้ทั่วไปหมด คือเขาเข้ากับคนได้ในทุกระดับชั้น ทุกครั้งที่เขาไปนั่งในที่สาธารณะ เมื่อเขาเห็นใครนั่งใกล้ๆ ไม่ว่าจะเป็นระดับไหน ก็ตาม เขาจะ break the ice คือทำให้คนที่อยู่ใกล้ๆเขารู้สึกสบายใจที่ได้พูดคุยกับเขา แล้วลงเอยนะกลายเป็นพูดคุยกันสนุกสนานและรู้จักกันเป็นเพื่อนหมดเลย ...บ่อยครั้งที่เราต้องอาศัยความีเสน่ห์ของเขาในการไปทำความรู้จักกับผู้คนเพื่อที่จะเจรจาเรื่องงาน แล้วก็ประสบผลสำเร็จทุกครั้งไป....!!!! ส่วนกรณีที่มีคนช่วยเรานั้น พวกเขาสงสารเรา แล้วเข้ามายื่นมือช่วยเหลือเราเอง ..... ซึ่งในกรณีของนักแปลที่เป็นเพื่อนซี้กัน แนะนำแหล่งงานให้กันและกันนั้น มันเป็นเรื่องจริงที่ไม่ค่อยจะมีนักแปลยอมรับกันอย่างหน้าชื่นตาบานนักในที่สาธารณะ แต่การแนะนำแหล่งงานให้กันและกัน มันก็ไม่ได้หมายความว่าถ้าเราได้งานจากเพื่อน เราจะไม่หางานให้เพื่อน เราก็ช่วยๆเพื่อนเหมือนกัน ในยามที่เรามีโอกาส เหมือนๆกับที่พี่ nickycharles เคยพูดกับเราว่า "เพื่อนๆกรูมันได้งานดีๆไปจากกรู แต่กรูก็ได้งานดีๆมาจากพวกมันเหมือนกันโว้ย" ซึ่งในกรณีที่แฟนเราช่วยหางานมาให้เรานั้น ก็เป็นการถ้อยทีถ้อยอาศัยกันเหมือนกัน เนื่องจากว่าบางทีงานของเธอมันชนกันเราก็ช่วยระบายงานให้ไวๆ หรือเป็นงานที่เธอไม่ถนัดเช่น แปลเอกสารราชการจากไทยเป็นอังกฤษ หรือแปลเอกสารกฏหมายไทย-อังกฤษ และอังกฤษไทย เราก็ช่วยเธอคิดคำแปลไวๆ ให้ได้เพราะว่านั่นเป็นงานแปลสาขาที่เราทำเป็นงานหลักมาเกิน 10 ปี หรือบางทีเราเจองานที่เราไม่ถนัดเช่นงานแปลนิยายอังกฤษเป็นไทย ที่ต้องใช้ความรู้ด้านวรรณกรรมลึกๆ ที่เราไม่ถนัด แฟนเราก็ช่วยเราตรวจทานแก้ไขให้ได้ นักแปลเกือบจะทุกคน ต่างก็เคยแนะนำแหล่งงานให้กันและกันเพื่อช่วยเหลือเพื่อนฝูงของตนเอง และรับความช่วยเหลือจากเพื่อนฝูงของตนเอง เพื่อให้ได้งานแปลมาทำกันทั้งนั้น...บางทีรับงานมาทำแล้วผนึกกำลังช่วยกันแปล project ใหญ่ๆก็มี ถ้าคุณ nchan42 เคยอยู่ในวงการแปลมา 15 ปี แบบเรา คุณจะเข้าใจเรื่องนี้ดีกว่านี้ แต่คนที่จะกล้าพูด และยอมรับความจริงในที่สาธารณะได้ว่าตัวเองเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด ต้องให้เพื่อนฝูงช่วยนั้น จะต้องไม่เป็น hypocrite นั่นก็คือ ไม่ชอบเสแสร้งทำตัวเป็นพลเมืองดี ไม่อยากโฆษณาผลงานอันดีเด่นของตนเอง แต่ทำอะไรฉีกแนว ติดดิน และจริงใจเหมือนๆก้บที่เรากล้าพูดกลางเว็บว่า "เราคงแปลหนังสือห่วยแตก แปลไปแค่ 4 เล่ม สำนักพิมพ์ก็เกือบจะเจ้งแน่ะ จนสำนักพิมพ์ต้องเลิกทำหนังสือแปลไปเลย...555+++..." เมื่อเรากล้าพูดอะไรที่มันติดดินขนาดนี้แล้วนะ ....คนอ่านก็น่าที่จะใช้ตรรกะพิจารณาได้ว่าเราพูดทุกอย่างจากความจริงใจมากน้อยแค่ไหน...!!!??? แก้ไขเมื่อ 05 ก.พ. 51 21:27:15 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 5 ก.พ. 51 21:21:50 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมค่อนข้างสับสนกับความคิดเชิงเหตุผลของคุณ tansy อันนี้ขอชวนคุยเฉยๆ ที่ทะเลาะกันผมไม่รู้รายละเอียดเท่าไหร่ก็บอกได้เท่าที่อ่านว่าตรงไหนชอบไม่ชอบอย่างไร คือถ้ารู้จักกันแนะนำงานกันผมก็ไม่เห็นแปลกวงการไหนก็มี แต่ถ้าใช้อำนาจหรือ ตำ่แหน่งหางานให้คนที่ไม่มีความสามารถทำให้งานเสียหายก็ไม่ไหว ที่ทำงานเคยมีฝรั่งมา present ให้พนักงานที่เมืองไทย ก็มีคนแนะนำคนแปลมาเขาว่าระดับมืออาชีพ เอามาแปลพนักงานผลิตที่ไม่ค่อยรู้ภาษาอังกฤษยังนั่งขำแล้วขำอีก โครงรถหรือ chassis ฝรั่งดันใช้ว่า frame พวกแปลว่ากรอบหน้าตาเฉย ส่วนที่บอกว่าแปลแค่ 4 เล่มแล้วเลิก ผมยังงอยู่ว่าพูดแบบนี้มันติดดินอย่างไง แล้วถ้าไม่ติดดินต้องพูดอย่างไง ผมก็เคยติดต่อสำนักพิมพ์เองถามเรื่องจะส่งหนังสือให้ตีพิมพ์กอนที่จะอ่านเจอกระทนีู้้ ก็ไม่เห็นลำบากมาก เขาก็สนใจตอบกับมา (แต่บัดนี้ 3-4 ปีผ่านมายังไม่ได้ีเขียนเลย) จากคุณ : anchan42 (anchan42) - [ 7 ก.พ. 51 00:17:21 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อ๋อเรื่องกระทู้ร้อนแรงประเด็นหลักมันก็มีอยู่แค่นักแปลหลายๆคนพยายามเน้นว่า “ติดต่อทาง mail แล้วได้งาน ไม่มีเส้นสายก็แปลได้” ซึ่งมันก็จริงอยู่ แต่ความจริงที่น้อยคนนักที่จะติดดินหรือจริงใจพอที่จะให้ข้อมูลแก่คนที่ยังใหม่ต่อวงการ นั่นก็คือ จำนวนเปอร์เซ็นต์สูงสุดของการได้งานแปลทำนั้น ได้จากเพื่อนฝูงที่อยู่ในวงการแนะนำให้กันและกันนั่นเอง ... ในเมื่อไม่มีใครเปิดเผยข้อมูลธรรมดาๆแบบนี้เพราะกลัวคนหาว่าไม่เก่ง ดังนั้น เราผู้ซึ่งในบางครั้ง (แต่ไม่ทุกครั้ง) ได้งานแปลจากเพื่อนที่เป็นนักแปลด้วยกัน จึงแทนที่จะบอกว่า "ได้งานเพราะเพื่อนแนะนำ" เราจึงเขียนเป็น satire ว่า "เราได้งานเพราะเส้นสาย...และเราแปลหนังสือได้ 4 เล่มสำนักพิมพ์เกือบเจ้งเราจึงต้องเลิกแปล....555+++..."   นั่นก็เพราะเราชอบ paradox เรามักจะมีความคิดเห็นแบบขวางๆโลก....คือเห็นใครๆกลัวกันนักที่จะยอมรับว่าได้งานเพราะเพื่อนฝูงช่วยเหลือกันซึ่งก็เป็นเรื่องปกติในสังคมไทย และใครๆก็ได้แต่โฆษณาผลงานของตัวเอง ที่ได้จากการ “ติดต่อทาง mail แล้วได้งาน ไม่มีเส้นสายก็แปลได้” ซึ่งก็อาจจริงหรือไม่จริงก็ได้ (อาจได้งานจากเพื่อนฝูงแนะนำก็ได้) ดังนั้น เราจึงเขียนเป็น satire และเป็น paradox ให้มันเป็น contrast เสียบ้าง ม่ายงั้นโลกมันก็จะน่าเบื่อที่มีใครๆคิดเหมือนๆกันเหมือนฝูงแพะฝูงแกะที่วิ่งตามๆกันไปหมด ส่วนเรื่องที่คุณพูดว่า "ก็มีคนแนะนำคนแปลมาเขาว่าระดับมืออาชีพ" แล้วแปลไม่ได้เรื่องนั้น ก็ไม่น่าจะนำมาเปรียบเทียบกับประเด็นที่พี่ nickycharles แนะนำลูกค้าให้เรา และเราแนะนำสำนักพิมพ์ให้พี่ nickycharles แปล และแฟนเราเอางานแปลเอกสารมาแบ่งให้เราแปล .... เนื่องจากว่าทั้งพี่ nickycharles กับแฟนเราเคยเสวนากันเรื่องการแปลงานประเภทต่างๆและต่างก็รู้ว่าใครทำงานอะไรได้หรือทำอะไรไม่ได้ และในกรณีที่เราแนะนำสำนักพิมพ์ให้พี่ nickycharles นั้น เรื่องที่แปล ผู้แปลจะแปลได้ต้องมีความรู้เกี่ยวกับ American Civil War ลึกซึ้งมาก แถมยังต้องรู้ประเพณีและวัฒนะธรรมของคนอเมริกันยุคนั้นด้วย ม่ายงั้นจะแปลผิดหมด เรารู้ว่าพี่เขารอบรู้พวกนี้เพราะเขาเคยแสดงภูมิความรู้โดยการอธิบายเรื่องราวพวกนี้ให้เราฟังโดยละเอียด (ที่พี่เขามีความรู้รอบตัวกว้างมาก ไม่ใช่เพราะอ่านหนังสือมากและท่องเว็บมากเท่านั้น แต่พี่เขาเคยไปตระเวนมาทั่วโลกหลายประเทศมากๆ) ดังนั้น เราจึงแนะนำงานชิ้นนั้นให้พี่เขา และพี่เขาก็ต้องลองแปล แล้วบรรณาธิการบริหารของสำนักพิมพ์ก็ได้ตรวจทานและ approved ตัวอย่างการแปลของพี่เขาแล้วด้วยเช่นกัน....ก่อนที่จะให้พี่เขาเซ็นสัญญา แล้วลงมือแปล จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 7 ก.พ. 51 12:24:51 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ส่วนที่หน่วยงานของคุณ anchan42 ว่าจ้างล่ามจากคำแนะนำของใครคนหนึ่งแล้วออกมาไม่ดีนั้น เกิดจากความผิดพลาดของหน่วยงานคุณเอง ในการที่ "ไม่ได้ทดสอบล่ามก่อนให้ลงมือทำงาน" ในกรณีที่เป็นล่ามในการอบรมหรือสัมนานั้น หลักการที่ถูกต้องก็คือ จะต้องบอกว่าเป็นล่ามเรื่องอะไร แล้วก็ส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องไปให้ล่ามศึกษาดูก่อนลงมือทำงาน จากนั้นก็ต้องให้ล่ามไปพบปะสนทนากับวิทยากรฝรั่ง แล้วพูดคุยกันบ้างพอสมควร แล้วให้ฝรั่งตัดสินว่า เขายอมรับล่ามคนนี้ได้หรือไม่ ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆให้ล่ามไปทำงานเลย เพียงแค่เพราะมีคนแนะนำว่าเป็นมือโปรเท่านั้น เราก็เคยไปเป็นล่ามเรื่องวิศวกรรมยานยนต์ (ทีแรกนึกว่าอย่างนั้น) เป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็มๆ ก่อนไปเราไปหาหนังสือประเภทที่มี diagrams แสดงชื่อชิ้นส่วนต่างๆของรถยนต์ มาศึกษา และอ่านหนังสือบางเล่มที่อธิบายกลไกการทำงานของชิ้นส่วนต่างๆ  .....แต่พอไปลงมือทำงานจริงๆ มันเป็นเรื่อง wheel centering กับ wheel balancing ซึ่งใช้ระบบคอมพิวเตอร์หมดเลย  ผู้เข้ารับการอบรมทั้งหมดเป็นช่างรถจากบริษัทดังๆหลายๆบริษัท ในการอบรมเป็นการอบรม computer hardware กับ pc configurations เกือบทั้งหมด เพื่อให้ช่างรู้เรื่อง computer operation and maintenance ..... เมื่อเข้าห้องอบรมแล้วเจอแบบนี้เข้าเราก็ค่อยข้างตกใจพอสมควร แต่อาศัยที่เรารู้ pc configurations มากพอสมควร ในขณะที่ไม่รู้เรื่อง computer hardware มากนัก แต่เรารอดตายได้ก็ต้องใช้ไหวพริบปฏิภาณ เราอาศัยต้นทุนที่เรามี่ทักษะการฟังและพูดภาษาอังกฤษใกล้เคียงเจ้าของภาษาอยู่แล้ว เราจึงพูดกับวิทยากรฝรั่งที่เป็น engineer แบบทำให้เขาสนุกสนานเป็นมิตร ดังนั้น ตรงไหนที่เขาไม่แน่ใจว่าศัพท์ computer hardware ยากเกินไปหรือไม่ เขาก็จะให้นิยามสั้นๆแก่เรา ซึ่งจริงๆแล้วการเป็นล่ามในลักษณะเช่นนี้ มันต่างกับการเป็นล่ามในที่ประชุมสหประชาชาติซึ่งถ้าล่ามไม่รู้อะไรแล้วไปถามมันจะแปลไม่ทันแล้วจะหน้าแหกกลางเวทีอินเตอร์... แต่การเป็นล่ามในที่อบรม เรื่องอะไรเล็กๆน้อยๆที่ล่ามไม่รู้ ล่ามสามารถถามวิทยากรได้โดยไม่ต้องอาย..... การเป็นล่ามในศาล (ซึ่งเราเคยทำมาแล้วหลายครั้ง) ยิ่งจำเป็นต้องขอร้องให้คนพูดอธิบายใหม่อีกหลายๆรอบ ทั้งๆที่เราแปลงานกฎหมายเป็นงานหลักและรู้ศัพท์กฎหมายมากพอสมควร.... นั่นก็เป็นเพราะว่าบางทีทนายความตั้งใจพูดให้ฝ่ายตรงข้ามสับสน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบางทีชอบถาม leading questions เพื่อหลอกให้ฝ่ายตรงข้ามตอบผิด  เมื่อเจอเช่นนี้ก็ต้องปะทะกันกลางศาลเลยโดยการระบุว่า "สิ่งที่คุณพูดมาไม่สามารถตีความได้ โปรดพูดใหม่" ถ้าทนายไม่เชื่อเราก็จะอธิบายให้ทุกคนในศาลเชื่อว่าคำพูดแบบนี้ตีความให้ถูกต้องไม่ได้เพราะอะไร?   บ่อยครั้งที่ทนายพูดประโยคภาษาไทยซ่อนเงื่อนให้ตีความได้ตั้ง 3-4 อย่าง เพราะกะจะหลอกให้เราแปลเป็นอังกฤษผิดแล้วเราหน้าแหก หรือบางทีไม่ได้ตั้งใจหลอก แต่ทนายมีระบบตรรกะชำรุด  เมื่อเจอเช่นนี้เราจะแปลไทยเป็นไทยให้ศาลฟังว่าตีความได้กี่อย่างบ้าง ปรากฎว่าคนฮากันทั้งศาลรวมทั้งตัวผู้พิพากษาเองก็หัวเราะจนงอหาย แล้วบอกให้ทนายพูดใหม่ แล้วทนายนั่นแหละที่หน้าแหกเอง..... งานเป็นล่ามที่โหดที่สุดก็คือเป็นล่ามในศาลนี่แหละ เพราะจะต้องมีรายการตบตีกัน (ด้วยคำพูด) บ่อยๆ เมื่อสมัยยังไม่มีการใช้เครื่องตรวจสอบอาวุธ เคยมีคนซุกซ่อนอาวุธปืนเข้าไปยิงคู่กรณีหรือยิงผู้พิพากษาในศาลมาแล้ว....ใครขวัญอ่อนไปทำได้วันเดียวก็ร้องไห้วิ่งกลับบ้านแล้ว.... แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 51 13:15:31 แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 51 13:11:46 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 7 ก.พ. 51 13:08:42 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เรื่องในศาลน่าสนใจมากครับ ไม่นึกว่าทนายไทยจะมีลูกเล่นเยอะหมือนทนายไอ้กัน เพราะเราไม่มีคณะลูกขุนเลยคิดว่าไม่น่าจะออกลวดลายได้มาก จริงๆเห็นคุณเขียนเกี่ยวกับการแปลกฏหมายในหลายๆกระทู้ ผมอยากอ่านที่เป็นเรื่องอ้างอิงจากของจริง หรือที่มีประโยคตัวอย่าง คิดว่าจะได้ประโยชน์และน่าสนใจกับนักแปลและคนทั่วไป ถ้ามีเวลาก็ตั้งเป็นกระทู้ใหม่เลยได้ครับ จะติดตามอ่าน จากคุณ : anchan42 (anchan42) - [ 9 ก.พ. 51 01:59:19 ]