ความคิดเห็นที่ 1 สถานการณ์เปลี่ยน บทสรุปเปลี่ยนค่ะ จากคุณ : ตัวกลมๆผมม้า - [ 10 ก.พ. 51 13:36:37 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ประโยคที่ว่า เป็นความสามารถเฉพาะตัว ห้ามลอกเลียนแบบ คงกลัวเด็กๆที่ดูอยุ่ ไปทำเลียนแบบมากกว่า ถ้าจะฝึกฝนกันจริงๆ เชื่อว่า ก็ทำได้เหมือนกันนะ แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 51 13:53:06 จากคุณ : r-narin224 - [ 10 ก.พ. 51 13:51:50 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ต่างวาระกันนะครับ เจตนาด้วย จากคุณ : kennyG - [ 10 ก.พ. 51 14:53:43 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อ้าวจริงๆมันก็เคลียร์อยู่แล้วนิ ลองบริกรรมดูดีๆแล้วจะไม่งง "เขาทำได้ เราก็ต้องทำได้" เราเคยเห็นผู้หญิงอินเดียคนหนึ่งออกทีวี ...รู้สึกจะเป็น bbc นะ สาธิตการบวก ลบ คูณ หาร เลข จำนวนยี่สิบกว่าหลัก บางทีถอด root แปด หรือ root 12 คิดในใจด้วยนะ คิดเสร็จแค่ 3-5 นาทีเอง  แล้วเมื่อเร็วๆนี้ก็มีอินเดียอีกคนหนึ่งบอกให้ฝรั่งเปิดดิกฝรั่งอังกฤษ-อังกฤษ ถามศัพท์แกได้ตามสบายเลย ที่น่าทึ่งก็คือว่าแขกอินตระเดียผู้นี้จำคำศัพท์กับคำแปลใน dictionary ได้ทั้งเล่ม แถมยังจำได้ว่าคำศัพท์ตัวไหนอยู่หน้าไหนอีกด้วย ....ทีมงานฝรั่งที่ผลิต dictionary ยังพูดตลกๆว่าแขกคนนี้รู้ dictionary มากกว่าทีมงานเสียอีก...555+++... ถ้าคุณบอกว่า "เขาทำได้ เราก็ต้องทำได้" แล้วคุณพยายามทำแบบแขกอินเดียพวกเนี้ย แล้วคุณ "ไม่รู้เคล็ดลับ" คุณก็ทำไม่ได้อยู่ดี  และนี่คือ "เงื่อนไข" การรู้เคล็ดลับเป็นเงื่อนไข ซึ่งก็เป็นจริงในกรณีของงูพิษ ถ้าคุณไม่รู้เคล็ดลับ คุณก็อาจโดนงูพิษกัดตาย รายการนั้นเขาก็เตือนถูกต้องแล้วนี่ที่บอกว่า "นี่เป็นความสามารถพิเศษเฉพาะตัว ห้ามลอกเลียนแบบ" เขาหมายถึงถ้าไม่รู้ "เคล็ดลับ" ก็อย่าหาเรื่องเจ็บตัว จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 10 ก.พ. 51 14:59:22 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แล้วที่เขาบอกว่า "ความรู้อาจเรียนทันกันหมด" ถ้าคุณอยากจะจำศัพท์และคำแปลใน dictionary เล่มนั้น (รู้สึกจะเป็น Oxford Advanced Learner's Dictionary) แข่งกับชาวอินเดียผู้นั้น คุณก็เริ่มต้นเรียนๆๆๆๆๆๆไป จำๆๆๆๆๆๆไปตั้งแต่วันนี้จนถึงวันตายของคุณ คุณก็ยังจำได้ไม่หมด ....แล้วมันอะไรกันล่ะ?   คำตอบก็คือว่าคนอินเดียในข่าวคนนั้นเขาเป็นศิษย์เอกของ guru รายหนึ่งที่รู้เคล็ดวิชา "การจำ" จากสมัยโบราณ ตกลงไอ้ที่ว่า "ความรู้อาจเรียนทันกันหมด" นั้น มันก็ต้องมีเงื่อนไขพิเศษอีกนั่นแหละ นั่นก็คือในกรณีของการจำ dictionary นี้ คุณต้องไปตามหา guru คนนั้นมาสอนให้คุณ ม่ายงั้นกว่าคุณจะเรียนเรื่อง "ศาสตร์แห่งความจำ" ตามทันแขกอินเดียคนนั้นนะ ก็คงชาติหน้าบ่ายๆน่ะ จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 10 ก.พ. 51 16:15:57 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ประโยคมันสั้นๆ แต่มันแฝงต่ออีกเยอะครับ เขาทำได้ เราก็ทำได้ ยังขาด "ถ้าได้รับการศึกษา และฝึกฝนอย่างถูกต้อง สม่ำเสมอ" ความสามารถเฉพาะตัว ห้ามลอกเลียนแบบ ยังขาด "โดยเฉพาะผู้ที่ไม่คุ้นเคย ขาดประสบการณ์ เด็กและเยาวชน" จากคุณ : ชาเขียว - [ 10 ก.พ. 51 16:51:08 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอมองอย่างนี้ครับ "เขาทำได้ เราก็ต้องทำได้" ผมมองว่าเป็นการทำอะไร ที่ไม่ต้องพึ่งพรสวรรค์ มีพรแสวง ความพยายาม กับความกล้าที่จะทำเป็นตัวช่วยก็สามารถที่จะทำได้ การกระทำดังกล่าว ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นอะไรที่โลดโผน อาจจะเป็นเพียงแค่ สิ่งธรรมดาๆ ที่เราไม่เคยนึกอยากจะทำ หรือไม่กล้าทำมาก่อน แต่เมื่อเห็นใคร ที่ลองทำดูให้เห็นเป็นตัวอย่าง ก็นึกลองอยากจะทำบ้าง ...ตัวอย่างเช่น ผมเป็นต้อกระจก หมอบอกให้ทำการเปลี่ยนเลนส์มาหลายปี ผม ก็ไม่กล้าทำซักที รู้จักคนที่ทำมาแล้วก็หลายคนแต่ก็ยังไม่กล้า จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมพบกับเพื่อนซึ่งปรกติจะใส่แว่นหนาเตอะใสๆ เพราะมีปัญหาเดียวกัน แต่ว่าใน วันนั้นเขาใส่แว่นกันแดดสีดำบางๆ ซึ่งมันแปลกตา จึงถามว่าใส่ contact lenses เหรอ เขาบอกว่าไปผ่าต้อมา ผมรู้ว่าหมอนี่มันกลัวการผ่าตัดยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น ก็เลยพูดกับตัวเองว่า "เขาทำได้ เราก็ต้องทำได้" แล้วก็นัดหมอไปขึ้นเขียงครับ... ทีนี้ก็มองเห็นชัดแจ๋ว ไม่ต้องใส่แว่นหนาๆ แล้วครับ "ความสามารถพิเศษเฉพาะตัว ห้ามลอกเลียนแบบ" ผมมองว่า บุคคลที่ทำอะไร ให้ชมอยู่นั้น มีพรสวรรค์ มีความสามารถในเรื่องนั้นๆเป็นพิเศษ เมื่อบวกกับความ พยายาม และความกล้าที่จะทำ ก็ทำให้สามารถทำอะไรที่ผู้คนส่วนใหญ่ทำไม่ได้ และมักจะเป็นการกระทำที่ออกไปในทางเสี่ยงกับอันตราย ...พลาดก็ถึงกับเจ็บตัว พิการ หรือไม่ก็ชีวิต ...ผมเล่นสกี (snow skiing) ได้แบบประมาณว่าดีพอสมควร แต่มีเพื่อนๆบางคน ที่เล่นผาดโผน ตีลังกา หมุนตัวกลางอากาศ อย่างนั้น ผมรู้ว่าตัวเองไม่มีความกล้า หรือมีความสามารถพอ ถึงแม้ว่าจะได้ลองทำดูบ้างแล้วก็ตาม แต่ก็รู้ว่าไม่มีทางที่ จะทำได้ดีไปกว่า basic และคิดว่าถ้าไม่เลิกทำก็คงจะเจ็บตัวถึงพิการได้ จึงคิดว่า อันนี้คือ "ความสามารถพิเศษเฉพาะตัว ห้ามลอกเลียนแบบ" จากคุณ : tnu - [ 10 ก.พ. 51 17:13:13 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เขาทำได้เราจะทำให้ได้มากกว่า ดีกว่า ไกลกว่า ความจริงก็คือ ทุกๆความรู้มนุษย์เราล้วนสืบทอดมาจากความรู้เดิมและท้าทาย หรือไม่ก็สร้างสรรค์มันขึ้นไปอีก นี่คือความหมายของชีวิตและการเรียนรู้ แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 51 20:19:13 จากคุณ : the author - [ 10 ก.พ. 51 20:17:40 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เขาทำได้ เราก็ต้องทำได้ ใช้ไม่ได้กับคนทุกคนครับ นี่เป็นความสามารถพิเศษเฉพาะตัว ห้ามลอกเลียนแบบ ก็ใช้ไม่ได้กับคนทุกคนเช่นเดียวกัน มันเป็นสีสันของโลกตะวันออกกับโลกตะวันตกครับ (เกี่ยวกันมั๊ยเนี่ย) จากคุณ : jazz..a.a.minor - [ 10 ก.พ. 51 23:45:48 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ชอบคำอธิบายของคุณ  tansy มากครับ  แจ่มแจ้งชัดแจ๋ว ^ ^ จากคุณ : ปฤษณะ - [ 11 ก.พ. 51 04:42:50 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เรื่องคนอินเดียจำ dictionary ได้ทั้งเล่มใน คคห 5 นั่นนะ เดี่ยวจะหาว่าเราโกหก เราเลยเอา link ของมหาลัย Oxford ที่มีบทความเรื่องนี้มาแปะไว้ให้ดูเลยว่า "ของจริง" ....แต่ที่น่าทึ่งก็คือว่า ชาวอินเดียผู้นั้นนะ จำ dictionary ทั้งเล่ม ไม่ได้ใช้เวลา "ชั่วขีวิต" หรือ "กว่าจะจำได้ก็ชาติหน้าบ่ายๆ" หากแต่ว่า "เขาใช้เวลาจำเพียงแค่ 10 เดือนเท่านั้นเอง ....!!!" แล้วใครบอกว่า "ความรู้อาจเรียนทันกันหมด" เรียนทันกันยังไง คนหนึ่ง "จำได้แค่ 10 เดือน" แต่อีกหลายล้านคน "ชาติหน้าบ่ายๆ กว่าจะจำได้" ....555+++... ตาม link นี้ไปอ่านดูได้ .... http://www.oup.com/elt/catalogue/teachersites/oald7/newsreader/articles/dictman?cc=global แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 51 15:26:36 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 11 ก.พ. 51 15:05:01 ]

ความคิดเห็นที่ 12 "เขาทำได้ เราก็ต้องทำได้" เป็นความคิดแบบ existentialism นะครับ ประเด็นคือ ไม่มีกฏเกณฑ์ใดๆห้ามให้เราทำ-ไม่ทำอะไร เรานั่นเองเป็นคนตัดสินใจเลือกว่าจะทำหรือไม่ทำ แต่ผลของการเลือกนั้นจะเป็นอย่างไรมันอีกเรื่อง ตามคุณ tansy ว่าครับ จากคุณ : Cryptomnesia - [ 12 ก.พ. 51 15:26:39 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอมองต่างออกไปนะครับ  เพื่อ ความหลากหลาย แรก "เขาทำได้ เราก็ต้องทำได้" นี่ ผมว่า เป็นวาทกรรมของเหล่าศรีธนญชัย.. ที่ชอบเล่นกับกฏกติกา  แบบ ถ้าคุณ(หรือไม่มีใครรู้-เห็น)เผลอ ผมก็ย่อมทำได้    เข้าทำนอง "ก็เขาทำกันทั้งนั้น"..............   โดยตั้งอยู่บนฐานคติที่ว่า  เขาทำได้  เราหรือฉันหรือพวกพ้องน้องพี่ของฉัน ก็ย่อมจะทำได้    เพราะไม่น่าผิด ไม่น่าแปลก  เพราะรู้ๆกันอยู่ในแวดวง   เพียงแต่อย่าทำให้เด่น ประเจิดประเจ้อ...ก็แล้วกัน  เช่น วัฒนธรรมน้ำร้อนน้ำชา  สินบนใต้โต๊ะบนโต๊ะ  ธรรมเนียมเลี้ยงดูปูเสื่อ   การจ่ายเงินกับจราจรเมื่อทำผิดซึ่งหน้า  แล้วไม่ต้องการเสียเวลาไปเสียค่าปรับที่สน.  เป็นต้น สอง  "นี่เป็นความสามารถพิเศษเฉพาะตัว ห้ามลอกเลียนแบบ" ตรงนี้อาจไม่มีอะไร เพราะโดยมากใช้กับการห้ามไว้ก่อน  ต่อกรณีมีโชว์ความสามารถพิเศษของบุคคลต่อสาธารณะ   เพื่อป้องกันอันตรายจากการเอาอย่าง  โดยเฉพาะจากเด็กๆที่ชอบลอง ชอบแปลก ชอบเก่งหรือชอบโชว์ จะได้ถือไว้แต่ต้นเสียก่อนเลยว่า   นี่เก่งแบบไม่ปรกติ ทำไปก็ไม่อาจทำได้ เพราะ อาจมีอันตรายมากกว่า อย่างไรก็ตาม  ถ้าวาทกรรมนี้   มิได้กลายพันธุ์จากระดับปัจเจกสู่ภาคสังคมใหญ่...ก็ไม่เป็นไร... แต่กรณีสังคมเอามาใช้กับ อภิสิทธ์ชนที่ทำร้าย ทำลายสังคมแล้วลอยนวล เช่น การโกงกิน  การทุจริตต่อหน้าที่  การฉ้อราษฏร์บังหลวง การทำลายสมบัติของส่วนรวมเพื่อตัวเอง-พวกพ้องแล้วเชิดหน้าชูตา ลอยเด่น โดยกฏหมายมิอาจเอาผิดหรือนำมาลงโทษได้.... ทั้งๆที่รู้กันในแวดวงใกล้ชิดว่า  เขารวยหรือได้ดีมาแบบไม่ดีอย่างไร ประเภทค้ายาเสพติดมา  เป็นเจ้าพ่อนักเลง คุมบ่อน คุมซ่อง ค้าของเถื่อนหนีภาษี  ค้าแรงงานมนุษย์  พวกตัดไม้ทำลายป่า   เป็นต้น   เช่นนี้ตรงนี้  เท่ากับ มันเป็นวาทกรรมเกราะป้อง แบบไม่ใช่ธุระ อย่าไปยุ่งเรื่องของเขา   มันก็อาจสะท้อนลักษณะโลกทัศน์เอาตัวรอด ขาดความรับผิดชอบทางสังคมของคนไทยได้...เช่่นกัน จากคุณ : dicky5 - [ 13 ก.พ. 51 14:44:49 ]