ค่าแปลงานที่แปลโดยนักแปลไม่ขึ้นทะเบียนผู้เชี่ยวชาญซึ่งแพงกว่านั้นสองสามเท่าก็มี
ค่าแปลขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ว่าจ้างและขึ้นอยู่กับว่า ผู้ว่าจ้างเชื่อฝีมือนักแปลมากน้อยแค่ไหน
การให้นักแปลขึ้นทะเบียนแปลก็ไม่เป็นหลักประกันเสมอไปว่าจะได้งานแปลที่ดี ส่วนใหญ่นักแปลขึ้นทะเบียนจะไม่แปลเอง แต่จะตรวจแก้งานแปลที่คนอื่นแปล และเซ็นรับรองว่าถูกต้อง
ในกรณีของงานแปลโดยนักแปลขึ้นทะเบียนผู้เชี่ยวชาญ ถ้าคุณเอางานไปแปลที่แถวๆ ถ.วิทยุ หรือ ถ.เพลินจิต เขาอาจรับหน้าร้านแค่ 350 -400 บาท (ราคาปกติเขา ไม่กล้าขึ้นราคามา 10 ปีแล้ว เพราะต้องตัดราคาคู่ต่อสู้แข่งกัน งานจึงคุณภาพห่วย) แล้วจ้างนักแปลคนใดคนหนึ่งให้แปลหน้าละ 175-200 บาท (บริษัทแปลกินหัวคิวนักแปล 50%) พอแปลเสร็จก็ส่งคำแปลให้นักแปลขึ้นทะเบียนผู้เชี่ยวชาญตรวจแก้ แล้วบริษัทแปลบวกค่าตรวจแก้ไปอีกหน้าละ 600-700 บาท มันถึงออกมาหน้าละ 1000 บาท
"แต่จริงๆแล้วคุณได้งานแปลคุณภาพแค่หน้าละ 175-200 บาทไปเอง...!!!!!"
ที่เราบอกว่า "ตรวจแก้" นั้นจริงๆแล้วเขาแทบไม่ได้ตรวจแก้เลย......ที่เรารู้ก็เพราะว่าเราเคยรับงานแปลราคาถูกๆแบบนี้ (พี่ nickycharles เรียกงานพวกนี้ว่า "ก๋วยเตี๋ยวเรือ") จากร้านแปลแถวๆ ถ.เพลินจิต กับ ถ.วิทยุ ...มาก่อนในอดีต
เวลาเราแปลงานที่ต้องส่งให้นักแปลขึ้นทะเบียนผู้เชี่ยวชาญรับรอง เราเห็นเขามีทะเบียนจากกระทรวงยุติธรรมเราก็เลยทดสอบดูดิว่าเขาจะรู้ศัพท์กฏหมายมากแค่ไหน เราเคยแปลเอกสารกฎหมายแล้ว "วางยาไว้" คือแกล้งแปลผิดข้อสัญญากฎหมายที่ยากๆ ...เราเคยแกล้งแปลผิดแบบเนียนมากๆเอาไว้หลายแห่งเลยอ้ะ ...แล้วดูดิว่านักแปลขึ้นทะเบียนจะมองเห็นไหม...ปรากฏว่าเขาไม่แก้มาเลยสักแห่งเดียว....!!!!!
พอรับรองกลับมา เราแกล้งบอกว่าโทษที ที่แรกเบลอๆ เราเลยแปลผิด ตอนนี้แก้ไขข้อผิดพลาดให้แล้ว แล้วเราก้อส่งคำแปล ที่แก้ไขแล้ว กลับไปให้นักแปลขึ้นทะเบียนผู้เชี่ยวชาญตรวจใหม่อีกรอบ ....มันสนุกดีอ้ะ...555+++... เขาก็แค่ประทับตรามาว่าแปลถูกเหมือนเดิม โดยไม่แก้ไขอะไรเลย ....!!!....บางทีก็ทำดัดจริตแก้คำแปลแค่คำสองคำที่แก้แล้วมันก็ไม่ดีขึ้นหรือเลวลงแต่อย่างใดเลย ....
แล้วอีกอย่างหนึ่งการตรวจแก้งานแปลของบริษัทแปล นักแปลขึ้นทะเบียนส่วนใหญ่จะต้องหยวนๆยอมรับคำแปลของนักแปล ที่ไม่ขึ้นทะเบียน โดยแทบไม่ได้แก้ไขเลย.... เพราะถ้ามัวแต่ไปแก้ยึบยั่บเหมือนบรรณาธิการต้นฉบับของสำนักพิมพ์ แก้คำแปลของนักแปลมืออ่อนๆ ให้ถูกต้อง ที่ต้องแก้เกือบทุกประโยค นักแปลขึ้นทะเบียนแทบจะหาเงินแบบ easy money ไม่ได้เลย
สรุปแล้วลูกค้าที่เน้นว่าต้องแปลโดยนักแปลขึ้นทะเบียนผู้เชี่ยวชาญนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทข้ามชาติที่ขาดประสบการณ์ในการประกอบธุรกิจในประเทศไทย หรือบางทีเป็นเงื่อนไขหรือข้อบังคับของหน่วยงานไทยบางแห่งที่ต้องการคำแปลจากนักแปลขึ้นทะเบียนผู้เชี่ยวชาญ แต่ใครล่ะจะไปเชี่ยวชาญในทุกสาขาได้...!!! สิ่งที่เราพูดหมายถึงว่า
"ถ้าคุณไม่รู้เรื่องที่คุณกำลังจะแปล คุณก็ไม่มีทางแปลมันออกมาได้ดี"...
แต่ถ้าคุณเป็นลูกค้าเอง ควรติดต่อนักแปลโดยตรง จะได้พูดคุยกันได้ว่างานแบบไหนเขาทำได้หรือไม่ได้อย่างไร และตัดเรื่องการรับรองจากนักแปลขึ้นทะเบียนไปได้เลย เนื่องจากเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มที่ไม่คุ้ม
ในกรณีที่คุณต้องเสียเงินหน้าละ 1000 บาท แต่ได้งานมูลค่าแค่ 175 บาทมานั้น หากคุณติดต่อนักแปลเอง แล้วยอมจ่ายนักแปลหน้าละ 1500 บาทหรือมากกว่านั้น นักแปลเขาจะตั้งใจแปลดีๆ (แทนที่จะแปลลวกๆแบบ..."เอา teen ซ้ายกวาด" (สำนวนนี้มาจากซือเจ๊แสนอักษร เธออุทานประโยคนี้ออกมาตอนเราโทรไปรายงานเธอว่า "เราเพิ่งแปลก๋วยเตี๋ยวเรือเสร็จ 30 หน้าภายในวันเดียว ต้องทำแบบนี้เพราะราคามันถูกนัก ...555...+++) ...เหมือนเมื่อแปลหน้าละ 175 บาท เพราะโดนบริษัทแปลกินหัวคิวไปแล้ว 50%) .....แต่คุณต้องทดสอบเป็นนะว่านักแปลเก่งจริง...แล้วคุณก็จะได้งานจากนักแปลไม่ขึ้นทะเบียน แต่คุณภาพสูงกว่างานจากนักแปลขึ้นทะเบียนผู้เชี่ยวชาญหลายเท่าเลยทีเดียว...!!!
สรุปแล้วลูกค้าที่เลือกนักแปลได้ดีที่สุดก็คือลูกค้าที่แปลเองเป็น แต่ไม่มีเวลาแปลนั่นเอง เพราะว่าเขารู้ว่านักแปลเก่งจริงหรือไม่ และแปลได้คุ้มค่ากับเงินค่าแปลหรือไม่นั่นเอง
แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 51 16:32:48
แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 51 14:35:21
แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 51 14:32:51
แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 51 14:22:57
แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 51 14:17:22