ความคิดเห็นที่ 3
ตอนอยู่ต่างแดน เราเคยใช้วิธี "ดิ้นรน" คิดอะไรง่ายๆที่เรานึกได้ภายใต้ดวงอาทิตย์ ขึ้นมาพูดวนไปวนมาจนฝรั่งช่วยเราคิดคำพูดได้ในที่สุด
เช่นครั้งหนึ่งเราคุยกับฝรั่งเรื่องประเทศปอร์ตุเกต พอเราออกเสียงชื่อประเทศเป็น "ปอร์ตุเกต" นะ ทุกครั้งที่ฝรั่งได้ยิน เขาก็จะพูดว่า
I beg your pardon. หรือ Sorry, I don't understand. (แล้วส่ายหัว) เราก็เลยต้องอาศัยสมองไว โดยการพูดว่า
"You know, Eusebio, the famous footballer, comes from 'ปอร์ตุเกต' ."
ฝรั่งคู่สนทนาเรา ก็เลยหัวเราะ แล้วพูดว่า
"Oh, I see. It's "พอร์ทยูเกิ่ล (Portugal)"
เลยตั้งแต่นั้นมาเราก็เรียนรู้ว่าประเทศ "ปอร์ตุเกต" ภาษาอังกฤษเขาไม่เรียกว่า 'ปอร์ตุเกต' แต่เขาเรียกว่า "พอร์ทยูเกิ่ล (Portugal)"...555+++...
อีกครั้งหนึ่งนะ เราพูดว่า casino กับฝรั่งแล้วลง stress ผิดที่ คือเราเล่นพูดแบบไทยๆ คือลากเสียงยาวเท่ากัน 3 พยางค์ เป็น "คาสิโน" ฝรั่งฟังไม่รู้เรื่อง เขาก็ Pardon? 3-4 รอบ เราก็ชักจะเวียนหัวเหมือนกัน เราเลยบอกว่า
"You know, it's the place where you go to play roulette."
อ้า..! ได้ผลว่ะ....
ฝรั่งพูดทวนว่า
"Oh, "เคอะ'ซีโน (casino)" you mean.
ตั้งแต่นั้นมา เราก็เรียนรู้ว่าคำว่า casino เขาออกเสียงลง stress หนักพยางค์แรก...!!!
พอตอนกลับมาเมืองไทยแล้ว และแล้วเมื่อหลายปีก่อนนี้ ตอนเราหาบทเรียนภาษาอังกฤษจากหนังสือ ไปสอนภาษาอังกฤษให้คนไทยนะ เราเจอเรื่องราวในหนังสือเกี่ยวกับคนไม่เก่งภาษาอังกฤษ แต่เก่งเรื่องเอาตัวรอดยิ่งกว่าเราเสียอีก...จะเล่าให้ฟัง...
เราพยายามเขียนโดยทบทวนจากความจำ แต่คงไม่เหมือนในหนังสือจริงๆนะ
เรื่องเป็นอย่างนี้ จะเล่าเป็นไทยปนอังกฤษให้ฟัง
ชาว Italian คนหนึ่งที่รู้ภาษาอังกฤษน้อยมากๆ ไปอเมริกา แล้วเข้าไปพักโรงแรม วันรุ่งขึ้นตอนกินอาหารเช้า เขาอยากกิน "ไข่" แต่ไม่รู้ว่าจะพูดภาษาอังกฤษว่าไง ...เผอิญมองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วเห็นไก่ตัวผู้เดินอยู่บนกำแพง เขาเลยชี้ให้พนักงานบริการดู แล้วก็มีบทสนทนานี้เกิดขึ้น
Italian guy: (มือชี้ไปที่ไก่ตัวผู้) What do you call that? waiter: It's a rooster. Italian guy: What do you call his wife? waiter: It's a hen. Italian guy: What do you call their children? waiter: We call them chicks (ลูกไก่). Italian guy: No, before that. waiter: Eggs. Italian guy: Good! Give me two eggs, some bacon and a few pieces of toast. waiter: ..????? อีกเรื่องหนึ่ง จากหนังสือเล่มเดียวกัน คราวนี้เป็นเรื่อง Italian โง่บ้าง...
เรื่องก็มาแนวเดียวกันคือ
ชาว Italian คนหนึ่งที่รู้ภาษาอังกฤษน้อยมากๆ ไปอเมริกา แล้วเข้าไปพักโรงแรม วันรุ่งขึ้นตอนกินอาหารเช้าเสร็จแล้ว ก็อยากเข้าไปเที่ยวในเมือง แต่กลัวหลงทาง ก็นึกขึ้นมาได้ว่าน่าจะจดชื่อถนนไว้บนกระดาษ ถ้าหลงทางเขาก็จะเดินเข้าไปที่สถานีตำรวจเพื่อเอากระดาษให้ตำรวจดู ตำรวจก็จะได้พาเขากลับไปที่โรงแรมได้
พอเขาออกไปเดินหลายๆแห่ง แล้วก็หลงทางเข้าจริงๆ แต่เขาก็ใจชื้นเพราะว่าจตชื่อถนนไว้แล้ว จึงเดินเข้าไปในสถานีตำรวจ และนี่คือบทสนทนา
policeman: What can I do for you, sir? Italian guy: I got lost. policeman: Where do you stay? Italian guy: In a hotel. policeman: What's the name of your hotel? Italian guy:...??? (ฟังไม่ทัน).... policeman: Where is it? Italian guy: Here it is....ยื่นกระดาษที่จดชื่อถนนให้ตำรวจ
พอตำรวจอ่านดูนะ ข้อความที่อยู่บนกระดาษที่ชาว Italian จนไว้คือ
cul-de-sac (แปลว่า "ทางตัน") ...........ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ........
แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 51 23:59:04
แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 51 23:56:40
แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 51 23:47:05
แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 51 21:06:05
แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 51 20:35:47
จากคุณ :
tansy (iwrite4u)
- [
19 ก.พ. 51 20:29:56
]
|
|
|