ความคิดเห็นที่ 1 บางคนอาจว่า ไม่ชอบบ้านเกิด นักก็ไปอยู่ประเทศอื่นสิ ถูกต้องนะคร๊าบบบบบบบบบบ เราอยู่ต่างประเทศ ทุกครั้งที่กลับ บ้าน เจอรถแท็กซี่ พาอ้อม ทุกที เจอคนไทยบริการคนไทยด้วยใบหน้า เหมือนทะเลาะกับ สามี หรือ ภรรยาที่บ้านมา แต่บริการ ฝรั่งต่างชาติหัวแดงแบบแทบกราบ............... เดี๋ยวมาเขียนต่อ จากคุณ : My life in Japan. - [ 16 มี.ค. 51 10:02:27 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผมว่าฝรั่งมาอยู่เมืองไทยแล้วมีความสุขที่สุดนะครับ ลองไปดูแถบภาคอีสานซิ มีลูกเขยฝรั่งวัยเกษียณมาแต่งงานอยู่กินกับสาวไทยเพียบเลย สำหรับผมเมื่อก่อนผมว่าเมืองไทยเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูงปรเทศนึงนะ แต่มาช่วงนี้มีกรณีปาหิน ปล้นร้านทอง บ่อยๆ ผมชักไม่แน่ใจแล้วซิ อย่างเมื่อสามอาทิตย์ก่อน บ้านผมก็เพิ่งโดนลักมิเตอร์น้ำหน้าบ้านไป มันเอาไปทั้งซอยเลย บ้านญาติผมก็โดน แล้วยังมีกรณีขโมยน๊อตเสาไฟฟ้าอีก  เศรษฐกิจแบบนี้ โจร-ขโมยมันชุกชุมครับ แต่ยังไงผมก็ยังรักที่จะอยู่ประเทศนี้ครับ สำหรับเรื่องแท๊กซี่ขี้โกงแถวสนามบินนี่มันก็มีทุกประเทศนั่นแหละครับ ตอนผมไป KL ผมก็เจอแท๊กซี่ขี้โกงมันพันไปตั้งพันกว่าบาท หนำซ้ำเป็นคนพุทธด้วยกันอีก แต่แท๊กซี่ทั่วไปมันไม่อย่างงี้หรอกครับ เพราะผมนั่งแท๊กซี่บ่อย เพราะมันก็ประหยัดกว่าเอารถไปเอง  ยังไม่เคยเจอนะครับ ส่วนสนามบินนี่ตอนสมัยที่อยู่ดอนเมือง ปรกติแล้วเวลากลับจากต่างประเทศนี่ ผมจะยอมลงทุนลากกรเป๋าไปเรียกรถที่ถนนใหญ่หน้าสนามบินครับ ไม่เรียกรถป้ายดำที่จอดรออยู่หรอก เพราะผมรู้ว่าโดนฟันแน่ๆ จากคุณ : piras - [ 16 มี.ค. 51 10:40:48 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ประเทศไทย ยังมีกลิ่นอายศักดินาครับ ดังนั้นแล้ว นายทุน มีความสุขที่สุด รองมาก็พวก ผู้มีอิทธิพล พวกนี้มีความเสี่ยงที่จะโดนยิง รองมาก็ คนต่างชาติที่เข้ามาอยู่ สาวไทยเอาใจเก่ง อาหารอร่อย ของถูก แท๊กซี่เมืองไทย ผมนั่งบ่อยเวลาไป กลับ เที่ยวกลางคืน บริการดีตลอดนะ ชวนคุย เฮฮาดี จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 16 มี.ค. 51 10:48:12 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ความสุขด้านไหนคะ... ถ้าพูดถึงคุณภาพชีวิต ด้านวัตถุ เราก็ว่า ชนชั้นสูง เจ้านาย คนมีเงินคงมีความสุขที่สุด ด้านความปลอดภัย ปัญหาสังคม การเมือง เศรษฐกิจ มากมาย ยอมรับว่าตัวเราเองก็ไม่ค่อยชอบ ทั้งกลัวทั้งกังวล แต่... สำหรับเราแล้ว ประเทศไทย เป็นประเทศที่เราเหยียบได้เต็มฝ่าเ้ท้าที่สุด อุ่นใจที่สุด อาหารถูกปากที่สุดค่ะ ชอบยิ้มคนไทย ชอบน้ำใจคนใทย รักเมืองไทยมากมายค่ะ จากคุณ : KCPT - [ 16 มี.ค. 51 11:47:00 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เราคิดว่า เราชอบความเป็นชนบท ของไทยมากๆ มีน้ำใจ บ้านใกล้เรือนเคียงเรียกไปกินข้าว งานวัดก็ช่วยกันจัด ในเมือง บ้านใกล้เรือนเคียงแทบจะไม่รู้จักกันเลย น้ำใจหายากมากๆ ที่บ้านเรา อยู่ตรงข้ามบ้านคนจีนผู้ร่ำรวย จอดรถหน้าบ้านแน่นอนหล่ะ อยู่ตรงข้ามบ้านเราตลอดทั้งรถส่งสินค้า ( พวก อะไหล่รถยนต์ ) ประจำ แต่พอบ้านเราจอดรถบ้าง โวยวาย เซ็งจริงๆ จากคุณ : My life in Japan. - [ 16 มี.ค. 51 12:10:33 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นด้วยกับ คคห ที่4 ครับ ผมว่าที่ กทม กับต่างจังหวัดนี่คนละเรื่องเลย หน้ามือเป็นหลังทีน แต่เพื่อนชาวต่างชาติ 90% เค้าชอบบ้านเรามากๆครับ บางคนย้ายมาตั้งรกรากที่นี่เลย จากคุณ : pixelchio - [ 16 มี.ค. 51 13:14:16 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมก็มีความสุขแบบของผมครับ ผมไม่่ร่ำรวย (ออกจะยากจนด้วยซ้ำไป) ไม่มีอิทธิพลหรือภิสิทธิ์อะไร เป็นพลเมืองธรรมดาๆคนหนึ่งอาศัยอยู่ในกรุงเทพ เดินไปเรียนและเดินกลับทุกวัน ความปลอดภัยในชีวิตมีมากมาย เที่ยงคืนตีหนึ่งเดินกลับไปได้สะดวกใจไม่ต้องกลัวอะไร ประเทศเราดีขนาดไหน มีอาหารราคาไม่แพง ราคาที่อยู่อาศัยก็ไม่หฤโหด มีความสงบสุขระดับหนึ่ง เทียบกับบางประเทศที่ต้องถูกเกณฑ์ไปรบกันตั้งแต่เด็ก พื้นที่บางที่ก็เข้าไปไม่ได้เพราะมีกับระเบิด ต้องรออาหารบริจาคจากต่างประเทศ ส่วนถ้าถามว่าใครมีความสุขที่สุด ็คงตอบว่า คนที่อยู่แล้วสบายใจก็มีความสุขหมดครับผม จะจนจะรวย จะมียศศักดิ์หรือสามัญชนไม่ใช่ปัจจัย แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 51 13:31:10 จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) - [ 16 มี.ค. 51 13:25:00 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าวัดความสุขจากวัตถุนิยมแล้ว มันไม่มีประเทศไหนหรอกครับที่คนรวยมีความสุขน้อยกว่าคนจน แต่ผมคิดว่าพูดถึงดัชนีความสุขมวลรวมแล้วคนชนบทน่าจะมีความสุขมากกว่าคนเมืองนะ จากคุณ : เชษฐา - [ 16 มี.ค. 51 13:39:54 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เงินสามารถซื้อความสุขได้ทางวัตถุครับ แต่ถ้าทางด้านจิตใจแล้ว ผมว่ามันขึ้นอยู่กับปัจเจกบุคคลมากกว่า ถ้าเค้ารู้จักพอ มีครอบครัวที่อบอุ่น มีสังคมที่ดี สภาพแวดล้อมที่ดี มันก็มีความสุข แต่โดยทั่วไปแล้ว ผมว่าคน ไม่ว่าจะประเทศไหนทั้งนั้น ก็จะมีความสุขที่สุดถ้าได้อยู่ในแผ่นดินเกิด อยู่กับครอบครัวของตนเอง ปัญหาคือว่าคนในบางประเทศ ลำบากครับ ด้วยเหตุนี้เราจึงพบคนพม่า ลาว มาขายแรงงานในประเทศเรา เพราะรายได้ดีกว่า ซึ่งถ้าได้เจอคนดีก็ดีไป แต่ถ้าไปเจอพวกมิจฉาชีพ ก็จะตกเป็นเหยื่อ อยย่างเช่นแรงงานชาวพม่าที่ถูกบังคับใช้แรงงานเยี่ยงทาสและโดนฆ่าบ่อยๆบนเรือประมงไทย อย่างไรก็ตาม สำหรับบ้านเราในเรื่องของความปลอดภัยนั้น ผมว่ายังไม่ปลอดภัยนะ ถ้าเทียบกับบางประเทศอย่างญี่ปุ่นรือสิงค์โปร์ โดยเฉพาะคนที่อาศัยอยู่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังมีความขัดแย้งกันอยู่ ส่วนในกรุงเทพฯหรือจังหวัดอื่นๆ ก็ยังเกิดคดีอยู่บ้าง และบ่อยครั้งเลยที่คดีพวกนี้จะอุฉกรรจ์มาก ไม่เชื่อก็ลองดูรายการเรื่องจริงผ่านจอ ตอน 4 ทุ่มครึ่ง วันพฤหัสที่ช่อง 7 ซิครับ หรืออย่างพาดหัวข่าวไทยรัฐวันอาทิตย์นี้ เรื่องฆ่าข่มขืนแหม่มสาวชาวสวีเดนที่พัทยา จากคุณ : piras - [ 16 มี.ค. 51 15:15:43 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จำนวนอาชญากรรมต่อปีของประเทศต่างๆ (รวมทุกแบบตั้งแต่คดีจิปาถะแบบลักเล็กขโมยน้อย ไปจนถึงฆ่าคนวางเพลิง) ที่มา http://www.nationmaster.com/graph/cri_tot_cri-crime-total-crimes ไทยเราก็ไม่เลวร้ายเท่าไหร่ครับ เมื่อเทียบกับหลายๆประเทศด้านบนดังภาพ จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) - [ 16 มี.ค. 51 17:18:01 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ยิ่งเมื่อเป็นจำนวนการเกิดอาชญากรรม/สัดส่วนประชากรแล้ว สถิติของไทยรูดมหาราชไปแถวๆปลายตารางเลยหน่ะครับ จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) - [ 16 มี.ค. 51 17:33:42 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มาช่วยเสริมคุณอุ้ย เอา crime per capita ซีกบนมาให้ดู จากคุณ : เชษฐา - [ 16 มี.ค. 51 18:09:48 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่น่าเชื่อว่า Crime Rate ของเราจะต่ำกว่าญี่ปุ่นนะครับ อีกอย่างผมว่าข้อมูลมันเก่าไปนิดนึง มีถึงแค่ปี 2000 เอง ปัจจุบันเศรษฐกิจฝืดเคืองมาก คนตกงานเยอะแยะ ไหนจะมีปัญหาภาคใต้อีก ผมว่าถ้ามา Compile ใหม่ ประเทศไทยอาจจะถูกเลื่อนอันดับขึ้นมาก็ได้  ส่วนไอ้กันนี่มันแน่นอนอยู่แล้ว มันถึงกับสร้างคุก Supermax สำหรับขังอาชญากรตัวฉกาจโดยเฉพาะ หนำซ้ำในคุกมันก็ยังแบ่งเป็นแก๊งค์อีก มีทั้งแก๊งค์คนขาว แก๊งค์พวกสเปนิช แก๊งค์คนดำ ฆ่ากันเองในคุกอีก  สมัยผมอยู่บอสตันเมื่อสิบกว่าปีก่อนนี่ ตอนกลางคืนนี่ไม่กล้าเดินออกมาข้างนอกเลยครับ อันตรายมากๆ  บ้านเรายังไม่ถึงขนาดนั้น จากคุณ : piras - [ 16 มี.ค. 51 19:49:39 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ^ ^ เห็นกราฟข้างบนแล้วตกใจ ประเทศที่ดูแล้วสงบๆอย่างฟินแลนด์หรือนิวซีแลนด์ทำไมเป็นเช่นนั้นหล่ะ ผมว่าผมอยู่ประเทศที่ผมรักแห่งนี้ ผมถือทุกสิ่งรอบตัวเราเป็นเรื่องธรรมชาติที่ผมยอมรับที่จะอยู่กับมันครับ แต่ผมว่าบ้านผมโชคดีมากๆ ครอบครัวผมยังไม่เคยต้องเจอกับอาชญากรรมเลยครับ จากคุณ : newuno - [ 16 มี.ค. 51 19:56:18 ]

ความคิดเห็นที่ 15 นั่นเป็นอาชญากรรมที่เขาระบบนะครับ ผมไม่แน่ใจว่าของไทยที่เขา 'ตกลงกันเอง' แบบไม่เข้าระบบจะมีมากกว่านั้นหรือเปล่าและเท่าไหร่? จากคุณ : Nexus - [ 17 มี.ค. 51 09:50:16 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คนรวยบางคนก็ไม่ค่อยปลอดภัยนะครับ พวกรวย แต่ไม่มีอำนาจนี่ ขับรถอยู่ดีๆ อาจจะโดนดักปล้นกลางทาง ทำธุรกิจต่างจังหวัด อาจจะโดนเก็บค่าคุ้มครองได้ ต้องพวกศักดินา เช่น นายทหาร ข้าราชการ ตำรวจ นักการเมือง และเจ้าพ่อทั้ง  เลยครับที่มีความสุข มีอำนาจไว้ก่อน แล้วอะไรๆ จะสบาย ลองสังเกต อดีต นายกดูดิ รวยอยุ่แล้ว แต่ไม่มีอำนาจ เลย มาเล่นการ แต่ ดันไปเหยียบเท้าใครบางคน เลยโดนเล่นงานซะอ่วม จากคุณ : เหล่าฟาง - [ 17 มี.ค. 51 09:51:25 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมว่าอคติเกินไปหรือเปล่าครับ ผมอยู่กรุงเทพมาทั้งชีิวิตก็ยังไม่เคยโดนปล้นเลยสักครั้ง ผมว่าเพราะเราอ่านไทยรัฐมากเกินไปหรือเปล่าเราถึงคิดว่าประเทศไทยมีอาชญากรรมสูง จากคุณ : Pongkm (Pongkm) - [ 17 มี.ค. 51 11:39:27 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่โดนก็ถือว่าบุญแล้ว ลองคิดถึงเจ้าของร้านทองที่อยู่ดีๆก็มีโจรปืนเอาปืนอาก้ามาปล้นทองไปจากร้านซิ หรือไม่ก็ขับรถบนถนนหลวงอยู่ดีๆก็มีคนปาหินเข้าใส่ หรือไม่ก็อยู่ดีๆมีคนในเครื่องแบบเอายาบ้ามายัดใส่เพื่อไถตังค์  อ้อ... ผมอ่านทั้งไทยรัฐและ Bangkokpost ครับ ไทยรัฐอ่านเอาสีสรร Bangkokpost อ่านเอาสาระ แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 51 12:41:05 จากคุณ : piras - [ 17 มี.ค. 51 12:38:38 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เอาง่ายๆ โดนตำรวจจราจรจับ ใครที่มีเพื่อนมีญาติมีคนรู้จักก็สามารถเอารถออกได้ง่ายๆ เคยเห็นกับตา รถแต่ง เด็ก ช่าง ซ้อน สี่  ขี่ผ่านตำรวจคุยนิดๆหน่อยๆก็ผ่านได้ อึ้ง จากคุณ : My life in Japan. - [ 17 มี.ค. 51 14:24:52 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เผอิญว่าเป็นคนธรรมดา  ไม่รวย  ไม่จน  มีบ้านอยู่ มีรถขับ   มีพี่สาวใจดีอยู่ 1คน คุณพ่อกับคุณแม่พร้อมหน้า  มีเพื่อนดีๆอยู่ 5-6 คน  ไปไหนไปกัน ถึงไม่ร่ำรวยแต่ก็รู้สึกมีความสุขดี (รู้สึกว่าตัวเองโชคดีจังแฮะ) เมื่อปลายปีก็พึ่งโบกรถจากขอนแก่นไปเที่ยวเชียงใหม่ไม่เสียตังค่ารถซักกะบาท   แถมได้ขนมมากินด้วย(เกรงใจ๊เกรงใจแต่ก็กิน - -")  คนไทยก็ยังใจดีอยู่  ที่ต่างจังหวัดก็ยังยิ้มให้กันอยู่ ไปเที่ยวปาย เพื่อนมันเกิดท้องเสียแบบทนไม่ได้จริงๆ  วิ่งไปขอเข้าห้องน้ำที่บ้านคนแถวนั้น  พอมันเข้ารอบที่สองคุณป้าแกคงสงสาร ก็เลยชงชาให้มัน 1 แก้ว ได้ผลหายจุ๊ดๆเลย  ทั้งที่เป็นร้านขายของแต่แกไม่คิดตังซักกะบาท ที่กรุงเทพฯบางครั้งก็ยังยิ้มให้กันอยู่ นะ   ส่วนตัวเวลาเจอคนแก่กับเด็กขึ้นบีทีเอสก็ยังลุกให้นั่งอยู่(เผอิญโตมากับสังคมแบบนั้นตั้งแต่เด็กก็เลยเห็นเป็นเรื่องธรรมดาว่าต้องทำ ไม่ทำจะเป็นเรื่องแปลก)  เคยลุกให้ผู้หญิงฝรั่งแก่ๆคนนึงด้วย ทีแรกแกก็แปลกใจแต่ก็นั่ง ยิ้มหวานให้เชียว แค่นี้ก็ชื่นใจแล้วววว ร่ายมาซะยาว ประเทศไทย ถึงเป็นคนธรรมดาก็อยู่อย่างมีความสุขได้เน้อ  เพราะความสุขอยู่ที่ใจ สงสัยที่เราตอบอย่างนี้ได้เพราะยังไม่เคยเจอล่ะมั้งว่าความทุขก์จริงๆคืออะไร  เอาเป็นว่าอยู่ประเทศไทยมีความสุขก็แล้วกัน จากคุณ : ซอสมะเขือเทศหมด - [ 17 มี.ค. 51 15:20:29 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ถึงมันมีอะไรแย่ ๆ เยอะ แต่สิ่งที่ดี ๆ ก็ยังมีอยู่มาก และเป็นสิ่งที่ทำให้ผมไม่คิดจะย้ายไปอยู่ที่ไหนครับ ^ ^ จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 17 มี.ค. 51 16:57:45 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เห็นข่าวอะไรทุกวันเป็นห่วง พ่อแม่ และน้อง จังเลย จากคุณ : My life in Japan. - [ 17 มี.ค. 51 19:28:46 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อย่างหนึ่งที่เรารู้สึกเกี่ยวกับเรื่องอาชญากร  เรามองว่า ไม่มีใคนเข้าใจสภาพที่แท้จริงของสังคมนั้นๆ ดีเท่าเจ้าของประเทศ สิ่งที่เรามองว่าประเทศเราเองว่าน่ากลัว อันตราย... และมองเค้าว่าปลอดภัย น่าอยู่ จริงแล้ว เค้าเองก็อาจมองตัวเอง และมองเราด้วยสายตาเดียวกัน ตอนที่เราเคยอยู่ประเทศจีน ใครๆ ก็บอกว่า ข้างนอกอันตราย แต่เรากลับกล้าที่จะเดินทางคนเดียว ตี1-2 เดินบนถนนได้ ไม่กลัว เหมือนกัน เพื่อนต่างชาติที่อยู่เมืองไทย เราบอกว่าอย่ากลับดึกนะ อันตราย นั่ง taxi อันตราย ต้องระวังงงง.. แต่เค้ากลับไม่กลัว บอกว่า ประเทศไทยปลอดภัย อีกอย่างนะคะ สำหรับเรา ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้สถานที่นั้นๆ น่าอยู่และอยู่่แล้วมีความสุข คือ ที่ๆ มีคนที่เรารัก และคนที่รักเรา อยู่ข้างๆ ไม่ว่าจะเป็นประเทศอะไร หากเราต้องไปอยู่ประเทศหนึ่งคนเดียว ไม่ว่าประเทศนั้นจะดียังไง เราก็ไม่มีความสุขค่ะ เพื่อนเราที่เป็นชาวญี่ปุ่น แต่งงานกับคนจีน เราเคยถามว่า ถ้ามีลูกอยากให้อยู่ญี่ปุ่นหรือจีน เค้าบอกเราว่า ด้านคุณภาพชีวิต ญี่ปุ่นดีว่า แต่ ด้านสภาวะจิตใจ จีนดีกว่า ดี/ร้าย แล้วก็คนมอง แล้วแต่แง่มุมที่คนใส่ใจค่ะ จากคุณ : KCPT - [ 17 มี.ค. 51 20:15:02 ]

ความคิดเห็นที่ 25 สมัยที่ผมศึกษาอยู่ต่างประเทศสี่ปีครึ่งนี่ บอกตรงๆว่าเหมือนตกนรกครับ อยากกลับบ้านอยู่ทุกเวลา ที่โน่นถึงแม้อะไรมันจะล้ำสมัยกว่า แต่มันก็เป็นวัตถุนิยมไปหมด อีกอย่างคือ ผมรู้สึกว่ายังไงก็ไม่ใช่ประเทศของผม ความเท่าเทียมกันย่อมไม่มีอยู่แล้ว อันนี้เป็นธรรมดาของสังคม  ยิ่งพื้นที่ที่ผมไปอยู่นี่ยิ่งเป็นทางใต้ด้วย การรังเกียจสีผิวย่อมรุนแรงกว่าทางเหนือ บ่อยครั้งที่ผมเข้าไปทานอาหารที่ร้านของฝรั่งคนเดียว แล้วโดนมองด้วยสายตาแปลกๆจากคนขาว คล้ายๆกับว่าไอ้เหลืองนี่มาทำอะไรที่นี่  เพื่อนที่สนิทที่สุดของผมที่โน่นนอกจากคนไทยแล้ว ก็มีคนจีนแผ่นดินใหญ่กับคนฮ่องกงอีกคน คนหลังนี่อพยพโยกย้ายครอบครัวมาตั้งรกรากเปิดร้านอาหารจีนแบบ Fastfood ที่นี่ ผมไปกินมาเป็นปีๆก็เลยสนิทกัน  ช่วงท้ายๆก่อนที่ผมจะกลับนี่ เพื่อนฮ่องกงผมเชิญผมไปทานอาหารวัน Thanks Giving ไอ้เราก็รู้สึกอบอุ่นใจมาก คิดว่าพ่อ-แม่เค้าก็เป็นคล้ายๆกับญาติผู้ใหญ่เราที่โน่น ก็รู้สึกมีความอบอุ่นขึ้นมาหน่อยนึง  เพราะฉนั้นตอนนี้เรื่องความคิดที่จะไปอยู่ต่างประเทศสำหรับผมนี่ เลิกพูดได้เลย เพราะได้รับบทเรียนมาแล้วและก็เข็ดแล้วครับ จากคุณ : piras - [ 17 มี.ค. 51 21:32:32 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ผมว่าเป็นเพราะเรารู้เรื่องประเทศเราดีกว่าประเทศอื่น และรับรู้ข่าวสารประเทศอื่นน้อยกว่าของประเทศตัวเองรึเปล่า เราถึงมองว่าที่อื่นปลอดภัยกว่าบ้านเรา จากคุณ : newuno - [ 18 มี.ค. 51 01:58:17 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ก่อนอื่น อิฉันขอติงหลายท่าน ที่คิดว่า บ้านเราอาชญากรรมเยอะนั่น ต้องนึกนิดนึงนะคะ ว่า เมืองไทย ไม่ใช่กรุงเทพมหานคร เพราะฉะนั้น จะเอามาตรฐานเมืองกรุง เป็นมาตรฐานประเทศนั้น มันก็ไม่ถูก สำหรับอิฉัน ขอลอก คคห 4นะคะ แต่... สำหรับเราแล้ว ประเทศไทย เป็นประเทศที่เราเหยียบได้เต็มฝ่าเ้ท้าที่สุด อุ่นใจที่สุด อาหารถูกปากที่สุดค่ะ ชอบยิ้มคนไทย ชอบน้ำใจคนใทย รักเมืองไทยมากมายค่ะ จากคุณ : KCPT จากคุณ : letsgokrabi - [ 18 มี.ค. 51 12:54:10 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ต่างจังหวัดก็สะบายครับ ห้างก็มี คนไม่เยอะไม่ต้องแย่งอะไรกันมาก ข่าวอาชญากรรมในหนังสือระดับประเทศมันเยอะครับ แต่ข่าวสื่อในท้องถิ่นมีไม่เยอะ ไม่ได้น่ากลัวไร จากคุณ : ไม่ได้มีสิบมือ (ไม่ได้มีสิบมือ) - [ 18 มี.ค. 51 13:12:48 ]

ความคิดเห็นที่ 29 กลับมาอีกที อ่านข้อความในหัวข้อกระทู้แล้วพาลนึกถึงข่าวที่นักเรียนพกปืนไปโรงเรียน แล้วกราดยิงเพือนร่วมชั้น ตายไปหลายคน โชคดี ที่เหตุการณ์อย่างนี้ ยังไม่เคยเกิดขึ้นในเมืองไทยเลยนะคะ คงเราประเทศเรายังเครียดไม่ถึงจุดนั้น และหวังว่า จะไม่มีวันเป็นแบบนั้น จากคุณ : letsgokrabi - [ 19 มี.ค. 51 02:58:08 ]

ความคิดเห็นที่ 30 กระทู้ นี้.................................................... เชิญออกความคิดเห็นได้  เต็มที่ จากคุณ : My life in Japan. - [ 19 มี.ค. 51 12:27:31 ]

ความคิดเห็นที่ 31 กำลังดูรายการ "เรื่องเด่นเย็นนี้" อยู่  จับได้แล้วนี่ฆาตกรสังหารโหดเชือดคอแหม่มสวีเดนที่ภูเก็ต  ภาพลักษณ์ของประเทศที่ทำมาแทบตาย กลับต้องมาสลายลงเพราะไอ้ฆาตกรใจโหดเพียงคนเดียว อาทิตย์ก่อนโน้นก็จับได้เหมือนกัน คนทะเลาะกับเมียแล้วอารมณ์เสีย ก็เลยปาหินเข้าไปในรถสิบล้อ โดนเด็กสิบขวบเสียชีวิต อนิจจาประเทศไทย...เมืองที่แสนจะปลอดภัยไร้กังวล... จากคุณ : piras - [ 19 มี.ค. 51 17:05:29 ]

ความคิดเห็นที่ 32 สำหรับข่าวการฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวสวีเดน... ฟังแล้วเศร้าค่ะ เคยมีเพื่อนที่ไปเรียนที่สวีเดน เพื่อนเล่าให้ฟังว่า ชาวสวีเดนมีความรู้สึกที่ดีกับเมืองไทย และคนไทยมาก ขนาดตอนเกิดสึนามิมีชาวสวีเดนตายไปเป็นจำนวนมาก... เพื่อนเราก็แอบถามเค้าไปว่า ยังจะมาเที่ยวเมืองไทยอีกมั้ย เค้าก็บอกว่า จะมาแน่ๆ แต่แล้ว ก็เกิดเหตุการณ์อย่างนี้... จากคุณ : KCPT - [ 19 มี.ค. 51 20:46:33 ]

ความคิดเห็นที่ 33 แผลได้เปิดไปแล้ว คงจะต้องอาศัยเวลาเท่านั้นที่จะเยียวยาล่ะครับ ผมดูข่าวตำรวจพาตัวฆาตกรมาขอขมาต่อพ่อแม่ของแหม่มแล้วรู้สึกบอกไม่ถูกยังไงก็ไม่รู้ ลองเอาอกเค้ามาใส่อกเราดูซิ  แต่ยังไงมันก็ยังดีกว่าที่ไม่ทำอะไรเลย คน:-)แบบนี้ สังคมต้องช่วยกันประนามครับ ไม่แน่ภาพลักษณ์ของประเทศเราอาจจะดูดีกว่านี้ขึ้นมาหน่อย หากมีข่าวไอ้ฆาตกรใจโหดคนนี้โดนรุมประชาทัณฑ์ นี่เข้ามอบตัวเพื่อหนีโทษประหารนี่ ปัญหาที่สำคัญตอนนี้คือพฤติกรรมเลียนแบบที่แพร่ระบาดไปทั่ว ทั้งเรื่องปาหินและถอดน๊อตเสาไฟฟ้าแรงสูง อีสานนี่โดนไปหลายจังหวัดแล้ว ไม่รู้คำว่าสำนึกในสมบัติของชาติมันหายไปไหนหมด จากคุณ : piras - [ 19 มี.ค. 51 22:34:56 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ฟังข่าวแล้วเศร้าใจค่ะ แต่อิฉันมีเรื่องเล่า(อีกแล้ว หลายปีก่อนนู้น (นานมาก อิฉันยังเป็นนักศึกษาอยู่เลย) มีข่าวครึกโครมใหญ่โต ว่าแหม่มสาว โดนหนุ่มบนเกาะพีพี ลากไปกักขัง และข่มขืน พร้อมรูดทรัพย์ ฟังแล้ว หดหู่มากเลยใช่ไม๊คะ  ทำไมทำได้ขนาดนั้น เอาเค้าไป ขังไว้ตั้งหลายวัน ทั้งข่มขืน ทั้งรูดทรัพย์  โกรธมากเลยค่ะ แต่ปิดเทอมปีนั้น ก็ไป พีพี อีกนั่นแหละ (อิฉันไปเกือบทุกปี เพราะหลงเสน่ห์หนุ่ม เอ๊ย ทะเลอันดามัน) ได้จังหวะ เลยคุยกะพี่เจ้าของร้านดำน้ำ ถึงข่าวคราวที่เพิ่งซาไป พี่เค้าบอกว่า  เรื่องจริงนั้นมีอยู่ว่า เจ้าหนุ่ม กะแหม่มสาวนี้ ควงกันอยู่พักใหญ่ ตามประสา beach boy ตัวคล้ำๆ เนื้อแน่นๆ เป็นที่ถูกปากแหม่มๆทั้งหลาย ทีนี้ ประมาณว่า สิ้นเดือน  เมียของเจ้าหนุ่ม เลยลงเกาะมาเยี่ยม หนุ่มคนนี้ เลยต้องชิ่งแหม่ม กลับไปซบ อกเมีย เจ๊แหม่ม แก เกิดหึงขึ้นมา  ประมาณว่า ตรูก้อเมียเหมือนกัน ไปร้องโวยวาย หน้าบ้านพัก เรียกร้องขอปั๋วคืน เจ้าหนุ่มไม่ยอมออกมา (สงสัยเมียดุ) เจ๊แหม่มแกเลยไปแจ้งความ แล้วก้อ ฟ้องนักข่าว เป็นเรื่องราวใหญ่โต ฉะนี้ แล .... จากคุณ : letsgokrabi - [ 20 มี.ค. 51 20:52:34 ]

ความคิดเห็นที่ 35 หมูแฮมมีความสุขที่สุด จากคุณ : My life in Japan. - [ 21 มี.ค. 51 17:10:48 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ไอ้หงิก... จากคุณ : piras - [ 21 มี.ค. 51 17:22:50 ]