ความคิดเห็นที่ 1 อยากทราบอยู่ครับ ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ๆนะครับ จากคุณ : newuno - [ 21 เม.ย. 51 22:35:19 ]

ความคิดเห็นที่ 2 โอ้ อยากรู้เรื่องจังเลยครับ เป็นความรู้ใหม่เลยนะเนี้ย จากคุณ : itislove - [ 21 เม.ย. 51 23:28:59 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ที่อินเดียก็มีระบบวรรณะหรือ Caste System เหมือนกันครับ ต่ำที่สุดคือพวกวรรณะจัณฑาล  ไม่ทราบว่าปัจจุบันนี้จะยกเลิกระบบนี้ไปหรือยัง จากคุณ : piras - [ 22 เม.ย. 51 00:03:57 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เคยอ่านผ่านๆเกี่ยวกับชนชายขอบของญี่ปุ่น เท่าที่จำได้ก็มีพวก เอตะ,บุระคุมิน,ไอนุ,เกาหลี อยากรู้เรื่องบุระคุมินกับเอตะอยู่เหมือนกันครับ รายละเอียดหาอ่านยากกว่าเรื่องของไอนุกับเกาหลีอพยพเสียอีก ปูเสื่อ ปูเสื่อ ด้วยคนครับ จากคุณ : บัตรผ่านตัวจริง - [ 22 เม.ย. 51 01:08:59 A:125.26.143.164 X: TicketID:158636 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ธรรมชาติของคน คนญี่ปุ่นยุคเก่าไม่กินเนื้อวัวด้วยนะครับ ยิ่งสังคมแก่งแย่งชิงดี ผมมองว่า จะทำให้สังคมเจริญกว่า แม้จะมีคนที่ถูกทิ้งบ้าง จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 22 เม.ย. 51 02:25:18 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ลงชื่อ จากคุณ : luk_Nutt - [ 22 เม.ย. 51 08:49:19 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ลงชื่อด้วย   คุณpiras เรื่องอินเดียนี่จำได้ว่าตอนซึนามิถล่ม  ประเทศอินเดียบางพื้นที่ทิ้งศพให้นอนอืดเกลื่อนกลาดอยู่หลายวันเพราะรอพวกชนชั้นจัณฑาลมาเก็บเท่านั้น -*-   เค้าว่ามันเป็นงานของจัณฑาล(ว่างั้น) จากคุณ : ซอสมะเขือเทศหมด - [ 22 เม.ย. 51 10:49:12 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ในอินเดียระบบวรรณะยังรุนแรงอยู่ แต่ก็น่าจะขึ้นอยู่กับพื้นที่แล้วก็ระดับการศึกษาด้วยนะครับ อินเดียก็เป็นประเทศใหญ่และระบบวรรณะ ก็อยู่กับอินเดียมาตั้ง 3-4000 ปีมันคงไม่หายไป ง่ายๆหรอกครับ จากคุณ : Pongkm (Pongkm) - [ 22 เม.ย. 51 11:05:28 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อ้าว  กลับมาต่อ   อิชั้นเองก็ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับ Burakumin หรือ Eta เลยมา จนกระทั่งมีเพื่อนคนญี่ปุ่นรุ่นผู้ใหญ่มากๆคนหนึ่ง กระซิบบอกโดยไม่ได้ตั้งใจ  เพราะบังเอิญอิชั้นเห็นรูปการประชุมขององการ กลุ่มนี้และมีป้ายเขียนไว้ว่า Dowa-mondai (The Dowa Problem) และเพื่อนคนนั้นอยู่ตรงนั้นด้วย   อิชั้นก็เลยถามเขาว่ามันหมายถึงปัญหาอะไร   (และเพื่อนคนนั้นเขาก็พูดให้ฟังด้วยท่าทีแสดงความรังเกียจ  แถมกำชับอิชั้นว่า อย่าไปพูดเลอะเทอะให้ใครได้ยิน  แล้วถ้าไม่จำเป็นอย่าเข้าไปยุ่งกับปัญหานี้ อุ๊ย  ตกใจหมดเลย) แน่นอนค่ะ   ถ้าไม่จำเป็นเรื่องแบบนี้เขาไม่เก็บมาสอนนักเรียนต่างชาติให้ขายหน้าหรอก อย่างท่านข้างบนนี้ได้พูดถึง caste ของอินเดีย   ใช่ค่ะ  อิชั้นก็คิดว่านี่เป็นระบบ caste ของสังคมญี่ปุ่น ซึ่งคล้ายของอินเดีย   การแบ่งชนชั้นของญี่ปุ่นมีมานานตั้งแต่สมัยนารา   แต่มาแบ่งชัดๆมากขึ้นตายตัวในสมัยเอโด้   เขาประกาศไว้ว่ามี 4 ชนชั้น ได้แก่  ซามูไร  ชาวนาชาวไร่ ช่างฝีมือ และ พ่อค้า   (สมัยที่เรียนประวัติศาสตร์และสังคมญี่ปุ่นกับอาจารย์ญี่ปุ่นชื่อดัง แกก็สอนไว้ว่ามี 4 ชนชั้น แต่แกมิได้เคยกล่าวถึงกลุ่มนี้เลยแม้แต่กระผีก หรืออาจพูดถึงแต่บังเอิญอิชั้นกำลังหลับเลยไม่ได้ฟังก็ได้) พวกBurakumin หรือ Eta คือพวกที่ไม่ได้อยู่ใน 4 กลุ่มนี้   อาชีพของพวกเขาคืองานที่เกี่ยวกับ ซากศพทั้งคนทั้งสัตว์  พวกฆ่าสัตว์เอาหนังเอาเนื้อ  เพรชฆาต   รวมไปถึงอาชีพทำความสะอาดชำระสิ่งสกปรกอาจม   (ในสมัยนี้ก็ได้พัฒนากลายเป็นพวกธุรกิจเก็บขยะ ดูดส้วม สมัยที่อิชั้นมาญี่ปุ่นใหม่ๆ  เชื่อไหมว่าโตเกียวบางแห่งยังเป็น ส้วมหลุมอยู่เลย     โดยเฉพาะแถบ Down Town) เหตุใดจึงถูกรังเกียจ    มีที่ให้คำอธิบายไว้ว่า ศาสนาพุทธเคยเป็นศาสนาหลักของญี่ปุ่น (จนถึงสมัยรัฐบาลเมจิ  เพราะรัฐบาบเมจิเลือกศาสนาชินโตแทนศาสนาพุทธ) การฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเป็นสิ่ง"อัปมงคล" และเพราะการฆ่าสัตว์มีเลือดไหลเลอะเทอะสปกรก น่าสะอิดสะเอียน  เพราะฉะนั้นคนกลุ่มนี้จึงถูกแยก ย้ายให้ออกไปอยู่ห่างๆชุมชน   จึงเป็นที่มาของชื่อ Burakumin buraku แปลว่าหมู่บ้าน(ขนาดเล็ก) หรือส่วนหนึ่งของหมู่บ้าน  และ min แปลว่าผู้อาศัยหรือพลเมือง พวกเขาถูกเหยียดมาตลอดไม่ได้มีวันโผล่หัวขึ้นมาดูตะวันอย่างชาวบ้านทั่วไป จนกระทั่งรัฐบาลสมัยเมจิประกาศเลิกระบบชนชั้นในปี 1871 แม้รัฐธรรมนูญและกฎหมายได้รับรองสิทธิและความเท่าเทียมให้พวกเขาแล้ว ตั้งแต่นั้นมาก็ตาม    แต่การเหยียดจนเป็นวิสัยในระหว่างคนญี่ปุ่นด้วยกัน ก็ไม่เคยจางหายไปจากสังคม   แล้วจะกลับมาต่อค่ะ จากคุณ : akebi1 - [ 22 เม.ย. 51 18:19:50 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เคยร่วมวงพูดตลกกับเพื่อนๆต่างชาติกลุ่มนึงว่าเพื่อนผู้หญิงญี่ปุ่นคนนึงในกลุ่มสนทนานั้น หน้าตาเหมือนคนเกาหลีเลย เพื่อนคนญี่ปุ่นอีกคนดึงเพื่อนคนไทยที่พูดเรื่องนั้น ออกไปคุยกันสองคนเลย มารู้ที่หลังเพื่อนผู้หญิงคนนั้นเป็นเกาหลีที่อพยบมาอยู่ญี่ปุ่นจนได้รับสัญชาติ คงเสียใจแย่เลยนะคับ จากคุณ : น้องคิว (น้องคิว) - [ 23 เม.ย. 51 05:18:13 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณคุณakebi1 ที่นำเสนอความหลากหลายคับ ไม่เคยรู้มาก่อนเลย รออ่านต่อครับ แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 51 21:40:01 จากคุณ : A_Mong - [ 23 เม.ย. 51 21:39:38 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คนญี่ปุ่นรุ่นใหม่ๆก็ไม่ค่อยสนใจเรื่องชนชั้นอะไรพวกนี้แล้วนะ อย่างเพื่อนร่วมงานผม ก็สนิทคุยได้กับทุกคนไม่มีถือตัว งานเป็นงาน เมาเป็นเมา จากคุณ : luk_Nutt - [ 24 เม.ย. 51 15:55:19 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แอ่นแอ๊น ....   กลับมาเม้าท์ต่อ  " Burakumin จัณฑาลญี่ปุ่น " ตอบจบ โดยผิวเผินในสมัยปัจจุบันไม่มีใครสนใจปัญหาเรื่องนี้   แม้ในหลายทศวรรษที่ผ่านมา ถ้าจะมีใครพูดถึงการเหยียดชนชาติในญี่ปุ่น   คนส่วนใหญ่ก็มักจะคิดถึงพวกอพยพเชื้อชาติเกาหลีจีน แต่ลึกๆ ปัญหาของ Burakumin (Dowa-mondai, social integration problem) ยังเหลือค้างเป็นแผลในใจของชาวญี่ปุ่น และเกิดเป็นเรื่องเป็นราวกระทบกระทั่งกันระหว่างคนญี่ปุ่น ด้วยกันไม่บ่อยแต่ก็มี    แต่เนื่องจากไม่มีใครกล้าพูดถึงตรงๆ เรื่องก็ออกจะเงียบๆรู้กันเองในระหว่างผู้เกี่ยวข้องหรือคนที่สนใจเท่านั้น   เพราะถ้าแค่เผลอหลุดปากไปคำเดียวว่า Burakumin ซึ่งเป็นคำต้องห้าม ในภาษาออกอากาศ ก็เกิดเรื่อง  กลุ่มอะไรต่อมิอะไรก็ที่เป็นฝ่ายสนับสนุน สิทธิของชนกลุ่มนี้ก็จะออกมาโวย  อื้อฉาว   อย่างที่ newscaster ชื่อดังของสถานีโทรทัศน์ TBS เจอมาแล้วเมื่อปี 1989 คุณ newscaster ต้องออกมาประกาศขออภัยอย่างเป็นทางการทันทีในวันรุ่งขึ้น ว่า "กระผมปากพล่อย  กรุณายกโทษให้กระผมเถอะครับ" คนส่วนใหญ่ถ้าจะเจอปัญหานี้ก็มักจะเป็นเมื่อพบว่าคนรักของเขาเป็นชนกลุ่มนี้   เพราะถึงแม้เจ้าตัว จะไม่สนใจเพราะเป็นคนสมัยศตวรรษที่ 21 ก็เหอะ  แต่ถ้าอยากจะแต่งงานเป็นเรื่องเป็นราว พ่อแม่ผู้ใหญ่ของอีกฝ่ายมีน้อยนักที่จะยินยอม   ถึงพ่อแม่เจ้าตัวไม่ถือ แต่วงญาติล่ะ.... พ่อแม่ญี่ปุ่นย่อมกลัวสายตาของเครือญาติ แล้วก็ในอดีตสมัยใกล้ๆราว 10 หรือ 20 ปีก่อน ก็มืปัญหา ถูกกีดกันเรื่องงาน  เรื่องการศึกษา  ซึ่งคิดว่าส่วนนี้คงจะมีไม่มากแล้ว เพราะไม่มีส่วนราชการไหน บริษัทไหน องค์กรไหน อยากถูกฟ้อง อิชั้นหาเว็ปเหล่านี้มาฝาก   ท่านใดที่อยากรู้ขอเชิญอ่านได้ค่ะ   Dowa District http://blhrri.org/blhrri_e/bpb/buraku_problem_basic04.htm นักเขียนที่มีภูมิหลังเป็น Burakumin   นาย Kenji NAKAGAMI (1946-1992) ได้รับรางวัลวรรณกรรม Akutagawa Prize 1975 http://www.stonebridge.com/capefolder/capeadv.html วรรณกรรมที่เกี่ยวกับความไม่ยุติธรรมที่พวก Burakumin ได้รับจากสังคม ซึ่ง Sue SUMII เขียนไว้ยาวมากๆหลายภาค  (สงสัยคงมีเรื่องเล่าเยอะ) http://www.amazon.co.jp/River-No-Bridge-Sue-Sumii/dp/0804815909 http://search.japantimes.co.jp/cgi-bin/fb20020203dr.html ชาวญี่ปุ่นที่มีภูมิลำเนาเป็น Burakumin แต่ได้ดิบได้ดี  มีชื่อมากที่สุดในสมัยปัจจุบัน คือ Hiromu NONAKA  อดีตนักการเมืองตัวเบิ้มผู้ทรงอิทธิพลของพรรครัฐบาล Liberal Democratic Party of Japan   เขาได้รับตำแหน่งที่มีอิทธิพลสูงสุดในพรรคในสมัยนายกรัฐมนตรี TAKESHITA (1987-1989) จนได้รับฉายาจากพวกสื่อมวลชนว่าเป็น the king-maker ตัวยง ผู้ชักหุ่นอยู่หลังฉากบนเวทีการเมือง แล้วก็ยังมีข่าวลือว่าเมื่อเขากระชิดตัวเองให้เข้าไปอยู่ในตำแหน่งที่ ใกล้จะเป็นนายกรัฐมนตรีมะลมมะล่อ   ทันใดนั้นก็มีนักการเมือง ในพรรคเดียวกันหยิบยกเอาเรื่องภูมิเก่าของเขามาสะกิด ว่า " จะดีเหรอ ถ้าญี่ปุ่นจะมีนายกรัฐมนตรีเป็นไพร่จัณฑาล " จนเจ้าตัวอดรนทนไม่ไหว  ต้องออกมาทำหน้าแดงด้วยโทสะด่ากลับไปในที่ประชุมพรรค   http://en.wikipedia.org/wiki/Hiromu_Nonaka พูดถึงคนเก่งๆ ที่เขาพาตัวเองจนได้ดิบได้ดีในสังคมทั้งๆที่มีปมด้อยจากภูมิเก่า ตานี้ก็มาพูดถึงคนที่เกิดมาในสถานการณ์แบบเดียวกันแต่ใช้ปมอันนี้ทำชั่วกับสังคม ทำให้ชาวบ้านยิ่งเกิดความรังเกียจยิ่งขึ้น เมื่อ ปี 2006 มีข่าวใหญ่ดังฉาวโฉดว่าข้าราชการในแผนก เก็บกวาดของเทศบาลเมืองเกียวโตโดดงาน ไม่เคยมาเข้างานนับเป็นปีๆ โดยอ้างว่าไม่สบาย  ไม่มาทำงานแต่รับเงินเดือนเต็มๆทุกเดือน และที่สำคัญคือเขาใช้เวลาราชการที่เขาควรทำงานให้ชาวประชาชนเมืองเกียวโต ไปทำงานบริษัทไซด์ลายน์ของตัวเอง ทำไมเจ้านายของตานี่ หรือคนอื่นๆที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ถึงไม่มีใครกล้าโวยหรือกล้าห้ามกล้าตักเตือนหรือฟ้องร้อง คำตอบคือ  ตานี่เขามีภูมิหลังเป็น Burakumin แถมยังเป็นรองเลขาธิการขององค์กรสนับสนุน และป้องกันสิทธิของชนกลุ่ม Burakumin     ไม่มีใครกล้าไปแตะต้องหรอกค่ะ    Untouchable จริงๆ  ใครอยากจะเสี่ยง ถ้าเขาจะยกพรรคพวกมาเดินขบวนตระโกนร้องป่าวว่าคุณรังแกเขา เหยียดเขาที่หน้าที่ทำงาน หรือหน้าบ้านของคุณ ผลก็คือเจ้านายของตานี่ในเทศบาลเมืองเกียวโตเอาหูไปนา เอาตาไปไร่   ไม่ยอมจัดการการฉ้อราษฎ์ฉกเงินเดือนหลวงไปกินฟรีๆจนกระทั่งเรื่องแตก เป็นข่าวให้ชาวประชาญี่ปุ่นด่าเช้าด่าค่ำว่าผู้รับผิดชอบ บริหารในเทศบาลเมืองเกียวโตทอดทิ้งหน้าที่ควบคุมลูกน้อง โห  เขียนมายอดยาว  จบแค่แหละค่ะ   สุดท้ายคำเตือนจากจขกท. ค่ะ  เรื่องนี้ รู้ไว้ใช่แบกหาม แต่ขอให้ระวัง       สุภาษิตญี่ปุ่นที่ชาวญี่ปุ่นนิยมปฎิบัติมากๆ     "จงเอาฝาปิดของเหม็นเสีย" จากคุณ : akebi1 - [ 24 เม.ย. 51 18:48:28 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เป็นผม ผมจะเทมันทิ้งแล้วก็ล้างภาชนะซะ ทำของใหม่ใส่เข้าไปให้หอมๆ คนไทยหลายคนเป็นงี้นะ ก็เจ็บจนถึงวันนี้กันไงล่ะ T^T จากคุณ : NiGht pRincE - [ 8 พ.ค. 51 01:22:00 ]