คิดว่าเสี่ยงที่ตั้งกระทู้นี้นะครับ อิอิ แต่ก็อยากตั้ง
จุดประสงค์ของกระทู้
1. เพื่อต้องการแสดงความเห็นว่าสิ่งที่เราทำๆ กันมาในการให้ feedback กับ essay ไม่ได้ผลตามที่ต้องการ
2. เพื่อต้องการแสดงความเห็นว่าวิธีการเดิมนี้ เสียเวลาคนแก้ คนเขียนก็ไม่ได้เรียนรู้อย่างแท้จริง
3. เสนอแนวทางแก้ไข และคำแนะนำ
(ผมไม่ได้เขียนเพราะว่าอวดเก่ง และไม่ได้เขียนเพราะว่าต้องการบอกว่าต้องทำแบบโน้นหรือแบบนี้นะครับ มีความตั้งใจอยากให้การให้ feedback มีประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่ายจริงๆ ดังนั้นภาษาอาจจะดุดเดือดไปบ้าง ก็เตือนไว้ก่อนครับ)
ผมขอพูดใน 2ฐานะ (1) คนที่เรียนการเขียน essay จากเกือบศูนย์ (ถึงขนาดอ. writing คนแรกในชีวิตบอกว่า "เธอไม่ต้องลงเรียน writing ตัวอื่นแล้วนะ เพราะว่าจะไม่รอดเอา") จนวันนี้ผมว่าผมได้พัฒนามาพอสมควร และ (2) คนที่กำลังจะเรียนเรื่องการเขียน essay (Composition and Rhetoric) ในระดับป. โท อย่างจริงๆ จังๆ
ผมรู้สึกว่าการที่คุณเขียน essay แล้วมาให้เพื่อนๆ พี่ๆ ช่วยแก้ให้นั้นไม่ได้ช่วยให้คุณพัฒนาการเขียนได้จริงๆ จากประสบการณ์ผมเอง ตอนเรียน writing แรกๆ ก็หวังให้อ. mark ตรงที่เราเขียนผิดให้ทุกจุด เรียกว่าผิดตรงไหน แก้มาให้หมด (ตามนิสัยคนไทย แก้มาให้หมดนะ ชอบให้แก้เยอะๆ จะได้รู้ว่าผิด) แต่เมื่ออ. ทำจริงๆ แล้วผมกลับว่ามันเยอะมากๆ หมดกำลังใจ อ่าน comment อาจารย์แล้วก็จบกันไป ผมไม่ได้เรียนรู้อย่างแท้จริงว่าทำไมมันผิด แล้วทำไมถึงต้องแก้เป็นแบบนี้หละ เพราะว่าผมก็ยังทำผิดเรื่องเดิมซ้ำซาก แม้จะมีบางจุดที่จะไม่ผิดอีก แต่อ. อุตส่าห์แก้มาให้ 80% เราเอาไปใช้ได้แค่ 10% เสียเวลาอ./คนแก้ และคนอ่านก็เบื่อ
อีกอย่างการแก้ส่วนมากที่ผมสังเกตจะเป็นเรื่อง grammar น้อยคนนักที่จะแก้ที่ content ของ essay ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว content สำคัญว่าแกรมม่าร์ ผมอ่าน essay เพื่อนๆ บางคนแล้วรู้สึกว่า แกรมม่าร์ไม่ได้เลวร้ายมาก (แต่ก็มีผิดบ้างแน่นอน) แต่ว่าหลายๆ คนตอบไม่ตรงคำถาม หรือว่าตอบตรง แต่ไม่ชัดเจน บางคน organize ไม่ดี อ่านแล้วมึนไปหมด เอาสิ่งที่ควรอยู่ย่อหน้า 2 มาวางย่อหน้า 3 -- ตรงนี้สิครับที่เราต้องให้ความสำคัญสะมากกว่าเรื่องแกรมม่าร์
ผมไม่ได้มีจุดประสงค์ว่าเพื่อนๆ ที่เขียน essay หรือว่าเพื่อนๆ ที่มาช่วยตอบ/ช่วยแก้นะครับ -- สำหรับคนที่พยายามเขียน ผมกลับชื่นชมในความพยายาม อ่านบาง essay ก็นึกถึงตอนตัวเองเขียนแรกๆ ทุกที ว่าเออเราก็เคยเป็นแบบนี้ สำหรับคนที่แก้ ผมชื่นชมในความมีน้ำใจ เพราะว่าการแก้ grammar นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และไม่ใช่เรื่องที่สามารถทำเสร็จได้ภายใน 5 - 10 นาที (บางทีผมจะ comment ที เสียเวลาไปเกือบ 30 - 45 นาที สำหรับ essay สั้นๆ ทั้งอ่าน ทั้งดูว่าต้องแนะนำอะไรก่อนดี ฯ)
ผมต้องการเสนอแนวทางใหม่ในการฝึกการเขียนครับ (ยกมาจากประสบการณ์ หนังสือ และ essay ที่อ่าน)
สำหรับคนเขียน
1. หลังจากอ่าน feedback แล้ว พยายามกลับไปแก้ เขียน essay เดิมอีกรอบ อย่าเพิ่งไปเขียน essay ใหม่ เพราะว่าถ้าคุณไปเขียน essay ใหม่ คุณจะไม่มีโอกาส (หรือมีน้อยมาก) ที่จะได้ใช้สิ่งที่คนให้ feedback เขียนไว้ คุณจะได้แค่อ่านผ่านตา แต่ไม่ได้ใช้ ซึ่งมันไม่มีประโยชน์อะไรเลย
2. พยายามแก้มาก่อนให้ดีที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้ ไม่ใช่เขียนเสร็จแล้วมาลงเลย
3. ลองถามคำถามด้วย เช่น "ตอนเขียนผมสับสนว่าควรเริ่มประโยคแบบนี้ดีไหม แต่ผมก็คิดว่าดีเพราะว่า______ เพื่อนๆ ว่าควรเปลี่ยนไหมครับ หรือดีแล้ว?" เป็นต้น คำถามแบบนี้แสดงให้เห็นว่าคุณได้คิดแบบนักเขียน ไม่ใช่เพียงเติมหน้ากระดาษให้เต็ม นักเขียนนั้นมี choices เยอะมากมาย แต่เค้าต้องเลือกเพียง 1 choice และจะมีเหตุผลสำหรับ choice ที่เลือกเสมอ
สำหรับคนที่ให้คำแนะนำ
1. อย่าเพิ่งเน้นแกรมม่าร์ ต้องอ่านแบบ "นักอ่าน" ก่อน ไม่ใช่อ่านแบบจัดผิดแกรมม่าร์หรืออ่านแบบ "ครูสอนภาษา" นอกจากนี้ควรสังเกตว่าอ่าน essay รู้เรื่องไหม ทำไมไม่รู้เรื่อง
2. ถ้าต้องพูดแกรมม่าร์จริงๆ ให้เน้นเฉพาะจุดที่ผิดบ่อยจริงๆ อย่าพูดทุกเรื่องที่ผิด ไม่มีคนไหนจำได้ คุณจะเสียเวลาสะเปล่าเพราะว่าแก้ไป 80% คนอ่านจำได้แค่ประมาณ 10%
3. อย่าแก้ essay อย่างเพียง แต่ต้องชี้ให้เห็นด้วยว่าทำไมถึงแก้เป็นแบบนี้ คือแสดงเหตุผลให้ดู ไม่อย่างนั้นคนอ่านก็ได้แค่อ่าน แล้วก็ไม่รู้ว่าตัวเองผิดตรงไหน สิ่งที่เราแก้ไปสูญเปล่า...
เพื่อนๆ หลายคนอาจจะบอกว่า "อุตส่าห์มาช่วยแล้ว ยังจะมีกฎอะไรอีก ทำไมต้องทำตาม" หรือว่า "ทำไมเรื่องมากจัง" หรือ "ไม่ได้เรียนมาทางด้านนี้ อยากได้แบบนั้นไปให้ feedback เองแล้วกัน" (เหล่านี้คือ สาเหตุที่ผมบอกว่าผมเสี่ยงที่จะตั้งกระทู้นี้) ผมก็ไม่เถียงหรอก ฮ่าๆ เพราะว่ามันก็จริง เพียงแต่ผมรู้สึกว่าบางทีมันดูเหมือนเสียเวลานะ ที่คนให้ feedback ก็ให้ไปแทบตาย คนเขียนก็ยังเขียนผิดอีก คือ การเรียนรู้ไม่เกิดอย่างแท้จริงเท่านั้นเองครับ
จากคุณ :
เมื่อลมแรง...ใบไม้ก็ร่วง
- [
26 เม.ย. 51 06:45:12
]