ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนอื่น ผมอยากให้คุณไปเเวะอ่านคอลัมน์ภาษา ได้รับเกียรติว่า อ่านยากมาก เนื้อหากว้างมาก เเต่ถ้าทนได้ มันจะมีคำเเนะนำดี ๆ เเฝงอยู่ เเล้วคุณต้องคิดเองให้ได้ด้วยว่า อะไรอย่างไร? http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6451404/K6451404.html นอก Eng class คุณก็อ่านเรื่องที่คุณชอบ สนใจ ถนัด(ง่าย ๆ ที่พัฒนาภาษา เช่น เรื่องสั้นของเด็กประถมปลาย+ม ต้น) สถานการณ์ที่ต้องเข้าโรงพยาบาล ซึ่งน้อยนักที่เราจะได้ใช้ยกเว้นไปป่วยที่เมืองนอก หรือสถานการณ์ที่พาฝรั่งเที่ยววัดพระแก้ว ซึ่งเราแทบไม่ได้ใช้เลย ไปคิดเช่นนั้น ทำไม ปิดกั้นตัวเอง ปิดโอกาสที่จะใช้ภาษา สมัยผมเมื่อ 20 ปีก่อน (ยิ่งสมัยนี้ ยิ่งง่ายไปใหญ่) คุณเดินเข้าไปทักทายฝรั่งเขาได้เลย เลือกดี ๆ หน่อย บอกว่าเราเป็นนักศึกษา อยากฝึกภาษา ฝรั่งคนไหน ไม่เต็มใจ ก้ไปหาใหม่ โรงพยาบาล ถ้าเป็นไปได้ ผมยังคิดเลยว่า ขอให้ทางโรงเรียนส่งเราไปฝึกงานที่โรงพยาบาล สมัยนี้ โรงพยาบาลเขามีค่าภาษาด้วย มีฝรั่งต่างชาติมาใช้เอยะเเล้ว ใครบอกไม่มีโอกาสได้ใช้ คุณวิ่งหนีโอกาสครับ --------------------------ครูผมบอกว่าให้อ่านเรื่องที่สนใจสัปดาห์ละ 100 หน้าเป็นอย่างน้อย ให้ภาษาเติบโตขึ้นทุกวัน ๆ คำไหนไม่รู้ก็ไม่ต้องสนใจ หรือจะเปิดดิกก็ได้ ผมขอความเห็นทุกท่านด้วยครับว่าคิดอย่างไรกันบ้างครับ ------------------------ ดีมาก ถ้าคุณอ่านได้จริง ๆ เเต่ถ้าเพิ่งเริ่มอ่าน จะโหดมาก เเต่ถ้าไม่ท้อ ขอสนับสนุน เพราะการอ่าน+ฟังเเล้วนำไปใช้ ทักษะทางภาษาคุณจะดีขึ้นทุกปี ขอให้โชคดี ถ้าอายุน้อย ๆ เเล้วเริ่มฝึกตอนนี้ รับรองก้าวหน้า จากคุณ : tonmelb - [ 27 เม.ย. 51 18:33:19 A:61.91.193.98 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตอบแบบตรวคำถาม (ตามห้วข้อกระทู้) ช่วยได้ "มากๆ" เลยนะคะ ในเป็นเป็นฐานในการเรียนภาษาที่สาม แรกๆที่เราเริ่มเรียนฝรั่งเศส เรามึนกับศัพท์มากเลยค่ะ แต่พอจับจุดได้ ก็เริ่มมานึก เออมันก็คล้ายๆอังกฤษนี่... ศัพท์ส่วนใหญ่จะคล้ายภาษาอังกฤษมาก พวก adj adv เขียนใกล้ๆกัน (แต่อ่านต่างกัน) เมื่อมีสามแล้ว อาจจะมีสี่... เยอรมันก็ตระกูลภาษาเดียวกับอังกฤษนะคะ การประสมคำ เหมือนภาษาอังกฤษเลย คำก็คล้ายกันมากค่ะ รวมถึงวิธีอ่านด้วย ส่วนเรื่องทุกเรื่องที่เรียนเป็นภาษาอังฤษ เค้าไม่ได้กำหนดนะคะว่าคุณจะต้องใช้ประโยคแบบนี้ในโรงพยาบาลเท่านั้น คุณอาจจะพลิกแพลงศัพท์และรูปประโยคไปใช้กับประโยคอื่่นสถานการณ์อื่นก็ได้นี่คะ การอ่าน เห็นด้วยกับคุณต้นเมลบีค่ะ :) (แต่เราชอบเมลซี...) จากคุณ : lechatbleu - [ 27 เม.ย. 51 20:09:56 ]

ความคิดเห็นที่ 3 "..หลายคนบอกผมว่าการเรียนภาษาอังกฤษจะช่วยอะไรเราไม่ได้มากนักเพราะ เราไม่ได้อ่านในเรื่องที่ตัวชอบ สนใจ ถนัด .." >> เอ๊ะ แล้วมีคนห้ามอ่านเรื่องที่คุณชอบ สนใจ ถนัด หรือครับ? สิ่งที่เราเรียนเป็นทางการนั้นก็เรื่องหนึ่ง เขาก็ยกสถานการณ์ในชีวิตประจำวันที่อาจได้พบ ได้ใช้ มาสอน แต่ขอบอกว่าการเรียนนอกห้องเรียนหรือไม่เป็นทางการนั่นสิ สำคัญที่สุดในการเรียนภาษา นั่นก็คือการที่คุณอ่าน คุณฟัง คุณทบทวนของคุณเองนอกห้องเรียน ประสบการณ์ตรงของผมฟันธงได้เลยว่า ผมได้จากการเรียนในโรงเรียนประมาณยี่สิบเปอร์เซนต์เป็นแกนหรือโครง ส่วนเนื้อหนังเส้นเอ็นอีกแปดสิบเปอร์เซนต์ผมหาเติมเองครับ ถ้าคุณคิดพึ่งแค่ห้องเรียนละก็ อยู่มันแค่ยี่สิบเปอร์เซนต์น่ะแหละ ไปไม่ถึงไหนหรอก แล้วผมทำอย่างไรถึงได้อีกแปดสิบเปอร์เซนต์? ก็เพราะผมอ่านเรื่องที่ผมชอบ ผมถนัด ผมสนใจ น่ะสิครับ ผมถึงงงว่ามีใครห้ามคุณหรือ? จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 27 เม.ย. 51 20:59:15 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มาก และ มากมาก จริงๆ ผมยังคิดอยู่เลยว่า ถ้าวันหนึ่งผมเกินตื่นขึ้นมาแล้ว พูดภาษาอังกฤษ ไม่ได้ ชีวิตจัเป็นอย่างไรอ่ะครับ ถ้าวันหนึ่งเราต้องย้ายรางฐานมาประทเศที่เขาใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร แล้วเราจะต้องทำอย่างไรถึงจะถึงจะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ คำตอบก็คือ เริ่มต้นฝึกภาษาอังกฤษน่ะครับ จากคุณ : Bangkok City Boy - [ 28 เม.ย. 51 06:24:22 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ----ปัญหา สำคัญคือ การฟังด้วยครับ คนแต่ละคนต่างสำเนียงจริงๆ บ้างคนพูดๆ แหบแต่ในลำคอ (ในพวกตัวอย่างหนัง  ฟังยากมากๆ) พอเรามาเปิดsub ดุ มันก็เป็นคำง่ายๆ เองนี่หว่าทำไมเราฟังไม่ออกเลย นี่ก็ท้อใจเช่นกันครับ ยิ่งพวกพากษ์บอลเนี่ย ฟังแทบไม่ออกสักคำ(ทั้งที่เป็นคำง่ายๆ) ----บางประโยคที่เราอยากจะพูดเป็นอังกฤษในหลายสถานการณ์ แต่ก็ไม่รู้จะพูดไง ก็เป็นเช่นกัน   เพราะบางอย่างมันแปลตามตัวไม่ได้ เช่น    อย่ามามั่ว         ทันมั้ย         อยู่ดีกินดี         ยิ่งไกลยิ่งลำบาก         สะใจกับความมันแบบอลังการสมจริงกว่าครั้งไหนๆ ต้องไปอยู่ เมืองนอกแน่ๆครับ 2-3 ปี ถึงจะพูดได้ ฟังได้ทุกสถานการณ์ จากคุณ : Zean.- (LORDZean.-) - [ 28 เม.ย. 51 20:06:59 ]