ความคิดเห็นที่ 1 อา 17 ในเรื่องคือพระราชโอรสองค์ที่ 17 ของจักรพรรดิคังซี เท่าที่ผมค้นได้ตอนนี้จากหนังสือ Emperor of China: Self-portrait of K'ang-hsi ของ Jonathan D. Spence  หน้า 121 ระบุว่า พระราชโอรสองค์ที่ 17 ของจักรพรรรดิคังซีพระนามว่า "อิ้นหลี่" (Yinli) ประสูติเมื่อ ค.ศ. 1697 แต่ผมยังค้นไม่เจอว่าสิ้นพระชนม์เมื่อปีใด ดังนั้น อา 17 มีตัวตนจริงแน่ แต่จะมีพระชนม์ชีพมาจนถึงสมัยเฉียนหลง (ขึ้นครองราชย์ใน ค.ศ. 1735) และมีพฤติกรรมเหมือนในหนังหรือไม่ผมไม่ทราบ ส่วนองค์ชายรองนั้นมีตัวตนจริงแน่ เพราะไม่อย่างนั้นก็จะไม่มีองค์ชาย 4 ที่ต่อมาเป็นจักรพรรดิเฉียนหลง แต่รายละเอียดต้องขอไปค้นก่อนนะครับ ถ้าเจอแล้วจะรีบมาตอบให้ แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 51 22:58:40 จากคุณ : ชาวจีนศึกษา ณ TU - [ 28 เม.ย. 51 17:47:16 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คุณชาวจีนศึกษาฯ ได้อมยิ้มแล้ว ดีจังค่ะ  เข้ามาบ่อย ๆ นะคะ  อ่านที่คุณโพสท์แล้วทั้งสนุกทั้งได้ความรู้ จากคุณ : โอเลี้ยงลาเต้จูดี้บัฟฟี่ลักกี้ - [ 28 เม.ย. 51 17:51:16 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณมากค่ะ จะรอ ชาวจีนศึกษา ณ TU มาตอบนะคะ :-) จากคุณ : icyssth - [ 28 เม.ย. 51 22:07:43 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ข้อมูลเกี่ยวกับ องค์ชาย 17 ต่อไปนี้มาจากhttp://en.wikipedia.org/wiki/Yinli,_Prince_Guo นะครับ Aisin-Gioro Yinli (Chinese: 爱新觉罗·胤礼) 1697 - 1738, was the seventeenth son of the Qing Dynasty Kangxi Emperor. Prince Yinli was born in March 2nd during the thirty-sixth year of Emperor Kangxi's reign, was his mother was the Imperial Consort Chunyuqin of the Chen Clan (Chinese: 纯裕勤妃陈氏). [edit] Life Prince Yinli was excellent at his studies since childhood. Unlike most of his brothers, Prince Yunli was never involved with the power struggles for the throne. Yinli was both intelligent and cautious, and also abundant in political achievements. He was good at callingraphy and poetry, and was passionate at travelling to other places and touring the country. For instance, he had been to almost all of the famous mountains within the Province of Sichuan. When Yinli's half-brother, the Yongzheng Emperor ascended to the throne, Prince Yinli changed his name to "Yunli" (Chinese: 允礼) to avoid taboos. In the following April, Prince Yinli was granted the title of "Prince Guo" (Chinese: 果郡王), and was also given the tasks of administrating the institution of scholars. During the third year of Emperor Yongzheng's reign, Prince Yinli was given higher salaries due to his honesty and diligence. In February during the sixth year of Emperor Yongzheng's reign, Yinli was promoted to a Duke (Chinese: 亲王). In the following years, Prince Yinli was given even more tasks, including to escort the Dalai Lamas back to Tibet, and to inspect the soldiers along the route. When the Emperor fell seriously ill, Prince Yinli was given the task of supporting the new Emperor. When the new Emperor, Qianlong, ascended to the throne, Yinli was given much more power and many more responsibilities, and received numerous rises in salary. [edit] Death Prince Yinli died on February 2nd, during the third year of Qianlong's reign, aged forty-two. He had three children in total, two of which died in infancy. His only surviving son succeeded his title of "Prince Guogong" (Chinese: 果恭郡王). Retrieved from "http://en.wikipedia.org/wiki/Yinli%2C_Prince_Guo" อ่านดูแล้วจะพบว่าองค์ชาย 17 มีความสามารถไม่น้อย และจักรพรรดิยงเจิ้งและเฉียนหลงก็ทรงไว้วางพระทัยในตัวเจ้าชายองค์ดังกล่าวมาก พระองค์สิ้นพระชนม์ในปีที่ 3 ของรัชสมัยเฉียนหลง ตรงกับ ค.ศ. 1738 รวมพระชนม์ 42 พรรษา อย่างไรก็ตามข้อมูลจาก wikipedia นั้นต้องใช้วิจารณญาณมากๆ ครับ เพราะใครจะเข้ามาแก้หรือแต่งเติมข้อมูลก็ได้ ผมเองก็ยังไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งอื่นๆร่วมด้วย (พอดีช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลา) เอาเป็นว่าถ้าท่านอื่นๆพบว่ามีข้อมูลที่แตกต่างออกไปเกี่ยวกับองค์ชาย 17 ก็โปรดนำมาแบ่งปันกันด้วยนะครับ แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 51 23:04:39 จากคุณ : ชาวจีนศึกษา ณ TU - [ 28 เม.ย. 51 22:51:52 ]

ความคิดเห็นที่ 5 องค์ชาย 2 ของจักรพรรดิหย่งเจิ้นคือหงหยุ่นนั้นสวรรคตตั้งแต่วัยเยาว์หน่ะครับ จักรพรรดิหย่งเจิ้งมีโอรสที่โตเป็นผู้ใหญ่เพียง 3 คนคือ องค์ชาย 3 หงสือ องค์ชาย 4 หงลี่ และองค์ชาย 5 หงโจ้ว ที่แย่งบัลลังก์กับองค์ชาย 4 หงลี่จริงๆคือพี่ชายของเขา หงสือ ส่วนน้องชายหรือองค์ชาย 5 หงโจ้วนั้นไม่ได้สนใจการแย่งชิงราชบัลลังก์เลย องค์ชาย 3 หงสือนั้นค่อนข้างสนิทกับอ๋อง8 หยิ่งจือ อาแปดของเขาที่เป็นโอรสองค์หนึ่งที่จักรพรรดิคังซีโปรดปราน เพราะองค์ชาย 8 นั้นมีความสามารถมาก ขนาดได้รับแต่งตั้งเป็นอ๋องยศชิง และเป็นคู่แข่งในการเป็นจักรพรรดิขององค์ชาย 4 หยิ่งเจิ้งมาก่อน พอจักรพรรดิหย่งเจิ้งขึ้นเป็นจักรพรรดิก็ให้ตำแหน่งใหญ่โตกับอ๋อง 8 เพื่อช่วยกันบริหารแผ่นดิน แต่เนื่องด้วยตอนหลังอ๋อง 8 นั้นไปยุยงหงสือให้หาทางกำจัดน้องชายหงลี่ แถมวางแผนปฎิวัติเงียบ อ๋อง 8 เลยโดนปลดไปจากตำแหน่ง และหงสือก็โดนขับออกจากราชวงศ์ไปในที่สุด จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) - [ 28 เม.ย. 51 23:23:09 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณมากค่ะ คุณ อุ้ย ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าผู้สร้างจอมจักรพรรดิเฉียนหลง เปลี่ยนแปลงข้อมูลประวัติศาสตร์บ้างเล็กน้อยคือ >> ประวัติศาสตร์จริง องค์ชาย 3 ชิงราชสมบัติกับ องค์ชายสี่ แต่ในหนัง  องค์ชาย 2 ชิงราชสมบัติกับ องค์ชายสี่ >> ประวัติศาสตร์จริง องค์ชาย 3 สนิทกับ อ๋อง 8 แต่ในหนัง  องค์ชาย 2 สนิทกับ อ๋อง 17 >> ประวัติศาสตร์จริง อ๋อง 8 ค่อนข้างมีบทบาทในราชสำนัก แต่ในหนัง  อ๋อง 8 ถูกจับขังคุก ในขณะที่ผู้มีบทบาทในราชสำนักกลับกลายเป็น อ๋อง 17 ถ้าเข้าใจผิดยังไง รบกวนช่วยแก้ไขให้ด้วยนะคะ :-) จากคุณ : icyssth - [ 29 เม.ย. 51 11:28:00 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อ๋อง 8 ตายในคุกจริงๆครับผม แต่นั่นก็ภายหลังที่เขาล้มเหลวในการดันหงสือขึ้นเป็นรัชทายาท และเตรียมปฎิวัติเงียบ เมื่อจักรพรรดิหย่งเจิ้งขึ้นครองราชย์ ก็ตั้งอ๋อง 8 เป็นเหลียนอ๋อง 1 ใน 4 อ๋องที่ช่วยราชการสำคัญ ร่วมกับอ๋อง 3 (เฉิงอ๋อง) และอ๋อง 13 (อี้อ๋อง) อ๋อง 8 นั้นค่อนข้างสนิทกับองค์ชาย 9 และ 10 รวมทั้งมีขุนนางในราชสำนักจำนวนไม่น้อยที่เป็นคนของเขา เพราะเขาเป็นอ๋องที่ร่วมบริหารราชการมาตั้งแต่ยุคจักรพรรดิคังซี พี่น้องคนสำคัญของจักรพรรดิหย่งเจิ้งที่สนับสนุนเขามาตลอดก็คือ อ๋อง 13 หน่ะครับ จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) - [ 29 เม.ย. 51 13:19:12 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ที่คุณอุ้ยบอกว่า "องค์ชาย 3 หงสือนั้นค่อนข้างสนิทกับอ๋อง8 หยิ่งจือ อาแปดของเขาที่เป็นโอรสองค์หนึ่งที่จักรพรรดิคังซีโปรดปราน เพราะองค์ชาย 8 นั้นมีความสามารถมาก ขนาดได้รับแต่งตั้งเป็นอ๋องยศชิง และเป็นคู่แข่งในการเป็นจักรพรรดิขององค์ชาย 4 หยิ่งเจิ้งมาก่อน" ผมขอชี้แจงแบบนี้นะครับ พระราชโอรสองค์ที่ 8 ของจักรพรรดิคังซี มีพระนามว่า "อิ้นซื่อ" (Yinsi) ประสูติเมื่อ ค.ศ. 1681 ส่วนประเด็นที่ว่าเดิมทีองค์ชาย 8 เป็นที่โปรดปรานของจักรพรรดิคังซีหรือไม่ ผมไม่ทราบแน่ชัด แต่มีหลักฐานแน่นอนว่าองค์ชาย 8 ถูกจักรพรรดิคังซีสั่งจับขังคุก 2 ครั้ง คือเมื่อ ค.ศ. 1708 และ ค.ศ. 1714 เนื่องจากทรงประจักษ์ชัดว่าองค์ชาย 8 มีความทะเยอทะยานทางการเมืองมากเกินไป และวางแผนปองร้ายพระราชบิดา ส่วน "อ๋องยศชิง" ที่คุณอุ้ยว่ามา ผมเข้าใจว่าหมายถึงตำแหน่ง "ชินหวาง" อันเป็นตำแหน่งอ๋องชั้นสูงสุด องค์ชาย 8 อิ้นซื่อ ได้รับแต่งตั้งเป็นชินหวางในช่วงต้นรัชสมัยยงเจิ้งนะครับ ไม่ใช่ในรัชสมัยคังซี อนึ่ง อย่าสับสนเรื่องพระนามนะครับ จักรพรรดิที่สืบราชสมบัติต่อจากคังซีคือ จักรพรรดิ "ยงเจิ้ง" (Yongzheng) ไม่ใช่ "หย่งเจิ้ง" และก็ไม่ใช่ "หย่งเจิ้น" จักรพรรดิยงเจิ้งมีพระนามเดิมว่า "อิ้นเจิน" (Yinzhen) จากคุณ : ชาวจีนศึกษา ณ TU - [ 29 เม.ย. 51 13:51:34 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อนึ่ง หลายท่านอาจสงสัยว่าตกลงบรรดาพระราชโอรสของจักรพรรดิคังซีมีพระนามพยางค์แรกว่าอะไรกันแน่ ระหว่าง "อิ้น" (Yin) กับ "หยุ่น" (Yun) ทำไมตำราบางเล่มเรียกองค์ชาย 8 ว่า "อิ้นซื่อ" แต่บางเล่มเรียกว่า "หยุ่นซื่อ" เรื่องมันเป็นแบบนี้ครับ เดิมพระราชโอรสทุกพระองค์ของคังซีมีพระนามพยางค์แรกขึ้นต้นด้วยอักษร "อิ้น" ทั้งนั้น เช่น องค์ชายรอง= อิ้นเหริง องค์ชายสี่ = อิ้นเจิน องค์ชายแปด = อิ้นซื่อ องค์ชายสิบสี = อิ้นถี แต่ต่อมาเมื่อองค์ชายสี่ อิ้นเจิน ได้ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิยงเจิ้งแล้ว มีธรรมเนียมว่าคนอื่นๆไม่ควรจะมีชื่อที่ใช้ตัวอักษรเดียวกับจักรพรรดิ ดังนั้นบรรดาพระราชโอรสทั้งหลายของคังซี (ยกเว้นยงเจิ้ง) จึงต้องเปลี่ยนอักษรพยางค์แรกของชื่อจาก "อิ้น" เป็น "หย่น" กันทุกพระองค์ เช่น องค์ชายแปดเปลี่ยนจาก "อิ้นซื่อ" เป็น "หยุ่นซื่อ"      องค์ชายสิบสี่เปลี่ยนจาก "อิ้นถี" เป็น "หยุ่นถี" จากคุณ : ชาวจีนศึกษา ณ TU - [ 29 เม.ย. 51 14:15:17 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ได้ความรู้มากค่ะแต่สับสนมากเลย งงกับตัวเลข.... จากคุณ : นางพญามารเมฆไฟ - [ 29 เม.ย. 51 14:57:00 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ครับผม ขอบคุณ คุณชาวจีนศึกษาที่ช่วยแก้ไขเรื่องรายละเอียดให้ เรื่องพระนามของจักรพรรดิหย่งเจิ้งหรือยงเจิ้งนั้น ผมเข้าใจว่าแม้ในตัว pinyin จะเขียน yong ด้วยเสียงสามัญ แต่เราเรียกกันว่าหย่งเจิ้งมานานเนื่องจากตัวหนัง จึงเรียกเลยตามเลยไปหน่ะครับ ส่วนกรณีอ๋องยศชิงนั้น ตามเดิมผมเข้าใจว่าในคราที่องค์ชาย 2 รัชทายาทก่อกบฎครั้งที่ 1 (ก่อนโดนปลดครั้ืงแรก) จักรพรรดิคังซีได้แต่งตั้งองค์ชาย 1 3 และ 8 เป็นอ๋องพร้อมๆกัน ในครานั้นไม่ได้แต่งตั้งเป็นอ๋องยศชิงหรอกหรือครับ เพราะเข้าใจว่าอ๋อง 4 หยิ่งเจินได้เป็นอ๋องยงชิงเมื่อคราวที่ไประดมทุนช่วยเหลืออุทกภัยหวงเหอในช่วงกลางๆรัชสมัยคังซี ส่วนอ๋อง 3 และ 8 ได้คราปลดรัชทายาทครั้งแรกหน่ะครับ แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 51 20:25:56 แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 51 20:25:19 แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 51 20:24:26 จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) - [ 29 เม.ย. 51 20:19:39 ]

ความคิดเห็นที่ 12 องค์ชายสี่ อิ้นเจิน ได้รับการสถาปนาเป็น "ชินหวาง" ใน ค.ศ. 1709 (ข้อมูลจาก The Cambridge History of China, Vol. 9) ส่วนอุทกภัยแม่น้ำเหลืองเข้าใจว่าเป็นเมื่อ ค.ศ. 1704 ครับ (ข้อมูลจาก wikipedia อาจคลาดเคลื่อนได้) อนึ่ง เท่าที่ผมได้อ่านมาจากหนังสือหลายเล่ม การปลดองค์ชายรอง อิ้นเหริง ออกจากการเป็นรัชทายาทในครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ.1708 นั้นมิได้มาจากการที่องค์ชายรองก่อกบฏ หากแต่มาจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหลายประการ เช่น การใช้อำนาจข่มขู่ขุนนางและเชื้อพระวงศ์ และที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันก็คือ การที่คังซีทรงค้นพบว่ารัชทายาทมีรสนิยมรักร่วมเพศ เมื่อปลดองค์ชายรองจากการเป็นรัชทายาทแล้ว ขุนนางจำนวนมากก็พากันไปเข้าหาองค์ชายแปด เพราะเชื่อว่าเป็นตัวเก็งที่จะได้เป็นรัชทายาทองค์ใหม่ คังซีจึงทรงระแวงองค์ชายแปดและสั่งจำคุกเขาในปลายปี 1708 และได้รับการปล่อยตัวออกมาในเดือนมกราคม ค.ศ. 1709 ต่อมาคังซีทรงเชื่อว่าพฤติกรรมผิดปกติทั้งหลายของรัชทายาทอิ้นเหริงเกิดจาก "ผีเข้า" จึงทรงให้อภัยและสถาปนาให้เขากลับมาเป็นรัชทายาทอีกครั้งในเดือนเมษายน ค.ศ. 1709 การปลดรัชทายาทครั้งที่สองเมื่อ ค.ศ. 1712 ต่างหากที่มีเหตุมาจากการที่คังซีทรงพบแผนการว่ารัชทายาทต้องการจะปองร้ายพระองค์เพื่อยึดอำนาจ ซึ่งเท่ากับเป็นการวางแผนก่อกบฏนั่นเอง หลังจากรัชทายาทถูกปลดเป็นครั้งที่สอง องค์ชายแปดก็คิดวางแผนจะปองร้ายพระราชบิดา จักรพรรดิคังซีจึงสั่งจำคุกเขาอีกครั้งใน ค.ศ. 1714 (แต่ก็ไม่ทราบว่าได้รับการปล่อยตัวอีกครั้งหรือเปล่า หรือว่าจะขังไว้ตลอดรัชสมัยคังซี?) ดังนั้นผมไม่คิดว่าองค์ชายแปดจะได้เป็น "ชินหวาง" หลังจากรัชทายาทอิ้นเหริงถูกปลดไปแล้ว และข้อมูลจาก The Cambridge History of China, Vol. 9 ที่ว่าองค์ชายแปดได้เป็นชินหวางในต้นรัชสมัยยงเจิ้งน่าจะถูกต้องมากกว่า แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 51 23:24:03 แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 51 23:19:46 แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 51 23:07:55 จากคุณ : ชาวจีนศึกษา ณ TU - [ 29 เม.ย. 51 23:02:55 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับผม จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) - [ 29 เม.ย. 51 23:27:33 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ส่วนองค์ชาย 3 อิ้นจื่อ (Yinzhi) ได้เป็น "ชินหวาง" พร้อมกับองค์ชายสี่ใน ค.ศ. 1709 สำหรับองค์ชายใหญ่นั้นผมยังไม่พบข้อมูลครับ แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 51 23:33:26 จากคุณ : ชาวจีนศึกษา ณ TU - [ 29 เม.ย. 51 23:30:06 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ด้วยกระทู้นี้ ทำให้เมื่อวาน ผมได้ไปซื้อมาดูแล้ว ด้วยความที่ชอบราชสำนักราชวงศ์ชิงเป็นส่วนตัว สนุกนะครับ ชอบศิลปะมากกว่าประวัติศาสตร์จริง จากคุณ : อุบาสกฉางชุน (อุบาสกฉางชุน) - [ 2 พ.ค. 51 03:59:55 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อิอิ แล้วสมันหยงเจิ้นมี นักบวชองครักษ์ที่ใช้อาวุธลักษณะคล้ายหม้อที่ครอบหัวคนและดึงให้ขาดด้วยโซ่แบบในหนังจริงหรือเปล่าครับ อิอิ แถมในหนังชอบราเดอร์ มีจอมยุทธหญิงบุกไปตัดหัวฮ่องเต้คาท้องพระโรงด้วย อิอิ จากคุณ : Dodoro - [ 2 พ.ค. 51 23:55:30 ]