ความคิดเห็นที่ 15
"มีฝรั่งตั้งเยอะแยะ ที่ฟังพูดรู้เรื่อง แต่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ ไม่รู้แกรมม่าเลย"
>>> ก็เพราะมันเป็นภาษาแม่ของเขายังไงล่ะคะ
คุณลองให้คนฝรั่งเศสก็ได้ ไหนๆ ก็ฝรั่งเหมือนกัน บ้านเมืองก็อยู่ห่างกันแค่มีช่องแคบกั้นไว้ ภาษาก็เขียนด้วยตัวอักษรโรมันเหมือนกัน ลองให้คนฝรั่งเศสเริ่มเรียนภาษาอังกฤษตอนชั้นประถม (ควบคู่กับภาษาของตัวเอง) ด้วยการฟังกับพูดอย่างเดียว ถ้าไม่รู้หลักภาษาอังกฤษเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า je=I, tu=you, il=he, elle=she ดูสิว่า จะไปได้เร็วได้ไกลแบบธรรมชาติได้แค่ไหน
คุณทราบไหมว่า สิงคโปร์ ฮ่องกงและอินเดีย ที่เคยเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ ไม่ว่าที่บ้านจะใช้สองภาษาหรือไม่ แต่เวลาเรียนเขาเรียนควบสองภาษาตั้งแต่เด็กๆ ยังต้องเรียนหลักภาษาตั้งแต่ ป.1 เช่นกัน
"เรียนแบบในโรงเรียนทั่วไป มันเหมือนผิดหัวผิดหางน่ะครับ คนเรียนต้องหัวดีจริงๆ จึงจะแตกฉานได้ ซึ่งก็มีเพียง 1 ใน 10 หรือ 20 คนมั๊ง แต่ถ้าเรียนถูกขั้นตอน คุณแค่ หัวปานกลาง ไม่ต้อง IQ เป็นเลิศ ก็รู้เรื่องเำพราะภาษามันเป็น sense พื้นฐานของคนอยู่แล้ว"
>>> จากประสบการณ์ ขอแย้งว่า ที่เด็กเรียนไม่รู้เรื่อง ก็เพราะครูสอนไม่มีความสามารถพอจะสอนค่ะ ในเมื่อครูเองยังไม่เข้าใจ จะไปสอนให้เด็กเข้าใจได้ยังไง เมื่อเป็นอย่างนั้น ถึงต้องให้ท่องจำๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตลอดไงล่ะ
ทุกวิชาที่ใช้ทักษะนั้นแทบจะเหมือนกันหมด ขอเพียงให้เข้าใจ
ถ้าคุณเข้าใจวิธีหา ครน หรม อย่างถูกต้อง เมื่อไรที่เจอโจทย์อย่างนี้ คุณก็ทำได้ อาจจะลืมไปบ้าง แต่พอได้ฟื้นนิดหน่อย ก็รู้เรื่องแล้ว
ภาษาอังกฤษก็เช่นกัน ถ้าเข้าใจความแตกต่างและวิธีใช้ระหว่าง a, an, the แล้ว มันก็ซึมลึกลงไปเอง ให้เขียนเมื่อไร ก็จะใช้ถูก
ถึงจะไม่ได้ใช้บ่อยๆ จะติดขัดบ้าง แต่ยังไงก็จะทำเป็นใช้เป็น ยังไงก็หา ครน หรม ได้ ใช้ a, an, the ได้ถูกที่
การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ นั้น มันเหมือนเป็นเพียงเติมปีกเติมหางให้คุณ แต่ถ้าคุณยังคลานไม่เป็น ยืนไม่ได้ ก้าวขาเดินไม่ออก - จะเอาปีกเอาหางมาเพื่อประโยชน์อันใดคะ
จากคุณ :
o;]
- [
7 พ.ค. 51 14:32:33
A:125.25.22.0 X: TicketID:012689
]
|
|
|