ความคิดเห็นที่ 1 โดยส่วนตัวที่ใช้คือใช้ภาษาเยอะๆ มากเท่าไหร่ยิ่งดี เรื่องอ่านลองไปหาเรื่องที่รู้แล้วมาอ่านก่อน บันเทิงยิ่งดีเพราะจะได้มีกำลังใจอ่านเยอะๆ แล้วค่อยๆเอาที่ไม่รู้เรื่องมาอ่านต่อ อ่านมากๆแล้วอย่าเปิดศัพท์ ดูบริบทแทน สักพัก ฟัง/อ่านแล้วอย่าแปลเป็นไทย พูด/เขียน โดยไม่แปลจากไทย เมื่อไหร่ที่คิดเป็นอังกฤษได้ถือว่าใช้ได้ค่ะ จากคุณ : jk (jackfruit_k) - [ 7 พ.ค. 51 19:53:32 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เหมือน คห 1 + หรือจะหัดคิดเป็นภาษาอังกฤษก็ได้ค่ะ ... เห็นอะไร เจออะไร คิดเป็นภาษาอังกฤษ แรกๆ ก็แปลบ้าง หลังๆ จะไวขึ้นเพราะเหตุการณ์ประจำวันของเรามันคล้ายๆ กันทุกวัน คิดไปเรื่อยๆ เดี๋ยวจากความคิดมันก็จะออกมาทางปาก ... จากคุณ : ม.แมว - [ 7 พ.ค. 51 21:09:52 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญนะ แต่มีจุดนึงที่อยากแนะนำคือ จริงอยู่คำหลายคำมี "คำแปล" ตายตัว เช่น สุนัข แมว ฯลฯ แต่อีกหลาย ๆ คำที่มีหลาย "ความหมาย"  เช่น get พยายามดู "ความหมาย" มากกว่า "คำแปล" นั่นคือพยายามดู "บริบท" ในการใช้คำต่าง ๆ นั่นจะตอบปัญหาที่คุณว่า "คำศัพท์ที่ได้จากบทความผมก็นำมาใช้ไม่ได้" ถ้าคุณฝึกดูบริบทที่เจ้าของภาษาเค้าใช้ไปด้วย คุณจะใช้ภาษาได้ถูกระดับ เหมาะกับกาละเทศะขึ้น ฝึกไปมาก ๆ เข้า คุณจะถึงระดับนึงที่ว่า เวลาคุณฟังสองคนคุยกัน เวลาคนแรกพูดอะไรมา สิ่งที่คุณคิดตอบในใจนี่คือสิ่งที่คนที่สองพูดออกมาเลย เพราะคุณซึมซับและเข้าใจสภาพแวดล้อม สถานการณ์ อารมณ์ของการสนทนานั้น ๆ ตัวอย่างง่าย ๆ เช่น ถ้าเรียนมาจากเมืองไทย คุณอาจจะคิดว่าคำว่า "น่ารัก" น่าจะใช้ s/he's lovely. ที่อเมริกานี่ เค้าพูดชมดาราหรือคนที่คุณอาจจะปิ๊งกันว่า s/he's cute. ที่นี่เค้าชมเด็กเล็ก ๆ น่ารัก ๆ ว่า s/he's adorable. เนี่ยค่ะ ถ้านึกถึงภาษาไทย มันก็น่ารักทั้งสองสถานการณ์ แต่เวลาคนอเมริกันใช้ เค้ามักจะใช้แบบนี้ค่ะ โชคดีนะคะ จากคุณ : Genuine XXX - [ 7 พ.ค. 51 21:45:51 ]

ความคิดเห็นที่ 4 จริงๆแล้วคำในภาษาอังกฤษที่มีหลายความหมายนั้นมีจำนวนมากเลยครับ แม้แต่คำว่า dog ที่แปลว่า สุนัข ก็อาจใช้เรียกคนก็ได้ หรือใช้เป็น กริยาหมายถึง ตามรอย ตามกลิ่นก็ได้ และทางกลับกัน มีคำหลายคำมาก ที่มีความหมายเหมือน dog สุนัข จากคุณ : น้ำ - [ 7 พ.ค. 51 22:41:30 A:125.26.123.75 X: TicketID:173314 ]

ความคิดเห็นที่ 5 หากไม่รู้ว่าคำไหนเป็นชนิดอะไร อย่าลังเลที่จะเช็คจากพจนานุกรมค่ะ จริงๆแล้วเช็คจากบริบทก็ได้ อย่างคำว่า well ที่สะกดและออกเสียงเหมือนกันทุกประการในประโยคข้างล่าง หากเปิดพจนานุกรมก็จะทราบว่าแปลว่า ดี และ บ่อน้ำ ตามลำดับ well ตัวแรกเป็น adverb ขยายคำว่าให้รู้ว่า สภาพน้ำที่นี่ ได้รับการรักษา "เป็นอย่างดี" ส่วนwell ที่สอง เป็น noun แสนธรรมดา Water is well preserved here. You can drink directly from the well right there. การเรียนรู้ที่ดีอย่างหนึ่งคือการอ่านให้มาก และทำความเข้าใจแต่ก่อนเลยว่า การอ่านจากแหล่งต่างๆ ทั้งหนังสือพิมพ์ นิยาย เว็บไซต์ เอกสาร หรือตำรา จะมีภาษาที่แตกต่างกัน คำศัพท์เฉพาะ อย่างเช่น ภาษาหนังสือพิมพ์จะสั้น กระชับ มีวิธีการเขียนต่างจากวิธีการที่ใช้เขียนreport หรือ essay อย่างเกาลัดเรียนEnglish for Academic Purpose ยังต้องทำเป็นลืมๆกฏเหล็กของวิชานี้เพื่อเขียนในวิชาเขียนข่าวเลยค่ะ ความบ่อย และความเคยชินจะช่วยเพิ่มคลังศัพท์และวิธีการนำไปใช้ในสมอง เราเพิ่งอ่านนิยายจบไปเรื่องหนึ่ง ภาษาในเรื่องจะใช้แสลง สบถ เยอะมาก แล้วศัพท์แปลกๆที่เรานั่งงงตั้งนานว่ามันคืออะไร มันคือ shitkicker แต่พระเอกถอดมันออกจากเท้าแล้วโยนไปทางหนึ่ง คงเป็นรองเท้ากระมัง มาค้นทีหลังได้รู้ว่ามันคือ รองเท้าหนักๆ บูทหนาๆ (ถ้าแปลตรงตัวคือ ไอ้ที่เขาไว้เตะอุนจิ) แต่คำนี้ จะเอาไปใช้เขียนส่งอาจารย์ คงโดนวงแดงกลับมาค่ะ จากคุณ : เกาลัด (kurika) - [ 7 พ.ค. 51 23:26:33 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ยืนยันตามคุณเกาลัดครับ... "ความบ่อย และความเคยชินจะช่วยเพิ่มคลังศัพท์และวิธีการนำไปใช้ในสมอง " จากคุณ : ไข่ต้มกะนมอุ่น - [ 8 พ.ค. 51 08:49:31 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สื่งที่เราคิดนะ มันอาจไม่ถูกต้อง แต่เราก็พบว่ามันเป็นจริงกับตัวเรา  แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นความจริงกับผู้อื่นหรือไม่ นั่นก็คืว่า ตอนที่เราเรียนภาษาอังกฤษโดยเห็นแต่ตัวหนังสือบนกระดาษน่ะ คือมีแต่ท่องศัพท์ ก้บเรียน grammar แต่ยังไม่เคยได้ยินฝรั่งพูด และก็ไม่เคยพูดกับฝรั่ง ในช่วงนั้น เวลาเราจะอ่านประโยคภาษาอังกฤษ เราจะต้องแปลมันเป็นไทยตลอดเลย กว่าจะเข้าใจได้ แต่ครั้นพอเมื่อหยุดเรียนแบบนั้นไปสักพักใหญ่ๆ แล้วมีโอกาสไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่พูดภาษาอังกฤษทุกวันสักระยะหนึ่ง จนกระทั่งฟังรู้เรื่องพูดคล่อง  แล้วจึงกลับมาอ่านหนังสือภาษาอังกฤษใหม่อีก  กลับพบว่า สามารถอ่านแล้วเข้าใจภาษาอังกฤษได้ทันที "โดยไม่ต้องแปล" เมื่อเราใช้เวลาอีกหลายปีในการอ่านหนังสือเพื่อให้เข้าใจโดยไม่ต้องแปล (คืออ่านหนังสือเพื่อหาความรู้) แล้วอยู่ดีๆ ไม่คาดฝันว่าจะต้องมาทำงานเป็นนักแปล เรากลายเป็นพบว่า "ทั้งๆที่เราอ่านหนังสือภาษาอังกฤษรู้เรื่องดีนะ แต่เรากลับแปลมันเป็นไทย ไม่ได้เลย...คือแปลออกมา แล้วภาษาไทยมันอ่านไม่รู้เรื่องน่ะ แล้วเราก็บ่นๆว่า เราอ่านรู้เรื่องทันที แต่ทำไมแปลไม่ได้ จึงต้องผ่านกระบวนการเรียนรู้เรื่องการแปล อีกตั้งหลายปี กว่าจะแปลอังกฤษเป็นไทยได้..." จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 8 พ.ค. 51 13:28:52 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เป็นเหมือนคุณ tansy ค่ะ อ่านรู้เรื่อง แต่แปลให้ดีไม่ได้ ตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยได้อยู่ มีคนเคยบอกว่าลักษณะการเขียนบทความภาษาไทยเหมือนแปลจากอังกฤษมา จากคุณ : jk (jackfruit_k) - [ 8 พ.ค. 51 17:29:45 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เป็นเหมือนกันครับ ตอนนี้ผมเองมีทักษะในเรื่องการแปลต่ำมากๆ (ซึ่งเมื่อก่อนดีกว่านี้มาก) ที่เป็นแบบนี้เพราะเน้นฝึกฝนฟังกับพูดมากขึ้น (ปริมาณมากๆทุกวัน) แทบจะไม่อยากแปลเลยเพราะเวลาฟังหรืออ่านเข้าใจชอบแทนแทนคำยากๆที่เจอในบริบทโดยใช้ภาษาอังกฤษคำอื่นที่ง่ายกว่าแทน หรือไม่ก้ Paraphrase เป็ยภาษาอังกฤษโดยใช้คำพูดตัวเองไป ดังนั้นพอใครถามให้แปลคำไทยเป็นอังกฤษหลายคำง่ายๆกลับอึดอัดแปลไม่ออกเอาซะเลย ถ้า จขกท อยากเรียนแบบไม่ต้องแปลก็ต้องใช้เวลา+ใส่ปริมาณของภาษาเข้าไปเยอะๆ พอคุ้นแล้วมันก็จะเข้าใจและแสดงออกมาได้ดีขึ้นเรื่อยๆโดยไม่ต้องใช้ภาษาไทยเอง แก้ไขเมื่อ 08 พ.ค. 51 18:10:28 แก้ไขเมื่อ 08 พ.ค. 51 18:09:17 จากคุณ : โจโฉ (joechou) - [ 8 พ.ค. 51 18:06:48 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณครับ จากคุณ : pb1302 (PB1302) - [ 9 พ.ค. 51 16:32:48 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผมประสบปัญหาตรงที่ตอนนี้ถ้าใครให้แปลอังกฤษเป็นไทย หรือ ไทยเป็นอังกฤษแล้วจะแปลไม่ค่อยได้ หรือ ไม่ค่อยตรง เพราะตอนนี้ ผมจะคิดหรือเข้าใจเป็นอังกฤษไปเลย(เหมือนที่จขกท.อยาก) เพราะผมต้องมานึกว่าไอ้คำนี้ ภาษาไทยแปลว่าไร อังกฤษใช้คำไรแทนได้ จากคุณ : hoyhey - [ 15 พ.ค. 51 15:28:37 A:203.146.25.174 X: ]