ความคิดเห็นที่ 1 จายเยนเยน... งานจากบริษัทแปลน่ะ เขาจะกินหัวคิวคุณ 50% นั่นก็หมายความว่ากรณีคุณ บริษัทแปลจะคิดลูกค้าหน้าละ 400 ...มันจึงเข้าข่ายว่า คุณจะแปลแล้วมีรายได้ดีพออยู่ได้ คุณต้องแปลเอาปริมาณ ซึ่งถ้าจะทำได้สำเร็จคุณต้องแปลเร็วมาก (โดยอาศัยชั่วโมงบินที่สูงมากๆ) นั่นเอง  นั่นก็หมายความว่า คุณภาพจะเป็นแค่ "พออ่านรู้เรื่อง" แต่ไม่ดีเยี่ยม   ในขณะที่งานแปลคุณภาพดีเยี่ยมเขาไปแปลกันที่ศูนย์การแปลจุฬา ซึ่งก็คงตกหน้าละ 2,000 บาท หรือแพงกว่านั้น แต่คุณภาพดีเยี่ยม ยกตัวอย่างเช่น แปลไทยเป็นอังกฤษ ศูนย์การแปลจุฬาเอาอาจารย์ฝรั่งที่อ่านภาษาไทยรู้เรื่องแปล คำแปลภาษาอังกฤษออกมา จะเหมือนนักวิชาการเขียนอะไร ที่ดูแล้วน่าเลื่อมใสมากๆเลย ซึ่งนักแปลธรรมดาๆ ทั่วๆไปในท้องตลาด ยังไม่มีความสามารถเท่านี้ ที่เรากล้ายืนยันคุณภาพงานแปลจากศูนย์การแปลจุฬา  ไม่ใช่ดูจากชื่อเสียงมหาลัย แต่เราเคยอ่านผลงานแปลไทยเป็นอังกฤษจากศูนย์การแปลจุฬา  มาหลายชิ้น  ยอมรับว่าเขาแปลดีมากๆจริงๆ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 51 16:44:43 แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 51 16:40:47 แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 51 16:35:01 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 9 พ.ค. 51 20:24:24 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เราเคยรับงานแปลจากบริษัทแปล เขาให้เราแค่หน้าละ 175 บาทเอง แต่เราแปลมันได้วันละ 10 หน้า หรือมากกว่านั้น บางทีเราเห็นคนเข้ามาแปะคุยว่าได้ค่าแปลหน้าละตั้ง 2,000 เราก็หงุดหงิดเหมือนกันนะ อยากจะถามว่า ถ้าแปลไทยเป็นอังกฤษแล้วคำแปลภาษาอังกฤษออกมาดีเท่าอาจารย์ฝรั่งที่ศูนย์การแปลจุฬาแปลหรือเปล่า (ที่กล้าพูดแบบนี้เพราะว่าเราเคยเห็นผลงานแปลอาจารย์ฝรั่งที่ศูนย์การแปลจุฬาตีพิมพ์มาแล้ว)  แล้วไอ้ที่คุยว่า ได้หน้าละ 2,000 น่ะ มีงานทำทุกวันหรือเปล่า? แต่จริงๆแล้วไอ้ที่บริษัทแปลให้เราแค่หน้าละ 175 บาทน่ะ ถึงมันถูก แต่เผอิญมันมีงานทำทุกวันยังไงล่ะ คือเดือนหนึ่งมี 30 วัน ไม่เคยมีวันไหนที่ไม่มีงานทำ ในขณะที่คนที่คุยว่าได้หน้าละ 2,000 บาท อาจได้ราคาดีๆขนาดนั้น เพียงแค่ครั้งเดียวในรอบ 15 ปี ก็ได้ (ถ้าไม่ใช่อาจารย์ฝรั่งที่จุฬานะ) งานแปลหน้าละ 175 บาท เราเคยแปลได้วันละ 10 หน้าทุกวัน ก็เป็นเงินวันละ 1,750 ตกเดือนละ 52,500 ก็พออยู่ได้ ไม่รวยไม่จนนัก แต่บางช่วงเราติดเหล้างอมแงม เราเลยแปลมันวันละ 20 หน้าเพื่อให้มีรายได้ 2 เท่านั้น เอามาซื้อเหล้าดีๆกิน ผลปรากฎว่าสุขภาพเสียแทบจะเอาชีวิตไม่รอดแน่ะ...!!! แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 51 16:39:14 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 9 พ.ค. 51 20:32:17 ]

ความคิดเห็นที่ 3 งานแปลจากบริษัทแปลราคาถูกๆเช่นนี้ พี่ nickycharles เพื่อนเรา ที่เพิ่งเสียไปไม่นานมานี้ เรียกมันว่า "ก๋วยเตี๋ยวเรือ" เราพยายามที่จะทำลายวงจรอันชั่วร้ายเช่นนี้ โดยการพยายามหางานเองจากลูกค้าโดยตรง มาหลายปี เพื่อให้หลุดพ้นจากการทำงาน "ก๋วยเตี๋ยวเรือ" แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก เนื่องจากลูกค้าระดับบิ๊กๆ ไม่ deal กับ "บุคคลธรรมดา" แต่จะ deal กับ "นิติบุคคล" เท่านั้น และนี่คือปัญหาใหญ่ที่นักแปลซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาต้องเผชิญ นักแปลที่เป็นบุคคลธรรมดาจะได้งานราคาแพงๆได้นั้น ส่วนใหญ่จะต้องมี connections นั่นก็คือมีเพื่อนฝูงอยู่ในหน่วยงานที่จะหานักแปล ซึ่งในบางกรณีนักแปลอาจติดสินบนคนรู้จักในหน่วยงานน เพื่อให้ "โก่งราคา" อย่างเช่นถ้าพอรับได้หน้าละ 500 ก็ติดสินบนคนในหน่วยงาน ให้โก่งเป็นหน้าละ 1,500 ถ้าเอกสารที่ต้องแปลมีจำนวนเป็นพันๆหน้า หรือหลายๆพันหน้า เงินติดสินบนอาจมีตัวเลข 6-7 หลักก็ได้...! จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 9 พ.ค. 51 20:42:09 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เราเคยคิดจะระดมกำลังนักแปลจากคนในห้องนี้ ที่เป็นบุคคลธรรมดา เพื่อไปสร้าง website หรือ virtual company เพื่อรับงานแปล แต่มันไม่ work เนื่องจากพวกเซียนแถวๆนี้ บางคนเป็นคนรวยหรือมีอาชีพอย่างอื่นที่มั่นคง ไม่ใช่นักแปลมืออาชีพที่ตีนถีบปากกัดอย่างเรา สิ่งที่เราคิดไว้ก็คือ อาจมีระบบคล้ายๆ pantip blog ที่มีสมาชิกมากมาย ซึ่งเป็นนักแปลกันหมด ที่เขียน resume และแปะผลงานแปลของทุกคนไว้ในระบบ  และในขณะเดียวกันระบบก็จะมีหน้าที่โฆษณาบริษัทแปลทั้งหมดที่อยู่ในประเทศไทย โดยจะ educate ลูกค้าไปอย่างโปรงใสเลยว่า บริษัทพวกที่ quote ราคาประมาณนี้ แต่ตัวเลข ที่เขา quote นั้น เป็นตัวเลขที่ลูกค้าได้งานที่มีมูลค่าเพียงแค่ครึ่งเดียว เช่นกรณีบริษัทแปลที่คุณไปรับงานมา ถ้าให้คุณ 200 เขาก็รับลูกค้า 400 นั่นก็หมายความว่าลูกค้าจ่าย 400 แต่ได้งานมูลค่า 200 ไป หากทำได้เช่นนี้ ลูกค้าก็จะเปรียบเทียบได้ว่า จะจ่ายเงินหน้าละ 400 ให้บริษัทแปลแต่ตามทวงงาน และหาคนรับผิดชอบได้ หรือจะจ่าย 500 - 2,000  ให้บุคคลธรรมดา ที่มีตัวอย่างการแปลดีกว่า ของบริษัทแปลที่เป็นก๋วยเตี๋ยวเรือ (คือแปลลวกๆ) แต่ต้องมาเสี่ยงกับบุคคลธรรมดา (ที่แปลดีกว่าหลายเท่า แต่ในบางกรณีก็ไม่ใช่ว่าจะปลดีกว่า) ซึ่งอยู่ดีๆ ไม่รู้ล้มหายตายจาก ไปไหน หรือไปกินเหล้าเมา แล้วแปลไม่เสร็จ แล้วก็หาตัวไม่เจอ ฟ้องเรียกค่าเสียหายก็ไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 51 20:54:35 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 9 พ.ค. 51 20:51:52 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เรามาสรุปปัญหากันโดยรวมนะ คือว่าตอนนี้นะ มีบริษัทเอกชนเป็นจำนวนมากที่ต้องพึ่งบริการแปล แต่พวกเขาไม่สามารถที่จะจ่าย rate สูงๆ แบบที่ต้องจ่ายให้ศูนย์การแปลจุฬาได้ นั่นก็หมายความว่า บริษัทเอกชนเหล่านี้จำเป็นต้องพึ่งบริษัทแปล ดังนั้น บริษัทแปลจึงกำลูกค้าและงานเอาไว้ในมือเป็นจำนวนมาก  เนื่องจากลูกค้าหลายๆรายคิดว่าการ deal กับบริษัทแปลมันน่าเชื่อถือมากกว่าที่จะ deal กับนักแปลซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา   ไม่ใช่ว่าบริษัทเอกชนจะพึงพอใจกับงานปล ก๋วยเตี๋ยวเรือ (งานลวกๆ)  จากบริษัทแปลเสมอไปนะ แต่พวกเขาจำเป็นที่จะต้องยอมรับคุณภาพขนาดนี้  เนื่องจากไม่มีงบพอที่จะไปจ้างศูนย์การแปลจุฬาทุกงาน พวกเรานักแปล จะแก้สมการนี้ได้สำเร็จ คงทำได้ยากมากๆ เว้นเสียแต่ว่าจะทำให้บริษัทเอกชนเชื่อใจได้ว่านักแปลที่เป็นบุคคลธรรมดา แปลได้ดีกว่าและมีความรับผิดชอบเป็นอย่างดี เท่านั้นเอง จขกท ลองบริกรรมดูสิ ว่าจะแก้สมการนี้ได้อย่างไร? แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 51 21:02:40 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 9 พ.ค. 51 21:01:18 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เราเคยคิดแก้ปัญหาเอาไว้อย่างนี้นะ สมมุติว่า คุณมีวิธีโฆษณา จะด้วยสื่ออะไรก็ตามเถอะ จนกระทั่งลูกค้ามาหาคุณมากมาย ลงเอยจะเกิดอะไรขึ้น คุณแปลคนเดียว คุณก็สับหลีกงานไม่ทัน พองานมันชนกันนะ แล้วลูกค้าใหม่ๆเข้ามา คุณก็ต้องปฏิเสธลูกค้าไป เพราะงานเก่ายังไม่เสร็จ  แต่ในสถานการณ์เช่นนี้นะ คุณจะลงเอยไม่เหลือลูกค้าเลย เพราะลูกค้าจะไปใช้บริการที่อื่นกันหมด แต่ในสถานการณ์เช่นนี้นะ นักแปลบางคนหาเพื่อนฝูงมาช่วย แล้วแบ่งรายได้ให้เพื่อนๆไป  เพื่อนฝูงบางคนซี้กัน เรียนหนังสือมาด้วยกัน ก็ช่วยๆกันไป แต่ถ้าทำเป็นธุรกิจ มันก็มีรายการกินหัวคิวคนที่มาช่วยอีกนั่นแหละ คือทำนาบนหลังคนอีกนั่นแหละ และวงจรชั่วร้ายก็เกิดขึ้นอีก เว้นเสียแต่ว่าจะรับงานได้ราคาแพงๆ (ลูกค้าเต็มใจจ่าย) คนที่มาช่วยเห็นราคาดี ถึงโดนกินหัวคิวก็ไม่แปลงานลวกๆ แต่แปลงานดีๆให้ .... แต่ถ้าคุณไม่อยากทำนาบนหลังคนนะ คุณลองวิธีนี้ดู ...พยายามหาลูกค้าเอง แต่อย่าหาแบบ เปิดตัวให้ลูกค้าจากทุกแหล่งวิ่งเข้ามาติดต่อคุณในเวลาเดียวกัน  หากแต่ว่าคุณต้อง "ทำตัวให้เเป็น single service provider ของบริษัทแห่งใดแห่งหนึ่งเพียงแค่แห่งเดียวก่อนเพื่อเป็นการเริ่มต้น" การที่จะทำเช่นนี้ได้คุณน่าที่จะเชี่ยวชาญการแปลในบางสาขาที่หาคนอื่นทำได้ยาก ยกตัวอย่างเช่นถ้าคุณเชี่ยวชาญการแปลกฎหมาย คุณก็ลองติดต่อสำนักงานกฎหมายข้ามชาติดู แล้วทำตัวให้เป็น single service provider คือคุณเหมางานของบริษัทนั้นไปคนเดียวเลย (หรืออย่างมากก็แบ่งกับนักแปลอิสระอีกคนหนึ่ง โดยบริษัทจ้างนักแปล 2 คน)  จากนั้นก็สำรวจดูว่า งานมากพอไหม รายได้พอไหม และเพื่อความปลอดภัย ก็อาจหาลูกค้าประจำอีกรายหนึ่ง สรุปแล้ว การที่นักแปลมีลูกค้ารายใหญ่ๆประจำ แค่ 2-3 ราย ที่มีงานประจำให้ และว่าจ้างนักแปลไปนานๆ อาจเป็นทางออก ที่จะทำให้นักแปลไม่ต้องทำงาน "ก๋วยเตี๋ยวเรือ" ให้โมโหที่โดนตัดราคา ก็ได้ แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 51 21:17:30 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 51 21:14:29 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 9 พ.ค. 51 21:11:19 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แนะนำว่า จขกท ไปอ่านกระทู้นี้ด้วย http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6557559/K6557559.html จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 9 พ.ค. 51 21:28:13 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เซ็งอ่ะครับ หั่นราคาแบบไม่ให้เกียรติกันเลย ความจริงเค้าน่าจะมีวิจารณญาณแบบวิญญูชนนะ ว่างานระดับไหนควรให้ราคาเท่าไหร่ ทำแบบนี้เหมือนดูถูกความสามารถนักแปล ทำเหมือนกับกับเราต้องไปง้อขอข้าวเค้ากิน จากคุณ : จขกท. - [ 9 พ.ค. 51 21:30:14 A:124.120.166.40 X: TicketID:175575 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตอบ จขกท ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า บริษัทแปลทั้งหลาย "กำลูกค้าเอาไว้ในมือหมด" เนื่องด้วยเหตุผลที่ว่าลูกค้า ที่เป็นบริษัทเอกชน หรือหน่วยงานต่างๆ สบายใจมากกว่าที่จะ deal กับบริษัทแปลเพราะว่าเป็นนิติบุคคล และในเวลาเดียวกันบริษัทแปลทั้งหลายก็แย่งกัน "ตัดราคา" ด้วย ดังนั้น ความลำบากจึงตกอยู่ที่นักแปล วงจรอันชั่วร้ายนี้ แก้ลำบากมากๆ  เราเคยปั่นงาน "ก๋วยเตี๋ยวเรือ" (งานแปลราคาถูกๆแต่มีให้ทำทุกวัน) จนเครียด แล้วเลิกกับแฟนไป 2 คน จากนั้นก็ป่วยเป็นโรค alcoholism นักแปลรุ่นพี่เราที่เคยแปล "ก๋วยเตี๋ยวเรือ" (งานแปลราคาถูกๆแต่มีให้ทำทุกวัน) ก่อนเรา มี 2 คน ตายด้วย alcoholism ...คนหนึ่งเมาแล้วไปนอนตายข้างถนน  อีกคนหนึ่งฤทธิ์ของ alcoholism ทำให้จิตประสาทเลอะเลือนก่อนตาย  ส่วนคนที่ 3 ที่รู้นั้น ตายด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตก เนื่องจากว่านักแปลท่านนี้แปลมากถึงวันละ 40 หน้าทุกวัน เป็นเวลาหลายปี...!!! แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 51 21:44:14 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 9 พ.ค. 51 21:41:24 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขนาดนั้นเลยหรือครับ เปลี่ยนงานไปสอนภาษาอังกฤษเด็กๆดีไม๊เนี่ย ฟังแล้วเครียดเลย จากคุณ : จขกท. - [ 9 พ.ค. 51 21:58:08 A:124.120.166.40 X: TicketID:175575 ]

ความคิดเห็นที่ 11 งานแปลถูกๆ บางทีก็ทำเงินได้มาก ต้องดูทางหนีทีไล่ดีๆ  เช่นถ้าใครหาแหล่งรับจดหมายรักจากผู้หญิงบาร์ที่มีรายได้ดีๆมาแปลนะ (ขึ้นอยู่กับแหล่ง) แค่แปลหน้าละ 200 วันหนึ่งแปลได้ 15 หน้า ได้ 3,000 บาท ทำได้สบายๆไม่เครียด เพราะเป็นงานง่ายมากๆ หน้าหนึ่ง (หญิงบาร์เขียนเป็นลายมือมา) แปล 10 นาทีก็เสร็จแล้ว บางทีนักแปลได้มากกว่านั้นก็มีคือ นักแปลถามหญิงบาร์ว่าถ้าไถเงินชาวต่างชาติให้ได้ 300,000 ขอ tip สัก 10,000 จะได้ไหม? บางทีหญิงบาร์บอก ok เลยก็มีนะ เราเคยสูญเสียรายได้ไปมหาศาลเนื่องจากโดนนักแปลด้วยกันนี่แหละ ตัดราคา คือเมื่อก่อนเรามีงานแปล "ก๋วยเตี๋ยวเรือ" (งานแปลราคาถูกๆแต่มีให้ทำทุกวัน) หน้าละ 175 แต่แปลได้วันละ 20 หน้า ตกวันละ 3,500 สบายๆเลย เนื่องจากมันเป็นงานง่ายๆ คือแปลแบบฟอร์มที่ใช้เวลาพวกหญิงไทยแต่งงานกับชาวต่างชาติไปยื่นให้กระทรวงการต่างประเทศรับรอง ส่วนใหญ่มันคล้ายๆกัน แปลแพล็บเดียวก็ได้ตั้งหลายหน้า บางที copy ของเก่าเอามาเปลี่ยนชื่อ นามสกุล วันที่ ก็ใช้ได้เลย ที่บริษัทแปลส่งงามหมูๆแบบนี้มาให้เชือด นั่นก็เพราะว่า บริษัทแปลแห่งนั้น "ไม่มีนักแปลรับเงินเดือนนั่งประจำ" ม่ายงั้นเขาก็เอางานง่ายๆให้นักแปลรับเงินเดือนทำ แล้วเอางานยากๆส่ง freelance translator ... ...แต่อยู่ดีๆนะ เราสูญเสียรายได้ไปเพราะอะไร?  เราพลาดท่าโดยการ พยายามปรับปรุงการแปลไทยเป็นอังกฤษให้ดีๆ ให้ภาษาอังกฤษดีขึ้น แต่กลายเป็นผลร้าย เนื่องจากเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศชอบคำแปลภาษาอังกฤษแบบไทยๆ เพราะมันแปลตรงตัวเด๊ๆ ทำให้ตรวจง่าย เจ้าหน้าที่กระทรวงเลยพอเจอเราเขียนภาษาอังกฤษแบบปรับปรุงใหม่ดีๆ เขาจะบอกว่า "แปลผิด" แล้วตีกลับมา เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เราจึงต้องเปิดหนังสือ grammar หรือหาตัวอย่างการเขียนที่คัดมาจากเว็บฝรั่ง แล้วส่งไปให้เจ้าหน้าที่กระทรวงดู ว่าที่เราเขียนน่ะ ก็มีฝรั่งเขียนกัน แต่ปัญหามันมีมากเกินไป เพราะมันทำให้เจ้าหน้าที่กระทรวงยิ่งคอยจับผิดบริษัทแปล ก็เลยมีนักแปลคนหนึ่งที่เขียนภาษาอังกฤษมีกลิ่นกะปิน้ำปลามากๆ แบบที่เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศชอบ โผล่เข้ามา เธอกำลังตกงาน จึงไปสมัครทำงาน "ก๋วยเตี๋ยวเรือ" (งานแปลราคาถูกๆแต่มีให้ทำทุกวัน) โดยเสนอราคาตัดหน้าเรา แค่เดือนละ 30,000 และ บริษัทแปลหัวเราะก๊ากรีบจ้างเธอเลย เพราะประหยัดเงินไปบานเลย ... มันจึงทำให้รายได้วันละ 3,500 ของเราอันตรธานหายไปหมด...!!! อันนี้เข้าข่ายที่เรียกว่า เสือกเรียนภาษาอังกฤษให้เก่งขึ้น จึงตกงาน ...มัน ironical หรือเปล่าล่ะ? ที่เล่าให้ฟังใน คคห นี้ ก็เพื่ออธิบายว่า มันแล้วแต่ทางหนีทีไล่ บางทีงานราคาถูกกลายเป็นได้เงินดีก็มี บางทีเขียนภาษาอังกฤษห่วยๆ ได้งานไปทำก็มี ทำให้คนเขียนภาษาอังกฤษแบบพยายามปรับปรุง ถึงกับตกงานไปเลยก็มี แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 51 22:12:00 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 51 22:09:52 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 51 22:07:47 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 51 22:03:52 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 9 พ.ค. 51 21:59:05 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อืม... ระบบราชการไทย เคยได้ยินมาแยอะเหมือนกัน งานก๋วยเตี๋ยวเรือลูกค้าไม่บ่นบ้างรึครับ แบบส่งกลับมาให้แก้มีไหมครับ หรือบางทีส่งกลับไปลูกค้าปฏิเสธบอกไม่รับงานเลยมีบ้างเปล่าครับ จากคุณ : จขกท. - [ 9 พ.ค. 51 23:02:13 A:124.120.166.40 X: TicketID:175575 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เมื่อก่อนตอนทำก๋วยเตี๋ยวเรือ (งานแปลราคาถูกๆ)  ในทุกๆรอบ 5 ปีจะมีงานโดนลูกค้าตีกลับประมาณ 1 ครั้ง (อันนี้ เป็นสถิติของเรา แล้วแต่ว่าใครแปลด้วยนะ) งานก๋วยเตี๋ยวเรือชิ้นสุดท้ายที่โดนตีกลับ เป็นแปลอังกฤษเป็นไทย เป็นสัญญาต่อเรือ ลูกค้าเป็นบริษัท ที่มีลูกจ้างคนหนึ่งคุยโวว่า เขาจบปริญญาเอกมา แล้วทำตัวอวดเก่ง ตรวจคำแปลเราทุกบรรทัด แล้วแก้งานเรามาแบบเละเทะมากๆทุกบรรทัดเลย (ยำใหญมาเลย) เพื่อโชว์ฟอร์มเจ๋งว่าเขาเก่งภาษาอังกฤษ แต่เขาแก้ "จากแปลถูกเป็นแปลผิด" ... เนื่องจากว่าเขาหลงประเด็น คือจริงๆแล้วเอกสารชุดนี้ เปิดฉากมีมีข้อความเรื่องการขุดเจาะน้ำมัน และมีคำศัพท์หลายตัวเรื่องอุปกรณ์ขุดเจาะน้ำมัน ที่ไม่มีทางหาเจอใน dictionaries แต่ต้องไปหาใน glossaries จากเว็บของ manufacturers  เราใช้เวลานานมากๆกับ google จนหามาได้ แต่อีกตาดอกเตอร์ เขาไม่ตระหนักเช่นนั้น เขาแก้เพื่อโชว์ฟอร์ม ทั้งๆที่เขาไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร จากนั้น ส่วนที่เหลือ เอกสารมันเปลี่ยนกระท้นหัน จากเรื่องขุดน้ำมัน มากลายเป็น "สัญญาต่อเรือ" ความฮึกเหิมของอีตาดอกเต้อร์ ทำให้เขาหลงประเด็นอย่างแรง โดยการแก้ไขคำศัพท์เรื่องชิ้นส่วนของเรือ ไปเป็นคำศัพท์เรื่อง construction site ไปหมด ซึ่งทำให้กลายเป็นผิดแบบหน้ามือเป็นหลังมือไปเลย ...!!! เราท้วงติงเขาว่าเขาแก้มาผิด เขาก็ย้อนมาว่า เขาต้องรู้ดีกว่าเพราะจบปริญญาเอกจากต่างประเทศ นี่ถ้าไม่คิดว่าผิดจรรยาบรรณนะ จะเอางานชิ้นนี้ มาแปะ แฉบนเว็บให้ดู ให้คนฮากันเล่นๆ ว่าอีตาดอกเตอร์คนนั้นนะ อวดเก่งแก้มา ทั้งๆที่อ่านภาษาอังกฤษไม่เข้าใจ ไอ้ประโยคที่เขาแก้มาแล้วเราขำมากที่สุดก็คือ เราแปลเป็นไทย วรรคแรกของสัญญาว่า "สัญญานี้ทำขึ้น ณ วันที่....." อีตาดอกเตอร์แก้มาเป็น "สัญญานี้ถูกทำขึ้น ณ วันที่....." อ่านแค่นี้ก็อยากจะบอกว่า "แก้แบบนี้นะ ไปไกลๆเลย ขอร้องอ้ะ...555+++" สิ่งที่ตลกที่สุดก็คือบทสนทนาระหว่างเรากับบริษัทแปลก๋วยเตี๋ยวเรือที่จ้างเรานะ (หลังจากที่ให้พนักงานเขาแก้กันจนหัวปั่นแล้ว) เราบอกว่า "โห...พี่แกแก้ทุกบรรทัดเลยว่ะ...ส่วนใหญ่แก้จากถูกเป็นผิดน่ะ บอกลูกค้าดิว่าถ้าจะเอาดีๆ ให้ไปแปลที่ศูนย์การแปลจุฬานะ หน้าละ 2,000 แทนที่จะเป็นหน้าละ 350 ซึ่งเป็นราคาหน้าร้าน แต่นักแปลได้แค่ 175 นะ...เฮ้อ จะเอาอะไรกันนักกันหนา" เจ้าของบริษัทแปลตอบกลับมาว่า "ก็เขาไม่ยอมเสียเงินมากๆยังไงล่ะ จะเอาทั้งดีด้วย และราคาถูกอีกด้วยน่ะสิ แล้วแถมยังจะเอาไวๆด่วนๆอีกด้วยสิ" แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 51 20:52:16 แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 51 17:06:48 แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 51 17:05:53 แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 51 17:03:55 แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 51 17:01:46 แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 51 15:49:41 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 51 23:31:45 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 9 พ.ค. 51 23:27:23 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ที่แปลผิดจังๆแบบความผิดเราเองก็มี ส่วนใหญ่จะเป็นแปลไทยเป็นอังกฤษ เช่นแปลเอกสารเกี่ยวกับคดี เราอ่านภาษาไทยไม่รู้เรื่องแล้วแปลผิดหน้ามือเป็นหลังมือเลย ทนายความก็โทรมาอธิบายว่าเราแปลผิด แต่เขาก็ไม่โวยวายแต่อย่างใด คงเป็นเพราะเขารู้ว่า ราคาค่าแปลถูกๆ แถมเร่งๆจะให้แปลเร็วๆ แบบนี้นะ ได้แค่นี้ก็น่าจะพอใจแล้ว จริงๆแล้วงานแปลไทยเป็นอังกฤษจากทนายความ นักแปลส่วนใหญ่จะแปลผิดมาก เนื่องจาก ถ้าไม่รู้เรื่องคดีละเอียด อ่านภาษาไทย แล้วแปลไปตามเนื้อผ้า จะตีความภาษาไทยผิดเสียเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น ลูกค้าที่แปลงานมากๆ จำเป็นต้องถนอมน้ำใจคนแปลก๋วยเตี๋ยวเรือ เนื่องจาก ถ้าไปแปลที่ศูนย์การแปลจุฬาหน้าละ 2,000 บาท ลูกค้าไม่มีเงินพอ จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 9 พ.ค. 51 23:36:51 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อืม ระบบแปลกๆนะครับ ลูกค้าห้ามบ่น 5 5 จากคุณ : จขกท. - [ 10 พ.ค. 51 00:30:00 A:124.120.166.40 X: TicketID:175575 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เรื่องแปลจดหมายรักนี่ต่อให้แปลหน้าละ 100 บาท วันหนึ่งได้เงินหลายพันบาทนะ เพราะมันแปลง่าย ยิ่งได้หน้าละ 500 บาท (ไปเจอผู้หญิงบาร์ใจป้ำๆเข้า) ละสบายเลย แต่มันต้องหาแหล่งรับงาน เราเคยคิดจะไปพัทยา ไปตั้งแผงแถวๆหน้าสถานที่เที่ยวตอนกลางคืนของคนต่างชาติ แต่ก็กลัวพวกมาเฟียท้องถิ่น มีอยู่วันหนึ่งคิดว่าโชคช่วยเพราะมีตำรวจพัทยาที่สนิทกับพ่อเรามาบ้านเรา เลยคุยกันแล้วเราเสนอไอเดียนี้ ตำรวจคนนั้นเองก็ใช่ย่อยเมื่อไหร่ล่ะ พี่แกตั้งตู้เพลงเก็บเงินเสียเอง แต่เราโดนพ่อเราห้าม พ่อบอกว่าพัทยามันมีแต่คดีฆ่ากัน อย่าไปเลย   รู้สึกว่าตอนนี้นะ ธุรกิจแปลจดหมายรักในพัทยาน่ะ พวกร้านเน็ตเอาไปครองหมดแล้ว คือเขาจะบริการผู้หญิงบาร์โดยการโต้ตอบ email ให้  บางทีมีการเก็บประวัติไว้ด้วยว่า "ตอนนี้ไถเงินต่างชาติไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว" และถ้าไถเงินได้สำเร็จหญิงบาร์ต้องจ่ายค่า commission กี่เปอร์เซ็นต์ นับว่าเป็นธุรกิจที่ดีทีเดียวเลย  ความรู้ทางด้านภาษาไม่ต้องมีมากนัก เพราะถ้าเขียนดีมากเกินไป ต่างชาติจะรู้ว่าผู้หญิงบาร์ไปจ้างคนอื่นเขียน เขียนผิดๆ grammar เนี่ยแหละดี ผู้ชายต่างชาติจะได้คิดว่าซื่อๆจริงใจดี จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 10 พ.ค. 51 12:33:56 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เครียดจริงครับ จขกท ก็พวกงานด่วนนี่แหละ ผมเคยเจองานนึง ดูตามเนื้อผ้าแล้วเรื่องทำนองนี้มันมีหลายขั้นตอน ต้องใช้เวลาเตรียมงานนาน ต้องมีใครสักคนที่เอางานไปดองไว้ แล้วสุดท้ายมาด่วนที่นักแปล แปลไปก็หงุดหงิดไป ทำไมต้องเป็นตูด้วยวะ เมื่อสักสองอาทิตย์มานี่เอง รุ่นน้องที่ทำงานเก่า (ปัจจุบันผมเกษียณแล้ว) เอางานมาให้ช่วยแปล เป็นสารของประธานบริษัทถึงผู้ถือหุ้น มันบอกว่าเอาไปจ้างบริษัทแปลแล้วใช้ไม่ได้ เวลาก็กระชั้นเข้ามาเต็มทน จะต้องส่งต้นฉบับให้โรงพิมพ์ในวันรุ่งขึ้น เลยเอามาให้ผมช่วยแปลในฐานะมือเก่า ยังดีนะที่มีหน้าเดียว เอกสารพวกนี้แปลช้าครับ ต้องเกลาแล้วเกลาอีก มันบอกจะเอาเบียร์มาให้ 1 ลังเป็นค่าแปล จนป่านนี้ยังไม่เห็นโผล่หัวมา คุณ tansy รวบรวมทีมมั้ยล่ะครับ ผมเอาด้วย แต่ต้องไม่ใช่งานด่วนๆ เครียดๆ นะครับ เพราะผมเกษียณแล้ว ไม่อยากเครียดแล้ว อยากแปลเป็นงานอดิเรกมากกว่า อยู่ว่างๆ จะได้มีอะไรทำ ถูกแพงไม่ว่า จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 10 พ.ค. 51 13:33:12 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อ้าสวัสดีคุณหนุ่มไทยไร้นาม ช่วงที่เราแปลก๋วยเตี๋ยวเรือนะ โครตเครียดเลย แล้วลองหันไปแปลหนังสือดูปรากฎว่าหมุนเงินไม่ทัน เพราะถ้าจะแปลเร็วจะแปลผิดเยอะมากๆ แต่ถ้าตรวจทานแล้วตรวจทานอีก บวกลบคุณหารได้เดือนไม่กี่ตัง ก็เลยมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เพิ่งรู้จักกับแฟนคนล่าสุดใหม่ๆ เธอเอางานแปลมาแบ่งให้เราทำ บางทีได้หน้าละ 500 บางทีหน้าละ 700 มีครั้งหนึ่งได้มาสองชุดขนาดย่อมๆ หน้าละ 1,500 เราก็เลยทำซ่าเลิกแปลก๋วยเตี๋ยวเรือ แล้วพอรัฐประหารนะ งานจรราคาดีๆ เช่นนี้หายเกือบหมดแน่ะ ขนาดเลือกตั้งใหม่ก็ยังไม่ดีขึ้นเลยอ้ะ แล้วคิดถึงตอนที่แปลหน้าละ 700 นะ (หน้าละ 1,500 น่ะ ได้ลำบาก) เป็น press release เรานั่งประดิบประดอยให้เขาแทบตาย แต่ยิ่งย้อนนึกตอนแปลก๋วยเตี๋ยวเรือหน้าละ 175 นะ มันก็เป็น press release เหมือนกัน แต่ดันกลายเป็นของบริษัทที่มีชื่อเสียง มีบริษัทในเครือ มีฐานะการเงินมั่นคงมหาศาลมากกว่าลูกค้าที่จ้างหน้าละ 700 เสียอีก .....ตอนแปล press release หน้าละ 175 น่ะ เราแปลไปแล้วงงไปว่า บริษัทระดับนี้ (ถ้าบอกชื่อทุกคนต้องรู้จัก แล้วตกใจมากๆ) มันกล้าเอางานที่ต้องเขียนดีๆ หรูๆ หราๆ ไฮโซมากๆ มาจ้างให้คนแปล หน้าละ 175 เชียวหรือ (อ้อจริงๆแล้วเขาจ้าง หน้าละ 350 แต่เขาไม่รู้ว่าได้งานมูลค่าแค่หน้าละ 175 ไป เพราะบริษัทแปลกินหัวคิวไป 50%)  ...?????  พออ่านชื่อคนลงนามใน press release (ไอ้ที่ให้แปลหน้าละ 175)  นะ แล้วต้องหนาวเลยอ้ะ ...ว่าพวกเขาคิดอย่างไร จึงกล้าประหยัดเงินค่าแปลขนาดนี้....? ตอนนี้เราอยากทำตัวอย่างการแปลดีๆ แล้วลองไปหาลูกค้าดีๆ ที่มีงานประจำให้ ขอให้ได้ลูกค้าสักแค่หนึ่งหรือสองรายก็พอแล้ว แต่ก็จนใจยังทำอะไรไม่ได้เลย เนื่องจากเรายังมีงานแปลหนังสือยังค้างอยู่ตั้ง 2 เล่ม และงาน edit หนังสือแปลค้างอยู่อีกเล่มหนึ่ง งานแปลหนังสือช่วงหลังๆนี้เราไม่ได้ใช้ชื่อจริงเลย ทำเป็น ghost translator หมดเลย คือทำด่วนๆ แล้วให้เจ้าของงานไปตรวจแก้เอาเอง แล้วก็ไปตีพิมพ์เป็นชื่อเขาเอง  เราจึงกังวลน้อยลงเรื่องการแปลผิดจังๆ จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 10 พ.ค. 51 15:01:19 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เอ้อ เมื่อสองอาทิตย์มาแล้วนะ เราออกไปข้างนอก แล้วผ่านบริษัทแปลก๋วยเตี๋ยวเรือที่เราเคยแปลให้ ก็เลยแวะเข้าไปทักทาย เจ้าของร้านถามเราว่า หมู่นี้แปลเอกสารบ้างหรือเปล่า เราบอกว่า "เปล่า เพราะทนเครียดไม่ไหว แปลแต่หนังสือ ถึงจะได้เงินน้อยหน่อยก็ช่าง ยอมประหยัดเอา"   เจ้าของร้านบอกว่า "ก็ดีแล้ว ถ้าคุณยังแปลเอกสารอยู่จะเครียดมากกว่านี้ เพราะทางร้านต้องลงราคาแข่งกับคู่แข่ง รู้ไหมเอกสารที่คุณเคยแปลหน้าละ 175 ตอนนี้มีนักแปลยอมแปลหน้าละ 30 บาท เพราะเห็นเป็นแบบฟอร์มซ้ำๆกัน ที่ copy จากงานเก่าๆในคอมพิวเตอร์ได้  ซึ่งมันก็จำเป็น เนื่องจากเราโดนร้านแปลข้างๆ ตัดราคา โดยรับงานหน้าร้าน แค่หน้าละร้อยกว่าๆ แทนที่จะรับหน้าละสามร้อยกว่าๆเหมือนเมื่อแต่ก่อน..." เราฟังแล้วตกใจมากๆ รีบเผ่นออกจากร้านแทบไม่ทันแน่ะ โหอะไรกันนักกันหนาตัดราคากันแบบนี้ ตอนจบ พวกมันคงลงนรกกันหมดแน่ๆ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 51 15:13:38 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 10 พ.ค. 51 15:11:30 ]

ความคิดเห็นที่ 20 รับจ๊อบงานแปลเป็นครั้งคราวหน้าละ 400-600 แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะทำงานประจำอยู่แล้ว อ่านประสบการณ์คุณแท่นแล้วก็นึกว่า แม่เจ้าโวย อะไรจะยากแค้นแสนเข็ญปานนั้น ... ไม่ได้คิดว่าคุณแท่นใส่ไข่หรอกนะ เพียงแต่รู้สึกว่าทำไมถึงลำบากจังเลย ตอนนี้อาจหาญออกมาทำเอง เข้าใจ ซึ้งเลยยยยย 555+++ แถวที่เราอยู่นะ รับแปลอังกฤษ-ไทยหน้าละ 200 ไทย-อังกฤษหน้าละ 250 ซึ่งเราเองก็ต้องตั้งตามนั้น ไม่งั้นก็จะไม่มีลูกค้าเข้าร้านเลย แล้วถ้าเรารับต่อมาจากร้านอื่นนะ ก็จะต้องโดนหักค่าหัวคิวไป 40% จึงเป็นอันว่านักแปลจะได้หน้าละ 120 สำหรับ อ-ท และ 150 สำหรับ ท-อ และถ้าเรารับงานมาแล้วทำไม่ทัน เราก็ต้องส่งให้เพื่อนเรา ทีนี้ก็ยุ่งล่ะสิ ใครจะอยากมาทำงานหนักๆ ด่วนๆ แต่รับเงินจิ๊บๆ กันล่ะ เราเองก็ไม่อยากส่งให้เพื่อนด้วยแหละ เพราะเราให้เกียรติเขานะ เราให้เกียรติสมองเขา ความสามารถเขา ทำใจลำบากเลยแฮะ โอ้ ช่างน่าอนาถจริงๆ เรานะไม่เข้าใจเลยว่าวิชาความรู้จากมันสมองเรามีค่าเพียงเท่านี้เองนะเหรอ แปลงานทุกครั้งเราใส่ใจ ไม่อยากให้เสียชื่อ แม้เงินมันจะน้อย แต่เราก็ทำอย่างเดียวกับงานหน้าละ 400-600 อ่าน ค้น ขัดเกลา เห็นทีเราต้องฝึกเคล็ดวิชาลวกก๋วยเตี๋ยวเรือบ้างแล้ว 555+++ จากคุณ : Guga (Guga) - [ 10 พ.ค. 51 15:44:41 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อ้าสวัสดีคุณ Guga ถ้าคุณรับงานได้ราคาดีๆเป็นประจำ คงเป็นเพราะคุณเรียนมาทางด้านภาษา คนที่เรียนมาทางด้านภาษาจะมีเครือข่ายเพื่อนฝูงที่มีงานแปลมากมาย (ที่แนะนำลูกค้าให้กันและกันหรือโยนงานแปลให้กันและกัน)  แต่คนที่ไม่ได้เรียนมาทางด้านภาษาจะหางานแปลลำบาก  เราจึงต้องไปพึ่งแฟนเรายังไงล่ะ เพราะเธอก็เรียนมาทางด้านภาษา ก็เลยพอไปทำงานแล้วรู้จักผู้คนมากขึ้น มีเครือข่ายเพื่อนฝูงมากขึ้นเธอก็ได้งานราคาดีๆ (ซึ่งรับจากลูกค้าโดยตรง) มาง่ายกว่าเรานั่นเอง งานที่เล่าให้ฟังว่า ฟลุ๊กโชคดีได้มาหน้าละ 1,500 น่ะ ที่แฟนเราเอามาให้เราทำน่ะ ได้มาด้วยวิธีการที่ประหลาดมากๆเลย นั่นก็คือว่าลูกค้าเป็นบริษัทข้ามชาติที่กำลังหานักแปลมาแปลงานด่วนอยู่ ก็เลยติดต่อบริษัทที่มีสายสัมพันธ์กันในประเทศไทย แล้วบริษัทในประเทศไทยแนะนำแฟนเราให้บริษัทข้ามชาติ โดยการงัด resume (อันน่าประทับใจ) ของแฟนเราออกมา ตั้งแต่สมัยที่เธอไปสมัครงานไว้นานแล้ว แต่พอบริษัทนั้น offered งานให้ทำ เธอปฎิเสธงานเนื่องจากมันเดินทางไกลเกินไปและเงินเดือนน้อยไป ...ซึ่งถ้าคิดว่างานจรราคาดีๆหน้าละ 1,500 หลงมาได้แบบนี้ ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ฟลุ๊กมากๆเลยอ้ะ ส่วนในคคห 19 ที่เราว่า "มีนักแปลยอมแปลหน้าละ 30 บาท" จริงๆแล้วคลาดเคลื่อนไปนิดหนึ่ง  เขาบอกว่า "มีนักแปลยอมแปล 3 หน้า 100 บาท" ต่างหาก แหม เหมือนตอนเบียร์ช้างออกใหม่ๆเลยอ้ะ 3 ขวด 100 บาท.....ฮาๆๆๆๆๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 51 16:33:37 แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 51 16:24:58 แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 51 16:11:55 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 10 พ.ค. 51 16:09:47 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ฟังแล้วปวดตับ แต่มันก็เป็นความจริงที่แสนเจ็บปวดของชีวิตนะ คุณแท่น โคตะระจะ ironic เลยง่ะ จากคุณ : Guga - [ 10 พ.ค. 51 16:38:25 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เราเคยรับแปลงานอยู่ 2-3 ปี ตอนนี้หยุดชั่วคราว ครั้งหนึ่งมีบริษัทคนไทยขนาดกลางๆ ที่ต้องทำงานติดต่อกับต่างชาติ มาให้เราแปลเอกสารให้ แบบแปลกันประจำ จ่ายเงินเดือนละครั้ง เราก็เสนอราคา อ-ท 150 ท-อ 250 ได้มาแบบไม่ค่อยเต็มใจ เขาบอกว่าเจ้าเก่าคิดแค่ 100 บาทรวด ทำกันได้ประมาณ 2 เดือน มีงานบ้างประปราย ก็ขอต่อราคาอีกเพราะมีคนเสนอราคามาหน้าละ 90 บาทรวด เลยยอมแพ้เลิกกันไป ยังสงสัยอยู่ว่ามีคนเสนอ 90 บาทจริง หรือบริษัทอำเรากันแน่ จากคุณ : มนก - [ 14 พ.ค. 51 18:54:26 ]

ความคิดเห็นที่ 24 มันมีวิธีเพิ่ม แต่เรื่องมันยาว เมื่อก่อนตอบคุณ deepriver ใน meeting ไปทีละ สมัยหนุ่มๆ ผมรับงานหน้ามหาวิทยาลัย ร้านได้ 200-250 เขาจ้างนักแปล 100-150 มีผมคนเดียวได้ 200 ผมเดินเข้าไปคุยกับเขาเลย บอกว่าถ้างานของผมมีปัญหา ผมแก้ให้ตลอดเวลาทันที ไม่มีเงื่อนไขสามวันเจ็ดวันหรือหลบหน้าไม่รับสาย เราทำงานแบบช่วยเหลือกัน แรกๆ เขาก็ส่งแต่งานยากๆ มาเพราะต้นทุนเราสูงกว่า แต่ไปๆ งานก็เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ เพราะงานระดับนี้ฝีมือนักแปลทั่วไปก็รู้ๆ กันอยู่ งานมีปัญหาให้เขาโดนด่าบ่อยๆ พอเราเข้ามาแล้วงานเขาผ่านตลอด จะพิมพ์ไม่พิมพ์เราตรวจเช็คจัดการให้เรียบร้อย บางคนส่งงานแปลยังกะส่งเศษกระดาษ ไม่เรียบร้อย ไม่มีไฟล์สำรอง แก้ทีต้องโทรตามกันวุ่น ฯลฯ เขาเริ่มรู้สึกทำธุรกิจสบายขึ้น ชีวิตเขาสบายขึ้น รับแต่เงิน ไม่ต้องรับคำด่า เขาก็มาหาเราดีกว่า แล้วของเราราคาเดียวจบ จะกี่บรรทัด จะเรื่องอะไร จะด่วนแค่ไหน เขาจะรู้สึกโอเค เราพึ่งได้ ไม่บานปลาย ไม่ต้องโทรมาถามว่าได้ไหม ไม่ต้องรับงานแบบเสี่ยงๆ นี่คือที่บอกบ่อยๆ ว่าเราต้องแก้ปัญหาให้ลูกค้า อย่าสร้างปัญหาเพิ่มให้เขา วันนี้เอาไปแค่นี้ก่อน จากคุณ : พ่อโปรเจ็กต์ - [ 15 พ.ค. 51 18:06:47 ]

ความคิดเห็นที่ 25 วันนี้มีเอเจนซี่บอกเราว่าเคยจ้างคนทำ DTP A4 หน้าละ 6 เหรียญ US นะคะ เรายังช๊อคเลยอ่ะ คิดว่าอยู่เข้าไปได้ไงเนี่ย 6 เหรียญ ก็ 180 บาทกับการทำงานประมาณ 1 ชั่วโมงสุดยอด ไม่รู้เอาอะไรกินเนี่ย ขอให้โชคดีนะคะ คุณเจ้าของกระทู้ ช่วงนี้เรามีงานมาเรื่อย ๆ อ่ะ แต่บางช่วงก็แทบไม่มีเลยเหมือนกันค่ะ เฮ้อ ปีๆ หนึงรายได้ยังไม่ค่อยจะพอใช้เลยอ่ะ จากคุณ : Knotk4 (Knotk4) - [ 15 พ.ค. 51 22:02:35 ]

ความคิดเห็นที่ 26 โหย ราคาต่ำมากจนน่าตกใจค่ะ ปรกติเรากับพี่ในบริษัทที่ส่งงานจะ quote ราคางานกันเป็นทอดๆ แต่เป็นงาน freelance Thai-Eng เท่านั้นเรทก็รับได้หน่อยที่ 350-450 แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นงานเร่งและยาก แบบ 200 หน้าในสองอาทิตย์ แถมต้องทำงานประจำ อีฉันก็ลางานมาปั่นหัวฟู อยากรู้ว่ารับงาน 3 หน้าร้อยเนี่ย เนื้อหามันเป็นยังไงนะ แบบง่ายๆชิลๆรึเปล่าเหอะๆๆ  อย่างงี้หันไปเน้น liaison/rapporteur/interpreter ดีกว่า ถ้าจะรับสมัครก๊วน บริษัท virtual แปลเอกสาร ขอสมัครโต้ย อิอิ ว่าจะลาออกจากงาน หนีนายอยู่พอดี จากคุณ : missingnatt - [ 20 พ.ค. 51 01:00:22 ]