พระอิสริยยศ "สมเด็จพระ" นั้น ถ้าจะเทียบกับสมัยก่อนก็คือ "กรมพระ" ครับ
ต้องขออนุญาตเรียนชี้แจงเป็นเบื้องต้นก่อนว่า เจ้านายในสมัยกรุงศรีอยุธยา (หลังมีการตั้งกรมขึ้นมาเป็นครั้งแรกในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช) ธนบุรี รวมทั้งรัตนโกสินทรตอนต้นนั้น นอกจากพระเจ้าแผ่นดินแล้ว เจ้านายพระองค์อื่นเป็นเจ้าต่างกรมทั้งสิ้น โดยมีสี่ลำดับชั้น คือ กรมพระ กรมหลวง กรมขุน และกรมหมื่น
พระสกุลยศ มีสามชั้นคือ เจ้าฟ้า พระองค์เจ้า และหม่อมเจ้า
ส่วน พระอิสริยยศ หมายความถึงการพระราชทานให้ทรงกรม เป็นกรมพระ กรมหลวง กรมขุน หรือกรมหมื่น ซึ่งจะพระราชทานดังนี้ครับ
กรมพระ พระราชทานให้แก่พระราชมารดา หรือผู้ที่ทรงนับถือเสมอพระราชมารดา (กรมพระเทพามาตย์) กรมพระราชวังหน้า (กรมพระราชวังบวรสถานมงคล) และกรมพระราชวังหลัง (กรมพระราชวังบวรสถานพิมุข)
กรมหลวง ในสมัยกรุงศรีอยุธยา และกรุงธนบุรี พระราชทานแก่พระอัครมเหสี และพระมเหสี แต่ในกรุงรัตนโกสินทร พระราชทานเลื่อนให้แก่เจ้าฟ้าที่ทรงเจริญพระชนม์พอสมควรแทนครับ
กรมขุน พระราชทานแก่เจ้าฟ้า ในกรุงรัตนโกสินทร พระราชทานให้เจ้าฟ้าทรงกรมเป็นกรมขุนเป็นปฐม แล้วพระราชทานเลื่อนเป็นกรมหลวงภายหลัง
กรมหมื่น พระราชทานแก่พระองค์เจ้า
ต่อมาในรัชกาลที่ ๑ เมื่อทรงประดิษฐานพระราชวงศ์ ทรงพระราชดำริว่าพระราชมารดา และพระมาตุจฉาไม่เสด็จอยู่แล้ว คงเหลือแต่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอใหญ่น้อยทั้งสองพระองค์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงทรงกรมเป็นกรมพระ ตามอย่างกรมพระเทพามาตย์แต่ก่อนกาลมา พระราชทานพระนามกรมให้พอเปลี่ยนไปเป็น กรมพระเทพสุดาวดี และกรมพระศรีสุดารักษ์ นอกจากนั้นพระราชทานอุปภิเษกสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอฯ เป็น กรมพระราชวังบวรสถานมงคล และสมเด็จพระเจ้าหลานเธอฯ พระองค์หนึ่ง เป็นกรมพระราชวังบวรสถานพิมุข
ในรัชกาลที่ ๒ และรัชกาลที่ ๓ ก็ได้ทรงสถาปนาพระราชมารดาเป็นกรมพระ และได้ทรงตั้งกรมพระราชวังบวรสถานมงคล รัชกาลละพระองค์
ในรัชกาลที่ ๔ ก็ได้ทรงสถาปนาพระราชมารดา เป็นกรมพระศรีสุริเยนทรามาตย์ ทรงบวรราชาภิเษกสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอฯ เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่สอง และนอกจากนี้ทรงพระกรุณาจะยกย่องพระเจ้าพี่ยาเธอ พระองค์หนึ่งให้วิเศษยิ่งขึ้นกว่าพระเจ้าพี่ยาเธอพระองค์อื่น จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทรงกรมเป็น พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมสมเด็จพระเดชาดิศร และพระราชทานให้พระเจ้าพี่ยาเธออีกสองพระองค์เป็นกรมพระ นั่นเป็นครั้งแรกที่เจ้านายทั้งชั้นเจ้าฟ้า และพระองค์เจ้าสามารถทรงกรมได้ทุกลำดับชั้น (แต่เจ้าฟ้ามักเริ่มรับกรมที่กรมขุน ในขณะที่พระองค์เจ้าเริ่มรับกรมที่กรมหมื่น ตามธรรมเนียมเดิม)
ทั้งสมเด็จพระบรมราชนนี และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ในรัชกาลที่ ๑ ก็ทรงถูกแก้ไขพระอิสริยยศไปด้วยโดยปริยาย คือจากสมเด็จกรมพระ... กลายเป็น กรมสมเด็จพระ... แทนทั้งสิ้นคือ กรมสมเด็จพระอมรินทรามาตย์ กรมสมเด็จพระศรีสุลาลัย กรมสมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์ กรมสมเด็จพระเทพสุดาวดี และกรมสมเด็จพระศรีสุดารักษ์ (การออกพระนามแบบเดิมคือ สมเด็จกรมพระอมรินทรามาตย์ สมเด็จกรมพระศรีสุลาลัย สมเด็จกรมพระศรีสุริเยนทรามาตย์ สมเด็จกรมพระเทพสุดาวดี และสมเด็จกรมพระศรีสุดารักษ์)
ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นปัญหาว่า เจ้านายต่างกรมชั้น กรมสมเด็จพระ เช่น พระองค์เจ้ามั่ง กรมสมเด็จพระเดชาดิศร นี้นั้น พระอิสริยยศไปทันกันกับสมเด็จพระบรมราชชนนี พระพันปีหลวง ในรัชกาลต่างๆ ได้ รัชกาลที่ ๔ จึงทรงแก้ให้หยอดท้ายว่า กรมสมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์ พระบรมราชชนนี พระพันปีหลวง ดังนี้เป็นต้นครับ แต่ในส่วนของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ สองพระองค์ในรัชกาลที่ ๑ มิได้ทรงแก้ไขด้วย คงเป็น กรมสมเด็จพระเทพสุดาวดี กรมสมเด็จพระศรีสุดารักษ์ อยู่เช่นนั้น
มาถึงในรัชกาลที่ ๕ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เลื่อน พระเจ้าราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าละม่อม กรมพระสุดารัตนราชประยูร เป็น พระเจ้าบรมหัยยิกาเธอ กรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูร เทียบที่พระบรมราชชนนี ด้วยอีกพระองค์หนึ่ง
ปัญหาเกิดในคราวทรงเลื่อนกรม สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระบำราบปรรักษ์ เนื่องจากถ้าเติม "สมเด็จ" ลงไปอีกครั้งก็ "เผยิบผยาบเต็มที" แต่ถ้าไม่เติมก็ "ไม่สำเร็จกิจการเลื่อนกรม" พระนามเจ้าฟ้าที่ได้เป็นกรมสมเด็จพระ จึงถูกแก้ไขอีกครั้งเป็น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมสมเด็จพระเทพสุดาวดี สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมสมเด็จพระศรีสุดารักษ์ และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมสมเด็จพระบำราบปรรักษ์ พอให้แปลกกว่าพระองค์เจ้าที่เป็นกรมสมเด็จพระ คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมสมเด็จพระเดชาดิศร และ พระเจ้าบรมหัยยิกาเธอ กรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูร
มาถึงในรัชกาลที่ ๖ สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ ไม่ทรงพอพระทัยที่จะได้รับสถาปนาเป็น กรมสมเด็จพระศรีพัชรินทรามาตย์ เนื่องจากพระองค์ท่านเป็นพระบรมราชินีแล้ว ไม่ทรงยอมเป็นเจ้าต่างกรม รัชกาลที่ ๖ เองท่านก็เลยทรงเลี่ยงไป โดยการสถาปนาเป็น สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พระพันปีหลวง แทนที่จะเป็น กรมสมเด็จพระศรีพัชรินทรามาตย์ พระบรมราชชนนี พระพันปีหลวง และได้ทรงแก้ไขพระอัครมเหสีในทุกรัชกาล รวมทั้งพระราชมารดาในรัชกาลที่ ๓ ให้เป็น สมเด็จพระ... ทั้งสิ้น
อนึ่ง พระอิสริยยศ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี (นาถ) นั้น ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศในฝั่งตะวันตก ดังนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี (นาถ) นั้น แม้พระอิสริยยศจะเทียบกับ "กรมหลวง" แต่ก่อนกาลมา แต่พระอิสริยยศในปัจจุบันนั้น จะเทียบว่าเป็น กรมหลวง หรือเจ้านายต่างกรมชั้นใดมิได้เลยนะครับ
ในรัชกาลที่ ๖ ได้ทรงแก้ไขความ "เผยิบผยาบ" ของสมเด็จเจ้าฟ้าฯ ที่ได้เป็น กรมสมเด็จ ออกเสีย คือทรงแก้ไขให้เป็นชั้น สมเด็จฯ กรมพระยา แทน ดังนั้น กรมสมเด็จพระเทพสุดาวดี ก็ทรงเป็น สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระยาเทพสุดาวดี กรมสมเด็จพระศรีสุดารักษ์ ก็ทรงเป็น สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสุดารักษ์ กรมสมเด็จพระเดชาดิศร ก็ทรงเป็น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร และเจ้านายพระองค์อื่นๆ ที่ได้ทรงกรมเป็นกรมพระยา ก็ได้เป็น สมเด็จ...กรมพระยา... ทั้งสิ้น ซึ่งสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ประทานพระอธิบายไว้ว่า เพราะเป็นการสมมติให้คล้ายกับจะเป็นเจ้าฟ้า แต่มิได้เลื่อนสกุลยศ ครับ (รับสั่งว่าเป็นเจ้าฟ้ายก เหมือนอย่างพระราชาคณะยก) เช่น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ก็ไม่ได้มีพระยศแปลกไปจาก สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าฯ กรมพระยาภาณุพันธุ์วงศ์วรเดช หรือสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ เพียงแต่ว่ามีคำ "เจ้าฟ้า" หรือไม่ อันแสดงถึงพระสกุลยศ เท่านั้น
(ขออนุญาตตั้งข้อสังเกตว่า พระองค์เจ้ามีกรมนั้น ศักดินา ๑๕๐๐๐ ไร่ แต่ถ้าเลื่อนเป็น สมเด็จกรมพระยา แล้วศักดินา ๓๕๐๐๐ ไร่ แต่เจ้าฟ้า ไม่ว่าจะทรงกรมตั้งแต่ลำดับชั้นกรมขุน ถึงสมเด็จกรมพระยา ก็ศักดินา ๕๐๐๐๐ ไร่เท่าเดิม นะครับ)
ที่ได้อธิบายมายืดยาวเช่นนี้ ก็เพื่อจะอธิบายว่า แต่ก่อนเจ้านายชั้น กรมพระ ก็คือ สมเด็จพระ... ในความหมายปัจจุบันครับ
แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 51 15:49:25
แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 51 14:03:24
แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 51 11:49:28
แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 51 09:46:06
แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 51 01:06:19