ความคิดเห็นที่ 1 จริงๆ ภัยพิบัติเป็นการเปิดโอกาสครั้งใหญ่นะครับ การที่มีคนตายจำนวนมากทำให้เกิดพื้นที่ไร้เจ้าของ จำนวนมาก เกษตรกรรม จะขยายตัวเพราะพื้นที่ว่าง ที่ให้จับจอง ตลาดแรงงงานจะขาดแคลน ค่าจ้างแรงงานจะสูงขึ้น อาจเกิดการอพยพกลับก็ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้ารัฐบาลพม่ามีประสิทธิภาพมากกว่านี้นะ แต่สภาพปัจจุบันมาตายเอาดาบหน้าในไทยอาจจะดีกว่า จากคุณ : Pongkm (Pongkm) - [ 13 พ.ค. 51 09:19:19 ]

ความคิดเห็นที่ 2 กระทู้ที่แล้วเห็นมีแย๊บๆเรื่องประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นกับการ์ตูนไว้ ในฐานะที่ยังเป็นเด็กอยู่(ตามมาตรฐานของกระทู้) ก็เลยสบช่องให้ลองไปค้นความทรงจำเรื่องการ์ตูนของญี่ปุ่นที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ที่ต้องเป็นความทรงจำเพราะว่าตัวหนังสืออยู่ที่เมืองไทยครับ ไม่ได้เอาติดมาด้วย เอาไว้ถ้าเชื่อมโยงได้เมื่อไหร่จะขอเอามะพร้าวห้าวมาขายสวน แต่การ์ตูนญึ่ปุ่นที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์มีหลายเรื่องจริงๆ ตั้งแต่สมัยยุคตำนานนั่นแหละครับ แล้วก็มีหลายเรื่องที่เขียนถึงช่วงเวลาเดียวกันแต่ตีความต่างกัน คนที่ผมเห็นว่าน่าสนใจก็คงจะเป็น โอซามุ เทะสึกะ ปรมาจารย์ผู้ล่วงลับของวงการการ์ตูนญี่ปุ่น Yas ที่ชอบเขียนเรื่องราวในตำนาน ที่เอามาตีความใหม่ ไม่ว่าจะเป็นตำนานญี่ปุ่นหรือตำนานกรีก จากคุณ : Nexus - [ 13 พ.ค. 51 10:31:45 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผมมองว่าพม่ากลัวการแทรกแซงมากกว่าครับ เพราะโดยมากวิกฤติกาลต่างๆมักสั่นคลอนอำนาจรัฐ อย่างตอนวิกฤติต้มยำกุ้งปี 40 ส่งผลให้รัฐบาลเผด็จการของซูฮาร์โตที่ครองอำนาจมาอย่างยาวนาน 30 ปีล่มสลายอย่างรวดเร็ว (ขนาดรัฐบาลประชาธิปไตยของเรายังปิ๋วเลย) เพราะโครงสร้างโดยมากของรัฐเผด็จการไม่สามารถจัดสรรผลประโยชน์ให้คนหมู่มากได้ คนเราเมื่อท้องหิวความกลัวก็หมดไปลืมตายกันละครับ ถ้าได้คนยุแหย่หรือผู้นำดีๆ ก็เลยน่าจะเป็นเหตุที่พม่ารับแต่ของอย่างเดียว ไม่ให้คนเข้าไป ส่วนการฟื้นตัวคงจะยากนะครับ น่าจะเป็นสาเหตุมากจากประสิทธิภาพการบริหารงานของรัฐบาลทหารพม่านะครับ ที่ผมยังสงสัยอยู่(คงต้องรออาจารย์สือฯมาวิเคราะห์) คือมหามิตรของพม่าอย่างจีน มีบทบาทกับเรื่องนี้น้อยมากเลย สงสัยจริงๆ.... จากคุณ : ryzon - [ 13 พ.ค. 51 12:08:27 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ย้อนนิดนึงครับ จากภาคที่แล้วที่มีแม่ทัพคนสำคัญของเกาหลีที่รบชนะญี่ปุ่นคือ แม่ทัพ ยิ ซุน ชิน (Admiral Yi Soon-sin)  ที่นำเรือ TURTLE BOAT หรือ"เรือเต่า" ที่สามารถติดปืนใหญ่ได้มากกว่าถล่มกองเรือญี่ปุ่นลงไปนอนก้นทะเลหมด ข้างล่าง อนุสาวรีย์ของท่านแม่ทัพ จากคุณ : ryzon - [ 13 พ.ค. 51 13:35:17 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อันนี้รูปเรือเต่าครับ จากคุณ : ryzon - [ 13 พ.ค. 51 13:40:29 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ระหว่างรอาจารย์สื่อฯ ผมต่อเรื่องเกาหลีเลยละกันนะครับ ในปี 1893 ถึงแม้เกาหลีจะเปิดประเทศมาเกือบ 20 ปี แต่ความทุกข์ยากของชาวนาซึ่งเป็นชนส่วนใหญ่ไม่ได้เบาบางลงเลย ยังโดนขูดรีดเหมือนเดิม ซ้ำร้ายตั้งแต่เปิดประเทศมามีแต่ความวุ่นวายตลอด พวกชาวนาจึงเริ่มหวนคิดถึงความสงบสุขแบบเก่าภายใต้ลัทธิขงจื้อก่อนเปิดประเทศ จึงมีการรวมกลุ่มกัน หรือที่เรารู้จักกันในนามของกลุ่ม"ตงฮัก"(Tonghaks) ซึ่งเน้นการเรียนรู้แบบตะวันออก มีพิธีกรรมและความเชื่อทางไสยศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก(รูปแบบนี้คล้ายๆกับพวกกบฎผีบุญบ้านเราสมัย ร.5, พวกไทผิงเทียนกว๋อในจีน หรือกบฎซายาซานหรืออาจารย์ซานในพม่า) ในปี 1894 พวกนี้ได้เริ่มก่อการจลาจลในภาคใต้ของเกาหลีโดยมีเป้าหมายล้มราชบัลลังค์ของพระเจ้าโคจงที่โซล แต่ไม่สำเร็จ แต่กองทหารของพระเจ้าโคจงก็อ่อนแอเกินกว่าที่จะปราบกบฎตงฮักลงได้ จึงร้องขอความช่วยเหลือจากจีน........ เมื่อจีนได้รับคำขอร้องจากเกาหลีก็ส่งทหารเข้าไป โดยแจ้งให้ญี่ปุ่นทราบด้วยตามข้อตกลงที่มีต่อกัน เมื่อปี ค.ศ.1884 เมื่อญี่ปุ่นทราบข่าวจากจีนก็ส่งทหาร 8,000 คน เข้าไปในเกาหลีร่วมมือกับจีนในการปราบกบฎตงฮัก ฝ่ายกบฎเมื่อต้องรับศึก 3 ด้านทั้งจาก จีน ญี่ปุ่นและกองทัพของพระเจ้าโคจอง ไม่ช้าก็โดนปราบจนเหี้ยน แต่เรื่องไม่จบเมื่อปราบกบฎตงฮักเสร็จจีนถอนทหารออกจากเกาหลีแต่ญี่ปุ่นไม่ยอมถอนซ้ำมีการส่งกำลังบำรุงเพิ่มเติมซะอีก(แหงเดะอ้อยเข้าปากช้างแล้วนี่หว่า).... ข้างล่างรูปกบฎตงฮักครับ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 51 15:40:12 จากคุณ : ryzon - [ 13 พ.ค. 51 15:34:40 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ต่อนะครับ จีนทำการเตือนญี่ปุ่นแรงๆว่าเฮ้ย ออกมาได้แล้วถ้าไม่ออกมามีเรื่องนะ ญี่ปุ่นก็เฉย จีนถือว่าเป็นการหลู่เกียรติอย่างแรง กอปรกับช่วงนั้นจีน(รู้สึก)เข้มแข็งขึ้นเป็นผลจากการที่จีนพยายามปฎิรูปกองทัพ และซื้อเรือรบสมัยใหม่เข้าประจำการเรื่อยๆ ถึงแม้จะโดนพระนางซูสีไทเฮาตัดงบไปสร้างวังบ้างก็ตาม แต่ก็ยังมีเรือมากกว่าญี่ปุ่นอยู่ดี บรรดาชาติตะวันตกเริ่มเกรงใจจีนไม่กล้าทำอะไรรุนแรงกับจีนทำให้จีนเริ่มลำพองใจเห็นว่าตนมาถูกทางแล้ว ขนาดมหาอำนาจตะวันตกยังเกรงใจตน (จากการที่จีนแก้ปัญหากรณีพิพาทดินแดนอี่ลี่ในเอเชียกลางกับรัสเซียได้) ว่ากันว่าขณะนั้นกองทัพเรือของจีนใหญ่เป็นอันดับ 8 ของโลก แต่ของญี่ปุ่นใหญ่เป็นอันดับ 11 ของโลก โดยเฉพาะจีนมีเรือรบวางขับน้ำขนาด 7,000 ตันถึง 2 ลำ แต่ละลำมีปืน 12 นิ้ว ติดอยู่ ลำละ 4 กระบอก ซึ่งเป็นเรือที่ใหญ่โตมากในละแวกนั้น  โดยเฉพาะเรือรบเจนหยวน(Chen-yuen) ขุนนางคนสำคัญอย่างหลี่หุงจางเจ้าของกองเรือเป่ยหยางในทะเลเหลือง ยังกล่าวเลยว่า ขอเพียงจีนทยอยซื้อเรือรบเข้าประจำการ จีนก็สามารถรักษาเอกราชได้แล้ว ขณะที่ญี่ปุ่นมีเรือใหญ่สุดขนาดไม่เกิน 4,000 ตัน มีปืน 12 นิ้วแค่กระบอกเดียว แถมกว่าจะซื้อแต่ละลำ ก็ไม่ค่อยมีเงินจะซื้อ(ต้องขายพันธบัตรกับขอเงินบริจาคจากประชาชน) ขนาดโต๊ะรับแทงในอังกฤษให้กองทัพจีนเป็นต่อกองทัพญี่ปุ่นหลายขุม จากข้อมูลข้างต้นรู้กันทั่วโลก จีนจึงไม่จำเป็นต้องกลัวญี่ปุ่นเลยจึงยื่นคำขาดไปให้ญี่ปุ่นถอนทหารจากเกาหลี... ข้างล่างรูปเรือรบเจนหยวนของจีนครับ แก้ไขเมื่อ 16 พ.ค. 51 00:27:58 แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 51 12:22:58 แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 51 09:47:26 จากคุณ : ryzon - [ 14 พ.ค. 51 09:34:59 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เกาหลี แล้วเลยไปญี่ปุ่นก็ได้ครับ ยิ่งประเด็นที่ว่า ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นในการ์ตูน ยิ่งน่าสนุก ส่วนเรื่องพม่า คงยากที่เขาจะปรับมาเป็นมาตรฐานแบบฝรั่ง ต้องย้อนกลับไปดูวัฒนธรรมการเมืองการปกครองของเขาแหละครับ ว่าช่วงที่บ้านเมืองเขาสงบสุข มันเป็นยังไง จะหาเจอหรือเปล่าก็ไม่รู้ เขาใช้วัฒนธรรมอำนาจมาตลอด แต่ที่น่าเสียดาย คือ ในอดีต กลุ่มชนต่าง ๆ ในระดับล่างเขาเข้มแข็ง แต่ตอนนี้โดนกลุ่มทหารสลายไปซะหมดแล้ว เลยหวังการเปลี่ยนแปลงระดับประชาชนได้ยาก ส่วนอาการของผมไม่ต้องห่วงครับ ปล่อยให้หมอเขาห่วงไปคนเดียวแล้วกัน พิษไข้ครับคุณพี่เจ๊ ไม่ใช่พิษรักสุมทรวงที่ไหน อย่างที่เคยบอกว่า ผมมีอาการเจ็บคอเรื้อรัง อย่าให้เป็น ถ้าเป็นแล้วยาว ตอนนี้มันเป็นซะแล้วสิ เลยยาวหน่อย ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี่ยวไม่มีมือ ป่วยไปบ้าง แต่เดี่ยวมือหนึ่ง มือสอง ทั้งหลาย เขายังเก่งกล้าสามารถ อ่านไปอ่านมา น่าจะสนุกกว่าที่ผมเขียนซะอีก ชักติดใจ อยากกลายเป็นคนอ่านแล้วเสริมแทนซะแล้วสิ กำลังเสริม อย่าหยุดนะครับ เดี๋ยวจะคอยชงประเด็นให้ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) - [ 14 พ.ค. 51 10:38:39 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อาจารย์สื่อฯหายเร็วๆนะครับ ยังไงมิตรรักแฟนเพลงของอาจารย์สื่อฯรอติดตามผลงานของอาจารย์อยู่ครับ ระหว่างนี้ผมจะพยายามขยับกระทู้ไปเรื่อยๆละกันครับ ไม่ให้เงียบ ว่าแต่พี่สาวดอกไม้เมืองเหนือผมไปไหนหว่า ต่อนะครับ หลังจากจีนยื่นคำขาดแล้วก็รอ....รอ รอว่าเมื่อไหร่ญี่ปุ่นจะมาสยบแทบเท้าตนซะที ถามไปกี่ทีกี่ทีญี่ปุ่นก็นิ่งเฉย สงสัยจะกลัวจนหัวหด แต่แล้วญี่ปุ่นก็ตอบมาจนได้ แต่ตอบด้วยลูกปืนครับ(จริงๆระหว่างนั้นมีการคุยกันระหว่างจีนกับญี่ปุ่น แต่จีนไม่ยอมเพราะข้อเรียกร้องของญี่ปุ่นจ้องจะเอาเปรียบอย่างเดียว) วันที่ 23 ก.ค. 1894 ญี่ปุ่นบังคับพระเจ้าโคจง ให้ลงนามในสัญญาร่วมกันขับจีน(หลังจากเอาทหารมาล้อมพระราชวัง) สองวันต่อมาญี่ปุ่นโจมตีกองลำเลียงของจีนในทะเลเหลืองและประกาศสงครามในวันที่ 1 สิงหาคม 1894 โดยรวมกองทัพจีนที่เข้าสู่สมรภูมิมีกำลังมากกว่าญี่ปุ่น แต่คุณภาพนั้นยังห่างไกล กองทัพจีนแตกพ่ายอย่างในยุทธภูมิที่เปียงยาง นายพลยวนซีไขหนีกลับจีนแทบไม่ทัน จากนั้นก็เข้ายึดเมืองท่า ปอร์ตไดเรนและ เวยไห่เว่ย ในคาบสมุทรเหลียวตุงได้อย่างรวดเร็ว ส่วนกองทัพเรือของจีนในทะเลเหลืองถึงแม้จะมีเรือรบใหญ่กว่าเกราะหนากว่าเรือญี่ปุ่น แต่การที่มีปืนขนาดใหญ่กว่าทำให้ขาดความคล่องตัว ในยุทธนาวียาโดะ ญี่ปุ่นแทบไม่ได้ใช้ปืนเรือ 12 นิ้วเลย ใช้แต่ปืนยิงเร็วขนาด 6 นิ้ว ยิงใส่ดาดฟ้าไม่ใช่เกราะ เกิดเพลิงไหม้สร้างความวุ่นวายให้กับเรือรบจีนจนต้องถอนตัว(ไม่ก็ต้องสละเรือ) แถมเรือรบเจนหยวนขนาด 7,000 ตันก็ต้องตกเป็นเรือเชลยอีก ก็ย่อยยับตามทัพบกไปเช่นกัน จีนจึงขอสงบศึก รูปล่างรูปยุทธภูมิครับ จากคุณ : ryzon - [ 14 พ.ค. 51 12:22:08 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ต่อนะครับ สาเหตุของการพ่ายแพ้ของจีน คงเป็นเรื่องเกี่ยงกันนะครับ เพราะตอนนั้นอำนาจทางทหารเริ่มอยู่ในมือขุนศึกตามภูมิภาคต่าง อย่างหลีหุงจาง ยังได้ควบคุมกองเรือเป่ยหยาง ซึ่งเป็น 1 ใน 3 กองเรือของจีนและควบคุมกองทหารในภาคเหนือ(รอบๆปักกิ่งและแมนจูเรีย)ของจีน พอสงครามเกิดก็เกี่ยงกันครับต่างฝ่ายต่างเกี่ยงที่จะส่งทหารเข้ารบ เพราะไม่อยากให้กองทัพตนเกิดความสูญเสีย มีแต่กองเรือเป่ยหยางกองเดียวทำยุทธนาวียาลูหรือยุทธนาวียาโดะ(ตอนสงครามจีน-ฝรั่งเศส ที่แย่งชิงอันนัม ก็มีแต่กองเรือฝูเจี้ยน เข้าทำการรบกับฝรั่งเศสกองเดียวเช่นกัน เรียกว่าทีใครทีมัน) สามัคคีกันขนาดนี้คงจะชนะหรอกครับ ยังไม่รวมการคอรัปชั่นอย่างมโหฬารในกองทัพจีนที่มีกระสุนเก่าเก็บยิงแล้วกระสุนด้าน โลหะบางส่วนบนเรือรวมทั้งเกราะเรือโดนถอดไปขาย ไม่รวมทหารที่ฝึกไม่พอแม้ตอนรบ ก็ม้วนเสื่อตามระเบียบ เมื่อสงครามสิ้นสุด ญี่ปุ่นยื่นข้อเรียกร้องไปพร้อมค่าปฏิกรรมสงคราม หลังจากตกลงกันไปยื้อกันมา รวมทั้งกรณีที่หลี่หุงจางผู้แทนของจีนโดนลอบทำร้ายที่ญี่ปุ่น ,3 ชาติมหาอำนาจ(รัสเซีย ฝรั่งเศสและ เยอรมัน) เข้าแทรกแซงในกรณีที่ญี่ปุ่นขอเช่าเมืองท่าปอร์ต อาร์เธอร์ ในที่สุดญี่ปุ่น-จีนจึงยอมลงนามใน สนธิสัญญา ซิโมโนเซกิ ว่าจีนชดใช้ค่าปฏิกรรมสงคราม ยกไต้หวันและหมู่เกาะโดกาเนส ที่เกี่ยวกับเกาหลีคือยอมให้เกาหลีเป็นเอกราช ไม่ต้องอยู่ใต้อิทธิพลของจีน(โดยที่เกาหลีไม่เต็มใจ) หลังลงนามในสนธิสัญญาซิโมโนเซกิญี่ปุ่นยอมสละคาบสมุทรเหลียวตุงเพื่อแลกกับค่าปฏิกรรมก้อนโตจากจีนเพื่อมาพยุงฐานะการคลังอันยอบแยบของญี่ปุ่น ข้างล่างรูป หลี่หุงจาง ขุนนางที่ทรงอิทธิพลในราชสำนักจีนและผู้แทนเจรจากับญี่ปุ่นครับ แก้ไขเมื่อ 16 พ.ค. 51 00:44:30 แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 51 14:16:33 จากคุณ : ryzon - [ 14 พ.ค. 51 12:32:05 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอแปะรูปมั่งครับ รูปแรกทหารญี่ปุ่นกำลังตรวจปืนใหญ่ของเรือเจนหยวนที่ยึดจากจีนมาได้ครับ จากคุณ : ryzon - [ 14 พ.ค. 51 12:33:32 ]

ความคิดเห็นที่ 12 รูปต่อมา เชลยศึกจีนที่ทหารญี่ปุ่นจับได้ครับ จากคุณ : ryzon - [ 14 พ.ค. 51 12:34:53 ]

ความคิดเห็นที่ 13 รูปทหารญี่ปุ่นที่ใช้วัดแห่งหนึ่งในจีนเป็นที่ตั้งกองบัญชาการ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 51 12:39:36 จากคุณ : ryzon - [ 14 พ.ค. 51 12:36:14 ]

ความคิดเห็นที่ 14 รูปเรือเจนหยวนของจีนที่ถูกญี่ปุ่นยึดเป็นเรือเชลย จากคุณ : ryzon - [ 14 พ.ค. 51 12:37:04 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สุดท้าย ภาพการ์ตูนล้อเหตุการณ์ที่ญี่ปุ่นรบชนะจีน จากคุณ : ryzon - [ 14 พ.ค. 51 12:38:01 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขำการ์ตูน...."แจป..ผู้ฆ่ายักษ์" แหม..คิดได้งัยเนี่ยยย..555555 กำลังติดตามอ่านอย่างชนิดหายใจรดต้นคอเลยค่ะ รู้สึกมั่งป่าววว??? จากคุณ : WIWANDA - [ 14 พ.ค. 51 12:57:06 ]

ความคิดเห็นที่ 17 bookmark จากคุณ : hs - [ 15 พ.ค. 51 06:51:03 A:81.129.158.32 X: TicketID:160086 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ช่วงนี้ฝนตกระวังสุขภาพด้วยนะครับ ขอต่อนะครับ เมื่อเขี่ยจีนออกจากคาบสมุทรเกาหลีได้แล้ว ญี่ปุ่นเริ่มชายตามายังเกาหลีในเบื้องต้นญี่ปุ่นปล่อยตัวผู้สำเร็จราชการที่เคยโดนจีนเนรเทศกลับมาตั้งรัฐบาลพร้อมตั้งผู้ว่าราชการเกาหลีที่เป็นชาวญี่ปุ่นมาช่วยปกครองตามนโยบายของญี่ปุ่น ต่อมาในวันที่ 8 ตุลาคม 1895 ผู้สำเร็จราชการรวมหัวกับผู้ว่าฯที่ญี่ปุ่นส่งมาทำรัฐประหาร(อีกแล้ว) พระราชินีมินถูกสังหารโดยมีญี่ปุ่นอยู่เบื้องหลังและคุมตัวพระเจ้าโคจงไว้ สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลก เรื่องที่ญี่ปุ่นอยู่เบื้องหลังการสังหารพระราชินีมิน เป็นเรื่องที่ทั้งโลกปิดกันให้แซดเลย รูปล่างเป็นรูปพระราชินีมินครับ จากคุณ : ryzon - [ 15 พ.ค. 51 09:05:33 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เรื่อง หลีหงจาง เดินทางไปเป็นทูตเจรจาสงบศึกที่ญี่ปุ่น มีบันทึกพิมพ์ออกมาเผยแพร่ด้วย  พยายามหามาหลายหน ไม่รู้ว่าเอาไปเก็บไว้ตรงไหน ข้อมูลในนั้นดีมาก เกี่ยวกับลีลาการเจรจาความเมืองระหว่างประเทศ ทั้งชั้นเชิงและสำนวน เรื่องที่หลีหงจาง ถูกทำร้ายนั้น เป็นเรื่องที่ญี่ปุ่น (ไม่รู้แค่ฉากหน้าหรือเปล่า) รู้สึกอัปยศเหมือนกัน เพราะเป็นการทำร้ายทูตที่มาเจรจา ผู้ที่ทำร้าย เป็นนักศึกษาหนุ่มเลือดร้อน ที่ถูกอุดมการณ์รัฐปลุกระดมมาเต็มเหนี่ยว ทำให้รู้สึกไม่พอใจ ที่ผู้แทนจีนบังอาจมาเจรจาต่อรองกับญี่ปุ่น ทั้ง ๆ ที่แพ้สงคราม   เลยบุกไปยิงซะ เหตุการณ์นั้น หลี่ไม่ตาย แต่ถือเป็นการบาดเจ็บเพื่อชาติ เพราะรัฐบาลของญี่ปุ่นรู้สึกเสียหน้าที่คนของตนทำตัวไม่เหมือนอารยะประเทศที่ญี่ปุ่นในตอนนั้น พยายามจะเทียบเคียงให้ได้ ก็เลยทำให้ข้อเสนอบีบบังคับต่าง ๆ ลดน้อยลงไปบ้าง มีสำนวนหนึ่ง ที่ทูตญี่ปุ่นใช้เจรจากับจีนในช่วงเวลานั้น ขณะที่พยายามต่อรองกัน เพื่อทำลายความเชื่อมั่น หรือลดทอนข้อต่อรองของอีกฝ่ายลง ว่า "โลกไม่ได้หมุนรอบตัวคุณ  " สำนวนประมาณนี้ครับ  จำไม่ได้แน่ เพราะหาหนังสืออ้างอิงไม่เจอสักที ว่าต่อเลยครับ อ่านแล้วสนุกดี จริง ๆ ถ้าจบเกาหลี แล้วต่อเรื่องญี่ปุ่นเลยก็ได้ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงคาบลูกคาบดอกของญี่ปุ่นที่จะกลายเป็นมหาอำนาจ เทียบเคียงกับยุโรป โดยเฉพาะเมื่อดวลปืนเรือชนะรัสเซียเข้าให้ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) - [ 15 พ.ค. 51 12:52:52 ]

ความคิดเห็นที่ 20 .... เข้ามาอ่านและโหวตครับ จากคุณ : joblovenuk - [ 15 พ.ค. 51 18:42:10 ]

ความคิดเห็นที่ 21 น้อมรับบัญชาขอรับท่านอาจารย์ แต่ตอนนี้ขอหาข้อมูลเพิ่มเติมครับตอนนี้ข้อมูลน่าจะไม่พอครับ ต่อนะครับ เรื่องของพระราชินีมิน ฝ่ายญี่ปุ่นเห็นว่า ราชินีมินทรงเป็นอุปสรรคสำคัญในการฮุบเกาหลีของญี่ปุ่น ซึ่งก็ไม่ทราบว่าทางการญี่ปุ่นมีส่วนรู้เห็นหรือไม่(ถึงรู้ก็คงไม่บอกหรอก) โดยทัพญี่ปุ่นบุกเข้าไปในวังเคียงบก และสังหารราชินีมิน แต่ด้วยวิธีการใดไม่ทราบ เพราะไม่มีผู้เห็นเหตุการณ์ บวกกับทั้งฝ่ายเกาหลีและญี่ปุ่นปิดเป็นความลับ มีแต่ชาวรัสเซียชื่อเซอเรอดิน-ซาบาติน ที่เห็นทหารญี่ปุ่นบุกเข้าไปในฝ่ายในของวัง เรียกว่า "เหตุการณ์ปีอึลมี" เดือนกุมภาฯ ปีถัดมาพระเจ้าโคจงลอบหลบหนีเข้าสถานทูตรัสเซียในเกาหลีได้ ก็ประนามรัฐบาลเกาหลี(ที่โปรญี่ปุ่น)ว่าทรยศต่อชาติพร้อมจัดตั้งรัฐบาลซ้อนขึ้นมา รัสเซียก็ส้มหล่นสิครับไม่ได้ทำอะไรก็เหมือนได้เกาหลีไว้ในมือ พระเจ้าโคจงดำเนินการปกครองเกาหลีอยู่ในสถานทูตรัสเซียประมาณ 2 ปี ระหว่างนั้นพระเจ้าโคจงทำการปรับปรุงประเทศต่างๆ ยกเลิกประเพณีเก่าแก่ เช่น ยกเลิกการใช้นามปีนับศักราชแบบจีน และให้ใช้ปฏิทินเกรกอเรียนแทน รวมทั้งการตัดจุกของผู้ชาย ซึ่งขัดกับหลักขงจื้อที่ห้ามตัดผมตลอดชีวิต ทำให้ประชาชนเล็งเห็นถึงภัยจากต่างชาติที่กำลังคุกคามโชซอนอย่างหนัก จึงรวมตัวกันเป็นสมาคมเอกราช รบเร้าให้พระเจ้าโคจงทรงกลับมาต่อต้านอิทธิพลของญี่ปุ่น ในปี  1897 พระโกจงทรงกลับมาประทับที่พระราชวังทอกซู ประกาศเปลี่ยนให้อาณาจักรโชซอนเป็นจักรวรรดิเกาหลี และพระองค์เองทรงเลื่อนสถานะเป็นจักรพรรดิควางมู (รวมทั้งเลื่อนสถานะราชินีมินเป็นจักรพรรดินีเมียงซอง) ทรงเลือกใช้คำว่า"ฮัน"มาเป็นชื่อประเทศจากอาณาจักรสามฮันในสมัยโบราณ... พระฉายาลักษณ์พระเจ้าโกจงและพระบรมวงศ์สานุวงศ์(ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจากวิกิพิเดีย) แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 51 23:58:25 จากคุณ : ryzon - [ 15 พ.ค. 51 23:44:55 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ต่อครับ จากนั้นรัสเซียก็หว่านล้อมให้สัมปทานตามที่รัสเซียร้องขอ จัดการปกครองและโยกย้ายข้าราชการตามที่รัสเซียแนะนำ เจอไม้นี้ญี่ปุ่นแทบกระอักเลือดทำอะไรไม่ได้ จึงหาทางคุยกันและตกลงได้ดังนี้ 1.รับรองเกาหลีเป็นเอกราช 2.ไม่แทรกแซงกิจการภายในของเกาหลี 3.ช่วยเกาหลีฝึกทหาร 4.ช่วยเหลือดเกาหลีทางด้านการเงิน ที่ตกลงกันได้(อย่างไม่น่าเชื่อ)เพราะทั้ง 2 ฝ่าย ยังไม่พร้อม คือญี่ปุ่นยังต้องวุ่นกับการใช้หนี้ที่ก่อไว้ในช่วงสงคราม จีน-ญี่ปุ่น (พวกพันธบัตรทั้งหลายที่ออกมาซื้อเรือรบก่อนสงครามจีน-ญี่ปุ่นไง)การคลังยอบแยบ ถึงมีกองทัพบกที่เข้มแข็งแต่กองทัพเรือยังขาดแคลนรบขนาดใหญ่ เรือรบขนาดใหญ่มีเพียงเรือรบเจนหยวนลำเดียวที่ยึดมาจากจีน แถมรัสเซียก็มาตั้งฐานทัพเรือที่ปอร์ตอาร์เธอร์ ในคาบสมุทรเหลียวตุงจ่อเกาหลีอยู่ แล้วจะเอาอะไรไปเล่นตี่จับกับมหาอำนาจอย่างรัสเซียละครับ ส่วนรัสเซียตอนนี้ในตะวันออกไกลยังไม่พร้อมรบกับใครทั้งนั้น ถ้าทางรถไฟสายทรานไซบีเรียยังไม่เสร็จนะ(แหงเดะไม่งั้นจะเอาอะไรขนทหารมารบกับญี่ปุ่นละ) ทำได้แต่เสริมเรือรบมาขู่ญี่ปุ่น เมื่อเป็นดังนี้พญาหมีขาวจึงต้องจับมือกับพี่ยุ่นไปพลางๆก่อน เพื่อรักษาผลประโยชน์ร่วมกัน จนกระทั่งในปี ค.ศ.1900.... รูปล่าง พระฉายาลักษณ์พระจ้าโคจงตอนสถาปนาเป็นจักพรรดิครับ แก้ไขเมื่อ 16 พ.ค. 51 12:48:02 จากคุณ : ryzon - [ 15 พ.ค. 51 23:54:30 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ไปกินดีหมี ดีวัวที่ไหนมาเหรอจ๊ะ  พ่อคุ๊ณ !!!! ฟิตซะ!!! เข้ามาโหวตกระทู้ค่ะ   ชอบเรื่องเกาหลี จากคุณ : Gasalong - [ 16 พ.ค. 51 00:04:33 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ตุนไว้ก่อนครับ พรุ่งนี้งานบนโต๊ะเยอะอีกแล้วครับ T T จากคุณ : ryzon - [ 16 พ.ค. 51 00:11:47 ]

ความคิดเห็นที่ 25 โอ๊ว กำลังมันส์เหลือเกิน ( รออ่านต่อนะครับ ) จากคุณ : joblovenuk - [ 16 พ.ค. 51 09:22:04 ]

ความคิดเห็นที่ 26 กำลังอย่าตกนะคะน้องริว พี่เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : Gasalong - [ 16 พ.ค. 51 09:34:28 ]

ความคิดเห็นที่ 27 หนูหล่อมาเรื่อยๆแหละครับ มาอ่านสนุกและให้กำลังใจคุณ Ryzon แต่เห็นคุณพี่เงียบไป นึกว่าตั้งศูนย์ถ่วงล้อยังไม่เสร็จน่ะครับ ก็ เลยมาอ่านเงียบๆ ดีใจครับ ที่อาจารย์หายป่วยแล้ว และคุณพี่หัวหน้าห้องก็ดูแจ่มใส ขึ้นมากทีเดียวครับ... ขอบคุณที่ลำบากไปตามจิก เอ๊ยย ตามล่าเรา สองคนครับ ตอนนี้คุณแป๋งมีโปรเจ็คการกุศลที่ระยองและกำลังวาง แผนจะเรียนโท... แล้วคงมาจ้อเร็วๆนี้ละครับ จากคุณ : หนูหล่อ - [ 16 พ.ค. 51 16:28:33 A:203.155.232.121 X: TicketID:163925 ]

ความคิดเห็นที่ 28 กลับมา กทม แล้วครับ ขอบคุณคุณหนูหล่อมากที่ช่วยอธิบายให้เพื่อนๆฟัง ไม่ได้มาแปปเดียวเจอคุณริวร่ายยาวแล้วก็นึกเสียดาย ไม่มีเวลาอ่านเลย ต้องรีบเก็บตกเบิกเร็วไวเด๋วมีสอบกันจะแย่ไปกันใหญ่ ขอบคุณท่านหัวหน้าห้องด้วยนะครับที่ไปตามตัวถึงที่กันเลยทีเดียว พวกผมนี่สร้างความลำบากให้ท่านหัวหน้าห้องอยู่เรื่อยเลยเชียว จากคุณ : BrettAnderson - [ 16 พ.ค. 51 21:26:20 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อ้าว  ก็เห็นหาย (ศรีษะ)  กันไปหมด   ก็ต้องตามตัวกันบ้างล่ะ ทีนี้รู้หรือยังว่าผู้หญิง   มีความสามารถพิเศษแค่ไหน???? อาจารย์สื่อยังคงผวาไม่หาย  เห็นหายไปนาน ยังค่ะ  .....ยังไมหมด ยังมีอีกสองสามคน   อยู่แถวภูเก็ตคนนึง     กับ เชียงใหม่อีกคนนึงเจ้า   มีใครเจอตัวบ้าง  ช่วยอัญเชิญมาหน่อยค่ะ หรือจะให้ข้าพเจ้าจุดธูปเรียกเอง...... จะได้ใช้คาถาย่านาค   ปลุกเสกดวงวิญญาน   จากคุณ : Gasalong - [ 16 พ.ค. 51 22:17:18 ]

ความคิดเห็นที่ 30 โหยย.. ฟื้นมาคราวนี้คุณพี่เล่นของ จากคุณ : หนูหล่อ - [ 16 พ.ค. 51 22:31:14 A:203.155.232.121 X: TicketID:163925 ]

ความคิดเห็นที่ 31 มาอ่านแล้วค่ะ รูปน่าสนใจทั้งนั้น วันนี้ทางไทย ท่าทางจะปฏิเสธเรื่อง  "พันธุ์ข้าว " ที่ทางเมียงมาร์ของมานะคะ เพราะบอกว่าเป็น "ภูมิปัญญาพันธุ์ข้าวไทย " ที่คงให้กันยาก และ กระบือที่อยากได้จากไทยตั้งแสนตัว นั้น เห็นว่า อาจให้ได้สัก หลักพันกระมัง  ก็ต้องลองดู กันต่อไป พม่าก็เงินเยอะนะคะ ปกติ ได้ค่าแก๊ส ค่าน้ำมัน บ่อน้ำมันก็เพิ่งพบมากมาย แหะ แหะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 17 พ.ค. 51 02:47:17 ]

ความคิดเห็นที่ 32 อาจารย์สื่อขา หายป่วยหรือยังคะ ไม่มีอะไรอ่านแล้วนะ จากคุณ : Gasalong - [ 17 พ.ค. 51 07:16:36 ]

ความคิดเห็นที่ 33 มารับไม้แทนอาจารย์สื่อฯนะครับ ทนๆดูไปก่อนนะพี่สาว วันนี้ขอแปะรูปเยอะหน่อยละกันนะครับ หามาได้เยอะ ใบปี ค.ศ.1900ในจีนเกิดกบฎนักมวย(Boxer Rebellion)  เริ่มต้นจากสมาคมลับ อี้เหอถวน ที่เป็นสมาคมลับ จุดมุ่งหมายดั้งเดิมนั้นเพื่อต่อต้นราชวงศ์ชิง แต่เนื่องด้วยภาวะเศรษฐกิจทรุดโทรม เกิดภาวะข้าวยากหมากแพง โจรผู้ร้ายชุกชุม ซึ่งผลเหล่านี้มาจากที่ชาติตะวันตกคุกคามจัน พวกยบ็อกเซอร์จึงเล็งเห็นว่าชาวตะวันตกเป็นศัตรูที่ต้องกำจัดก่อน รูปล่างรูปพวกบ็อกเซอร์ครับ แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 51 21:14:02 จากคุณ : ryzon - [ 17 พ.ค. 51 20:50:05 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ต่อนะครับ การกบฎเริ่มต้นในเมืองเทียนจิน มณฑลชานตุงใกล้กรุงปักกิ่ง และลุกลามไปทั่วภาคเหนือของจีน ราชวงศ์ชิงตอนแรกทำท่าจะปราบปราม แต่เนื่องด้วยความอ่อนแอของราชวงศ์เองหลังแพ้สงครามกับญี่ปุ่นเมื่อปี 1895  ทำให้บรรดาเจ้านายทั้งหลายในราชวงศ์ที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมกลับมามีอำนาจอีกครั้ง ยิ่งเมื่อพวกบ็อกเซอร์ประกาศขับไล่ชาวต่างชาติ บรรดาเจ้านายหัวเก่สจึงหว่านล้อมให้ราชวงศ์ชิงสนับสนุนการกบฎโดยมีเจ้าชายกุงเป็นแกนนำ ซึ่งพระนางซูสีไทเฮาเห็นชอบด้วยจึงให้พวกบ็อกเซอร์เข้าโจมตีเขตชาวต่างชาติในปักกิ่ง นายพลหยงลู่ คนสนิทของ พระนางซูสีไทเฮาแสดงไม่เห็นด้วย แต่พระนางตรัสตอบว่าไม่เป็นไร ถ้าพวกบ็อกเซอร์แพ้ พระนางจะส่งหัวของเจ้าชายกุงไปให้พวกตะวันตกเอง  พร้อมสั่งให้นายพลหยงลู่ นำทัพเข้าโจมตีกองทัพอังกฤษที่ยกพลขึ้นบกที่เทียนสิน ซึ่งพระนางคงไม่ทราบว่าแนวคิดเช่นนี้เองที่เป็นตัวเร่งให้ราชวงศ์ชิงถึงจุดจบ รูปล่างรูปเจ้าชายกุงครับ จากคุณ : ryzon - [ 17 พ.ค. 51 21:13:27 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ต่อครับ การกบฎบ็อกเซอร์มีแต่เรื่องผิดคาดของทั้ง 2 ฝ่ายครับ ฝ่ายพันธมิตรชาติตะวันตกนายพลหยงลู่นำกองทัพราชวงศ์ชิง สามารถยันกองทัพอังกฤษที่จะมาช่วยสถานทูตในปักกิ่งได้แถมผลักให้ถอยกลับได้ จนอังกฤษต้องเรียกนานาชาติให้การช่วยเหลือ(ช่วยรุมกินโต๊ะจีน) แต่ที่ผิดคาดไม่แพ้กัน พวกบ็อกเซอร์ที่มีกำลังหลายพันคนไม่สามารถยึดดเขตสถานทูตได้  อยากรู้รายละเอียดให้ไปหาเรื่องนี้มาดูครับ "55 DAYS AT PEKING" ข้างรูปปกดีวีดีครับ หาซื้อได้ตามร้านขายดีดวีดีทั่วไป แต่ที่ผมเห็นหน้าปกเป็นอีกแบบหนึ่งครับ แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 51 21:33:11 จากคุณ : ryzon - [ 17 พ.ค. 51 21:31:28 ]

ความคิดเห็นที่ 36 การกบฎขยายตัวไปทั่วประเทศ แต่เหตุการณ์รุนแรงเฉพาะในภาคเหนือเท่านั้น ในภาคใต้ที่เป็นบรรดาเขตเช่า,เขตอิทธิพลของต่างชาติ และมณทลต่างๆในภาคใต้ที่ผู้ว่าการมณทลเป็นชาวจีนแม้แต่กองทัพราชวศ์ชิงของ ยวน ซี ไขคนโปรดของราขวงศ์ชิงเอง ไม่เห็นด้วยกับราชวงศ์ชิงจึงร่วมมือกับชาติตะวันตกปราบปรามพวกบ็อกเซอร์ในภาคใต้จนราบคาบ ส่วนภาคเหนือพอพันธมิตรตะวันตกตั้งตัวได้ร่วมกันจัดทัพใหม่ได้กำลัง 18,000 คน ซึ่ง 8,000 คนเป็นญี่ปุ่น 4,800 คนเป็นรัสเซีย( 2 แคนดิเดทที่จะชิงอำนาจในเกาหลี) ที่เหลือเป็นทหารอังกฤษและชาติอื่นๆ เข้าตีโต้กองทัพราชวงศ์ชิง สามารถยึดปักกิ่ง เผา(ปล้น)พระราชวังจนเหี้ยน พระนางซูสีไทเฮาต้องไปตรวจราชการ(หนี)ที่เมืองซีอาน ราชวงศ์ชิงจึงสงบศีกกับชาติตะวันตก ภาพการ์ตูนล้อพระนางซูสีไทเฮาขณะไปตรวจราชการ(หนี) จากคุณ : ryzon - [ 17 พ.ค. 51 21:45:38 ]

ความคิดเห็นที่ 37 อันนี้แถมครับ การ์ตูนล้อว่ารัสเซียกับอัวงกฤษแบ่งผลประโยชน์ในจีน เป็นรูปหมีใส่ชุดทหาร(ตอนแรกผมดูเป็นเสือนะ)แทนรัสเซีย และสิงโตใส่ชุดทหารแทนอังกฤษยืนยามในจีน จากคุณ : ryzon - [ 17 พ.ค. 51 21:47:50 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ต่อครับ ภาพการ์ตูนล้อตอนรัสเซียเช่าปอร์ตอาเธอร์จากจีนครับ จากคุณ : ryzon - [ 17 พ.ค. 51 21:49:06 ]

ความคิดเห็นที่ 39 การ์ตูนล้ออังกฤารัสเซียชิงชิงเด่นในจีนครับ จากคุณ : ryzon - [ 17 พ.ค. 51 21:52:39 ]

ความคิดเห็นที่ 40 การ์ตูนเกี่ยวกับพวกบ็อกเซอร์ น่สจะเป็นภาษาเยอรมัน(มั้ง) ผมแปลไม่ออกอะ จากคุณ : ryzon - [ 17 พ.ค. 51 21:54:09 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ต่อคอันนี้เหมือนการตูนล้อที่บรรดาชาติตะวันตกแย่งกันลงโทษจีน จากคุณ : ryzon - [ 17 พ.ค. 51 21:55:23 ]

ความคิดเห็นที่ 42 อันนี้ภาพวาดครับ จากคุณ : ryzon - [ 17 พ.ค. 51 21:56:05 ]

ความคิดเห็นที่ 43 นอกเรื่องไปเยอะจะพยายามวกกลับครับ ระว่างช่วงกบฎบ็อกเซอร์ รัสเซียเพื่อนบ้านที่แสนดีของจีนส่งทหาร 200,000 คน ฉวยโอกาสฮุบแมนจูเรียที่ตนหมายตาไว้นานแล้วในทันที บังคับข้าหลวงจีนในแมนจูเรียให้ยอมรับการอารักขา(ยึดครอง) ตานี้ญี่ปุ่นก็เดือดร้อนซิครับแมนจูเรียกับเกาหลีห่างกันนิดเดียวเอง แถมการได้แมนจูเรียมาช่วยให้รัสเซียสร้างทางรถไฟสายทรานไซบีเรียได้เร็วขึ้นเพราะสร้างตัดเข้าแมนจูเรียเลย ซึ่งระยะทางสั้นกว่า ภูมิอากาศดีกว่าทางตอนเหนือของแม่น้ำอมูร์ในเขตรัสเซียเอง กว่าถ้าทางรถไฟเสร็จเมื่อไหร่วันนั้นอาจเป็นวันโลกาวินาศสำหรับญี่ปุ่น ไม่สิของเอเซียตะวันออกเลย ตานี้เลยมีอังกฤษมาแจมด้วยเนื่องจากอังกฤษไม่อยากเห็นรัสเซียมีอิทธิพลมากไปในแถบนี้ จนมีการลงนามเป็นพันธมิตรกันในปี ค.ศ.1902(เรื่องนี้จะวิเคราะห์ให้ฟังอีกทีครับ) จากนั้นสถานการณ์ก็ตึงเครียด ญี่ปุ่นพยายามเจรจาแบ่งเขตอิทธิพลกัน ว่าเกาหลีสำหรับญี่ปุ่น แมนจูเรียสำหรับรัสเซีย รัสเซียไม่ตอบเพราะเชื่อว่าตนมีศักยภาพพอที่จะฮุบทั้งหมดได้ เค้าลางของสงครามเริ่มมาแล้ว รูปทางรถไฟครับ แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 51 08:24:23 จากคุณ : ryzon - [ 17 พ.ค. 51 22:19:32 ]

ความคิดเห็นที่ 44 โพสรูปไม่ขึ้น ไว้โพสวันหลังละกันครับ แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 51 22:55:07 แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 51 22:43:04 จากคุณ : ryzon - [ 17 พ.ค. 51 22:42:30 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ของพรรค์นี้ ไม่เชื่อย่าลบหลู่คะ  คุณหนูหล่อ! ขอให้คุณแป๋ง สำเร็จการศึกษาดังที่ตั้งใจไว้นะคะ   อยากฝากอย่างนึงค่ะ   เขาบอกว่าอย่าเสียใจให้ห้กับอดีต เพราะถ้าไม่วันวาน  เราก็คงไม่มีวันนี้ ดังนั้น จึงต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุด  เพื่อจะได้มีวันพรุ่งนี้ ที่ดีกว่าไงคะ จากคุณ : Gasalong - [ 17 พ.ค. 51 23:28:03 ]

ความคิดเห็นที่ 46 กบฏบ Boxer กับ กบฏไท้ผิง เป็นอันเดียวกันหรือเปล่าคะ จำได้ว่าตัวเร่งปฏิกริยาที่ทำให้จีนล่มสลายเร็วขึ้นก็คือกบฏนี่แหลค่ะ    แต่จะเป็นกบฏอะไรบ้างนั้น ก็จำไม่ได้แล้วค่ะ คำว่ากบฏ ก็คือผู้แพ้ในทุกรณีใช่ไหมคะ   แล้วพวกเรา  กบฏบังเตริ์ก  เข้าข่ายนั้นด้วยหรือเปล่าคะ จากคุณ : Gasalong - [ 17 พ.ค. 51 23:31:17 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เป็นคนละกลุ่มกันครับ กบฎไทผิง เกิดขึ้นในปี 1864  นำโดยหง ชิว ฉวน  ผู้ที่ผิดหวังจากการสอบจอหงวน เป็นการนำความเชื่อแบบคริสต์มาดัดแปลงครับ เริ่มต้นในภาคใต้ เป็นการกบฎที่บั่นทอนราชวงศ์ขิงอย่างรุ่นแรงที่สุด พวกไทผิงสามารถยึดดินแดน 1 ใน 3 ของประเทศจีนได้ แถมเป็นดินแดนที่มั่งคั่งจากการค้าเมืองหังโจว เซี่ยงไฮ้ และนานกิงทำให้ราชวงศ์ชิงขาดรายได้จากหัวเมืองเหล่านี้ และกบฎไทผิงทำให้ราชวงศ์ชิงต้องระดมทหารอาสา อนุญาตให้แต่ละมณทลสามารถจัดตั้งกองทหารได้เพื่อปราบกบฎ ซึ่งต่อมาเป็นรากฐานให้กับยุคขุนศึกของจีนในศตวรรตต่อมา รายละเอียดอ่านเพิ่มเติมได้ในยังค์เติร์กภาคเก่าๆคับ ผมเคยเขียนแจมไว้ตอนอาจารย์สื่อฯเขียนเรื่องจีนครับ(ภาคเท่าไหร่จำไม่ได้งะ) แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 51 08:22:10 แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 51 00:49:59 แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 51 00:33:34 จากคุณ : ryzon - [ 18 พ.ค. 51 00:32:36 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เจอรูปที่เกี่ยวข้องมาครับ Japanese and Chinese soldiers trampling a Korean while a Russian soldier จากคุณ : ryzon - [ 18 พ.ค. 51 00:36:28 ]

ความคิดเห็นที่ 49 อีกรูปก่อนนอนครับ อันนี้แปลสำนวนไม่ถูกอะ แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 51 00:44:08 จากคุณ : ryzon - [ 18 พ.ค. 51 00:39:06 ]

ความคิดเห็นที่ 50 อ้อ ลืมไปถ้าอยากดูหนังที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับกบฎไทผิง แนะนำ War Lord ที่มีเจ็ตลี กับหลิวเต๋อหัวเล่นนะครับ เรื่องนี้ผมดูในโรงแล้วสนุกดีเหมือนกัน จากคุณ : ryzon - [ 18 พ.ค. 51 00:43:44 ]

ความคิดเห็นที่ 51 รูปตัวอย่างครับ จากคุณ : ryzon - [ 18 พ.ค. 51 00:53:35 ]

ความคิดเห็นที่ 52 สุดท้ายแล้วขอไปนอนจริงๆละครับ(เก็บข้อมูลเพิ่มเติมด้วย) จากคุณ : ryzon - [ 18 พ.ค. 51 00:54:45 ]

ความคิดเห็นที่ 53 #49 up against it เป็นภาษาพูด แปลว่า เผชิญกับอุปสรรคอย่างใหญ่หลวง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมายถึงอุปสรรคทางด้านเศรษฐกิจ) จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 18 พ.ค. 51 02:46:29 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ดีครับ อ่านภาษาไทย มันเข้าใจง่ายกว่าไปอ่านใน wiki เยอะเลย มารอตอนต่อไป คงถึงสงครามระหว่าง รัสเซีย และญึี่ปุ่น ในปี 1904 แล้วซิครับ จากคุณ : VET53 - [ 18 พ.ค. 51 18:22:15 ]

ความคิดเห็นที่ 55 คุณข้างบน เหมือนเราเลยค่ะ  กำลังหา ฤทธิมีดสั้น อยู่เหมือนกันเลย เมื่อหลายปีก่อน ไปเจอในร้านหนังสือมือสองที่อยู่ในห้างอะไรก็จำชื่อไม่ได้แล้ว  ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็น Big C  ลาดพร้าวน่ะค่ะ ในร้านเขาขายหนังสือจีนกำลังภายในทั้งร้าน  แต่เป็นร้านหนังสือมือสองค่ะ  ตอนนี้ไม่รู้ย้ายไปอยู่ที่ไหนแล้ว  ยังเสียดายอยู่เลยวันนั้นมีเวลาน้อย  ไม่มีเวลาเฟ้นหาจึงไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมาเลย เวลาจะไปเดินหานังสือเหล่านี้  เขาบอกว่าให้ไปคนเดียวเป็นดีที่สุดค่ะ    อย่าพาใครไปด้วยเด็ดขาด    เพราะคนที่ไปด้วยจะเป็นอุสรรคอย่างใหญ่หลวงในการคุ้ยค้นของเรา  เพราะนอกจากจะไม่ได้หนังสือที่ต้องการแล้ว  ยังทะเลาะกันวงแตกกลับบ้านโดยที่ไม่ได้กินข้าวด้วยซ้ำไป ...เวนกำจิงๆ  !!! เจ้าของร้านนั้นไม่มีปัญหานะคะ    เข้าไปตั้งแต่เจ้าของร้านเริ่มกินข้าวเช้า  จนกระทั่งหูแว่วได้ยินเขาวางแผนกันว่า  จะกินอะไรสำหรับมือเที่ยงดี    จึงเห็นสมควรสรุปได้แล้วว่าจะเอาเล่มไหนมั่ง   ....มันมีความสุขดีนะ  เวลาที่ได้หนังสือที่ถูกทั้งใจ  และถูกทั้งเงิน  ......   เมื่องานสัปดาห์หนังสือที่ผ่านมา   ก็บอกให้คนที่ไปช่วยเดินหาให้ด้วย  เขาบอกว่า  ฤทธิมีดสั้น  ที่เป็นของโกวเล้ง  ไม่มีค่ะ  ที่มีอยู่คือ คือ มีดบินสะท้านฟ้า ของลี้คิมฮวงหรือไงนี่แหละ   คิดว่าไม่น่าจะใช่เรื่องเดียวกันนะคะ ส่วน ชอลิ้วเฮียง  มีแบบพิมพ์ใหม่แล้วค่ะ   เป็นของสำนักพิมพ์ สยามอินเตอร์บุคส์   เล่มเล็กกระทัดรัด  หน้าปกสวยงาม ตัวหนังสืออ่านง่าย  แต่ยังไม่ได้อ่านค่ะ   คงต้องหาเวลาอ่านในช่วงที่น้องริวเขากำลังร่ายมนต์ยาวทั้งศาตร์และศิลปแห่งการช่วงชิงการได้เปรียบและวัฒนธรรมการทำสงครามในกลิ่นอายแบบตะวันออกแบบนั้แหละค่ะ   ได้อรรถรสดี ฮุ้นปุยเอี๊ยง ค้นพบวิชาไหมฟ้า ไม่ใช่เพราะฟลุค  แต่เกิดจากการฝึกฝนอย่างหนัก   ซึ่งเป็นที่มาของกระบี่ไร้เทียมทาน ในขณะที่ ชอลิ้วเฮียง  เป็นขวัญใจของสาวๆทั่วยุทธภพ  แต่การที่จะขึ้นมาอยู่ตรงนี้ได้   เขาก็ต้องผ่านการฝึกฝนมาอย่างหนักเหมือนกันแหละ  เพียงแต่ว่า โกวเล้ง  เน้นตรงบทบาททางด้านอารมณ์ ของตัวละครตัวนี้มากว่าที่จะเน้นความอึดในการฝึก  เพราะคนหล่อๆ   ไม่ต้องฝึกนาน  ก็เก่งได้  ..แบบว่ามีพรสวรรค์น่ะค่ะ   ชอลิ้วเฮียง  จึงเลือกที่จะดำเนินวิถีแห่งจอมยุทธ ที่ปรนเปรอความสุขให้ตัวเองก่อน   แล้วจึงตอบแทนยุทธภพ ในขณะที่ ฮุ้นปุยเอี๊ยง  เลือกที่จะตอบแทนยุทธภพก่อน  แล้วจึงเลือความสุขให้กับตัวเอง เห็นไหมคะ   แม้กระทั่งจอมยุทธทั้งหลาย    ยังมีอุดมการณ์มในการดำรงชีวิตที่ต่างกันเลย ส่วนใครจะได้รับฉายาว่าเป็น "จอมโจรจอมใจ"  อย่างชอลิ้วเฮียงด้วยหรือเปล่านั้น   ก็ต้องดูว่า  สับรางเก่งอย่างกะเฮียชอเขาหรือเปล่า จากคุณ : Gasalong - [ วันวิสาขบูชา 11:56:57 ]

ความคิดเห็นที่ 56 กำลังหาหนังดูอย่เลยค่ะน้องริว   ที่ชั้น  5 เซียร์รังสิต   มีดีวีดีให้เลือกซื้อกันสบายอุราค่ะ     ราคาก็ไม่แพง   ห้องแอร์เย็นๆ  เลือกได้ตามสบาย  ไม่ต้องแขวนตะกรุดของขลังเหมือนบางแห่งที่อาจารย์สื่อเคยแนะนำให้ไปซื้อ ช่วงนี้หนังก็เลยเต็มบ้าน  แต่ไม่ยักมีเรื่อง War loard กับ Last Samurai แฮะ   สงสัยต้องกลับไปดูอีกที   ถ้าได้เรื่อง War loardแล้วจะรีบดู  แล้วจะเก็บมาคุยกันเรื่องกบฏไทผิงนะคะ   แต่ถ้าน้องริวจะเข้า ญี่ปุ่นก่อนก็ไม่เป็นไรนะคะ  พี่ตามทันอยู่แล้ว   ส่วนเรื่องญี่ปุ้นรบชนะรัสเซีย  ในปี 1904นั้น   กระทบถึงเกาหลีเต็มๆเลยค่ะ    ก็เกาหลีดันไปตั้งอยู่ตรงกลางระหว่ง  3  มหาอำนาจนะสิ  ทั้ง จีน  ญี่ปุน  รัสเซีย  เมื่อเสือสามตัว จะทำอะไรทั้งที   เกาหลีน้อยก็กระเทือนไปด้วย   ยิ่งระยะหลังๆ  มีเสือตัวที่ 4  ทำท่าจะเข้ามาขอมีเอี่ยวแถวๆแปซิฟิกด้วย  เกาหลีก็เลี่ยงไม่ได้อยู่ดีที่จะโดนรุมกระหน่ำ  เพราะดินแดนในแผนที่ตรงนั้น  มันยกหนีได้ไหมละ   ถ้าทำได้  คิดว่าเกาหลี  คงอยากยกมาอยู่แถวสุวรรณภูมิเรานี่แหละ   นี่ขนาดยังไม่ยกมานะ  กระแสเกาหลีในบ้านเรายังแรงถึงขนาดนี้   ถ้าเขายกแผ่นดินมาได้   คงไม่ต้องสงสัยหรอกว่า  น้ำยาเปลี่ยนสีผมที่ออกสีทองๆ แดงๆ   จะขาดตลาดในไม่ช้า เด็กๆวัยรุ่นสมัยนี้  จะภาคภูมิใจกับทรงผมทรงใหม่  ที่ตัดซอยเหมือนช่างยังเมาไม่สร่างยังไงยังงั้น   และทำสีเป็นสีบรอนทองแบบฝรั่งจ๋าด้วยนะ   ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกถ้าคนไหนหน้าตามี Volume หน่อย   ก็พอกลืนๆกับเทรด์นเกาหลี แต่คนไหนที่หน้าตาค่อนไปทางที่ราบสูงบ้านเรา    แล้วไว้ผมทรงอินเทรด์นแบบนี้แล้วละก็   เห็นที่อาจารย์ฝ่ายปกครอง คงต้องกล้ำเกลือนฝืนทนไปสักระยะ   จนสีผมมันจืดจางไปตามเวลานะคะ ...ทนๆ  เอาหน่อยๆ เห็นอาจารย์สื่อเคยบ่นว่าผมยาวเร็ว  ไม่รู้จะตัดผมทรงไหนดี  ไม่ทราบว่าสนใจทรงเกาหลีบ้างไหมคะ   ไว้ยาวได้  ไม่ต้องเสียตังค์ตัดบ่อย ถ้าสนใจ  ขอเสนอทรงนี้เลยค่ะ จากคุณ : Gasalong - [ วันวิสาขบูชา 12:00:04 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณครับคุณกาสาลอง ที่เข้าไปเยี่ยม blog ร้านที่เจอฤทธิ์มีดสั้นคือแพร่ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว กับ ร้านหนังสือที่อยู่ในห้างฝั่งตรงข้ามเซ็นทรัล ส่วนจอมโจรจอมใจ รอได้ครับ เพราะล่าสุดเจอแหล่งเล็กเซียวหงส์แล้ว  B2S นี่เอง กว่าจะทยอยซื้อครบเจ็ดตอน คงหาแหล่งชอลิ้วเฮียงเจอครับ แต่ไม่ได้หิ้วเล็กเสียวหงส์มา เพราะดันเดินผ่านหมวดประวัติศาสตร์ เจอหนังสือ มองญี่ปุ่น มองไทย ในสงครามโลกครั้งที่สอง ของพล.อ. สายหยุด ซะก่อน เลยซื้อมาแทนเรื่องที่ตั้งใจ เพราะผมสงสัยมานานเรื่องการยุทธิ์ที่ อิมพัล และ โกฮิมา ว่าทำไมญี่ปุ่นแพ้ ถึงแม้จะรู้ว่า มนัเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ยากจะเข้าตี และญี่ปุ่นเตรียมตัวมาไม่ดี ที่จะเข้ายึดที่ตรงนั้น แต่ญี่ปุ่นสามารถบุกผ่านเทือกเขากลางประเทศพม่า ไปจนถึงประชิดชายแดนอินเดียได้ ย่อมไม่ธรรมดา ฉนั้นสาเหตุแห่งความพ่ายแพ้ มันน่าจะมาจากอะไรที่สำคัญกว่านั้น หนังสือเล่มนี้ได้ตอบคำถามนี้ไว้ครับ ขอโทษที่รบกวนเนื้อที่กระทู้นะครับ จากคุณ : VET53 - [ วันวิสาขบูชา 13:36:13 ]

ความคิดเห็นที่ 58 bookmark จากคุณ : hs - [ วันวิสาขบูชา 18:27:48 A:86.142.183.107 X: TicketID:160086 ]

ความคิดเห็นที่ 59 จากเชียงใหม่ เข้ามาลงชื่อครับ เพิ่งกลับจากน่านและแม่สาย ไปน่านได้ไหว้พระเก้าวัด แบบว่าเก้าวัดจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะไม่ได้นับ เดินตามหัวหน้าคณะอย่างเดียว เสร็จแล้วก็ได้กลับมานอนบ้านหนึ่งคืนแล้วตามไปเชียงรายต่อเพื่อแอบเข้าร่วมงานสัมนาผู้บริหารของมช. แล้วจึงถึงเป้าหมายหลักนั่นคือ DVD ที่ท่าขี้เหล็ก เฉกเช่นเดียวกับการไปเลือกหนังสือ ไปเลือก DVD นี่แนะนำให้ไปคนเดียวเพราะผมเลือกอยู่แค่ร้านเดียวก็ปาเข้าไปเกือบชั่วโมงนึง ได้มายี่สิบแผ่น ยังไม่ทันเรียบร้อยดีก็โดนผบโทรจิกให้ไปดูเสื้อตราไอ้เข้ แต่เอ๊ะ ซื้อสองตัวสี่โร้ย เรายื่นแบ๊งค์พันไปให้ ไปแล้วไปลับไม่ยักกะมีเงินทอนกลับมาให้เรา พอได้เสื้อผบก็โดนโทรตาม ผมก็เลยต้องติดร่างแหกลับไปด้วย จากตอนแรกว่าจะอยู่ซักสามชั่วโมง เลยเหลือแค่ชั่วโมงกว่า เดี๋ยวรอเดือนกรกฎาค่อยแก้ตัวใหม่ จากคุณ : Ronachai (amscmu) - [ วันวิสาขบูชา 21:10:02 ]

ความคิดเห็นที่ 60 อิจฉาคุณ VET53 จังเลยค่ะ   ที่ได้หนังสือดีๆไว้ในครอบครองอีกแล้ว หนังสือเล่มที่ว่านั้น  มีวางขายที่ B2S ใช่ไหมคะ   เดี๋ยวนี้ตามชั้นหนังสือแนะนำในชั้นหนังสือใหญ่ๆทั่วไป  มักมีหนังสือประวัติศาตร์ทั้งทีเล่าโดยคนไทย และทั้งที่แปลมาจากภาษาต่างประเทศวางขายอยู่บ่อยๆนะคะ   ถึงแม้จะวางขายไม่นาน  แต่ถ้าช่วงไหนจังหวะดีๆ   ก็จะเจอหนังสือประเภทนี้    ซึ่งแน่นอนค่ะ  เสียเงินทุกที เมื่อเร็วๆนี้  เจอหนังสือแปลเรื่องของทหารอากาศหญิงชาวรัสเซียคนหนึ่ง  จำไม่ได้เหมือนกันค่ะว่าเธอผ่านสมรภูมิอะไรมาบ้าง   ตั้งใจไว้ว่าจะอ่านเรื่องของ นักรบชุดดำในลาวให้จบก่อน  แล้วจะมาซื้อเล่มนี้   กลับไปอีกที  ปรากฏว่าถูกเก็บลงจากชั้นไปแล้วค่ะ   ก็เลยขี้เกียจหา   เพราะของใหม่ๆ  ก็ออกมาอยู่เรื่อย   ถ้าเป็นไปได้  อยากรบกวนให้คุณ VET53  เล่าเรื่องในหนังสือเล่มนั้นให้ฟังบ้างได้ไหมคะ  ช่วงนี้กำลังเข้าบรรยากาศเลยค่ะ    เพราะกระทู้จะเข้าญี่ปุ่นอยู่พอดีค่ะ จากคุณ : Gasalong - [ วันวิสาขบูชา 21:13:34 ]

ความคิดเห็นที่ 61 อ้าว  อาจารย์รณชัยเข้ามาพอดี   ถึงว่าสิคะ   เมื่อกี้กดส่งกระทู้  รู้สึกมึนๆ  เหมือนชนอะไรเขาสักอย่าง  ที่ไหนได้   ชนกับกอง DVD  ของอาจารย์นี่เอง DVD ที่ท่าขี้เหล็ก  เขาขายกันยังไงคะ  แผ่นละเท่าไหร่   ภาพและเสียงเป็นยังไงมั่ง   มีกล่องใส่สวยงามหรือเปล่าคะ  และมีหนังให้เลือกเยอะเหมือนที่เซียร์หรือเปล่าคะอาจารย์   ที่สำคัญ   เวลาไปซื้อ   ต้องห้อยหวงพ่อ (โกย)  ไปด้วยหรือเปล่าคะ จากคุณ : Gasalong - [ วันวิสาขบูชา 21:20:00 ]

ความคิดเห็นที่ 62 พี่สาวไปท่าขี้เหล็กมาเหมือนกัน ซื้ออะไรต่ออะไรพรรค์ที่อาจารย์ รณชัยว่านี่แหละครับ หิ้วมากองประมาณถุงขยะใบใหญ่ นัยว่าเพื่อน ฝากซื้อหลายคน การ์ตูนของเด็กแผ่นละยี่สิ.. แม่เจ้า หนูหล่อไม่ลบหลู่หรอกครับคุณพี่ แต่หนูหล่อว่าคุณพี่อย่าเล่นของ เลยน้า กลัวของขึ้นอ่ะคร้าบบ แล้วคุณ Dearance ล่ะคร้าบ ยู้ไส จากคุณ : หนูหล่อ - [ วันวิสาขบูชา 21:59:27 A:124.122.161.36 X: TicketID:163925 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ส่วนผมซื้อที่บ้านหม้อครับ 3แผ่น 200 มีกล่อง เมื่อก่อนต้องวิ่งครับ มีดาราไปยื่นหนังสือให้ปราบหนังละเมิดลิขสิทธิ์ที พวกก็หายไปที ไปตอนนั้นก็เสียเที่ยว ตอนนี้มีรู้แล้วครับต้องเข้าหลังร้าน 55555 เอารูปไปก่อนครับ รูปนี้ตกไป เป็นรูปนาวิกโยธินของอเมริกันที่เข้าไปปราบพวกบ็อกเซอร์ครับ จากคุณ : ryzon - [ วันวิสาขบูชา 22:27:47 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ส่วนรูปนี้ล้อเหตุการณ์ที่ทั้งรัสเซียและญี่ปุ่นพยายามขยายอิทธิพลเข้าแมนจูเรีย ในรูปทหารคอสแซครัสเซียกับทหารญี่ปุ่นพยายามเกี้ยวพาราสีผู้หญิงซึ่งแทนดินแดนแมนจูเรีย แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 51 22:30:37 จากคุณ : ryzon - [ วันวิสาขบูชา 22:29:08 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ราชวงศ์ชิงเขาบอกว่า ภัยจากตะวันตกนั้นเปรียบเหมือนโรคร้ายที่เกาะกินตามแขนขา   แต่ภัยจากกบฏนั้น เปรียบเหมือนโรคร้ายที่คุกคามหัวใจ ซึ่งราชวงษ์ชิงเขาเลือกที่จะรักษาหัวใจเอาไว้  จึงต้องจัดการกับโรคร้ายนี้ก่อน ก็คือการมุ่งปราบปรามพวกกบฏ  ซึ่งเป็นคนจีนเหมือนกัน   ....เรื่องนี้น่าเศร้ามาก   ส่วนพวกที่เกาะกินตามแขนขานั้น  เขาบอกว่ายังไม่รุนแรงเท่าไหร่นัก จึงปล่อยให้ชาวต่างชาติเหล่านั้นเข้ามาลอยนวลในจีนได้อย่างแสนจะอิสระเสรี  และยังทำงานรับจ้างราชวงศ์  ในการปราบปามพวกกบฏอีกด้วยนะ มีหนังจีนเรื่องนึง  รู้สึกจะชื่อ แม่ทัพ อู๋ซันกุ้ย  หรือไงนี่แหละค่ะ    ที่เกี่ยวกับด่านซันไห่กวนใช่เปล่า เห็นเขาบอกว่า  แม่ทัพ อู๋ฯ เป็นคนเปิดด่านให้แมนจูเข้ามาจริงเหรอ หนังสือการณ์ตูนที่น้องริวเอารูปมาลง  ตีพิมพ์ตั้งแต่เมื่อหร่คะ   มาเปิดดูตอนนี้ สะท้อนใจน่าดูเลยนะคะ  ไม่รู้คนที่เกี่ยวข้องด้วยเขารู้สึกอย่างไร  เมื่อเห็นภาพล้อเลียนแบบนี้ คุณหนูหล่อกับคุณแป๋งไม่ต้องกลัวคุณไสยแถวนี้นะคะ  ยังไม่เก่งกล้าอาคมเท่าไหร่ค่ะ   คาถานี้ใช้เรียกใครๆก็พอได้อยู่ค่ะ    ดูอย่างอาจารย์รณชัยสิคะ   ยังเสียธูปไปไม่ถึงกำเลย  อาจารย์ก็ได้กลิ่นแล้ว แต่คงใช้ไม่ได้กับท่านจอมยุธทกระบี่เดียวดายหรอกมั้งค่ะ   เพราะยังไม่สะทกสะท้านอะไรเลย   เห็นทีต้องขอคาถาวิเศษจากป้าวิซะแล้วววว จากคุณ : Gasalong - [ วันวิสาขบูชา 23:15:19 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ก่อนจะเข้าสงครารัสเซีย-ญี่ปุ่น ต้องเข้าใจดุลยภาพดั้งเดิมของเอเชีตะวันออกก่อนครับ ว่าก่อนสงครามจีน-ญี่ปุ่น(sino-japanese war) เอเชียตะวีนออกอยู่ในระบบที่จีนเป็นจ้าว ชาติตะวันตกทุกชาติต่างตระหนักว่าที่ตนสามารถได้สิทธิ์การค้าขาย และครองดินแดนในจีนนั่นเพราะราชวงศ์ชิงยังไม่เอาจริง การเสียฮ่องกงให้อังกฤษ ,ดินแดนทางเหนือแม่น้ำอมูร์ในแมนจูเรียให้รัสเซีย และ อันนัมหรือเวียดนามให้ฝรั่งเศส ดินแดนที่เสียไปก็เป็นดินแดนที่จีนมีอำนาจแต่ในนามหรือไม่ก็ห่างไกลสุดกู่ทำให้ชาติตะวันตกเชื่อว่าทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับความกรุณาของราชวงศ์ชิง ทุกชาติยังคิดว่าจีนยังเป็นเสือหลับ ยิ่งบวกกับจีนสามารถพัฒนากองทัพของราชวงศ์ชิงเองปราบกบฎไทผิง และกบฎมุสลิมทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือได้ แถมสามารถแก้ปัญหาดินแดนอี่ลี่กับรัสเซียอย่างสันติวิธีได้เป็นครั้งแรก(ถึงแม้ต้องเสียเงินก้อนโตก็ตาม) ยิ่งกองทัพเรือขยายตัวใหญ่โตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกองเรือเป่ยหยางของ หลีหุงจาง จีนจึงคิดว่าตนเองมาถูกทางแล้ว แต่แล้วญี่ปุ่นก็เป็นผู้ดับฝันนั้นในสงครามจีน-ญี่ปุ่น(sino-japanese war) ราชวงศ์ชิงแพ้ยับเยิน แถมกองทัพที่แพ้ดันเป็นกองทัพที่ประจำการในภาคเหนือ และกองทัพเรือเป่ยหยางที่เป็นฐานอำนาจของราชวงศ์ชิงเองซะอีกทำให้ให้ชาติตะวันตกรู้ว่าจริงๆจีนไม่ได่เข้มแข็งเลย จึงเข้ามารุมทึ้งจีนทำให้จีนมีสภาพกึ่งอาณานิคม... รูปข้างล่างเป็นรูปการํตูนล้อของฝรั่งเศสถึงการเข้าไปแบ่งจีนในทศวรรตที่ 1890 โดยมีกษีตริย์และราชินีของประเทศต่างเป็นตัวแทนถือมีดแบ่งพายที่เทนประเทศจีน และมีเจ้าหน้าที่ของราชวงศ์ชิงคอยพยายามห้าม แต่ไม่มีอำนาจที่จะห้าม ยกมาลองแปลเองก็ได้ครับ อ้อ ขอบคุณคุณทวิสตี้สำหรับคำแปลของความเห็นที่ 49 ครับ Famous French political cartoon from the late 1890s. A pie represents "Chine" (French for China) and is being divided between caricatures of Queen Victoria of Great Britain, William II of Germany (who is squabbling with Queen Victoria over a borderland piece, whilst thrusting a knife into the pie to signify aggressive German intentions), Nicholas II of Russia, who is eyeing a particular piece, the French Marianne (who is diplomatically shown as not participating in the carving), and the Meiji Emperor of Japan, carefully contemplating which pieces to take. A stereotypical Qing official throws up his hands to try and stop them, but is powerless. It is meant to be a figurative representation of the Imperialist tendencies of these nations towards China during the decade. จากคุณ : ryzon - [ วันวิสาขบูชา 23:29:58 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ตอบพี่สาวกาสะลอง รูปน่าจะเป็นรูปล้อสมัยนั้นละครับ หาได้ในเนตนี่แหละครับ เอามาดูประกอบจะได้เข้าใจมากขึ้นครับ คำที่พี่สาวฯยกมานี่(ไอ้โรคร้ายอะไรนี่นะ) เป็นสำนวนเก่านะครับ เห็นในสามก๊กยังมีเลย จำด้ลางๆว่า ตอนที่ที่ปรึกษาของเล่าเจี้ยงบอกเล่าเจี้ยงเรื่องการรับเล่าปี่แห่งเกงจิ๋วเข้าเสฉวนเพื่อมาป้องกันเตียวฬ่อแห่งฮันต๋งที่จะรุกรานเสฉวนว่า(ไม่แม่นนะแต่พูดประมาณนี้ละ) "อันเตียวฬ่อนั้นเปรียบเสมือนโรคร้ายที่เกาะกินตามแขนขาไม่ช้าก็หายไป ขอเพียงส่งทหารไปขัดด่านไม่ช้าเตียวฬ่อก็ถอยไป แต่เล่าปี่ เหมือนโรคร้ายเกาะกินหัวใจ ถ้าท่านรับเล่าปี่เข้ามา มิช้านานเล่าปี่จะแว้งกัดเรา ถึงตอนนั้นจะไล่เล่าปี่ยังไง" ยกมาไม่มีอะไรครับแค่บอกว่าสำนวนมันเก่า ที่พี่สาวฯยกมานะสะท้อนแนวคิดของราชวงศ์ชิงครับ ซึ่งเป็นราชวงศ์ต่างด้าวที่เข้าปกครองจีน ซึ่งตัวเองก็ยกทัพมาจากแมนจูเรียเข้ามาปกครองจีนเหมือนกัน จึงให้ความสำคัญกับภัยที่มาทางบกมากกว่าภัยที่มาทางทะเล จึงไม่น่าแปลกใจที่ราชวงศ์ชิงทุ่มเทการปราบกบฎไทผิงในภาคตะวันออก และกบฎมุสลิมในภาคตะวันตกเฉียงเหนือที่ห่างไกล มากกว่าที่จะสนใจการที่ญี่ปุ่นผนวกหมู่เกาะริวกิวซึ่งเป็นรัฐบรรณาการของจีน(ปัจจุบันคือจังหวัดโอกินาวาของญี่ปุ่น) และยึดเกาะฟอร์โมซา(ไต้หวัน) ส่วนเรื่องแม่ทัพอู๋ซานกุ้ยแม่ทัพของราชวงศ์หมิงที่เปิดด่านซานไฮกวน รับทัพแมนจูเข้ามาเป็นเรื่องจริงครับ แต่ถ้ามองกลางๆนั้นท่านแม่ทัพฯแกก็ไม่มีทางเลือกครับ เพราะตอนนั้นเกิดกบฎชาวนา แล้วไอ้กบฎที่ว่านี้ยึดปักกิ่งได้เรียบร้อยแล้ว ฮ่องเต้ราชวงศ์หมิงก็ผูกคอตายไปแล้ว และกำลังตามมาเช็คบิลกับท่านแม้ทัพอู๋ซานกุ้ยเป็นรายต่อไป ราชวงศ์ที่จะให้ภักดีก็ล่มไปแล้วแถมหัวกำลังจะหลุด แถมกองทัพตนการอยู่ระหว่างเขาควายระหว่างพวกกบฎกับพวกแมนจูเป็นเรื่องต้องห้ามตามพิชัยสงครามซะอีก เมื่อเป็นดังนี้ก็ไม่ต้องคิดมากครับ  ก็สวามิภักดิ์แมนจูซิครับ จบ แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 51 00:38:07 แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 51 23:52:51 จากคุณ : ryzon - [ วันวิสาขบูชา 23:51:30 ]

ความคิดเห็นที่ 68 การกดขี่จีนอีกรูปดูจากรูปน่าจะเป็นของรัสเซียเค้านะครับ จากคุณ : ryzon - [ วันวิสาขบูชา 23:54:38 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ขออนุญาตวิเคราะห์ญี่ปุ่นต่อไปเลยนะครับเพราะเป็นผู้เล่นสำคัญในตอนนี้ หลังจากที่คว่ำจีนแล้วญี่ปุ่นก็เรียกร้องค่าปฏิกรรมสงคราม ขอไต้หวันและหมู่เกาะรอบๆพวกนี้ไม่มีปัญหา แต่พอญี่ปุ่นขอเช่าปอร์ตอาเธอร์ ปอร์ตไดเรน  ตรงนี้แหละครับที่แสดงความไม่เดียงสาของญี่ปุ่นในวงการเมืองระหว่างประเทศ เมืองท่าทั้ง 2 นั้นตั้งอยู่บนคาบสมุทรเหลียวตงอยู่ตรงปากทะเลเหลืองเลย ซึ่งเป็นยุทธศาตร์สำคัญ รัสเซียหมายตาอยู่ เป็นความพยายาม 300 ปี ของรัสเซียตั้งแต่สมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราชที่จะหาท่าเรือทะเลน้ำอุ่น เมื่อญี่ปุ่นเรียกร้องมารัสเซียก็จึงเข้าแทรกแซง โดยอาศัยจังหวะชุลมุนที่หลีหุงจากผู้แทนของจีนโดนทำร้ายที่ญี่ปุ่น ยื่นบันทึกถึงญี่ปุ่น โดยมีเยอรมันและฝรั่งเศสหนุนหลัง ซึ่งทั้งเยอรมันและฝรั่งเศสซึ่งเป็นคู่อาฆาตหลังสงครามฟรังโก-ปรัสเซียน มาจับมือกันในการสนับสนุนรัสเซียมีเหตุผลคต่างกันดังนี้ เยอรมันต้องการให้รัสเซียไปให้ไกลที่สุดจากตะวันออกใกล้(คาบสมุทรบอลข่าน)เพื่อที่จะได้ไม่ต้องขัดแย้งกับออสเตรีย-ฮังการี่ ซึ่งเป็นมิตรกับเยอรมัน และจักรวรรดิออตโตมัน ซึ่งเยอรมันกำลังตามจีบอยู่ ส่วนฝรั่งเศสหลังสงครามฟรังโก-ปรัสเซียน แพ้สงครามไม่พอ ยังโดนกุศลโลบายของบิสมาร์คบล็อคให้ฝรั่งเศสอยู่โดดเดี่ยว พึ่งมาติดต่อรัสเซียได้ตอนที่พระเจ้าไกเซอร์ที่ 2 ของเยอรมันไม่ต่อสัญญาสันนิบาตสามจักรพรรดิ จึงเข้าหาฝรั่งเศส ฝรั่งเศสจึงร่วมสนับสนุนรัสเซียที้งๆทีตนเองไม่ได้มีผลประโยชน์ในจีนตอนเหนือเลย เจอไม้นี้ญี่ปุ่นต้องกัดฟันยอมรับคำขาดของสามมหาอำนาจ โดยสละสิทธิ์การเรียกร้อง 2 เมืองท่า(ซึ่งต่อมารัสเซียขอเช่าต่อแทน) โดยแลกกับค่าปฏิกรรมสงครามที่มากขึ้น พร้อมกับต้องจำไว้ว่าตนเองต้องมีพันธมิตรบ้าง... รูปล่างเป็นภาพวาดการเจรจาสัญญาซิโมโนเซกิครับ และขอตัวนอนก่อนครับพรุ่งนี้มาต่อครับ แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 51 00:41:41 แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 51 00:29:51 จากคุณ : ryzon - [ 20 พ.ค. 51 00:29:06 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 20 พ.ค. 51 05:47:00 ]

ความคิดเห็นที่ 71 แต่หนูหล่อคิดว่าอาจารย์คงยังอยากพักผ่อนนะครับ ธรรมดาปี่กลองขนาดนี้ อาจารย์ก็ออกมาร่วมวงแล้ว คุณ Ryzon ก็เล่าสนุก ภาพปลากรอบก็เพียบ อาจารย์ อาจพักไปเพลินอ่านไปก็ได้นะครับ ตอนนี้นักเรียนก็ออกมาล่อ.. เอ๊ยยย... เล่ากันเองจน เปียกไปหมดแล้ว ฝีปากก็สมเป็นศิษย์สำนักนี้ ก็ปล่อย ให้อาจารย์พักผ่อนต่ออีกสักหน่อยก็ดีนะครับ... เดี๋ยว หนูหล่อจะชงกาแฟดำหวานเจี๊ยบ บีบมะนาว เติมเหล้า รัมสักกรึ๊บไปส่งให้อาจารย์... หุหุ ไม่รู้จะกล้าดื่มรึเปล่า ขอให้อาจารย์หายเร็วๆนะครับ อยากฟังเรื่องที่คุณ พี่วิวันดาอยากฟังน่ะครับ หนูหล่อไม่กลัวคุณไสยหรอกครับคุณพี่ ศิษย์มีครู เหมือนกานนน... ฮิฮิ จากคุณ : หนูหล่อ - [ 20 พ.ค. 51 08:36:07 A:124.120.217.215 X: TicketID:163925 ]

ความคิดเห็นที่ 72 แหะ ๆ   ทางใต้คลื่นลมมันแรงครับ  ควันธูปเพิ่งจะไปถึง จากคุณ : Dearance (Dearance) - [ 20 พ.ค. 51 11:57:09 ]

ความคิดเห็นที่ 73 bookmark จากคุณ : hs - [ 20 พ.ค. 51 15:25:46 A:86.151.42.250 X: TicketID:160086 ]

ความคิดเห็นที่ 74 กำลังสนุกทีเดียวครับ ^^ จากคุณ : Balleno - [ 20 พ.ค. 51 17:10:12 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ไม่มาก็ไม่ต้องมา! ต่อไปนี้ก็คงจะไม่ตามแล้ว จะบอกให้ป้าวิเซ้งกระทู้ไปซะเลย ดีไหมพวกเรา??? จากคุณ : Gasalong - [ 20 พ.ค. 51 21:12:14 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ก็ภาวนาให้อาจารย์สื่อฯแกหายวันหายคืนนะครับ มิตรรักแฟนเพลงมารออาจารย์แล้ว ขอต่อนะครับ ญี่ปุ่นต้องการพันธมิตร พันธมิตรนั้นต้องเป็นมหาอำนาจ ซึ่งเวลานั้นญี่ปุ่นมี 2 ทางเลือก คือไม่รัสเซียก็อังกฤษ ถ้าเลือกเจรจากับรัสเซียแบ่งเขตอิทธิพลกันไปเลย ซึ่งถ้าญี่ปุ่นเลือกทางนี้ ข้อดีคือสามารถมีหลักประกันว่าคาบสมุทรเกาหลีจะไม่ถูกคุกคามจากมหาอำนาจใดๆอีก เพราะไม่มีมหาอำนาจใดสามารถส่งทหารมาพิชิตกองกำลังร่วมระหว่ารัสเซีย-ญี่ปุ่นได้ แม้แต่ราชนาวีอังกฤษก็ตาม(ดูได้จากกรณีกบฎบ็อกเซอร์ที่ญี่ปุ่นและรัสเซียส่งทหารเข้าไปมากที่สุดมากกว่าอังกฤษและมหาอำนาจอื่นๆรวมกันอีก) แต่ข้อเสียก็มีมากเช่นกันคือนั่นหมายความว่าราชนาวีญี่ปุ่นต้องรับมือกับราชนาวีอังฤษที่เข้มแข็งที่สุดในโลก ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากเกินแรงสำหรับชาติที่งบประมาณกองทัพมาจากการขายพันธบัตรและเงินบริจาค , ญี่ปุ่นยังหวังลู่ทางการค้าได้ยากในไซบีเรีย(แม้ในปัจจุบันก็ยังไม่สามารถคาดหวังได้) ที่สำคัญที่สุดไม่มีหลักประกันใดๆเลยที่จะรับปากว่ารัสเซียจะไม่ยุติการขยายตัวลงมาในคาบสมุทรเกาหลี (ซึ่งแนวคิดนี้ก็เป็นจริงเพราะเมื่อก่อนสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น รัสเซียได้สัมปทานทำป่าไม้แถบแม่น้ำยาลูจากเกาหลี) รูปล่างการ์ตูนล้อครับ ในการ์ตูนพยายามสื่อว่ารัสเซียพยายามขยายอิทธิพลลงมาครับ) แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 51 16:19:09 จากคุณ : ryzon - [ 20 พ.ค. 51 21:12:55 ]

ความคิดเห็นที่ 77 พี่สาวไม่ดีครับ เดี๋ยวกระทู้ขาดสีสัน ยังไงให้อาจารย์แกพักหน่อยละกัน คิดว่าให้แกพักร้อน ต่อนะครับ ทางเลือกถัดมาคืออังกฤษ กรณีนี้เป็นมุมกลับมากกว่าว่าอังกฤษสนใจที่จะเป็นพันธมิตรกับญี่ปุ่นนั่นเพราะเมือเข้าศตวรรตที่ 20 หลังสมัยควีนวิกตอเรีย มันหมดยุคแล้วที่อังกฤษสามารถจะชนะมหาอำนาจใดๆด้วยตัวคนเดียว ในปี 1901 ตามบันทึกของรัฐมนตรีทหารเรือของอังกฤษ อังกฤษมีเรือรบ 45 ลำ(เข้าใจว่าเป็นพวกเรือหลักๆไม่รวมพวกเรือช่วยรบ) พันธมิตรฝรั่งเศส-รัสเซียมีเรือ 43 ลำและในอีก 5 ปี 2 ฝ่ายจะมีเรือรบ 53 ลำเท่ากัน และหลังจากนั้นพันธมิตร 2 ประเทศก็จะแซงอังกฤษ(เพราะรัสเซียกำลังขยายตัวทางอุตสาหกรรม) และยิ่งในตะวันออกไกล อังกฤษมีเรือรบ 4 ลำ รัสเซียมี 6 ลำ ฝรั่งเศส 1 ลำ แถมถ้ามีเรือรบใหม่รัสเซียพร้อมทีจะส่งมาในตะวันออกไกล อังกฤษส่งมาเพิ่มได้ลำเดียวแถมต้องถ่อมาจากเทะเลเมดิเตอร์เรเนียน จากปัจจัยข้างต้นอังกฤษก็ต้องการพันธมิตรเช่นเดียวกัน ในเอเชียตะวันออกญี่ปุ่นเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ ญี่ปุ่นยังเป็นชาติยากจนอยู่ เรือรบขนาดใหญ่มีเพียงเรือเจนหยวนระวางขับน้ำ 7,000 ตัน  ลำเดียวที่ยึดมาจากจีน ซึ่งซึ่งเปรียบไม่ได้กับรัสเซียที่ส่งเรือรบขนาด 15,000 ตัน มาตะวันออกไกลกี่ลำก็ได้ จึงไม่มีเหตุผลที่อังกฤษจะเป็นพันธมิตรกับชาติยากจนอย่างญี่ปุ่น แต่แนวคิดนี้ต้องเปลี่ยนไปเพราะหลังสงครามจีน-ญี่ปุ่น ญี่ปุ่นได้ขยายนาวิกานุภาพของตนโดยใช้เงินค่าปฏิกรรมสงครามที่ได้จากจีนและเงินบริจาคที่ได้มาจากการเรี่ยไรหลังการแทรกแซงของสามมหาอำนาจ ทำให้ญี่ปุ่นได้เรือรบ มา 6 ลำ เรือลาดตระเวนหุ้มเกราะ 4 ลำ ซึ่งกำลังนี้ถ้ารวมกองทัพเรืออังกฤษพร้อมที่จะสร้างดุลยภาพใหม่ได้ และมีปัจจัยเสริมคือญี่ปุ่นสามารถหาผลประโยชน์จากากรค้าจากจักรวรรดิอังกฤษที่มีอยู่ทั่วโลกได้ , อังกฤษเป็นศูนย์กลางทางการเงินของโลกเวลานั้น พันธบัตรของญี่ปุ่นจะได้รับการประเมินค่าสูงสุดในตลาดอังกฤษ ที่สำคัญอังกฤษสนใจแต่รักษาผลประโยชน์ทางการค้า ไม่สนบูรณาภาพทางดินแดน จากปัจจัยทั้งหมดนี้นำมาสู่การเซ็นสัญญาพันธมิตรอังกฤษ-ญี่ปุ่นในปี 1902 แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 51 16:21:29 แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 51 11:41:03 จากคุณ : ryzon - [ 20 พ.ค. 51 21:38:16 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ต่อครับ ถึงแม้สนธิสัญญาอังกฤษ-ญี่ปุ่นจะไม่สามารถหยุดการขยายตัวของรัสเซียได้ แต่อย่างน้อยก็ช่วยกันมือที่สามไม่ให้เข้ามาวุ่นวายได้เหลือตัวๆ รัสเซีย-ญี่ปุ่น(ก็เหนื่อยอยู่ดี) จาการจับมือกับอังกฤษญี่ปุ่นยังได้ข้อมูลข่าวกรองเพิ่มเติมเพราะอังกฤษในเวลานั้นเป็นศูนย์กลางข่าวกรองของโลกด้วย อย่างตอนก่อนสงครามเกิดไม่นานอังกฤษก็ทราบข่าวว่าชิลีซึ่งสั่งอังกฤษต่อเรือ 2 ลำแต่ยกเลิก รัสเซียสนใจซื้อต่อแทนรัฐบาลอังกฤษจึงนำเงินไปซื้อเอง ขณะเดียวกันก็ให้ญี่ปุ่นไปซื้อเรือรบอิตาลี่ 2 ลำ ซึ่งญี่ปุ่นประสบความสำเร็จในการซื้อแข่งกับรัสเซียที่ได้ข้อมูลช้า เมื่อเรือ 2 ลำนี้ถูกปล่อยลงทะเลก็ถูกกองเรือเมดิเตอร์เรเนียนของรัสเซียติดตามและพร้อมจะจมเรือ 2 ลำนี้ทันทีที่ได้ข่าวสงคราม ก็ถูกอังกฤษแทรกแซงโดยเอาเรือรบไปขวางไว้ นอกจากนี้อังกฤษยังให้สิทธิ์เรือ 2 ลำนี้เติมถ่านหินที่ปอร์ตซาอิตก่อนกองเรือรัสเซีย และปล่อยเข้าสู่มหาสมุทรอินเดียไปก่อน ซึ่งเรือ 2 ลำนี้ก็ได้ไปทันก่อนสงครามเริ่มเล็กน้อย มาดูมูลเหตุปัจจุบันคือเกาหลี เมื่อหลังสงครามจีน-ญี่ปุ่น ญี่ปุ่นได้ทวีอิทธิพลในเกาหลีมากขึ้นได้สัมปทานรถไฟ โซล-ปูซาน พื้นที่รอบเมืองสำคัญโดนญี่ปุ่นกว้านซื้อหมด ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นเข้าไปลงทุนทุกแขนงในเกาหลี เห็นได้ว่เกาหลีเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของญี่ปุ่น แต่เมื่อได้ข่าวว่ารัสเซียก็วางแผนพัฒนาป่าไม้ในลุ่มน้ำยาลู ญี่ปุ่นก็ไม่มีทางเลือกที่จะต้องรบ อันที่จริงพระจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 เคยปรารภว่าถ้า"ถ้าญี่ปุ่นยืนกรานเรื่องเกาหลี รัสเซียก็พร้อมปล่อยมือ และยินยอมให้ครอบครองถึงเขตสัมปทานของรัสเซียในแถบลุ่มแม่น้ำ(แม่น้ำยาลู)" แต่โชคร้ายของทหารและประชาชนทั้ง 2 ฝ่ายที่ญี่ปุ่นไม่ได้ล่วงรู้ความคิดนั้น สงครามจึงเกิดขึ้น... แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 51 09:06:33 จากคุณ : ryzon - [ 20 พ.ค. 51 21:58:41 ]

ความคิดเห็นที่ 79 อีกรูปครับ เป็นรูปโปสเตอร์โฆษณาชวนเชื่อของรัสเซียที่มั่นใจว่ากองเรือรัสเซียเหนือกว่ากองเรือญี่ปุ่น(แล้วเป็นไงละ) ขอตัวนอนก่อนครับวันนี้โดนฝน(พายุวันนี้เต็มที่เลย) และเก็บข้อมูลเพิ่มด้วยครับ จากคุณ : ryzon - [ 20 พ.ค. 51 22:01:48 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ไม่ดีครับ คุณพี่ อย่าว่าขัดคอเลยน้า... แต่หนูหล่อ ว่า แล้วอาจารย์ก็ต้องมา อย่าใจร้อนเลยครับ อาจารย์คงมีเหตุผล... ใช่มั้ยคร้าบบ อาจารย์สื่อคร้าบบบ เดี๋ยวหนูหล่อส่งโอเลี้ยงให้คุณพี่ก่อนละกันนะครับ นะนะ จายเย็งๆน่อ ซือเจ้ จากคุณ : หนูหล่อ - [ 20 พ.ค. 51 22:54:30 A:124.120.227.254 X: TicketID:163925 ]

ความคิดเห็นที่ 81 อ้าว ก็นั่งดูอยู่ข้างเวทีนี่ไง เข้ามาทุกวันแหละครับ อ่านมันส์ดี  มีสีสันสวยงามทั้งรูปภาพและสำนวน แบบนี้เลยขอต่อเวลาเป็นผู้นั่งดูอีกสักพักแล้วกัน เอาไว้หมดเรื่องแล้วค่อยผลัดมือกันก้อได้ ตอนนี้กะว่าจะเขียนเกี่ยวกับหนังสือที่วางขายเป็นเรื่อง ๆ ไป ติดแต่ว่ายังอยู่ในยุคหินเก่า สแกนปกไม่เป็นนะสิ ใครจะพออาสาช่วยหาหนังสือตามที่บอกแล้วสแกนปกประกอบให้หน่อยได้ไหมละ กะจะหามาเล่าพร้อมวิจาร์กันไปทีละเล่ม ๆ เลือกที่น่าสนใจ แต่ให้เรื่องของคุณ  ryzon จบก่อนนะ อย่าไปขัดจังหวะ กำลังสนุกเพลิดเพลินกับรูปประกอบ ชอบสุดก็ยายแก่วิคตอเรียกะไกเซอร์นั่นแหละ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) - [ 21 พ.ค. 51 01:08:23 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ตามอ่านอยู่ด้วย เห็นฝีไม้ลายมือของรุ่นนี้แล้ว ทึ่งใจจริงๆ  เก่งจริง..น้อง(หลานมั๊ง) เอ๋ย.. ชอบการ์ตูนประกอบมาก..ดูไปขำไป  ชอบพระนางซูสีลี้ภัยที่สุด.. เอามาอีกนะ.. ดีใจที่สื่อศิลปจะได้พักผ่อนกะเขามั่ง..เพราะรับภาระมานานหลายปีดีดักแล้ว ไปเมืองไทยคราวนี้ พี่อยากจะถือโอกาสจัดงาน "พบปะชาวยังเติร์ก" หรือจะเป็น"พบปะสื่อศิลป" เลยอยากจะถามความเห็นจากบรรดาแฟนๆว่า มีความเห็นเช่นไร.. และบุคคลที่จะขาดเสียไม่ได้ นั่นคือ คุณหมอ ฮาฮายี ที่หายหน้าไปนานพอสมควร เห็นทีว่าจะต้องไปลากตัวกันถึงในที่ทำงาน.. จากคุณ : WIWANDA - [ 21 พ.ค. 51 05:20:43 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ยังอยู่ครับ ติดตามอยู่แต่ตอนนี้ทำงานเป็นระวิงครับ ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา หมอแผนกผมลาออก/ย้ายไป 5 ท่านแล้ว ตอนนี้เหลือทำงานกันอยู่สองหน่อครับ บางวัน ผอ. ต้องลงมาช่วยตรวจ (สะใจนิดๆ อิ อิ อิ) ได้หยุดงานวันพืชมงคล (วันเดียวกับวัว-ควาย) แต่ไม่ได้หยุดวันกรรมกร หลวงท่านคงเห็นพวกกระผมไม่ใช่กรรมกร อาจารย์ใหญ่ได้พักชาร์จแบตฯ ซักระยะนึงก็ดีครับ แกรับใช้กระทู้นี้มาหลายปีติดๆ กันแล้ว เห็นใจ ให้ไปหาน้ำหวานๆ หยอดหัวใจบ้าง จะได้เต้นเป็นจังหวะหวานแหววไม่ติดขัด รวมญาติกบฏฯ น่าสนุกครับ บอกล่วงหน้าซักนิดไม่มีพลาดแน่นอน แต่ดูจากชื่อแล้วสงสัยสันติบาลไปนั่งเฝ้าแน่ จากคุณ : ha ha yee - [ 21 พ.ค. 51 08:29:53 ]

ความคิดเห็นที่ 84 มาลงชื่อเห็นด้วยกับคุณวิวันดาครับ.... จากคุณ : ryzon - [ 21 พ.ค. 51 09:07:26 ]

ความคิดเห็นที่ 85 เห็นด้วยกะพี่วิเหมือนกันครับ  "พบปะสื่อศิลป"  อิอิ 'จารย์สื่อครับ  ผมมีเครื่องสแกนให้บริการฟรี  แต่จนใจว่าอยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่เล้ย จากคุณ : Dearance - [ 21 พ.ค. 51 12:03:53 ]

ความคิดเห็นที่ 86 หนูหล่อก็เห็นด้วยกะคุณพี่วิวันดาครับ แต่กลัวจะไม่มีใครอยากเจอตัวป่วนน่ะสิคร้าบ (แบบว่ารู้ตัวน่ะครับ) จากคุณ : หนูหล่อ - [ 21 พ.ค. 51 16:57:31 A:124.120.227.156 X: TicketID:163925 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ทำบุญด้วยอะไรคะ มีแต่คนสงสาร เห็นใจ จากคุณ : Gasalong - [ 21 พ.ค. 51 20:59:24 ]

ความคิดเห็นที่ 88 "ไปเมืองไทยคราวนี้ พี่อยากจะ....." แค่นี้นกก็พยักหน้าด้วยแล้วค่ะพี่หวาน มาเมื่อไหร่ อยากจะอะไร ก็โอเคหมดเลยค่ะ อาจารย์สื่อที่รัก ที่บ้านมีเครื่องสแกนอยู่ 2 เครื่อง ทำให้ได้อยู่แล้วค่ะ ส่วนหนังสือ... ก็เอามาเองจิ้ (ช่วยถือฉมวกเฝ้าให้ด้วยนะ ) จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 21 พ.ค. 51 22:48:40 ]

ความคิดเห็นที่ 89 สวัสดีค่ะ คุณWIWANDA คุณสื่อศิลป และสมาชิกทุกท่าน แอบเข้ามาอ่าน เท่าที่โอกาสจะอำนวย แต่ตอนนี้มีเวลาที่จะเข้ามาอ่านมากขึ้น เพราะไม่ต้องทำหน้าคนขับรถรับส่ง เจ้านายแล้ว คงไม่ว่ากันนะค่ะ จากคุณ : ขมนหัวผักกาด (ขนมหัวผักกาด) - [ 22 พ.ค. 51 17:14:23 ]

ความคิดเห็นที่ 90 มาลงชื่อสนับสนุนงานปาร์ตี้ด้วยคนคร้าบบบบบบ จากคุณ : saravuht (BrettAnderson) - [ 22 พ.ค. 51 22:08:25 ]

ความคิดเห็นที่ 91 โอ้วววว คุณริวซู้ดยอดดดดดดดดด จากคุณ : saravuht (BrettAnderson) - [ 23 พ.ค. 51 07:47:29 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ตอนนี้พออู้งานได้บ้างมาลงต่อให้ครับ แต่อาจจะไม่ดีเพราะข้อมูลที่มีเอาแผนที่ไปดูก่อนละกันครับ สมรภูมิในสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น จากคุณ : ryzon - [ 23 พ.ค. 51 11:02:57 ]

ความคิดเห็นที่ 93 จะใช้ชื่องานว่ามาเจอผมทำไมละครับ ผมก็อยากเป็นแขกไปเจอคนอื่นเหมือนกันนี่นา เอาเป็นชื่อกระทู้นะดีแล้ว เป็นชื่อผมแล้วอดนึกภาพประมาณว่า ไปเป็นรูปปั้นยืนหัวโด่ในงานอะไรประมาณนั้น ส่วนตุณหมอฮานิบัล ถ้าไม่ว่างก็ไม่ต้องห่วง ผมอาสาเป็นผู้ช่วยไปฉุดมาให้ ตัวหมอนะใครจะฉุดก็เอาไปเหอะ แต่คนไข้นะ เดี๋วผมขอทำหน้าที่ "ยึด"ไว้เองแล้วกัน มือหมอจะได้ว่าง ๆ มายกแก้วได้ ขอบคุณในน้ำใจเรื่องสแกนครับ ที่บ้านเคยมีอยู่เครื่องนึงเหมือนกัน แต่ความสามารถสั้น ใช้ไม่เป็นสักที ทั้ง ๆ ที่ไอ้น้องที่มันช่วยยกมาให้จากที่ทำงาน มันบอกว่า ถ้าพี่หายใจเป็น พี่ก็ใช้เป็น เชื่อเหอะ ก็เลยรู้ตัวว่า เรามันหายใจไม่ค่อยคล่องก็วันนี้แหละ หาหมอเจอแล้ว อย่าลืม ป๋า ช.ช.อีกคนละ ไม่รู้ตอนนี้กำลังปวดหัวเรื่องน้ำมันปาล์มเสร็จหรือยัง จะโทร.ไปหากเกรงใจ กลัวกำลังปีนต้นปาล์มอยู่ ใครได้ข่าว ป๋า ก็ช่วยส่งเสียงบ้างนะครับ ส่วนเรื่องกระทู้ฝากคุณ Ryzon ลุยโลดเลย เดี๋ยวช่วยเชียร์อยู่แล้ว ยิ่งยุทธนาวีระหว่างญี่ปุ่นกับรัสเซีย เหตุการณ์เปลี่ยนประวัติศาสตร์โลกครั้งสำคัญ ทำรัสเซียหมอง กะญี่ปุ่นผยองขึ้นมาแทน จริง ๆ มันมีปัจจัยอื่นซ่อนอยู่ในยุทธนาวีนี้เยอะ อย่าลืมเอารูปการจัดกระบวนเรือขณะทำยุทธนาวีมาลงด้วยนะครับ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) - [ 23 พ.ค. 51 13:52:34 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ต่อนะครับ ญี่ปุ่นประกาศสงครามกับรัสเซียวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 1904 เริ่มเปิดฉากโดยกองทัพเรือญี่ปุ่นเข้าโจมตีกองทัพเรือรัสเซียที่ปอร์ต อาเธอร์ และวางทุ่นระเบิดไว้รอบท่าเรือเพื่อกักเรือรบรัสเซียไว้ ส่วนกองทัพบกญี่ปุ่นจำนวน 300,000 คนยกพลขึ้นบกที่อินซอนในเกาหลีเพื่อรุกเข้าสู่แมนจูเรียและคาบสมุทรเหลียวตงในจีน เพื่อยึดปอร์ตอาเธอร์ มีการรบรุนแรง 4 แห่งที่สมรภูมิ เลียวหยาง , ชาโฮ , เฮ-กู-ไฮ และ มุกเด็น  โดยผลของการรบที่สมรภูมิมุกเด็น ขับกองทัพรัสเซียให้ถอยไปอยู่ในแมนจูเรียตอนบน ส่วนกองทัพเรือแปซิฟิคของรัสเซียที่ปอร์ตอาเธอร์ก็ย่อยยับเช่นเดียวกัน ต้องหนีไปเมืองวลาดิวอสต็อกอันเป็นเมืองท่าที่เหลืออยู่แห่งเดียวของรัสเซีย การรบช่วงแรกญี่ปุ่นได้เปรียบมากเพราะอยู่ห่างจากสมรภูมิเพียง 200-300 ไมล์ ส่วนรัสเซียอยู่ห่างถึง 5,000 ไมล์ เมื่อสถานการณ์เสียเปรียบเช่นนี้ เดือนตุลาคม 1904 พระเจ้าซาร์จึงมีบัญชาให้กองทัพเรือบอลติก เคลื่อนกำลังไปช่วยกองทัพเรือแปซิฟิคของรัสเซียที่โดนกักอยู่(โดยคำแนะนำของพระเจ้าไกเซอร์แห่งเยอรมัน) การเดินทางอ้อมโลกจึงเริ่มขึ้น พร้อมเร่งเสริมกำลังทางบก การรบเป็นไปอย่างอืดอาด เดือนพฤษภาคม 1905 กองทัพเรือบอลติกของรัสเซียมาถึงสมรภูมิ และโดนกองเรือญี่ปุ่นยิงจมเกือบหมด การพ่ายแพ้ครั้งนี้ทำให้สงครามปิดฉากลงทันที เพราะ.... ฝ่ายรัสเซีย แน่นอนว่าการสูญเสียครั้งมโหฬารนี้ ทำให้การเมืองวุ่นวายทันทีจนไม่มีเวลามาสนใจญี่ปุ่นแล้ว ส่วนฝ่ายญี่ปุ่นถึงกองทัพเรือได้รับชัยชนะ แต่ผู้ที่ชี้ขาดคือกองทัพบก จริงอยู่กองทัพญี่ปุ่นขับกองทัพรัสเซียขึ้นเหนือกลับชายแดนรัสเซียได้ ทำให้ทหารญี่ปุ่นต้องกระจายกำลังมากขึ้น เรียกว่าก่อนสงบศึกญี่ปุ่นเหลือทหารที่อยู่ในแนวหน้าประมาณ 250,000 คน ส่วนฝ่ายรัสเซียถึงเอาแต่ถอยแต่ได้รับการส่งบำรุงเรื่อยๆจนมีทหารในแนวหน้าถึง 350,000 คน พร้อมที่จะโต้กลับ แต่ในรัสเซียเกิดความวุ่นวายก่อน ขณะที่ฝ่ายทหารญี่ปุ่นร้องหาสันติภาพ จึงมีการเจรจาสงบศึกตามสัญญาปอร์สมัธ ส่วนที่เกี่ยวกับเกาหลีคือ รัสเซียและมหาอำนาจอื่นๆยอมรับว่าญี่ปุ่นเป็นผู้ที่มีอิทธิพลสูงสุดในเกาหลี พร้อมกันนี้รัสเซียได้โอนเขตเช่าในเหลียวตุงให้ญี่ปุ่น เกาหลีจึงตกอยู่ภายใต้อำนาจของญี่ปุ่นตั้งแต่นั้น คืนนี้มาเพิ่มเติมให้ครับ จากคุณ : ryzon - [ 23 พ.ค. 51 14:21:54 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ข้อมูลเพิ่มเติมสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่นขอเป็นคืนนี้นะครับ ตอนนี้อยู่ไกลข้อมูลครับ รูปการ์ตูนล้อที่เรือของมหาอำนาจอย่างรัสเซีย(แทนด้วยเรือขนาดใหญ่) โดนตอปิโดญี่ปุ่นยิงพรุน จากคุณ : ryzon - [ 23 พ.ค. 51 14:45:51 ]

ความคิดเห็นที่ 96 การ์ตูนล้อว่าญี่ปุ่นมีพันธมิตรในสงครามเช่นทุ่นระเบิดของรัสเซียเองที่วางไว้รอบปอร์ตอาเธอร์ (แล้ววิ่งชนเอง) ความหนาวเย็นที่ทำให้ทหารรัสเซียตายไปหลายพันคน ขอเป็นคืนพรุ่งนี้มาต่อนะครับ คืนนี้ฉลองกันหนักไปหน่อย มองไม่เห็นแป้นคีย์แล้วครับ แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 51 22:28:10 จากคุณ : ryzon - [ 23 พ.ค. 51 14:59:12 ]

ความคิดเห็นที่ 97 เห็นชื่อคุณขนมหัวผักกาดแล้ว  รู้สึกหิวขึ้นมาทันทีเลยค่ะ ยินดีด้วยค่ะ   ที่คุณขนมฯมีเวลามาร่วมเดินทางไกลกันกับพวกเราโดยไม่มีรั้วลวดหนามมาขวางกั้นอีกแล้ว   ว่าแต่ตอนนี้ ไม่ทราบว่า ถึงหลักไมล์ที่เท่าไหร่แล้วคะ?? คุณแป๋งรีบเรียนให้จบเร็วๆนะคะ  พี่วิจะกลับมาเมืองไทยประมาณต้นปีค่ะ น้องริวอย่าฉลองหนักนะคะ  ยังไม่ถึงสิ้นเดือนเลยค่ะ   เอาไว้ศุกร์หน้าดีกว่านะคะ  จะได้สว่างคาตา แต่ขับรถระวังนะคะ หลังตีหนึ่งเป็นต้นไป  ตำรวจตั้งด่านตวจคนดื่มแล้วขับค่ะ   พี่วิตั้งชื่องานไว้ถูกต้องแล้วค่ะ   เพราะใครๆเขาก็อยาก "พบปะสื่อศิลป" กันทั้งนั้นแหละค่ะ และเพื่อให้ไม่ต้องทายกันให้ปวดหัว  หนูขอเสนอความเห็นว่า   ให้ผู้ที่ต้องนั่งหัวโต๊ะ  แต่งตัวเป็น อเล็กซานเดอร์ เดอะเกรท  ดีไหมคะ   ใครเข้ามาจะได้ไม่ทักผิดคน จากคุณ : Gasalong - [ 24 พ.ค. 51 09:03:07 ]

ความคิดเห็นที่ 98 อเล็กซานเดอร์ แกเป็นเกย์นะครับ ส่วนผม  ยังมั่นใจว่าห่างไกล เอาว่าขอละไว้แล้วกัน เห็นภาพเรือรัสเซียโดนญี่ปุ่นถล่มแล้ว นึกถึงภาพก่อนหน้านี้ที่ทำเป็นมีนักมวยโผล่ออกมาจากหัวเรือรัสเซีย จ้วงเอา จ้วงเอา คนวาดการ์ตูน พอเห็นผลการรบ คงหน้าม้านไปเลยนะ การ์ตูนช่วงนั้นนี่มันส์จริง ๆ คนเขียนเก่งที่จะเอาประเด็นการเมืองระดับโลกร้อน ๆ มาเปลี่ยนเป็นแก๊กขำ ๆ ได้ดีจริง ๆ ก็จะมาเจอผมทำไมละครับ เดี๋ยวดูคุณ ryzon แสดงฝีมืออีกพักสิ คนจะอยากแห่ไปดูยิ่งกว่า ช่วง ช่วง บวก หลิยฮุ่ย อีก จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) - [ 24 พ.ค. 51 13:38:47 ]

ความคิดเห็นที่ 99 คุณสื่อขา ได้หนังสือเล่มใหม่มาเล่มนึงค่ะ   เพิ่งได้มาวันนี้เอง สดๆ ร้อนๆ    เพิ่งอ่านแค่บทนำ  ยังไม่ได้อ่านเนื้อหาภายใน   แต่จากที่เปิดผ่านๆตาน่าสนใจทีเดียวค่ะ ลองใส่แว่นตาของชาว "อรับ" มองดู สงครามครูเสดบ้างดีไหมคะ ว่าพวกเขามองเห็นอะไรจากสงครามบ้าง จากคุณ : Gasalong - [ 25 พ.ค. 51 01:02:04 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ให้แต่งเป็นอเล็กซานเดอร์ก็ถูกต้องแล้วนี่คะ เก่งกาจออกขนาดนั้น  แต่ยังสับสนในเพศของตัวเอง ส่วนน้องริว  เขาไม่ได้เป็นสัตว์ประหลาดซักหน่อย ทำไมใครๆต้องอยากไปมุงดูเขาด้วยละคะ ที่ว่าใครๆเขาอยาก"เจอ"คุณสื่อศิลป  ไม่ใช่ว่า อยากไป"ดู"คณสื่อศิลปนะคะ เพราะไม่รู้จะไปดูทำไม   แต่เขาคงอยากเจอตัวจริง เสียงจริง  แบบลูบๆคลำๆได้ค่ะ อย่าคิดว่าทุกวันนี้ตัวเองเล่นละครสัตว์สิคะ  ที่ใครๆเข้ามาดูเพราะความแปลกประหลาด   แต่ที่คนเขาเข้ามาทัศนาวิสาสะ   เป็นเพราะเขาอยากเข้ามาแลกปลี่ยนทัศนะกับคุณในฐานะที่คุณเปรียบเสมือนพหูสูตรในเรื่องอิงประวัติศาตร์ที่พวกเราสนใจเหมือนกัน แต่ถ้ามีใครสักคนเขาสนใจที่ค้นหาตรรกของการบังเกิดผลลัพธ์แห่งความเป็นไปได้อย่างใดอย่างหนึ่ง   เขาคงไม่มานั่งถามคุณหรอกนะคะว่าระหว่างนกแร้งกับมนุษย์เดินดินธรรมดา  สิ่งใดคลื่อนที่จากจุดหนึ่ง ไปยังอีกจุดหนึ่ง ได้เร็วกว่ากัน เพราะเขารู้ว่า คุณคงไม่อยากตอบ  เพราะมันมันตรรกวิทยาศาตร์ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ถ้าเป็นคำถามที่เป็น "ศาตร์อ่อน"  อย่างเช่นว่าหลังม่านไม้ใผ่ในช่วงที่มังกรกำลังจะถูกขอดเกล็ดนั้น  แท้จริงแล้วเป็นความอ่อนแอทางด้านการเมือง  หรือเป็นผลแห่งวัฒนธรรมตะวันออกกันแน่ ทุกวันนี้โลกเรียนรู้แล้วว่า   การเรียนรู้ "ศาตร์ "   ต้องเป็นของตะวันตก   แต่การเรียนรู้ "จริยศาตร์"  ควรเป็นของตะวันออก ไม่ทราบท่านอื่นห็นว่าอย่างไรคะ จากคุณ : Gasalong - [ 25 พ.ค. 51 01:30:35 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ดูคนแก่หยอกกันน่ารักจริงๆ เฮ้อ....... สังขารไม่เที่ยงวันดีคืนดีอาจารย์สื่อฯกับจับข้าพเจ้าไปเปรียบเป็นแพนด้าซะแล้ว(ถึงแม้ถ้าพี่ที่ทำงานบอกว่าถ้านอนดึกขอบตาคล้ำซะหน่อยก็เหมือนเลยก็ตาม) ต่อนะครับมาลองดูมูลเหตุว่าทำไม พี่ยุ่นของเราที่อยู่ในรุ่นไลท์เวจอยู่ดีๆถึงกล้าไปท้าต่อยท้าตีกับญาหมีขาวที่อยู่ในรุ่นเฮฟวี่เวจได้ ต้องตอบว่าญี่ปุ่นทำการบ้านมาดีครับ คิดว่าตัวเองได้เปรียบดังนี้ 1.ความวุ่นวายในรัสเซียเองขอกลุ่มปฎิวัติที่ต้องการให้พระเจ้าซาร์สละอำนาจ ซึ่งพระเจ้าซาร์โนโคลัสที่ 2 ต้องรับมรดกนโยบายความเข้มงวดกับพวกเรียกร้องประชาธิปไตยต่อจากพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 3 (ซึ่งพระองค์เข้มงวดเพราะพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 โดนระเบิดจากพวกหัวรุนแรง ) ญี่ปุ่นจึงเดินเกมการเมืองแอบสนับสนุนพวกนี้ 2. ญี่ปุ่นประเมินว่ารัสเซียไม่สามารถระดมพลมาแมนจูเรียได้เต็มที่ ข้างล่างเป็นข้อมูลประกอบครับ State   Entry   Exit    Combat Forces        Population        Losses Japan   1904  1905      400,000              45,000,000         85,000 Russia  1904  1905     2,000,000            136,000,000      125,000 กองทัพรัสเซียนั้นใหญ่โตมากนโปเลียนถึงกับเคยกล่าวว่า ถ้าโลกนี้ไม่เป็นเสรีนิยมทั้งหมด(อังกฤษ) ก็เป็นของคอสแซค(รัสเซีย)ทั้งหมด ซึ่งตรงนี้ก็เกินความจริงไปนิดจริงอยู่รัสเซียมีกองทหารขนาดใหญ่ถึง 2 ล้านคน แต่ก็เป็นกองทัพที่เกณฑ์มาจากทาสติดที่ดิน(เหมือนไพร่หลวง ไพร่สมของบ้านเรานะครับ) ถ้าเอาเชิงปริมาณเข้าสู้ เจอคู่ต่อสู่อย่างออสเตรีย ,จักรวรรดิออตโตมัน หรือจีนก็พอไว้ แต่พอเจอกองทัพที่ทันสมัยอย่างกองทัพอังกฤษหรือฝรั่งเศสก็จอดไม่ต้องแจว ถึงขนาดซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 ยังเคยกล่าวเลยว่า"จะเอากองทัพทาสไปสู้กับกองทัพเสรีชนได้อย่างไร") และในสถานการณ์ตอนนั้นรัสเซียพึ่งเข้าแทรกแซงบอลข่าน เยอรมันทำตัวไม่ค่อยเป็นมิตร  ไหนจะอังกฤษเข้าแทรกแซงในอัฟกายิสถานและเปอร์เซียอีก ยังไม่รวมศัตรูเก่าตลอกกาลอย่างจักรวรรดิออตโตมัน มีเรื่องต้องใช้ทหารเยอะทำให้ญี่ปุ่นมั่นใจว่ารัสเซียไม่สามารถส่งกองทัพขนาดใหญ่มาตะวันออกไกลได้(แต่กระนั้นก็ยังส่งมาได้ตั้งหลหายแสนคน) ... ยาวแล้วเหลืออีกหลายข้อเดี๋ยวมาต่อครับ รูปล่างทหารรัสเซียที่ประจำการใตตะวันออกไกลครับ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 51 09:35:33 จากคุณ : ryzon - [ 25 พ.ค. 51 09:30:48 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ต่อครับ 3. ส่วนกองทัพเรือ ถ้าในแปซิฟิคยังไงญี่ปุ่นยังมีเรือเยอะกว่ารัสเซีย                                                                                                    ญี่ปุ่น                           รัสเซีย(กองเรือแปซิฟิค)                                                    ปอร์ตอาเธอร์    วลาดิวอสต๊อก    อื่น ๆ เรือประจัญบาน                    6              7                    -                   - เรือลาดตระเวนหนัก              6              1                    3                   - เรือลาดตระเวน                   12             4                    1                   2 เรือพิฆาต                          22            21                    -                   - เรือตอร์ปิโด                       28            7                    15                  - (ข้อมูลจากบทความของนาวาเอก สุริยะ พรสุระ) ถ้ารัสเซียจะเอาเรือมาเพิ่มก็ต้องเดินทางอ้อมโลกถึง 18,000 ไมล์ ซึ่งกว่ากองเรือจะมาถึง ญี่ปุ่นก็ได้เปรียบแล้ว ถึงเรือเดินทางมาจริงระหว่างทางที่ผ่านมามีแต่เมืองขึ้นของอังกฤษที่เป็ฯพันธมิตรของญี่ปุ่น การส่งเสบียงการซ่อมบำรุงคงทำได้ไม่เต็มที่ และที่สำคัญกองเรือแปซิฟิคของรัสเซียเองถูกแบ่งเป็น 2 ส่วนขาดจากกันตามเมืองท่าคือที่ปอร์ตอาเธอร์และวลาดิวสต็อก ซึ่งญี่ปุ่นสามารถทุ่มกำลังทำลายทีละส่วนได้ เพื่อเป็นหลักประกันความปลอดภัยในการส่งบำรุงให้กองทัพเกาหลีและแมนจูเรีย 4. การเป็นพันธมิตรกับอังกฤษสามารถแก้ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการทำสงครามได้เพราะพันธบัตรญี่ปุ่นจะถูกประเมินค่าให้สูงที่สุดในตลาดอังกฤษซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินของโลกในเวลานั้น นอกจากนี้ยังใช้เครดิตการเป็นมิตรกับอังกฤษสร้างความชอบธรรมให้ตนเองได้(ก็อังกฤษในเวลานั้นเป็นตำรวจโลกนิ อย่างข้างเดียวกันก็ต้องเป็นฝ่ายถูกเหมือนกันใช่ไหม)และยังวางแผนขอให้สหรัฐฯเข้าไกล่เกลี่ย ตอนที่ญี่ปุ่นได้เปรียบได้ จากข้อมูลข้างต้นเห็นว่า ญี่ปุ่นเตรียมพร้อมในทุกด้านทั้งทางทหารและการเมืองโดยเน้นการเมืองนำ  ซึ่งจะไม่เห็นในสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่ 2 และสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงเป็นเหตุให้ญี่ปุ่นต้องปราฃชัยในสงครามโลกครั้งที่ 2 ภาพการเดินทางอ้อมโลกของกองเรือบอลติกของรัสเซีย แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 51 21:37:26 แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 51 10:00:52 จากคุณ : ryzon - [ 25 พ.ค. 51 09:41:27 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ที่อาจารย์สื่อเอาน้องริวไปเปรียบเทียบกับหมีแพนด้านั้น     คงไม่ได้หมายถึงแค่ขอบตามั้งค่ะ แต่พี่ว่าคงหมายถึงน้ำหนักที่อยู่ในพิกัดเดียวกันด้วยค่ะ ถ้าเป็นนักมวย  ก็เรียกว่ารุ่นซุปเปอร์ เฮฟวี่เวทไง เห็นทีพี่ต้องหากรง  เอ้ย   หาเวทีที่แข็งๆๆ ให้น้องริวขึ้นไปปรากฏโฉมสักหน่อย เอาแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก  ปักเสาเข็มยาวสัก 22 เมตร  จะพอไหมหนอ??? จากคุณ : Gasalong - [ 25 พ.ค. 51 09:48:48 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ................... พี่สาวทักอย่างนี้พูดไม่ออกครับ ไว้เจอจะล้มทับซะเลย(ฮา-ตึง-โปะ) เมื่อกี้ชำเลืองดูความเห็นของพี่สาวข้างบอธิบายแนวคิดตะวันตกและตะวันออกได้ง่ายๆว่า ถ้าเรามีบ้านหลังหนึ่งจะป้องกันขโมยขโจร ตามแนวคิดตะวันตกเราคงขุดคูน้ำรอบบ้าน ตั้งกำแพงสูง ปล่อมหมาติด กล้องวงจรปิด ล็อกบ้านอย่างดี เอาของมีค่าใส่เซฟ ขโมยคงขยาดหรือขี้เกียจคงไม่เข้ามาขโมย แต่ถ้าเป็นแนวคิดตะวันออก ที่ประตูอ่าจจะติดกระดาษแผ่นเดียวแล้วเขียนให้ขโมยว่า"คุณคิดดีแล้วหรือที่จะทำ" เป็นการล็อกกุญแจภายในจิตใจคน ผิดถูกยังไกไม่รู้ เรื่องขอดเกล็ดมังกร คงต้องรอาจารย์สื่อมาละครับ จากคุณ : ryzon - [ 25 พ.ค. 51 10:10:54 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ส่วนความล้มเหลวของรัสเซียคงอยู่ที่การประเมินคู่ต่อสู้อย่างญี่ปุ่นต่ำเกินไป  พระเจ้าซาร์ทรงเชื่อคำแนะนำฝ่ายทหารที่ประเมินว่าญี่ปุ่นคงไม่กล้ารบกับรัสเซีย ถ้าสมมติว่าเกิดรบกันจริง รัสเซียก็คงขยี้ได้ง่ายๆเพราะขนาดยังไม่เริ่มทำสงคราม ทั้ง 2 ฝ่ายยังมีกำลังพลไล่เลี่ยกัน(ญี่ปุ่น 350,000 คน รัสเซีย 300,000 คน)      แต่เมื่อรบกันจริงๆ ทหารญี่ปุ่นรบอย่างถวายชีวิตในทุกสมรภูมิ ทำให้ความเสียหายของกองทัพรัสเซียเกินกว่าที่คาดกาณ์ไว้  รัสเซียจึงเริ่มหันกลับมาใช้ยุทธศาสตร์ดั้งเดิมของรัสเซีย  คือ ถอยล่อให้ศัตรูเข้ามา ซึ่งก่อนสงครามยุติบรรดานายพลของพระเจ้าซาร์ทูลว่ากองทัพรัสเซียพร้อมที่จะตีโต้แล้ว  หลังการรบมุกเด็น รัสเซียมีทหารอยู่ในแมนจูเรียตอนบนประมาณ 350,000 คน พรั่งพร้อมทั้งยุทธปัจจัยทั้งหลาย และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามขบวนเที่ยวของ ขบวนรถไฟสายทราน-ไซบีเรีย ขอเพียงกองทัพเรือบอลติกสามารถถล่มกองเรือญี่ปุ่นลงไปนอนก้นทะเลให้หมดและตัดทางลำเลียงจากญี่ปุ่นได้ กองทัพรัสเซียก็พร้อมจะกวาดกองทัพญี่ปุ่นให้หายไปจากแมนจูเรียได้ ขณะที่ญี่ปุ่นหลังการรบที่มุกเด็น ญี่ปุนเหลือทหารในแนวหน้าเพียง 250,000 คน กำลังเพิ่มเติมแทบจะไม่มีแล้ว กระสุนดินดำใช้ไปจนเกือบหมดสิ้น ถ้าตามแผนที่วางไว้แต่ต้นญี่ปุ่นต้องใช้วิธีทางการเมืองแล้ว แต่รัสเซียยังไม่ยอมแพ้จะทำอย่างไรดี โชคดีที่กองทัพเรือของญี่ปุ่นเอาชนะกองทัพเรือบอลติกของรัสเซียที่ช่องแคบซิชิมาได้และการสูยเสียครั้งมโหฬารนี้ทำให้พระเจ้าซาร์อ่อนแอลงจนต้องยอมอ่อนจ้อให้กับฝ่ายปฏิวัติเปิดสภาดูมาขึ้น สถานการณ์เลยอำนวยให้สหรัฐฯเข้าแทรกแซงไกล่เกลี่ยทั้ง 2 ฝ่ายได้ นำไปสู่การทำสนธิสัญญาปอร์ตสมัธ ข้างล่างเป็นรูปการจัดขบวนเรือรบของรัสเซียครับ แต่ผมความรู้น้อยเลยอธิบายไม่ถูก ต้องวอนอาจารย์สื่อหรือสมาชิกท่านอื่นมาชี้แจงแถลงไขละครับ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 51 11:21:13 จากคุณ : ryzon - [ 25 พ.ค. 51 10:34:30 ]

ความคิดเห็นที่ 106 อีกรูป จากคุณ : ryzon - [ 25 พ.ค. 51 10:35:06 ]

ความคิดเห็นที่ 107 อีกรูปครับ จากคุณ : ryzon - [ 25 พ.ค. 51 10:36:26 ]

ความคิดเห็นที่ 108 สุดท้าย จากคุณ : ryzon - [ 25 พ.ค. 51 10:36:51 ]

ความคิดเห็นที่ 109 รูปทหารรัสเซียตอนเข้าสู่สงครามครับ จากคุณ : ryzon - [ 25 พ.ค. 51 10:38:57 ]

ความคิดเห็นที่ 110 เชลยศึกญี่ปุ่นที่รัสเซียจับได้ เห็นได้ว่าได้รับการดูแลดีพอใช้ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 51 21:27:24 จากคุณ : ryzon - [ 25 พ.ค. 51 10:40:15 ]

ความคิดเห็นที่ 111 รูปทหารรัสเซีย จากคุณ : ryzon - [ 25 พ.ค. 51 10:41:56 ]

ความคิดเห็นที่ 112 เชลยศึกรัสเซียที่ญี่ปุ่นจับได้ จากคุณ : ryzon - [ 25 พ.ค. 51 10:43:42 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ทหารม้ารัสเซียในแมนจูเรีย จากคุณ : ryzon - [ 25 พ.ค. 51 10:44:22 ]

ความคิดเห็นที่ 114 การสร้างรางในทะเลสาบไบคาล จากคุณ : ryzon - [ 25 พ.ค. 51 10:45:38 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ภาพทหารคอสแซคขณะเข้าโจมตีทหารญี่ปุ่น จากคุณ : ryzon - [ 25 พ.ค. 51 10:47:18 ]

ความคิดเห็นที่ 116 Manchuria October 30th 1904. Russo-Japanese War. The Chinese Army led by Marshall Ma march into Manchuria เหมือนภาพบอกว่านายพลจีนเฃ้านำทัพไปในแมนจูเรียตอนเกิดสงคราม (ไม่รู้เข้าไปทำไม) จากคุณ : ryzon - [ 25 พ.ค. 51 10:52:47 ]

ความคิดเห็นที่ 117 Russian poster showing Russian victory during a naval battle in the Russo-Japanese war 1904 - 1905 รูปโปสเตอร์ของรัสเซียที่มั่นใจว่ากองเรือของตนชนะชขัวร์(แล้วเป็นไงละ) จากคุณ : ryzon - [ 25 พ.ค. 51 10:59:50 ]

ความคิดเห็นที่ 118 สุดท้ายก่อนแปะเยอะแล้ว รูปนาวิกโยธินของญี่ปุ่นบนเรือมิซากะ Japanese marines drilling on board the warship 'Mikasa', Russo-Japanese War, 1904-5. Credit: Ann Ronan Picture Library / HIP / TopFoto จากคุณ : ryzon - [ 25 พ.ค. 51 11:02:13 ]

ความคิดเห็นที่ 119 Admiral Togo, victor of the Battle of the Sea of Japan, visiting the defeated Russian Admiral Rozhestvensky in hospital. Russo-Japanese War, จากคุณ : ryzon - [ 25 พ.ค. 51 11:08:59 ]

ความคิดเห็นที่ 120 Russo-Japanese War. In the background is the Battle of Tsushima ภาพการ์ตูนล้อว่าใครอยู่เบี้องหลังยุทธนาวีที่ซิชิมา(ดูหมวกก็น่าจะรู้) จากคุณ : ryzon - [ 25 พ.ค. 51 11:14:11 ]

ความคิดเห็นที่ 121 สุดท้ายจริงๆแล้ว เดี๋ยวกระทู้รก At Portsmouth, New Hampshire in 1905, Roosevelt ended the Russo-Japanese war, after letting Japan grab Korea. จากคุณ : ryzon - [ 25 พ.ค. 51 11:18:25 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ปลาไหลยังไม่กล้าจับ จะให้ไปนั่งขอดเกล็ดมังกร ถ้ามันยังไม่ตายสนิทจะทำไงละ เร่องรูปไม่ต้องกลัวเลอะครับ แปะเยอะ ๆ ได้เห็นอารมณ์ ความรู้สึกของคนสมัยนั้น มันทำให้เข้าใจเหตุผลของการทำสงครามดี ประวัติศาสตร์บอกเราว่า ทุกครั้งที่จะมีการทำสงคราม คู่สงคราม มักจะเชื่อมั่นว่าตัวเองจะชนะอย่างสบาย ๆ ทำให้สงครามที่เลวร้ายหลายหนเกิดขึ้นบนโลกนี้ ดูช่วงใกล้ ๆ อย่างสงครามกลางเมืองในสหรัฐฯ จากหนังเรื่อง "ลอยหายไปกับสายลม" จะมีฉากต้นเรื่อง ที่เกี่ยวกับคนในฝ่ายใต้ที่ "กระเหี้ยนกระหือรือ" จะเข้าร่วมสงคราม ถึงขั้นกลัวว่าจะสมัครไปรบไม่ทันที่สงครามจะจบเสียก่อน แล้วเป็นไง ตอนสงครามโลกครั้งที่ 1 ก็เช่นกัน คนหนุ่มอังกฤษ เกรงจะไม่ทันได้เห็นสงคราม รีบสมัครกันยกใหญ่ ด้วยอารมณ์ประมาณ "อัศวินหนุ่มคะนองศึก" สุดท้ายสงครามโลกครั้งที่ 1 ก็ถูกจารึกไว้ว่า เป็นสงครามที่พรากคนหนุ่มในยุโรปไปจนแทบสิ้น สังคมทั้งของฝ่ายแพ้และชนะ ต่างเหลือแต่ความสิ้นหวัง ครอบครัวนับล้าน ๆ ต้องสิ้นทายาทสืบตระกูล (ลองหาเรื่องชู้รัก เลดี้ แชตเตอร์เลย์ นิยาวคลาสสิกมาดูสิครับ   หาเวอร์ชั่นที่มันของแท้นะ) สงครามเวียดนาม เคเนดี้ ในช่วงแรก ก็ปลุกระดมคนหนุ่มอเมริกัน ให้เดินออกจากรั้วมหาวิทยาลัย ไปแสวงหาความรู้ในแนวทางปืนแทน แล้วเป็นไง หรือไม่ต้องเอาห่างไกล กระทั่งสงครามระหว่างไทยกับลาวที่ร่วมเกล้า ใช่หรือไม่ ที่คนไทยรู้สึกผยอง ว่ากำลังได้เคี้ยวหมู บางคนฝันไปไกลว่าจะได้ "ข้ามโขง" แต่แล้วเราก็ต้องเผชิญความจริงที่ว่า นอกจากทหารจะต้องบาดเจ็บล้มตายไปอย่างหนักแล้ว ความเชื่อมั่นในศักยภาพของกองทัพไทยยังคลอนแคลนอีกด้วย กับข้อเท็จจริงที่ว่า เรายิงปืนใหญ่จนลูกกระสุนหมด แล้วหาซื้อมาทดแทนไม่ทัน จนเป็นที่มาของแนวคิดที่จะตั้ง คลังอาวุธสำรอง ขึ้นในไทย แต่ถูกต่อต้าน และเสนอแนวคิดใหม่ที่จะอยู่กับเพื่อนบ้านอย่างสันติแทน ตอนนี้ พวกเรา ก็ได้ "ข้ามโขง" กันอย่างที่ฝันกันแล้ว ส่วนข้ามไปแล้ว ใครจะยิงปืนเล็ก ปืนใหญ่ ก็ว่ากันตามถนัดครับ ระวัง "กระสุนหมด" ก็แล้วกัน จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) - [ 25 พ.ค. 51 12:09:32 ]

ความคิดเห็นที่ 123 เรื่องกองเรือมันประมาณนี้ครับ กองเรือของรัสเซียนั้น ต้องเดินทางอ้อมโลก เพื่อมาเจอกองเรือญี่ปุ่น แล้วสมัยนั้น มันไม่ได้เดินด้วยพลังนิวเคลียร์แบบตอนนี้ มันใช้ถ่านหินเป็นเชือเพลิง เรือที่ต้องเดินไกล ๆ จำเป็นต้องแวะเมืองท่าเพื่อเติมถ่านหิน ทีนี้อย่างที่รู้กันว่า เมื่อร้อยปีก่อน เมืองท่าทั่วโลกอยู่ในมือจักวรรดิอังกฤษ กองเรือหลวงของรัสเซีย เลยเกิดปัญหาว่า จะไปแวะขนถ่านหินที่ไหน เพราะอังกฤษแอบหนุนหลังญี่ปุ่นอยู่ เพราะต้องการลดศักยภาพของรัสเซียในยุโรป ซึ่งพวกเรารู้จักกันดีในภาพที่พระพุทธเจ้าหลวงของเราทรงฉายร่วมกับ พระเจ้าซาร์ และถูกนำมาตีพิมพ์ที่ฝรั่งเศส เพื่อเป็นการปรามมหาอำนาจในยุโรป ว่าสยามไม่ธรรมดา ซึ่งได้ผลในระดับหนึ่ง เพราะยุโรปยังเกรง ๆ รัสเซียอยู่ แต่หลังเหตุการณนี้รัสเซียก็มีแต่เสื่อมถอย จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) - [ 25 พ.ค. 51 12:13:50 ]

ความคิดเห็นที่ 124 เมื่อกองเรือรัสเซียมีข้อจำกัดว่าไม่สามารถแวะเติมถ่านหินตามเมืองท่าของอังกฤษได้ ทางเดียวที่เหลือ คือ ต้องแบกถ่านหินจนเต็มเอี๊ยดไปตั้งแต่ต้นทาง จนแทบไม่เหลือที่จะบรรทุกสัมภาระอย่างอื่น แถมระยะทางที่ยาวนาน ความอ่อนล้าของทหาร และสุดท้าย คือ นาทีที่จะเข้าปะทะกัน แนวกองเรือของญี่ปุ่นขนานกับกองเรือรัสเซีย แต่กองเรือรสเซีย กับซ้อนหลื่อมกันสองชั้น ทำให้ศักยภาพในการยิงปืนข้างกราบเรือลดลง เพราะขืนยิง ก็โดนพวกเดียวกัน นาทีทองพวกนี้แหละครับ ที่เป็นปัจจัยที่ทำให้กองเรือรัสเซียคว่ำไม่เป็นท่า จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) - [ 25 พ.ค. 51 12:17:00 ]

ความคิดเห็นที่ 125 โอ้วววว ห้องเรียนเรากลับมาคึกคักกันอีกครั้งแล้ว เยี่ยมมากๆๆๆเลยครับ ขอบคุณท่านDearance มากเลยนะครับ อุตส่าไปเยี่ยมเยียนถึงบล๊อกแถมทิ้งข้อมูลดีๆไว้ให้อีก แวะไปบ่อยๆนะครับ จะได้ไปเฮฮากันหน่อย แอบชวนเพื่อนหนีเรียนไปมั่วสุมเนี่ยไม่รู้ว่าพวกอาจาน กับหัวหน้าห้อง ท่านจะว่ากันยังงัยบ้างนะครับเนี่ย เหอๆ จากคุณ : saravuht (BrettAnderson) - [ 25 พ.ค. 51 19:07:59 ]

ความคิดเห็นที่ 126 จุ๊ ๆ ๆ  นัดเฮฮาก็เบา ๆ หน่อย  เด๋วจารย์กะหัวหน้าห้องได้ยิน   ว่าแต่ว่าตอนนี้ผมเข้ากรุงเทพเกือบทุกเดือน  จะนัดที่ไหนก็ว่ามาเลยครับ  อิอิ.. อย่าลืมดูเวบสุดท้ายที่ผมให้ไป www.uwa333.com นะครับ  นักรบที่ยังมีชีวิตอยู่ตัวเป็น ๆ มีหลายคนในนั้นครับ จากคุณ : Dearance - [ 25 พ.ค. 51 19:39:21 ]

ความคิดเห็นที่ 127 กุลีชาวเกาหลีแอ็คท่าในโปสเตอร์ทหารญี่ปุ่น Korean coolies acting as porters for Japanese soldiers, Russo-Japanese War, 1904-5. Credit: Ann Ronan Picture Library / HIP / TopFoto จากคุณ : ryzon - [ 25 พ.ค. 51 21:54:44 ]

ความคิดเห็นที่ 128 ยุโรปอยู่ระหว่างสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น French cartoon of Europe's stance to the Russo-Japanese war 1894 (น่าจะเป็น 1904 มากกว่า) จากคุณ : ryzon - [ 25 พ.ค. 51 21:57:15 ]

ความคิดเห็นที่ 129 ภาพทหารรัสเซียถอยทัพหลังการรบที่มุกเด็น จากคุณ : ryzon - [ 25 พ.ค. 51 22:03:05 ]

ความคิดเห็นที่ 130 ได้การ์ตูนมากระบุงกว่า จะลงให้เรื่อยๆละกันครับ ภาพนี้ล้อว่าทหารญี่ปุ่นใช้เกาหลีเป็นฐานเพื่อไปยังแมนจูเรีย แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 51 22:47:45 จากคุณ : ryzon - [ 25 พ.ค. 51 22:30:12 ]

ความคิดเห็นที่ 131 ภาพญี่ปุ่น-รัสเซียรบกัน โลกได้แต่ยืนมอง จากคุณ : ryzon - [ 25 พ.ค. 51 22:33:59 ]

ความคิดเห็นที่ 132 อีกรูป แต่เป็นการบทางเรือ จากคุณ : ryzon - [ 25 พ.ค. 51 22:35:17 ]

ความคิดเห็นที่ 133 รูปการ์ตูนล้อว่าสหรัฐฯ ช่วยสนับสนุนการเงินให้ญี่ปุ่น จากคุณ : ryzon - [ 25 พ.ค. 51 22:36:20 ]

ความคิดเห็นที่ 134 น่าจะเป็นตอนปลายๆสงคราม ล้อว่ากองทัพญี่ปุ่นชนะสงครามและมาถึง เซนต์ปีเตอร์เบิร์กแล้ว (เหมือนตอนญี่ปุ่นถล่มเพิล ฮาร์เบิล ว่าถ้าญี่ปุ่นบุกมาคงมาถึงชิคาโกแล้ว) จากคุณ : ryzon - [ 25 พ.ค. 51 22:39:19 ]

ความคิดเห็นที่ 135 เหมือนอมริกาเข้ามาห้ามญี่ปุ่นไม่ให้ซ้ำ(ไม่ต้องการให้รัสเซียอ่อนแรงไปกว่านี้) จากคุณ : ryzon - [ 25 พ.ค. 51 22:40:48 ]