ความคิดเห็นที่ 14
ผมอ่านความเห็นของคุณเดโชแล้วรู้สึกว่าเรากำลังนิยาม 5-para theme กันคนละมุมหรือเปล่า
ถ้า 5-para theme นั้นหมายถึง essay ที่มี 5 ย่อหน้า ผมก็เห็นด้วยกับคุณเดโชที่ว่าจำนวนย่อหน้าไม่สำคัญต่อการเขียน เพราะว่าเราทำอะไรได้ตั้งเยอะใน 5 ย่อหน้า (เช่นเราอาจจะ argue ได้ดังตัวอย่างที่คุณยกมาตอนพูดถึง argumentative essay) ดังนั้นไม่แปลกที่มี diss. ที่มีแค่ 3 หน้า (ถ้าเป็นเรื่องจริง) เนื่องจากจำนวนย่อหน้าไม่ได้แปรผันตรงกับคุณภาพ/เนื้อหาของงานเขียน
แต่ ถ้า 5-para theme นั้นหมายถึงงานเขียนที่มีรูปแบบตายตัว
intro: thesis supporting idea 1 supporting idea 2 supporting idea 3 conclusion
ผมก็ยังคงยืนยันว่ามันไม่ใช่ essay และไม่ได้ฝึกกระบวนการคิด คืออาจจะฝึก แต่ว่ามันเหมือนการ "fill out the pattern" มากกว่าครับ ตัวอย่างที่เห็นชัดคือ ข้อสอบโทเฟิล ผมว่าผมอ่านงานเขียนโทเฟิลของเพื่อนๆ น้องๆ ในกระทู้พันทิปมาเยอะนะครับ ทุกคนมีรูปแบบเหมือนกันหมด บางคนมีประโยคเหมือนกันด้วย (เช่นจะจบย่อหน้าแรกด้วย Therefore, I will show that...) มีการเริ้มต้นเหมือนกัน (Some people say that..... Other people say that....) มีการปิดท้ายเหมือนกัน (เช่นการจบด้วยประโยคคำถาม โดยหวังว่าจะเป็นการจบเพื่อ impress คนอ่าน) เป็นต้น และหลายๆ ครั้งการจบด้วยคำถามเหมือนเป็นการ "force" คนเขียนมากกว่า บางครั้ง the whole theme doesn't call for a question at the end แต่นักเรียนถูกสอนมาว่าต้องจบแบบนี้นะ ก็ต้องหาทางใส่คำถามมาให้ได้... ปรากฎว่า creativity กับ appropriateness หายหมด มีแต่ form that needs to follow
จริงๆ เท่าที่ผมเห็นใน 5-para theme argumentative จะออกมาแบบนี้นะครับ
intro: thesis จะประมาณนี้ Some people say that.... Others say that..... I believe that .... In this essay I will show that...
body paragraph 1: Firstly, I think people need to do this because.... body paragraph 2: Secondly, xxx is also good. body paragraph 3: Thridly, people can benefit from ....
conclusion: I believe that... because ...
รู้สึกว่าส่วน argument จะมีแค่ intro (some ppl say... others say...) (If we can call this an "argument" at all) นอกนั้นก็กลับมาเป็น "list" เหมือนเดิม
คำถามคือ Can we call this an argumentative essay?
ผมไม่ได้บอกว่ามันไม่มีประโยชน์นะครับ คือมันใช้ฝึกการสร้าง thesis (แม้ว่า thesis จะไม่ strong ก็ตาม เช่น Therefore, I believe that people need to do this for 3 reasons: xxx, yyy, zzz.), organization, ฝึกการเขียนบทความในภาษาอังกฤษ (writing to writing ไม่ใช่ writing for learning), punctuation, etc ...
สรุปมัน offer security ให้กับนักเขียนที่เพิ่งเริ่มต้น คือไม่ต้องไปกังวลเรื่อง idea มากนัก เพราะว่าแค่หา 3 เหตุผล กับคำนำและสรุปมาก็พอ ให้ไปสนใจเรื่องการหา organization, langauge, diction, etc. แทน
พูดถึงเรื่องการหาเหตุผล ที่คุณเดโชบอกว่านี่แหละต้องคิดนะ ไม่ใช่ใส่อะไรไปก็ได้ ("คิด หาเหตุผลมารองรับ theme ของเรา") อืมจริงๆ การหา 3 เหตุผลก็เป็นการคิดก็ได้ครับ แต่ว่าผมไม่นิยามมันว่า "critical thinking" ซึ่งเป็นวิธีการคิดที่เหมาะสมกับ academic discourse จริงๆ มันอาจจะมีกลิ่นอายของ critical thinking อยู่ แต่ว่ามันไม่มากพอครับ
คุณเดโชลองเป็นผู้อุปการะคุณตั้งกระทู้เรื่อง 5-para theme ดิครับ :o)
จากคุณ :
เมื่อลมแรง...ใบไม้ก็ร่วง
- [
6 มิ.ย. 51 08:28:11
]
|
|
|