ความคิดเห็นที่ 1 สรุปแล้วตั้งแต่อิฉันเหยียบย่างเข้ามาประเทศนี้ครั้งแรก เมื่อวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ รวมแล้วก็ ๑๖ เดือนพอดี เป็นสิบหกเดือน ที่อิฉันเห็นความเป็นไปของประเทศนี้ แย่ลงตลอดเวลา จนไม่รู้ว่า เมื่อไหร่จะถึงก้นเหวซักที อิฉันกลับเมืองไทยไปเดือนกว่า แต่รู้สึกเหมือนกลับไปเป็นปี กลับมาอีกที ราคาสินค้า อาหาร แพงขึ้นอีก 30% ไข่ไก่ (ฟองจิ๋ว) จากเดิม เคยจ่ายอยู่ 2.75 นัคฟา ตอนนี้ กลายเป็น 3.35 นัคฟา   (คูณสองบาทห้าสิบ จะเป็นเงินบาท) แป้งสาลี กลายเป็นทอง คุณยามที่บ้าน ช่วยตัดต้นไม้ อิฉันให้แป้งสาลีไปห้ากิโล พี่แกถึงขั้นน้ำ้ำตาคลอ ... เป็นไปได้ ร้านค้า  ร้านอาหารปิดกิจการกันไปตามๆกัน หรือถึงเปิด ก็ไม่มีของขาย (แล้วจะเปิดทำไม) แม้แต่โรงแรมอินเตอร์คอน ซึ่งบริหารงานโดยรัฐบาล เดินเข้าไปนั่งทำเท่ สั่งอาหารดูเถอะ เมนูมีสิบรายการ อาหารที่ available มีไม่ถึงครึ่ง แต่ค่าแต่ รัฐบาลก็ยังทุ่มทุนสร้างค่ายทหารอีกต่อไป จากคุณ : letsgokrabi - [ 3 มิ.ย. 51 02:15:07 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ลงชื่ออ่านครับ จากคุณ : Nexus - [ 3 มิ.ย. 51 10:06:57 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ลงชื่อคับ จากคุณ : [v] (BONDJUNG_TH) - [ 3 มิ.ย. 51 10:47:27 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ว๊ายกรี๊ด  ดีใจจัง ยังมีคนตามอ่าน ขอบคุณนะค๊า   เมื่อวานเจอคุณหมอยูรี แกก็บ่นเหมือนกัน ว่าสภาพบ้านเมืองมีแต่จะแย่ลงๆ จนมองไม่เห็นวี่แวว ว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปใทางที่ดีขึ้น เมืองใกล้จะเป็นเมืองร้างไปทุกที ภายในสิ้นเดือนนี้ UNMEE  ก็จะย้ายออกแล้ว คราวนี้ คนตกงาน บ้านเช่าว่าง ร้านค้าขาดลูกค้า อยากรู้เหมือนกัน ว่าจะวุ่นวายขนาดไหน วันๆ อิฉันได้รับโทรศัพท์ของานทำอย่างน้อยๆ สองสามาย ไม่รู้เหมือนกัน ว่าไปได้เบอร์มาจากไหน ทำไมภาคห้า มันเศร้าๆ เซ็งๆ เนอะ อยากจะเขียนแบบฮาๆอีก แต่ก็เขียนไม่ออก เฮ้อ... จากคุณ : letsgokrabi - [ 3 มิ.ย. 51 14:24:31 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ลงชื่อด้วยคนครับ จากคุณ : KeepTryin' - [ 3 มิ.ย. 51 20:24:05 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ลงชื่ออ่านด้วยคนค่ะ มาเขียนภาคห้าต่อแล้ว เย้ๆ รอตั้งนานแน่ะค่ะ จากคุณ : โจ๊กไก่ - [ 3 มิ.ย. 51 23:30:58 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มาลงชื่อครับ จากคุณ : troll - [ 3 มิ.ย. 51 23:56:52 ]

ความคิดเห็นที่ 8 น่าสนใจ จากคุณ : ไม่ได้มีสิบมือ - [ 4 มิ.ย. 51 00:26:34 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เอ่อ.. ไม่ได้ตั้งทู้ซะนาน เลยลืมใส่ลิงค์ ไว้ในหัวข้อกระทู้ ขอมาเพิ่มเติมตรงนี้แล้วกันนะคะ ภาคหนึ่ง http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2007/07/K5573513/K5573513.html ภาคสอง http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2007/08/K5707676/K5707676.html ภาคสาม http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6411881/K6411881.html ภาคสี่ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6470389/K6470389.html ภาครูปประกอบ http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2007/05/E5375150/E5375150.html จากคุณ : letsgokrabi - [ 4 มิ.ย. 51 01:37:30 ]

ความคิดเห็นที่ 10 วันนี้เจอเพื่อนฝรั่ง เพิ่งมาทำงานสถานทูได้ไม่กี่สัปดาห์ อาการเหมือนอิฉันในช่วงแรกๆ คือปลื้มประเทศนี้มากกกกกกกกก อากาศดี (อันนี้ จริง)  I agree มีความปลอดภัยสูง (อันนี้ เมื่อก่อนจริง)  it used to be, not any more ผู้คนเป็นมิตร (จริงแบบฉาบฉวย)  not really พออิฉันพูดว่า not really เธอถามอย่างสงสัยจริงๆ ว่า not really ยังงัย อิฉัน ก็เก่งภาษาอังกฤษม๊ากกกก  มากจนอธิบายไม่ถูก คือ ถึงจะให้อธิบายเป็นภาษาไทย ก็ยังไม่ถูกอยู่ดี เอาเป็นขอยกตัวอย่างแล้วกันนะคะ ในความเป็นคนผิวดำ มีความเกี่ยวพันกับพวกฝรั่งผิวขาวมากกว่าคนเอเชียผิวเหลือง ประมาณว่า ไปเป้นแรงงานพม่าอยู่แถวยุโรปเยอะ เลยฉาบหน้าด้วยความเหมือนจะปลื้มฝรั่ง คล้ายๆคนไทยปลื้มฝรั่ง แต่ลึกๆในกอไผ่แล้ว ก็รู้สึกเป็นปมด้อยอยู่เหมือนกัน ฉะนั้น เมื่อมีโอกาสเมื่อไหร่ เป็นต้องหาทางเอาคืน เช่น คนประเทศนี้ ขับรถกันเหมือนๆแถวๆบ้านอิฉัน คือ ใครใคร่มีตังค์ ก็ไปซื้อรถมาขับกัน อาจจะแย่กว่าบ้านอิฉันหน่อยนึง ตรงที่นึกจะจอดคุยกันก็จอด เจอเพื่อนขับรถสวนมา ตรงสี่แยกไฟแดง พี่แกก็จอดทักทายกัน ถ้าเราไปบีบแตรไ่ล่ เป็นโดนมองหน้า ประมาณว่า ถนนอีกตั้งกว้า่ง ยูก็ขับอ้อมไปเดะ  แค่นี้ คิดไม่ออกเรอะงัย แล้วก้อส่ายหน้า แบบเบื่อหน่าย ว่าเรื่องโง่ๆ แค่นี้ คิดแก้ปัยหาไม่ได้เรอะงัย ถึงต้องมาบีบแตรไล่กัน แต่ถ้าลองเป็นฝรั่งหัวแดงหน่อยล่ะไม่ได้ ล่าสุด เมื่อเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา อิฉันอาศัยรถคุณเพื่อน ไปธุระกัน แล้วเจอ รถคันหน้า ชลอรถ เพื่อทักทายญาติหรืองัยไม่ทราบ เพื่อนอิฉันเลยแซงขวาไป (ประเทศนี้ขับรถชิดขวา)   ความผิด ประมาณ แซงซ้ายบ้านเราะน่ะค่ะ รถคันนั้น เห็นเราแซงขวา รีบขับรถไล่ตาม บีบแตร กระพริบไฟ เราก็ชลอให้เค้าแซง พอเค้าแซงได้ ก้อปาดหน้ามาจอดดัก แล้วสั่งให้เราจอด เราไม่ยอมจอด (กลัวนี่ฟระ) ขับต่อมาเรือยๆ รถคันนั้น ก็ยังตามมาเรื่อยๆ ีบีบแตร กระพริบไฟ ตามาเรื่อยๆ พอถึงสี่แยก เจอตำรวจ ก็เรียกตำรวจ ชี้มาที่รถเรา ความรู้สึกอิฉันตอนนั้น เหมือนเราเพิ่งขับรถชนคนตายแล้วกำลังหนี ประมาณนั้นเลยอ่ะค่ะ แต่ตำรวจก็ไม่ตามเรามา คงเห็นว่าเป็นทะเบียน CD รถคันนั้น เลยตามเรามาเองคันเดียว บีบแตรไล่มาเรื่อยๆ เพื่อนสาวหันมาถามว่า เราจะไปไหนดี ไม่อยากขับรถกลับบ้าน เดี๋ยวเค้ารู้จักบ้าน ซวยอีก เลยตกลงว่า ขับไปสถานทูตดีกว่า พอถึงหน้าสถานทูต คุณเพื่อน บีบแตรสั่นเลย คุณยามวิ่งหน้าตื่นมาเปิดประตู อิฉันกับเพื่อน วิ่งเข้าไปหลบในสถานทูต สั่งยามว่า ห้ามให้ผู้ชายคนนั้นเข้ามานะ เราสองคนหลบอยู่หลังประตู ได้ยินเสียง คุณยาม กับเจ้าของรถคันที่ตามเรามา คุย(หรือเถียง/ทะเลาะ) กันเสียงดังมากกกกกกกกกก ซักพักใหญ่เค้าก็จากไป เพื่อนอิฉันถามหัวหน้าคุณยาม ว่าแล้วเราต้องทำยังงัยเนี่ยะ คุณยามอธิบายว่า ไม่ต้องวอรี่ ถ้าเค้าไปแจ้งตำรวจ ตำรวจต้องไปแจ้งต่อ โปรโตคอล แล้วโปรโตคอลจะติดต่อเรามาอีกที คุณเพื่อนอิฉันถึงค่อยสบายใจหน่อย เพราะสถานทูต กับโปรโตคอล นั้นซี๊กัน แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 51 02:36:48 จากคุณ : letsgokrabi - [ 4 มิ.ย. 51 02:13:29 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คุณยามวิเคราะห์ว่า อาจมีสองสาเหตุ คือ อย่างแรก ชายคนนั้น เห็นเป็นฝรั่ง เลยอยากจะขู่ ประมาณว่า ถ้าไม่อยากให้มีเรื่องไปถึงตำรวจ ก็จ่ายเงินมาซะ ประมาณนั้น หรืออย่างที่สอง ซึ่งมีอยู่เยอะมาก ที่ชอบคิดว่า พวกฝรั่ง นั้นดูถูกเหยียดหยาม คนดำ ไม่เคารพกฎหมายประเทศของเค้า (แต่ตัวเองไม่เคารพไม่เป็นไร) เพราะฉะนั้น ถ้าเห็นฝรั่ง จอดรถในที่ห้ามจอด หรือทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง (ทั้งๆที่ทุกๆคนทำเหมือนกัน)  จะเห็นว่าเป็นการแสดงออกถึงการเหยียดผิวของฝรั่ง จากคุณ : letsgokrabi - [ 4 มิ.ย. 51 02:19:13 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อิฉันหายตกใจ กลับบ้าน ดูซีีรี่ย์เกาหลี ดีกว่า วันอาทิตย์ ก็ไม่ได้เจอคุณเพื่อนอีกเลย เมื่อเย็นวันอังคาร บังเอิญจ๊ะเอ๋กันอีก อิฉันก็ทักทายตามประสา คุณเพื่อนหน้าตื่นเล่าให้ฟังว่า เมื่อวันอาทิตย์ (เหตุการณ์ของอิฉันนั้นวันเสาร์) เธอไปส่งเพื่อนอีกคน ที่โรงแรมในตัวเมือง มันไม่มีที่จอดรถ แล้วมันก็มีรถแท๊กซีจอดรอผู้ดดยสารมั่ง และรถคันอื่นๆ จอดซ้อนคันทิ้งรถไว้มั่ง (จอดในเลนที่สองที่ไม่ใช่เลนจอดน่ะค่ะ) เธอว่า มีรถจอดอยู่ล้วประมาณยี่สิบคัน เธอก็ไปจอดต่อท้าย เพื่อดรอปเพื่อนเธอเข้าที่พัก โดยที่เธอยังนั่งอยู่ในรถ คาดเข็มขัด ไม่ได้ดับเครื่อง แล้วก็มีผู้ชายคนนึงเดินมาเคาะกระจกแรงมากกกกกกก เธอก็แง้มกระจกนิดนึง ถามว่ามีอะไร เค้าก็ตะคอกใส่่เธอว่า ตรงนี้จอดไม่ได้ ไม่รู้เรอะ เธอก็บอกว่า come on, there's many cars in front of me, don't you see that? เท่านั้นเอง เหมือนจุดไฟในปั๊มน้ำมัน ตาแก่คนนั้น ก็ตะโกน ตะคอก โวยวาย ด่าเธอว่า bitch  หาว่าเป็นคนขาว  เป็นพวกเหยียดผิว มาอาศัยบ้านเมืองเค้าทำมาหากิน กอบโกยเงินทอง แล้วทิ้งซากศพไว้เต็ม (เอ่อ... มีอะไรให้โกยอิฉันล่ะงง) ประจวบกับเพื่อนเธอลงรถเสร็จพอดี เธอเลยรีบบึ่งรถออกมา อิฉันบอกเธอว่า เธอเก่งจัง อิฉันอยู่มาปีกว่า  ยังไม่เคยโดนอย่างนี้เลย เธอมาแค่แป๊บเดียว เจอดีกว่าอิฉันโดนอีก จากคุณ : letsgokrabi - [ 4 มิ.ย. 51 02:34:25 ]

ความคิดเห็นที่ 13 มาเกาะขอบกระทู้ จากคุณ : เชษฐา - [ 4 มิ.ย. 51 13:26:55 ]

ความคิดเห็นที่ 14 โอย ขำมาก จริงๆคิดตามมันเป็นเรื่องน่ากลัวมากนะเนี่ย แต่คุณพี่ letsgokrabi เอามาเล่าแล้วฮาท้องคัดท้องแข็ง รักษาเนื้อรักษาตัวดีๆเน่อครับ ประเทศไม่ค่อยมั่นคง ^^"> วันก่อนฟังข่าวสหประชาชาติปล่อยเรือไปสู้โจรสลัดโซมาเลีย มันอยู่ใกล้ๆกันหรือเปล่าหว่า จากคุณ : เชษฐา - [ 4 มิ.ย. 51 13:40:30 ]

ความคิดเห็นที่ 15 มาซุ่มดูครับ ^ ^ จากคุณ : Skyman (Analayo) - [ 4 มิ.ย. 51 15:02:33 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ยินดีต้อนรับการกลับมาครับคุณเล็ทสโกกระบี่....กิ๊ก ๆ อิอิ...จริง ๆ ต้อนรับตัวเองด้วย เพราะหายไปนานเหมือนกัน.....มานั่งอ่านอย่างตั้งใจครับ จากคุณ : นกสุโขทัย - [ 4 มิ.ย. 51 15:43:14 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มาลงชื่อค่ะ... ^o^ อ่านแล้วทั้งขำทั้งเครียด UNMEE ออกไปแล้วจะเป็นยังไงต่อไปน้า... จากคุณ : KCPT - [ 5 มิ.ย. 51 08:31:41 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มาลงชื่ออ่านด้วยครับ จากคุณ : AVAVA - [ 5 มิ.ย. 51 17:00:19 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ลำบากเจงๆ ชีวิต ดีนะที่เราไม่ได้เป็นคนขาว (ออกจะดำๆด้วยซ้ำไป) อิอิ ปล.มาเมื่อไหร่พามังคุดมาแถวนี้มั่งเน้ออออ.. จากคุณ : ++แขวน++ - [ 6 มิ.ย. 51 12:28:03 ]

ความคิดเห็นที่ 21 พอว่ายน้ำเสร็จ กินข้าวต่อ เม้าท์เรื่องประเทศที่อยู่กันพอหายอัดอั้นตันใจ ถึงเวลากลับบ้าน เดินอกมาที่บานจอดรถ เฮียกงสุลเลยชี้ให้ดูเสาธงที่เรียงราย อยูาหน้า โรงแรมอินเตอร์คอนฯ ซึ่งเสาธงเหล่านี้ สูงใหญ่ ไฮโซ อยู่ห่างตัวตึก ประมาณ สิบเมตร ระหว่างแนวเสาธง กับตึกโรงแรม จะเป็นถนน ที่ทอดระหว่างประตู (Gate ) โรงแรม มาถึงหน้าตึก (เป็นที่เทียบรถหน้าตึกน่ะค่ะ  คงนึกออก) ซึ่งถนนนี้ ยาวประมาณ ยี่สิบเมตร และมีป้อมยามอยู่ตรงหน้าประตูรั้ว มียามประจำอยู่อย่างน้อยสามคนตลอดเวลา อิฉันดูเสาธงแล้วก็มองหน้าเฮีย ว่า ให้ดูอะไร(ฟระ) เฮียเลยเฉลยให้ฟังว่า ไม่เห็นเรอะ ว่า ธงใหม่เอ่ยมหมดทุกธงเลย พวกเราก้อ  เออออ... จริงด้้วย สงสัยเค้าเพิ่งเปลี่ยนล่ะมั้ง อาเฮีย หัวเราะเอิ๊กอ๊าก แล้วบอกว่า ทางโรงแรมแจ้งไปตามสถานทูตประเทศต่างๆว่า ธ ง ห า ย เลยเพิ่งได้มาเปลี่ยนเนี่ยะ พวกสาวๆ(อิฉันก็สาวนะ)  ก๊ากกกก กันลั่น ใครเชื่อ สงสัยออกลูกเป็นอูฐ แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 51 13:27:52 จากคุณ : letsgokrabi - [ 6 มิ.ย. 51 13:18:17 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ประเทศประหลาดจริงๆ นึกว่าคุณletsgokrabiจะไม่มาเล่าต่อซะแล้ว(หายไปนานเลย) คอยติดตามอยู่นะครับ จากคุณ : vikkies - [ 6 มิ.ย. 51 16:08:04 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ประกาศๆ วันนี้วันชาติ สวีเดน นะคะ อิฉันได้บัตรเชิญด้วย เนื่องเพราะ ท่านทูต เป็นแฟนคลับไข่ลูกเขย กับ บราวนี่ของอิฉัน   เก๋ไม๊คะ ได้ดีเพราะไข่ลูกเขย จากคุณ : letsgokrabi - [ 6 มิ.ย. 51 23:21:32 ]

ความคิดเห็นที่ 24 มาตามอ่านเสมอค่ะ ^_^ จากคุณ : บลูดานูป - [ 7 มิ.ย. 51 10:46:51 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ประเทศนี้ช่างประหลาด -*- จากคุณ : itislove - [ 7 มิ.ย. 51 13:41:19 ]

ความคิดเห็นที่ 26 มาลงชื่อเป็นแฟนคลับๆ จากคุณ : NiGht pRincE - [ 7 มิ.ย. 51 20:17:14 ]

ความคิดเห็นที่ 27 มาแล้วค่า เมื่อวันเสาร์ ไปทานข้างบ้านเพื่อใหม่มา เธอเป็นชาวแอฟริกัน มาจากประเทศโมซัมบิก เป็นคนเฮฮาลันล๊า ถูกชะตา กับอิฉันเป็นอย่างยิ่ง ได้ฟังประสบการณ์ของเธอแล้ว โหดมันส์ ฮา กว่าของอิฉันอีก เพราะเธอเป็วคนผิวดำ  แต่ดูไม่เหมือนเอริเตียน เลยได้รับปฏิบัติต่างออกไปอีก (คนโมซัมบิก จะตัวดำจัด หน้ากลม จมูกบานๆ รูปร่าง กลมๆ ตันๆ ประมาณ เจ๊เจเน็ท แจ็คสันน่ะค่ะ ส่วนคนเอริเตรียน จะเป็นผอมๆ หน้ายาวๆ จมูกแหลม แล้วก็ตัวขาวกว่า) จากคุณ : letsgokrabi - [ 9 มิ.ย. 51 12:55:32 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เธอเล่าว่า ตัวเอธอเองนั้น สามีเป็นเอนจีโอ  ไปมาแล้วก็หลายประเทศไนแอฟริกา แต่ไม่มีที่ไหนเหมือนเอริเตรีย (อิฉันก้อว่างั้น) เวลาเธอคุยกับชาวเอริเตรียน แล้วพูดว่า เอริเตรีย ไม่เหมือนแอฟริกาเลยเนอะ แ้ล้วกำลังจะพูดต่อว่า ออกไปทางอาหรับมากกว่า แต่ชาวเอริเตรียน จะทำหน้าเชิดๆ แบบภูมิใจโคตรๆ แล้วตอบว่า We're more European เธอเล่า พร้อมทำหน้าประกอบ ทำเอาเพื่อนฝรั่งอีกคน ถึงขั้นสำลักไวน์เลยเชียว จากคุณ : letsgokrabi - [ 9 มิ.ย. 51 13:16:12 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ^ ^ ^ 555 อย่างฮา จากคุณ : เชษฐา - [ 9 มิ.ย. 51 14:21:48 ]

ความคิดเห็นที่ 30 แต่ละเรื่อง ฟังแล้ว OMG จากคุณ : newuno - [ 12 มิ.ย. 51 18:26:30 ]

ความคิดเห็นที่ 31 วันนี้จะมาเล่าเรื่องไปชอปปิ้งค่ะ จากประสบการณ์โดนคนบ้าทุบรถ รถโดนขูดสี เวลาไปจอดในตลาด ทำเอาอิฉันเซ็งจนไม่อยากไปซื้อของอีกเลย ประกอบกับ อัตราราคาของสำหรับคนหน้าแปลกอย่างอิฉัน แพงขึ้นอย่างมหาโหด เช่น เคยซื้อไข่ ฟองละ สามนัคฟา (ในขณะทีขายให้่คนท้องถิ่น สองนัคฟา เจ็ดสิบห้าเซน) ปัจจุบัน คนท้องถิ่น จ่ายเท่าเดิม  แต่อิฉันต้องจ่าย สามนัคฟา แปดสิบเซน ส้ม กิโลละ ยี่สิบสอง สำหรับคนท้องถิ่น คนสวยๆ อย่างอิฉัน ต้องจ่ายถึงสี่สิบนัคฟา อร๊ากกกกกกกก ไปจ่ายตลาดแต่ละที หัวแบะ เลือดอาบกลับบ้านทุกที เลยใช้วิธี ให้คนขับรถที่ทำงานคุณสามีไปซื้อให้ จะใช้ maid ที่บ้าน คุณเธอก็สามารถ หาใบเสร็จ ราคาของ ที่เท่ากับอิฉันจ่ายมาแสดงได้ ว่าไข่ฟองละ 3.80 นะ ส้ม กิโลละ 40 นะ อิฉันเลยงงๆ ว่าที่เข้าใจว่าตัวเองหน้าสวยนี่อาจจะเป็นลักษณะหน้าโง่ ของคนแถวนี้ก็ได้ จากคุณ : letsgokrabi - [ 15 มิ.ย. 51 10:30:00 ]

ความคิดเห็นที่ 32 จนเมื่อสองวันก่อน อิฉันไปเจาะแจ๊ะกับเพื่อนใหม่ชาวโมซัมบิก เราสองคนเดินเข้าร้านค้า เพราะคุณเพื่อน อยากแวะซื้อนมกลับบ้าน เธอเดินเข้าไปหยิบนมหนึ่งขวดในตู้เย็น แล้วเดินมาจ่ายเงิน คนขายบอกว่า ไม่ได้   no milk คนซื้อก็งง สิคะ no milk ได้งัย ก็ชั้นถืออยู่เนี่ยะ milk ขวดเบ้อเริ่ม คนขาย ก็เอืิ้อมมอแมาคว้าขวดนมไปจากมือคุณเพื่อน ปากก็พูดแต่ว่า no milk no milk คุณเพื่อนอิฉัน เธอก็เด็ดค่ะ ไม่ยอมปล่อยมือจากขวดนม แย่งกลับคืนมา ร้องว่า my milk my milk ไปด้วย เกิดโกลาหล ย่อมๆ ในร้านเลยล่ะค่ะ อิฉันอยากจะช่วยเพื่อน แต่มัวแต่ขำ  เอ๊ย มัวแต่ตกใจ เลยทำอะไรไม่ถูก จนกระทั่ง เจ้าของร้านออกมา เลยค่อยพูดจากันได้หน่อย เพราะร้านนี้ เป็นร้านประจำของคุณเพื่อน มาซื้อของแทบทุกวัน เจ้าของร้านอธิบายว่า ยูจะซื้อนมอย่างเดียวไม่ได้ ต้องซื้อสินค้าอย่างอื่นๆ ในร้านก่อน ถึงจะมีสิทธิ์ซื้อนมได้ คุณเพื่อนอิฉัน เลยซื้อไข่ฟองนึง และได้นมหนึ่งขวด มาสมใจ แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 51 10:49:10 จากคุณ : letsgokrabi - [ 15 มิ.ย. 51 10:46:00 ]

ความคิดเห็นที่ 33 กำ ประเทศอะไรฟระ จากคุณ : itislove - [ 15 มิ.ย. 51 23:07:57 ]

ความคิดเห็นที่ 34 5555 จากคุณ : เชษฐา - [ 18 มิ.ย. 51 14:01:02 ]

ความคิดเห็นที่ 35 มันเป็นตลกฝืดที่อ่านแล้ว...ไม่ขำเลย ได้แต่ความสมเพศ บวกกับความอเน็จอนาท คนพื้นเมืองที่นั่นก็เป็นพวก มีปมด้อย...และโง่อวดฉลาด Double standard  with a weird sense of reverse discrimination อ่านแล้วก็ได้แต่ปลงว่า ในโลกนี้ มี นรก จริงๆ แต่ก็ไม่ได้ แย่ไปกว่า พม่า นะ ...ขอบอก สรุป...ชาติที่แล้วหนูคงไปทำกรรมกับคนพวกนี้มามาก เช่นอาจจะเป็น พวกค้าทาส...อะไรประมาณนี้ จงทำทุกวิถีทางที่จะ ออกจาก นรกในแดนมนุษย์ ให้เร็วที่สุด อนึ่ง... พี่โกรธหนูมากๆ  ที่เอา น้อง janet jackson ไปเทียบกับพวก โมซัมบิค....ไม่เหมือน...ยังไงก็ไม่เหมือน โชคดีนะจ๊ะ....พี่จะเอาใจช่วย ขอลาไปกิน เค็ก Chocolate indulgence จาก ร้าน Secret recipe ก่อน จากคุณ : พี่เจด - [ 18 มิ.ย. 51 18:19:30 ]

ความคิดเห็นที่ 36 พี่เจดขรา ว่าอิฉันเคยเป็นพวกค้าทาส อิฉันยังไม่เคืองเท่าประโยคนี้นะคะ ขอลาไปกิน เค็ก Chocolate indulgence จาก ร้าน Secret recipe ก่อน ใจร้ายจริงๆเลย จากคุณ : letsgokrabi - [ 20 มิ.ย. 51 02:45:56 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เข้ามาลงชื่อแล้วน๊า นู๋นา รออ่านตอนต่อไปอยู่ แอบสงสัยนิดนึงว่า ต้องอยู่อีกนานเท่าไหร่ในประเทศนี้อ่ะ จากคุณ : Pjanet - [ 21 มิ.ย. 51 11:46:25 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ไม่ได้เล่าให้เพื่อนๆฟังว่า ก่อนหน้านี้ คุณสามีได้ข่าวว่า มีตำแหน่งว่างที่ดัคกา ประเทศบังคลาเทศ อิฉันก็ระริกระรี้ อยากไปตัวซี๊ตัวสั่น เพราะกางแผนที่โลกดูแล้ว อยู่ห่างเมืองไทยแค่พม่ากั้น โอ้ มายบุดด้า   รู้สึกว่าตัวเองโง่อีกแล้ว ไม่เคยรู้มาก่อน ว่าบังคลาเทศกับไทย อยู่ใกล้กันขนาดนี้ เหตุผลสองข้อเท่านั้น ที่อยากย้ายไปดัคกา เพราะคาดว่า ดัคกา คงมีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงให้เล่น และ เช็คดูแล้ว มีบินตรงกับเมืองไทยทู๊กกกกกวัน แถมบินแค่สองชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงบ้าน นับนิ้วดูแล้ว ก็พอๆกับ สิงคโปร์ มากรุงเทพ หรือเชียงใหม่ บินตรงไปหาดใหญ่ประมาณนั้น แต่ปลาดุกว่า แห้วค่ะ อดไป จากคุณ : letsgokrabi - [ 22 มิ.ย. 51 04:01:36 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เลยต้องอยู่ประเทศนี้ต่อ อีกหนึ่งปีค่ะ แหม... คิดๆปแล้วเสียดาย ไม่งั้น จบเรื่องนินทาประทศเอริเตรียแล้ว จะได้นอนทาแขกต่อไปเลย เพราะดูแล้วเื่รื่องน่าจะเยอะเหมือนกัน ปล. ลืมทักนู๋ปุ๋ย Pjanet เลยอ่ะ เห็นแว๊บๆ ว่ามีตัวน้อยแล้วเหรอ อิจฉาๆๆๆๆๆ จากคุณ : letsgokrabi - [ 22 มิ.ย. 51 04:05:30 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ตามอ่านอยู่ตลอด แหมเสียดายจัง ถ้าได้ไปบังคลาเทศคงมีเรื่องมันส์ๆอีกเพียบ บุญรักษานะครับ ฟังหลายๆเรื่องในเอริเตรียแล้วกลัวแทน T__T จากคุณ : เชษฐา - [ 23 มิ.ย. 51 23:05:49 ]

ความคิดเห็นที่ 41 โอ๊ย อะไรกันเนี่ย ๕๕๕ จากคุณ : NiGht pRincE - [ 24 มิ.ย. 51 00:46:02 ]

ความคิดเห็นที่ 42 หนุกแบบแปลกๆดีเนอะ มาลงชื่อค่า จากคุณ : ชอบซื้อแต่ไม่ชอบอ่าน - [ 25 มิ.ย. 51 11:09:04 ]

ความคิดเห็นที่ 43 มาแล้วค่า ช่วงนี้ยุ่งๆ นิดหน่อยค่ะ เพราะวันศุกร์มีงานเลี้ยงที่บ้านท่านทูตเยอรมัน อ๊ะๆ อิฉันไม่ได้รับเชิญหรอกค่ะ  เพราะเค้าเชิญแต่เอกอัครเท่านั้น  ไม่เชิญแม้แต่ภรรยาด้วยซ้ำ ประมาณว่าเป็น business dinner น่ะค่ะ แต่อิฉันสำคัญกว่านั้น เพราะอิฉันต้องทำอาหารไปส่ง (กร๊ากกกกกกก) ขั้นตอนการทำงาน คือ ท่านทูตจะโทรมาจองคิว ถามว่าอิฉันสะดวกวันไหน มีให้เลือกสองวัน  คือ ๒๗ เดือนนีเป็ฯมื้อเย็น หรือ วันที่ ๔ เดือนหน้า เป็นมื้อเที่ยง อิฉันเลือกมื้อเย็นวันที่ ๒๗  เพราะได้ตังค์เยอะกว่า เอ๊ย.. ไม่ใช่ค่ะ   เพราะนึกได้ว่า  วันที่ ๔ เดือนหน้า อิันน่าจะได้ไปกินฟรี เนื่องในวันชาติเมกาตะหาก ถ้ามัวแต่ทำอาหารมื้อเที่ยง  เดี๋ยวไม่มีเวลาทำสวยไปกินมื้อเย็น  อิอิ พอสรุปได้ว่าเป็นวันที่ ๒๗  ท่าทูตก็ร่อนบัตรเชิญ พอเมื่อวันจันทร์ ได้คำตอบ ว่าใครมาได้ หรือมาไม่ได้ ก็จะได้จำนวนที่แน่นอนมาให้อิฉันคำนวนรายได้  เอ๊ย คำนวนสัดส่วนอาหาร แล้วก็ทำเมนูเสนอ อิฉันส่งเมนูไปเมื่อวันจันทร์เย็นๆ พอวันอังคารเช้า ท่านทูตกฌโทรมาบอกขอปรับเมนูนิดหน่อย เพราะมีทูตการต้ามาด้วย เลยต้องเปลี่ยนหมูเป็นอย่างอื่น สรุปลงตัว อิฉันก็ไปชอปปิ้ง ปรากฎว่า ด้วยความอุดมสมบูรณ์และเทคโนโลยีอันก้าวหน้าของประเทศนี้ อิฉันหาวัตถุดิบในการทำอาหารไม่ด้ายยยยยยยย เมื่อคืนอิฉันเลยต้องตะแคงคิดเมนูใหม่ เอาตามที่ตาเห็นในตลาด ว่ามีอะไรที่พอจะใช้ได้บ้าง และต้องทำเมนูส่งวันนี้ (วันพุธ) แล้ววันศุกร์ ก็เป็นวันงานแล้ว  อิฉันละเครียดดดดดดดดดดดด กลัวว่า ส่งเมนูไปแล้ว พอจะไปจ่ายตลาด กลายเป็น ของที่เล็งไว้ ไม่มีซะอีก อิฉันจะทำงัยล่ะทีนี้ เอาครัไป ไปขายหน้าชาวโลกแน่ๆงานนี้ เครียดค่ะ เครียดๆๆๆๆๆ จากคุณ : letsgokrabi - [ 25 มิ.ย. 51 12:30:11 ]

ความคิดเห็นที่ 44 อ่า แถวนั้นมีกะปอมไหมครับ เอามาทำเป็นวัตถุดิบทดแทน จากคุณ : เชษฐา - [ 28 มิ.ย. 51 19:41:55 ]

ความคิดเห็นที่ 45 มาแ้ล้วค่า งานเลี้ยงผ่านพ้นไปได้ด้วยดีถึงขั้นดีมาก รายการอาหารสรุปได้ว่า ปอเปี๊ยะทอด แกงจืด(กระดูก)ไก่กับเห็ดหอม ผัดหมี่เบตง ปลาเก๋าเปรี้ยวหวาน ไอศครีมวานิลา กับซอสเชอรี่ เพราะปกติ official dinner เค้าจะไม่ค่อยเติมกัน แต่งานนี้ ท่านทตนอร์เวย์ เดินเติมซุป สองรอบ ตอนจบเมนคอร์ส ก่อนเสิร์ฟไอศครีม ทูตแอฟริกาใต้ กับ ทูตอิาลี เดินมาทักถึงก้นครัว อิฉันเลยเดินออกไปตักไอศครีมให้เอง (เสนอหน้าสุดฤทธิ์) ท่านทูตนอร์เวย์ แฟนคลับ ทีรามิสุ ของอิฉัน (ประชุมทีไร สั่งทีรามิสุทุกที) เดินเอาถ้วยไอศครีมมาเติมสองรอบ แถมบอกว่า เป็นไอศครีมที่อร่อยที่สุดในประเศนี้ ก็แหงล่ะค่ะ  ทั้งประเทศ  มีร้านไอติมอยู่แค่ร้านดียว และโดนปิดไปแล้ว  เนื่องจาก ไม่ยอมให้รัฐบาลเทคโอเวอร์ เหลือแต่อิฉัน ทำขายอยู่คนเดียว เครื่องปั่นไอติมอันน้อยของอิฉัน ก็ปั่นได้ทีละครึ่งลิตรเท่านั้นเอง จากคุณ : letsgokrabi - [ 29 มิ.ย. 51 00:23:48 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ดีใจจังที่อาหารผ่านไปด้วยดี แอบลุ้นอยู่ เอาเจ้าตัวเล็ก (7เดือนแย้ว)มาสวัสดีป้า เอ๊ย น้านู๋นา 555 (ฟันกะลังขึ้น มานชอบกินแต่ bagel ของ Au Bon Pain ยี่ห้ออื่นมานไม่กิน เดี๊ยวแม่ส่งไปอยู่ Eritrea ซะเลยนี่) แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 51 10:27:00 จากคุณ : Pjanet - [ 29 มิ.ย. 51 10:21:43 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ผมดูภาคสี่ไม่ได้ครับ กำลังมันส์เลย ต้องข้ามมาอ่านภาคห้าก่อน T-T จากคุณ : god batigoal - [ 9 ก.ค. 51 23:35:16 ]

ความคิดเห็นที่ 48 สงสัยหล่นไปแล้วมั้งคะ ลองไปเสิร์ชในคลังทู้เก่าดูนะคะ  เผื่อจะมีใครจิ้มเก็บไว้ให้ เดี๋ยวถ้าเน็ตเร็วๆ อิฉันจะลองหามาแปะค่ะ จากคุณ : letsgokrabi - [ 10 ก.ค. 51 01:50:48 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ต่อค่า ต่อๆๆๆ จากคุณ : letsgokrabi - [ 11 ก.ค. 51 19:10:46 ]