ความคิดเห็นที่ 1 เอาไปทำอะไรล่ะครับ ทำโทเฟิลหรืออะไร จะได้แนะนำได้ถูก แต่ดูๆแล้ว โทเฟิลคงไม่ให้เขียนในทำนองอย่างนี้หรอกครับ น่าจะมาเขียนเองมากกว่า แต่ไม่ว่าจะอะไร ผมคิดว่าที่แต่งมาทั้งหมดยังใช้ไม่ค่อยได้ อย่าโกรธนะครับ...เพราะไม่มีอะไรที่เป็น argument ที่น่าสนใจ คือ เขียนเรื่องที่รู้ๆกันอยู่แล้ว ทำไมคนอ่านต้องมาอ่านด้วย เช่น Tradition between eastern...is different (มันต่างกันอยู่แล้ว...เพราะวัฒนธรรมมันต่างกันขนาดนั้น) Valentine's day starts from... (อันนี้ผมไปหาดูในวิกิได้) Most popular present...อันนี้ดูได้ด้วยตา ง่ายใหญ่ Interesting activity useful for others...รู้ๆอยุ่แล้ว อีกอย่างไม่ว่าจะทำกิจกรรมที่มีประโยชน์ ไม่ว่าจะวันใด มันก็เป็นประโยชน์อยู่แล้ว sex...while immature is unsuitable ไม่ว่าจะวันอะไร ถ้ามีเซ็กซ์โดยไม่ได้คิดหน้าคิดหลัง (ไม่มีเหตุผลในการคิด) ก็ไม่ดีทั้งนั้น สรุป หัวข้อไม่น่าสนใจ และกว้างไปครับ เขียนอะไรที่มันน่าสนใจสำหรับคนอ่านสิครับ และเป็นอะไรที่ใหม่ๆ จากคุณ : texanprofessor (krisdauw) - [ 15 มิ.ย. 51 10:54:24 ]

ความคิดเห็นที่ 2 *-*1.  อ่านแล้วไม่ได้ใจความ          เขียนใหม่ให้ได้ความหมายว่า...คำว่าวาเลนไทน์มาจากชื่อของนักบวช   <<<จะดีกว่ามั้ยค่ะ>>>     2.   ที่สุดน่าจะมีหนึ่งเดียวไม่ใช่ 2 อย่าง   <<<หรือเปล่าค่ะ>>>     3.   เขียนใหม่ให้ได้ความหมายว่า  ความรักในวันวาเลนไทน์ไม่ได้เป็นเพียง/not onlyความรักสำหรับboy-friend or girl-friendแต่รวมถึง/but also ความรักสำหรับสมาชิกในครอบครัว และคนใกล้ชิด/closed-up     <<<ดีกว่ามั้ยนะ>>> 4.  เจตนาข้อ 4 ดีนะแต่ไม่ค่อยถูกแกรมม่าร์สักเท่าไหร่  เปลี่ยนมุมมองที่พยายามจะบอกดีมั้ยหนอ      ...แบบ    สำหรับวัยรุ่นไทยในวันวาเลนไทน์มันไม่ควรมากไปกว่าการให้และได้รับกุหลาบ    <<<ดีกว่ามั้ย>>> 5.  ข้อนี้ดีแล้วค่ะ จากคุณ : พี่นะ...บางขุนเทียน-ชายทะเล (phee-na) - [ 15 มิ.ย. 51 11:05:00 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ คือ เหมือนประมาณว่า ผมต้องเขียน Essay เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ แล้วอาจารย์ให้คิดประมาณ เกี่ยวกับ สิ่งที่เราอยากจะเขียนบอก Topic ต่างๆในวันวาเลนไทน์ เป็นไงบ้าง อาจารย์จะยกตัวอย่างเช่น Gold เป็นสิ่งที่สวยงามมีค่า แล้ว ยังนำมาใช้ประโยชน์ได้ด้วย ก็บอกว่า ตัวอย่าง เช่น เหรียญใน มาซิโดเนีย(เขียนถูกไหม )   และนำมาใช้ด้านทันตกรรม หรือ ชุดอวกาศ แล้วผมเขียนไม่ได้เชิง Argument เป็นเชิง Essay เล่าเรื่องธรรมดา (ยังเขียนแบบพื้นเด็กๆมากกว่าครับ)   แต่คำแนะนำทุกประการ ผมขอน้อมรับด้วยความเต็มใจ ในการช่วยพัฒนาครับ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : Mewchan (Mewchan) - [ 15 มิ.ย. 51 15:38:00 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สำหรับผมเอง ผมมองว่าทั้ง 5 ข้อเป็นจุดเริ่มที่ดีนะ แต่ว่าน้องคงต้องคิดๆๆๆ ให้มากกว่านี้เพื่อทำให้ essay เราน่าสนใจ ผมขอแนะนำ (เท่าที่ความรู้ผมพอจะมี) เป็นข้อๆ ไปนะครับ แต่ผมไม่คิดเป็นประโยคที่สมบูรณ์ให้นะครับ ผมอยากให้น้องไปคิดต่อเอง แล้วเลือกมา 1 หัวข้อพอ เอาที่ชอบที่สุด แล้วลองเขียน topic sentence หรือ thesis statement มาใหม่นะครับ ข้อที่ 1. Valentine Day starts from love's priest. ถ้าน้องจะเลือกทำข้อนี้ ข้อแรกเลย ตามที่ คคห. 2 ว่ามาคือว่าประโยคมันแปลกๆ และตามที่ คคห. ที่ 1 กล่าวมา ก็คือว่า เป็นข้อมูลที่สามารถหาอ่านได้ทั่วไปอยู่แล้ว ถ้าอยากจะทำให้งานเขียนของเราน่าสนใจกว่านี้ ลองไปค้นคว้าซักนิดดีไหมครับว่า ในศาสนาอื่นหรือความเชื่ออื่น มีวันวาเลนไทนส์ หรือว่าวันแห่งความรักในแบบฉบับต่างๆ กันบ้างหรือเปล่า ลองเอามาเปรียบเทียบกัน หาความเหมือน ความแตกต่าง สอดแทรกความคิดในมุมมองของเราเอง เผื่อจะได้ไอเดียอะไรเจ๋งๆ ออกมา หรือ ลองค้นคว้า love’s priest ของน้องเนี่ยแหละ (ผมเข้าใจว่าน้องหมายถึง St. Valentine ใช่ป่ะ) ลองศึกษาประวัติของเขาดู ลองวิเคราะห์ตามสไตล์ของน้องดูว่า ทำไมจึงต้องเป็นเค้าคนนี้ล่ะ ที่เป็น Saint แห่งความรัก มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น เกิดขึ้นเมื่อไหร่ แล้วมี Saint คนอื่นอีกหรือไม่ที่ได้ประกอบคุณงามความดีในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน แล้วทำไมไม่ได้เป็น Saint แห่งความรัก หรือลองวิเคราะห์ดูว่า ที่ Saint Valentine ได้เป็น Saint แห่งความรักเนี่ย ด้วยสาเหตุกันเหมาะสมหรือเปล่า ถ้าเป็นสมัยนี้ ยุคนี้ ด้วยเหตุเช่นนี้ เค้ายังควรได้เป็น Saint อยู่อีกหรือไม่ อันนี้ผมแค่ยกตัวอย่างนะครับ คือว่าถ้าน้องจะหยิบยก St. Valentine ขึ้นมาพูด ต้องวิเคราะห์ตัวเค้าให้ลึกซึ้งกว่านี้ ถ้าเขียนในเชิงเปรียบเทียบ ก็จะกลายเป็น comparison essay ถ้าเขียนในเชิงการประเมินตัวเค้า ก็เขียนออกมาในลักษณะของ evaluation essay น่าจะได้ครับ คือออกมาในลักษณะของของการมองจากตัวน้องเอง ข้อที่ 2. Most popular present on Valentine Day is flower and chocolate. อันนี้ก็น่าสนใจนะ แม้นว่าเป็นอันที่รู้กันทุกคน แต่น้องลองตอบคำถามตัวเองหน่อยสิว่าทำไม? เป็นเพราะอะไรจึงเป็นดอกไม้และช็อคโกแลต? เป็นน้ำหอมไม่ได้เหรอ? เป็นไม้ประดับไม่ได้เหรอ? เป็นลูกวาดไม่ได้เหรอ? ทำไมต้องเป็นช็อคโกแลตและดอกไม้ด้วย? เพราะว่ามันหอม? เพราะว่ามันหวาน? แค่นั้นจริงๆ เหรอ? แล้วต้นกำเนิดการให้ของขวัญแบบนี้มันเริ่มจากที่ไหน? เมื่อไหร่? ในประเทศอื่นๆ เค้าทำกันแบบนี้หรือเปล่า ถ้าเค้าเลือกที่จะให้ของขวัญอย่างอื่น เพราะอะไร? ผมว่าน้องลองตอบคำถามเบื้องต้นเหล่านี้ให้ได้ก่อน เผื่อจะได้ไอเดียมากกว่านี้นะครับ ข้อที่ 3. Interesting activity on Valentine Day is useful to others. ข้อนี้ก็เหมือนกัน กว้างเหลือเกิน activity อะไรก็ไม่บอกมาเสียด้วยแฮะ ถ้าแค่เริ่มต้นพี่ก็ไม่รู้ว่าเป็น activity อะไร พี่ก็แนะนำต่อไม่ค่อยถูกเหมือนกันแฮะ ข้อที่ 4. Sex on Valentine Day while immature is unsuitable. ข้อนี้น่าสนใจขึ้นมานิดนึง เพราะว่ามันเป็นเรื่องจริงที่ว่า อัตราการเสียตัวในวันสำคัญๆ ของประเทศไทยเรานั้น มักจะสูงกว่าวันปกติ ทีนี้น้องก็ต้องตอบคำถามตัวเองให้ได้ก่อนว่า มันเป็นเพราะอะไร สำหรับเด็กใจแตก เสียตัวก่อนวัยอันควรนั้น น้องอาจจะบอกได้ว่า สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากเพื่อน หรือครอบครัว แต่น้องต้องตอบให้ได้ว่า แล้วทำไมมาเจาะจงเอาวันวาเลนไทนส์ แล้ววันลอยกระทงอีกวันเหมือนกัน มีวันอื่นใดอีกหรือไม่ที่คนมักจะเสียตัวกัน นอกจากนี้ยังต้องตอบคำถามให้ได้อีกว่า มันไม่เหมาะสมอย่างไร immature น่ะ แค่ไหน แล้วถ้าเค้า immature แค่เฉพาะเกณฑ์อายุ ว่าเค้าฉลาด รู้จักที่จะป้องกัน แล้วมันผิดไหม ผิดแค่ไหน มีผลกระทบต่อตัวเค้าและคนอื่นอย่างไร และถ้ามันเกิดเรื่องแบบนี้ ถ้าน้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับข้อใดก็แล้วแต่ ทางป้องกันหรือทางแก้ไขเป็นอย่างไร ข้อที่ 5. Tradition between Eastern and Western country on Valentine Day is different. ข้อนี้ผมว่าน่าสนใจนะ แต่ในตัว topic sentence/thesis statement ควรต้องระบุชัดกว่านี้เลยว่า Eastern เป็นยังไง Western เป็นยังไง และพี่ว่าถ้าเขียนออกมาในลักษณะของ comparison essay น่าจะดี คือว่าเขียนเชิงเปรียบเทียบ แต่น้องต้องศึกษาให้มากกว่านี้แหละ ลอง list ดูก่อนว่ามันมีอะไรบ้างที่แตกต่างกัน หรือว่ามีอะไรบ้างที่เหมือนกัน และเพราะอะไร แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ไอ้เจ้าความแตกต่าง (หรือความเหมือน) เนี่ย มันส่งผลกระทบอะไรต่อตัวน้องเองหรือสังคม หรือคนอื่นใดบ้าง หัวใจของการเขียนเรียงความ หรืองานเขียนใดก็แล้วแต่ เกิดจากการศึกษาและทำวิจัย อาจจะเป็นการทำวิจัยกับตัวเอง หรือการทำวิจัยกับสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา แต่ไม่ใช่การนั่งเทียนเขียนนะครับ เข้าใจแหละว่าน้องกำลังเริ่มต้นเขียนแบบง่ายๆ แต่น้องเชื่อพี่นะ ถ้าเราเขียนแบบเหมือนกับว่าเราศึกษาในเรื่องๆ นั้นๆ มาระดับหนึ่ง มันจะมีอะไรให้เขียน มันจะทำให้เราเขียนง่าย เขียนคล่อง เพราะว่ามันเหมือนจะอัดอั้นอยู่ในตัวเรา อยากที่จะถ่ายทอดมุมมองของเราให้ผู้อื่นได้รับรู้ จะออกมาดีหรือไม่นั้น ก็ไม่เป็นไร ก็ค่อยๆ ฝึกกันไปนะครับ ปล. วันวาเลนไทนส์เนี่ย เค้าสะกด Valentine's Day นะครับ หมั่นสังเกตและจดจำ จะทำให้สะกดคำได้อย่างถูกต้องนะครับ แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 51 07:11:26 แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 51 03:36:05 จากคุณ : เดโช - [ 15 มิ.ย. 51 23:30:20 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ก็น่าจะต้องดูเนื้อหาด้วยนะคะว่าเกี่ยวกับอะไรบ้าง ถึงจะตั้งได้ครอบคลุมน่ะคะ แบบว่าอ่านแล้วพอรุ้คร่าวๆเลยว่าเนื้อหาไปทางไหนไรแบบนี้ จากคุณ : femi (ETHNOMUSIC) - [ 17 มิ.ย. 51 21:31:32 ]