ความคิดเห็นที่ 1 "in term of their family, education, and personality" "in many aspects: family backgrounds, education, and personality." - after "their" should be pural unless they came from the same family or have the same personality.  No comma before "and". "Could anyone look through it and point out some errors" -You forgot "?" "One problem I found is, it sounds very informal" -  ... is that it ... " try to come up with" - should be past tense as you already wrote it "their family backgrounds, their education, and their personality" - their family backgrounds, education and personalities "personality; regardless of who they are" Run-on sentence, should start a new sentence instead of ; "for several year in a row" -several years "How to be successful like them?" many may ask. - This is a phase, not a question.  Better to use "How can we be sucessful like them?" Also, forgot a comma. "Conclusion : Steve Job" - Jobs or Job? "elite college? Or what kind of person" - If you use or, both sides are in the same sentence.  There is no need to start a new sentence for capital O. "your family nor your education nor your personality" - too many "nor", use only one and the rest use commas instead. "What is the matter, then? a question has risen." - forgot comma. "For centuries, philosophers and sociologists have tried to answer this" - Illogical statement.  Steve Jobs and Bill Gates were born in this century. "but have never be able to come up with a unanimous answer" - but have never been able.... "because one that know the answer the best is the one himself who asks it." - use "knows" for singular.  Should not use "it" in place of "question" because the word "question" is not referred to in this or nearby statements. " No matter what your answer would be" - your answer is แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 51 03:44:22 จากคุณ : Tisco fan - [ 21 มิ.ย. 51 03:43:17 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผมคิดว่า Essay นี้มี potential ที่ดีนะครับ แต่ว่าตัว thesis statement อ่อนมาก (ซึ่งอาจจะส่งผลต่อ development ของส่วน body ในภายหลังได้) ตัว thesis statement ของคุณก็คือ "However, despite the similarity regarding their prestige, both men are very different in many aspects: family backgrounds, education, and personality." ชัดๆ เลยนะครับ ผมมองว่าการเปรียบเทียบ family backgrounds, education, หรือ personalities โดยลำพังนั้น ไม่น่าสนใจ คุณสามารถทำให้น่าสนใจได้ก็ต่อเมื่อคุณได้ link หรือ relate สู่ความสำคัญของมัน ผมอ่านในส่วน Purpose ของคุณก็พอจะเข้าใจว่า คุณต้องการจะบอกว่า backgrounds, education, and personalities นั้น ไม่ได้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้คนเราประสบความสำเร็จในชีวิตได้ ใช่ไหมครับ จุดอ่อนแรกก็โผล่ขึ้นมาทันที ผมอยากจะถามคุณว่า ทำไมคุณไม่เอาไอเดียนี้มาใส่ในย่อหน้าของ Intro เสียเลยละครับ เนี่ยแหละคือสิ่งที่ควรจะเอามาใส่ใน intro หรือ thesis statement หลายคนมักมีความเชื่อผิดๆ ว่าเขียน thesis statement แค่นี้แหละ พอแล้ว ที่เหลือค่อยไป build เอาในส่วน body แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ จริงๆ แล้วคุณต้อง state ให้ชัดไปเลยว่าคุณต้องการ prove อะไร จุดอ่อนประการที่สองนะครับ ต่อให้คุณแก้ intro หรือ thesis statement ไปตามที่ผมบอกแล้ว คุณก็ต้องบอกได้ด้วยว่า แล้วอะไรล่ะ ที่ทำให้คนประสบความสำเร็จในชีวิตได้ What is the "IT" factor? ก็ต้อง state ลงไปในย่อหน้านี้ด้วย รวบลงไปใน thesis statement ให้ได้ และประโยคก่อนหน้า thesis statement ไปยังประโยคตัว thesis statement ก็กระโดดมากมาย คุณ build เรื่องราวของ Steve Jobs และ Bill Gates ไว้โอเคระดับหนึ่ง พอ build เสร็จปั๊บ คุณก็กระโดดไปเป็น thesis statement ทันที ผมคิดว่าคุณควรจะให้ transition มากกว่านี้นิดนึง เป็น transition เชิง logic (แต่ผมไม่เขียนให้นะ เดี๋ยวจะกลายเป็นไอเดียผมไป) จริงๆ แล้วไอ้พวกบรรดาคำถามที่คุณใส่ไว้ใน conclusion น่าจะเอามาใส่ใน intro ด้วยซ้ำไป แล้วเขียน conclusion ใหม่ที่ทำหน้าที่ recap ตัว essay โดยรวมจะดีกว่านะครับ ข้อบกพร่องของการเขียนในแบบของคุณที่เห็นได้ชัดก็มีอีกอย่างก็คือ You tend to claim things very strongly. ยกตัวอย่างเช่นคุณ claim ว่า "iPhone became the most wanted mobile phone in human history." คุณ claim ได้ แต่คุณต้อง prove ได้ด้วย ต้องอ้างอิง source มาเลย เอาสถิติมายัน แค่จะมาบอกว่าเครื่อง iPhone ขายดีได้ไม่พอนะ ต้องเอายันเลยว่าดีที่สุดในโลก คนต้องการมากที่สุดในโลกจริงๆ ถ้า claim ไม่ได้ ต้องเซฟตัวเองไว้โดยการบอกว่า "...iPhone later became one of the most wanted mobile phones in the world..." อะไรก็ว่าไป หรือแม้นแต่ใน conclusion คุณก็มีแนวโน้มที่จะ claim หนักๆ เช่นจะบอกเลยว่า background, education, and personality ไม่ matter เลย ซึ่งมันจริงเหรอ? แค่นี้คนอ่านเค้าแย้งในใจล่ะว่าไม่จริง เพราะว่า background, education, and personality ก็มีความสำคัญเหมือนกัน คุณควรจะ claim ให้ soft กว่านี้ ว่า สำคัญนะ แต่อาจจะไม่ได้สำคัญที่สุด อะไรทำนองนั้น ถ้าคุณกล้า claim ว่ามันไม่สำคัญเลย คุณก็ต้อง work เหนื่อยหน่อยในตัว essay โดยรวม ที่จะพยายาม convince ให้คนเชื่อตามนั้น (ซึ่งผลลัพธ์ของความพยายามนั้นก็ไม่รับประกันว่าจะสำเร็จหรือเปล่าด้วย) เรื่อง grammar/structure/mechanics เป็นเรื่องรอง เอาไอเดียให้แจ่มก่อนละกันครับ อีกอย่างนะครับ ที่เป็นความเชื่อ การเขียน Essay เนี่ย จริงอยู่ที่ว่าเราเขียน เราก็อยากให้คนอื่นอ่านใช่ไหมครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสอบหรือว่าการเขียนส่งเป็นการบ้าน แต่คุณต้องตระหนักให้สำคัญยิ่งกว่าก็คือ คุณเขียน Essay ให้กับตัวคุณเอง สมองของคุณต้องต่อสู้กับตัวของมันเอง ขัดเกลาตัวเอง นึกว่าเขียนให้กับตัวเองสำคัญที่สุด อย่าไปนึกว่าเขียนเพื่อ impress ผู้อ่านเป็นสำคัญ ผู้อ่านเองเค้าก็ต้องการอ่านมุมมองของคุณ ที่มาจากตัวคุณ ที่สะท้อนความเป็นตัวคุณออกมา ตรงนี้แหละครับ สำคัญที่สุด แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 51 05:02:53 แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 51 04:08:37 แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 51 03:58:13 จากคุณ : เดโช - [ 25 มิ.ย. 51 03:55:58 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอแย้งที่คุณ Tisco fan เขียนมานิดนึงนะครับ เรื่องการใช้ Commas การใช้ commas ในการแยก list รายการ หรือบางครั้งเราเรียกว่า serial commas เนี่ย มีแนวความคิด 2 แนวนะครับ แนวแรกคือ "ใช้" comma ก่อนคำว่า "and" (หรือ "or") แนวคิดที่สองคือ "ไม่ต้องใช้" ซึ่งสำหรับแนวความคิดทั้งสองเนี่ย ก็แย้งกันไปมา จนถึงจุดนึงยอมรับได้ว่า ใช้ได้ทั้งสองแบบ ขึ้นอยู่กับ style ของผู้เขียนนะครับ แต่ทว่า สำหรับผมแล้ว ผมนิยม "ใช้" comma นำหน้าคำว่า "and" ครับ เพราะว่ามันชัดเจน ยกตัวอย่างประโยคนะครับ My favourite types of sandwiches are pastrami, ham, cream cheese and peanut butter and jelly. แบบเนี้ย งงไหมครับ สมมติว่า เราต้องการจะสื่อว่า peanut butter and jelly เนี่ย จัดเป็นอาหารชนิดเดียวกัน เคยเห็นไหมครับ ที่ขายตามห้างอ่ะ ที่มันเป็นอยู่ในขวดโหลเป็นริ้วๆ นะครับ เอามาทากับขนมปัง กินอร่อยๆ ดี ดังนั้นจะให้ชัดเจน ควรใช้ comma แยกทุก item ใส่ comma หลังคำว่า cheese เป็น My favourite types of sandwiches are pastrami, ham, cream cheese, and peanut butter and jelly. ทำให้เราสามารถเข้าใจได้ทันทีว่า อาหารที่เราพูดถึง มี 4 อย่างคือ 1. pastrami 2. ham 3. cream cheese 4 . peanut butter and jelly จากคุณ : เดโช - [ 25 มิ.ย. 51 04:45:04 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เรื่องandขออธิบายนะครับว่าการใช้commaหน้าandจะใช้ได้ในบางกรณีย์ และใช้ไม่ได้ ในบางกรณีย์ ส่วนการไม่มี comma หน้า and นี่จะใช้ได้ทุกกรณีย์ ดังนั้นถ้าเราไม่ใช้commaหน้าandเราจะถูกตลอดเวลา แต่ถ้าเราใช้commaหน้าandเราจะถูกบ้างผิดบ้างแล้วแต่รูปประโยค ดังนั้นอาจารย์เค้าเลยสอนให้ไม่ใช้commaให้เป็นนิสัยจะได้หมดห่วงเร์่องจะถูกหรือไม่ถูกครับ http://grammar.ccc.commnet.edu/grammar/ A comma is also correct when and is used to attach the last item of a serial list, although many writers (especially in newspapers) will omit that final comma:    * Ulysses spent his summer studying basic math, writing, and reading comprehension. When a coordinating conjunction is used to connect all the elements in a series, a comma is not used:    * Presbyterians and Methodists and Baptists are the prevalent Protestant congregations in Oklahoma. In most of their other roles as joiners (other than joining independent clauses, that is), coordinating conjunctions join two sentence elements without the help of a comma.    * Hemingway and Fitzgerald are among the American expatriates of the between-the-wars era.    * Hemingway was renowned for his clear style and his insights into American notions of male identity.    * It is hard to say whether Hemingway or Fitzgerald is the more interesting cultural icon of his day.    * Although Hemingway is sometimes disparaged for his unpleasant portrayal of women and for his glorification of machismo, we nonetheless find some sympathetic, even heroic, female figures in his novels and short stories. จากคุณ : Tisco fan - [ 25 มิ.ย. 51 10:34:47 ]

ความคิดเห็นที่ 5 งั้นผมก็ขอแย้งเต็มๆ เลยละกันนะครับ เพราะสำนักผมเค้าสอนให้ "ใช้" comma หน้า and ครับ คือต้องเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่า ถ้ามี 2 สิ่ง เราจะไม่ใช้ comma เช่น (ยกตัวอย่างประโยคข้างบนนะครับ) Hemingway and Fitzgerald are among the American expatriates of the between-the-wars era. ตัวอย่างประโยคนี้ มี สองคน ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ comma ก็ถูกแล้วครับ การใช้ comma หน้า and (หรือ or) ใช้ก็เมื่อมี 3 items ขึ้นไป ครับ คุณบอกว่า "ใช้ comma ผิดบางกรณี" และ "ไม่ใช้ comma ถูกทุกกรณี" กรุณายกตัวอย่างประกอบหรืออธิบายเพิ่มเติมด้วยครับ สำหรับ URL link ที่คุณให้ผม ผมคงไ่ม่มีเวลาไป browse ทั้งเว็บเืพื่อหาข้อมูลหรอกนะครับ ยังไงรบกวนชี้ให้ชัดกว่านี้จะดีกว่านะครับ สำหรับคำอธิบายภาษาอังกฤษที่คุณโพสมา (ไม่ทราบว่าเอามาจากเว็บเดียวกันหรือเปล่า) คือจะบอกว่า อ่านแล้วก็ไม่เห็นว่าเค้าจะ against การใช้ comma ตามที่คุณ claim มาตรงไหน ถ้าจะเอา facts มันยันกันเลยนะครับ คุณบอกว่า "ไม่ใช้ comma ถูกทุกกรณี" งั้นคุณลองย้อนกลับไปดูประโยคตัวอย่างของผมใน คคห. ที่ 3 นิดนึงนะครับ ถ้าไม่ใช้ comma ในกรณีนี้ เห็นได้ชัดครับว่า "สับสนแน่" ว่า items รายการอาหาร มีกี่อย่างกันแน่ นี่คือ fact ครับ ไม่ได้จำมาลอยๆ ข้อเท็จจริงมันมีอยู่อีกว่า ขึ้นชื่อว่าเป็นภาษาแล้วเนี่ย มันก็ย่อมที่จะมีช่องโหว่หรือข้อยกเว้นมากมายเช่นกัน ตัวอย่างประโยคที่ผมยกมานั้น เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า ถ้าไม่ใช้ comma จะสับสน และจริงๆ แล้วมันก็มีกรณีเหมือนกัน ที่ว่า ถ้าใช้ comma แล้วจะสับสน เช่น To my mother, Ayn Rand and God. สำหรับคุณ คุณยึดหลักว่า "ไม่ใช้" comma หน้า and คุณก็อาจจะมองว่าเป็น 3 items สินะครับ แต่ถ้าผมจะบอกว่า สมมติว่า แม่ของฉัน (my mother) มีชื่อว่า Ayn Rand ล่ะครับ จะทำยังไง คนอ่านก็จะงงใช่ไหมครับ ว่าจริงๆ แล้วคือ 2 หรือ 3 สิ่งกันแน่ ขั้นแรกคือ แก้โดยการใส่ comma หน้า and To my mother, Ayn Rand, and God. ตรงนี้คุณอาจจะมองว่า นี้ไง ก็ยังงงอยู่ดีว่า 2 หรือ 3 สิ่ง โดยหลักการแล้ว เค้าจะหลีกเลี่ยง ambiguity โดยการทำให้เคลียร์กว่านี้ได้ To my mother, to Ayn Rand, and to God. ให้ชัดไปเลยว่ามี 3 สิ่ง หรือ To my mother, Ayn Rand, and to God. ก็ได้ ก็จะชัดเจนว่ามี 2 สิ่ง และ Ayn Rand ทำหน้าที่ขยาย my mother ว่าชื่ออะไร แล้วก็ยังมีกรณีการสับสนอีกเยอะเหมือนกันที่แก้ยาก แต่ผมยังยืนยันว่าการใช้หรือไม่ใช่ comma ส่วนหนึ่งเป็น preference และการที่คุณจะ claim ว่า ถ้าใช้ comma แล้วมีโอกาสผิด และ ไม่ใช้จะถูกทุกกรณี คำกล่าวนี้ไม่จริง เพราะเห็นจากตัวอย่างชัดเจนแล้วว่า มีโอกาสก่อให้เกิดการสับสนได้ทั้งสองแบบ แต่สำนักผม สอนให้ใช้ comma และถ้าเมื่อไหร่เกิดการสับสน เราสามารถหาวิธีแก้ความสับสนนั้นได้ดีพอสมควรครับ Source: http://en.wikipedia.org/wiki/Serial_comma แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 51 18:18:28 จากคุณ : เดโช - [ 25 มิ.ย. 51 18:16:53 ]

ความคิดเห็นที่ 6 นึกว่าตัวอย่างมัน clear แล้วซะอีก ประโยคพวกที่ผมlist มันมาจากหลักการใช้ preposition ที่ทำ link ไว้ครับ ผมไม่ได้แต่งเอง ที่จริงมีหลาย web ครับที่อธิบายอย่างนี้ ประโยคแรกครับ ในลักษณะนี้มีหรือไม่มี comma ก็ถูกด้วยกันทั้งคู่ Ulysses spent his summer studying basic math, writing, and reading comprehension.- ถูก Ulysses spent his summer studying basic math, writing and reading comprehension.- ถูก ประโยคลักษณะที่สอง ไม่มี comma จะถูก ถ้าใส่ comma จะผิด Presbyterians and Methodists and Baptists are the prevalent Protestant congregations in Oklahoma. - ถูก Presbyterians, and Methodists, and Baptists are the prevalent Protestant congregations in Oklahoma. - ผิด ประโยคลักษณะที่สาม,สี่,หก ไม่มี comma จะถูก ถ้าใส่ comma จะผิด Hemingway and Fitzgerald are among the American expatriates of the between-the-wars era - ถูก Hemingway, and Fitzgerald are among the American expatriates of the between-the-wars era - ผิด Hemingway was renowned for his clear style and his insights into American notions of male identity.- ถูก Hemingway was renowned for his clear style, and his insights into American notions of male identity - ผิด Although Hemingway is sometimes disparaged for his unpleasant portrayal of women and for his glorification of machismo, we nonetheless find some sympathetic, even heroic, female figures in his novels and short stories. .- ถูก Although Hemingway is sometimes disparaged for his unpleasant portrayal of women, and for his glorification of machismo, we nonetheless find some sympathetic, even heroic, female figures in his novels and short stories. - ผิด ประโยคที่ห้าเป็นตัวอย่างของ or ผมเลยไม่พูดถึง อย่างนี้น่าจะ clear ว่าบางกรณีย์ใช้ comma แล้วมันจะผิด เดี๋ยวจะหาว่าำไม่ fair เรื่องประโยคที่คุณเดโชยกตัวอย่างมา To my mother, Ayn Rand, and to God อันนี้มันเป็นฟอร์ม standard ที่ใช้ comma ค่อมเพื่อขยาย noun, comma ตัวนี้ไม่มีความสัมพันธ์กับ and "noun", "ส่วนขยาย noun", "phase ที่ตามต่อ" and มันไปอยู่ตรงนั้นด้วยความบังเอิญเพราะมันเป็นส่วนของ "phase ที่ตามต่อ" ลองเอา phase ที่ไม่มี and เข้าไปแทนซิครับจะพบว่า comma ก็ยังอยู่ตรงนั้นอยู่ดี To my mother, Ayn Rand, who has just passed away. To my mother, Ayn Rand, my most favorite person in the world. ฟอร์ม ", ส่วนขยาย noun,"  นี่เราจะไปหย่อนไว้ที่ไหนก็ได้ในประโยค มีข้อจำกัดเพียงว่ามันต้องไปอยู่ข้างๆ noun ที่มันต้องการขยาย แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 51 22:17:36 จากคุณ : Tisco fan - [ 25 มิ.ย. 51 21:58:15 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมว่าคุณ Tisco Fan คงเข้าใจอะไรผิดแล้วล่ะ สำหรับประโยคที่ 3, 4, และ 6 นั้น ถ้าใส่ comma แล้วจะผิด ตรงนี้ ผมเห็นด้วย!!! นั่นก็เพราะว่า ตามหลักแล้ว ถ้ามี 2 items เค้าไม่ใส่ comma กันนะครับ (ไม่ว่าจะสำนักไหนก็แล้วแต่) Hemingway and Fitzgerald are among the American expatriates of the between-the-wars era. Hemingway was renowned for his clear style and his insights into American notions of male identity. Although Hemingway is sometimes disparaged for his unpleasant portrayal of women and for his glorification of machismo, we nonetheless find some sympathetic, even heroic, female figures in his novels and short stories. พูดง่ายๆ คือ เค้าไม่ได้ถกเถียงกันในเรื่อง 2 items นะครับ เค้าถกเถียงกันในเรื่อง 3 items ขึ้นไปนะครับ อย่างงนะครับ -_-" สำหรับกรณีที่ผมยกตัวอย่างขึ้นมา คุณเข้าใจถูกเชิง grammar (ซึ่งผมก็เข้าใจอยู่แล้ว ไม่เห็นจะต้องมาอธิบายผมเลย) แต่คุณจับประเด็นของตัวอย่างนี้ผิดทางไปนิดนึงนะครับ ประเด็นของตัวอย่างนั้นก็คือ ถ้าใส่ comma หน้า and แล้วก็ยังอาจจะทำให้คนสับสนได้เหมือนกัน มันเป็นเรื่องของการสื่อความหมายระหว่าง ผู้เขียน กับ ผู้อ่านครับ คุณต้องสมมติสถานการณ์ออกมา 2 สถานการณ์ กล่าวคือ ถ้า ผู้เขียน ต้อการสื่อว่ามี 3 items คือ 1. my mother 2. Ayn Rand 3. God แล้วเขียนออกมาว่า To my mother, Ayn Rand and God. (แบบไม่มี comma หน้า and) เมื่อมีคนมาอ่าน สมมติว่ามีผู้อ่าน 2 แบบ พวกแรกคือพวกไม่นิยม serial comma (เช่นคุณ Tisco Fan) มาอ่านปุ๊บ ก็จะเข้าใจทันทีว่ามี 3 items แต่ถ้ามีผู้อ่านที่เค้านิยมแบบ serial comma เค้าก็จะตะหงิดๆ แต่เค้าก็จะพอเข้าใจได้ว่า อ๋อ สงสัยผู้เขียนคงเป็นพวกไม่นิยม serial comma ก็ยังคงเข้าใจว่ามี 3 items แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ผู้เขียนต้องการสื่อว่ามี 2 items คือ 1. my mother (ชื่อว่า Ayn Rand) 2. God แล้วดันไปเขียนว่า To my mother, Ayn Rand and God. ผู้อ่านพวกไม่นิยม serial comma จะเข้าใจผิดทันที คิดว่ามี 3 items เค้าจึงแนะวิธีแก้ไข โดยการใส่ comma หน้า and เป็น To my mother, Ayn Rand, and God. แต่ทว่า ทำแบบนี้แล้ว ก็ยังไม่ถูกอีก เพราะว่าเดี๋ยวพวกนิยม serial comma มาอ่านแล้วเค้าจะเข้าใจผิด คิดว่ามี 3 items เค้าจึงแนะนำว่า ให้เพิ่มคำว่า to ไปเลย กลายเป็น To my mother, Ayn Rand, and to God. ซึ่งถ้าทำแบบนี้แล้วจะชัดเจนทันทีว่ามี 2 items และ Ayn Rand ทำหน้าที่ขยาย my mother หรือแม้นว่าจริงๆ แล้วมี 3 items ก็สามารถใช้หลักการเดียวกันในการเขียนได้เป็น To my mother, to Ayn Rand, and to God. (เหมาะสำหรับพวกนิยม serial comma) หรือ To my mother, to Ayn Rand and to God. (เหมาะสำหรับพวกไม่นิยม serial comma) ลองเข้าไปอ่านใน wiki ดูครับ มีข้อมูลเยอะแยะเลย ส่วนตัวผมได้ยอมรับไปแ้ล้วว่า ทั้งแบบ ใส่ comma และ ไม่ใส่ comma (ย้ำว่าต้อง 3 items ขึ้นไปนะครับ อย่างงนะ) สามารถส่งผลให้เกิดความสับสนได้ทั้งสิ้น ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องของ preference ขึ้นอยู่กับความพอใจและ style ส่วนบุคคล แม้นแต่สำนักดังๆ ของโลกเค้ายังถกเถียงกันเลย แต่หวังว่าคุณคงจะเห็นภาพและเข้าใจได้นะครับว่า การที่จะมาบอกว่า "ไม่ใช้ serial comma แล้วถูกทุกกรณี" นั้น ไม่จริง เห็นด้วยจากตัวอย่างเกี่ยวกับอาหารที่ผมได้ยกไว้ก่อนหน้านี้นะครับ แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 51 01:41:48 แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 51 00:20:32 จากคุณ : เดโช - [ 25 มิ.ย. 51 23:00:47 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ้อ้อ ลืมพูดเกี่ยวกับประโยคที่สองครับ Presbyterians and Methodists and Baptists are the prevalent Protestant congregations in Oklahoma. - ถูก Presbyterians, and Methodists, and Baptists are the prevalent Protestant congregations in Oklahoma. - ผิด อันนี้ผมก็เห็นด้วยอีกครับ กล่าวคือ ถ้ามี 3 items แต่ประมาณว่าขยันจัด ใช้ and เชื่อมมันไปตลอดแบบนั้น เค้าก็บอกว่า "ไม่ต้องใช้" comma ครับ แต่ถ้าไม่มี and เชื่อมตลอด แต่เชื่อมเฉพาะก่อนตัวสุดท้าย พวกนิยม serial comma เค้าก็บอกว่าให้ใช้ครับ เป็น Presbyterians, Methodists, and Baptists are the prevalent Protestant congregations in Oklahoma. - ถูกเหมือนกันจ้า แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 51 23:05:13 จากคุณ : เดโช - [ 25 มิ.ย. 51 23:04:53 ]

ความคิดเห็นที่ 9 "ผมว่าคุณ Tisco Fan คงเข้าใจอะไรผิดแล้วล่ะ" อ่านแล้วไม่เข้าใจครับว่าผมเข้าใจผิดอย่างไร ผมยกตัวอย่างกรณีย์การใช้ comma ที่ผิดซึ่งคุณก็ยอมรับว่ามันผิด แล้วคุณก็ยกตัวอย่างกรณีย์ในรูปประโยคอื่นมันก็ใช้ให้ถูกได้ ดังนั้นคำพูดที่ผมบอกว่า "เรื่องandขออธิบายนะครับว่าการใช้commaหน้าandจะใช้ได้ในบางกรณีย์ และใช้ไม่ได้ ในบางกรณีย์" มันเข้าใจผิดอย่างไรครับ? งง เรื่อง To my mother, Ayn Rand, ผมจะยกตัวอย่างเปรียบเทียบให้นะครับ สมมุติผมบอกว่า "I" ควรจะอยู่หลัง period แล้วผมยกตัวอย่างว่า It's summer.  I like it. แล้วบอกว่าเห็นไม๊ "I" อยู่หลัง period แล้วดูดี จริงๆแล้ว I ไม่ได้มีส่วนอะไรเกี่ยวกับ period เลย ไม่ว่าประโยคที่สองจะเขียนว่าอะไรประโยคแรกมันก็ต้องมี period อยู่แล้วเพราะมันเป็นไวยากรที่ใช้จบประโยค จะกำจัด period ได้มีทางเดียวคือต้องยกคำที่มันผูกติดคือ It's summer ออกไป ในทางเีดียวกัน To my mother, Ayn Rand, มันเป็นไวยากรที่สร้างความสัมพันธ์ระหว่าง "mother" กับ "Ayn Rand" ไม่ว่าจะเอา phase อะไรมาต่อท้ายมันก็ต้องมี comma อยู่แล้ว phase จะขึ้นต้นด้วยคำว่าอะไรก็ตาม comma มันไม่เปลี่ยนแปลงเพราะมันผูกติดอยู่กับ คำข้างหน้า ไม่ใช่ phase ที่ตามหลัง (ตามที่ได้ยกตัวอย่างไปแล้ว) ไวยากรนี้มันไ่ม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคำว่า and เลย จะกำจัด comma ได้มีทางเดียวคือต้องยกคำที่มันผูกติดคือ Ayn Rand ออกไป แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 51 04:01:42 จากคุณ : Tisco fan - [ วันสุนทรภู่ 03:48:10 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คืองี้ครับ ที่ผมบอกว่าคุณเข้าใจผิดนะ ก็คือ เป็นอันที่รู้กันอยู่แ้ล้ว ไม่ว่าจะสำนักไหนก็แล้วแต่ เค้าเห็นพ้องต้องกันแล้วว่า ถ้ามี 2 items แล้วเชื่อมด้วย and "ไม่ต้องใส่" comma หน้า and แต่ตัวอย่างที่คุณยกมาน่ะ มีตัวอย่างที่เป็น 2 items ซะตั้งหลายตัว ผมเลยสงสัยว่าคุณงงอะไรหรือเปล่า เรื่องของ serial comma น่ะ เค้าหมายถึง 3 items ขึ้นไปนะคร้าบ ดังนั้นตัวอย่างที่คุณยกมาเพื่อเสริมไอเดียที่ว่า "ใช้ comma หน้า and แล้วผิดบางกรณี" จึงควรเป็นตัวอย่างของ 3 items ขึ้นไป แล้วพอใส่ comma หน้า and ปั๊บ ก็จะส่งผลเสียต่อประโยค น่าจะเหมาะสมกว่านะครับ แต่ผมก็เข้าใจนะ ที่คุณยกตัวอย่าง 2 items ขึ้นมานั้น คล้ายๆ กับจะบอกว่า กันพวกขี้หลงขี้ลืม ที่เห็น and ปั๊บก็ใส่ comma ยันเลย คุณเลยบอกว่า ถ้างั้นงดใส่ comma หน้า and สะให้รู้แล้วรู้รอดไป เผื่อกรณี 2 items (หรือกรณี 3 items แต่มี and เชื่อมหลายๆ ตัว) โผล่ขึ้นมาเมื่อไหร่ จะได้ไม่ทำพลาด ประมาณนั้นใช่ไหมครับ เอาล่ะ ไม่ว่าจะกรณี 2 items หรือ กรณีตัวอย่าง "To my mother,..." ที่ผมยกขึ้นมานั้น เราทั้งสองจะมองกันคนละมุมอย่างไรก็แล้วแต่ เราคงเห็นพ้องต้องกันได้ใช่ไหมครับว่า มีความเป็นไปได้เหมือนกัน ที่ใช้ comma แล้ว เกิดความสับสนได้ แต่ก็มีทางแก้ไขให้ชัดเจนขึ้นได้เช่นกันตามแบบฉบับของแต่ละสำนักความเชื่อ (แต่สำหรับกรณี "To my mother,..." ผมไม่คุยต่อล่ะ เพราะว่าเหมือนกับคุยกันคนละเรื่องเดียวกัน ถ้าอยากจะเคลียร์ก็ลองไปดูใน wiki แล้วกันนะครับ ว่าทำไมเค้าถึงยกตัวอย่างนี้ขึ้นมา) แต่ทว่า ผมเองก็ต้องขออนุญาตฝากย้ำไว้อีกครั้งละกันว่า แม้นว่า "ใช้" serial comma อาจจะก่อให้เกิดข้อผิดพลาดหรือความสับสนได้ในบางกรณี แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า "ไม่ใช้ serial comma แล้วจะถูกทุกกรณีนะครับ" ดั่งตัวอย่างที่ผมได้เสนอไว้แล้วในเรื่องของรายการอาหาร สิ่งที่ผมต้องการจะสื่อก็คือ ทั้งสองแบบ ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนมากกว่า ว่าจะยึดสำนักไหน แต่ขออ้างอิงจาก wiki นิดนึงละกัน ถ้าว่ากันตาม American Style แล้ว การใช้ serial comma เนี่ย "เกือบ" จะเป็น standard ไปแล้ว ดังนั้นถ้าน้องๆ พี่ๆ เพื่อนๆ ท่านใด เตรียมตัวจะไปสอบ TOEFL ซึ่งเป็นแบบฉบับอเมริกัน ก็พึงระวังไว้ให้ดีว่าอยากจะยึดแบบไหน ขอสรุปคร่าวๆ ไว้ตรงนี้นิดนึงละกัน สำนักที่นิยมใช้ serial comma เนี่ย เค้ายึดหลักคร่าวๆ ดังนี้ครับ 1. ถ้าเชื่อม 2 items ไม่ต้องใช้ comma หน้า and 2. ถ้าเรียงรายการ 3 items ขึ้นไป ให้ใส่ comma แบ่งทุกๆ item ให้ชัดเจน 3. ถ้ามีการเชื่อม and แบบต่อเนื่อง เช่น item1 and item2 and item3 แบบนี้ไม่ต้องใช้ comma 4. หากเกิดความสับสน (ดังเช่นในตัวอย่าง To my mother,...) เราสามารถหาทางหลีกเลี่ยงความสับสนนั้นได้โดยการแจก to ไปกับ item จริงแต่ละตัว (หรือ preposition อื่นใดตามความเหมาะสม) สำหรับสำหนักที่ไม่นิยมใช้ serial comma ก็มีหลักคร่าวๆ ดังนี้ 1. ถ้าเชื่อม 2 items ไม่ต้องใช้ comma หน้า and (อันนี้ ทั้งสองสำนักเห็นพ้องต้องกัน) 2. ถ้าเรียงรายการ 3 items ขึ้นไป "ไม่ต้อง" ใช้ comma คั่นสองรายการสุดท้าย หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ไม่ต้องใส่ comma หน้า and (ตรงนี้จะเป็นจุดต่างระหว่างสองสำนัก) 3. ถ้ามีการเชื่อม and แบบต่อเนื่อง เช่น item1 and item2 and item3 แบบนี้ไม่ต้องใช้ comma (อันนี้ทั้งสองสำนักเห็นพ้องต้องกันอีกล่ะ) 4. ในกรณีที่อาจจะก่อให้เกิดความสับสน ดั่งเช่นในตัวอย่างรายการอาหารที่ผมยกขึ้นมา อนุโลมให้ใช้ serial comma ได้เพื่อกันความสับสนนั้น (อ้าว... ไหงกลายเป็นใช้ serial comma ขึ้นมาซะงั้นอ่ะ >_<) ตามนั้นครับ ใครถนัดแบบไหนก็เลือกแบบนั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละคนนะครับ จากคุณ : เดโช - [ วันสุนทรภู่ 04:59:02 ]