ความคิดเห็นที่ 1 ผมว่ามันมีสองขั้นตอนนะครับ 1.การเสนอฝีมือแปล คือก่อนจะตกร่องปล่องชิ้นกันได้ คนจะพิมพ์เขาก็ต้องแน่ใจก่อนว่าคนแปลนั้นมือถึง สามารถทำงานร่วมกันได้ เคยเห็นคนเขาแนะนำน้องๆที่เข้ามาถามแบบคุณนี่แหละว่าให้แปลสั้นๆสักสี่ห้าหน้าแล้วส่งไปให้สำนักพิมพ์เขาตรวจสอบ ถ้าเขาพอใจก็ติดต่อกันต่อไปได้ 2.การหาหนังสือมาแปล น่าจะเป็นขั้นต่อจากนั้น จริงๆแล้วผมก็เคยได้ยินมาอีกเหมือนกันว่า หนังสือดังๆนั้นจะมีแมวมองของสำนักพิมพ์จองคอยติดต่อซ์อลิขสิทธิ์การแปลไว้แล้ว แล้วเขาจะมามองหานักแปลที่ไว้ใจได้ให้แปล ในกรณีที่เราอยากแปลหนังสือเล่มใดเล่มหนึ่ง ผมก็ว่าบอกเขาไปเลยว่าอยากแปลเล่มนี้ เขาเห็นด้วยไหม ถ้าเขาอยากให้แปล เรื่องลิขสิทธิ์เขาคงดำเนินการให้กระมังครับ ที่ตอบมานี้เป็นเรื่องฟังเขาเล่าว่าทั้งนั้น โปรดรอคนต่อๆไปมาชี้แจง แบบว่าผมไม่มีประสบการณ์ตรงครับทั้งในข้อ 1 และ 2 อ้อ ที่ผมว่ามานั้นเป็นวิธีการที่ขึ้นกับฝีมือที่คนในนี้เขาเรียกว่า know what ซึ่งก็จะมีอีกวิธีหนึ่งเรียกว่า know who คือเรารู้จักคนที่มีสิทธิหน้าที่มีอิทธิพลในวงการให้เขาสนับสนุน เรื่องนี้ก็ไม่มีประสบการณ์ตรงอีกเหมือนกัน ทั้งสองวิธีนี้ในความเห็นของผมมันก็แล้วแต่จังหวะเวลา คงไม่มีวันจะพรากจากกันได้ เห็นหัวข้อนี้ คุณกระต่ายขาวอาจจะตาลุก รีบโดดลงมาแจมโดยเร็ว เป็นประเด็นฮอทของแกน่ะครับ ในขณะที่ก็จะมีอีกฝ่ายหนึ่งที่เห็นตรงข้ามกันคอยขัดคอแก สองฝ่ายนี้มาเจอกันเมื่อไร ถึงแม้จะไม่ดุเด็ดเผ็ดมันเท่า พันธมิตร VS นปก แต่ว่าก็ไม่แพ้กันเท่าไร จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 21 มิ.ย. 51 09:37:19 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่ต้องสนใจว่ามีคนแปลหรือยังหรอกครับ   ผมเคยโดนสำนักพิมพ์หนึ่งส่งต้นฉบับที่เขาจ้างนักแปลท่านอื่นแปลและพิมพ์จำหน่ายไปแล้วมาให้ผมแปลเพื่อทดสอบ   เป็นทำนองว่าทำได้ดีเท่ากับหรือดีกว่าเจ้าประจำของเขาไหม   เอาเป็นว่าลองคิดใหม่ดีกว่าครับ   คือแปลแนวที่คุณถนัดแล้วหาสำนักพิมพ์ที่เขาทำหนังสือแนวนั้นส่งไปให้เขาดูฝีมือคุณ จากคุณ : Tanis - [ 21 มิ.ย. 51 19:35:17 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อีกหนึ่ง know ที่ต้องรู้ก่อนอื่นสุดคือ know me ถ้าไม่รู้ตัวเองก็ยากครับ จากคุณ : ลุดวิก - [ 21 มิ.ย. 51 23:14:11 ]

ความคิดเห็นที่ 4 He knows no fear. He knows no danger. He knows nothing. Johnny English จากคุณ : บูมเมอร์ - [ 22 มิ.ย. 51 01:35:27 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ฮะแฮ้ม...ที่ทั่นประธานกล่าวว่า "....เป็นประเด็นฮอทของแกน่ะครับ..." ขอบอกว่า "It's no longer a hot issue for me." เพราะอะไร? เพราะว่า ตอนนี้เรายกเลิก login name แล้วปิด blog ไปแล้ว เนื่องจาก ตัวเองไปพบแหล่งขุมทรัพย์ คือตัวเองกลายเป็นเซียน download ไปเสียแล้ว คือเราพัฒนาฝีมือการใช้ google จนกระทั้งสามารถหาของฟรีดีๆได้เกือบทุกอย่างภายใต้ดวงอาทิตย์ ตั้งแต่สากระเบือยันเรือรบ..เอ้ย ตั้งแต่ ebooks, software, audio books, soundtrack movies, pornographic videos ....555+++ มันสุดๆเยย... เลยตอนนี้วันๆเราได้แต่ download หนังสือเรียนภาษาอังกฤษ มาเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติม เรียนกันแบบยกเครื่องใหม่หมดเลย...เรียนเอามัน....บางทีเรียนมากไปก้อเวียนหัว ก้อเปลี่ยนเป็นหัดใช้ software ใหม่ๆที่ไม่เคยใช้ หาวิธีเล่นคอมพิวเตอร์กับเล่นเน็ตพลิกแพลง ...อ่านหนังสือโป๊ เอ้ยหนังสือเรื่องฝึกสมาธิบ้าง โยคะบ้าง กำลังภายใน กับวรยุทธ์บ้าง แล้วบางทีจะเรียนศาสตร์การดูดวงต่อไป....555+++.... ที่ยกเลิก login name ลบ blog ตัวเอง แล้วสลายร่าง เหตุผลก็คือว่า มันเป็นการบังคับตัวเอง ให้เขียนกระทู้ หรือตอบกระทู้ให้น้อยลง เพื่อทุ่มเวลาทั้งหมดในการเรียนวรยุทธ์เพิ่มเติม....นั่นเอง จากคุณ : white rabbit - [ 22 มิ.ย. 51 02:02:16 A:124.121.94.60 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 ส่วนเรื่องติดต่อสำนักพิมพ์นั้น เรามีอะไรที่สนุกกว่าเรื่องเดิมๆ (ที่เคยเป็น hot issue เสียอีก) รับรองว่าสนุกกว่าเดิมหลายเท่าแน่ๆ ... นั่นก็คือว่า เราเสนอ project (จริงๆแล้วเป็นกระบวนการ หรือกระบวนความคิดเสียมากกว่า) ว่าทำอย่างไรสำนักพิมพ์จึงจะลดต้นทุนได้ในกระบวนการผลิต ซึ่งจะรวมถึงขั้นตอนหรือวิธีการใหม่ๆในการรับสมัครนักแปลด้วย) เราเพิ่งส่งเนื้อหาสาระเบื้องต้นไปให้ทางผู้บริหารระดับสูงของสำนักพิมพ์พิจารณา พวกเขาตอบกลับมาว่า เป็นวิธีการที่แปลก และใหม่ดี เผอิญเรายังมีงาน edit หนังสือค้างอยู่ ก็เลยยังเขียน project ต่อไม่หมด แต่ถ้าแนวคิดในส่วนที่เหลือได้รับการยอมรับโดยหลักการ จากสำนักพิมพ์แล้ว และ implement project ได้จริงๆ สิ่งที่จะน่าจะเกิดขึ้นได้ ก็คือ สำนักพิมพ์สามารถโฆษณาบนเวปของเขาไว้ permanently เลย เป็นข้อความว่า “ต่อไปนี้ ใครอยากแปลหนังสือกับสำนักพิมพ์ของเรา ก็แค่ walk into the office ของสำนักพิมพ์ เข้ามาคุยกันได้เลย มาได้ทุกวัน พอคุยเสร็จ ทำแบบทดสอบ แล้วรู้ทันทีเลย ว่าได้หรือไม่ได้หนังสือไปแปล ไม่ต้องยุ่งยากเหมือนระบบเก่าๆ” ถ้า project plan นี้เป็นที่ยอมรับ เราจะมาบอกข่าวดีให้ นั่นก็คือว่า ใครอยากได้งานแปลทำ ก็ไปสมัครได้เลย แต่ถ้า project plan นี้ ไม่เป็นที่ยอมรับ เราก้อ จะมาบอกข่าวดียิ่งไปกว่านั้นให้ นั่นก็คือว่า “เราฝึกศาสตร์สมาธิ ลมปราณ นั่งทางใน และดูดวงสำเร็จแล้ว ใครอยากดูดวงแม่นๆ ให้มาหาเราได้ เราจะช่วยปัญหาเรื่องเงิน เรื่องความรัก เรื่องสุขภาพ ให้พวกท่านได้ ให้พวกท่านอายุเป็นร้อยๆปี แต่ยังหน้าเด้ง เอ้ยหน้ายังเด็กแบบจางซันฟงตอนอายุร้อยปีได้...555++++” จากคุณ : white rabbit - [ 22 มิ.ย. 51 02:05:15 A:124.121.94.60 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 สืบเนื่องจาก คคห. 1 ของคุณแอ๊ด ปากเกร็ดค่ะ ขอเล่านิดอ่าค่ะว่าดิฉันก็เคยทำในแบบที่ 1 แต่แล้วผู้ว่าจ้าง(ที่คิดว่าจะจ้างแล้วเสียอีก)ก็ดันอันตรธานหายไปในกลีบเมฆเมื่อเราส่งงานไปให้เขาดูซะงั้น เลยแอบคิดไปเองว่าหรือฝีมือวิทยายุทธเรามันเห่ยขนาดนั้นเลยหรือคะ เหอะๆๆ คิดแล้วก็ช้ำเลยมุ่งหน้าไปยังเจ้าต่อไป (ซึ่งก็เป็นเจ้าที่บอกให้เรามาหาหนังสือแล้วแปลไปให้เค้าดูนี่ล่ะค่ะ) แต่เท่าที่อ่านคคห.ของทุกคนก็เป็นประโยชน์ดีนะคะ :) อ้อ คุณกระต่ายขาวคะ เรื่องที่ว่า -- >“ต่อไปนี้ ใครอยากแปลหนังสือกับสำนักพิมพ์ของเรา ก็แค่ walk into the office ของสำนักพิมพ์ เข้ามาคุยกันได้เลย มาได้ทุกวัน พอคุยเสร็จ ทำแบบทดสอบ แล้วรู้ทันทีเลย ว่าได้หรือไม่ได้หนังสือไปแปล ไม่ต้องยุ่งยากเหมือนระบบเก่าๆ” เมื่อไหร่สำเร็จรบกวนบอกด้วยนะคะ จะรีบปรี่ไปหาเลยค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ จากคุณ : J - o - u - l - e - [ 22 มิ.ย. 51 21:05:28 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ว่าจะมาดูคุณกระต่ายขาวซะหน่อย เลิกตอบกระทู้แล้วหรือขอรับ ถึงเจ้าของกระทู้ เพื่อนเราคนนึงก็เจออะไรคล้ายๆ กับเจ้าของกระทู้ แต่กลายเป็นว่าโดนหลอกให้แปลฟรี เพราะคนที่ให้ทดลอง เอางานที่เขาแปลติดขัด บอกว่ามาให้ทดสอบ แล้วหายต๋อมไปเลย ที่แสบมากคือ ทั้งคู่เป็นเพื่อนที่รู้จักกันตั้งแต่สมัยยังเด็กๆ จากคุณ : Canossa - [ 23 มิ.ย. 51 15:53:23 ]