ความคิดเห็นที่ 1 เอาไปใส่หม้อต้มทำ stew หรือเปล่าล่ะ?  ไม่บอกนี่ ว่าจะเอาไปทำอะไร...แล้วใครจะกล้าเสนอหน้า...เอ้ยเสนอตัวได้ล่ะ... เราก้อเป็นนักแปลวรรณกรรมหน้าใหม่นะ...แปลได้ 4 เล่ม สำนักพิมพ์เกือบเจ้งแน่ะ...!!!..เลยต้องเลิกแปล...555+++....จะเอาไหมล่ะ แต่ต้องขอเตือนก่อนนะ ว่าเราเนื้อหนังมังสากระดูก ถ้าไปทำ stew แล้วไม่อร่อยหรอก... เอ้าไปดูเราปั่นกระทู้เรื่องกระบวนการที่เราใช้ในการเรียนการแปล http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6753328/K6753328.html แก้ไขเมื่อ 30 มิ.ย. 51 19:13:51 จากคุณ : agelesstansy - [ 30 มิ.ย. 51 19:09:33 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แนะนำให้ไปตามหาเจ๊ lilymay จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 30 มิ.ย. 51 23:36:09 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สวัสดีค่ะพี่ๆ ไม่เอาไปทำ สตู ค่ะรับรอง พี่ agelesstansy มีงานแปลเป็นเล่มๆ ที่หนูพอจะไปหามาให้นายดูเป็น ตย. หรือเปล่าคะ? ขอบคุณค่ะ พี่แอ๊ด ปากเกร็ด...ตัวพี่เองไม่รับงานแปลบ้างเหรอคะ? จากคุณ : Sw2Robot - [ 2 ก.ค. 51 18:25:09 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ร้อยแก้วหรือร้อยกรอง แปลภาษาอะไรเป็นภาษาอะไรครับ วรรณกรรมประเภทไหน ระดับไหน (โนเบล?) แปลแล้วเอาไปทำอะไรล่ะ เอาไปให้รุ่นพี่ดู หรือ เอาไปพิมพ์ขายครับ งานวรรณกรรมขายยาก จะมีคนสนใจแปลหรือ นอกจากนักวิชาการ จากคุณ : ลุดวิก - [ 3 ก.ค. 51 12:50:48 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มาจากไหนเนี่ย มาถึงก็ยิงคำถามเป็นชุด ว้า เดี๋ยวไก่ตื่นหมด จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 3 ก.ค. 51 13:48:54 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เวลาผมไปร้านหนังสือแล้วไปชะโงกดูตรงชั้นที่จ่าหัวว่า วรรณกรรมแปล   ผมจะหลอกตัวเองว่าผมเก่งทุกครั้งเลย   เพราะหนังสือบนนั้นผมรู้ว่าผมแปลได้มาตรฐานใกล้เคียงกับผู้แปลแน่นอน   ตอนนี้ที่หัวนอนมีวรรณกรรมของจริงอยู่เล่มหนึ่งเอาไว้อ่านให้ง่วง   โอ้โหเฮะ   เพิ่งจะรู้ว่าไอ้เรือใบโบราณนี่มันมีชิ้นส่วนชื่อแปลกๆเต็มไปหมด   แถมคนบนเรือยังพูดภาษาอังกฤษกันแปลกๆด้วย   อ่านได้ไม่เกินสองหน้าง่วงยิ่งกว่ากินยานอนหลับอีก   มีประสิทธิผลสมความตั้งใจ จากคุณ : Tanis - [ 3 ก.ค. 51 14:41:37 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ใช่แล้ว  งานวรรณกรรม นอกจากจะแปลยากแล้ว ยังขายยากอีกด้วย จะเล่าเรื่องสถานการณ์ทั่วๆไปเกี่ยวกับตลาดการแปลให้ฟัง เราแปลวรรณกรรมเก่า 100 ปีไปเล่มหนึ่ง แปลหนังสือความรู้รอบตัวสมัยใหม่ไปเล่มหนึ่ง    แล้วแปลวรรณกรรม เก่า 100 ปีไปอีก 2 เล่ม แต่ 2 เล่มสุดท้าย เราได้ค่าแปลมาแล้ว แต่หนังสือจะไม่ได้รับการตีพิมพ์ เนื่องจากสำนักพิมพ์พิจารณาดูแล้ว เห็นว่า ไม่พิมพ์จะขาดทุนน้อยกว่า  เนื่องจากมีคนอ่านน้อย  สำนักพิมพ์ยังไม่ถึงกับเจ้ง แต่เขาเลิกทำหนังสือแปลไปเลยหละ... ทีนี้มาเข้าเรื่องการสรรหานักแปลแล้วนะ การคัดเลือกนักแปล ต้องคัดเลือกจากคำแปลที่เป็น unedited version (ต้นฉบับแปลที่ยังไม่ได้รับการตรวจแก้) การพิจารณาผลงานแปลที่ตีพิมพ์ไปแล้วเพื่อคัดเลือกนักแปล ไม่เป็นผลดีต่อสำนักพิมพ์ เนื่องจาก 1. ผลงานแปลที่งดงามหยดย้อย  นักแปลอาจห่วยมากๆ แต่ออกมาดีอาจเป็นเพราะฝีมือบรรณาธิการต้นฉบับรายที่แล้วๆมาก็ได้  ในกรณีนี้ถ้าสำนักพิมพ์รายใหม่ ไปจ้างนักแปลคนนั้น สำนักพิมพ์รายใหม่จะต้องไปผูกคอตาย (จริงๆแล้วไม่ใช่สำนักพิมพ์รายใหม่หรอก แต่เป็นบรรณาธิการต้นฉบับ ของสำนักพิมพ์รายใหม่ ต่างหากล่ะ ที่จะต้องไปผูกคอตาย) 2. ผลงานที่ห่วย อาจเป็นเพราะนักแปลแปลดี แต่โดนบรรณาธิการต้นฉบับทำลายเสียย่อยยับก็ได้  ในกรณีนี้ ถ้าสำนักพิมพ์รายใหม่ไม่จ้างนักแปลคนนั้น ก็เป็นที่น่าเสียดาย ว่าพลาดโอกาสอันดีงามไป 3. ผลงานแปลที่งดงาม อาจเป็นเพราะฝีมือนักแปลก็ดี บรรณาธิการต้นฉบับก็เก่งก็ได้  ในกรณีนี้ถ้าสำนักพิมพ์รายใหม่จ้างนักแปลคนนั้น สำนักพิมพ์ก็จะเจริญรุ่งเรือง 4.  ผลงานที่ห่วย อาจเป็นเพราะนักแปลแปลห่วยแตก  แถมโดนบรรณาธิการต้นฉบับอ่อนหัด มาช่วยทำลายเสียย่อยยับอีกแรงหนึ่งก็ได้  ในกรณีนี้ ถ้าสำนักพิมพ์รายใหม่ไม่จ้างนักแปลคนนั้น ก็นับว่า สำนักพิมพ์รายใหม่โชคดี (แคล้วคลาด) เป็นอย่างยิ่ง แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 11:45:19 แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 11:40:21 จากคุณ : agelesstansy - [ 3 ก.ค. 51 16:25:19 ]

ความคิดเห็นที่ 8 กินข้าวเสร็จรึยัง มาเล่าต่อได้แล้ว จากคุณ : ท่านผู้ชม (Canossa) - [ 3 ก.ค. 51 17:21:16 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คนนี้ไม่ได้กินแต่ข้าวอย่างเดียว คงนานหน่อย จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 3 ก.ค. 51 18:37:56 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขออนุญาตคั่นรายการค่ะ รับ ถั่วต้ม ข้าวโพดคั่ว อ้อยควั่น ลูกชิ้น ปลาหมึก หวานเย็น  ทานคั่นเวลาก่อนมั้ยคะ จากคุณ : ปลาทองอัลไซเมอร์ (zaida, film mania) - [ 3 ก.ค. 51 20:15:47 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คนรอกินอิ่มแล้ว เอาเป็นว่านอนรอเลยละกัน ปล จขกท จะไม่บอกหน่อยเหรอว่า จะเอาไปทำอะไร จากคุณ : Deckard - [ 3 ก.ค. 51 22:40:23 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แบะๆๆๆๆๆ........ แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 11:40:54 แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 02:28:43 จากคุณ : agelesstansy - [ 3 ก.ค. 51 23:06:33 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แบะๆๆๆๆ......... แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 11:41:18 แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 51 23:18:00 จากคุณ : agelesstansy - [ 3 ก.ค. 51 23:11:49 ]

ความคิดเห็นที่ 16 แบะๆๆๆ........... แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 11:41:48 แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 01:58:11 จากคุณ : agelesstansy - [ 4 ก.ค. 51 00:18:59 ]

ความคิดเห็นที่ 19 นักแปลท่านนั้นเขาเล่นห้องนี้ด้วยรึคุณแท่น จากคุณ : สักวันหนึ่ง - [ 4 ก.ค. 51 01:27:05 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แบะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ........... แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 11:42:18 แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 02:23:31 แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 02:23:05 จากคุณ : agelesstansy - [ 4 ก.ค. 51 02:21:56 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขออนุญาตตอบแทนเจ้าของกระทู้ครับ เนื่องจากเป็นต้นเหตุ ผมกำลังมองหา "คนถอดความ" ดีๆ มาร่วมงานกัน ไม่ทราบจะเริ่มที่ไหน เลยให้น้อง robot มาถามที่ห้องนี้ดูก่อน (เผื่อผิดคิว ผิดมารยาทของห้อง น้องจะได้โดนด่าแทน) ผมขอตอบข้องสงสัยคร่าวๆ ดังนี้ครับ: ทำไมไม่ไปหาพวกพี่ๆ ที่เขามีชื่อแล้ว? ตามมารยาทของน้องใหม่ที่เข้ามาในวงการนี้...ผมได้ลองติดต่อไปแล้ว เพื่อมาทราบความจริงว่า พี่ๆ แต่ละคนนั้นมีคิวจ่อกันยาวเหยียด...เรื่องนี้ ผมไม่ทราบมาก่อน เลยเพิ่งตระหนักได้ถึงปัญหาว่า...เรา (สนพ.) มัวแต่ไปเก็งกำไรกันแต่ชื่ออันเป็นที่รู้จักแล้วกันทั้งสิ้น จึงทำให้ฝั่งหนึ่งมีงานล้นมือ...อีกฝั่งกลับไม่มีที่ให้เกิด ...หนังสือดีๆ ถูกเขียนขึ้นมาไม่เว้นแต่ละวัน, แต่เราไม่มีใครถ่ายทอด แต่ทั้งนี้ผมก็เข้าใจ และไม่ตำหนิสนพ. ที่ต้องการทำงานแต่เฉพาะกับมืออาชีพนะ เพราะอย่างที่ทราบก็คือ การทำงานกับ "มือใหม่" มันก็ต้องสอน ต้องเหนื่อยกันเป็นธรรมดา (ทั้งฝ่ายบก. และ ผู้แปล) สนพ. อื่นๆ คงไม่มีเวลาพอจะมาทำตรงนี้ ซึ่งก็น่าเห็นใจ แต่ก็อย่างที่บอก คือปัญหามันก็ตามมาก็คือ งานเลยไปกองอยู่ที่คนกลุ่มเดิมๆ คนใหม่ๆ ไม่ได้เกิดกันเสียที วรรณกรรมแปลดีๆ ยังพอขายได้ครับ อาจไม่หวือหวานัก แต่ยังขายได้ ทั้งนี้ ผมพูดถึงงานวรรณกรรม นะ...ก็อีกนั่นแหละ มันก็แล้วแต่ว่า นิยามของ "วรรณกรรม" คืออะไร...หากมันจะหมายถึง เฉพาะงานที่ล่วงผ่านไปแล้ว 100 ปีแล้วเท่านั้น, เป็นงานวรรณกรรม, มันก็คงต้องเลือกเรื่อง เลือกคนถอดความให้สาสมกัน งานของ Mark Twain อ่านวันนี้ ผมยังขำ ยังสนุก แต่ให้ตายก็ไม่กล้าแปล ...งานดีๆ ในรุ่น beatnik ยังมีอีกมากมาย แต่ใครล่ะ จะกล้าแปล? ในทางกลับกัน, งานของคุณ 'รงค์ วงษ์สวรรค์ ให้มือแปลชั้นเทพ ก็คงไม่สามารถจะถ่ายทอดความเป็น 'รงค์ วงษ์สวรรค์ ให้ฝรั่งได้เข้าใจได้ เท่ากับที่คนไทยอย่างเราๆ ซึมซาบ...เรื่องบางเรื่องแปลได้ เพราะดำเนินไปด้วยพล็อต หากเรื่องบางเรื่อง ก็แปลยาก...เพราะมันดำเนินไปด้วยความ ก๋ากั่นของน้ำเสียง (ผู้เล่า) ของความเข้าใจ ของสมัย...แต่ต่างก็ล้วนเป็นวรรณกรรมมิใช่หรือ, ส่วนจะแปลได้ ขายดีหรือไม่นั้น มันก็แล้วความเหมาะสมขององค์ประกอบต่างๆ แล้วแต่กรณีไป...แต่ยืนยันว่า วรรณกรรมดีๆ ยังมีเขียนกันออกมา และยังพอขายได้ในปัจจุบันครับ ผมไม่ทราบว่านิยามของนักแปลวรรณกรรมที่ดีคืออะไร ต้องตื่นเช้า กินไข่ดาว-หนมปัง ด้วยหรือเปล่า? ทราบแต่เพียง วรรณกรรม เป็นเรื่องของอารมณ์ จะถ่ายทอดให้ได้ดี คุณต้องซึมซับ คุณต้องเข้าใจ...และหากการกินไข่ดาว-หนมปัง ทำให้คุณ ซึมซับและเข้าใจได้ ผมก็ว่านักแปลวรรณกรรมที่ดีคือต้องตื่นเช้าขึ้นมากินไข่ดาว-หนมปัง ผมได้มีโอกาสแวะเข้าไปอ่านคำตอบของคุณ แอ๊ด ปากเกร็ด ในหัวข้อคำถามที่เกี่ยวเนื่องไปถึง...Appalachians--จนไหลไปในทิศทางของ Hillbilly แล้วผมก็ได้เข้าใจกับตัวเองว่า...นั่นสิ ไอ้การแปลความนี่มันเรื่องหนึ่ง...แต่ความเข้าใจในบริบท แล้วมาถอดความให้ผู้รับสารอีกภาษา อีกวัฒนธรรมหนึ่งเข้าใจนั้น มันคนละเรื่องกันเลย...ผมว่า การแปลวรรณกรรมเป็นอย่างหลังน่ะครับ (นอกเรื่องนิด) คุณแอ๊ดครับ hillbilly ของผมน่ะ สุนัขนั่งหน้า (ตาก ฮีทเต้อร์อุ่นสบายคู่กับคนขับ,) ภรรยาแข็งเป็นไอติมอยู่ท้ายกระบะด้วยครับ—คุณแอ๊ดว่างๆ จะแว่บเขามาหยิบหนังสือที่ สนพ. ไปอ่านบ้างก็เชิญนะครับ, คิดว่าคงมีหลายเรื่องที่คุณชอบ (เผื่อจะคันมือ อยากแปลขึ้นมา—ผมกำลัง วางกับดักล่อลวงคุณอยู่ครับ) ท้ายนี้ ผมหวังว่า คงได้ให้ความกระจ่างกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในเรื่องนี้ได้บ้าง ฝากตัวเป็นน้องใหม่ในห้องนี้ด้วย...หากใครคิดว่า เป็นดาวจรัสแสง ที่รอโอกาสเกิด อยู่ในสายงานแปลล่ะก็ ลองติดต่อมาคุยกันได้ครับ—pm ไปที่น้อง robot ได้เลย อธิบายเสริมเล็กน้อย, งานแปลในที่นี้ หมายถึง อังกฤษ เป็น ไทยนะครับ, และอังกฤษก็เช่นกัน สำหรับช่วงแรกๆ นี่ น่าจะเป็น อเมริกัน/อังกฤษมากกว่า เพราะผมถนัดครับ แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 51 14:01:12 จากคุณ : ผาด พาสิกรณ์ - [ 4 ก.ค. 51 09:38:58 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ลืมขอบคุณ... ขอบคุณ คุณ agelesstansy สำหรับคำแนะนำในเรื่องเลือกผู้แปลครับ ผมได้ความรู้จากคุณเยอะเลย จากคุณ : ผาด พาสิกรณ์ - [ 4 ก.ค. 51 09:48:43 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เรื่องอื่นไม่รู้ แต่ถ้าเป็นเรื่องภาพยนตร์ติดต่อคุณปลาทองความเห็น 10 เลยค่ะ รอบรู้จริงๆ :P จากคุณ : สักวันหนึ่ง - [ 4 ก.ค. 51 11:33:48 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เมื่อเช้านี้ ตื่นนอนมา ตะละแม่ (my business partner) โทรมาล้งเล้งว่า "นี่เธอรีบลบเรื่องที่เธอเขียนเสียนะ".... เราตอบว่า "อ้าว ก้อไม่ได้ระบุชื่อใครนิหว่า" เธอตอบว่า "ไม่ได้ เพราะว่าคนในวงการจะไปค้นข้อมูล แล้วมันก็จะผิดจรรยาบรรณ" เวงกรรม ลบก้อลบวะ... ตกลง เป็นอันว่า ใครกิน ถั่วต้ม ข้าวโพดคั่ว อ้อยควั่น ลูกชิ้น ปลาหมึก หวานเย็น  คั่นเวลา เก้อ ก้อเสียใจด้วยเด้อ...อิๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : agelesstansy - [ 4 ก.ค. 51 12:07:42 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ก๊ากกกก ว่าแล้วว่าต้องโดนใช้ให้ลบ ฮ่าๆๆๆๆ แบบว่าเท่าที่อ่านมา คนเขียนมีโอกาสได้ลาภสัตว์สี่เท้าสองเท้าแน่ๆ แล้วก็มาทีละหลายๆเท้าพร้อมกันด้วย หลบดีก็แล้วไป หลบไม่ดีก็ติดดิน คุณผาดกำลังล่อลวงผมรึ? อือม์ น่าสนใจ แบบว่าไม่เคยโดนหลอกมานานแล้วตั้งกะอกหักเมื่อหลายปีก่อน :-( จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 4 ก.ค. 51 14:05:14 ]

ความคิดเห็นที่ 26 สวัสดีคุณผาด พาสิกรณ์/Sw2Robot ถ้าพูดถึงตลาดการขายหนังสือแปลแล้ว ตอนนี้สำนักพิมพ์ไหนก็ตามที่รู้วิธีชิงไหวชิงพริบ ก็จะชนะคู่แข่งทั้งหมดได้โดยง่าย arsenal คืออะไรล่ะ  ก็คือทีมงานนักแปลกับบรรณาธิการต้นฉบับเก่งๆยังไงล่ะ เราพอจะช่วยคุณสรรหานักแปลและบรรณาธิการต้นฉบับมือดีๆให้คุณได้เป็นจำนวนมากภายในระยะเวลาอันสั้น  ไม่ใช่โดยวิธีเสนอตัวเองหรือไปตามเพื่อนๆนักแปลที่เก่งๆ (ที่เรารู้จักหลายคน) มาให้คุณนะ  แต่โดยการเสนอวิธีการอันแยบยล ที่จะทำให้คุณ screen นักแปลและบรรณาธิการต้นฉบับได้เป็นจำนวนมาก อย่างแม่นยำภายในระยะเวลาอันสั้น และโปร่งใสมากๆด้วย ในขณะนี้สำนักพิมพ์ส่วนใหญ่จะประเมินความสามารถของนักแปลด้วยการให้ทดลองแปลมาสัก 4-5 หน้า  การทดสอบแบบนี้ ผลที่ออกมา ใช้การได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ถึงกับดีที่สุด และก็ไม่ practical เอาเสียเลย  ด้วยเหตุผลที่ง่ายๆก็คือว่า  หากสำนักพิมพ์คุณประกาศทางหนังสือพิมพ์หรือบน website ว่า “รับสมัครนักแปล โปรดติดต่อสำนักพิมพ์ของเราเพื่อมาทำบททดสอบ” สิ่งที่คุณจะเจอก็คือว่า นักอยากแปลจะแห่กันมามืดฟ้ามัวดิน  ไม่ว่าจะเป็น walk in, ส่ง snail mail หรือส่ง email เรารับรองได้ว่า สำนักพิมพ์คุณคงไม่มีบุคลากรมากพอที่จะรับมือกับผู้สมัครงานเป็นจำนวนมากมายได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคุณให้ผู้สมัครงาน ทำบททดสอบกันคนละ 5 หน้า  ถ้ามีผู้สมัครงาน 100 คนบรรณาธิการของคุณ จะต้องตรวจบททดสอบที่แปลมา  5 x 100 = 500 หน้า ซึ่งเราว่าคงใช้เวลาหลายเดือน และมันจะต้องทำให้ สำนักพิมพ์ของคุณโกลาหลอย่างแน่นอน เนื่องจากว่า แทนที่จะ edit หนังสือเล่มอื่นๆเพื่อส่งเข้ากระบวนการผลิต ให้ได้เงิน กลับต้องมานั่งหลังขดหลังแข็งตรวจบททดสอบตั้งหลายร้อยหลายพันหน้า...!!! เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าว เราจึงได้คิดวิธีการอันแยบยล ที่จะทำให้สำนักพิมพ์สามารถกล้า ออกมา ประกาศต่อสาธารณชนว่า   “รับสมัครนักแปล โปรดติดต่อสำนักพิมพ์ของเราเพื่อมาทำบททดสอบได้ทุกวัน ใครทำผ่านก็เอาหนังสือไปแปลได้เลย ไม่ต้องรีรอให้มีการตรวจบททดสอบ หรือตรวจตัวอย่างการแปล และประเมินผลนานถึง 3 เดือน หรือ 6 เดือน ให้หงุดหงิดใจ” จริงๆแล้วเราเสนอเรื่องนี้ให้สำนักพิมพ์แห่งหนึ่งไปแล้ว แต่อาจไม่ได้รับการอนุมัติ รายละเอียดอยู่ในกระทู้ที่เราใช้ชื่อ white rabbit เขียน คคห 5 กับ 6 ที่ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6725075/K6725075.html แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 17:51:04 แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 17:44:43 แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 17:42:35 จากคุณ : agelesstansy - [ 4 ก.ค. 51 17:41:45 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ปัญหาที่ติดขัดก็คือว่า  พอเรายื่นข้อเสนอให้ผู้บริหารสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง(ที่เราทำงานให้)  พวกเขาชอบใจแนวคิดของเรา แต่ไม่ชอบใจอีตรงที่ว่า บททดสอบ “แบบใหม่” ของเราจะทุ่นเวลา และทุ่นค่าใช้จ่าย ให้สำนักพิมพ์ได้ ในการสรรหานักแปลเก่งๆ นั้น ทางสำนักพิมพ์จะต้อง “ลงทุนซื้อคอมพิวเตอร์มาต่อเป็น network แล้วมี adsl internet จึงจะประสบผลสำเร็จ และยิ่งมีคอมพิวเตอร์ มากเครื่องยิ่งๆขึ้น ก็จะยิ่งประสบความสำเร็จรวดเร็วมากยิ่งๆขึ้น”   ในเมื่อมันเป็นค่าใช้จ่ายที่สูง (ตอนแรกเราเสนอว่า ให้จัดซื้อคอมพิวเตอร์ตั้งหลายสิบเครื่องเพื่อเอามาอบรมนักแปลในสังกัดของสำนักพิมพ์ด้วย เนื่องจากว่าการพัฒนานักแปลให้เก่งๆ ถ้าอบรมโดยการเขียน course contents บน whiteboard จะไม่มีประสิทธิภาพมากเท่ากับอบรมด้วย computer network ที่ต่อ ADSL Internet เนื่องจากมันมีเครื่องทุ่นแรงให้นักแปลเรียนรู้และพัฒนาทักษะในการแปลได้อย่างรวดเร็ว...แต่คำตอบจากสำนักพิมพ์ ก็คือ no แหงๆอยู่แล้ว เนื่องจากว่า "เป็นการลงทุนที่สูงมากๆ")  แต่พอลดลงเหลือแค่คอมพิวเตอร์ 3 เครื่องที่ต่อ network และต่อ ADSL Internet เพื่อมาใช้ screen ผู้สมัครเข้าทำงานแปล นะ  แนวคิดเราก็ยังอาจไม่ได้รับอนุมัติ ....ตอนนี้ยังไม่รู้ เนื่องจากกว่าเราจะเข้าสำนักพิมพ์อีก ก็คงอีกนาน เนื่องจากว่ายังทำงานอื่น ให้เขาไม่เสร็จ .... แต่จะอย่างไรก็ตามนะ เราคิดว่า แค่ลงทุนซื้อคอมพิวเตอร์สัก 3 เครื่อง (ตามที่เราเสนอ) แล้วหานักแปลดีๆได้มากถึง  100 คนภายในเวลาเพียงแค่ 6 เดือน นับว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากๆ  เนื่องจากนักแปลเก่งๆ 100 คนจะเป็นทรัพยากรอันมีค่าของสำนักพิมพ์... ในขณะที่ถ้าคุณให้นักอยากแปลทำบททดสอบ แบบเดิมๆ กันคนละ 5 หน้า เราท้าพนันได้เลยว่า ภายในเวลา 6 เดือนคุณจะหานักแปลเก่งๆได้ไม่ถึง 10 คน...!!! ถ้าคุณสนใจแนวคิดเรานะ ก็ลองติดต่อมาสิ เราจะ ”กระซิบ” บอกวิธีลับของเรา ให้คุณไปทำบททดสอบเอง ถ้าคุณมีเวลานะ (ในกรณีแรกนี้ เราจะไม่ได้เงินเลย แต่จะมีความสุขใจที่นักแปลเก่งๆจะติดต่อสำนักพิมพ์ได้ง่ายๆไวๆอย่างโปร่งใส)  หรือถ้าคุณไม่มีเวลามากนัก ที่จะทำบททดสอบเอง คุณจะจ้างเราเป็นรายวัน ให้ไปทำหน้าที่ในส่วนของ recruitment (หมายถึงช่วยสำนักพิมพ์คุณนั่งคัดเลือกนักแปลและบรรณาธิการต้นฉบับ) ให้คุณก็ได้ หรือคุณจะซื้อบททดสอบของเราเป็นรายชิ้น ไปใช้งานก็ได้ ถ้าสนใจก้อ pm มาได้  หรือติดต่อเราทาง email ได้ (email address ของเราอยู่ที่บน blog เรา) แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 18:28:58 แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 18:01:55 แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 51 17:55:44 จากคุณ : agelesstansy - [ 4 ก.ค. 51 17:42:11 ]

ความคิดเห็นที่ 28 มาไม่ทันอะ T T ว่าแล้วก็ไปหาอะไรกินต่อดีกว่า จากคุณ : Deckard - [ 5 ก.ค. 51 03:31:33 ]

ความคิดเห็นที่ 29 #26 (บรรทัดที่ 3) arsenal คืออะไรล่ะ ก็คือทีมงานนักแปลกับบรรณาธิการต้นฉบับเก่งๆยังไงล่ะ ขอเชิญพบกับโฉมหน้าทีม arsenal ที่ลิงค์ข้างล่างนี้ http://thailand.arsenal.com/team.jsp จากคุณ : เจี๊ยก - [ 9 ก.ค. 51 21:24:11 A:118.172.198.133 X: TicketID:162714 ]

ความคิดเห็นที่ 30 การตรวจไม่ยากรหอกครับ ใช้แค่เวิรฺ์ดนี่แหละตรวจก็ได้ เช่นมีต้นฉบับสัก 5 หน้า เราก็แปลเองไว้เป็นตัวอย่างบนเวิร์ดก่อน แล้วคนที่ต้องการสมัครงานแปลเข้ามาทดสอบ เราก็ให้ทำตัวอย่างนั้นแหละ ให้คนสมัครงานหิ้วคอมพิวเตอร์มาด้วยยิ่งดี เมื่อเขาแปลเสร็จแล้ว โหลดเข้าไปเปรียบเทียบกันกับรุ่นที่เราแปลบนเวิร์ดธรรมดา มันจะเทียบกันได้เลยเป็นบรรทัดๆ วันหนึ่งตรวจงานได้เป็นร้อยชิ้น หรืออยากให้เจ๋งทันสมัย ไวสุดยอด ให้เราใช้ทราดอสแปลไว้ก่อน แล้วคนทดสอบก็ทำกับทราดอสมาเลย ก็หิ้วเครื่องมาด้วยนั่นแหละ มาถึงก็ให้เขาติดตั้งทราดอสก่อน (ทดลองใช้ได้ 30 วันอยู่แล้ว หรือ ใช้แล้วคืนไลเซนส์ก่อนก็ได้ อิอิ แบบนี่้ต้องมี ทราดอสแหงมๆ) แล้วให้แปลบนทราดอส การแปลบนทราดอสอาจยุ่งยาก แต่เพื่อการทดสอบ เราสอนเขาไม่เกิน 5 นาที ก็ใช้งานได้แล้ว (ไม่เชื่อผมจะสอนเองครับ) เสร็จแล้ว โหลดเข้าไปตรวจเทียบกับของเราในทราดอส แบบนี้ไม่มีทางหลอกได้ เพราะทราดอสคุมหมดทุกอย่าง ทั้งความเร็วในการทำงาน ความถูกต้องแม่นยำ ความสละสลวย ว่าแต่จะลองดูไหมครับ สนใจไหมครับ จากคุณ : ลุดวิก - [ 15 ก.ค. 51 19:42:14 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ว้า... ลบไปหมดแล้ว ถั่วต้มก็ไม่มีแล้ว มีแต่คุ๊กกี้ arsenal หิว... ไปหาอะไรกินดีกว่า จากคุณ : Canossa - [ 15 ก.ค. 51 20:24:10 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ลุดเอ๋ยลุดวิก...เราไม่ได้คุยกันนานแล้วนะ แต่อยากจะบอกว่า สิ่งที่คุณพูดใน คคห 30 คือ "การตรวจไม่ยากหรอกครับ ใช้แค่เวิรฺ์ดนี่แหละตรวจก็ได้ เช่นมีต้นฉบับสัก 5 หน้า เราก็แปลเองไว้เป็นตัวอย่างบนเวิร์ดก่อน แล้วคนที่ต้องการสมัครงานแปลเข้ามาทดสอบ เราก็ให้ทำตัวอย่างนั้นแหละ...etc." ประเด็นที่เราพยายามแก้ปัญหาให้แก่สำนักพิมพ์แห่งนี้ มันใช้วิธีการของคุณไมได้ผลหรอก เพราะว่าสำนักพิมพ์ที่ว่านี้ ทำหนังสือแปลระดับที่เรียกได้ว่าซื้อลิขสิทธิ์หนังสือมาบานเลย จนสำนักพิมพ์อื่นซื้อไม่ทัน และสำนักพิมพ์นี้มีหนังสือที่แปลเสร็จแล้วค้างอยู่ และยังไม่ได้ edit มากกว่า 1000 เล่มในขณะนี้ ทางสำนักพิมพ์ก็มีนักแปลในสังกัดมากมายและมีทั้งเปิดอบรมการแปล และเปิดอบรมบรรณาธิการต้นฉบับไปแล้วหลายรุ่น ถึงขั้นระดมพลคนที่ได้รับการอบรมไปแล้วเป็นจำนวนร้อยๆคน ให้ไปช่วย edit หนังสือ ...ผลปรากฏว่า ทั้งนักแปลและบรรณาธิการต้นฉบับเวลาลงมือทำงานกันจริงๆ มีข้อผิดพลาดมากมาย จนทำให้ต้องแก้ไขกันหลายรอบ สิ้นเปลืองเวลา และเพิ่มต้นทุนมหาศาล... เราจึงนั่งบริกรรมอยู่เป็นเวลาเกือบๆเดือนหนึ่ง ก็รู้ว่า บททดสอบ ที่ให้ทดลองแปล (กรณีรับสมัครนักแปล) หรือที่ให้ทดลอง edit (กรณีรับสมัครบรรณาธิการต้นฉบับแบบ freelance)  สำนักพิมพ์ส่วนใหญ่ เขาให้ทดลองแปลหรือ edit แค่ 4- 5 หน้าเท่านั้นเอง ...และวิธีการนี้ "ใช้ไม่ได้ผล...!!!"   เพราะอะไรรู้ไหม?   อ้า ทีนี้เข้าเรื่องแล้วนะ.....ตรรกะที่แม่นยำ ก็คือว่า "คนที่ผ่านการทดสอบแบบนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะแปลได้ดีหรือจะ edit ได้ดี" งงหรือเปล่าว่า เพราะอะไร? แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 51 10:59:37 จากคุณ : agelesstansy - [ 16 ก.ค. 51 01:28:25 ]

ความคิดเห็นที่ 33 (ต่อ) ถ้างงนะว่าเพราะอะไร.... คำตอบก็คือว่า หนังสือที่สำนักพิมพ์ซื้อลิขสิทธิ์มานั้น มีความหลากหลายมากๆ จนถึงขั้นที่ว่า ระดับภาษา และลีลาการเขียน ทำให้ ทั้งนักแปล และบรรณาธิการต้นฉบับ ถ้าแปลได้หรือedit ได้ 4-5 หน้า อาจ handle ได้แค่หนังสือบางเล่ม แต่ไม่ได้ทุกเล่ม เนื่องจากว่า เนื่องจากว่า อะไร? เนื่องจากว่า การทดสอบ แค่ 4-5 หน้า ไอ้ 4-5 หน้านั้น มันไม่ได้ครอบคลุมไปถึงภาษาอังกฤษในระดับชั้นต่างๆกัน และที่มีลีลาการเขียนอันหลากหลายจนครบถ้วนได้ทั้งหมด....อีกนัยหนึ่งก้อคือว่า การที่ handle ไอ้ภาษาอังกฤษ 4-5 หน้าที่ทดสอบนั้น ไม่ได้เป็นข้อพิสูจน์ว่า ทั้งนักแปลและบรรณาธิการจะ handle หนังสือตัวจริงเสียงจริง อีกตั้งนับเป็นพันๆเล่มที่แปลไปแล้วและกำลังจะแปล ...!!!  เนื่องจากว่า บางเล่ม มันยากกว่าบททดสอบหลายๆเท่านั่นเอง   สิ่งที่เราพยายามจะอธิบาย มันก็คือว่า บททดสอบ 4--5 หน้า “ไม่สามารถตั้งคำถามยากๆเกี่ยวกับภาษาอังกฤษและความรู้รอบตัวที่จำเป็นที่จะต้องใช้ในการตีความต้นฉบับ ให้ครอบคลุมระดับความยาก ที่มีความหลากหลายมากๆได้เพียงพอ เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่านักแปลหรือบรรณาธิการต้นฉบับ มีความสามารถเพียงพอที่จะ handle หนังสือที่หลากหลายกว่านั้นได้ ในการลงมือทำงานจริงๆ” ด้วยเหตุผลเช่นนี้ สำนักพิมพ์จึงประสบปัญหาใหญ่ 2 ประการคือ 1. นักแปลที่อยู่ในสังกัด แปลมา แล้วแปลผิดเพียบเลย...!!! 2.บรรณาธิการต้นฉบับ ที่สำนักพิมพ์จ้าง แบบ freelance หลังจากอบรมไปแล้วนับเป็นร้อยๆคนนั้น edit งานมาแล้ว “ใช้การไม่ได้เกือบทั้งหมด” นั่นก็หมายความว่า บททดสอบ 4-5 หน้านั้น ไม่ได้ช่วยให้สำนักพิมพ์ขนาดใหญ่ๆแบบนี้ ประเมินความสามารถของ ผู้สมัครงานได้อย่างถูกต้องเลย จากคุณ : agelesstansy - [ 16 ก.ค. 51 01:30:41 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ต่อให้ทดลองแปล 300 หน้า ก็ประเมินความสามารถของ ผู้สมัครงานไม่ได้ถูกต้องอยู่ดีนั่นแหละ เพราะ 300 หน้า มันเท่ากับแปลหนังสือแค่หนึ่งเล่ม และการที่ใครคนใดคนหนึ่งจะแปลหนังสือออกมาให้ได้ดีมากๆ ได้หนึ่งเล่ม มันไม่ได้หมายความว่าเขาจะแปลหนังสือเล่มอื่นได้ดีเท่ากับเล่มแรก  เช่นถ้าไปเจอนักเขียนที่ฝรั่งสติเฟื่อง ที่มีลีลาพิสดาร  ใช้รูปประโยคแปลกๆ  ใช้ metaphors แปลกๆ แบบ “หลุดโลก” ทั้งนักแปลและบรรณาธิการต้นฉบับ ก็ “หลงทางเสียแล้ว”  แล้วอีกอย่างหนึ่งนะ ถ้าให้ทดลองแปลตั้ง 300 หน้า ก็ไม่มีใครยอมแปลโดยไม่ได้เงินหรอก ดังนั้น การที่ลุดวิก เสนอว่าให้ใช้ Trados นั้น ขอบอกเลยว่า “ช่วยอะไรไม่ได้เลย”  Trados มันเป็นเพียงแค่ CAT tool ที่ช่วยจัดระเบียบงานให้นักแปลเท่านั้น ช่วยหาข้อความที่ซ้ำๆ จะได้ไม่ต้องแปลซ้ำ ช่วยจดศัพท์ ช่วยเก็บข้อมูล หรืออะไรทำนองนี้  มันไม่ช่วยวัดความสามารถของผู้สมัครงาน   ดังนั้น วิธีแก้ปัญหานี้ ทำได้สถานเดียว นั่นก็คือ “เปลี่ยนวิธีการทดสอบนักแปลและบรรณาธิการต้นฉบับ”   โดยอาศัยหลักการ และโดยมีเป้าหมาย ดังต่อไปนี้ 1. บททดสอบ เมื่อผู้สมัครงานทำแล้ว ต้องตรวจง่าย และรวดเร็ว (บททดสอบเรา ตรวจง่ายกว่า เร็วกว่าที่ลุดวิก จะใช้ Trados เสียอีก และวัดผลแม่นกว่า ให้ทดลองแปล 4-5 หน้า) 2. ต้องครอบคลุมความรู้ภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง grammar,  sentence structures และ styles การเขียนภาษาอังกฤษในหลายๆระดับชั้น 3. ต้องครอบคลุมความรู้รอบตัวที่จำเป็นในการแปล และการ edit เนื่องจากถ้าเราไม่รู้เรื่องที่จะแปลหรือ edit เราก็ไม่มีทางที่จะแปลหรือ edit ได้อย่างถูกต้อง 4. ต้องวัดผลอย่างแม่นยำ 5. ต้องช่วยให้สำนักพิมพ์มีศักยภาพเพียงพอที่จะ welcome ให้ผู้อยากทำงานแปลหรืออยากเป็นบรรณาธิการต้นฉบับ  สามารถเดินเข้ามาทำแบบทดสอบได้ทุกวันทำงาน  ทุกเวลา ทำงาน  ไม่จำเป็นต้องให้นักแปล ส่งตัวอย่างการแปล แล้วรอคำตอบ ตั้ง 3-6 เดือน ...ทั้งนี้ ก็เพื่อให้สำนักพิมพ์สามารถ screen ผู้สมัครงานให้มากที่สุด และรับผู้ที่ “มีแวว” เอาไว้ได้เป็นจำนวนมากภายในระยะเวลาอันสั้น จากคุณ : agelesstansy - [ 16 ก.ค. 51 01:34:53 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เรา invented and designed บททดสอบแบบใหม่ได้สำเร็จแล้ว และมีประสิทธิภาพสูงสุด พอที่จะทำให้สำนักพิมพ์บรรลุเป้าหมายทั้ง  5  ตามที่กล่าวไว้ข้างบนนี้ ได้แล้ว   คุณ ผาด พาสิกรณ์ (ที่เขียน คคห 21 และ 22) อาจไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้แบบทดสอบใหม่นี้ของเรา ถ้าเขาทำหนังสือแปลไม่มากนัก แล้วอีกอย่างหนึ่งเราก้อคาดว่า ถ้าเขาต้องการนักแปลใหม่แค่ 2-3 คน ป่านนี้เขาคงได้คนแถวๆนี้ที่เก่งๆไปแล้ว แล้วเขาก็ happy ไปแล้ว  แต่สำนักพิมพ์ที่ทำหนังสือแปลนับเป็นพันๆเล่ม(ที่เราพูดถึง)  ยังหาบุคลากรไม่ได้อยู่  และแบบทดสอบใหม่ของเราเท่านั้นที่จะช่วยพวกเขาได้   แต่แบบทดสอบใหม่ของเรานั้น จะมีรูปแบบเช่นใด เราต้องขอปกปิดไว้เป็นความลับก่อน เนื่องจากว่า กำลังรออนุมัติอยู่  ...(ยังติดงานอื่น และยังไม่มีเวลาเดินหน้าเรื่องแบบทสอบต่อไปได้)  แต่ถ้าไม่ได้รับอนุมัติ เราก็อาจเอาแบบทดสอบที่ว่านี้ ไปรวมไว้ในตำราการแปลเล่มที่เราพยายามจะเขียนมันขึ้นมา   คือจริงๆแล้วเราเขียนตำราการแปล เอาไว้เล่มหนึ่ง มีแนวคิดครบครันแล้ว แต่ไม่ได้พิมพ์ลง file มาให้ครบเป็นหนังสือที่สมบูรณ์ เนื่องจากว่า ทั้งแฟนเรา และทั้งซือเจ๊เพื่อนนักแปลอาวุโส ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “จะไม่มีสำนักพิมพ์ไหน ยอมเสี่ยงลงทุนพิมพ์หนังสือของเราอย่างเด็ดขาด เนื่องจากว่าเราเป็นคนไม่มีชื่อเสียงดังนั้นจึงไม่มีจุดขาย” ข้อความของตำราการแปลหมัดเมาของเรา (ที่สอนได้ทั้งแปลอังกฤษเป็นไทย และแปลไทยเป็นอังกฤษ และจะทำให้อาจารย์สอนการแปลในมหาลัยแปลกใจมากๆ ว่ามันมีตรรกะ ที่ straightforward มากๆ ที่จะช่วยให้คนเรียนการแปลได้เอง ) ก็ยังเป็นแค่ข้อความที่วิ่งไปวิ่งมาอยู่ในสมองของเรา แต่ยังไม่ได้ “ปฏิสนธิ” ตอนนี้เราก้อเลยต้องอยู่ในระหว่างการตัดสินใจอยู่ว่า จะยอมเสี่ยงเสียเวลากัดฟันเขียนตำราการแปลเล่มนี้ขึ้นมา  against the advice ของแฟนเราและของซือเจ๊เพื่อนนักแปลอาวุโส ดีหรือไม่?   จริงๆแล้วทีแรกเราก้อไม่อยากปั่นกระทุ้นี้เรื่องนี้ แต่เผอิญเห็นลุดวิกเขียนความคิดเห็น ที่ทำให้เราคิดว่า ลุดวิกยังไม่เข้าใจประเด็นของปัญหาที่แท้จริง  เราจึงพยายามอธิบายให้ฟัง และถ้าสำนักพิมพ์ใช้วิธีการทดสอบแบบใหม่ของเราจริงๆ  พวกเพื่อนๆนักอยากแปล หรือนักแปล ก็จะหางานแปลหนังสือได้ง่ายแสนง่าย โดยการเดินเข้าไปสมัครงาน และทำแบบทดสอบได้ทุกวันและทุกเวลาทำการ เนื่องจากว่า แบบทดสอบของเรานั้น “ตรวจง่าย ประเมินผลผู้สมัครงานง่าย และแม่นยำมากที่สุด...!!! ” จากคุณ : agelesstansy - [ 16 ก.ค. 51 01:44:04 ]

ความคิดเห็นที่ 36 นี่เป็นกระทู้เรื่องแปลที่เราปั่นเอาไว้ 3 กระทู้ในห้องเรียนภาษาอังกฤษ เริ่มต้นด้วยอันนี้ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6753328/K6753328.html ตอนต้นๆกระทู้ เราเขียนอธิบายลำดับขั้นตอนการเรียนการแปลด้วยตัวเอง โดยเริ่มตั้งแต่ระดับ elementary ไปเลย... แต่ช่วงหลังๆไปชักจะมีเรื่องยากๆ และกระทู้นี้ ก็มีเรื่องแปลด้วย   http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6780472/K6780472.html มีตัวอย่างการแปลสวยๆ ของคุณ แอ๊ด ปากเกร็ดอยู่ด้วย แต่ตัวอย่างบางอันชักจะยากขึ้นเหมือนกัน  ลองอ่านแนวคิดของเรา เรื่อง ”การแปลผิด”  ที่น่าศึกษา ซึ่งเรา แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ใหญ่ๆ และได้บัญญัติศัพท์เอาไว้ว่า มันคือ 1 blunder 2 complacency 3 complexity beyond ability  พร้อมทั้งยกตัวอย่าง เอาไว้ใน คคห 23 -26 กระทู้นี้เป็นเรื่องนักแปล http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6779096/K6779096.html เป็นการเปรียบเทียบว่า นักแปลที่อยู่ในวงการแปล ใครทำอะไรได้บ้าง จากคุณ : agelesstansy - [ 16 ก.ค. 51 01:56:24 ]

ความคิดเห็นที่ 37 คุณปลาทองคร๊าบบบบบ... ขอถั่วต้ม ข้าวโพดคั่ว อ้อยควั่น ลูกชิ้น ปลาหมึก หวานเย็น  ทานคั่นเวลาด้วยยยยย... จากคุณ : Canossa - [ 16 ก.ค. 51 16:35:11 ]

ความคิดเห็นที่ 38 555b3 ผมว่าเฮียทานสีแหละไม่เข้าใจความหมายที่ผมกำลังพูดถึงนะครับ ผมหมายความว่าถ้าจะตรวจงานกลั่นกรองเอาคน ให้ทาวิธีทดสอบเขากลั่นกรองมาก่อน เอาเป็นพันคนพร้อมกันเลยก็ได้ จะเอาแปลของเราไว้ก่อนไว้เทียบ หรืออะไรก็ได้ของเราที่กำหนดไว้ (ที่เราคิดว่าแม่นยำ) แต่ผมไม่เชื่อหรอกว่ามีบททดสอบแม่นยำ ถ้าให้แม่นยำจริง ต้องให้แปลทั้งเล่มนั่นแหละ และที่ผมเขียน เพราะเห็นเฮียบอกว่าไม่มีเวลาตรวจ ผมก็เลยเสนอว่ามีวิธีตรวจ มากมายหลายวิธี ไม่ใช่มานั่งอ่านทีละบรรทัดเทียบกัน นี่คือวามหมายของผม สองประเด็นเท่านั้น จะลองดูไหมครับ และวิธีของเฮีย ถ้าทำได้ก็ดี เป็นวิธีในอุดมคติเลย แล้วทำหรือยังล่ะครับ ได้ผลหรือยังหรือ เอาผลมาดูหน่อย สำนักพิมพ์ต่างๆ เขามีระบบหลายอย่าง ตัวแปรหลายอย่าง เราจะให้เขามาทำอย่างที่เราต้องการได้หรอครับ เราไม่รู้ปัญหาเขาเขาทั้งหมดหรอก ความคิดของเฮีย ถ้ามั่นใจนะ ทำแผนแม่บท ประกอบการวิจัย รายงานไว้ มีหลักฐานสถิติต่างๆ ครบ แล้วเดินเข้าไป สนพ ใหญ่ๆ สิ ถามเขาว่าขอให้เฮียทดลองงานทำแบบเฮียคิดได้ เฮียขอเงินเดือนไปเลยสามแสนเขาก็น่าจะให้ เพราะประหยัดส่วนอื่นได้เยอะ เขาจะยอมให้ทำไหมล่ะ เขาจเสี่ยงกับระบบเขาไหมละ หรือไม่ก็ทำสำนักพิมพ์ของเฮียเอง หาทุนสิครับ หนีบโครงการที่เฮียมั่นใจไปขอแหล่งทุน ต้องมีคนร่วมทุน ถ้าเขามั่นใจ ไม่ใช่พูดลอยๆ อย่างเดียว อย่าลืมที่ผมเสนอความคิด ผมเสนอจากมุมมองสองแง่เท่านั้นเอง ซึ่งเฮียเองก็ไม่เข้าใจความคิดของผมทั้งหมดเหมือนกัน จากคุณ : ลุดวิก - [ วันเข้าพรรษา 10:03:25 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ผมไม่ได้เสนอให้เขาทำแบบทดสอบ 4-5 หน้ามา ผมหมายความว่า จะตรวจได้อย่างไร เห็นว่าเฮียบอกว่ามีปัญหาการตรวจเท่านั้นเอง บายครับ ดูผมขึ้นต้นว่า "การตรวจไม่ยากหรอกครับ" เครื่องมือการแปล ผมยังไม่เห็นอะไรที่ทรงพลังเท่า TRADOS หรอกครับ ว่าแต่เฮียเล่นเต็มทุกฟีเจอร์ของมันหรือยัง สำหรับผมตอนนี้ ผมยังคิดไม่ออกว่า "ทำอย่างไรจึงจะหานักแปลเก่งๆได้" และที่แน่นอนผมไม่เคยดูถูกคน และคิดว่าตัวเองเก่งครับ ผมไม่ถนัดงานแปลครับ จากคุณ : ลุดวิก - [ วันเข้าพรรษา 10:08:28 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ลุดวิกยังไม่เข้าใจ ที่พูดว่า "ให้ทาวิธีทดสอบเขากลั่นกรองมาก่อน เอาเป็นพันคนพร้อมกันเลยก็ได้ จะเอาแปลของเราไว้ก่อนไว้เทียบ หรืออะไรก็ได้ของเราที่กำหนดไว้ (ที่เราคิดว่าแม่นยำ)...." ตอบ แปลไว้ก่อนแล้วเทียบไม่ได้ เพราะประโยคแต่ละประโยคมันแปลได้หลากหลายไม่มีขีดจำกัด  การเฉลยการแปล ไม่ใช่บอกว่าใครแปลไม่เหมือนนี้แล้วจะใช้ไม่ได้ ที่พูดว่า "... แต่ผมไม่เชื่อหรอกว่ามีบททดสอบแม่นยำ ถ้าให้แม่นยำจริง ต้องให้แปลทั้งเล่มนั่นแหละ" แบบทดสอบที่แม่นยำ มีจริง แล้วเราคิดได้แล้วด้วย ถ้าสำนักพิมพ์ไม่อนุมัติ และเราไม่เอาไปเขียนหนังสือเอง เราจะเอามาแปะให้ดู ...ไม่จำเป็นต้องให้แปลทั้งเล่ม ต่อให้แปลทั้งเล่มก็ทดสอบไม่ได้ เพราะคนที่แปลหนังสือเล่มหนึ่งดี อาจแปลเล่มอื่นไม่ได้เรื่องก็ได้ แต่ในทางกลับกัน แบบทดสอบที่ดี (ที่เราคิดขึ้นได้) จะประเมินได้ว่า ผู้สมัครงานมีความรู้กว้างๆที่พอจะ handle งานแปลได้หลายประเภทหรือไม่ "... ผมยังไม่เห็นอะไรที่ทรงพลังเท่า TRADOS หรอกครับ ว่าแต่เฮียเล่นเต็มทุกฟีเจอร์ของมันหรือยัง..." เราไม่รวยมีเงินซื้อเหมือนคุณหรอก แต่เรา downloaded Trados ของฟรีได้มาตั้งนานแล้ว และมันก็มี demo ให้ศึกษา แค่เอามาทดลองใช้ดูเฉยๆ แล้วเราก็ไม่ค่อยอยากใช้ ก็เลย uninstalled ไปแล้ว (ไม่จำเป็นสำหรับเราเพราะเราไม่ได้แปลโครงการใหญ่ๆบ่อยๆ) แล้วอีกอย่างหนึ่ง  ตอนที่แปลโครงการใหญ่ให้บริษัทข้ามชาติแห่งหนึ่ง เราก้อมีประสบการณ์กับ CAT tool ของค่ายอื่นมาก่อน (เขาไล่แจก CAT tool ให้เราฟรี ซึ่งตอนนี้เราก็ยังมี software ตัวนั้นอยู่ แต่ก็ไม่ค่อยอยากใช้) ประสิทธิภาพสูงสุดของ Trados หรือ CAT tools ตัวเก่งๆ  ก็คือการแปลงานโครงการขนาดยักษ์ ที่แบ่งกันแปลหลายๆ คน และทำให้คำแปลออกมา consistent และ Trados ช่วยได้ในกรณีที่ลูกค้ากำหนดมาว่าให้แปลเอกสารใน format เฉพาะเจาะจง แต่ขีดความสามารถของ Trados ไม่สามารถนำมาแก้ปัญหาเรื่อง recruitment ได้ และถ้านักแปลอ่าน source text (ภาษาต้นทาง) ไม่รู้เรื่อง Trados ก็ช่วยอะไรไม่ได้ แล้วอีกอย่างหนึ่งนะ เราเคยฝันเฟื่องว่าจะใช้ MultiTerm ของ Trados เอามาทำคลังศัพท์ แต่เราก็เปลี่ยนใจ เนื่องจากว่า แทนที่จะทำคลังศัพท์ เราพยายามหาวิธีการอันใหม่ๆ ที่จะจำคำศัพท์ แทนที่จะจดมัน (ไปได้หนังสือฝึกความจำมาน่ะ และใช้ software ตัวอื่นช่วยด้วย)   แล้วก็อย่างทีว่านั่นหละ เราไม่ได้แปลเอกสารโครงการใหญ่ๆ และก็ไม่ได้แปลเอกสารใน format ที่แปลกๆพิศดาร เราแปลแต่หนังสือธรรมดาๆ เท่านั้น ดังนั้น เราจึง uninstalled Trados และ MultiTerm ออกไปแล้ว คือรำคาญ ขี้เกียจใช้มันน่ะ ... ที่พูดว่า "สำหรับผมตอนนี้ ผมยังคิดไม่ออกว่า "ทำอย่างไรจึงจะหานักแปลเก่งๆได้" และที่แน่นอนผมไม่เคยดูถูกคน และคิดว่าตัวเองเก่งครับ ผมไม่ถนัดงานแปลครับ" ตอบ โปรดอย่าพูด "ส่อความ" .....ว่านี้เป็นการ "ดูถูกคน"  มันไม่ได้เป็นการดูถูกคน ปัญหาที่ serious ที่สุดของสำนักพิมพ์ที่ผลิตหนังสือแปลมวลมาก ก็คือว่า หานักแปลและบรรณาธิการต้นฉบับเก่งๆไม่ได้ ทั้งๆที่ "คนเก่งก็มีอยู่มากมาย" (เมื่อพูดว่ามีคนเก่งมากมาย เราก็ exonerated ตัวเราเองไปแล้ว “เรื่องดูถูกคน" เพราะว่าเราไม่ได้ดูถูกใคร) ดังนั้น ลุดวิกต้องไม่พูดให้คนอ่านเข้าใจผิด  ที่สำนักพิมพ์ยังหาคนเก่งไม่ได้มากพอ ทั้งๆที่คนเก่งๆ ก็มีอยู่มากนั้น ก็เพราะว่า 1. ข้อบกพร่องของการทดสอบด้วยการให้ทดลองแปล 4-5 หน้า ซี่งมันวัดไม่ได้แม่นยำ 2. การพิจารณาตัวอย่างการแปล ที่นานมากถึง 3-6 เดือน 3. การจ่ายค่าแปลด้วย rate ที่ต่ำ 4. การจ่ายค่าแปลช้า แบบทดสอบที่ดีจะแก้ปัญหาข้อ 1 ได้คือ ประเมินผลอย่าแม่นยำ แก้ปัญหาข้อ 2. คือ ทำให้นักแปลและบรรณาธิการต้นฉบับเก่งๆอยากมาสมัครงานมากยิ่งขึ้น เพราะพวกเขารู้ว่า เพียงแค่เดินเข้าสำนักพิมพ์มาทดสอบ แล้วรู้ทันทีว่าได้งานหรือไม่ได้งาน  แก้ปัญหาข้อ 3. คือ ใครทำแบบทดสอบได้คะแนนมาก ก็ได้ค่าแปล rate สูงๆ ใครทำแบบทดสอบได้คะแนนต่ำก็ได้ค่าแปลต่ำ ซึ่งก็เป็นการให้ incentives และเป็นการลดค่าใช้จ่ายไปในตัวภายในเวลาเดียวกัน แก้ปัญหาข้อ 4. คือสำนักพิมพ์ลดค่าใช้จ่าย โดยการลดจำนวนการแก้งานที่แปลผิด ก็เลยทำให้มีเงินมาจ่ายค่าแปลเร็ว และจ่ายค่าแปลเร็วเพราะ streamline all working procedures เนื่องจากไม่มัวแต่ไปแก้ไขงานที่แปลผิด ไม่มัวแต่ไปทำงานธุรการที่ยุ่งๆ เกี่ยวกับ recruitment หรือเรื่องอื่นๆ ซึ่งก็จะทำให้สำนักพิมพ์มีอะไรดีๆ ที่จะ offer เพื่อเป็นการดึงดูดคนเก่งๆ ให้เข้ามาสู่วงการ แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 51 23:03:43 แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 51 23:02:34 แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 51 18:49:25 แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 51 18:44:56 แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 51 18:41:54 จากคุณ : agelesstansy - [ วันเข้าพรรษา 18:31:04 ]

ความคิดเห็นที่ 41 แนวคิดน่าสนใจค่ะ แนะนำให้จดลิขสิทธิ์เอาไว้ก่อน ไม่ได้ล้อเล่นนะ อุปสรรคตอนนี้ เราคิดว่ายังไม่แน่ใจว่า สนพ.ไหนจะมั่นใจพอที่จะนำแนวคิดไปตีพิมพ์เป็นตำราค่ะ จากคุณ : Guga - [ วันเข้าพรรษา 20:23:50 ]

ความคิดเห็นที่ 42 อ้อคุณลุดวิก ที่เราบอกว่าเรา downloaded Trados (รวมทั้ง MultiTerm) ได้ แล้วมาทดลองใช้เล่นๆนั้น version ที่เราได้มา  มันไม่ใช่สำหรับ evaluation ที่มีระยะเวลาใช้งานจำกัดนะ หากแต่มันเป็น version ที่ มี crack และใช้งานได้ตลอดกาลเลยหละ ซึ่งจริงๆแล้ว achievement ระดับนี้นะ เราก้อต้องให้ credit แก่คุณเต็มเปี่ยมเลย นั่นแหละ ว่าเป็นเพราะคุณเข้ามาคุยเรื่องความเก๋าของ Trados เอาไว้ในห้องยำภาษาหลายรอบแล้ว จนคุณกลายเป็น "ชี้ทางสว่าง" ให้แก่เรา เพราะอะไรรู้ไหม? เพราะเราเคยชื่นชมความเป็นอัจฉริบะของคุณในเรื่องความรอบรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ทั้งด้าน hardware และ software ที่เหนือชั้นกว่าคนทั่วไป ของคุณ พออ่านเรื่อง Trados ที่คุณเขียนไว้ และใช้ตรรกะ คำนวณ possibilities เราจึงไม่เชื่อว่า "เซียนคอมพิวเตอร์ระดับเหนือชั้นอย่างคุณ จะยอมลงทุนซื้อ Trados ที่ราคาเฉียดๆแสนบาท...โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคเศรษฐกิจเช่นนี้...!!" ดังนั้น ด้วยการลองผิดลองถูก เราท่องเน็ตไปทุกหนแห่ง แล้ว experitmented seach engine techniques แบบ exhausted all possiblities .... ผลก็คือว่า ....ตอนนี้นะ ไม่ว่าจะเป็น software, ebooks, audiobooks และ soundtrack movies ของเก่าของใหม่ที่เป็นของฟรี  เรารู้วิธี download ได้จนครบทุกกระบวนท่าเพลงเลยหละ จริงๆแล้วทีแรกเราต้องการหาเพียงแค่ audio files กับ video files ที่มีเนื้อหาพวก esl เอามาใช้เป็นสื่อการสอนภาษาอังกฤษเท่านั้น แต่เผอิญมาอ่านข้อความที่คุณคุยฟุ้งว่าคุณมี Trados เราก็เลยเกิด ambitious ขึ้นมา แล้ว search ของฟรีอย่างอื่นนอกเหนือไปจากสื่อการสอนภาษาอังกฤษ ดังนั้น เราจึงต้องขอสดุดีคุณลุดวิก โดยจะต้องยกความดีความชอบทั้งปวง เอาไว่ให้แด่คุณลุดวิก ณ ที่นี้ด้วย และต้องขอขอบพระคุณมากๆด้วยจ้าาาาาาาาา.... แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 51 22:24:25 จากคุณ : agelesstansy - [ วันเข้าพรรษา 21:55:54 ]

ความคิดเห็นที่ 43 อ้อสวัสดี สวีดัส คุณ Guga ที่คุณว่า "อุปสรรคตอนนี้ เราคิดว่ายังไม่แน่ใจว่า สนพ.ไหนจะมั่นใจพอที่จะนำแนวคิดไปตีพิมพ์เป็นตำราค่ะ" เรื่องตำราที่เราพูดถึง เนื้อหาหลักของมันไม่ใช่เรื่องวิธีการแก้ปัญหาของสำนักพิมพ์ที่ผลิตหนังสือแปลมวลมาก ไม่ใช่เรื่อง ที่สำนักพิมพ์ยังหาคนเก่งไม่ได้มากพอ ทั้งๆที่คนเก่งๆ ก็มีอยู่มากนั้น ก็เพราะว่า 1. ข้อบกพร่องของการทดสอบด้วยการให้ทดลองแปล 4-5 หน้า ซี่งมันวัดไม่ได้แม่นยำ 2. การพิจารณาตัวอย่างการแปล ที่นานมากถึง 3-6 เดือน 3. การจ่ายค่าแปลด้วย rate ที่ต่ำ 4. การจ่ายค่าแปลช้า หากแต่ว่าคัมภีร์การแปลที่เราจะเขียน มันแค่สอนขั้นตอนง่ายๆที่มีตรรกะแบบ straightforward ในการที่คนๆหนึ่งอยากเรียนการแปล จะสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนที่เราให้ไว้ เพื่อเรียนการแปลได้อย่างไร ทั้งแปลอังกฤษเป็นไทย และแปลไทยเป็นอังกฤษ และแบบทดสอบนักแปล/บรรณาธิการต้นฉบับ ซึ่งเราพูดถึงนี้ ถ้าสำนักพิมพ์ไม่อนุมัติ เราจะเอามันใส่ไว้ในหนังสือของเรา  ...ใส่ไว้เป็น "แบบฝึกหัด" ให้ผู้เรียนการแปล ฝึกคิด และตอบคำถาม ซึ่งจะทำให้มีความรู้ทางด้านภาษา มากพอที่จะลงมือแปลได้จริงๆ ยังไงล่ะ และถ้าผู้อ่าน พอทำแบบฝึกหัดไม่ได้ และคิดไม่ออก หนังสือก็จะแนะแนวว่า เขาขาดความรู้หรือทักษะด้านไหนบ้าง และจะต้องทำอย่างไรจึงจะ แสวงหาความรู้ และพัฒนาทักษะนั้นๆ ขึ้นมาได้ด้วยตนเอง เนื่องจากว่าตอนเราเรียนการแปลด้วยตนเอง เราพยายามคิดว่าคนที่แปลได้ดี เขาคิดอย่างไรในสมอง ดังนั้น เนื้อหาหลักของตำรา จะเขียนง่ายมากๆ มันอยู่ในสมองเราหมดแล้วเป็นจำนวนหลายท่าเพลง หากแต่ว่า แบบฝึกหัด และเนื้อหาอื่นๆ ใช้เวลาเขียนนานมากๆ ที่เราพยายามเขียนหนังสือเล่มนี้ ไม่ใช่เพราะเราคิดว่าตัวเองเก่ง หากแต่เป็นเพราะอยากให้งานแปลวิ่งเข้ามาหาตัวเราเองหลังจากที่มีคนอ่านหนังสือของเราแล้ว คือว่าเราทนแปลก๋วยเตี๋ยวเรือ(งานแปลราคาถูกๆจากร้านแปล) ไม่ไหว แต่ก็เป็นจริงอย่างที่คุณพูดนั่นแหละ หรือเหมือนๆที่แฟนเราพูด และที่ซือเจ๊นักแปลผู้อาวุโสพูดนั่นแหละว่า ไม่มีสำนักพิมพ์ที่ไหนเขาจะเสี่ยงพิมพ์หนังสือประเภทนี้ ให้เรา เนื่องจากว่าเราไม่ใช่คนมีชื่อเสียงและไม่มีจุดขาย แต่เผอิญเรารู้จักกับคนๆหนึ่งที่พอจะช่วยเราได้ เพราะเขาติดต่อกับสำนักพิมพ์หลายแห่ง ที่จ้างวานให้เขาหานักแปลและนักเขียนให้ และเขาก็ติดต่อกับนักเขียนและนักแปลซึ่งกำลังหาสำนักพิมพ์ด้วย เขาทำงานคล้ายๆ literary agent นั่นแหละ เขาอาจช่วยเราได้ ...แต่ถ้าไม่ได้ก็เขียนเสร็จแล้วเก็บใส่ file ไว้อีกหลายสิบปีรอกว่าเราจะมีชื่อเสียง (หรือมีชื่อเสีย) แล้วค่อยงัดเอาออกมาขายก็ยังได้ จริงๆแล้วสิ่งที่เราพยายามทำนั้น ไม่ได้เป็นการแสดงความเก่งของเรา หากแต่ว่าเรา struggle ที่จะได้มาซึ่งงานแปลราคาดีพอสมควร เท่านั้นเอง แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 51 22:28:22 แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 51 22:21:16 จากคุณ : agelesstansy - [ วันเข้าพรรษา 22:16:18 ]