ความคิดเห็นที่ 1 ดูแล้วน่ารักดี ป้ากับหลาน จากคุณ : ghv2 - [ 11 ก.ค. 51 03:46:57 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อคืน นั่งดูข่าวนี้แล้วยิ้มอิ่มใจไปกับพระจริยวัตรทั้งสองพระองค์ ชื่นชมในพระบารมี  ขอพระองค์ทรงพระเจริญ จากคุณ : โตมิโต กูโชว์ดะ - [ 11 ก.ค. 51 05:40:36 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ทรงพระเจริญค่ะ จากคุณ : ศรีธนา - [ 11 ก.ค. 51 05:53:26 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เช่นเดียวกัน จากคุณ : cybrarian - [ 11 ก.ค. 51 08:04:20 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ใช่เลย  เราดูเกือบทุกช่องเลยค่ะ  ดูไปยิ้มไป  น่ารักมาก ๆ องค์หริภาท่านดูถ่อมพระองค์มาก ๆๆๆๆๆ จากคุณ : biebie999 - [ 11 ก.ค. 51 08:14:31 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ทรงทุมเทกับงานมาก ทั้งสองพระองค์ จากคุณ : mcpan - [ 11 ก.ค. 51 08:46:23 ]

ความคิดเห็นที่ 7 พระจริยาวัตรงดงามทั้งสองพระองค์ ลายละเอียดงานบางส่วนและภาพจากข่าวมติชน พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทรงออกแบบภาพจิตรกรรมฝาผนัง วัดหนองน้ำขุ่น อ.แกลง จ.ระยอง ซึ่งพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี ฯ ทรงรับไว้ในพระอุปถัมภ์ โดยทรงมีแนวคิดเขียนภาพพุทธประวัติในรูปแบบของจิตรกรรมไทยร่วมสมัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จยังท้องพระโรง วังสวนกุหลาบ พระราชวังดุสิต เพื่อทรงฟังพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ถวายรายงานการออกแบบภาพจิตรกรรมฝาผนัง วัดหนองน้ำขุ่น อ.แกลง จ.ระยอง วัดที่ทรงรับไว้ในพระอุปถัมภ์ และทรงมีพระดำริให้พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทรงออกแบบ ทรงงาน และควบคุมงานด้วยพระองค์เอง ทรงมีแนวคิดเขียนภาพพุทธประวัติในรูปแบบของจิตรกรรมไทยร่วมสมัย ตอนพระพุทธเจ้าเสด็จสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ โปรดพระพุทธมารดา และเสด็จกรุงกบิลพัสดุ์ โปรดพระพุทธบิดา พระองค์เจ้าสิริภาฯ ทรงถวายรายงานว่า ภาพจิตรกรรมฝาผนังเน้นเรื่องพระมารดา เพราะวัดนี้ผู้หญิงเป็นคนสร้าง จึงให้ความสำคัญกับพระมารดาก่อนพระบิดา แสดงให้เห็นจากภาพจิตรกรรมฝาผนัง ที่เสนอเรื่องราวของพระพุทธเจ้าที่ทรงมีความกตัญญูต่อพระบิดาพระมารดา จึงอยากให้คนรุ่นใหม่เห็นเป็นตัวอย่าง จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 11 ก.ค. 51 08:50:33 ]

ความคิดเห็นที่ 8 น่าจะเป็นน้ากับหลานมากกว่านะครับ    เพราะองค์โสมทรงเป็นลูกพี่ลูกน้องกับฟ้าหญิงจุฬาภรณ์โดยประสูติที่หลัง    ฟ้าหญิง ( ฟ้าหญิง 4 กค.2500 องค์โสม 13 กค 2500 ) จากคุณ : ถ้าจำผิดก็ขออภัย (inthemiddleofthesea) - [ 11 ก.ค. 51 08:58:57 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณ คุณ ร.ว.ย.ศ. สำหรับพระฉายาลักษณ์ทั้งสองพระองค์และรายละเอียดของข่าว ทั้งสองพระองค์ ทรงงานเพื่อประชาชนเสมอมา ขอทรงพระเกษมสำราญ จากคุณ : พนอจัน - [ 11 ก.ค. 51 09:15:11 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ทรงพระเจริญ จากคุณ : พี่คนใต้ใจดี - [ 11 ก.ค. 51 09:21:10 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คุณ คห 8 ครับ ผมคิดว่า องค์หริภา คงจะตรัสเรียก พระองค์โสม ว่าเสด็จป้าในฐานะที่ทรงเคยมีศักดิ์เป็นป้าสะใภ้นะครับ ตอนแรกผมก็สงสัยเหมือนกันว่าน่าจะเรียกว่า เสด็จน้า มากกว่าครับ จากคุณ : คุง - [ 11 ก.ค. 51 09:56:57 A:203.155.198.131 X: TicketID:167576 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เป็นภาพที่ประทับใจมาก  เห็นแล้วเป็นปลื้ม มีความสุขมาก /ขอทรงพระสำราญ จากคุณ : Nay_nan - [ 11 ก.ค. 51 09:58:05 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นตามคุณ คุงนะครับ ถ้าพระองค์โสมไม่ได้เสกสมรส องค์หริภา คงตรัสเรียกว่า คุณน้า เพราะเป็นพระญาติฝั่งพระมารดา จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 11 ก.ค. 51 11:40:19 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผ่านมาอ่าน...   จากคุณ : ชายยอดนักทดลอง - [ 11 ก.ค. 51 11:45:27 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นแล้วอดยิ้มไม่ได้ครับ จากคุณ : ย่ามฝัน - [ 11 ก.ค. 51 12:05:42 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ได้ยินพระองค์โสมท่านตรัสแทนองค์ว่า ป้า นะ จากคุณ : cybrarian - [ 11 ก.ค. 51 12:27:29 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอทั้งสองพระองค์ทรงพระเจริญค่ะ จากคุณ : คนมีแผลพ่อแม่ไม่รัก - [ 11 ก.ค. 51 12:45:35 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คห.8 คงเป็นเพราะพระองค์โสมเป็นพระธิดาพี่ชายพระราชินีและยึดเอาเจ้าฟ้าชายเป็นหลักในการเรียก พระพักตร์เหมือนกันนะทั้งสองพระองค์ ที่จริงเจ้านายก็พระพักตร์คล้ายกันหมดทุกองค์ รู้สึกท่านถ่อมตัวทั้งสองพระองค์ พระองค์โสมมักตรัสขอบคุณและจับมือกับชาวต่างชาติเวลาถวายของ เราว่าฝรั่งคงจะปลื้ม ส่วนองค์หริภาก็น่ารักดีและฉลาดสมเป็นเจ้านาย ทรงพระเจริญ (ที่จริงพระเจริญ แปลว่า อ้วน แต่ในที่นี้หมายถึงแข็งแรง) แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 51 13:07:43 จากคุณ : วสันดิลก - [ 11 ก.ค. 51 13:04:44 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ทรงพระเจริญ จากคุณ : เกิดมาใจดำ - [ 11 ก.ค. 51 13:12:44 ]

ความคิดเห็นที่ 20 รู้สึกรัก องค์หริภา ตั้งแต่ที่ พระองค์ท่านประสูติแล้วค่ะ เพราะพระองค์ท่าน ประสูติ วัน/เดือน เดียวกับเรา (8 ตุลาคม) คอยติดตามพระกรณียกิจ ของพระองค์ท่านเสมอมา เคยรู้สึกนิดๆในใจ สมัยที่พระองค์ท่าน ย้อมศรีษะสีแดง (ใช้คำราชาศัพท์ไม่เป็นค่ะ).........แต่ตอนนี้ รักพระองค์ท่าน สุดหัวใจค่ะ จากคุณ : แคลินน์ - [ 11 ก.ค. 51 13:57:56 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ดูแล้วก็ชื่นใจที่คนไทยมีเจ้านายที่ทรงมีพระจริยาวัตรที่งดงาม.ทั้งสองพระองค์ทรงเอาพระทัยใส่ในพระพุทธศาสนาอย่างสม่ำเสมอขอพระองค์ทรงพระเจริญทั้งสองพระองค์ จากคุณ : code_ramida - [ 11 ก.ค. 51 15:59:38 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ชื่นใจครับ จากคุณ : ทูนหัวของแม่ - [ 11 ก.ค. 51 16:59:29 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ทำไงอยากดูข่าวย้อนหลังช่วยที  เสียดายมากที่ไม่ได้ดู จากคุณ : ชบาชายป่า - [ 11 ก.ค. 51 17:31:31 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คิดว่าเราเป็นคนเดียวซะอีก ดูข่าวไป น้ำตาไหลไป ปลื้มใจจริง ๆ ทรงพระเจริญ จากคุณ : ดอกงิ้ว (ดอกงิ้ว) - [ 11 ก.ค. 51 19:18:10 ]

ความคิดเห็นที่ 25 http://news.mcot.net/popup/royal.php?nid=14574 สำหรับผู้ที่ไม่ได้ดูครับ  ผมก็เพิ่งได้ดูเมื่อกี๊นี้เอง จากคุณ : ฟ้าสีคราม (wenxuan1983) - [ 11 ก.ค. 51 19:23:14 ]

ความคิดเห็นที่ 26 คห.23 สามารถดูย้อนหลังได้ที่นี่คะ http://www.me.in.th/live/ จากคุณ : ปลายเนิน - [ 11 ก.ค. 51 19:25:27 ]

ความคิดเห็นที่ 27 น่ารักดีค่ะ ขอบคุณที่เสนอข่าวนี้นานมาก คห. 8 องค์หริภาประสูติในขณะที่พระองค์โสมยังมีพระอิสริยยศเป็นพระวรชายาของทูลกระหม่อมลุงของท่าน ฉนั้นขณะนี้ถึงแม้จะเปลี่ยนไปแล้วแต่การขานพระนามระหว่างท่านก็ยังคงไว้เหมือนเดิม จากคุณ : EmptyMemory - [ 11 ก.ค. 51 19:28:02 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ความคิดเห็นที่ 8 กับ 27 องค์หริภา เรียกป้า ถูกต้องแล้วคะ เพราะ องค์โสม มีศักดิ์ เป็นพี่ฟ้าหญิง      ฟ้าหญิงเป็นลูกของน้อง  พี่ของแม่จึงเรียกว่าป้า หรือ ลุง จากคุณ : pooandpang - [ 12 ก.ค. 51 09:58:56 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ดูข่าวแล้ว ยิ้มเลยครับโดยเฉพาะตอน "พระองค์โสมท่านตรัสแทนองค์ว่า ป้า" ....ฟังแล้วอบอุ่นจริงๆ ครับ  ยังมาเล่าที่ทำงานถึงความน่ารัก ของทั้ง 2 พระองค์เลยครับ แวะมาเยี่ยมโต๊ะประวัติศาสตร์ครับ จากคุณ : สะตอคุง - [ 12 ก.ค. 51 10:35:53 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คห. 28 คุณเข้าใจผิดแล้วค่ะ  ลองย้อนขึ้นไปอ่านคห. ของคุณคุง ที่เค้าอธิบายให้คห. 8  นะคะ  แล้วก็ลองทบทวนดูดี ๆ ค่ะ จากคุณ : successG (successG) - [ 12 ก.ค. 51 10:56:23 ]

ความคิดเห็นที่ 31 สมเด็จพระบรมฯ เป็นพระเชษฐา สมเด็จฯเจ้าฟ้าจุฬาภรณฯ ครับ ฉะนั้น สมเด็จพระบรมฯ เป็น พระปิตุลา (ลุง)  พระองค์โสมฯ เป็นอดีตพระวรชายาฯ จึงเป็นพระปิตุจฉา (ป้า) แต่ถ้าพระองค์โสม มิได้อภิเษกด้วยสมเด็จพระบรมฯ ก็จะเป็น พระมาตุจฉา(น้า) ในพระองค์สิริภาฯ แต่เรื่องนี้แล้วจะเจ้านายจะโปรดเรียกกันครับผม แต่เราก็ได้ยินท่านเรียกพระองค์โสมว่า "ป้า" แสดงว่าเจ้านายท่านยึดธรรมเนียมว่าท่านเป็น"พระมาตุลานี"  (ป้าสะใภ้) จากคุณ : natthaset - [ 12 ก.ค. 51 11:49:39 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ความคิดเห็นที่ 30 อ่านแล้วอ่านอีก ก็ไม่ใช่อยู่ดี พออ่านความคิดเห็นที่ 31 ก็ไม่ใช่ ถึงแม้องค์โสมไม่ได้อภิเษกสมรส กับสมเด็จพระบรมฯ     พระองค์โสมและ มล.สราลี ก็ยังเป็น พี่ของลูกเธอ และ ลูกยาเธอ ทุกพระองค์ ฉะนั้นพี่ของพ่อ หรือแม่ ต้องเรียก ว่าป้า หรือลุง หรือบ้านใครเรียก น้า เป็นป้าของหลานเธอทุกพระองค์ (ยกเว้นองค์ภา) เพราะ องค์โสม เป็นลูก ผู้พี่  (ม.ร.ว อดุลยกิต เป็นพี่ของ ราชินี) ถึงแม้จะชันษาน้อยกว่า ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ ก็มีศักดิ์เป็นพี่ เป็นป้าของหลานเธอ จะเป็นน้าของหลานเธอไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 51 13:14:11 จากคุณ : pooandpang - [ 12 ก.ค. 51 13:08:53 ]

ความคิดเห็นที่ 33 จำได้ว่าในหนังสือ ที่ระลึก สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ และ หม่อมหลวงโสมเสาวลี กิติยากร ทรงหมั้น นั้ระบุไว้ว่าทรงเป็น  น้องโสมฯ ของทูลกระหม่อมพี่ทุกพระองค์ ดังนั้น น่าจะเป็นกรณีที่ คุณnatthaset กล่าว ว่าทรงเป็น ป้าสะใภ้ ซะมากกว่า จากคุณ : ฟ้าสีคราม (wenxuan1983) - [ 12 ก.ค. 51 13:35:18 ]

ความคิดเห็นที่ 34 รักพระองค์โสมกับพระองค์หริจริงๆครับ พระองค์หริเวลามีงานที่มหาวิทยาลัย พระองค์ก็เสด็จอย่างเงียบๆ ไม่มีรถนำ มีการ์ดแค่2-3คนเอง พระองค์ทรงกันเองมากๆ จากคุณ : เด็กวังท่าพระ (DirrtyVanilla) - [ 12 ก.ค. 51 13:51:35 ]

ความคิดเห็นที่ 35 .....คุณ pooandong คห.ที่ 32 เข้าใจผิดแล้วครับ     องค์หริมิได้เรียกองค์โสมว่าป้า เพราะถือว่าเป็นลูกผู้พี่ในขณะที่ฟ้าหญิงเป็นลูกผู้น้อง     แต่ท่านตรัสเรียกป้านั้นมาจากที่ท่านเคยเสกสมรสกับสมเด็จพระบรมมากกว่าครับ ( ตามที่คุณ natthaseth กล่าว ) และการเรียกขานนั้นก็ติดมถึงทุกวันนี้แม้จะทรงแยกทางกันแล้ว    เท้าความนิดนึง.. ตามธรรมเนียมไทยนั้นเรานับถือกันตามอาวุโส ใครแก่กว่าก็ถือศักดิ์เป็นพี่ ซึ่งเป้นสิ่งที่ใช้ได้กับทั้งชั้นลูกพี่ลูกน้อง หรือในคนทั่วๆไปที่ไม่ได้เป็นญาติกันก็ตาม    ..เช่นถ้าลูกของพี่ชายนั้น อายุน้อยกว่าลูกของน้องสาวเกือบสิบปี ลูกน้องน้องสาวก็จะเรียกลูกของพี่ชายว่าน้อง ในขณะที่ลูกพี่ชายจะเรียกว่าลูกน้องสาวว่าพี่ ในทำนองเดียวกัน และในชั้นถัดไปก็จะเรียกลูกของพี่ชายว่าน้า ไม่ใช่ป้าอย่างที่คุณ pooandong เข้าใจ    ดังนั้นที่กล่าว ว่า องค์โสมนั้นเป็นลูกพี่ ส่วนฟ้าหญิงนั้นเป็นลูกน้อง หรือทั้งสองท่านถือว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องซึ่งกันและกันนั้นก็ถูกต้องในเชิงการลำดับญาติ    มี ตย..ให้เห็นเช่น องค์หรินั้นจะทรงเรียก มล.สราลี กิติยากร ว่า น้าน้ำผึ้ง มิได้เรียกว่า ป้าน้ำผึ้ง แต่อย่างใด ในขณะที่องค์สิริวรรณวรี ก็จะตรัสเรียก มล.สราลีว่า อาน้ำผึ้ง มิใช่ป้าน้ำผึ้งในทำนองเดียวกัน ( การตรัสเรียกแบบนี้เป้นสิ่งที่มีอยุ่จริง เพราะเคยอ่านนิตยสารเกี่ยวกับเจ้านายฉบับหนึ่งได้กล่าวว่าท่านเรียกขานกันเช่นนี้จริงๆ ) แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 51 21:41:13 แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 51 21:38:47 จากคุณ : inthemiddleofthesea - [ 12 ก.ค. 51 21:37:35 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เป็นปลื้มด้วยคน เมื่อวานพยายามเปิดดูข่าวทุกช่องเลย ดูแล้วชื่นใจยังไงก็ไม่รู้ บอกไม่ถูก จากคุณ : เสือปลาลายจุด - [ 12 ก.ค. 51 22:05:08 ]

ความคิดเห็นที่ 37 พระองค์โสมโปรดให้องค์หริภา ออกแบบจิตรกรรม ฝาผนังวิหารที่ทรงสร้าง สืบเนื่องจากที่ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงรับเป็นองค์อุปถัมภ์วัดหนองน้ำขุ่น อ.แกลง จ.ระยอง และได้ดำเนินการสร้างพระวิหารจนเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่ยังขาดภาพจิตรกรรมฝาผนัง เมื่อทรงเห็นพระปรีชาสามารถด้านงานศิลปะของพระเจ้าหลานเธอ พระ องค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ จึงทรงมีพระดำริให้ “องค์หริภา” ทรงออกแบบภาพจิตรกรรมฝาผนัง ในพระวิหารวัดหนองน้ำขุ่น และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (10 ก.ค.) “องค์หริภา” ทรงนำคณะกรรมการโครงการวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังเข้าเฝ้าพระองค์โสมฯ เพื่อถวายรายงานถึงแผนการดำเนินงาน หลังจากที่ได้ทำการสำรวจและออกแบบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ณ พระตำหนักสวนกุหลาบ จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 14 ก.ค. 51 08:48:53 ]

ความคิดเห็นที่ 38 นายปัญญา วิจินธนสาร คณบดีคณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ ม.ศิลปากร ได้ถวายรายงานถึงการดำเนินงานว่า นับจาก “องค์หริภา” ทรงรับพระดำริแล้ว พระองค์ได้เสด็จยังวัดหนองน้ำขุ่น พร้อมทีมงานเมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อทำการสำรวจเก็บข้อมูลในการเขียนภาพ โดยทรงวัดและคำนวณขนาดพื้นที่ของแต่ละผนัง และด้วยสถาปัตยกรรมของพระวิหารเป็นทรงจัตุรมุข จึงทรงมีแนวคิดที่จะเขียนภาพพุทธประวัติในรูปแบบของจิตรกรรมไทยร่วมสมัย ด้วยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบประเพณีและการสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ โดยให้งานจิตรกรรมฝาผนังภายในพระ วิหาร แสดงความรู้สึกราวกับจำลองจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ โดยเนื้อหาของภาพ “องค์หริภา” ทรงมีแนวคิดที่จะเลือกเขียนพุทธประวัติตอนสำคัญ 4 ตอน สื่อความหมายเฉพาะสำหรับวิหารนี้ และถวายเป็นพระราชกุศลแด่บุพการี ทรงแบ่งภาพตามมุขผนัง มีภาพพระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ในลักษณะปางเปิดโลก เรื่องราวเนื้อหาเทพชุมนุม ภาพพระพุทธเจ้าเสด็จสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ โปรดพระพุทธมารดา ภาพสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ และภาพพระพุทธเจ้าเสด็จกรุงกบิลพัสดุ์ โปรดพระพุทธบิดา รวมถึงภาพท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 องค์ประจำทิศทั้ง 4 ทิศ จากนั้น “องค์หริภา” ได้ทรงนำโมเดลภาพจิตรกรรมฝาผนัง ที่ ทรงออกแบบเสร็จเรียบร้อยแล้วถวายพระองค์โสมฯทอดพระเนตร พร้อมขอประทานคำแนะนำว่า จะทรงเปลี่ยนแบบหรือแก้ไขในส่วนใดบ้าง หรือไม่ เมื่อพระองค์โสมฯทรงรับทราบข้อมูลและทอดพระเนตรโมเดลแล้ว ทรงมีรับสั่งชื่นชมว่า “สร้างได้สวยแล้ว ความหมายก็ดี เป็นการทำถวายพ่อแม่ ป้าก็ได้พึ่งหลานด้วย เพราะยังนั่งคิดหาคนทำไม่ได้ เห็นว่าหลาน เรียนจบแล้ว เลยขอประทานให้หลานทำ” พร้อมรับสั่งว่า การทำเกี่ยวกับ วัดวาอารามกุศลนั้นแรง ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในการวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังนั้น พระองค์โสมฯได้ประทานค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่ง ให้เป็นทุนประเดิมและจะทรงเปิดบัญชีให้คนอื่นได้มีส่วนร่วมทำบุญด้วย จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 14 ก.ค. 51 08:49:57 ]

ความคิดเห็นที่ 39 โอกาสนี้ “องค์หริภา” ยังทรงถวายคำอธิบายถึงจิตรกรรมฝาผนังที่ทรงทำในส่วนของเพดานพระวิหารด้วยว่า ตามแบบเพดานพระวิหารเป็นปูนจะทำให้ร้อน และเมื่อเจอกับอากาศที่ชื้นจะเกิดรอยแตก พระองค์จึงทรงเสนอทำเพดานเป็นไม้ และออกแบบเป็นจักรราศี เดินไฟตามระบบดวงดาว สามารถกะพริบได้จริง “องค์หริภา” ยังทรงอธิบายด้วยว่า จิตรกรรมฝาผนัง ในครั้งนี้ทรงใช้สีแดงและทองเป็นส่วนใหญ่ เพราะเป็น สัญลักษณ์ของสวรรค์ และรายละเอียดของรูปภาพมีความ เป็นล้านนา แสดงถึงเอกลักษณ์ของศิลปินที่มีความร่วมสมัย บ่งบอกให้รู้ว่าสร้างในยุคสมัยใด และที่ทรงเน้นทำถวายเป็นพระราชกุศลแด่บุพการี โดยเฉพาะพระมารดา เพราะวัดแห่งนี้ผู้หญิงเป็นคนสร้าง จึงทรงให้ความสำคัญกับพระมารดาก่อนพระบิดา อีกทั้งยังสื่อให้เห็นว่าพระ พุทธเจ้าทรงมีความกตัญญูต่อพระบิดาและพระมารดา จึงทรงอยากให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นถึงตรงนี้ด้วย. http://www.thairath.com/news.php?section=society&content=96903 จากคุณ : ร.ว.ย.ศ. (raveeyos) - [ 14 ก.ค. 51 08:51:00 ]

ความคิดเห็นที่ 40 คห. ที่ 32 ครับ อย่างที่ คห.31 กับ 35 อธิบายนั่นแหละครับ เราจะเรียกพี่สาวของพ่อและแม่ว่า ป้า เราจะเรียกพีชายของพ่อและแม่ว่า ลุง เราจะเรียกน้อยชายและน้องสาวของแม่ว่า น้า และเราจะเรียกน้องชายและน้องสาวของพ่อว่า อา การที่จะดูว่าใครเ้ป็นพี่เป็นน้อง ส่วนมากก็ดูตามอายุหรือลำดับญาตินั่นแหละครับ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี ทรงเสกสมรสกับสมเด็จพระบรมฯ สมเด็จพระบรมเป็นลุงของพระองค์หริภา ดังนั้นพระองค์โสมจึงเ็ป็น "ป้า" ด้วยครับ หากไม่ได้เสกสมรสกัน ก็จะทรงเ็ป็น "น้า" พระทรงพระชันษาอ่อนกว่า ทูลกระหม่อมพระองค์เล็กครับ เช่นถ้าเรามีลูกพี่ลูกน้อง เอาเป็นลูก่สาวของลุง (ซึ่งลุงของเรา ในที่นี้ให้เป็นพี่ของแม่) แล้วลูกสาวของลุงเนี่ย อายุน้อยกว่าเราแปดปี เวลาเรามีลูกเราจะให้ลูกของเราเรียกว่า "อา" ใช่มั้ยครับ (เพราะเค้าอายุน้อยกว่าเรา หรือเรียกว่า "น้า" ในกรณีที่คุณเป็นผู้หญิง) แต่ถ้าเกิดว่าลูกสาวของลุงที่อายุน้อยกว่าเราเนี่ย แต่งงานกับพี่ชายเรา เราก็อาจจะให้ลูกสาวของเรา เรียกว่า "อา" (หรือ "น้า" ในกรณีทีคุณเป็นผู้หญิง) ตามเดิม หรือว่าเรียกว่า "ป้า" ถ้าถือตามศักดิ์ว่าเป็นภรรยาของลุง หรือป้าสะใภ้ ใช่มั้ยครับ.... คุณ คห. 32 ลำดับญาติแปลก ๆ นะครับ จากคุณ : psbonn - [ 15 ก.ค. 51 02:51:36 ]

ความคิดเห็นที่ 41 :) องค์โสมและองค์หริภาไม่ถือพระองค์แม้แต่น้อยครับ จากคุณ : น้ำค้างเดือนเก้า - [ 15 ก.ค. 51 22:34:52 ]

ความคิดเห็นที่ 42 อยากเห็นองค์หริภาเสด็จไปไหนมาไหน  กับพระมารดา  เหมือนพระองค์โสมกับพระองค์ภา  นะคะ  ทำไม ไม่เห็นฟ้าหญิงจุฬาภรณ์เสด็จกับองค์หริภาเหมือนแม่ลูกคู่อื่นเลย  สงสารท่านนะคะ  ยังไงก็รักพระองค์ท่านมากอยากให้ท่านมีความสุข  นานๆจะเห็นท่านที  แต่เห็นแล้วก็ชื่นใจ  ขอจงทรงพระเจริญ จากคุณ : ในเมฆ - [ วันแม่แห่งชาติ 14:15:36 ]