ความคิดเห็นที่ 1 เป็นเรานะ ถ้าเห็นขาย course ต่อ เราจะคิดว่ามันต้องมีปัญหาบางอย่างถึงขายต่อ  เหมือนๆกับจะซื้อบ้าน ถ้าบอกว่ารีบๆขายหลังจากเพิ่งอยู่แค่ไม่กี่เดือนเองเราต้องคิดว่า บ้านนี้มันมีผีแหงๆเลยอ้ะ...555+++.... จากคุณ : agelesstansy - [ 13 ก.ค. 51 07:23:58 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เรื่องขาย courses ต่อเกิดเพราะอะไร เราจะชี้ทางสว่างให้ เราว่าที่ขายต่อนะ มันคงเป็นอย่างนี้ คือจริงๆแล้วโรงเรียนสอนภาษาทั่วๆไป มันก้อไม่มีใครเก่งกว่าใครมากน้อยสักเท่าไหร่หรอก คงเหมือนๆกับนักการเมืองที่ไม่มีใครซื่อกว่าใครมากน้อยสักเท่าไหร่หรอก ทีนี้ Wallstreet อาศัยหลักการตลาด ที่ขายความหรูหรา ทำเลแพงๆ เหมือนขาย lipstick ถ้าต้นทุน 50 บาท ขายแท่งละ 300 ไม่ค่อยมีคนซื้อ แต่ถ้าขายแท่งละ 2000 มีสาวไฮโซซื้อกันบานเลย ก็เลยมีคนคิดว่า ถ้า course ที่ Wallstreet มันแพง มันก็จะเป็นการลงทุน "ครั้งเดียว" ที่คุ้มค่า แต่ครั้นเมื่อเรียนไปจริงๆแล้ว ก็พบว่า ขึ้นชื่อว่าภาษาอังกฤษนะ เรียนที่ไหน มันก็ไอ้ต้องใช้เวลาเรียนนานอยู่ดีนั่นหละ และการลงทุนหนักๆแบบนี้ มันไม่ได้ทำให้ประสบความสำเร็จได้ภายในห้าหกเดือน แต่คงต้องเป็นปี หรือหลายปี (ในกรณีที่ผู้เรียนอ่อนภาษาอังกฤษมาก) ดังนั้น เมื่อคำนวณดูแล้ว ผู้เรียนเห็นว่า "กว่าจะเรียนจนเก่งได้เขาคงล่มจมเสียก่อน" ดังนั้น การขาย courses ต่อให้คนอื่นจึงเกิดขึ้น หลักการที่ถูกต้องก็คือว่า หากรู้ตัวว่า การเรียนภาษาอังกฤษจะต้องใช้เวลานานนะ ให้เลือกที่เรียนให้ถูกกว่านี้ เช่นที่ AUA เป็นต้น จากคุณ : agelesstansy - [ 13 ก.ค. 51 07:32:59 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตอบให้ครับ ไม่ต้องไปซื้อคอร์สต่อใครจะดีกว่าน่ะ เพราะรายละเอียดของแต่ล่ะคนไม่เหมือกัน เลเวลของคุณอาจจะคนล่ะเลเวลกับของคนนั้นก็ได้ และถ้าตั้งใจจะไปเรียนอาทิตย์ล่ะ 2-3 ครั้งก็อย่าดีกว่า เพราะการเรียนภาษาต้องใช้เวลาอย่างมาก ต้องทุ่มเท และหากไปแล้วไม่เข้าสังคมก็จะเบื่อและไม่ชอบ wall street ได้น่ะ จากคุณ : Ashitaka - [ 13 ก.ค. 51 21:06:31 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมเคยซื้อคอร์ส WallStreet ต่อจากคนในเน็ตครับ เขาอ้างบอกว่าทำงานอยู่นอกเมือง ไม่สะดวก และไมมีเวลา เลยต้องการขาย โดยนัดเจอกัน แล้วทำทีว่าเราเป็นญาติกับเขา ให้ จนท. เปลี่ยนเป็นชื่อเราแทน ส่วนระดับที่เรียนนั้น จนท.เขาก็ให้วัดระดับใหม่เลยนะครับ เราจะได้เรียนตามระดับจริงของเราที่สอบได้ สรุปโดยรวมก็ดีครับ แต่คุณต้องมีเวลาไปเรียนบ่อย ๆ จะอยู่นานแค่ไหนก็ได้ บ่อยแค่ไหนก็ได้ คุ้มครับถ้ามีเวลา เพราะจำนวนนักเรียนต่อคลาสนั้นน้อย เราจะได้พูดกับอาจารย์แน่ ๆ และต้องพูดอังกฤษตลอดเวลาที่อยู่ในศูนย์ แต่ถ้าคุณไม่มีเวลา หรือเดินทางไปไม่สะดวก ไม่แนะนำครับ เพราะราคาแพงมาก ๆ อาจไม่คุ้มกับเงินที่เสียไป จากคุณ : Egoagogo - [ 15 ก.ค. 51 13:10:44 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมว่าอีกเหตุผลที่มีคนขายคอร์สต่อ เพราะ ไม่ได้อย่างที่หวังไว้ บางคนคาดหวังว่า ค่าเรียนแพงมหาโหดแบบนี้ ต้องมีเคล็ดลับ เรียนแล้วพูดได้เร็วเป็นแน่ แต่พอเอาเข้าจริง กลับพบว่า มันต้องอาศัยความพยายาม ความขยัน และใช้เวลา พอเห็นแบบนี้ พวกที่หวังว่าไปเรียน สัปดาห์ละสองสามครั้งแล้วพูดได้ ก็เริ่มรู้ว่า ไม่จริง ผนวกกับความขี้เกียจ อ้างว่าไม่มีเวลาบ้างหละ เดินทางลำบากบ้างหละ (ตอนสมัครไม่ได้คิดถึงจุดนี้) เลยเลิกเรียนดีกว่า ก็เลยขายต่อ ผมจะบอกว่า ถ้าคุณขยัน ไปเรียนทุกวัน ฝึกฝนสม่ำเสมอ ยังไงภาษาคุณต้องพัฒนาขึ้นแน่นอน จะมากจะน้อยก็แล้วแต่หลักสูตรการสอนด้วยส่วนหนึ่ง ขึ้นกับการฝึกฝนด้วยว่าเน้นอะไรเช่น เรียนแกรมม่าร์อย่างหนัก ไม่ค่อยฝึกฟัง ฝึกพูด และจะไปหวังว่าจะสนทนาภาษาอังกฤษได้ดีหลังจากเรียนจบ มันก็คงเป็นไปไม่ได้ จากคุณ : Tiger อู๊ด - [ 16 ก.ค. 51 01:15:55 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ใช่แล้ว ที่ขายต่อเพราะตอนซื้อ course ไปเชื่อว่า "เพราะมันแพง มันต้องเป็นการลงทุนหนักๆครั้งเดียวแล้วได้ผลคุ้มค่า" ที่คิดแบบนั้นก็เพราะว่า โรงเรียนจัดและตกแต่งหรูหราดึงดูดใจ แถมยังโฆษณาว่าคนสอนเป็นฝรั่งเจ้าของภาษาที่เรียนจบด้านการสอนภาษามาโดยตรงทุกคน ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ใช่ ...(ไม่น่าเป็นไปได้)...เพราะว่า จำนวนเม็ดเงินที่โรงเรียนต้องเสียค่าเช่าที่ แพงๆ เสียค่าโฆษณาแพงๆ มันจะเหลือจ่ายอาจารย์เป็นเงินก้อนงามๆ ก็คงจะยาก จริงๆแล้วอาจารย์ฝรั่งเก่งๆ เขามักจะไปสอนภาษาอังกฤษที่ญี่ปุ่นหรือไต้หวัน ซึ่งได้ค่าจ้างแพงกว่ามากๆ ...หรือไปที่ซาอุ...เรารู้จักฝรั่งชาวอังกฤษคนหนึ่งสอนภาษาอังกฤษเก่งมากๆ เขาไปสอนเจ้าชายซาอุ ได้แค่ประมาณปีหนึ่งนี่ เจ้าชายพอพระทัยให้ค่าตอบแทนจนฝรั่งคนนี้ retired ไป แล้วไปซื้อบ้านหลังงามๆ เสวยสุขอยู่ที่ Florida เลยหละ แล้วคนที่ขายต่อ course ของ Wallstreet ก็คงตระหนักว่า ที่ไหนได้ ขึ้นชื่อว่าเรียนภาษาแล้ว จะเรียนถูก เรียนแพง มันก็ไอ้ต้องใช้เวลาเรียนนานอยู่ดีนั่นแหละ ก็เลยเสียดายเงิน อยากจะขาย course ต่อให้คนอื่น เพื่อที่จะเอาเงินบางส่วนกลับคืนมาบ้าง นั่นเอง คนที่จะหาที่เรียนภาษาอังกฤษควรจำไว้ว่า ทักษะทางด้านภาษา มันต้องเรียนรู้สะสมหลายๆปี หลักสูตรที่ดีควรเป็นเพียงแค่ปูพื้นฐาน ด้านการ ฟัง พูด อ่าน เขียน แต่ไม่ใช่เรียนจบแล้วเก่งออกมา...เพราะเป้าหมายแบบนี้ มันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน แต่เป้าหมายที่ถูกต้อง ก็คือเตรียมพร้อมให้ผู้เรียนมีความรู้เพียงพอที่จะเรียนส่วนที่เหลือต่อไปได้ด้วยตนเอง   เช่นรู้ว่าควรออกเสียงยังไงให้ถูกต้อง มีทางหนีทีไล่ยังไงในการฟัง มีประโยคแบบไหนบ้างที่ควรเรียนรู้ มีวิธีเรียนคำศัพท์ การอ่าน และการเขียนยากๆ ต่อไปได้ด้วยตัวเองอย่างไรในอนาคต  แล้วที่เหลือนักเรียนก้อเรียนจากบทเรียนบนอินเตอร์เน็ต เรียนจากการพูดจากับชาวต่างชาติในชีวิตจริง ดูหนัง ฟังเพลงฯลฯ ไม่ใช่กะจะเรียนทีเดียวเก่งโดยการทุ่มเงินเป็นแสนๆ .... แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 51 19:02:07 จากคุณ : agelesstansy - [ 16 ก.ค. 51 18:53:28 ]

ความคิดเห็นที่ 7 จริงๆแล้วโฆษณาสอนภาษาอังกฤษที่ไร้สาระมากที่สุดอีกอย่างหนึ่งก็คือ "สอนภาษาอังกฤษทุกระดับ โดยอาจารย์จบจาก ....ชื่อมหาลัยดังๆ...." เราลองมาวิเคราะห์โฆษณานี้กันดูเล่นๆ ไอ้เอาชื่อมหาลัยมาโฆษณาหากินน่ะ เราไม่ว่ากัน แต่ไอ้ที่โฆษณาว่า "สอนได้ทุกระดับ" นั่นน่ะ 1. สอนไปทำไมกันทุกระดับ จะบ้าหรือไงกัน อย่างเช่นภาษาอังกฤษสมัย 500 ปีมาแล้ว ที่เขียนด้วยอักขระประหลาดๆน่ะ มีนักเรียนที่ไหนอยากเรียนบ้าง แล้วเกิดถ้ามีคนอยากเรียนจริงๆล่ะ จะมีปัญญาสอนกันสักกี่คน...555+++... สอนแค่ให้มีความรู้พอที่นักเรียนจะเรียนต่อไปได้ด้วยตนเองก็พอแล้ว 2. สอนได้ทุกระดับใครสอนได้บ้างล่ะ Professor of English ยังไงล่ะ แต่ถ้าเช่นนั้นค่าตัวคงแพงลิบลิ่วเลย คนเรียนกว่าจะเก่งก้อคงล่มจมก่อน...555+++... แต่ส่วนใหญ่นะ ราคาคุย โม้กันทั้งนั้น ไอ้ที่โฆษณาว่าสอนได้ทุกระดับน่ะ 99% ทำไม่ได้หรอก ต่อให้ฝรั่งเจ้าของภาษาเองยังสอนทุกระดับไม่ได้เลย ยิ่งคนไทยที่ขี้คุยว่าสอนได้ทุกระดับน่ะ ลองให้เขียนภาษาอังกฤษออกมาให้ฝรั่งดูนะ ส่วนใหญ่ฝรั่งอ่านแล้วหัวเราะขำกลิ้งเลยหละ ..... ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ คำว่า "สอนได้ทุกระดับ" มันส่อความให้เห็นว่า ผู้สอน รู้ภาษาอังกฤษไม่มากพอที่จะตระหนักว่า ภาษาอังกฤษระดับโหดๆ มันมีจริงในโลกนี้ นั่นเอง .... จริงๆแล้วคนที่จะเรียนภาษาอังกฤษควรอุดหนุนอาจารย์สอนภาษาอังกฤษที่เป็นบุคคลธรรมดา ดีกว่าที่จะไปอุดหนุนนายทุนที่มีเงินมหาศาลที่ไปตั้งโรงเรียนสอนภาษา ตามที่เราเขียนไว้ในกระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6791218/K6791218.html แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 51 21:39:20 จากคุณ : agelesstansy - [ 16 ก.ค. 51 19:09:01 ]