PANTIP.COM : K6791965 ใครจดศัพท์ อ.สงวน คอส toefl ครบ ขอซีรอคหน่อยดิ [ห้องเรียนภาษาอังกฤษ]

ความคิดเห็นที่ 11

คนอ่านคงถามว่า ถ้าไม่มีคำแปล แล้วจะท่องคำศัพท์อย่างไรกันล่ะ”

คำตอบก็คือว่า ถ้าคุณเรียนคำศัพท์ว่าคำนี้แปลเป็นไทยว่าอะไร เป็นคำโดดๆนะ คุณก็จะไม่มีทางที่จะอ่านหนังสือภาษาอังกฤษที่ยากๆได้เลย และเมื่อคุณเขียน essay นะ ต่อให้คุณรู้ grammar จากการทำแบบฝึกหัดมากๆ จนทำได้ถูกต้องหมด แต่ประโยคที่คุณเขียนออกมาใน essay มันก็จะอ่านไม่เป็นภาษาคนอยู่ดี เพราะอะไร?

คำตอบก็คือ “มันมี grammar อย่างหนึ่ง ที่คนไทยลืมเรียน”

ถ้าอยากรู้คำตอบก้อตามไปดูที่ links พวกนี้

อันนี้เป็นวิธีการเรียนการสอน vocab เป็นจำนวนมากในระยะเวลาอันรวดเร็ว ที่เราคิดขึ้นมาได้เมื่อ 15 ปีที่แล้ว

http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6796406/K6796406.html

คำศัพท์แต่ละคำ “มีพฤติกรรมเฉพาะตัวของมันเอง” ถ้าไม่เรียนรู้พฤติกรรมเฉพาะตัวของมัน เรียนไปถึงเข้าใจว่ามันแปลว่าอะไร ก็จะนำไปเขียนประโยคที่ถูกต้องไม่ได้ ถึงรู้ grammar หลายๆข้อ หลายๆกฎ เขียนออกมาประโยคก็ผิดเพี้ยนไปหมด
ลองไปอ่านข้อมูลเรื่องนี้ได้ที่ link ข้างล่างนี้ ที่เราเคยปั่นกระทู้ไว้ เพราะไม่อยากเห็นคนไปเรียน writing แล้วหลงคิดว่าเรียน 60 ชั่วโมงแล้วมันจะเขียนได้อย่างที่โรงเรียนสอนภาษาโฆษณากัน...แล้วก็มาฮือฮากันว่า ที่นั่นที่นี่สอน writing เก่ง แต่ที่ไหนได้ writing ใช้เวลาเรียน “หลายปี” ซึ่งต้องเรียนด้วยตนเอง ม่ายงั้นค่าเรียนบานปลายหมด ....

ไอ้คนที่ไปลงเรียน writing 60 ชม แล้วมาคุยฟุ้งว่า สอนดีค่ะ ที่นั่นที่นี่ ที่พูดเช่นนั้น (เราเคยเจอมาแล้ว) เป็นเพราะพอลองเขียนไปส่งอาจารย์นะ อาจารย์แก้ให้ทุกคนไม่ไหว (ถ้าแก้หมดนะ อาจารย์ต้องซัดพาราเป็นกำๆทุกวันแน่ๆเลยหละ) ก้อเลย “แหกตานักเรียน” โดยพูดว่า “very good” ….555++++…..

การสอน vocab ที่ถูกต้องนั้น จะต้องสอน reading towards writing นั่นก็คือสอน reading comprehension และพอเจอคำศัพท์ใน passage (ข้อความ) ที่อ่านเจอ ก็งัดเอามาอธิบายความหมายในบริบทที่อ่าน และยกตัวอย่างประโยคให้ดูว่าคำศัพท์ตัวนั้น จะนำไปใช้สร้างประโยคพลิกแพลง ได้กี่อย่าง และในบริบทอื่นๆ มันจะแปลพลิกแพลงไปได้กี่อย่าง

การใช้คำศัพท์มารวมกลุ่มกันเพื่อให้มันมีความหมายเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามที่เราต้องการนี้เราเรียกกลุ่มคำนั้นว่า “collocation”

วิธีการที่เราคิดขึ้นมาได้เมื่อ 15 ปีที่แล้ว มันเป็นการสอน reading comprehension พร้อมๆกับสอน writing ไปภายในเวลาเดียวกันเลย หรือที่เราเรียกว่า learn to understand and compose (เรียนให้เข้าใจคำศัพท์ และนำคำศัพท์ไปใช้เขียนประโยคได้อย่างถูกต้อง)

ลองตาม link นี้ไปอ่านดูได้ (ตอนเขียนกระทู้เดิมนี้ เราใช้ login เดิมคือ tansy (iwrite4u))

http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2008/05/K6595622/K6595622.html

ในกระทู้นั้นเราพูดว่า เราสอนรากศัพท์จากภาษา Greek กับ Latin เพื่อช่วยในการจดจำศัพท์หลายๆคำ

ถ้าอยากดู Greek and Latin roots (รากศัพท์) ก็ตาม link นี้ไปได้ด้วยเช่นกัน

http://en.wikipedia.org/wiki/Greek_and_Latin_roots_in_English

สรุปแล้วนะ การสอนภาษาอังกฤษในยุค IT นี้นะ แทนที่ติวเตอร์ จะแจก sheets หรือแจก lists อะไรนะ ติวเตอร์ควรสอนนักเรียนวิธีใช้ google จะฉลาดกว่า

ส่วนการที่จะสอนให้นักเรียนอ่าน คำศัพท์ใน lists ที่หามาได้ให้จำได้ ให้รู้เรื่อง และให้นำไปเขียนประโยคได้ มันควรเป็นวิธีสอน แบบ building blocks คือสอนแบบเหมือนกับเอา ชิ้นส่วนของเล่นไปต่อเป็นโครงตึก หรืออะไรทำนองนั้น นั่นก็คือว่า การสอนภาษาอังกฤษ จะต้องทำให้นักเรียนเปลี่ยนจาก passive learning ให้กลายเป็น active learning นั่นก็คือว่า แทนที่จะนั่งฟังแล้วจด แล้วท่องลูกเดียว ก็จะต้องเปลี่ยนไปเป็น

"แนะแนวทางให้นักเรียนคิดเอง ค้นคว้าเอง และทดลองนำสิ่งที่เรียนรู้มา เอาไปใช้งานจริงๆ เพื่อพัฒนาทักษะต่างๆที่จำเป็นในอนาคตได้ด้วยตนเอง"

ซึ่งเป็นการสอนให้จับปลาด้วยตนเอง ไม่ใช่เอาปลามาป้อนให้วันละตัวสองตัว วิธีการเช่นนี้ทำให้ติวเตอร์ยุคไฮเทค สามารถป้อนข้อมูลให้นักเรียนเป็นจำนวนมากได้ภายในระยะเวลาอันสั้น เนื่องจากเป็นการสอนให้นักเรียเรียนรู้วิธีการหาแหล่งทรัพยากรจากอินเตอร์เน็ตได้ด้วยตนเอง แทนที่จะไปนั่งรอ sheets หรือ lists จากติวเตอร์ นั่นเอง...
แก้ไขเมื่อ 24 ก.ค. 51 02:33:59
แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 51 15:29:01
แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 51 15:23:27

จากคุณ : ติวเตอร์อังกฤษตกงาน..555+++... (agelesstansy) - [ 16 ก.ค. 51 14:22:42 ]