ความคิดเห็นที่ 1 เอาไปเลย อาจารย์ธนู หรือ คุณ Tnu เอกบุรุษผู้มีความเชี่ยวชาญในการถ่ายภาพ ก็ท่านเป็นระดับอาจารย์สอนมาจนลูกศิษย์ลูกหาเต็มบ้านเต็มเมือง คุณด้อมๆมองๆอยู่แถวนี้แหละ เดี๋ยวคงโผล่มา หรือไม่ก็หลังไมค์หาท่านเอาเอง จะนั่งถ่ายนอนถ่ายยืนถ่ายเดินถ่าย ท่านรู้หมด จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ วันเข้าพรรษา 14:27:16 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบพระคุณท่าน แอ๊ด ปากเกร็ด มากครับ จากคุณ : Mr. Next - [ วันเข้าพรรษา 15:17:04 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ได้กลิ่นธูปลอยลมไปถึงเจียงใหม่ปู๊น... จะเข้ากทม. ไปร่วมงาน และแจกรางวัล ผู้ชนะการประกวดภาพถ่าย...100 อารมณ์ กับ เซกาเฟรโด ซาเนตติ เอสเพรสโซ  ในวันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม 2551 ณ ลานรอบระเบียง Central Court ชั้น 7 ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ครับ ... 5 โมงเย๊น โดยประมาณ จากคุณ : tnu - [ วันเข้าพรรษา 15:42:18 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ว้ายยยยยยยยย... ลุงแอ๊ดเขียนยังงี้ได้ไง?????????? >> จะนั่งถ่ายนอนถ่ายยืนถ่ายเดินถ่าย น่าเกลียด .... ! 'จารย์ธนูเจ้าขา ... สุดฝีมือนะเจ้าคะ จากคุณ : o;] - [ วันเข้าพรรษา 17:06:21 A:125.25.57.52 X: TicketID:012689 ]

ความคิดเห็นที่ 5 5555+++ จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 19 ก.ค. 51 00:08:23 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แก้ก็ได้ "..จะถ่ายแบบไหนๆ อาจารย์ธนูทำได้หมด.." ดีขึ้นมะ? จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 19 ก.ค. 51 00:23:16 ]

ความคิดเห็นที่ 7 meeting เป็นไงบ้างครับ คุณแอ๊ด จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 19 ก.ค. 51 01:00:57 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอรบกวนคุณแอ๊ดและท่านผู้รู้ถามอีกหน่อยนะคะ 1) He picked up a pen and fiddled with it, turning it end to end between his fingers. Turn it end to end – แปลอย่างไรดีคะนึกภาพไม่ค่อยออก 2) In those days we convinced ourselves that we were bringing the world socialist revolution to Germany; that we were soldiers fighting the capitalist inheritors of the Nazi Mantle. “capitalist inheritors of the Nazi Mantle” นั้นแปลว่าอย่างไรดีหรือคะ 3) We used to work together on a magazine in the seventies. It was called Zeitgeist. We thought the name was clever then , but it seems so predictable when you look back on it. คำว่า predictable นี้จะแปลอย่างไรคะในที่นี้ 4) อันนี้เกี่ยวกับปืน อ่านแล้วไม่เข้าใจเลยค่ะ It’s a nine-millimetre. Basically it was a nine-by-eighteen Makarov chamber, takes twelve rounds and is a double-action, blowback-operated pistol. จากคุณ : เนย - [ 19 ก.ค. 51 09:10:36 A:58.9.142.15 X: TicketID:163936 ]

ความคิดเห็นที่ 9 1.Turn it end to end คงจะหมายถึงการหมุนปากกาด้วยนิ้ว ระหว่างนิ้วโป้ง นิ้วชี้ และนิ้วกลาง 3. Zeitgeist หมายถึงการแสดงออกถึงอารมณ์และความรู้สึก ที่เกิดขึ้นเมื่อสมัยปลายทรรศวรรษ 60 ซึ่งจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความคิดเห็นและความเชื่อ สมัย hippie ครองโลก ... ซึ่งถ้าจะแปลคำว่า predictable ก็คงจะได้ความหมาย เหมือนกับว่าเดาได้เลยว่าต่อไปจะเป็นอะไร ถูก ผิด อย่างไร แนะนำกันได้นะครับ จากคุณ : tnu - [ 19 ก.ค. 51 12:27:41 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ดีครับ ลุงแอ๊ด...ไม่แก้ก็ได้ครับ จากคุณ : tnu - [ 19 ก.ค. 51 13:02:50 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณคุณธนูมากค่ะ จากคุณ : เนย - [ 19 ก.ค. 51 13:24:40 A:58.9.137.61 X: TicketID:163936 ]

ความคิดเห็นที่ 12 In those days we convinced ourselves that we were bringing the world socialist revolution to Germany; that we were soldiers fighting the capitalist inheritors of the Nazi Mantle. >> ในสมัยนั้น เราชวนเชื่อให้ตัวเองแน่ใจว่าเรากำลังนำเอาการปฏิวัติสังคมนิยมโลกมาสู่ประเทศเยอรมนี และเราเป็นทหารที่กำลังต่อสู้กับพวกนายทุนที่สวมเสื้อคลุมรับมรดกความเป็นนาซีสืบทอดมา It’s a nine-millimetre. Basically it was a nine-by-eighteen Makarov chamber, takes twelve rounds and is a double-action, blowback-operated pistol. >> ปืนพกกระบอกนี้ขนาดเก้า ม.ม. โดยพื้นฐานรังเพลิงรับกระสุนชนิด 9x18 มาคารอฟ บรรจุกระสุนได้ 12 นัด และมีกลไกการทำงานแบบดับเบิ้ลแอคชั่นโบลแบ๊ค คนจะเข้าใจและแปลประโยคนี้ได้ต้องเข้าใจเรื่องปืนพกโดยทั่วไปเสียก่อน ปืนพกมีสองอย่างคือระบบลูกโม่หรือรีวอลเวอร์ และระบบอัตโนมัติหรือออโตเมติค ที่กำลังกล่าวถึงนี้เป็นปืนพกออโตเมติกซึ่งมีกลไกการทำงานดังกล่าว จะไม่ขอกล่าวถึงเพราะอาจจะปล่อยไก่ได้ ไปหาตำราปืนอ่านเอาเองว่าระบบดับเบิลแอคชั่นคืออะไร ระบบโบลแบ๊คคืออะไร เนื่องจากรายละเอียดมันมาก ผมเห็นเซียนปืนเขาไม่เรียกกันเป็นภาษาไทย เขาทับศัพท์กัน เราก็ทับศัพท์บ้างจะได้เข้าใจตรงกัน ปืนพกมาคารอฟนี้เป็นปืนตระกูลมาจากหลังม่านเหล็ก ใช้กระสุนเก้า ม.ม. ขนาด 9x18 ของมันเอง ไม่ได้ใช้กระสุนตระกูลที่มีอยู่ก่อน หน้าตาเป็นอย่างนี้ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 19 ก.ค. 51 14:50:03 ]

ความคิดเห็นที่ 13 รายงานข่าวให้คุณหนุ่มไทยไร้นามรู้เรื่อง กลัวจะนอนไม่หลับ เรานัดเจอกันเวลา 1500 น.ที่ร้าน MK Gold ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ราชประสงค์ ผมไปถึงสายนิดหน่อยเพราะว่าขับรถผิดทางกว่าจะวนหาทางเข้าได้ นอกจากนั้นพอจอดรถได้ก็ต้องไปตามหาร้าน MK Gold อีก ถามหา MK กับยาม ยามย้อนถามว่า MK ไหน เราก็งงๆ ยามเขาอธิบายว่ามันมีสองแห่ง อย่างที่ Gold กับอย่างไม่ Gold เมื่อบอกว่า Gold เขาก็ชี้ทางให้ ที่นี่มันใหญ่โตจริงๆ ผมเดินหาเจ้าร้านที่ว่านี่จนเหนื่อยเหมือนกัน เมื่อไปถึงร้านก็ต้องโทรฯตามหากัน ผมโทรฯหาคุณ Flowery เพราะแลกเบอร์กันไว้แล้ว เมื่อไปถึงก็พบว่ามีหนุ่มเหน้าสองหน่อและสาวสวยหนึ่งหน่อรออยู่ก่อนแล้ว สองหนุ่มนั้นคือคุณนัทและคุณไข่ต้ม ส่วนสาวสวยหนึ่งเดียวคนนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคุณ Flowery เราสั่งอาหารมาโดยไม่รีรอ สักพักก็มีคนตามมาสมทบอีกสองคนคืออาจารย์กฤษฎากับคุณเค เรานั่งคุยกันเรื่องสัพเพเหระ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ของแต่ละคนอันน่าสนใจอย่างยิ่ง สำหรับคุณเคกับผมนั้นรู้จักกันดีเพราะอยู่หมู่บ้านเดียวกันแล้วก็เป็นผู้ก่อการร่วมกันมาตั้งแต่สมัยห้องยำภาษา และเราสองคนอายุรวมกันมากกว่าอีกสี่คนที่เหลือ ฮ่าๆๆๆๆ สำหรับเพื่อนฝูงในกลุ่มยำภาษาไม่ว่าจะเป็น JJ, Boomer, PK, เจ๊บุษ, พ่อโปรเจ็กต์ คุณแท่น และคนอื่นๆที่ไม่ประสงค์จะออกนาม ก็ขอบอกว่าแม้ว่าจะเปลี่ยนหน้าเปลี่ยนตาไป ยุคสมัยเปลี่ยนไป แต่ว่า sentiment ของการยำภาษานั้นยังเหมือนเดิมเสมอ ต่างกันในรายละเอียดเท่านั้น คุณนัทและอาจารย์กฤษฎานั้นไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นผู้คงแก่เรียนอย่างที่ได้สัมผัสในเน็ต เห็นหน้าแล้วนึกว่าเป็นเด็กมัธยมปลายทั้งคู่ หน้าใสปิ๊ง หล่อกระชากใจสาวๆ อาจารย์กฤษฎาสอนอยู่เมืองนอกเพราะพอจบเอกปั๊บเขาก็รับต่อปุ๊บทันที ไม่รับได้ไง ก็ตอนที่เรียนเมืองไทย อาจารย์จบตรีอายุยังไม่ถึงยี่สิบ ไบรท์จริงๆ คุณนัทนี่นอกเหนือจากการงานประจำก็เป็นมือเบสเล่นดนตรีระดับอาชีพเลยทีเดียวแล้วก็กำลังจะไปเล่นญี่ปุ่น นอกเหนือจากมองหาลู่ทางเรียนต่ออยู่ คุณไข่ต้มกะนมอุ่นนั้นเป็นอาจารย์สอนอยู่แถวใกล้ธรรมศาสตร์รังสิต ประสบการณ์ภาษาโชกโชนเพราะเคยเป็นล่ามแปลการประชุมแบบ simultaneous translator มาแล้ว ส่วนสาวสวยหนึ่งเดียวคนนี้ของเราคือคุณ Flowery เป็นเพื่อนร่วมวิชาชีพเดียวกันกับผมแต่ว่าห่างกันหลายรุ่นหน่อย :-( คนนี้ก็กำลังจะไปเรียนต่อยอดเมืองนอกเมืองนาเหมือนกัน สรุปแล้ว ได้ทั้งสาระและบันเทิงและอิ่มท้องครับ จบการรายงาน จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 19 ก.ค. 51 15:16:04 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อะโห! อ่านรายงานข่าวชิ้นนี้แล้วเห็นภาพเลย มันยังไงๆ อยู่นา คุณแอ๊ด รู้สึกว่าสมาชิกห้องรวมพลฯ มีอะไรที่คล้ายๆ กัน วนเวียนอยู่แถบๆ เดียวกันนี่แหละ เช่น คุณนัทเป็นมือเบส ส่วนเจ้าลูกชายผมเป็นมือกีตาร์ เล่นอาชีพเหมือนกัน แต่ตอนนี้ไม่เอาแล้วเพราะวงการนี้รายได้ไม่แน่นอน บางเดือนหลายแสน บางเดือนหลายหมื่น บางเดือนเป็นศูนย์ ส่วนแบ่งรายได้จากเทปนั้นเขาเลิกหวังกันไปนานแล้วครับ เพราะพิษแผ่นผีซีดีเถื่อน ออกอัลบั้มชุดแรกขายได้แสนกว่าก๊อปปี้ ชุดสองเหลือครึ่งเดียวเอง ทั้งๆ ที่เพลงดังพอๆ กัน รายได้หลักมาจากการเล่นคอนเสิร์ตครับ ซึ่งตรงนี้แหละ ผมเคยคุยกับเพื่อนที่เป็นนักการตลาด วิเคราะห์กันเล่นๆ ว่าเทปควรออกจังหวะใด ปรากฏว่าวิเคราะห์ผิดหมดเลย วงการนี้มันเป็นยังงี้ครับ คือเมื่อเทปออกวางแผง ใช้เวลาโปรโมทประมาณสองเดือน เพลงดัง ถ้ามันดังตอนที่หมดฝนพอดี งานคอนเสิร์ตเพียบเลย แต่ถ้าเป็นจังหวะเข้าหน้าฝนพอดี งานคอนเสิร์กลางแจ้งหายวับไปกับตา เหลือแต่งานในผับ แล้วถ้าเศรษฐกิจแบบนี้ ผับต่างๆ หันไปจ้างวงที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียง (วงการนี้เขาเรียกว่าพวกวงอินดี้) เพราะถูกกว่ามาก งานในร่มหรืองานผับก็หายไปอีก ไม่แน่นะ คุณนัทกับเจ้าลูกชายผมอาจได้เล่นดนตรีด้วยกันก็ได้ หามือกลองสักคนก็ฟอร์มวงขึ้นมาได้แล้ว ตอนนี้เจ้าลูกชายผมไปเป็นสจ๊วตอยู่การบินไทย ไปเชียงใหม่ก็บ่อย นี่ก็ว่าจะให้เขาไปกินข้าวที่ร้านอาจารย์ธนู คุณ Mr.Blue ก็อยู่ที่นั่นด้วย มันวนเวียนๆ อยู่แถวๆ นี้ยังไงชอบกลแฮะ อีกท่านที่อยากเจอคือพี่แสนอักษร ท่านนี้ต้องคุยกันเรื่องหนังสือโบราณ ซึ่งบางเล่มที่ผมมีอยู่นั้น เก่ากว่าในตำรา แล้วเดี๋ยวก็โยงไปถึงเพื่อนพี่แสนฯ อีกคน ที่เคยมาจีบผม ชวนให้เอาหนังสือไปแสดงที่งานสัปดาห์หนังสือ ป.ล. เห็นภาพที่ meeting แล้วครับ คุณ Flowery ส่งมาให้ทางหลังไมค์ ยิ้มแก้มตุ่ยกันทุกคนเลย แสดงว่าสนุกสนานเฮฮามาก ผมจะหาโอกาสไป meeting ให้ได้สักครั้งครับ จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 19 ก.ค. 51 16:23:31 ]

ความคิดเห็นที่ 15 น่าอิจฉา...ผมเข้า กทม. เมื่ออาทิตย์ที่แล้วไปตัดสินภาพถ่าย ไปทำธุระที่ CentralWorld เสร็จธุระแล้วก็ไม่มีที่ไป คราวนี้ผมเข้า กทม. พรุ่งนี้ ไปงานเปิดการแสดงภาพถ่ายที่ CentralWorld ที่เดียวเช่นกัน...แต่ก็ช้าไปหลายวันแล้วนะ ใครสนใจนิทรรศการภาพถ่าย ขาวดำ เชิญไปชมได้ครับ งานเปิด 21/7/51...5 โมงเย็น เป็นการเปิดตัวของ Segafredo Zanetti Espresso จากคุณ : tnu - [ 19 ก.ค. 51 16:28:07 ]

ความคิดเห็นที่ 16 Zeitgeist เป็นภาษาเยอรมันครับ คำแปลตรงตัวเป๊ในภาษาอังกฤษคือ spirit of the age เคร่าๆ ก็เหมือนที่ท่าน tnu อธิบายครับ ผมเรียนการถ่ายรูปเป็นวิชาโทตอนอยู่ปริญญาตรี (ตอนนั้นเลือกเอกอังกฤษ แต่จบแผนวิทย์ ถนัดทางคณิตศาสตร์มากกว่า) เสาร์อาทิตย์ไม่ต้องทำอะไร ตะลอนไปเรื่อยๆ หาถ่ายรูปมาส่งอาจารย์ อยู่ห้องอัดล้างรูปดึกดื่น เพราะต้องจองยาวเหยียด ยังจำประสบการณ์เตรียมน้ำยาล้างฟิล์ม ล้างรูป ได้ ตอนนั้นมีการแข่งขันการบรรจุฟิล์มลงกลัก (load ใส่ cassette) สนุกมาก วิธีการคือหาฟิล์มเก่าล้างแล้ว กับกล่องฟิล์มมา ครูก็ให้หลับตา ทำกันหน้าชั้น ผมมือลิงทำได้ไวสุด มีคราวหนึ่งครุให้ถ่ายภาพสะท้อนแสง (reflection) ผมหาถ่ายจนอ่อนใจก็ไม่ได้ภาพสวย ตีสามแล้ว จะส่งเช้าวันจันทร์นี่แหละ ผมเลยไปค้นถังขยะหน้าห้องอัดภาพ ได้มาม้วนหนึ่ง ใครเอามาทิ้งก็ไม่รู้ ผมเลยเอามาอัดได้รูปสองสามแผ่น แล้วเอาไปส่ง (การส่งต้องแนบฟิล์มไปด้วย) ปรากฎว่ารูปท่านี้ผมได้เต็มสิบอยู่คนเดียว ครูเอามาวิจารณ์หน้าห้อง เรียกเจ้าของภาพให้ยืนขึ้น ผมอายมาก (เพราะไม่ใช่คนถ่ายเอง) ได้แต่โค้งๆๆๆๆ สักครู่เพื่อนสนิทผมเองนั่งข้างผมร้อง "เฮ้ย" ขึ้นมา ผมก็งง ตอนพักเที่ยงไปกินข้าว มีเรื่องฮาครืน ความลับเปิดเผยว่า คนถ่ายรูปม้วนนั้นคนเพื่อนผมคนนั้นแหละ ถ่ายมาประมาณสี่ม้วน (ไม่ต่ำกว่า 150 รูป) เพราะเลือกมาก พิถีพิถันมาก คัดเอาสุดยอดที่ตัวเองว่าดีไปส่ง แต่เขาได้คะแนน "แปด" คะแนนครับ เศษที่เอาไปทิ้งที่ผมเก็บต่อไปส่งได้ "สิบ" เวลาเจอกัน ก็แซวกันเรื่องนี้อยู่ประจำ เพราะผมเอกอังกฤษ ผมก็เลยพออ่านคู่มือการถ่ายภาพ การใช้กล้องมาเยอะพอสมควร แต่ไม่ใช้วิชาถ่ายภาพหากินเลยตั้งแต่จบ ให้ผมแปลไหมละครับ (555b3) จากคุณ : ลุดวิก - [ 20 ก.ค. 51 11:06:44 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เออ จริงแฮะ เลือกนักมักได้แร่ อย่างว่าจริงๆแหละ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 20 ก.ค. 51 11:22:04 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ความสนใจเราใกล้เคียงกันแฮะ ผมศึกษาตำราถ่ายภาพตั้งแต่ม.ปลาย จับ SLR ครั้งแรกก็ม.ปลาย แต่จนป่านนี้ถ่ายภาพให้สวยไม่ได้เสียที คือเป็นคนทื่อๆ ไม่มีมุมมองแหล่มๆ อะไรกับเขา ตอนนี้เริ่มมีอาการขี้เกียจแบก อยากไปออกทริปถ่ายรูปสาวๆ ก็ขี้เกียจเคลียร์กับผบ. น้องชายคนโตผมก็เคยเป็นมือกีต้าร์วงวัยรุ่นวงหนึ่ง เดี๋ยวนี้ไม่เห็นมันจับกีต้าร์ไม่รู้ทำไม ส่วนคนเล็กเป็นมือกลอง ชอบไปประกวดที่โน่นที่นี่ คนนี้เข้ามาเรียนกรุงเทพ มีสาวตามมา ไม่รู้มันคิดอะไร ออกจากเรียนมาอยู่กับแฟนเฉยเลย คุณเนยครับ blowback ใช้ทับศัพท์ เป็นกลไกแบบหนึ่งของการคายปลอกกระสุนและบรรจุกระสุนนัดใหม่โดยอัตโนมัติในการเหนี่ยวไกหนึ่งครั้งของปืนกึ่งอัตโนมัติ คือในปืนประเภทนี้ ต้องมีการออกแบบให้ พอยิงแล้ว สไลด์ถอยหลังเพื่อคายปลอกกระสุน จากนั้นสไลด์วิ่งกลับมาเพื่อโหลดนัดใหม่เข้ารังเพลิง ไอ้การออกแบบให้มีแรงบางอย่างมาดันสไลด์ถอยหลังนั่นแหละครับ คือระบบปฏิบัติการที่ว่า โดย blowback ก็เป็นแบบหนึ่งนะครับนิยมใช้ในปืนขนาดเล็ก ชิ้นส่วนที่ถอยหลังคือสไลด์เพียงอย่างเดียว ลำกล้องปืนจะยึดติดกับโครงปืน ขณะที่ปืนขนาดใหญ่นิยมใช้ระบบ "รีคอยส์" ที่พอกระสุนพ้นปากกระบอกปุ๊บ ลำกล้องและสไลด์จะถอยคู่กันสั้นๆ จากนั้นลำกล้องจะหยุด สไลด์จะยังคงถอยต่อไป อันนี้เทคนิคัลมากๆ ปกติคนยิงมองไม่ทันหรอกครับ (แม่ผมเคยถามว่าเคยมีไหมที่เรายิงแล้วสไลด์มันถอยหลังหลุดออกมาโดนตาคนยิง ง่า แม่นะแม่) ส่วน action จะเป็นดับเบิล หรือซิงเกิล หรือซิงเกิลดับเบิลนั้น เป็นการเรียกระบบการยิงนัดแรกของปืนครับ ที่ผมจะอธิบายต่อไปใช้ในบริบทของปืนกึ่งอัตโนมัติเท่านั้นนะครับ เพราะในปืนลูกโม่จะมีความหมายต่างกัน ในปืนกึ่งอัตโนมัติระบบซิงเกิล เช่น โค้ลท์  หลังจากใส่ลูก ดึงสไลด์โหลดกระสุนเข้ารังเพลิงแล้ว ถ้าไม่ยิงทันทีแต่ลดนกชิดโครงปืนไว้ เวลาฉุกเฉินจะเหนี่ยวไกยิงทันทีไม่ได้ ปืนไม่ทำงาน ต้องง้างนกในนัดแรก นัดต่อๆ ไปปืนจะขึ้นนกให้อัตโนมัติด้วยระบบปฏิบัติการที่กล่าวถึงข้างบน ซิงเกิล/ดับเบิล เช่น เบเรตต้า ซิกเซาเออร์ หลังจากใส่ลูก ดึงสไลด์โหลดกระสุนเข้ารังเพลิงแล้ว ถ้าลดนกชิดโครงปืนไว้ นัดแรกจะขึ้นนกหรือไม่ขึ้นนกก็ยิงได้ ถ้าไม่ขึ้นนก ไกจะหนักหน่อยเพราะไกจะทำงานสองจังหวะเหมือนในปืนลูกโม่ ส่วนนัดต่อๆ ไปปืนจะขึ้นนกให้อัตโนมัติ ดับเบิลล้วน ต้องง้างนกก่อนยิงทุกนัด ไม่ค่อยมีใช้นะครับ ไม่เคยจับเหมือนกัน ในปัจจุบันรุ่นที่กึ่งๆ ไม่เข้าข่ายพวกไหนเลยคือ กล็อก ไกจะหนักกว่าซิงเกิลแต่เบากว่าดับเบิล เป็นปืนนกใน เรามองไม่เห็นนก ส่วนการลั่นไกในปืนลูกโม่ทุกกระบอกเหมือนกันหมด ยิงได้สองแบบ แบบดับเบิลคือยิงโดยไม่ง้างนก และแบบซิงเกิลคือง้างนกก่อนแล้วเหนี่ยวไก ในปืนลูกโม่ ซิงเกิลหรือดับเบิลเป็นการเรียกวิธีการยิง ไม่ใช่กลไกของปืน แต่ในปืนกึ่งอัตโนมัติ ซิงเกิลหรือซิงเกิล/ดับเบิล ที่กล่าวถึงโดยทั่วไป เป็นประเภทของปืนครับ ส่วนจะยิงแบบไหนว่ากันอีกที เขียนมายาว รู้เรื่องป่าวไม่รุ๊ อิอิ จากคุณ : พ่อโปรเจ็กต์ - [ 20 ก.ค. 51 12:46:23 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ที่คุณแอ๊ดไป เป็น meeting ห้องเรียนภาษาฯหรือครับ ทำไมคนน้อยจัง หรือนัดกันเอง จากคุณ : พ่อโปรเจ็กต์ - [ 20 ก.ค. 51 12:56:39 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบพระคุณคุณแอ๊ด กระจ่างมากเลยค่ะ และคุณพ่อโปรเจ็กต์ กระจ่างเข้าไปอีก และคุณลุดวิก และคุณทนูอีกด้วยค่ะ หนูคงต้อง save หน้าเว๊บนี้ไว้เพราะได้ความรู้เรื่องปืน กรณีที่เจอเรื่องตำรวจพวกนี้อีกจะได้เข้าใจ จากคุณ : ขอบพระคุณค่ะ BUTTER - [ 20 ก.ค. 51 14:35:24 A:58.9.149.59 X: TicketID:163936 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เรื่องปืนไม่รู้เรื่องด้วย มีแต่เพื่อนเป็นเจ้าของร้านปืน 3 คน ย่านขายปืนใกล้เฉลิมกรุง...แต่เรื่องถ่ายรูปกับเรื่องธนู...ถามมา จากคุณ : tnu - [ 20 ก.ค. 51 14:40:35 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คุยกับคุณพ่อโปรเจ็กต์เรื่องปืนดีก่า ผมมีปืนลูกซองแฝดขนานอยู่กระบอกนึง เป็นปืนโบราณตกทอดกันมา เคยถามคุณ nickycharles (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว R.I.P.) ว่าราคาปัจจุบันประมาณเท่าไหร่ ท่านบอกว่าขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ถ้ายี่ห้อดีๆ อย่าง Holland & Holland หรือ Purdy จะแพงมาก ผมก็พยายามหาดูว่ายี่ห้อมันอยู่ตรงไหน หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ คุณพ่อโปรเจ็กต์พอทราบไหมว่าเจ้าชื่อยี่ห้อนี่ มันมักจะไปซ่อนอยู่ตรงไหน อีกเรื่องคือลูกปืนลูกซอง ผมมียี่ห้อ Eley อยู่จำนวนหนึ่ง มีคนเคยบอกว่าปัจจุบันนี้บริษัทนี้เลิกผลิตไปแล้ว จะเจ๊งหรือไงก็ไม่ทราบ ลูกปืนยี่ห้อนี้จึงกลายเป็นของสะสมไปแล้ว ราคานัดละหลายร้อยบาท จริงหรือเปล่าครับ พูดถึงลูกปืนลูกซองเนี่ย ยังนึกถึงตอนวัยรุ่นที่ชอบยิงนก บางทีผมยิงตูมเดียวสองนัดซ้อนเลย คือเหนี่ยวทีเดียวสองไกพร้อมกัน 555 มันส์เป็นบ้าเลย ผลาญลูกปืนไปไม่รู้เท่าไหร่ จนพ่อผมทนไม่ไหว เลยซื้อลูกกรดให้กระบอกนึง จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 20 ก.ค. 51 16:24:19 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เรื่องปืน ผมอ่ะรู้แต่ภาคทฤษฎีแฮะ เพราะอ่านจักรวาลปืน ของครูพนมเทียน เป็นบ้าเป็นหลังเลย ถ้าใครพูดเรื่องปืนผมก็พอฟังรู้เรื่อง เพราะอ่านเยอะจริงๆ แต่ไม่ชอบยิงเพราะถ้ายิงต้องยิงอากาศทุกที เพราะใจทำบาปไม่ขึ้น นี่คือเหตุผลที่ผมไม่เลือกเรียนทหารหรือตำรวจ หรืออะไรที่ต้องฆ่ากันให้ตาย ขนาดไก่ยังไม่ฆ่าเลย พ่อแม่ไปต่างจังหวัด อยู่บ้านกับน้อง ไก่ เปิด เต็มเล้า พ่อบอกให้ฆ่าทำอาหารให้น้องกิน ผมไม่ฆ่าสักตัวเดียว เก็บไข่มากิน เอาไปขายมั่ง จนหน้ากลมป๊อก ตอนนั้นไข่ไก่เล็กฮอร์น 5 ฟอง บาท เราเลี้ยงประมาณ เกือบสามพันตัว ได้ไข่ 96% ขึ้นไปทุกวัน อาหารไก่ถูกมาก ถุงละ 7-8 บาทเองมังครับ เคยใส่มอเตอร์ไซค์ไปขายส่งที่ตลาด ฝนตกล้มไข่แตกหมด กลับบ้านมาเอาไปส่งใหม่ ยังไม่ขาดทุนเลย เลี้ยงมาเรื่อย จนไข่ฟองล่ะ 50 สตางค์ ถึงเลิก เพราะค่าอาหารแพง ไม่คุ้ม ได้กำไรน้อยกว่าตอน 5 ฟองบาท อีก เพื่อนบ้านมา ใครจะเอาปีนมายิงสิ่งมีชีวิตให้ผมเห็นไม่ได้ รับรองปืนหายแน่นอน หน้าไม้คุณตาทำไว้เป็นสิบๆๆ อัน (คงเอาไว้แจก แงซาย กับคุณชายใหญ่ มั้ง) ผมก็เอาไปซ่อน คุณตาก็ทำใหม่ หาว่าคนลัก ที่ไหนได้ หลานตัวแสบเอาไปซ่อน กว่าจะรู้ก็มีหน้าไม้เป็นสิบอันเลย หน้าไม้ชาวบ้านทำด้วยไม้ประดู่ หรือ ไม้พะยูง คันยาวเป็นว่า ขนาดผู้ใหญ่เต็มวัยต้องขึ้นสายถึงสองคน ระยะสามสิบเมตรยิงลูกวัวทะลุเลยครับ ตาบอกว่าสมัยก่อนเอาไว้ยิงเสือ หรือสัตว์ร้าย ผมว่าไม่ต้องยิงถูกมันก็คงกลัวแหละครับ เพราะเสียงดังมากจริง เสียงหน้าไม้กัง "เป๊ง บับ" ชาวบ้านเลยเรียกว่า "หน้าเป้ง" หุหุ เกี่ยวกับปืนไหมเนี่ย เอาแค่ 300 เวเธอร์บี แมกนั่ม คงพอมังครับ อิอิ บ้านผมอยู่ในป่าครับ พ่อเป็นครูใหญ่บ้านนอก ตอนเด็กๆ 4-5 ขวบ เข้าป่ากับลุงยังเห็นรอยเสือเลย ชาวบ้านปลูกบ้านใต้ถุนสูง อยู่รวมกันเป้นกระจุก วัวควายตอนเย็นต้องเอาคอก สุมไฟไล่แมลงและกันเสือมาลากไปกินให้มัน พ่อเล่าว่า ก่อนหน้านั้นสัก 20 ปี ใครอยากได้ที่ตรงไหนก็เอาเลยตามสบาย มีคนอยู่เวรยามตามหมู่บ้านด้วย ไม่ใช่กันขโมยนะครับ กันสัตว์เข้ามาขโมยวัตว์เลี้ยงไปกิน บ้านไม่ต้องมีรั้วหรอก กลางวันปล่อยวันเลี้ยงตามทุ่งนาน ไม่มีหาย ใครว่าปัจจุบันคือยุคโลกภิวัฒน์ ผมเถียงเลย เดี๋ยวนี้ไม่ใช่โลกาภิวัฒน์หรอก เป็น "โลกแคบ" ของแต่ละกลุ่ม เพื่อมาข้อต่รองผลประโยชน์กันต่างหาก เมื่อก่อนนั้นโลกไร้พรมแดนจริงๆ แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 51 20:27:44 จากคุณ : ลุดวิก - [ 20 ก.ค. 51 20:20:05 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อะฮ้า! คุณลุดวิกเป็นแฟนคุณพนมเทียนด้วยรึนี่ ผมเคยเจอตัวเป็นๆ ครับ ที่สนามยิงปืน หัวหมาก วงแขนเขาสวยมากจริงๆ เวลาประคองปืนดูนิ่งและมั่นคงมาก และขอความกรุณาอย่าพูดถึง 300 เวเธอร์บี แมกนั่ม ได้มั้ยครับ เพราะเนี่ย ปืนในฝันผมเลย 600 ไนโตร เอ็กซ์เพรส ยังไม่อาจเทียบได้ในบางด้าน ชาตินี้จะมีโอกาสเป็นเจ้าของมั้ยเนี่ย ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 20 ก.ค. 51 22:44:09 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ผมยิงเป็นแต่ US Army กะ M16 อ้ะ ไม่เคยยิงอย่างอื่น เพราะไม่เคยพิศวาสกีฬายิงปืน แต่ความจำเป็นบังคับให้มือต้องจับอาวุธ ตอนนั้นแบก M16 ไปยิงในสนามยิงปืน แบบว่าเจ้าของสนามต้องรีบวิ่งมาห้าม ไม่ใช่อะไรหรอก ลูกปืนที่มันพลาดเป้ามันไปล่อเอาขาเหล็กที่จับเป้าขาดกระจุยเป็นท่อนๆ แหะ แหะ แล้วมันพลาดเป้ามากกว่าเข้าเป้าน่ะสิ แต่สำหรับ M16 ในทางปฏิบัติ พลาดหน้าแงไปสักห้าเซ็นต์ไม่ว่าทิศไหนก็ไม่ว่ากันเนาะ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 20 ก.ค. 51 23:57:19 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ไหนๆคุยกันเรื่องปืนแล้ว   ขอแปะคำถามหน่อยเถอะครับว่าดินดำ 1 drachm นั้นมันหนักเท่าไหร่   คือว่าผมเกิดไม่ทันปืนรุ่นนั้นน่ะ จากคุณ : Tanis - [ 21 ก.ค. 51 13:15:11 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ตอบคุณ Tanis เกิดไม่ทันเหมือนกันครับ แต่เทียบแล้ว 1 drachm ประมาณ 4 กรัมครับ เรื่องปืนยาว ผมไม่มีความรู้เลยครับ คุณหนุ่มไทยฯ ไม่เคยยิงไม่เคยจับ นอกจากสมัยเรียนรด. อ้อ เคยถูกตำรวจเลวๆ เอา M16 เล็งใส่อีกทีนึง ระยะประมาณ 4-5 เมตร ดีที่มันไม่ยิง ไม่มีอะไรให้หลบเลยครับ หลังพิงตู้แช่อยู่วิ่งไม่ทัน จะสู้ก็กระโดดไม่ถึง ไม่ใช่จา พนม ผมทราบแต่ว่า ถ้าเรารักษาดีๆ อย่าให้เป็นสนิมขุม ปืนจะราคาดี ยิ่งถ้าเป็นปืนระดับสะสมด้วยแล้ว ดูอย่างยูเอสอาร์มี่ของคุณแอ๊ดก็ได้ เป็นปืนหลายสิบปีแล้ว แต่ทรง 1911 เป็นทรงยอดนิยม สภาพดีๆ ราคาในตลาดแพงกว่าปืนใหม่บางรุ่นครับ ผมเคยยิงปืนตระกูลนี้ ให้ความรู้สึกดีมากครับ สไลด์ดึงง่ายไม่แข็งเกินไป ปืนกระชับมือ คอนโทรลง่าย แม่นยำดีมาก มือปืนชอบใช้ครับ ปืนรุ่นนี้มีเซฟหลังอ่อน ที่ว่ากันว่าอาจทำให้ปืนติดขัดได้หากเจอคนจับมือเบากำปืนหลวมๆ อย่างผม แต่ที่ยิงมายังไม่เจอครับ ไม่ทราบคุณแอ๊ดเคยเจอหรือเปล่า เรื่องปืน จริงๆ แล้วผมไม่ได้รู้อะไรมากหรอกครับ รู้แค่การใช้ปืนพกเล็กๆ น้อยๆ บังเอิญเรื่องซิงเกิลดับเบิลอะไรนี่มันจำเป็นสำหรับปืนกึ่งอัตโนมัติ จากคุณ : พ่อโปรเจ็กต์ - [ 21 ก.ค. 51 14:57:02 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ปืนก็ปืนครับ ตอนสงครามลาวยังไม่สงบ เครื่องบินไอ้กันบินผ่านหมู่บ้านที่พ่อผมเป็นครูใหญ่ไปทิ้งระเบิดในลาวทุกวัน บี52 ก็เห็นออกบ่อยครับ หูชาไปหมด ในหมู่บ้านนั้นมีคนลาวจาก สุวรรณเขต (คนลาวเรียกเมือง "สะหวัน ก็ "สวรรค์" นั่นแหละครับ เขียนแบบลาว" มาแต่งงานกับคนในหมู่บ้าน ข้ามไปข้ามมา ขี้โม้ฝอยแหลก แบบ "ไปเศิกไปฆ่า ไปค้าไปตั๋ว" (ไปศึกไปฆ่า ไปค้าขายไปโกหก) พี่แกก็แอบหนีบ 11 มม ยูเอสอาร์มี่ ยังไม่แกะกล่องมาเลย ทีละกระบอกสองกระบอก เอามาขายกระบอกละ 500 บาท (ห้าร้อยบาท) เมื่อราวปี 2512-16 ครับ แถมลูกอีก ความจริงลูกไม่ต้องแถมหรอก หาง่ายมาก พี่แกยังถามขายให้ผมเลยว่า 300 บาท ก็เอา ผมเอามาลองเล่นดู ถอดแหลกเลย ก็เหมือนพ่อโปรฯ ว่าแหละครับ ปืนรุ่นนี้สุดยอดจริงๆ แต่ผมไม่ได้ซื้อไว้หรอกเพราะว่า พี่ลาวคนนี้หลอกขายปืนกระบอกเดียวนั่นแหละทั้งหมู่บ้าน ใครให้เงินไปก่อนเสร็จทุกราย สำหรับผมบอกว่าเอาปืนมาก่อนจะให้เงิน แกก็หายไปหลายเดือน ผมก็ไปเรียนหนังสือ ตกลงไม่ได้ซื้อ ที่จริงคงไม่ซื้อหรอกครับ เพราะผมไมอบทำอะไรผิดกฎหมาย สำหรับ เอ็ม16 แถวชายแดนน่ะ จะเอาขนาดไหนครับเมื่อก่อน อาก้า ยังมีเพียบเลย ชาวบ้านหลายคนเอาฝังดินไว้ทุกวันนี้ก็ยังมี ผมเอามายิงขนาดต้นฉำฉาต้นเบ้อเร่อ เล็กงใส่เหง้ายังไปโดนยอดมันโน่นเลยครับ ยิ่งยิงทีละสามนัด แล้วไม่จีด เล็งใส่ปี๊บ ไม่โดนสักนัดเดียว ไม่ง่ายหรอกครับ ปืนประทับใจ คือ ปลยบ 88 ครับ ปืนเล็กยาวบุคคล 88 กระบอกยาวนี้ เป็นไรเฟิลที่ผมชอบมาก เพราะแบกไปไหนหนักก็จริง แต่ได้ผลชงัด ผมเคยเอาไปยิงปลา เห็นปลามาฝูงหนึ่งในน้ำ อัดตูมลงไปตรงๆ สักครู่ปลาหงายท้องลอยฟ่อง ครับ แรงขนาดนั้น แต่การยิงลงน้ำ มุมยิงต้องตั้งชันกับระนาบผิวน้ำพอควรนะครับ เพราะยิงเฉียงน่ะ ยิงลูกไม่ลงน้ำนะครับ มันแฉลบไปฝั่งตรงข้ามเลย เพราะลูกยิ่งแรงยิ่งสะท้อนแรง ผิวน้ำน่ะคือแผ่นกระจกแข็งเรียบๆดีๆนี่เอง เห็นมากับตา ลุงผมเป้น อส นั่งยองๆ ยิงลงน้ำ ลูกแฉลบไปฝั่งตรงข้ามเจาะกิ่งไม้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบฟุตหักสะบั้นเลยครับ คนยิงคือลุงผม ขนาดเป็นอาวุธประจำกายตัวเอง ปืนถีบหงายหลังตึงเลย เพราะอารามรีบยิงปลา กลัวไม่ทัน นี่ดีนะเกิดแฉลบไปโดนคนฝั่งตรงข้ามละซวยเลย จากคุณ : ลุดวิก - [ 21 ก.ค. 51 16:57:05 ]

ความคิดเห็นที่ 29 .300 เวฯ แม็กฯ หรอครับ เอาเคร่าๆก่อนดีมะ ผมก็อ่านมาอ่ะนะ .300 เวเธอร์บี แม็กนั่ม เป็นปืนไรเปิลที่ได้รับความนิยมที่สุด และมีแบบของปลอกกระสุนปืนหลากหลายที่สุดให้เลือกใช้  กระสุนปืนแบบนี้มีวิถีกระสุนราบเรียบที่สุด ยิงได้ไกลที่สุด และอำนาจประหารสูงสุดในจำพวก .300 แม็กนั่มทั้งหลายแหล่ที่มีขายอยู่ในท้องตลาดปัจจุบัน วัดตาม 300 H&H แม็กนั่มแล้ว .300 เวฯ มีอำนาจการประทะมากกว่าพี่น้องกระสุนในตระกูลอังกฤษกว่า 300 ฟุต/ปอนด์ เลยอ่ะครับ (เทียบเป็นเมตริกเองเน้อ) กระสุนชนิดนี้ออกมาเมื่อปี พ.ศ. 2487 เป็นกระสุนที่ใช้งานได้รอบตัวในการล่าสัตว์ใหญ่ นอกจากนี้ .300 เวฯ แม็กนั่ม ยังมีออกมาในรุ่น มาร์ก ไฟฟ์ ด้วย เช่น Ultra Lightweight (RH and LH), Accumark (RH and LH), Synthetic, Deluxe, Lazermark, Sporter, Fibermark Composite and Ultramark. นอกจากนี้ยังมีรุ่น: Synthetic, Stainless, Sporter, Sporter SS, Synthetic Package, SUB-MOA Matte, SUB-MOA Stainless, และ Deluxe. Trajectory Bullet B/C Path of Bullet (Above or below line-of-sight of rifle scopes mounted 1.5" above bore) Wt. Grains Bullet Type 100 Yds 200 Yds 300 Yds 400 Yds 500 Yds 150 SP 0.338 2.6 3.3 0 -8.2 -22.6 150 Partition 0.387 2.5 3.2 0 -7.7 -20.9 165 SP 0.387 2.8 3.5 0 -8.5 -23.1 165 BST 0.475 2.7 3.4 0 -8.1 -21.4 165 Barnes TSX 0.380 2.9 3.7 0 -9.0 -24.2 180 Accubond 0.507 2.9 3.6 0 -8.4 -22.4 180 Barnes TSX 0.453 3.0 3.7 0 -8.8 -23.6 180 SP 0.425 3.1 3.8 0 -9.0 -24.4 180 BST 0.507 2.8 3.6 0 -8.4 -22.4 180 Partition 0.474 3.0 3.7 0 -8.6 -23.1 200 Partition 0.481 3.5 4.2 0 -9.8 -26.2 220 Rn-Ex 0.300 4.9 5.9 0 -14.6 -40.8 Energy Bullet B/C Energy (Foot-Pounds) Wt. Grains Bullet Type Muzzle 100 Yds 200 Yds 300 Yds 400 Yds 500 Yds 150 SP 0.338 4173 3462 2862 2351 1916 1547 150 Partition 0.387 4173 3547 3005 2536 2128 1773 165 SP 0.387 4210 3573 3021 2542 2126 1765 165 BST 0.475 4111 3596 3138 2730 2367 2042 165 Barnes TSX 0.380 4064 3434 2891 2420 2012 1660 180 Accubond 0.507 4223 3721 3271 2868 2505 2179 180 Barnes TSX 0.453 4197 3642 3152 2715 2319 1987 180 SP 0.425 4195 3607 3091 2637 2237 1886 180 BST 0.507 4223 3721 3271 2867 2504 2178 180 Partition 0.474 4195 3665 3193 2772 2396 2062 200 Partition 0.481 4158 3631 3161 2741 2366 2032 220 Rn-Ex 0.300 3954 3158 2495 1946 1497 1143 Velocity Bullet B/C Velocity (Feet per Second) Wt. Grains Bullet Type Muzzle 100 Yds 200 Yds 300 Yds 400 Yds 500 Yds 150 SP 0.338 3540 3225 2932 2657 2399 2155 150 Partition 0.387 3540 3263 3004 2759 2528 2307 165 SP 0.387 3390 3123 2872 2634 2409 2195 165 BST 0.475 3350 3133 2927 2730 2542 2361 165 Barnes TSX 0.380 3330 3061 2809 2570 2343 2128 180 Accubond 0.507 3250 3051 2861 2678 2503 2335 180 Barnes TSX 0.453 3240 3018 2807 2606 2414 2230 180 SP 0.425 3240 3004 2781 2569 2366 2173 180 BST 0.507 3250 3051 2806 2676 2503 2334 180 Partition 0.474 3240 3028 2826 2634 2449 2271 200 Partition 0.481 3060 2860 2668 2485 2308 2139 220 Rn-Ex 0.300 2845 2543 2260 1996 1751 1530 จากคุณ : ลุดวิก - [ 21 ก.ค. 51 17:12:01 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ไรเฟิลที่ยิงกระสุนชนิดนี้ Mark V Deluxe 300 Weatherby Magnum จากคุณ : ลุดวิก - [ 21 ก.ค. 51 17:35:17 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ปืนสวยง่ะ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 21 ก.ค. 51 20:47:12 ]

ความคิดเห็นที่ 32 โห.. หลายประเด็นเลย แรกสุด เห็นมั้ยว่า .300 เวเธอร์บี แม็กนั่ม สวยคลาสสิคขนาดไหน นอกเหนือจากวิถีกระสุนที่ราบเรียบของมัน เพราะเขาออกแบบมาเพื่อใช้ล่าสัตว์ใหญ่ในทุ่งแอฟริกา (โอ้ว! คุณลุดวิกมากระตุ้นต่อมกิเลสของผมให้ทำงานหนักอีกแล้ว) สอง ขอบคุณครับ คุณพ่อโปรเจ็กต์ ที่ถามก็เพราะผมอยากทราบระดับราคาของปืนลูกซองโบราณกระบอกนั้น เนื่องจากว่าผมจะเอาไปรมดำเสียใหม่ จะได้เลือกช่างระดับที่เหมาะสมกับราคาปืน (สนิมขุมไม่มีครับ กล่องไม้และแส้ล้างลำกล้องยังอยู่ครบ) สาม เรื่องการยิงปืนลงน้ำที่คุณลุดวิกเตือน ผมช่วย Confirm ด้วยอีกคนครับว่าต้องระวังอย่างยิ่ง อันตรายมาก สี่ M16 แถวชายแดนผมก็มีประสบการณ์ครับ ใหม่แกะกล่องกระบอกละ 1,700 บาท กระสุนนัดละหนึ่งบาท แต่ผมไม่ได้ซื้อหรอกนะ ไม่รู้จะเอามาทำอะไร จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 22 ก.ค. 51 00:40:36 ]

ความคิดเห็นที่ 33 แวะมาเตือนอีกรอบเรื่องความระมัดระวังในการยิงปืน เผื่อมีมือปืนรุ่นเยาว์เข้ามาอ่าน หลักในการยิงปืนอย่างปลอดภัย คือ ต้องมั่นใจเต็มร้อยใน "ตำแหน่งกระสุนตก" ประสบการณ์ของคนอื่น เขาใช้ปืนลมยิงนกที่เกาะอยู่บนต้นไผ่ แต่พลาด กระสุนถูกลำไม้ไผ่แล้วแฉลบไปโดนลูกกะตาของคนที่เดินอยู่แถวนั้น ผลคือตาบอดครับ นี่ขนาดปืนลมนะ ประสบการณ์ของผมเอง หมาข้างบ้านผมมันชอบมารุมกัดหมาบ้านผม 3 ต่อ 1 แบบนี้ไม่มีทางสู้หรอกครับ ผมจึงจำเป็นต้อง "เก็บ" เสียบ้าง ผมเลือกเก็บไอ้ตัวหัวโจกโดยใช้กระสุน .22 short เปรี้ยงเดียวเข้าที่หว่างคิ้ว มันทรุดฮวบแบบกางสี่ขาลงไปเลย โอกาสที่จะร้องสักเอ๋งยังไม่มี กรณีนี้อาจไม่เกี่ยวกับตำแหน่งกระสุนตก แต่อยากจะบอกว่าอย่าได้ประมาท ก็แค่ลูกกรด อย่าคิดอย่างนั้น คุณพนมเทียนเขียนไว้ในหนังสือของแกว่า พรานมือฉมังสามารถล้มช้างได้ด้วยลูกกรดนี่แหละ โดยยิงเข้าที่ตะพองซึ่งเป็นจุดอ่อนที่สุด กระสุนทะลุเข้าสมอง จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 22 ก.ค. 51 01:40:35 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ตอบคุณหนุ่มไทยครับ   เนื่องจากผมไม่รู้ว่าลูกซองโบราณกระบอกนั้นเป็นยี่ห้ออะไรแน่คงบอกราคาจริงแท้แน่นอนไม่ได้   แต่จะเล่าให้ฟังพอเป็นแนวทางว่าเมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้วเพื่อนผมวิ่งหน้าตาตื่นมาเล่าให้ฟังว่าเห็นลูกซองรุ่น จงอางเพลิง วางขายอยู่ที่ราคา 80,000 บาท (อ่านว่าแปดหมื่นบาทถ้วน)  ถ้าใครที่สนใจปืนลูกซองคงจำได้ว่าปืนรุ่นนี้ออกวางขายครั้งแรกเมื่อราว 30 ปีมาแล้ว   เป็นปืนที่ออกแบบล้ำสมัยมาก   อันที่จริงเหมาะสำหรับเอาไว้ยิงคนมากกว่ายิงสัตว์เสียด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นเป็นไปได้ว่าตอนนี้คุณมีท่อนไม้ + ท่อนเหล็กที่ราคาแพงกว่าทองคำที่น้ำหนักเท่ากันอยู่ในครอบครอง   ว่าแต่ขอดูรูปหน่อยได้ไหมครับ   ไม่มีปัญญาขอซื้อหรอก   แต่ผมชอบปืนสวยๆน่ะ จากคุณ : Tanis - [ 22 ก.ค. 51 09:13:19 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ผมไม่มีกล้องครับ ถึงมีก็ถ่ายและโหลดเข้าคอมฯ ไม่เป็น แหะ แหะ ต้องรอเจ้าลูกชายกลับมาบ้านก่อน เขากลับบ้านเดือนละครั้งครับ ขอบคุณ คุณ Tanis มากนะครับสำหรับข้อมูลเบื้องต้น จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 22 ก.ค. 51 13:56:42 ]

ความคิดเห็นที่ 36 กระบอกในภาพนี่เท่าไหร่ครับ จากคุณ : พ่อโปรเจ็กต์ - [ 22 ก.ค. 51 23:02:50 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ถามเพิ่มเติมจากคุณพ่อโปรเจ็กต์ ราคาพร้อมกล้องเล็ง ค่าขอใบอนุณาต และกระสุน 50 นัด เรียนคุณ Tanis ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องปืนลูกซองโบราณนะครับ พอดีเมื่อวานตอนเย็นมีญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งมาที่บ้าน ก็ได้คุยกันถึงเรื่องนี้ ได้ความว่าปืนกระบอกนี้คุณทวดของผมเป็นคนซื้อ ท่านเสียชีวิตในปี 2487 อายุ 90 ปี นับจากปีที่เสียชีวิตจนถึงปัจจุบันก็ 64 ปี สมมติท่านซื้อปืนกระบอกนี้เมื่ออายุ 40 ก็บวกเข้าไปอีก 50 ปี เป็น 114 ปี เดินหน้าถอยหลังนิดนึงปัดตัวเลขกลมๆ ปืนกระบอกนี้ควรมีอายุราวๆ 110-120 ปีโดยประมาณคร่าวๆ นะครับ เมื่อคืนคุยกับญาติผู้ใหญ่คนนี้อย่างสนุก และผมเองก็เพิ่งทราบที่มาของคำว่า "ไอ้เสือเอาวา" ว่างๆ จะเล่าให้ฟังครับ จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 23 ก.ค. 51 11:32:59 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ฝากเรียนถามท่านผู้ใหญ่ของคุณหนุ่มไทยไร้นามว่า ตอนคุณทวดเข้ากรุงฯ  ท่านแต่งตัวอย่างไร เดินทางอย่างไร  เช่นให้บ่าว(ลูกนา หรือ ทาส)พายเรือมาส่งในเมืองก่อนหรือไม่ หรือว่าขี่ม้า คุณทวดมาพักที่ไหน   มีญาติเป็นข้าราชการหรืออย่างไร คนที่ซื้อหนังสือพงศาวดารจีน(เก่ากว่าตำราสามก๊ก) ซื้อปืน  มีแคตตาล็อครถ กลับบ้าน ชีวิตน่าสนใจเป็นบ้า ชีวิตของท่านน่าสนใจมากถ้ารวบรวมได้ ราวกับเป็นกรมการเมืองทีเดียว เมื่อท่านเข้ามาในกรุงเพื่อซื้อปืนนั้น  คงมีรปภตามมาด้วยไม่ต่ำกว่าสองคน แค่นึกๆก็แทบจะแต่งนวนิยายได้ โปรดร่างสาแหรกของสกุลไว้เถิดจะเกิดผล จากคุณ : แสนอักษร - [ 24 ก.ค. 51 07:05:38 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ครับ พี่แสนฯ มีโอกาสผมก็สืบสาวราวเรื่องอยู่เนืองๆ ว่าต้นตระกูลผมเป็นใคร มาจากไหนกันแน่ ในใบ มรนะบัตร (รักษาตัวสะกดแบบเดิม) ก็ระบุชื่อบิดาว่า ไม่ซาบ (รักษาตัวสะกดแบบเดิม) ชื่อมารดาก็ใช้เครื่องหมายขีด ( - ) ไม่ทราบอีกเช่นกัน สันนิษฐานว่าคงมาจากกรุงเทพฯ ก็จากแคตตาล็อครถยนต์โบราณนั่นแหละครับ เพราะในต่างจังหวัดสมัยนั้น ไม่มีถนนจะให้วิ่ง และคงมาพร้อมกับเงินก้อนโตเชียวแหละ เพราะเท่าที่ทราบก็ไม่ได้ทำมาหากินอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แต่มีเงินบริจาคซื้อระฆังให้โบสถ์ เหมาคนเดียวเลยหนึ่งลูก ที่เหลือเขาเรี่ยไรกัน คงแพงน่าดูแหละครับเพราะเป็นระฆังที่ดีมากเลย เสียงก้องกังวานสดใสไปไกลหลายกิโลเลย คนที่อยู่ต่างอำเภอยังได้ยิน ระฆังนี้สั่งทำจากฝรั่งเศสครับ ที่ผมสงสัยมากที่สุดคือรูปปั้นพระแม่มารีกับ Saint Joseph ครับ เก่าแก่มาก อีกไม่กี่ปีก็จะมีอายุครบหนึ่งพันปีแล้ว สียังสวยสดใสมากเลย ผมสงสัยว่ามาได้ไง เพราะโบสถ์และชุมชนนั้นมีอายุแค่ 170 ปีโดยประมาณ อาจเป็นไปได้ว่าบาทหลวงในยุคนั้นซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศสเอาของเก่าจากฝรั่งเศสมามอบให้เป็นที่ระลึก จากการที่บริจาคเงินซื้อระฆังนั้นเอง ที่ขาดชุดไปคือรูปปั้นพระเยซูคริสต์ แต่มีรูปที่ทำด้วยพลาสติกมาแทน ทำในญี่ปุ่น (รวมเรียกว่า ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งประกอบด้วยองค์พระเยซูคริสต์ พระแม่มารี และ Saint Joseph) พี่แสนฯ จะเอาไปเขียนเป็นนิยายก็ได้นะครับ ยังขาดข้อมูลส่วนไหนที่จะต้องใช้ในการวางเค้าโครงเรื่อง ผมยินดีครับ ขอสิ่งตอบแทนเป็นหนังสือนิยายเล่มที่ว่านี้ พร้อมลายเซ็นพี่แสนฯ กำกับมาด้วยก็พอแล้ว ผมจะเก็บเอาไว้ให้ลูกหลานได้ดู ว่านี่มีเค้าโครงจากเรื่องราวของตระกูลเรานะ คนแต่งเขาเซ็นต์รับรองมาให้ด้วย นี่ไง! 555++ จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 25 ก.ค. 51 09:59:41 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ระฆังจากฝรั่งเศส   ขออนุญาตนำไปเล่า(ไม่ใช่เขียน)ในวงนักอ่านนักสะสมพอกระตุ้นความคิด แปลกมากข้อมูลนี้ ระฆังดีๆ สมัยโน้น  ทำในเมืองเบอร์มิงแฮม  ประเทศอังกฤษ อืออออ...สงสัยว่าเป็นทายาทสกุลขุนนางมหาศาล  ได้แบ่งมรดกแล้วก็แยกตัวมา คนไทยเราไม่ค่อยจะเก็บเงินสดจำนวนมาก สมัยต้นรัชกาลที่ ๔  ท่านยังฝังเงินกันเลย  กองทุนสิบชั่ง - ยี่สิบชั่งนี่ถึงลือและบันทึกไว้ อ้อ..เกือบลืมค่ะ   พงศาวดารจีนปกหนังสีเขียวเข้มเดินลายทอง โสภณพิพัฒน์ ๒๔๕๙ เพิ่งออกมา ๔๐ เล่ม อิฉันมีชุดศึกษาภัณฑ์แล้ว เล่มละ ๑๒ บาทเอง อิอิอิ แก้ไขเมื่อ 25 ก.ค. 51 11:36:48 จากคุณ : แสนอักษร - [ 25 ก.ค. 51 11:34:45 ]

ความคิดเห็นที่ 41 กราบสวัสดีพี่เเสนอักษร และทุกท่าน นานแล้วไม่ค่อยว่าง เข้ามาอ่านกระทู้นี้แล้วได้ไอเก่า ตรงที่ขึ้นต้นเรื่องกล้อง ต่อยอดเรื่องปืน ตบท้ายด้วยหนังสือเก่า แหมเป็นห้องยำโดยแท้ คิดถึงทุกคนเลยค่ะ จากคุณ : lilymay - [ 26 ก.ค. 51 08:37:02 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ระลึกถึงคุณ lilymay ผู้น่ารักเสมอค่ะ จำได้แม่นก็ตอน ใครก็ไม่รู้ไปเที่ยวพม่า แล้วฝอยว่าคนพม่าชอบลมโชย แล้วคุณ lilymay บอกว่า  ก็ตัวสูงนี่นา แชมป์วรรณกรรมสองหนครึ่งไงคะ จากคุณ : แสนอักษร - [ 27 ก.ค. 51 18:01:52 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอคุยต่อจาก คห. 22 ของผม เรื่องปืนลูกซองโบราณ อันนี้เป็นภาพแรก จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 14 ส.ค. 51 15:40:11 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ภาพที่ 2 เมื่อถอดลำกล้องออกจากด้ามปืน ที่โคนลำกล้องด้านล่าง มีสัญญลักษณ์นี้อยู่ ผมไม่ทราบว่ามันคือตรายี่ห้อหรือเปล่าครับ แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 51 15:48:26 จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 14 ส.ค. 51 15:47:42 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ภาพที่ 3 ถัดจากโคนลำกล้องไปทางปลายกระบอกนิดหน่อย มีตัวขยุกขยุยอะไรก็ไม่รู้ครับ นอกจากนี้แล้วก็มีแต่ตัวเลข เข้าใจว่าเป็น serial number ถ้าตามภาพที่ 2 และ 3 ไม่ใช่ชื่อหรือตรายี่ห้อ แล้วชื่อหรือตรายี่ห้อมันอยู่ที่ใดฤๅ หาจนทั่วแล้วก็ไม่พบ จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 14 ส.ค. 51 15:56:33 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ลูกซองแฝดเบอร์ 12 ความยาวลำกล้อง 18.0 นิ้ว ผลิตในเบลเยี่ยม (ELG ใต้มงกุฏ) ตัวเลขอื่นๆ เป็นรหัสบอกระบบการทำงานอื่นๆ ของปืน ไม่ใช่ยี่ห้อครับ ไม่ทราบมูลค่าและข้อมูลอื่นๆ ครับ จากคุณ : พ่อโปรเจ็กต์ - [ 14 ส.ค. 51 21:34:59 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ถ้าความยาวลำกล้อง 18 นิ้วจริงๆ ถือเป็นลูกซองลำกล้องสั้น ใช้เฝ้าบ้านมากกว่าล่าสัตว์ครับ เพราะกลุ่มกระสุนบานมาก ระยะหวังผลจะครอบคลุมระยะป้องกันอาณาเขต จากคุณ : พ่อโปรเจ็กต์ - [ 14 ส.ค. 51 21:42:06 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เลข 0 คือสัญลักษณ์แทนลำกล้อง(ยาว) ถ้าเลข 0 มีขีดผ่า แทน "เส้นผ่าศูนย์กลาง" มังครับ เชื่อพ่อโปรฯได้เลยครับ จากคุณ : ลุดวิก - [ 18 ส.ค. 51 17:37:45 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ปืนโบราณแบบนี้ลองไปถามที่ Thailandoutdoor.com ดูไหมครับ   ตรงนั้นดูจะนิยมปืนผาหน้าไม้ของโบราณกัน  เผื่อบางทีจะมีคนรู้จักปืนกระบอกนี้ดีก็เป็นได้ จากคุณ : Tanis - [ 26 ส.ค. 51 15:00:52 ]

ความคิดเห็นที่ 50 น่าสนุกดีแฮะ นักสืบปืน ผมลองๆไปหามั่งก็เห็นว่า เครื่องหมายที่อยู่บนปืนของคุณหนุ่มไทยฯนั้นไม่จำเพาะ เป็นเครื่องหมายแสดงผลการทดสอบระยะแรกและการประทับตรารับรองขั้นสุดท้ายของการทดสอบลำกล้องปืนเท่านั้น นอกเหนือไปจากเครื่องหมายบอกขนาดเบอร์ปืนคือเบอร์ 12 สำหรับ AS นั้นน่าจะเป็นอักษรย่อชื่อของช่างที่เป็นผู้ตรวจสอบคุณภาพขั้นสุดท้ายเขาตอกรับรองไว้ สรุปแล้วคือเป็นปืนทำในเบลเยี่ยมแน่นอน แต่ว่ายี่ห้อไหนรุ่นไหนบอกไม่ได้ ผมค้นไปเจอเว็บนี้และหนังสือเล่มนี้ซึ่งน่าจะให้ข้อมูลได้ดีขึ้น แต่เขาบอกว่าไม่มีวางขายเพราะหมดไปนานแล้ว คุณหนุ่มไทยฯคงต้องดั้นด้นตามล่าต่อไป http://www.fn-browning.com/Imported%20Books.htm จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 26 ส.ค. 51 22:17:18 ]