ความคิดเห็นที่ 1 เราไม่เคยเรียนทั้ง 2 แห่ง แต่เราเป็นคนที่ชอบคิดอะไรไม่เหมือนชาวบ้าน เช่นซื้อ posters มาแปะข้างฝา ก็แปะเอาหัวลง ดังนั้น เมื่อชาวบ้านแห่กันไปเรียนที่ Fast English เพราะโดนชักจูงใจด้วยชื่อ ซึ่งเป็น advertising gimmick (คือการโฆษณาด้วยกลลวง) เราจะ "รู้สึกต่อต้าน" ขึ้นมาทันที ทั้งๆที่โรงเรียนนี้ ก็อาจสอนดี ดังนั้น เมื่อเกลียดชื่อของมัน เราจึงฟันธงได้เลยว่า "ถ้าเป็นเราจะเรียนนะ เราต้องเลือก AUA อย่างแน่นอน" เนื่องจากว่า "ชื่อของมัน ไม่เป็นที่น่ารังเกียจ" จากคุณ : agelesstansy - [ 22 ก.ค. 51 17:55:20 ]

ความคิดเห็นที่ 2 . . . แล้วแต่คน . . . จากคุณ : MIG-ON-THE-WAY - [ 22 ก.ค. 51 18:02:08 ]

ความคิดเห็นที่ 3 AUA เน้น Conversation นะครับ มีพื้นมาหน่อยก็จะเรียนที่นี่สนุกครับ ไม่ค่อยเครียด อีกที่ไม่เคยเรียนครับ จากคุณ : NiGht pRincE - [ 22 ก.ค. 51 21:37:02 ]

ความคิดเห็นที่ 4 การที่คนแห่ไปเรียน Fast english คงไม่ใช่ด้วยเหตุผลแค่ "โดนชักจูงใจด้วยชื่อ" ที่เป็น "การโฆษณาด้วยกลลวง" มั้งคะ เพราะชื่อสถาบันในแนวนี้ก็มีอีกเยอะไป การตัดสินอะไรอย่างผิวเผิน ก็ไม่ต่างอะไรจากมีอคติหรอกนะคะ จากคุณ : บานาน่าจัง - [ 23 ก.ค. 51 01:55:36 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถูกต้อง ชื่อสถาบันที่ส่อความว่า "เรียนอังกฤษแล้วเก่งได้ไวๆ" ก็มีอีกเยอะไปในประเทศไทย เพราะคนไทยชอบอะไรไวๆ (แต่ในประเทศอื่นๆไม่ค่อยจะมี)   แต่คนที่เคยเรียนภาษาอังกฤษจริงๆมาอย่างหนัก ก็จะรู้ว่า Fast English ไม่มีในโลกอย่างแน่นอน ดังนั้น พอเห็นชื่อโรงเรียนแบบนี้ก็เลยหมดความเลื่อมใสเพราะดูเหมือนเป็นเรื่องยกเมฆ ส่วนเรื่องอคตินั้น ไม่ได้อคติหรอก เพราะว่าเราไม่ได้เคยเรียนที่นั่น และไม่เคยมีความสัมพันธ์กับอาจารย์หรือโรงเรียน แล้วก็ไม่ได้เป็นหน้าม้าให้โรงเรียนไหน แล้วก็ไม่ได้ประกอบธุรกิจการสอนภาษาอังกฤษที่เป็นคู่แข่งของเขาด้วย ก็เลยไม่ถือว่ามีอคติ เพียงแต่ว่า เห็นแค่ชื่อโรงเรียน มันก็เห็นข้อความที่ "โม้เกินความจริง" ก็เลยเกิดความ "ไม่เลื่อมใส" ก็เลยแนะนำผู้คนทั้งหมด ให้เลือกไปเรียนที่อื่นๆกันให้หมด เราก้อคิดว่าบุคคลที่เป็นกลางก็คงไม่คิดว่าเรา "มีอคติ" และท้าพนันได้เลยว่า คนที่คิดว่าเรามีอคติ ต้องมีความสัมพันธ์กับโรงเรียนนั้นอย่างแน่นอน...เพราะพวกหน้าม้ามีเยอะ เคยมีตั้งคำถามเองว่า เรียนที่ไหนดี แล้วก้อตอบกันเองว่าเรียนที่นั่นที่นี่ดี ไม่เชื่อเดี๋ยวก้อรอดู ยังจะมีหน้าม้าเข้ามาอีกมากมาย...เห็นจนเบื่อแล้ว... ไปอ่านต่อที่กระทู้นี้เรื่องการใช้อินเตอร์เน็ตให้เป็นประโยชน์ในการเรียนภาษาอังกฤษ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6791218/K6791218.html แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 51 02:46:41 แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 51 02:38:42 จากคุณ : agelesstansy - [ 23 ก.ค. 51 02:33:58 ]

ความคิดเห็นที่ 6 รร. สอนภาษาที่คนเรียนเยอะไม่ได้หมายว่าดีกับทุกคน เรียนแล้วจะเก่งทุกคนนะครับ ปัจจัยที่จะทำให้เรียนได้สำเร็จมันมีมากมายกว่านั้น เช่นพื้นฐานที่มี ความตั้งใจ เอาใจใส่ ขยันอดทน วิธีการเรียนที่เหมาะกับตัวเอง ปราๆๆ ถ้าไม่เชื่อลองมานับกันดูก็ได้ไม่ว่าที่ไหนๆสอนภาษาอะไรก็ตาม เรียน 100 คน จะเก่งหรือผ่านขั้นยที่เอาไปต่อยอดได้มีแค่ไม่เกิน 10-20 คนเท่านั้น ซึ่งคนที่ผ่านไปเป็นส่วนน้อยนี้ปกติจะเป็นคนขยัน ตั้งใจอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วทั้งนั้น นอกนั้นถ้าไม่เลิกกลางคันก้จะเรียนแบบไปเรื่อยๆ จดมาราธอนแต่ไม่เก่งสักที เพราะหากว่าโรงเรียนไหนประสบความสำเร็จได้ถล่มทะลาย กระทรวงศึกษาก็จะควรคว้าตัวไปวางระบบการศึกษาภาษาระดับชาติทันที ....แต่มีที่ไหนกัน..ไม่มีอ่ะ!!! จากคุณ : โจโฉ (joechou) - [ 23 ก.ค. 51 03:35:56 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ซื้อข้อสอบ listening มาลองฝึกฟังไปเรื่อยๆก่อนมั้ยคะ  เราก็ซื้อมาฝึกฟังบ่อยๆ ไม่ก็ยืมเพื่อนบ้าง เพราะเราคิดว่า listening ของ TOEIC  จะเร็วมาก ต้องฝึกให้คุ้นก่อนสอบจริงน่ะค่ะ จากคุณ : endimian - [ 23 ก.ค. 51 08:51:51 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณทุกๆคนมากนะค่ะที่ช่วยแสดงความคิดเห็น รู้สึกว่าตัวเองจะตั้งคำถามให้เพื่อนๆมีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันรึเปล่า - -! (รู้สึกผิด) แต่เจตนาของเราคือ อยากหาที่เรียนพิเศษด้านภาษา เพราะรู้สึกว่าถ้าอ่านเองตัวเองจะไม่ค่อยสม่ำเสมอ คือประมาณว่าต้องมีคนมาคอยสอนน่าจะรู้เรื่องมากกว่า เหมือนสมัยเรียนมัธยมหนะค่ะ เพราะเราอ่านเองไม่ค่อยเข้าใจมันจะพาลทำให้ขี้เกียจค่ะ มีใครเป็นเหมือนเราไม๊ (หาพวก อิอิ) แต่ยังไงก็ต้องรบกวนอีกทีนะค่ะ เป็นที่อื่นก็ได้ ไม่จำเป็นต้องที่นี่ก็ได้ ขอบคุณค่ะ ><' จากคุณ : จขกท (แก้วน้ำสีชมพู) - [ 23 ก.ค. 51 09:04:58 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ^ ^ เรื่องฝึก listening comprehension เราคิดวิธีการสอนดีๆ แหวกแนว ไม่เหมือนใคร มาได้เมื่อ 15 ปีที่แล้วมา ตอนนั้นทำเงินได้มากพอสมควรกับการสอนภาษาอังกฤษ แต่ก็ต้องทำการตลาดแบบ "สร้างฝันให้นักเรียนเหมือนกัน ว่าเรียนไวๆแล้วจะได้ผลเร็ว" ซึ่งลงเอยแล้ว เราไม่ชอบ เราก็เลยไปทำงานแปลแล้วไม่ได้สอนภาษาอังกฤษไปนานแล้ว และก็ไม่ค่อยอยากสอนอีกเนื่องจากว่า การที่จะอยู่รอดได้ต้องทำการตลาดโดย "กล่อม" นักเรียนให้เชื่อว่า "เรียนแพล๊บเดียวก็เก่งได้" ซึ่งมันขัดกับนิสัยเรา เพราะเรารู้ว่า "มันไม่แพล็บเดียวแน่ๆ"   ลองไปอ่านกระทู้นี้ดูเรื่องการเรียนการสอน listening comprehension ว่าแท้จริงแล้วนะ มันมีเคล็ดลับตั้งหลายร้อยหลายพันท่าเพลง http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6822555/K6822555.html และกระทู้นี้ก็ตลก เรื่องสอน TOEIC เหมือนกัน เจอนักเรียนแบบนี้นะ ต่อให้เพิ่มค่าสอนให้ เราก็ยังไม่อยากสอนเลยหละ... http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6820143/K6820143.html จากคุณ : agelesstansy - [ 23 ก.ค. 51 09:14:54 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คนมีหลายประเภท หลายแบบ และความถนัดของแต่ละคนต่างกัน   บางคนถนัดภาษา สามารถเริ่มเรียนภาษาด้วยตัวเองได้ บางคนไม่ถนัด แต่ก็สามารถเริ่มเรียนภาษาด้วยตัวเองพอจะได้ระดับนึง บางคนไม่ถนัดภาษา และไม่สามารถเริ่มเรียนภาษาด้วยตัวเองได้.. เพราะมีคนกลุ่มหลังสุด จึงมีโรงเรียนสอนภาษาเกิดขึ้นมาก... ถ้าคุณเป็นหนึ่งในนั้น คุณก็อาจต้องเลือกสมัครสักที่หนึ่ง นี่อาจเป็นขั้นตอนการห้าข้อมูลของคุณ ....ซึ่งก็ดีแล้ว... ผมไม่วิจารณ์โรงเรียน แต่ผมวิเคราะห์คนที่เรียน..คือ ตัวนักเรียนเอง ถ้านักเรียน ไม่ไปเรียน ก็ไม่ได้อะไร ถ้านักเรียน ไปเรียน แต่ไม่ตั้งใจเรียน ก็ไม่ได้อะไร ถ้านักเรียน ไปเรียน ตั้งใจเรียน แต่ไม่กลับไปทบทวน ก็ไม่ได้อะไรสักเท่าไหร่     ถ้านักเรียน ไปเรียน ตั้งใจเรียน กลับไปทบทวน แต่ไม่ค้นคว้าขวนขวายเพิ่ม ก็ยังได้อะไร ไม่คุ้มสักเท่าไหร่     ถ้านักเรียน ไปเรียน ตั้งใจเรียน กลับไปทบทวน และค้นคว้าขวนขวายเพิ่ม รวมถึงพบแนวทางที่ตนจะเรียนต่อไปเองได้หลังจากจบคอร์สแล้ว     ....นั่นเรียกว่า "คุ้ม" ......... มีโรงเรียนไหนครูคนไหนเก่งเลิศเลอ...แต่นักเรียนไม่เปลี่ยนพฤติกรรม ไม่เปลี่ยนทัศนคติ.... มันก็ไม่สามารถเรียกว่า ประสบความสำเร็จ ส่วนใหญ่ขององค์ประกอบของความสำเร็จ มันอยู่ที่ตัวคุณ .. จากคุณ : ไข่ต้มกะนมอุ่น - [ 23 ก.ค. 51 09:19:42 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มันขึ้นอยู่กับที่ตัวเราเป็ฯหลักจริงๆ เอยูเอ เราว่า จะเน้นทางด้าน ฟังและพูดมากกว่า ส่วนฟาส อิงลิช จะดังในด้านแกรมม่า เราคยเรียนทั้งสองที่เราเรียนคอนเวอร์อยู่ที่สยาม มีเพือ่นเราที่เคยเรียนทีเอยูเอและ ฟาส อิงลิช เพือ่นเราเรียนที่ฟาสอิงลิชกันหลายคน เพราะว่าเรียนมัธยมปลาย เอาแกรมม่าไปใช้สอบ ถ้ามันไม่ดี เพือ่นเราก็คงไม่มีการบอกต่อกัน เราว่ามันก็คงดีในระดับนึง เพือ่นเรามันเป็ฯคนค่อนข้างตั้งใจเรียนมากเราและเพือ่นเรียนเตรียมอุดม การที่ จะไปฟันธง ว่าที่นี่แย่ๆๆๆ ยังไงก็แล้วแต่คุณ แต่ขอถามหน่อยว่า คุณเคยไปเรียนหรือไม่ ถ้าคุณไปเรียนคุณตั้งใจเรียนเพียงพอหรือไม่ การที่เราเลือกที่จะเรียนสักที่ และตัดสินใจเรียนต่อไหม มันก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน ถ้ามันเรียนแล้วไม่ดี เพื่อนเรามันก็คงไม่ไปเรียนกันหรอก เราคิดว่า เรา และเพื่อนๆก็มีสมองที่เพียงพอและแยกเเยะอะไรได้ว่าอันไหนเหมาะหรือไม่เหมาะกับตัวเอง ดังนั้นเราก็เป็นเพียงคนคนนึงที่เคยเรียน และเราตั้งใจเรียนมาก เราเรียนแกรมม่าหลายที แต่ละที่ก็ดีต่างกัน ของครูสมศรี ของ เอ็ฯคอนเส็บเราก็เคยเรียนมาแล้ว ของครูสมศรีจะดังในทางคำศัพท์ เราชอบครูสมศรีมากมาก ดังนั้น จะบอกก็คือว่า เราเรียนทีไหน มันก็ดีหมด ถ้าเราตั้งใจเรียน แต่คุณก็ต้องิคดว่า มันคุ้มค่ากับที่คุณจ่ายไปหรือไม่ มันแพงเกินไปที่คุณจะจ่ายไหวหรือเปล่า ถ้าคุณไม่มีปัญหาตรงนี้ ก็เรียนไปเถอะครับ เอาสักที่แล้วก็พยายามตั้งใจเรียน ทำการบ้าน ผมไม่ทราบว่าโทอิกมีสอบฟัง และพูดด้วยไหม ถ้ามี คุณก็พยายามที่จะพัฒนาจุดนี้ด้วย อาจจะเรียนกับฝรั่งเพระว่าจะได้สนทนาได้บ่อยๆ หรือว่า หาดีวีดี หนังซาวแทรกมาดูก็ได้ครับ ฟังเพลงก็ช่วยได้เหมือนกัน แต่มันจะไมได้ช่วยแบบว่าทันใจ เพราะมันต้องอาศัยเวลาและความสม่ำเสมอ ไม่มีอะไรทีได้มาง่ายเกินไป อ้อ ขอเพิ่มเติมอีกนิด การที่เราไปเรียนที่ ฟาส อิงลิช เราไมได้คาดหวังหรอกว่า มันจะเรียนรู้ได้เร็วแบบทางลัด แต่เราเรียนเพราะว่า เพือ่นเราบอกว่า แกรมม่า เค้าสอนดี ก็แค่นั้น เพระเรารู้ว่าภาษามันต้องอาศัยความสม่ำเสมอ ถึงจะเก่งได้ ยิ่งทักษะการฟังนี่ ต้องฝึกกันนานเลยแหล่คัรบ มันถึงจะเป็น แล้วก็มีที่สอนอังกฤษแบบแกรมม่า หรือ พวกเรียนอังกฤษเพือ่ทำข้อสอบก็หหลายสถาบันอยู่ ก็ให้เจ้าของกระทู้เลือกเอาเอง มีหลายที่มีชื่อเสียงนะครับ เพื่อนผมไปเรียนที่ BB&C มันก็บอกว่าดีนะคัรบ เพื่อนคนนี้ตอนนี้ เอาทุนคิงไปเรียนต่างประเทศแล้ว ที่เห็นเค้าดังๆทีเพือ่นๆมันพูดกัน ที่เรียนเอาไปสอบก็มี บีบีแอนซี ฟาส อิงลิช ครูสมศรี ประมาณนี้อ่ะคัรบ ใครจะแอนตี้การเรียนพิเศษ ก็ช่างหัวเขา ผมไม่สนหรอก ใครที่คิดว่าการเรียนพิเศษงี่เง่า ก็ให้เค้าคิดไป ผมรู้ว่าอะไรที่เหมาะกับผม และผมตัดสินใจด้วยตนเองได้ จากคุณ : TU68 - [ 24 ก.ค. 51 00:52:42 A:192.168.1.102 X:58.8.191.245 TicketID:174741 ]

ความคิดเห็นที่ 12 นี่ ได้ตัวแล้ว คนเคยเรียนของจริง เรียนมาทั้ง เอยูเอ ฟาสท์อิงลิช ครูสมศรี เอคอนเซ็ปท์ ผมละจนใจ เวลามีคนมาถามว่าเรียนที่โน่นที่นี่เป็นอย่างไร เพราะตัวเองไม่เคยเรียนกับเขา ก็เลยตอบไม่ได้ งั้นขอสัมภาษณ์ตรงด้วยคำถาม 64-dollar question ก่อนเรียน และ หลังเรียน คุณมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรในความรู้ความชำนาญภาษาอังกฤษ? แบบว่าอยากรู้จากปากผู้มีประสบการณ์ตรงจริงๆ คนไม่เคยเรียนอย่างแท่นสีห้ามตอบ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด - [ 24 ก.ค. 51 06:28:38 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ^ ^ แอบขำ คำตอบคุณ แอ๊ด ปากเกร็ดอะค่ะ เราเคยเรียนแต่ที่ AUA ขอตอบด้วยคนจะได้มั้ยคะเนี่ย ขอแย่งตอบก่อนนะ  ก่อนเรียน AUA เราเคยตั้งกระทู้บ่นในห้องนี้เหมือนกันว่า คะแนนสอบภาษาอังกฤษก็ออกมาดี แต่ทำไมเวลาที่ต้องพูดจริงๆกลับพูดไม่ออก ไม่รู้จะพูดยังไง ฯลฯ แต่พอไปที่ AUA ที่ผู้สอนจะกระตุ้นให้พูดภาษาอังกฤษตลอดเวลา ก็ช่วยให้กล้าพูดมากขึ้น เพราะว่าได้พูดเยอะมาก  จนคิดประโยคที่จะพูดได้เร็วขึ้นและลืมความกลัวที่จะพูดด้วย ทำให้ทักษะการพูดภาษาอังกฤษตอนนั้นของเรา ค่อนข้างดีเลยล่ะค่ะ แต่พอตอนนี้ที่เลิกเรียน ไม่มีโอกาสได้พูดอีก แถมยังไปเรียนอีกภาษา ทักษะที่เคยได้ ก็เริ่มติดๆขัดๆอีกแล้วค่ะ เง้อ~ จากคุณ : endimian - [ 24 ก.ค. 51 18:46:42 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผ่านมาอ่าน...   จากคุณ : ชายยอดนักทดลอง - [ 24 ก.ค. 51 21:00:09 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าอยากสอบ ก็น่าจะไปที่อื่นนะคะ เพราะ AUA เค้าเน้นพูดค่ะ ทุกวันนี้ที่ (พอ)พูดได้ เพราะเรียน AUA นี่แหละ (จบ 15 level) ก่อนหน้านี้เรียนภาษาอังกฤษอยู่ในระดับดี แต่พูดไม่ได้ พอมาเรียน AUA พูดได้เลยค่ะ แต่ไม่ถึงกับแก่กล้า รัวเป็นชุด แต่ก็กล้าพูดกับฝรั่ง สื่อสารกันได้รู้เรื่อง ช่วยฝรั่งไปได้หลายคนแล้วค่ะ ถึงจะนิดๆ หน่อยๆ ก็รู้สึกดีใจทุกครั้งที่ได้ช่วยเค้า จากคุณ : ปีศาจแก้มแดง - [ 25 ก.ค. 51 19:16:03 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นด้วยกับคคห.ด้านบนค่ะ ว่า AUA จะเหมาะกับการฝึก Conversation มากกว่าการเรียนเพื่อสอบ คุณลุงแอ๊ดดักคอคุณ tansy ไว้แล้ว งั้นคนเคยเรียนคนนี้ขอช่วยตอบอีกคนนะคะ เราเคยเรียน AUA แต่ไม่ใช่ Regular course นะคะ เราเรียน Academic English Program (AEP) ค่ะ จากการที่เราพูดคุยกับเพื่อนๆ ที่ AUA Regular course ส่วนใหญ่ก็ชอบ เพราะว่าทำให้กล้าพูดมากขึ้น แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอาจารย์, จำนวนนักเรียน และความตั้งใจของเราด้วย อาจารย์บางคนมือใหม่ก็อาจจะสอนไม่เก่งนัก บางห้องอาจมีปัญหานักเรียนเยอะเกินไป หรือตัวนักเรียนไม่ตั้งใจเรียน ไม่ฝึกฝนเพิ่มเติม ก็อาจทำให้การเรียนไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร สาเหตุที่เราเรียน AUA คอร์ส AEP ก็เพราะเพื่อนคนหนึ่งในพันทิปนี่แหละมาชวน (สงสารน่ะ เค้าบ่นว่าถ้าเราไม่เรียน เค้าต้องเรียนคนเดียว) อ่านจากกระทู้เก่าและ blog น้องเชษฐา ก็เห็นหลายคนแนะนำ อีกทั้งเราเห็นว่าค่าเรียนไม่แพง สามารถใช้บริการห้องสมุดและ SLC ได้ด้วย เราเรียนที่ AUA 2 เทอม ก็ประทับใจบ้าง ไม่ประทับใจบ้าง โดยรวมก็นับว่าดี ทักษะภาษาอังกฤษพัฒนาขึ้นเยอะนะ ที่อยากจะเน้นก็คือ ไม่ใช่แค่เรียนจากในห้องนะ เลิกเรียนเราก็เข้า SLC ทำการบ้าน ฝึกฟังพูดอ่านเขียนเพิ่มเติม หาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อไป discuss ในห้อง ต้อง present หรือ debate เป็นภาษาอังกฤษ เราไม่เคยทำ ก็ไปสืบเสาะมาว่าทำอย่างไร ที่เราต้องขยัน เพราะพื้นฐานเราไม่แน่นเหมือนเพื่อนร่วมห้อง โดยเฉพาะคุณนัท305 เราเรียนภาษาอังกฤษครั้งสุดท้ายตอนเรียนปี 1 หลังจากนั้นไม่ได้เรียนอีกเลย จนมาปลายปีที่แล้วที่มาเรียนด้วยตัวเอง แล้วตั้งกระทู้ยาวๆ นั่นแหละค่ะ สรุป คือ เราเริ่มจากเรียนตัวเอง ต่อมาก็เรียนกับสถาบันสอนภาษา  แล้วก็มาก็เรียนแบบตัวต่อตัว แต่เราก็ยังคงเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองอย่างสม่ำเสมอจ้ะ ขอย้ำว่า การเรียนภาษาอังกฤษอยู่ที่ "ตัวคุณ" เป็นหลักค่ะ เมื่อคุณรักภาษาอังกฤษ แล้วการเรียนภาษาอังกฤษจะเป็นเรื่องสนุกค่ะ จากคุณ : Flowery - [ 25 ก.ค. 51 20:29:16 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขนาด Wall Street ยังให้เรียนตั้ง 2 ปี... FAST มันไม่มีอะไรที่ FAST หรอกครับ การเรียนภาษา ต้องเป็นแบบซึมซับครับ จากคุณ : arata_arty - [ 26 ก.ค. 51 18:41:18 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เราเป็นคนที่เคยเรียน Fast Eng. ค่ะ จะขอเข้ามาเล่าวิธีการเรียนการสอนคร่าวๆใน TOEFL Course แล้วกันนะคะ ใช้เวลาเรียนประมาณ 5 เดือน ราคา 14,400 บาท ขั้นแรก นักเรียนใหม่ทางโรงเรียนจะมีให้มาเรียนปรับพื้น grammar ก่อน ที่เรียกว่า 25 กฎทอง รวบรวมกฏที่พบเจอในข้อสอบบ่อยๆ...ไม่ต้องสงสัยนะคะเพราะกฏพวกนี้จะอาศัยประสบการณ์จากอ.บุญชัย เป็นผู้รวบรวมมาโดยใช้ระยะเวลานานมาก เราไม่ได้ใช้ภาษาเชี่ยวชาญและเป็นประจำ ยังไงก็ต้องท่องจำ ท่องศัพท์และพยายามท่องกฏให้ได้ คงไม่มีใครเถียงว่าไม่จำอะไรเลยก็สามารถสอบผ่านได้ อันนี้ก็แล้วแต่เทคนิคใครก็ของเขา การเรียน course นี้เพื่อเตรียมสอบ TOEFL IBT ดังนั้นจึงต้องเน้นการ" ฟัง "เป็นหลัก มีการสอนสดโดยอาจารย์ที่เป็นคนอเมริกันฟังแล้วอาจารย์จะหยุดเป็นท่อนๆแล้วพูดซ้ำทุกคำให้นักเรียนบางคนที่ไม่มีพื้นหรือฟังไม่ทันได้รู้จักการออกเสียงและอารมณ์ของผู้พูด) การพูด อาจารย์จะให้หัวข้อมาแล้วช่วยกันคิดเพื่อเรียบเรียงเป็นเนื้อหาใจความที่โดนใจคนตรวจและคม...คมความคิดได้จากการอ่านมากและมีสมาธิแข็งแกร่ง การอ่าน อาจารย์จะอ่านและแปลพร้อมสอนให้คิดเป็นภาพ เวลาลำดับเรื่องราวจะจำแม่นขึ้น เวลาเจอศัพท์ อาจารย์จะพ่วงศัพท์ในหมวดเดียวกันที่เจอในการสอบมาให้ทราบด้วย การเขียน จะมีชีทที่นำเสนอ idea ของเรื่องที่ข้อสอบมักจะถามและให้มุมมองที่เฉียบคม ถ้าเราไม่รู้ คิดไม่ทัน อันไหนควรจำก็จำไปใช้ โดยส่วนตัว เราประทับใจในการเรียนที่นี่เพราะเราได้วิธีการจำและนำไปใช้ หลายปีมากที่เราคิดว่าอ่านเองก็ได้ๆ สุดท้ายเราบังคับตัวเองไม่ได้เพราะต้องทำงานไปด้วยและบางครั้งก็ขี้เกียจอ่ะนะ พอไปเรียนเท่ากับเป็นการย้ำๆๆ ได้ฟังได้ฝึกทักษะต่อเนื่อง 5 เดือน....อ.บุญชัยจะสอนคุณธรรม จริยธรรมควบคู่ไปตลอดและให้พวกเราท่องพระคาถาชินบัญชร 9 จบ เพื่อฝึกสมาธิ ไม่มีใครที่จะประสพความสำเร็จในเวลาที่รวดเร็ว และที่นี่ไม่เคยบอกว่าถ้าคุณมาเรียนแล้วคุณจะสอบผ่านแน่นอน..ไม่มี ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเองค่ะ ถ้าขยันอ่านสะสมและอย่างเราที่มาเรียนเราว่าไม่เสียเปล่า เพราะเราอยากเรียนจากผู้รู้จริง คนเก่งจริง อยากเรียนรู้ว่าคนเก่งๆเค้าคิดและปฏิบัติยังไง อย่าไปคิดอคติกับสิ่งไหนๆเลย เพราะมันจะปิดกั้นความเจริญเติบโตทางความคิดค่ะ จากคุณ : english muffin - [ 28 ก.ค. 51 16:27:06 ]