ความคิดเห็นที่ 1 บุรุษทั้งสองวิ่งออกมาจากคุกหลวง โลดแล่นตามหลังคาบ้านอย่างรวดเร็ว จากนั้นอี้บุ้นถามบุรุษหนุ่มผู้นั้น “ท่านคือ อุนเลี้ยงเง็ก ใช่ไหม” บุรุษหนุ่มผู้นั้นไม่ตอบคำ แต่ความเงียบก็เป็นการยืนยันคำตอบในตัวมันเองแล้ว อี้บุ้นกล่าวต่อ “เพราะเพลงทวนพรรณนารายที่ท่านใช้หายสาบสูญไปพร้อมกับการหายไปของท่าน” บุรุษหนุ่มผู้นั่นกล่าว “ข้าฯ คืออุนเลี้ยงเง็กอย่างที่ท่านเข้าใจนั่นแหละ ที่ข้าฯ มาช่วยท่าน เพื่อพิสูจน์ว่า ท่านคือ จอมโจรเด็ดดอกไม้หรือไม่” อี้บุ้นกล่าวถาม “แล้วข้าฯ ละม้ายคล้ายหรือไม่” อุนเลี้ยงเง็กกล่าวตอบ “จากวิชาตัวเบาของท่าน ข้าฯ ยืนยันได้แค่ว่า ท่านไม่ใช่จอมโจรเด็ดดอกไม้” อี้บุ้นถามต่อ “แล้วเมื่อกี้ท่านยืนเงียบเป็นเวลาครู่ใหญ่เพื่ออะไร” อุนเลี้ยงเง็กตอบ “เพื่อรอทหาร” อี้บุ้นขมวดคิ้วถาม “รอทหาร?” อุนเลี้ยงเง็กตอบ “ถ้าหากว่าไม่รอทหารก็พิสูจน์ไม่ได้หละสิว่า ท่านมีวิชาตัวเบาเป็นอย่างไร” อี้บุ้นทำหน้าเซง จากนั้นถามต่อ “แล้วทำไมท่านถึงระเบิดกำแพงเข้ามาปล้นคุก แทนที่จะค่อยๆลอบเข้ามา” อุนเลี้ยงเง็กกล่าวตอบ “วิธีปล้นคุกนั้นข้าฯเคยคิดมาแล้วเป็นร้อยวิธี แต่วิธีนี้เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ทหารระดมคนมาไล่จับท่านได้เร็วที่สุด” อี้บุ้นปั้นหน้าไม่ถูกแล้วกล่าวตอบ “ขอบคุณท่าน” จากคุณ : ซาเสี่ยวเอี้ยเลี่ยวม่งเซียง (คุณชายสามแห่งตระกูลเลี่ยว) - [ 27 ก.ค. 51 16:06:24 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จากนั้นระหว่างที่ทั้งสองกระโดดข้ามหลังบ้านเรือนนั้น ได้ยินเสียงจากโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง คล้ายมีคนประมาณ ๙ - ๑๐ คนพูดคุยกัน ทั้งสองจึงได้หยุดลงบนหลังคาของโรงเตี๊ยมและแงะกระเบื้องหลังคาของโรงเตี๊ยมนั้นขึ้นเพื่อส่องดูบุคคลภายในห้องนั้น อี้บุ้นถามว่า “มีอะไรน่าสนใจหรือ ก็แค่พวกที่มาเที่ยวดื่มกัน” อุนเลี้ยงเง็กตอบ “ท่านฟังดูสิว่าพวกนี้คุยเรื่องอะไร” ภายในห้องมีเสียงคุยกันเฮฮาตามภาษาคนเที่ยวดื่มกินทั่วไป แต่เนื้อหาที่คุยกับไม่ธรรมดา เพราะกล่าวถึง ปรมาจารย์แห่งแผ่นดิน อันได้แก่ เฮ้งโต่วโล้ว และ เนี่ยอู้เช้ง อีกทั้งยังกล่าวถึง กอเหล่าซินแซ บุรุษหนุ่มภายในห้องยกจอกชาขึ้นแล้วกล่าว “กอเหล่าซินแซกล่าวกับข้าฯ ว่า ผู้อาวุโสกิมย้ง เป็นบุคคลที่แสดงความรักไม่เป็น ได้แต่ป่าวประกาศให้คนอื่นรู้ว่าตนรักคู่รักของตนแค่ไหน จะมาเทียบเท่ากับ ปรมาจารย์เฮ้งโต่วโล้วได้อย่างไร ท่านนั้น ไม่พูดแต่แสดงออก (Show but don’t tell)” จากนั้นมีเสียงของสตรีในห้องแย้งขึ้น “ไม่จริง การแสดงความรักที่ซาบซึ้งของ ผู้อาวุโสกิมย้งนั้น แสดงออกถึงความซาบซึ้ง หากท่านเก็บไว้ภายในคนเดียวแล้วใครเล่าจะทราบว่าท่านรักคนรักของท่านแค่ไหน หรือจะต้องรอให้ตายจากนั้นจึงจะบอกว่ารัก ครำครึไปไหมหละท่านทั้งหลาย” จากนั้นมีเสียงสนับสนุนดังระงมภายในห้อง อุนเลี้ยงเง็กกล่าวกับอี้บุ้นว่า “ความรักจะแสดงหรือไม่ สำคัญที่ใจ เหตุใดกอเหล่าซินแซจึงเอามาเปรียบเทียบหละ คนพวกนี้พูดคุยสิ่งใดกัน” จากคุณ : ซาเสี่ยวเอี้ยเลี่ยวม่งเซียง (คุณชายสามแห่งตระกูลเลี่ยว) - [ 27 ก.ค. 51 16:06:57 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จากนั้นเสียงของคนแรกที่กล่าวกล่าวต่อ “ข้าฯเห็นด้วยกับ ไซมึ้งซ้อ ข้าฯ มีความคิดเห็นเช่นเดียวกัน แต่ที่ข้าฯได้ยินมามิเพียงเท่านี้ ท่านกอเหล่าซินแซ ยังบอกว่าข้าว่า ผู้อาวุโสโกวเล้ง ไม่มีคุณสมบัติเป็นหนึ่งในห้ายอดยุทธ์ของแผ่นดิน เพราะวิทยายุทธ์ของท่านนั้นลอกเลียนจากของท่านอื่นแล้วนำมาใช้เป็นของตน” ในห้องมีแต่คนถกเถียงกันระงม จากนั้นมีบุรุษท่านหนึ่งกล่าวขึ้นว่า “วิทยายุทธ์ของผู้อาวุโสโกวเล้งที่ข้าฯเคยได้ยินคำกล่าวขวัญว่า ท่านอาวุโสโกวเล้งออกมากล่าวเองว่า ท่านนั้นได้มีแรงบันดาลใจในการคิดค้นวิทยายุทธ์จากวิทยายุทธ์ท่านอื่นที่ท่านได้มีโอกาสเห็น ท่านไม่เคยกล่าวอ้างว่าท่านคิดได้ด้วยตนเองหนิ แล้วมันจะผิดตรงไหน ดีกว่าจอมยุทธ์จอมปลอมหลายๆคนที่ข้าฯได้ยินมา ชอบอวดอ้างว่า ตนคิดค้นวิทยายุทธ์เองไม่ได้ลอกเลียนแบบใคร ประทับใจอย่างเดียวเท่านั้น แต่ที่ไหนได้ กลับเอากระบวนท่านของปรมาจารย์ท่านอื่นมาทั้งดุ้น ไม่ได้เปลี่ยนแนวทางเลย” จากนั้นมีเสียงดังสนับสนุนอย่างระงม อี้บุ้นมองอุนเลี้ยงเง็ก พบว่า แววตาของอุนเลี้ยงเง็กแสดงออกถึงความขอบคุณและปลาบปลื้ม นึกสงสัยในใจ “อุนเลี้ยงเง็ก ไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกับผู้อาวุโสโกวเล้งกับผู้อาวุโสกิมย้งอย่างไร” เสียงในห้องเงียบแล้ว มีเสียงของบุรุษที่ผังดูแล้วแสดงถึงอายุที่ยังน้อยกล่าวต่อว่า “แชเฮีย กล่าวถูกต้องเป็นที่สุด ข้าฯ เลี่ยวม่งเซียง ขอดื่มให้ท่านด้วยน้ำชาหนึ่งจอก เอ้าซือเฮียซือเจ็ ดื่ม” ภายในห้องมีเสียงกล่าวตอบ “ดื่ม ดื่ม ดื่ม” อี้บุ้นกล่าวกับอุนเลี้ยงเง็กว่า “ท่านจะลงไปดื่มด้วยไหม หรือว่า จะพาข้าฯ ไปไหน” อุนเลี้ยงเง็กกล่าวตอบ “ขอข้าฯฟังคนเหล่านี้พูดคุยกันต่ออีกหน่อยเถิด” จากคุณ : ซาเสี่ยวเอี้ยเลี่ยวม่งเซียง (คุณชายสามแห่งตระกูลเลี่ยว) - [ 27 ก.ค. 51 16:07:22 ]

ความคิดเห็นที่ 4 จากนั้นภายในห้องกล่าวต่อ “ข้าฯได้ยินมาว่าที่เมืองเฉิงตูจะมีประลองเพื่อสืบทอดคัมภีร์จากปรมาจารย์เฮ้งโต่วโล้วกับเนี่ยอู้เช้ง ทั้งสองท่าน ในวันขึ้นสิบห้าค่ำเดือนเก้า หรืออีกหนึ่งเดือนข้างหน้านี้แล้ว ไม่ทราบว่ามีท่านใดสนใจไหม” เสียงของบุรุษที่ดูมีอายุกล่าวตอบ “ราชันทิวาเหล่าตี๋ ข้าฯ ก็ได้ยินมาเช่นเดียวกัน แต่ตอนนี้สถานการณ์บ้านเมืองยังไม่แน่นอน ทั้งแบ่งแยกดินแดน ทั้งความมั่นคงของราชสำนัก ท่านคิดว่าได้คัมภีร์มาแล้วจะนำไปใช้อย่างไรได้” เสียงของคนที่ถูกเรียกว่าราชันทิวากล่าวตอบ “อย่างน้อยถือว่าการเดินทางของพวกเรา อาจจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร แต่เป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ได้คัมภีร์ให้สามารถกอบกู้สถานการณ์ ให้บ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุขก็แล้วกัน มังกรเฮีย" เสียงของบุรุษหนุ่มอีกท่านหนึ่งกล่าว “เห็นด้วย ข้าฯไปด้วย” จากนั้นในห้องเริ่มนัดแนะเวลาเพื่อไปงานประลองที่กำลังจะเริ่มขึ้น อุนเลี้ยงเง็กหันกลับมาบอกกับอี้บุ้นว่า “พวกเราไปกันเถอะ” อี้บุ้นรับคำ จากนั้นทั้งสองกระโดดโลดแล่นไปตามหลังคาบ้านเรือนต่อไป จากคุณ : ซาเสี่ยวเอี้ยเลี่ยวม่งเซียง (คุณชายสามแห่งตระกูลเลี่ยว) - [ 27 ก.ค. 51 16:07:42 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อมาถึงกำแพงเมือง ก่อนออกจากกำแพงเมือง อึ้บุ้นนั่งลงไม่กระโดดต่อแล้วถามอุนเลี้ยงเง็กว่า “ท่านจะพาข้าฯไปไหน ขอข้าฯรู้สาเหตุและสถานที่ที่ท่านพาข้าฯไปได้ไหม” อุนเลี้ยงเง็กกล่าวตอบ “ได้ เรื่องทั้งหมดมาจาก หลานสาวของข้าฯ นามอุนยิ้ว ออกจากบ้านมาหลายวันแล้วยังไม่กลับ ออกตามหาก็ไม่พบ แต่มีชาวบ้านบอกว่า นางติดตามชายหนุ่มไปอย่างไรร่องรอยเมื่อหลายวันก่อน ข้าฯจึงออกตามหา แต่กลับหาร่องรอยของนางไม่พบ จากนั้นข้าฯจึงสงสัยว่ามีใครล่อลวงหลานสาวข้าฯไปหรือไม่ เพราะหลานสาวข้าฯ เป็นสตรีในสตรี นิสัยคล้ายสตรีทั่วไป แต่นิสัยของนางกลับมีนิสัยของสตรี๊สตรีซ่อนอยู่ ทำให้บางครั้งนางอาจรู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมของคน คราวก่อนขณะที่มีการประลองกัน นางยังเข้ามาถามเลยว่า “พวกท่านทำอะไรกันอยู่หรอ” ท่านคิดดูสิว่าไม่ให้ห่วงได้อย่างไร” อี้บุ้น ถามต่อ “แล้วท่านคาดเดาว่า จอมโจรเด็ดดอกไม้ เป็นผู้ล่อลวงนาง ท่านมีอะไรมายืนยัน” อุนเลี้ยงเง็กกล่าวตอบ “ข้าฯไม่มีอะไรมายืนยัน เพียงแต่คิดว่า ไม่มีสตรีใดในเมืองหลอกง่ายเท่ากับหลานข้าฯ แล้วสตรีในเมืองก็ยังอยู่กันครบมีแต่หลานสาวนข้าฯที่หายไป ท่านคิดว่า เหตุผลนี้พอหรือไม่ เมื่อเทียบกับนิสัยของนาง” อี้บุ้นตอบ “อืม มีเหตุผล มีเหตุผล แสดงว่าหลานสาวของท่าน ต้องเป็นโฉมสะคราญ แน่นอนที่สุด” อุนเลี้ยงเง็กตอบ “ข้าเพียงหวังว่าอย่าให้เกิดเรื่องใดๆขึ้นกับนางเลย” อี้บุ้นกล่าวถาม “ท่านคิดว่าจะไปตามหานางที่ไหน” อุนเลี้ยงเง็กกล่าวตอบ “สถานที่ที่มีเรื่องราวให้นางได้ยุ่งเกี่ยว และมีผู้ชาวยุทธ์มากมาย ซึ่งจากที่ได้ยิน แสดงว่า ที่เฉิงตูในตอนนี้กำลังเป็นจุดเป้าหมายของเหล่าชาวยุทธ์ ข้าฯคิดว่า คนที่พาหลานสาวข้าฯ ก็น่าจะเดินทางไปยังเฉิงตู” อี้บุ้นตอบ “ข้าเห็นด้วย เพื่อโฉมสะคราญข้าไม่เคยปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือ ยังไงซะข้าฯก็ยังไม่มีอะไรทำ งั้นข้าฯจะร่วมเดินทางเพื่อช่วยตามหาหลานสาวของท่านแล้วกัน อุนเฮีย” อุนเลี้ยงเง็กกล่าวตอบ “ขอบคุณมาก อี้เฮีย” จากนั้นทั้งสองจึงกระโดดลงจากกำแพงเมืองแล้วมุ่งตรงไปยังนครเฉิงตู จากคุณ : ซาเสี่ยวเอี้ยเลี่ยวม่งเซียง (คุณชายสามแห่งตระกูลเลี่ยว) - [ 27 ก.ค. 51 16:08:01 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอได้รับความขอบคุณ ขอได้รับคำตำหนิ ติชมได้เลยครับ จากคุณ : ซาเสี่ยวเอี้ยเลี่ยวม่งเซียง (คุณชายสามแห่งตระกูลเลี่ยว) - [ 27 ก.ค. 51 16:08:34 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ชอบจ้า ชอบตอนระเบิดคุก  แต่เลี่ยวซือตี๋ ตอนนั้นมีระเบิดใช้แล้วหรือ หรือจอมยุทธอุนใช้กระบวนท่าเพลงทวนพรรณรายระเบิดคุก จะได้ตามไปให้ช่วยตอนงานชุมนุม....อิ อิ อิ จากคุณ : ไซมึ้งฮูหยิน (นายหญิงบ้านหมื่นเหมย) - [ 27 ก.ค. 51 23:01:43 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จะเดินเรื่องออกแนวไหนหว่า.... ลักษณะท่าทางจะมีเรตด้วยนะเนี่ย... 5555 จากคุณ : มังกรเดียวดาย2 - [ 28 ก.ค. 51 09:48:47 A:125.24.37.108 X: TicketID:119097 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เข้ามาอ่านด้วยคน จากคุณ : ผู้ชมชอบวอดก้า - [ 28 ก.ค. 51 12:49:58 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เลิศ ขอรับ จากคุณ : กระบี่ล้างทวยเทพ (บุ้นแจกวง) - [ 28 ก.ค. 51 14:07:41 ]

ความคิดเห็นที่ 11 - รออ่านต่อ..ขอรับ - คารวะท่านคุณชายสามฯสามชามใหญ่(ชาอู่หลง)..ขอรับ จากคุณ : นายหนอน - [ 28 ก.ค. 51 15:14:03 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สตรี๊สตรี เป็นไงอ่ะ ชอบมาก ท่านอุนปล้นคุกประจำนี่นา จากคุณ : หลิงเอ๋อร์ (หวงหลิง) - [ 30 ก.ค. 51 21:35:19 ]