ความคิดเห็นที่ 1 เราว่าหลักสูตรแบบนี้นะ สอนวิธีเตรียมสอบไป ก็ไม่ได้ผล ถ้าสอบผ่านก็ผ่าน ถ้าสอบไม่ผ่าน ก็ไม่ผ่าน แต่ถ้าสอบผ่านแบบร่อแร่(เพราะติวมา) ก็อาจเรียนไม่จบ เพราะอะไรเราจะเล่าให้ฟัง เราไม่เคยเรียนหรอก แต่เรารู้จักมหาบัณฑิตการแปลจุฬาหลายคน เคยมีครั้งหนึ่งเราไปงานสังสรรค์พวกเขา พอคลุกคลีแล้วคุยด้วย แล้วทำความรู้จักกับพวกเขานะ พบว่า คนพวกนี้รักภาษามาตั้งแต่เด็กๆโดยธรรมชาติอยู่แล้ว...จึงมีขั้นตอนการเรียนรู้ทักษะทางด้านภาษาสะสมกันเป็นเวลานานหลายปีมากๆ...ซึ่งไม่ใช่ผลผลิตของการติวอย่างแน่นอน...!!!   คือพวกเขาจะดูหนัง ฟัง เพลง อ่านวรรณกรรมฝรั่ง และรับสื่อจากต่างแดนมาตั้งแต่เด็กๆ จนเก่งภาษามากๆแบบว่า ไม่ต้องไปติวที่ไหน ก็สอบผ่านเข้าไปเรียนปริญญาโทการแปลได้สบายๆเลยหละ   หลายคนก่อนเข้าไปเรียนปริญญาโท จบปริญญาตรี แล้วไปทำงานด้านภาษา (บางคนเคยมีผลงานแปลที่ได้รับการตีพิมพ์มาแล้วตั้งแต่อายุ 20 ต้นๆหรืออายุน้อยกว่านั้น) จนมีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี แล้วจึงไปลงเรียนปริญญาโทการแปล มีอยู่รายหนึ่งจบปริญญาตรีเอกภาษาฝรั่งเศส แต่ดันแปลอังกฤษ-ไทย ไทย-อังกฤษเก่ง มาก (คนนี้แหละที่มีผลงานแปลที่ได้รับการตีพิมพ์มาตั้งแต่อายุ 20 ต้นๆหรืออายุน้อยกว่านั้น) จนพอจบปริญญาโทการแปลมาแล้ว ก็เลยเก่งมากถึงขนาดกลับไปสอนปริญญาโทการแปล (อังกฤษ-ไทย กับ ไทย-อังกฤษ) ที่จุฬาเสียเองเลยหละ...!!! อีกรายหนึ่งจบมานานแล้ว ตอนนี้อายุแค่ 35 เอง แต่รู้เรื่องวรรณกรรม หนัง เพลงฝรั่งขนาดคุยเรื่องพวกนี้กับคนแก่อายุ 73 (คุยกับวัยรุ่นก็รู้เรื่องด้วยเพราะติดตามข่าวตลอดเวลา) รู้เรื่องว่าหนังสือสมัยไหนใครแต่งมีความเป็นมาอย่างไร หนังสมัยไหนใครแสดงมีความเป็นมาอย่างไร หรือเพลงสมัยไหนใครแต่งใครร้องและมีความเป็นมาอย่างไรบ้าง...โหเหลือเชื่อจริงๆอ้ะ...ถามเรื่องพวกเนี้ย พี่แกรู้หมดเลยว่ะ...!!! นั่นเป็นพวกที่รักภาษาแล้วเก่งมาตั้งแต่เด็กๆแล้วนะ ที่เรียนจบปริญญาโทการแปลจุฬา มาแล้วนะ แต่ในขณะเดียวกัน เราก้อรู้จักคนที่เข้าไปเรียนปริญญาโทการแปลที่จุฬา ที่เก่งรองๆจากนั้น นั่นก็คือว่า "พวกเขาเรียนไม่จบ" อาจเป็นเพราะสอบเข้าได้แบบ "ร่อแร่" แล้วดันไปเลือกทำวิทยานิพนธ์เรื่องที่ยากๆอลังการมากเกินไป สรุปแล้วนะ เราว่าปริญญาโทการแปลที่จุฬาน่ะ มันไม่ได้เอาคนที่ไม่ค่อยเก่งไปติวเร่งด่วนให้เก่งนะ แต่มันเป็นการ "เอาเสือไปติดปีก" นั่นก็คือ "เอาคนที่เก่งอยู่แล้ว ไปเรียนให้กลายเป็นเก่งกว่าเดิม ขึ้นมาอีกหลายๆเท่าน่ะ" แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 51 08:46:17 แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 51 23:57:16 จากคุณ : agelesstansy - [ 11 ส.ค. 51 23:52:21 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สวัสดีค่ะ ขอบคุณคุณ agelesstansy สำหรับความคิดเห็นและแง่มุมใหม่ ๆ จขกท เข้าใจ concept ของหลักสูตรนี้และได้เรียนจบด้านนี้มาบ้าง รักและชื่นชอบในภาษาไม่ต่างอะไรจากหลาย ๆคน อาจจะยังขาดประสบการณ์เพราะเพิ่งจบมาสักพักและงานที่ทำอยู่นั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานแปล เลยอยากโพสขอความช่วยเหลือจากรุ่นพี่สำหรับและคำแนะนำเพิ่มเติมน่ะค่ะ ถ้าสอบไม่ติดก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะถ้าเราพยายามแล้วก็ถือว่าทำดีที่สุดแล้วกันค่ะ ได้ลองทำในสิ่งที่หัวงไว้ยังดีกว่าไม่ได้ลงมือเนอะคะ จากคุณ : แมวน้อย (Miracle of 28) - [ วันแม่แห่งชาติ 16:31:52 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เห็นด้วยกับคุณ เทนสี ล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะการจะเข้าไปเรียนได้นั้นคุณต้องเป็นคนมีทักษะภาษาดีมากจนไม่ต้องไปพึ่งที่ติวที่ไหนอีกแล้ว เพราะการเรียนล่าม+การแปลนั้นคนจะเรียนได้ต้องมีความรู้ทางการแปลที่แน่นมากมากก่อนทั้งไทยและอักกฤษ ซึ่งทักษะพวกนี้มันติวกันในเวลาสั้นๆไม่ได้หรอกครับเพราะมันเป็นเรื่องของทักษะมากกว่าการสอบแค่ให้ผ่านเหมือนการสอบพวก CU-TEP หรือ TU-GET ที่มันอาจติวเรื่องเทคนิคทำข้อสอบได้ ความสนใจ+ตั้งใจมีก็ดีอยู่แล้วครับ แต่ต้องรู้ถึงข้อจำกัดของตัวเราเองด้วยว่าพร้อมแค่ไหน แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 51 21:24:52 แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 51 21:23:56 จากคุณ : โจโฉ (joechou) - [ วันแม่แห่งชาติ 21:22:21 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณค้าบๆๆๆ ไม่สอบแล้วดีกว่ามั้งเนี่ยยย 555 จากคุณ : Miracle of 28 - [ 13 ส.ค. 51 13:14:07 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เป็นกำลังใจให้นะ และขอแนะนำให้สอบดีกว่า จริงอยู่ที่ว่าจุฬาไม่ได้มีแต่ชื่อ แต่ทุกอย่างก็อยู่ที่ความพยายามของเราด้วย ถ้าสอบติดได้ก็แสดงว่าเรามีศักยภาพพอที่จะเรียน เผอิญเราไม่มีข้อมูลของการแปล เลยไม่สามารถแนะนำได้ แต่ก็เอาใจช่วยนะ เพื่อนๆ เราหลายคน ไม่เก่ง แต่ก็พยายาม มีทั้งจบบ้าง ไม่จบบ้าง แต่ทุกคนก็ล้วนได้อะไรจากการเรียนทั้งนั้น ทุกอย่างอยู่ที่ความพยายาม จากคุณ : pitchayapa - [ 13 ส.ค. 51 21:51:33 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อย่า ฟัง คนอื่นมาก เป็นตัวของตัวเองครับ จากคุณ : To die for - [ 14 ส.ค. 51 08:48:43 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตอนนี้เราเรียนอยู่ค่ะ (แต่จบคอร์สเวิร์คหมดแล้ว เหลือวิทยานิพนธ์ตัวเดียว) เท่าที่ทราบไม่มีติวนะ ลองสอบดูก็ได้ค่ะ เราเองก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรต้องพยายามสองครั้งถึงติด (ก็ตกม้าตายเอากับภาษาไทยนั่นแหละค่ะ) ถ้าอยากเรียนจริงๆ และตั้งใจจริงก็สอบได้แน่ค่ะ ไม่ยากเกินกำลังหรอก เรื่องข้อสอบนั้นภาษาไทยยากจริงๆ ค่ะ แนะนำว่าให้คุณไปหาหนังสือทักษะภาษาไทยตั้งแต่เริ่มต้นมาอ่านทบทวนจะช่วยได้มากค่ะ สำหรับหนังสือภาษาไทยนะคะ แนะนำให้อ่าน "ภาษาไทยนอกจอ" ของอ.อนันต์ เหล่าเลิศวรกุล สำนักพิมพ์จุฬา ข้อสอบภาษาไทยเอามาจากในนี้เสียเยอะ หวังว่าจะช่วยคุณในการสอบได้บ้างนะคะ จะเอาใจช่วยค่ะ จากคุณ : หนอนหนังสือตัวเป้ง - [ 14 ส.ค. 51 21:54:05 ]